Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 เป็นโน๊ตบุ๊คสาย Content Creator รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2021 สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 ที่เน้นประสิทธิภาพที่ดีในหน้าจอ 16″ ความละเอียด Quad HD พาเนล IPS มีค่า sRGB 92% ที่ Refresh Rate 120Hz ทำให้ลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้
มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและมีสไตล์ Lenovo วัสดุตัวเครื่องทั้งหมดทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่ มีความเบาที่ 1.9 กิโลกรัม มีความบางที่ 16.9 มิลลิเมตร เน้นตอบโจทย์การทำงานพื้นฐานเป็นหลักได้ดีเยี่ยม หรือดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ได้ดีกว่ารุ่นทั่วไป และการทำงานแบบมืออาชีพเช่น ตกแต่งภาพ ตัดต่อวีดีโอ หรือทำกราฟิก
สำหรับ Lenovo IdeaPad 5 Pro 16 เป็นโน๊ตบุ๊คที่สเปกอื่นๆ ครบเครื่อง โดยได้แรมขนาด 16 GB และ SSD M.2 ความจุ 512GB การเชื่อมต่อครบครัน ที่สำคัญคือได้ SD Card Reader อีกด้วย ประกันเป็นระยะเวลา 2 ปีแบบ On-site Service สนนราคาที่ 33,990 บาท แน่นอนว่ามี Windows 10 Home มาให้ ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปฟรีๆ ทำให้เราสามารถใช้งาน Word / Excel / Power Point ได้ติดเครื่องยาวๆ
VDO Review
NBS Verdict
Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 16″ ประเภท Content Creator ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการสเปกแรงๆ แต่ไม่ใช่ Gaming Notebook พร้อมได้หน้าจอคุณภาพที่สูงกว่า ทั้งในด้านของความกะทัดรัดของตัวเครื่อง ในดีไซน์ที่สวยงามเรียบง่ายคงความเอกลักษณ์ของ Lenovo ได้เป็นอย่างดี อย่างการออกแบบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ประทับใจ นับว่ามีราคาคุ้มค่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ในราคา 33,990 บาท ประกันก็ 2 ปี ซ่อมฟรีถึงบ้าน
สำหรับสเปกต้องยอมรับเลยว่ามีความแรงลื่นตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายกว่าโน๊ตบุ๊คสายทำงานบางเบารุ่นก่อนๆ พร้อมได้ขนาดจอดีสีตรงด้วย 16″ Quad HD ที่ใหญ่และละเอียดกว่า 15.6″ Full HD อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม นับได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo ที่ทำมาได้ดีโดยตลอด รวมไปถึงฟีเจอร์ IR Camera เพื่อปลดล็อคเข้าใช้งาน Windows ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชั่วโมงด้วยกัน และที่ชอบคือมี SD Carder Reader ติดเครื่องมาเลย
Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ได้ประสิทธิภาพที่ตอบสนองในทุกๆ การใช้งาน มาจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H ที่เป็นสถาปัตยกรรม Zen 3 ที่ปกติเห็นใน Gaming Notebook โดยทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก Gaming รุ่นเริ่มต้นอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 ที่เพียงพอกับการใช้งานที่ไม่ใช่เอาเล่นเกม 3 มิติหนักๆ อีกทั้งในส่วนของแรมเองก็ติดตั้งมาขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz พร้อมได้ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มาใช้งานเก็บข้อมูล
ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต หรือใช้งานเอกสาร อาทิ Word / Excel / Power Point ที่ยอดเยี่ยมไม่มีสะดุด ซึ่งตรงนี้เราก็ยังได้ปรแกรม Office Home & Student 2019 แบบติดตั้งมาทันที ไม่ต้องเสียเงินซื้อมาเพิ่มเองอีกด้วย หรือจะเอาไปเล่นเกมก็ยังพอได้ เหมาะมากๆ กับนักเรียนนักศึกษา คนทำงานที่ต้องการโน๊ตบุ๊คงบ 30,000 นิดๆ ที่เน้นทำงานใช้งาน Content Creator แต่ก็อาจจะเล่นเกมบ้างนั่นเอง
จุดเด่น Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Lenovo IdeaPad มีความหรูหรา พรีเมียม
- วัสดุทำจากอะลูมิเนียมคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- สเปกใช้งานได้ลื่นไหลด้วย Ryzen 7 5800H + GTX 1650 + RAM 16GB + SSD 512GB
- จอ 16″ Quad HD ที่ 2560 x 1600 (16:10) พาเนล IPS sRGB 92% Refresh Rate 120Hz
