6 แท็บเล็ตราคาถูก มีไว้เล่นหรือทำงานก็เวิร์ค เริ่ม 2,399 บาทเท่านั้นเอง

แท็บเล็ตราคาถูกตอนนี้มีทั้งแบรนด์ชั้นนำและแบรนด์ผู้เล่นหน้าใหม่ให้เลือกด้วยนะ

ถ้าพูดถึงแท็บเล็ต เชื่อว่าหลายคนอาจจะเห็นภาพ iPad ของ Apple ขึ้นมาเป็นรุ่นแรกๆ แต่แท็บเล็ตราคาถูกฝั่ง Android เองก็มีตัวเลือกราคาไม่แพงเปิดตัวออกมาให้เลือกหลากหลายรุ่น ตอบโจทย์คนที่ต้องการแท็บเล็ตสักเครื่องเอาไว้ประชุม, เรียนออนไลน์, อ่าน e-Book หรือข่าวประจำวันก็จัดว่าดี เพราะหน้าจอก็ใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน เลยมองอ่านเนื้อหาได้สะดวกไม่ต้องเพ่งสายตามากเกินไปและพกคู่กับโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋าไปใช้งานตามที่ต่างๆ ได้ง่ายอีกด้วย

แต่สำหรับคนที่หาแท็บเล็ตเอาไว้ใช้แบบบ้านๆ ดูหนังฟังเพลง อ่านข่าวอ่านหนังสือทั่วๆ ไป จะให้ซื้อ iPad มาใช้ก็น่าจะแพงเกินและดูจะเกินจำเป็นไปบ้างด้วยซ้ำ ซึ่งในตลาดส่วนนี้ก็มีแท็บเล็ต Android ราคาไม่แพงมาก ที่ราคาช่วงหลักพันต้นหรือแพงสุดก็ไม่เกินหลักหมื่นบาทให้เลือกอยู่หลายรุ่นทั้งแบรนด์ชั้นนำที่หลายๆ คนไว้ใจและกลุ่มผู้ผลิตหน้าใหม่ที่ทุ่มตลาดด้วยเครื่องราคาไม่แพงมากให้เลือกซื้อกันมากมายเลยทีเดียว

6 แท็บเล็ตราคาถูกน่าใช้ราคาไม่เกินหมื่น ซื้อมาใช้ยังไงก็คุ้ม!

แท็บเล็ตราคาถูกในตอนนี้ มีทั้งแบรนด์ชั้นนำที่เรารู้จักกันดีกับแท็บเล็ตแบรนด์รองจากประเทศจีนที่สเปคดีเกินราคาเข้ามาตีตลาดอย่างครึกครื้นเลยทีเดียว ซึ่งบางแบรนด์ก็อาจจะผ่านตาใครหลายๆ คนมาแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งทั้ง 6 รุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำจะมีดังนี้

1. Teclast P80 (2,399 บาท)
2. Teclast P20HD (4,499 บาท)
3. HUAWEI Matepad T 8 (4,890 บาท)
4. Alldocube iPlay 20 Pro (5,999 บาท)
5. Lenovo Tab M10 FHD Plus (7,990 บาท)
6. Samsung Galaxy Tab A7 WiFi (8,490 บาท)

1. Teclast P80 (2,399 บาท)

เริ่มต้นด้วยแบรนด์ Teclast ที่ชาวไทยหลายคนน่าจะคุ้นหูจากผู้ขายแท็บเล็ต Android ราคาถูก คุณภาพใช้ได้ จะเอามาดูหนังฟังเพลงหรืออ่าน e-book ก็ไม่มีปัญหา โดย Teclast P80 ที่เลือกมาแนะนำเป็นรุ่นแรกเป็นแท็บเล็ต Android เครื่องเล็กพกง่าย ใช้งานสะดวก เหมาะกับคนที่หาเครื่องถูกและคุ้มเอาไว้ใช้ และตอนนี้ทาง Teclast ก็เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วและมีประกันการใช้งานให้ 1 ปีเต็มอีกด้วย

