การ์ดจอมือสอง อัพเดตราคา ดูอย่างไร ซื้อที่ไหน รวมมาให้แล้ว ตุลาคม 2021
การ์ดจอใหม่ในตลาดเวลานี้ เรียกว่าแทบจะเป็นขาขึ้นทั้งหมดก็ว่าได้ เดือนตุลาคม 2564 ก็ยังปรับตัวสูงขึ้นชนิดที่เรียกว่าแทบจะขึ้นรายวัน การ์ดจอมือสอง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของคนที่มีงบประมาณจำกัด หรือไม่สามารถหาซื้อการ์ดใหม่มาใช้งานได้เวลานี้ รวมถึงการ์ดใหม่บางรุ่นมีจำนวนจำกัด แม้ว่าเวลานี้จะมีซีพียูที่มีกราฟิกในตัว เช่น Intel UHD Graphic หรือ AMD Vega Graphic ที่ออกมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะเกมมิ่งพีซี หรือคอมทำงาน รวมถึงสตรีมเมอร์ เกมแคสเตอร์ ที่จำเป็นต้องใช้พลังของกราฟิกการ์ด มาใช้งาน แต่หลายคนก็ยังมีคำถามว่า การ์ดจอมือสอง ซื้อมาจะปลอดภัยมั้ย หรือจะไปซื้อที่ไหน ดูอย่างไรให้ไม่โดนหลอก วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกัน
การ์ดจอมือสอง
- ราคาการ์ดจอมือสอง
- เลือกการ์ดจอใหม่หรือใช้มือสองดี
- ซื้อที่ไหน
- ดูการ์ดจอมือสองอย่างไร
- ซื้อการ์ดจอขุดเหมืองมาใช้ดีหรือเปล่า
- LHR ทางรอดของเกมเมอร์
- ทางเลือกอื่นในการเล่นเกม
ราคาการ์ดจอมือสอง
แต่ก่อนจะไปดูการเลือกซื้อเลือกใช้กันนั้น เรามาดูราคาของการ์ดจอมือสองในเวลานี้กันก่อนดีกว่า ว่าราคาเป็นอย่างไรกันบ้างแล้ว จะได้เตรียมค่าใช้จ่ายกันได้ถูก (September 2021)
nVIDIA | ราคาตลาดการ์ดมือ 2 โดยประมาณ (บาท) |
GeForce RTX 3080 | 65,000 – 70,000 |
GeForce RTX 3070 | 40,000 – 47,000 |
GeForce RTX 3060 Ti | 30,000 – 32,000 |
GeForce RTX 3060 | 27,000 – 29,000 |
GeForce RTX 2080 | 29,000 – 31,000 |
GeForce RTX 2070 | 28,000 – 30,000 |
GeForce RTX 2060 | 25,000 – 27,000 |
GeForce GTX 1660 Ti | 19,000 – 23,000 |
GeForce GTX 1660 SUPER | 14,000 – 15,000 |
GeForce GTX 1650 | 12,000 |
GeForce GTX 1080 | 9,000 – 11,000 |
GeForce GTX 1070 | 8,000 – 10,000 |
GeForce GTX 1060 6G | 8,000 – 10,000 |
GeForce GTX 1060 3G | 8,000 – 9,500 |
GeForce GTX 1050 Ti | 6,500 – 8,000 |
AMD Radeon | ราคาตลาดการ์ดมือ 2 โดยประมาณ (บาท) |
Radeon RX6800XT | 45,000 – 60,000 |
Radeon RX6700XT | 40,000 – 42,000 |
Radeon RX5700XT | 35,000 – 37,000 |
Radeon RX5600XT | 30,000 – 32,000 |
Radeon RX580 | 12,000 – 15,000 |
Radeon RX570 | 10,000 – 12,000 |
เลือกการ์ดจอใหม่หรือใช้มือสองดี?