- เน้นใช้งานพื้นฐาน หรืองาน Content Creator ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ได้สบายมาก
- ติดตั้ง USB 3.2 Type-C จำนวน 1 ช่อง รองรับชาร์จ USB PD + DisplayPort ด้วย
- พร้อมให้ SD Card Reader เหมาะกับการโอนไฟล์จากกล้อง เพื่องาน Content Creator
- มีฟีเจอร์ IR Camera เพื่อปลดล็อคเข้าใช้งาน Windows ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย
- ฟีเจอร์ปรับโหมด Control Q ได้เพียงกดปุ่ม Fn + Q ตามการใช้งานได้ง่ายๆ
- เปิดฝาโน๊ตบุ๊คขึ้นมา เครื่องจะเปิดใช้งานทันที ไม่ต้องกดปุ่ม Power
- รองรับ Quick Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 – 8 ชั่วโมง
- ลำโพงทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีประทับใจ
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ติดตั้งมาให้ทันที
- ได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท)
- ประกัน 2 ปี Premium Care แบบ On-site + Call Center 24/7 ตามมาตรฐานของ Lenovo
ข้อสังเกต Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16
- แรมเป็นแบบฝั่งบอร์ดไม่สามารถอัพเกรดได้ ส่วนสล็อต SSD M.2 มีช่องเดียว
- อุณหภูมิชิปประมวลผลค่อนข้างสูงเวลาใช้งานหนักๆ แต่ไม่มีผลในการใช้งาน
- กรณีเล่นเกม แนะนำให้ปรับกราฟิกเป็น Full HD เพราะถ้า Quad HD จะไม่ลื่นไหล
Specification
โดย Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ที่เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้เป็นเครื่องขายจริง ในราคา 33,990 บาท มาพร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H ที่เป็นชิป 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.20 GHz สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้เป็น 4.40 GHz การ์ดจอออนชิปคือ Radeon 8 สำหรับใช้งานทั่วไปหรือ 2 มิติ และมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDRR6) ทำงานร่วมกับแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz แบบออนบอร์ดอัพเกรดไม่ได้
ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลก็ใช้เป็น SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ความจุ 512 GB ทำให้สเปคโดยรวมนั้นลงตัวมาก ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเว็บ ทำเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหล เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดยใช้หน้าจอขนาด 16″ ความละเอียดระดับ Quad HD ที่ 2560 x 1600 พิกเซล สัดส่วน 16:10 พาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้าง ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ
มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ที่สามารถ Recovery เพื่อติดตั้งใหม่ได้เองตลอดเวลา และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-C / USB 3.2 Type-A / HDMI / SD Card Reader / ช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. ที่ครบเครื่องกว่าหลายๆ รุ่น
และการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดอย่าง Wi-Fi 6 AX (2×2) และ Bluetooth 5.1 แล้ว อีกทั้งอย่างที่บอกไปแล้วว่าให้ในส่วนของโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปพร้อมใช้งานอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 2 ปี Premium Care แบบ On-site Service ตามมาตรฐานของ Lenovo Thailand ที่ทุกคนไว้ใจ
Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16ACH6-82L50098TA ราคา 33,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 7 5800U (8C/16T : 3.20 – 4.40 GHz)
-
GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6)
-
RAM : 16GB DDR4 3200 MHz
-
DISPLAY: 16″ IPS QHD 16:10 120Hz
-
STORAGE : SSD PCIe Gen3 NVMe 512GB
-
OS : Windows 10 Home
- Software : Microsoft Office Home & Student 2019
- Warranty : 2 Years Premium Care (On-site Service)