สเปคของ Teclast P80 เป็นแท็บเล็ตจอ 8 นิ้ว ความละเอียด HD (1280×800) พาเนล IPS ติดตั้งซีพียู Allwinner A133 เป็นซีพียูแบบ Quad-core มีแรม 2GB กับ ROM 32GB ถึงเห็นว่าน้อยแต่ก็เติม MicroSD Card เสริมไว้ใส่ภาพหรือไฟล์เอกสารต่างๆ เพิ่มได้สูงสุด 128GB ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 10 มาให้พร้อมใช้งานพร้อมกล้องหลัง 2 ล้าน และกล้องหน้า 3 แสนพิกเซลเพื่อใช้ถ่ายภาพทั่วไปได้เลย พอร์ตที่ตัวแท็บเล็ตมี USB-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม. รองรับ Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0 ด้วย ส่วนแบตเตอรี่ในตัวมีความจุ 4,000 mAh ซึ่งถ้าใครมองหาแท็บเล็ตถูกๆ เอาไว้ใช้อ่านข่าวหรือเรียนออนไลน์ล่ะก็ Teclast P80 ตัวนี้ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว

สเปคของ Teclast P80

• จอ 8 นิ้ว ความละเอียด HD (1280×800) พาเนล IPS
• ซีพียู Allwinner A133 แบบ Quad-core
• แรม 2GB กับ ROM 32GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ 128GB
• ระบบปฏิบัติการ Android 10
• กล้องหลัง 2 ล้าน และกล้องหน้า 3 แสนพิกเซล
• พอร์ตและการเชื่อมต่อมี USB-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม. เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0 ได้
• แบตเตอรี่มีความจุ 4,000 mAh
• ราคา 2,399 บาท (Teclast Official Shopee Shop)

2. Teclast P20HD (4,499 บาท)

ส่วนของแท็บเล็ตราคาถูกรุ่นต่อมา ยังเป็นแบรนด์ Teclast อยู่ แต่ขยับมาเป็นรุ่นหน้าจอใหญ่ขึ้นอย่าง Teclast P20HD ที่ได้หน้าจอขนาด 10.1 นิ้วและได้ซีพียูแบบ Octa-core ที่ประสิทธิภาพดีขึ้น และยังใส่ซิมการ์ดเอาไว้ใช้โทรและรับสายได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครอยากซื้อแท็บเล็ตเอาไว้ให้พ่อแม่ใช้ล่ะก็ จะดู P20HD ตัวนี้ไว้ก็น่าสนใจ

สเปคของเครื่องนี้เป็นแท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1200 พิกเซล) พาเนล IPS ใช้ซีพียู Unisoc SC9863 เป็นซีพียูแบบ Octa-core ที่ประสิทธิภาพดีระดับใช้งานทั่วไปอย่างการดูหนังฟังเพลงหรือเข้าเว็บไซต์ได้อย่างแน่นอน มีแรม 4GB กับ ROM 64GB เติม MicroSD Card ได้อีก 128GB ทำให้ลงแอพฯ และเซฟเอกสารต่างๆ เก็บเอาไว้อ่านได้ ติดตั้ง Android 10 มาให้ ส่วนกล้องจะมีความละเอียดมากขึ้นเป็นกล้องหน้า 2 ล้านและกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล มีไฟแฟลชและระบบ Auto Focus ด้วย ซึ่งถ้าเอาไว้ถ่ายภาพเก็บข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ก็ใช้งานได้เลย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี USB-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม. ติดตั้งมาให้ รองรับ 4G, Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0 ติดตั้งแบตเตอรี่เอาไว้ในตัวอีก 6,000 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง เหมาะกับคนที่อยากหาแท็บเล็ตราคาถูกเอาไว้ใช้งานทั่วไป หรือจะซื้อให้พ่อแม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนแล้วรู้สึกว่าหน้าจอเล็กมองไม่สะดวกก็ถือว่าดีเช่นกัน