เป็นคำถามโลกแตกของเหล่าเกมเมอร์งบจำกัด เพราะใครๆ ก็อยากตอบว่า ใช้ของใหม่ดีกว่า เรียกว่าแค่แกะกล่อง ดึงการ์ดจอออกจากซองก็ฟินแล้ว และยังใช้งานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะการ์ดจะแต๊ปหรือไปเมื่อไร เล่นไปหลอนไป บางทีแค่ภาพสะดุดก็ผวาแล้ว แต่ด้วยงบประมาณที่มีไม่มาก บวกกับการ์ดจอรุ่นใหม่ๆ บางรุ่นก็หาตัวจับยาก ราคาพุ่งไปกว่าราคาแนะนำหลายช่วงตัว ก็ทำให้จำใจต้องหันมามองการ์ดจอมือสอง เพราะแม้ราคาจะสูงขึ้นในตอนนี้ แต่ก็ยังพอจับต้องได้ ไม่เกินงบประมาณ แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่อง
ตามตารางด้านล่างนี้ จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อการ์ดจอมือสองมาใช้ เพราะเงื่อนไขบางข้อ อาจจะต้องคิดกันนานหน่อย เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อต้องซื้อมาใช้กันแบบยาวๆ
AMD | การ์ดจอมือสอง | การ์ดจอใหม่ |
ราคา | ถูกกว่า | ราคาสูง |
ประกัน | ไม่มี หรือ เหลือน้อย | ประกันเต็ม |
ความเสี่ยง | ปานกลางถึงมาก | ต่ำ |
สภาพ | แย่จนถึงค่อนข้างดี | สมบูรณ์ตาม QC |
การซื้อขาย | ต้องค้นหา | สั่งซื้อได้ทันที |
ราคา: แน่นอนว่าการ์ดจอมือสอง ราคาย่อมถูกกว่าของใหม่ แต่บางครั้งอาจจะต้องสังเกตและชั่งใจดีๆ ว่า จะเลือกที่ราคาดีมั้ย เพราะบางครั้งเลือกถูกมากๆ ความเสี่ยงก็จะสูงตาม และต้องแย่งชิงกันในตลาด หรือถ้าจะซื้อคนที่ปล่อยราคาสูง บางทีก็ไปใกล้กับของใหม่
ประกัน: ของมือสอง ประกันก็จะเดินไปบ้างแล้ว หรือบางรุ่นแทบจะไม่มีประกันด้วยซ้ำ อาจเป็นแค่ประกันร้าน (คิดเป็นจำนวนวัน) หรือแค่ประกันใจ ส่วนใหญ่ก็ 7 วัน ซึ่งหากหลุดจากประกันแล้ว ก็ต้องมาลุ้นกันอีกที ทางที่ดีซื้อแบบที่ยังพอมีประกันศูนย์อยู่บ้าง แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นอีกหน่อย ก็ใช้งานได้อุ่นใจกว่า ส่วนของใหม่ ไม่ต้องพูดถึง ประกันครบถ้วน
ความเสี่ยง: ขึ้นชื่อว่าของมือสอง ย่อมมีความเสี่ยง จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่างรวมกัน เช่น ของซ่อม ทำมาแล้ว แม้จะมีประกัน แต่เมื่อส่งเคลม ก็อาจไม่ได้เคลม นัดซื้อนัดโอน ไม่ได้ลองใช้ ก็อาจจะได้ของมีตำหนิหรือเสีย เอากลับมาใช้ได้ไม่กี่วัน ก็อาจพังได้ ถ้าได้ของไม่ดีมาจริงๆ มีความเสี่ยงมากมาย แต่สิ่งเหล่านี้หลายคนกลับมองเป็นความท้าทาย เหมือนกับได้ลุ้นหรือได้ของดีในราคาที่ถูกนั่นเอง
สภาพ: ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลของเจ้าของเก่า ใช้ในห้องปิด มีเครื่องปรับอากาศ ก็พอจะประมาณได้ แต่ถ้าแกะออกมาแล้วทำความสะอาดใหม่ ก็เป็นอีกเรื่อง อย่างไรก็ดีสภาพภายนอกจะค่อนข้างบอกรายละเอียดได้มากพอควร ไม่ว่าจะเป็นโครงโลหะ หรือบรรดาพอร์ต มีรอยบ้างได้ แต่การมีสนิมหรือคราบออกไซด์เยอะจนเกินไป ก็น่าจะให้ประมาณว่าใช้มานาน ยิ่งตัวการ์ดมีรอยหรือการบัดกรีอะไรใหม่ ก็ยิ่งต้องระวัง เพราะบางคน การ์ดถูกซ่อมมาแล้ว เลยเอามาขาย เพื่อไปซื้อการ์ดใหม่ แบบนี้เป็นต้น ส่วนการ์ดจอใหม่ ก็เนียนๆ สวยๆ ดมดูได้ กลิ่นใหม่ยังหอมๆ
การซื้อขาย: อย่างที่ได้บอกไป ซื้อการ์ดจอมือ 2 ก็ต้องหมั่นติดตามเหมือนเล่นหุ้น ไม่ใช่แค่เรื่องราคาที่คุณจะต้องแม่น และจำได้ เพื่อให้ไม่ผิดพลาด ไม่ซื้อแพงเกินไปแล้ว ก็ยังต้องตัดสินใจแบบฉับไว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะโดนตัดหน้าไปได้ เพราะทุกวันนี้บนหน้าเพจ ยังมีเรื่องมีราวกันไม่เว้นแต่ละวัน ขนาดมัดจำไปแล้ว ยังโอนคืนกลับมาหน้าตาเฉย เพราะขายอีกรายได้ราคาดีกว่าเป็นต้น แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดว่า เป็นนักโอนไวในตำนาน เห็นปุ๊บโอนปั๊บ เพราะนอกจากจะไม่ได้ของแล้ว เงินอาจจะหายไปด้วย อาจต้องทำสิ่งที่เรียกว่า “เช็คเครดิต” ของผู้ขายด้วยนั่นเอง
ซื้อที่ไหน?