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ขนาดมิติตัวเครื่องนั้นจะดูใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ แบบยุคก่อนๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ด้วยสัดส่วนของจอแสดงผลอยู่ที่ 90% เหมือนเทียบกับตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา ส่งผลให้ Lenovo IdeaPad รุ่นนี้ เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คขนาดจอ 16″ ที่สัดส่วน 16:10 รุ่นล่าสุด สเปก AMD Ryzen 5000H ที่ดูเล็กกระทัดพกพาคล่องตัว ด้วยมาตรฐานใหม่ ที่ได้จอใหญ่ขึ้นแต่ขนาดตัวเครื่องไม่ต่างไปจาก 15.6″ เลย แต่ได้พื้นที่การแสดงผลที่มากกว่า
ส่วนของตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้เป็นอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสัน 2 สี อย่างสีเทาเข้มๆ อย่าง Storm Grey หรือเงินสว่างๆ Cloud Grey ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหราเกินราคา แตกต่างจากโน้ตบุ๊ต Lenovo IdeaPad รุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมความบางเพียง 16.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo จะมีอยู่ 2 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย และมุมที่วางข้อมือด้านในทางขวาเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็น DNA ของ Lenovo แทบทุกรุ่นที่ใช้งานดีไซน์สไตล์นี้เลย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะงานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกันแบบ Unibody แทบไร้รอยต่อ ให้ความพรีเมียมหรูหรา อารมณ์เดียวกับโน๊ตบุ๊ครุ่นไฮเอนด์
ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย หรือถ้าจะเช็ดก็ง่ายดาย อย่างไรก็ตามฮาร์ดแวร์ภายในจำเป็นต้องฝังบอร์ดเกือบทั้งหมด กับสเปกชิปประมวลผลและการ์ดจอแยกระดับ Gaming Notebook อีกทั้งมีฟีเจอร์ปรับโหมด Control Q ได้เพียงกดปุ่ม Fn + Q พร้อมได้แรมเป็นขนาด 16GB แบบออนบอร์ดซึ่งไม่สามารถอัพเกรดได้ จะมีเพียง SSD M.2 ที่สามารถอัพเกรดได้ (แต่ต้องถอดของเดิมออกก่อน)
นอกเหนือจากนี้ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนแบบ 2 ตัว ในการถ่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ แบบ 2 ช่อง โดยดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมทั้งช่องคีย์บอร์ด ทำให้การทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ส่วนใต้ตัวเครื่องก็มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ระดับสูง
สำหรับ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คระดับกลางค่อนไปทางบนของทาง Lenovo ที่ยังเป็นซีรีส์ IdeaPad ที่แม้ว่าไม่ใช่ซีรีส์ Legion ที่เป็น Gaming แต่มีความโดดเด่นของความบางเบาด้วยชื่อรุ่นขึ้นต้นเป็น Slim แทนที่ S ก็คือจะเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นความบางเบา ซึ่งได้หน้าจอขนาดใหญ่ 16″ ให้พื้นที่ในการใช้งานที่มากกว่า แต่ก็ยังพกพาได้สะดวกสบายไม่แพ้รุ่นหน้าจอ 15.6″ เลย จากการออกแบบที่ความบางเบา แข็งแรงทนทาน สมกับเป็น Lenovo ยุคใหม่อย่างแท้จริง
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 นั้นตัวปุ่มสีเดียวกับตัวเครื่องขนาดใหญ่แบบแยกปุ่มอิสระ เข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี พร้อมตัวอักษรโปร่งแสงมีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อมแป้นตัวเลข Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกดในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องให้ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลสร้างความประทับใจได้ดีเยี่ยม ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น แต่ก็คลิกซ้ายคลิกขวาหรือใช้งานมัลติทัชได้ปกติ การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบหลายๆ นิ้วมือร่วมกับ Windows 10 Home ได้ลื่นไหลพอสมควร ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านขวาพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
Screen / Speaker