สเปคของ Teclast P20HD

• จอ 10.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1200) พาเนล IPS
• ซีพียู Unisoc SC9863 แบบ Octa-core
• แรม 4GB กับ ROM 64GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ 128GB
• ระบบปฏิบัติการ Android 10
• กล้องหลัง 5 ล้าน และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• พอร์ตและการเชื่อมต่อมี USB-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม. รองรับ 4G, Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0
• แบตเตอรี่มีความจุ 6,000 mAh
• ราคา 4,499 บาท (เฉพาะเครื่อง), 4,699 บาท (พร้อมเคส) (Teclast Official Shopee Shop)

3. HUAWEI Matepad T 8 (4,890 บาท)

ด้านแบรนด์ชั้นนำอย่าง HUAWEI ก็มีแท็บเล็ตราคาถูกอย่าง HUAWEI MatePad T 8 ให้เลือก แม้จะเป็น Android เวอร์ชั่นไม่มี Google Mobile Service (GMS) ให้ใช้งานก็ตาม แต่ก็มีระบบ Huawei Mobile Service (HMS) ให้ใช้งาน และแอพฯ ต่างๆ ก็โหลดใน HUAWEI AppGallery ได้ด้วย ส่วนจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้ คือตัวเครื่องจะบางเพียง 4.9 มม. จับถือได้ง่ายและใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 12 ชั่วโมงทีเดียว

หน้าจอของ HUAWEI MatePad T 8 เป็นจอ LCD ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 1280×800 พิกเซล ใช้ซีพียู MediaTek MT8768 แบบ Octa-core ถือเป็นซีพียูระดับต้นไปถึงกลาง ซึ่งจัดว่าใช้ทำงานพื้นฐานอย่างการเปิดเว็บหรือดูหนังฟังเพลงได้อย่างแน่นอน มีแรม 2GB กับ ROM 32GB ติดตั้ง MicroSD Card เพิ่มได้สูงสุด 512GB เหมาะกับคนที่อยากโหลดหนังหรือเอกสารใส่แท็บเล็ตเอาไว้ก็ใส่ได้เยอะสะใจเลยทีเดียว ส่วนระบบปฏิบัติการในเครื่องเป็น EMUI10 ที่ทาง HUAWEI นำ Android 10 มาพัฒนาต่อด้วยตัวเอง ส่วนกล้องที่ติดตั้งมาให้มี 2 ตัวคือกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล แบบมี Auto Focus ในตัว แต่ไม่มีไฟแฟลชติดตั้งมาให้ ส่วนพอร์ตและการเชื่อมต่อมีพอร์ต MicroUSB, ช่องหูฟัง 3.5 มม. รองรับ Wi-Fi 5 กับ Bluetooth 5.0 ในตัว ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5,100 mAh ซึ่งทาง HUAWEI เคลมว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 12 ชม.

สเปคของ HUAWEI MatePad T 8

• จอ LCD ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด HD (1280×800)
• ซีพียู MediaTek MT8768 แบบ Octa-core
• แรม 2GB กับ ROM 32GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ 512GB
• ระบบปฏิบัติการ EMUI10 (พัฒนาจาก Android 10 โดย HUAWEI เอง)
• กล้องหลัง 5 ล้าน และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• พอร์ตและการเชื่อมต่อมี MicroUSB, ช่องหูฟัง 3.5 มม., Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0
• แบตเตอรี่มีความจุ 5,100 mAh
• ราคา 4,890 บาท (HUAWEI Official LazMall)

4. Alldocube iPlay 20 Pro (5,999 บาท)

ด้านแท็บเล็ตราคาถูกมีปากกาและคุ้มสักหน่อย มีรุ่น Alldocube iPlay 20 Pro ที่มีทั้งปากกาสไตลัสเอาไว้เขียนจดข้อมูลต่างๆ ได้ และยังมีช่องใส่ SIM x 2 ช่อง และติดตั้ง Android 11 อีกด้วย เรียกว่าสเปคครอบคลุมการทำงานและอัพเดทใหม่ล่าสุดแล้ว เรียกว่าทันสมัยและครบเครื่องสำหรับคนเน้นว่าจ่ายแล้วได้แท็บเล็ตราคาถูกแต่สเปคคุ้มๆ ไว้ใช้งาน