ช่องทางในการซื้อขายการ์ดจอมือ 2 มีอยู่มากมาย ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ขึ้นอยู่กับว่าถนัดแบบใด โดยส่วนใหญ่เวลานี้ ตัวเลือกที่เป็นแบบออนไลน์มีอยู่กว้างขวาง และซื้อได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็นเพจเฟสบุ๊ค กลุ่มซื้อขาย หรือจะเป็น บรรดาเว็บไซต์หน้าร้าน ที่ขายของมือหนึ่งมือสองรวมๆ กันไป หรือจะเป็นแหล่งที่จำหน่ายมือสอง เช่น Kaidee, Shopee, Lazada ก็ถือว่าเป็นช่องทางที่สะดวกไม่น้อยเลย
ซื้อออนไลน์ | ซื้อหน้าร้าน | |
ความสะดวก | ง่าย ไม่ต้องเดินทาง | ต้องเดินทางไปที่ร้าน |
การจ่ายเงิน | โอน ชำระได้หลายช่องทาง | โอน ชำระได้หลายช่องทาง |
ดูสินค้า | เห็นแค่ในภาพ เช็ครายละเอียดยาก | เห็นของจริง ดูรายละเอียดได้ชัด |
สอบถามข้อมูล | สอบถามได้ Chat, โทร | สอบถามได้ใกล้ชิด มีเวลาเช็คได้เยอะ |
ความมั่นใจ | ลุ้นก่อนของถึงมือ | รับของกับมือ พร้อมเช็คได้อีกด้วย |
ได้เลือกของที่ชอบ | ตลาดใหญ่ เลือกตามรุ่นที่ต้องการได้ | ต้องเดินกันหลายรอบ บางครั้งของที่ชอบอาจไม่มี |
แต่ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน ระหว่างซื้อออนไลน์ ผ่านช่องทางต่างๆ หรือไปซื้อหน้าร้านดี ขอสรุปง่ายๆ แบบนี้ครับ หากคุณไม่สะดวก ต้องเดินทางไกล และไม่อยากไปลุ้นว่าจะมีของที่ต้องการหรือไม่ การซื้อผ่านออนไลน์ คือทางออกของคุณ เพราะหักลบกับค่าเดินทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมา รวมถึงซื้อออนไลน์ก็จะได้รุ่นที่ต้องการ และสามารถเปรียบเทียบราคาได้ มีโอกาสได้เจอของถูกใจ
แต่ถ้าคุณชอบการเห็นของตัวจริง ได้ลูบคลำกับมือ ก่อนจะจ่ายเงิน รวมถึงการรับประกันจากร้านที่มีหลักแหล่งแน่นอน แม้ราคาจะสูงขึ้นบ้าง การซื้อผ่านทางหน้าตู้ หรือร้านค้า ตามห้างไอทีต่างๆ ก็เป็นน่าสนใจ เพราะคุณจะได้เดินดู สัมผัสจับต้องและทดสอบในเบื้องต้น ก่อนรับกลับบ้านได้ และยังได้ประกันร้านกลับมาให้อุ่นใจด้วย แต่นั่นก็หมายถึงคุณจะต้องมีใจเผื่อไว้ว่า การ์ดจอแบบที่คุณอยากได้อาจมีหรือไม่มี อาจกลับบ้านมือเปล่าได้เช่นกัน
และสุดท้ายหากคุณเป็นคนขี้กังวล กับการโอนเงินหรือมัดจำ หรือการทำธุรกรรมออนไลน์กับคนแปลกหน้า กลัวว่าของที่มาถึงจะเสียหรือไม่ใช่ของที่ตกลงกันไว้ หรือของเสียหายระหว่างการขนส่ง แนะนำว่าไปซื้อที่หน้าร้าน จะช่วยลดความกังวลของคุณไปได้มากทีเดียว หรือถ้าจะซื้อออนไลน์ ก็ต้องนัดเจอกัน
ดูการ์ดจอมือสองอย่างไร?