หน้าจอของ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 เป็นแบบด้านขอบขอบางเฉียบที่ 90% เป็นการแสดงผล พาเนล IPS คุณภาพสูงที่ให้มุมมองกว้าง ขอบเขตสีก็รองรับการใช้งานทั่วไปจนไปถึงมืออาชีพ ที่ความละเอียด Quad HD (2560 x 1600 พิกเซล) สัดส่วน 16:10 ซึ่งจัดว่าได้มาตรฐานดีกว่าของโน๊ตบุ๊คในยุคปัจจุบันในทุกๆ ด้าน ที่ให้ภาพคมชัดกว่า สวยงามกว่า ในทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีที่สมจริงพร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้การทำงานต่างๆ เปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงการเล่นเกมดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น
มีการใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้ อีกทั้งมีการติดตั้งกล้องเว็บแคมที่ 720p และไมโครโฟนแบบคู่เพื่อใช้งาน VDO Call อยู่บริเวณขอบจอด้านบนของหน้าจอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญยังมาพร้อม IR Camera เพื่อเข้าใช้งาน Windows Hello ในการ Login ใช้งานตัวเครื่อง อีกทั้งมีฟีเจอร์ TOF (Time-of-Flight) ทำหน้าที่สำหรับตรวจจับความลึก ใช้งานร่วมกับไมโครโฟนระยะไกลคู่ด้วย
ทดสอบผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ได้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% / AdobeRGB ที่ 72% / DCI-P3 ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับสูง สนับสนุนงานแบบมืออาชีพ รองรับการใช้งานทั่วไปแบบไร้ปัญหาแน่นอน ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้สบาย ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง
เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางและทั้งด้านบนซ้ายรวมไปถึงช่องกลางของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องกลางแถวล่างหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 10% เท่านั้น นอกจากนี้ยังได้เผยเห็นความคลาดเคลื่อนของสีที่ต่ำมาก ดูจากค่า Delta-E ที่ต่ำกว่า 2 โดยอยู่ที่ 1.43 เท่านั้น ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว นับว่าประทับใจมากๆ
ด้านของลำโพงสเตอรีโอของ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ติดตั้งเป็นแบบ 2W x 2 ใช้ระบบเสียงคุณภาพสูงอย่าง Dolby Atmos ให้เสียงที่ดี โดยถูกติดตั้งบริเวณด้านซ้ายขวาขอบตัวเครื่องมุมด้านหน้าในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ครบครันใช้ได้ โดยมีการติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-A ที่ 2 ช่อง โดยรองรับการชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์อื่นๆ พร้อมเลือกที่จะติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง ซึ่งรองรับการชาร์จไฟผ่านทางอแดปเตอร์ (USB PD) รวมไปถึงต่อจอแยก DisplayPort ด้วย นอกจากนี้ก็มี HDMI ไว้เชื่อมต่อกับจอนอก โดดเด่นด้วย SD Card Reader ที่รุ่นอื่นๆ ไม่ค่อยมีกัน พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ปิดท้ายปุ่ม Recovery ตามสไตล์ของ Lenovo นั่นเอง
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 16″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.9 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวก้อนอแดปเตอร์เข้าไปด้วย (จ่ายไฟ 135W) ก็จะมีหนักราวๆ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นที่ใกล้เคียงกันเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์โน๊ตบุ๊คบางเบาเน้นประสิทธิภาพดีอยู่
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาด Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเพียงแค่ไขน็อตหัวดาวทุกตัวออกมา รอบๆ ฝาล่างออก จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง งานประกอบการจัดวางตำแหน่งดูแล้วเรียบง่าย โดยอาศัยพัดลม 2 ตัว ดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องจากนั้นถ่ายเทความร้อนออกไปให้โดนฮีทไปป์แบบ 2 เส้น พร้อมฟินสีดำทางด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ซ่อนช่องระบายความร้อนไว้อย่างเรียบเนียน