สเปคของเครื่องนี้เป็นแท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1200) พาเนล IPS ติดตั้งซีพียู MediaTek P60 เป็นแบบ Octa-core ซึ่งถือเป็นซีพียูระดับกลางของ MediaTek ดังนั้นถ้าใช้งานทั่วไปเรียกว่าหายห่วงแน่นอน มีแรมในเครื่อง 6GB และ ROM 128GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้อีก 128GB กรณีที่หน่วยความจำในเครื่องเต็ม ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 11 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมาให้ในเครื่องแล้ว ส่วนกล้องที่ตัวแท็บเล็ตจะมีอยู่ 2 ตัวคือด้านหน้า 2 ล้านพิกเซลและหลัง 5 ล้านพิกเซล มี Auto Focus อีกด้วย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อรอบตัวมีช่องหูฟัง 3.5 มม., USB-C รองรับ 4G x 2 ซิม เชื่อมต่อ Wi-Fi 5 และ Bluetooth 4.2 ได้ ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 6,000 mAh และในแพ็คเกจจะมีปากกาสไตลัสที่รองรับแรงกดได้ 1,024 ระดับแถมมาในกล่องด้วย เรียกว่าถ้าหาแท็บเล็ตราคาถูกเอาไว้ใช้แบบคุ้มๆ สักตัวล่ะก็ Alldocube iPlay 20 Pro ตัวนี้ก็น่าสนใจทีเดียว

สเปคของ Alldocube iPlay 20 Pro

• จอ 10.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1200) พาเนล IPS
• ซีพียู MediaTek P60 เป็นแบบ Octa-core
• แรม 6GB กับ ROM 128GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ 128GB
• ระบบปฏิบัติการ Android 11
• กล้องหลัง 5 ล้าน และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• พอร์ตและการเชื่อมต่อมี USB-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม., 4G, Wi-Fi 5 และ Bluetooth 4.2
• แบตเตอรี่มีความจุ 6,000 mAh
• ราคา 5,999 บาท (Suc-Seed Official LazMall)

5. Lenovo Tab M10 FHD Plus (7,990 บาท)

สำหรับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Lenovo เอง ก็มีแท็บเล็ตราคาถูกสเปคน่าสนใจอย่าง Lenovo Tab M10 FHD Plus ที่ผู้เขียนเพิ่งรีวิวไปก่อนหน้านี้ให้เลือกเช่นกันกับราคาหลักพันปลายเท่านั้น แต่งานประกอบแข็งแรงไว้ใจได้รวมทั้งได้เคสกับฟิล์มแถมมาให้อีกด้วย เรียกว่าซื้อแล้วใช้งานได้เลย มีประกันศูนย์ไทยคอยดูแลอีกด้วย เรียกว่าซื้อไปใช้อุ่นใจแน่นอน

แท็บเล็ตเครื่องนี้เป็นรุ่นหน้าจอ 10.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1200) พาเนล IPS ใช้ซีพียู MediaTek Helio P22T แบบ Octa-core ประสิทธิภาพดีใช้งานทั่วไปอย่างการดูหนังหรืออ่านหนังสือได้อย่างแน่นอน มีแรม 4GB กับ ROM แบบ e.MMC 128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้อีก 256GB ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android Pie มาให้ในตัว ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ปลดล็อคใบหน้าด้วยกล้อง IR ได้และกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี USB-C กับช่องหูฟัง 3.5 มม. ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 5 กับ Bluetooth 5.0 มีแบตเตอรี่ในตัวอีก 5,000 mAh ซึ่งจากรีวิวที่ผู้เขียนเคยทดลองเล่นมาแล้ว ต้องถือว่า Lenovo Tab M10 FHD Plus ตัวนี้เป็นแท็บเล็ตราคาถูกแต่สเปคดีของแถมครบ มีศูนย์บริการให้อุ่นใจอีกด้วย

สเปคของ Lenovo Tab M10 FHD Plus

• จอ 10.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1200) พาเนล IPS
• ซีพียู MediaTek Helio P22T แบบ Octa-core
• แรม 4GB กับ ROM 128GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ 256GB
• ระบบปฏิบัติการ Android Pie
• กล้องหลัง 8 ล้าน และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
• พอร์ตและการเชื่อมต่อมี USB-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม., Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0
• แบตเตอรี่มีความจุ 5,000 mAh
• ราคา 7,990 บาท (Top Computer)