การดูการ์ดจอมือ 2 ก็มีด้วยกันหลายส่วนที่จำเป็น และจะต้องเช็คให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด เพื่อลดปัญหาได้การ์ดซ่อม การ์ดเสียหรือการ์ดที่ถูกยำมา และตกแต่งใหม่ แต่จะมีส่วนใดบ้าง ต้องเช็คในแต่ละจุดพื้นฐานเหล่านี้
ตัวการ์ด ควรต้องมีสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยบัดกรีใหม่ รอยไหม้ แตกหักเสียหาย เพราะส่วนใหญ่ซ่อมแล้ว ก็มีโอกาสเสียได้อีก รวมถึงคนที่อยากได้สภาพเดิมๆ อาจไม่แฮ้ปปี้นัก ยิ่งถ้าเป็นการ์ดที่ยังมีประกันเหลือ ก็จะตีได้ว่าหมดประกันแล้ว
Bracket หรือแถบโลหะที่เป็นจุดยึดกับตัวเคส ต้องสภาพดีหรืออย่างน้อยมีรอยได้บ้าง ไม่มีคราบสนิม ออกไซด์ รวมถึงไม่แตกหักหรือหลุดออกมา การบัดกรีเชื่อมต่อเป็นปกติ เพราะถ้าพอร์ตเสียหาย ก็อาจทำให้ใช้งานไม่ได้เช่นกัน แม้ปัจจุบันจะมีพอร์ตมาให้อย่างน้อยๆ 3 พอร์ตก็ตาม แต่ก็ไม่ควรเสีย
แถบหน้าสัมผัสสล็อต คมชัด ไม่ขาด บิ่น มีรอยหรือเป็นแผลที่เห็นได้ชัดเจน อาจเป็นรอยเล็กน้อย จากการใส่เข้าหรือถอดออกได้บ้างเป็นปกติ แต่ถ้าถึงขนาดหัก แหว่ง รอยถลอกเยอะจนหลุดร่อนออกมา อาจมีความเสียหาย เพราะตรงจุดนี้ เป็นตัวเชื่อมต่อกับเมนบอร์ดโดยตรง
พัดลม แม้ว่าพัดลมการ์ดจอ จะมีสำรองเป็นพาร์ทให้ได้ซื้อหามาเปลี่ยนกันได้ แต่ก็ไม่ควรจะต้องเสียเงินหลายร้อยบาท ในการเปลี่ยนใหม่ เพราะเอาไปใช้ทันทีไม่ได้ เนื่องจากจะระบายความร้อนไม่ดี รวมถึงเสียงจะดังอีกด้วย นอกจากนี้ยังต้องเช็คว่าจะมีความเสียหายอื่นด้วยหรือเปล่า
นอกจากนี้เป็นไปได้ให้ทดสอบในเบื้องต้น เสียบเปิดติด บูตเครื่องได้ ระบบ Detect เจอ ลงไดรเวอร์ได้ครบ เปิดมาไม่เป็นเส้น ไม่แตกลาย ไม่กระพริบ ก็ถือว่าผ่านเบื้องต้นไปได้แล้ว ที่เหลือแค่ลองโหลดหนักๆ ด้วยการทดสอบเกมหรืออื่นๆ ตามสะดวก
ซื้อการ์ดจอขุดเหมืองมาใช้ดีหรือเปล่า?