ซึ่งหน่วยความจำแรมเป็นแบบฝั่งเมนบอร์ดมาเลย โดยติดตั้งขนาด 16GB DDR4 Dual Channel (8GB x 2) แบบฝังบอร์ด ซึ่งมีแผ่นพลาสติกสีดำติดอยู่ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ติดมาแล้วที่ความจุ 512GB โดยมีการติดตั้งเหนือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ส่วนอื่นๆ ก็ประกอบฮาร์ดแวร์อื่นๆ ถือว่ามีงานประกอบที่เรียบร้อยเป็นอย่างดี อีกทั้งยังดูแล้วในอนาคตยังทำความสะอาดได้ง่ายด้วย โดยรวมแล้วการแกะตัวเครื่องไม่สามารถอัพเกรดแรมได้ แต่ในการแกะเพื่อทำความสะอาดก็สามารถทำได้สะดวกทีเดียว
Performance / Software
Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 เครื่องรีวิวนี้เป็นสเปกขายจริง ด้วยชิปประมวลผลตัวแรงยอดนิยมในตลาดของ Gaming Notebook ของ AMD อย่าง Ryzen 7 5800H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่า Ryzen 4000H ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม Cezanne มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 16MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ
แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก ก็รองรับได้อย่างสบายๆ และดีที่สุดแน่นอน เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 7 4800H แน่นอน พร้อมได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz (8GB x 2) ใช้งานได้ทันทีแบบ Dual Channel แต่ไม่ได้รองรับการอัพเกรดแต่อย่างใด จากการที่รุ่นนี้เน้นความบางเบาเป็นหลัก จึงได้ติดตั้งมาเป็นแบบออนบอร์ดมา ซึ่งเอาจริงๆ ขนาด 16GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานทุกแล้วล่ะ
. 
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon 8 มีความเร็วในการทำงานที่ 2100MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
โดยมีการ์ดจอแยกตัวแรงคุ้มค่าอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 ได้แรมการ์ดจอจะเป็น 4GB GDDR6 แทนที่รุ่นก่อนที่เป็น 4GB GDDR5 เน้นใช้งานกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานหลากหลายหรือ Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าแต่ก็ยังแรงลื่นพอตัว เพราะเน้นประหยัดพลังงานและปลดปล่อยความร้อนที่น้อยกว่า และแม้ไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
. 
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ทั้ง 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เป็นที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยกเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น (แต่ออนชิปคือตัวเดิมนะ) เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก สมกับเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H จริงๆ
. 
ด้านของ Storage เป็น SSD M.2 มาตรฐาน NVMe PCIe ระดับบน ความจุ 512GB ที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ก็พบว่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 3565 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนก็อยู่ที่ 2988 MB/s ด้านของความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปได้เหลือเฟือ ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายเท่าตัว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 6,065 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming เริ่มต้นอย่าง NVIDIA GeFroce GTX 1650 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ แต่เชื่อได้ว่าถ้าการ์ดจอแยกที่เป็น RTX 30 Series จะดีกว่านี้อีก
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 3,647 และประมวลผลคาดการณ์เกม Fornite ปรับสุด Full HD ได้ 50+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน ซึ่งดูแล้วก็ตอบโจทย์งานอ3 มิติได้ในระดับที่ดี