6. Samsung Galaxy Tab A7 WiFi (8,490 บาท)

ส่วนแท็บเล็ตราคาถูกรุ่นสุดท้าย อาจจะเรียกว่าราคาถูกไม่เต็มปากเท่าไหร่เพราะราคาก็เกือบถึงหลักหมื่นแล้วแต่เป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Samsung Galaxy Tab A7 WiFi ที่หน้าจอมีความละเอียดสูงกว่าจอรุ่นอื่น รวมทั้งมีระบบเสียง Dolby Atmos เวลาดูหนังฟังเพลงก็จะได้อารมณ์ยิ่งขึ้นและมีศูนย์บริการในประเทศไทยให้อุ่นใจอีกด้วย

หน้าจอแท็บเล็ตรุ่นนี้เป็นจอ TFT ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด WUXGA+ (2000×1200) ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 662 มีแรมในตัว 3GB กับ ROM 64GB และใส่ MicroSD Card เพิ่มได้สูงสุด 1TB ตามสไตล์ Samsung ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น One UI 2.5 พัฒนาจาก Android 10 ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านและกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล มี Auto Focus ในตัว ส่วนพอร์ตตัวเครื่องมี USB-C กับช่องหูฟัง 3.5 มม. ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 5 กับ Bluetooth 5.0 มีแบตเตอรี่ในตัว 7,040 mAh ซึ่งถ้าโจทย์แท็บเล็ตราคาถูกของเรานั้นต้องการแท็บเล็ตแบรนด์ชั้นนำของโลกด้วย เพื่อความอุ่นใจ พังเมื่อไหร่ก็มีศูนย์คอยดูแลแน่นอนล่ะก็ Samsung ก็เป็นคำตอบที่ดีแบรนด์หนึ่งเลย

สเปคของ Samsung Galaxy Tab A7 WiFi

• จอ TFT ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด WUXGA+ (2000×1200)
• ซีพียู Qualcomm Snapdragon 662
• แรม 3GB กับ ROM 64GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ 1TB
• ระบบปฏิบัติการ One UI 2.5 พัฒนาจาก Android 10
• กล้องหลัง 8 ล้าน และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
• พอร์ตและการเชื่อมต่อมี USB-C, ช่องหูฟัง 3.5 มม., Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0
• แบตเตอรี่มีความจุ 7,040 mAh
• ราคา 8,490 บาท (Samsung Thailand)

สรุปสเปคแท็บเล็ตราคาถูก 6 รุ่น ซื้อไว้ใช้ยังไงก็เวิร์ค

สำหรับสเปคของแท็บเล็ตราคาถูกทั้ง 6 รุ่น เพื่อคนที่หาเครื่องเอาไว้ใช้ทำงาน, เรียนออนไลน์หรือคู่กับโน๊ตบุ๊คจะมีสเปคดังนี้

สุดท้ายแล้ว แท็บเล็ตราคาถูกที่เป็น Android ในปัจจุบันนี้มีตัวเลือกให้เลือกหลายรุ่น และราคาก็เข้าถึงได้ง่าย จ่ายนิดหน่อยก็ได้เอาไว้ใช้งานกันแล้ว แล้วยิ่งพ่อแม่คนไหนมีลูกที่ต้องเรียนออนไลน์แล้วมีงบไม่พอซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องจริงๆ จะซื้อแท็บเล็ตแบบนี้ให้ลูกใช้เรียนก็ดีเหมือนกัน และพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกและใช้งานง่าย เด็กๆ เรียนรู้ได้เร็วอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว MSI Summit E16 Flip หน้าตาเรียบหรู ฟีเจอร์กับความแรงมาเต็ม เพื่อคนทำงานโดยเฉพาะ

• 6 ไฟ Live สดน่าใช้ ไลฟ์เมื่อไหร่ก็เป๊ะ ถ่ายรูปตอนไหนก็ปัง

• 6 แผ่นรองเมาส์น่าซื้อมาจัดโต๊ะคอม เริ่ม 199 บาทเท่านั้นเอง!