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องกับการ์ดที่ใช้สำหรับขุดเหมือง Cryptocurrency และทราบกันดีว่า ตัวการ์ดจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ทำงานแบบ 24/7 รับโหลด 100% รวมถึงมีการโมฯ เฟิร์มแวร์หรือปรับแต่งไดรเวอร์ ให้เร่งความเร็วออกมาได้แบบสุดๆ รวมถึงบางเหมือง ก็ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ตัวการ์ดในบาง Rig อาจจะต้องเจอกับฝุ่น ความร้อน และสภาวะแวดล้อมที่แย่ๆ ก็ทำให้การ์ดจอเหล่านี้ มีความบอบช้ำ และพร้อมจะไปได้ทุกเมื่อ รวมถึงการปล่อยการ์ดออกมาจำนวนมาก ก็อาจเป็นการปลดระวาง เพื่อหาทุนไปซื้อการ์ดรุ่นใหม่กันต่อไป เมื่อแรงขุดไม่คุ้มค่า หรืออายุของการ์ดเริ่มลดน้อยลง
แต่บางคนอาจไม่ได้กังวลมากนัก เพราะถึงแม้จะทำงานหนัก แต่เหมืองบางแห่งก็ดูแลตัวการ์ดที่อยู่บน Rig ได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์ มีเซ็นเซอร์ มีการตรวจเช็คและมอนิเตอร์กันตลอดเวลา รวมถึงติดตั้งระบบระบายอากาศที่ยอดเยี่ยม เรียกว่าการ์ดบางตัวแทบจะไม่มีฝุ่นมาเกาะเลยทีเดียว ซึ่งทำให้หลายๆ คนหันมาสนใจการ์ดจอเหมืองกันมากขึ้น อีกทั้งราคายังจับต้องได้ ไม่แพงเกินไป แต่โดยส่วนตัวก็ไม่ได้แนะนำหรือเห็นต่าง เพราะแต่ละคนอาจเจอมาคนละแบบ ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และความต้องการ หากเช็คแล้วใช้งานได้ดี ไม่ได้กังวลเรื่องอื่นๆ มากนัก ก็สามารถซื้อมาใช้งานได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจ ลองดูการ์ดทางเลือกอื่นดูก่อนได้นะ
LHR ทางรอดของเกมเมอร์
ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังของเหล่าเกมเมอร์ จะยังคงมีอยู่เสมอมา กับการหาซื้อการ์ดจอไม่ได้ เพราะติดกับหลายเงื่อนไขในตลาด ไม่ว่าจะเป็น การ์ดราคาแพง หาซื้อยาก มีจำกัด รวมถึงสายขุดหรือชาวเหมืองเอง ก็มีกำลังการซื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนเริ่มท้อกับการหาการ์ดจอมาใช้ ก็ยังพอมีแสงสว่างปลายอุโมงก์มาให้ชื่นกันบ้าง กับการ์ดจอในกลุ่ม LHR หรือ Light Hash Rate พูดง่ายๆ คือ การ์ดแบบลดแรงขุด ของทาง nVIDIA ที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ อีกทั้งมีให้เลือกหลายรุ่น หลายซีรีส์ ซึ่งทำให้เป็นการ์ดนอกสายตาของเหล่า Minor เลยทำให้การ์ดในตลาดมีมากขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นข่าวดีของเกมเมอร์ แต่ก็เป็นแค่ช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะสุดท้ายความต้องการของผู้ใช้ก็มีมาก โดยเฉพาะคนที่ประกอบคอมใหม่ ก็ต้องมองหาการ์ดจอมาใช้งาน จึงทำให้การ์ดอยู่ในสภาวะขาดตลาดได้เป็นช่วงๆ รวมถึงเหล่าพ่อค้าที่ฉวยโอกาสการ์ดขาดตลาด ช้อนซื้อไว้ เพื่อมาขายต่อ ก็ทำให้ราคาดีดตัวขึ้น และหายากเหมือนเดิมในหลายๆ โมเดลนั่นเอง ลำพังชิปที่ป้อนสู่การผลิตการ์ด ก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไป แต่ปัจจุบันก็พอมีให้เลือกมากขึ้น เพียงแต่ราคาก็ไม่ได้ลดลงมาแต่อย่างใด
ทางเลือกอื่นในการเล่นเกม
หลายคนเริ่มถอดใจในการที่จะประกอบคอมหรือซื้อการ์ดจอมาอัพเกรด เพราะแค่เห็นราคาก็พาท้อแล้ว การ์ดจอบางรุ่นในระดับกลางๆ สามารถซื้อเครื่องเล่นเกมคอนโซล หรือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคดีๆ ได้เลยทีเดียว แต่มันจะดีอย่างที่คิดหรือเปล่า ก็คงต้องว่ากันไปตามตัวเลือก เช่น