ทดสอบเกมสำหรับ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ได้คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยที่เพียงพอในทุกๆ เกม ขึ้นอยู่กับการปรับกราฟิกเป็นหลัก ประกอบไปด้วย Resident Evil 8 / GTA V / Battlefield V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์หนักๆ อย่าง SCUM และยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมทุกเกมที่ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล ซึ่งน้อยกว่า Native ของหน้าจอเพื่อการใช้งานที่ลื่นไหล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด จากกราฟตามภาพ ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหล กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกม ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 8 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 4GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าเหลือเชื่อจริงๆ
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง SCUM ที่ปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน จะเห็นว่าเฟรมเรทเฉลี่ยที่ออกมานั้นได้ค่อนข้างน้อย ซึ่งในการเล่นเกมจริงๆ แนะนำปรับกราฟิกกลางๆ น่าจะลื่นไหลกว่า ต่อกันที่ DOTA 2 ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถขับเฟรมเรทได้เพียงพอกับการเล่น แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย แต่สำหรับ PUBG ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่ แน่นอนหลายๆ เกมถ้าปรับ Medium ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ ภาพสวยน้อยลงอีกนิดพอได้อยู่ในการใช้งานจริงๆ อย่างไรก็ตามลืมปรับโหมดเป็น Performance ด้วย
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโน๊ตบุ๊คแบรนด์ Lenovo ก็ว่าได้
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด ประมาณ 4,800 mAh สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานประมาณ 7.38 ชั่วโมง ต่อเนื่องในการใช้งานแบบดู YouTube ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi ถือได้ว่าแบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานในระดับนึง ในการใช้งานจริงก็ถือว่าน่าประทับใจแล้ว พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ทั้งวันได้เลย ที่สำคัญมีเทคโนโลยีรองรับระบบชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 15 นาที จะใช้งานได้ 3 ชั่วโมงด้วยหรือกรณีจะชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทาง USB PD ก็สามารถทำได้เช่นกัน
อุณหภูมิภายในต่ำสุดของชิปประมวลผลและการ์ดจอแยกของ Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 จะอยู่ที่ 40 – 50 – 60 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลร้อนสุดที่ 98 – 100 องศาเซลเซียส ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอแยกร้อนที่สุดอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมและประมวลผลทดสอบต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของเครื่องนี้ทำได้ค่อนข้างดีตามมาตรฐานของรูปทรงที่เน้นความบางเบา
โดยการเล่นเกมใช้งานไม่ได้มีปัญหาหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด เทียบกับรุ่นก่อนๆ จะเห็นว่ามีอุณหภูมิที่เย็นลงพอตัว ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ อย่างไรก็ตามตัวเครื่องภายนอกเองอาจจะมีความร้อนที่แผดออกมาบ้างแต่ก็ยอมรับได้ไม่ใช่เรื่องต้องกังวล ซึ่งระบบระบายความร้อนที่ติดตั้งฮีทไปป์แบบ 2 ท่อ พร้อมพัดลม 2 ตัว สามารถจัดการได้ดีตามมาตรฐานเวลาใช้งานหนักๆ ประสิทธิภาพทำได้ดีอย่างต่อเนี่อง แต่ถ้าใช้งานเบาๆ คือพัดลมแทบไม่หมุนเลย ทำงานได้เงียบมากๆ
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คสาย Content Creator ในปี 2021 อีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น Lenovo IdeaPad ตระกูลประสิทธิภาพสูงแต่ดีไซน์บางเบา เหมาะมากกับคนที่ต้องการเอาไปเน้นใช้งานสร้างสรรค์มืออาชีพ ในราคาที่เหมาะสม มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ พร้อมตอกย้ำความเป็น IdeaPad รุ่นระดับกลางค่อนบนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน
ที่สำคัญยังเป็นการสร้างมาตรฐานที่ดีของโน๊ตบุ๊คยุคใหม่ของทาง Lenovo และหลายๆ แบรนด์ ที่เชื่อได้ว่าในอนาคตอันใกล้ทุกคนต่างต้องให้ความนิยมแน่นอน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 16″ ความละเอียด Quad HD พาเนล IPS มีค่า sRGB 92% ที่ Refresh Rate 120Hz พร้อมสเปกฮาร์ดแวร์ระดับ Gaming ทำให้ลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมสมราคา อย่างฟีเจอร์ IR Camera + TOF และเมื่อเราเปิดฝาโน๊ตบุ๊คขึ้นมาทุกครั้ง เครื่องจะเปิดใช้งานทันที ไม่ต้องกดปุ่ม Power แม้เราจะ Shutdown ไปแล้ว
รวมๆ แล้วก็ยังให้ประสบกาณ์ใช้งานก็ยังเยี่ยมยอดเหมาะกับคนทำงานสาย Content Creator หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นใช้งานทั่วไปลื่นไหลใช้งานยาวๆ ทั้งจากสเปก ประสิทธิภาพ และหน้าจอที่ดีขึ้น เล่นเกมได้ลื่น ที่แม้อาจจะไม่เบาสุดเท่ากับรุ่น Lenovo IdeaPad 5 Pro 14 พร้อมได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที และมีโปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ซึ่งประกอบไปด้วย Word / Excel / Power Point ที่ทุกคนได้ใช้งานอยู่แล้ว ทำให้ต้องไปเสียเงินซื้อแยกแต่อย่างใดเลย
ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงานทั่วไป การใช้งานเพื่อความบันเทิง ตอบโจทย์ได้หมด อีกทั้งแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน 7 – 8 ชั่วโมง รองรับการชาร์จผ่านทาง USB PD ความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อใช้งานหนักๆ ก็ไม่ร้อนจนเกินไป ตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊ตสายทำงาน Content Creator อย่าง โปรเซสไฟล์ภาพถ่าย ตัดต่อวีดีโอ หรือทำกราฟิกต่างๆ ผ่านทางโปรแกรมตระกูล Adobe ต่างๆ พร้อมยังเน้นใช้งานทั่วไปพื้นฐานที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน แต่ที่โดดเด่นมากๆ ก็คือหน้าจอนั่นเอง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มเครื่องบางเบา ขนาดหน้าจอ 16″ ซึ่ง Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Value
Lenovo IdeaPad รุ่นนี้ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาประมาณสามหมื่นบาทต้นๆ ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 33,990 บาท ที่มาพร้อมสเปกใหม่ประสิทธิภาพสูงอย่างชิปประมวลผลและการ์ดจอแยก โดยมีหน้าจอ 16″ พาเนล IPS ความละเอียด Quad HD ได้แรม 16GB DDR4 และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมมีสแกนใบหน้า เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 2 ปี On-site และบริการ Call Center 24/7 ที่สำคัญคือได้โปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาทไปใช้งานติดเครื่องฟรีๆ ด้วย
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo IdeaPad รุ่นนี้มีความโดดเด่นเรื่องสีสัน รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ทำให้สามารถติดตั้งหน้าจอขนาด 16″ ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดใกลเคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ด้วยขอบจอที่บางเฉียบ อีกทั้งความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ บางแค่ 16.9 มิลลิเมตร เบา 1.9 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมากๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และด้วยวัสดุและงานประกอบที่ดีเยี่ยม ลงตัวมากๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง เน้นความหรูหราในราคาที่ไม่แพงแต่ได้สเปกก็แรงด้วย
Best Multimedia
ได้ความเป็นโน๊ตบุ๊ตสาย Content Creator ทำให้มีฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ หน้าจอแสดงผลคุณภาพสูง ไม่ใช่แค่ขนาดใหญ่ 16″ แต่ได้พาเนล IPS คุณภาพสูง ที่ความละเอียด Quad HD และรองรับ Refreah Rate 120Hz ส่วนแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 7 – 8 ชั่วโมง ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แทบไม่ต้องพกพาอแดปเตอร์เลยทีเดียว หรือจะชาร์จผ้านทาง USB PD ก็สามารถทำได้ และการเชื่อมต่อที่ครอบคลุม โดดเด่นด้วย SD Card Reader ในตัว ซึ่ง Lenovo IdeaPad ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วนในทุกๆ มิติ ไม่ว่าจะในแง่ของความบางเบาและประสิทธิภาพ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ยังพอได้