เครื่องเล่นเกมคอนโซล: อย่างเช่น PS5 หรือเครื่องเล่น PlayStation ที่ถือว่าเป็นทางของเกมเมอร์อีกอันหนึ่ง ที่เรียกว่าได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว สนนราคาประมาณ 13,990 บาท เท่านั้น ซึ่งราคานี้ยังซื้อการ์ดจอ RTX2060 ยังไม่ได้เลย แต่เครื่องเล่นนี้ ให้คุณพร้อมสำหรับการเล่นได้เลย และยังมีเงินเหลือเอาไปซื้อเกมได้อีกด้วย แต่เกมบางส่วนก็มีอยู่ในพีซีด้วยเช่นกัน รวมถึงการเล่นที่เป็น Cross platform ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถมาตี้กันได้ แต่! ย้ำว่าแต่นะครับ สำหรับคนที่ยอมจ่ายกับพีซีที่มีการ์ดจอสักเครื่อง แม้จะจ่ายเยอะ แต่ก็ได้สเปคที่แรง และนำไปใช้อย่างอื่นได้อีกด้วย ไม่ได้เป็นเครื่องเล่นเกมเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสาร ดูหนัง ตัดต่อ ตกแต่งภาพหรืออื่นๆ อีกมากมาย อย่าลืมข้อสำคัญนี้ด้วยครับ
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค: เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากที่สุดในเวลานี้ เพราะคุณสามารถซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งในราคาเริ่มต้นที่ 3 หมื่นกว่าบาท ได้ความแรงระดับ Core i5 และ GeForce RTX เลยทีเดียว และยังสามารถเล่นเกมได้ลื่นๆ ซึ่งหากเทียบราคาการ์ดจอแล้ว ก็จะได้การ์ดระดับ GeForce RTX 3060 หรือ RTX 3060Ti เท่านั้น แต่ซื้อโน๊ตบุ๊คเหมือนได้คอมทั้งเครื่องไปใช้ แม้ว่าความแรงของการ์ดจอโน๊ตบุ๊ค จะน้อยกว่าการ์ดจอแยกของพีซีอยู่บ้าง แต่ก็มองในแง่ของความคุ้มค่าในการใช้งาน และยังพกพาไปใช้งานนอกบ้าน ก็ทำได้เช่นกัน หรือจะใช้สำหรับงานออฟฟิศ และอื่นๆ ได้อีกด้วย หากจอเล็กไป ก็ยังต่อออกจอใหญ่ได้เหมือนกัน
หรือทางเลือกอื่นๆ เช่น หันไปเล่นเกมบนมือถือ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจ แต่หลายคนอาจจะมองว่าให้ความรู้สึกที่เทียบกันไม่ได้ ไม่เหมือนการกดแป้นบนคีย์บอร์ด รวมถึงเอาไปทำงานอื่นๆ ได้ลำบาก เช่นเดียวกับเกม แม้จะคล้ายๆ กันบ้างในบางเกม แต่หลายๆ เกมบนพีซีก็ยังคงมีเสน่ห์ ทำให้การแทนที่ของบรรดาอุปกรณ์โมบายแบบนี้ ยังไม่ใช่แนวของเกมเมอร์มากนัก อาจจะใช้เล่นในบางช่วงเวลานั้น ก็พอจะไหวอยู่
สุดท้ายสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงข้อมูลแนะนำในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนการตัดสินใจซื้อการ์ดจอมือสอง หรือจะซื้อของใหม่มาใช้ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใช้ ในการพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความต้องการ เพราะในบางครั้งโอกาสที่จะเจอการ์ดที่ชอบ รุ่นที่ใช้ ในราคาที่ตรงใจ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การตัดสินใจและวิเคราะห์อย่างแม่นยำ ก็จะช่วยให้คุณได้การ์ดจอสภาพดี ราคาเหมาะสม และยังมีประกันเอาไว้ใช้ก็เป็นได้ เรียกว่าได้จังหวะที่ดี เพื่อให้คุณได้ใช้งาน หรือปล่อยต่อในราคาที่ดีเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีไม่แนะนำให้ใจร้อน โอนก่อนหรือให้ความผิดพลาดบางอย่างมาบังสายตาคุณ โดยเฉพาะในเรื่องของการรับประกัน การตรวจเช็คตัวการ์ด และผู้ขายที่วางใจได้ สิ่งเหล่านี้ต้องหนักแน่นเข้าไว้ ให้ถือว่าเงินอยู่ในมือคุณ พร้อมถึงจ่าย อย่าให้เสียเปล่า เพราะถ้าเข้ากระเป๋าคนอื่นแล้ว การดึงกลับยากกว่าการจ่ายเงินออกไปหลายเท่านัก