Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

PR-News

ในยุคที่ต้องมีคลาวด์ส่วนตัวที่บ้าน? อะไรที่ควรรู้? เทียบรุ่นเริ่มต้นของ Synology NAS

คลาวด์ส่วนตัว

ใครยุคที่คุณสร้างข้อมูลดิจิทัลปริมาณมหาศาลในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวิดีโอที่ถ่ายจากมือถือ ไฟล์เอกสารการบ้าน หรืองานที่บริษัท เพลง หนัง อีเมล หรือแม้กระทั่งฟุตเทจกล้องวงจรปิดที่บ้าน แต่ข้อมูลที่สำคัญเหล่านี้กลับถูกจัดเก็บอย่างกระจัดกระจายและไม่ได้รับการปกป้องอย่างถูกต้อง ทำให้เผชิญมีความเสี่ยงสูงที่ข้อมูลจะสูญหาย

ปัจจุบัน ความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญเหล่านี้ อาจทำให้คุณตัดสินใจย้ายการจัดเก็บจากไดร์ฟภายนอก (External Hard Drive) ไปใช้บริการคลาวด์สาธารณะต่าง ๆ ทั้งของ Google, Dropbox, OneDrive หรืออื่น ๆ ที่มีแอปพลิเคชันรองรับบนทุก ๆ อุปกรณ์ แต่สิ่งที่คุณไม่คาดคิดคือข้อจำกัดของพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ค่าบริการรายปีที่ต้องจ่ายมากขึ้น รวมถึงข้อจำกัดของบัญชีใช้งานร่วม ซึ่งยังไม่นับรวมถึงนโยบายการเปลี่ยนแปลงราคาของค่าบริการคลาวด์และความเสี่ยงของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลของคุณ ดังนั้น หากคุณเริ่มเบื่อกับปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น คุณก็ไม่ควรพลาดแก็ตเจทประจำบ้านอย่างคลาวด์ส่วนตัว หรือ NAS (Network-attached Storage) นี้!

Advertisement

NAS คืออะไร?

NAS เปรียบเสมือนคลาวด์ส่วนตัว เป็นกล่องเล็ก ๆ ที่มีช่องใส่ฮาร์ดไดร์ฟ โดยข้อมูลทั้งหมดของคุณ ทั้งรูปภาพ วิดีโอ เพลง หนัง ไฟล์เอกสาร ฟุตเทจกล้องวงจรปิด และอีกมากมาย จะถูกจัดเก็บในฮาร์ดไดร์ฟที่ติดตั้งซึ่งสามารถปรับขนาดพื้นที่จัดเก็บได้สูงตามต้องการ อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับแอปพลิเคชันฟรีมากมายให้ผู้ใช้งานเหลือดาวน์โหลดติดตั้ง ตัวเครื่องทำงานเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตบ้านทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บได้ทุกบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ เว็บเบราวเซอร์ หรือแม้กระทั่งสตรีมวิดีโอและรูปภาพบนทีวี เพียงเจ้าของ NAS เครื่องนั้น ๆ ตั้งค่าสิทธิ์ username และ password ส่วนตัวเฉพาะให้คุณเข้าใช้งานได้ ซึ่ง NAS แต่ละเครื่องสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานพร้อมกันได้สูงเป็นหลักพัน นอกจากนี้ คุณยังสามารถแชร์ไฟล์บน NAS ของคุณให้กับบุคคลภายนอกด้วยลิงก์แชร์เสมือนคลาวด์สาธารณะ

pic1

การลงทุนกับ NAS เพียงครั้งเดียวนี้ ไม่เพียงความสะดวกสบายในการเข้าถึงทุกไฟล์ข้อมูลของคุณได้ในที่เดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิทธิ์การเป็นเจ้าของข้อมูลคลาวด์ส่วนตัวทั้งหมดแบบ 100% อีกด้วย โดย NAS ของ Synology มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการข้อมูลทั้งหมดได้อย่างง่ายดายและยืดหยุ่น คุณสามารถตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของแต่ละผู้ใช้งาน ปกป้องข้อมูลด้วยการสำรองข้อมูลทั้งแบบอัตโนมัติและแบบ Manual ด้วยเทคโนโลยีขจัดข้อมูลซับซ้อนที่ช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่จัดเก็บ เรียกได้ว่า ‘NAS เป็นมากกว่าแค่ที่จัดเก็บข้อมูล แต่รวมทุกสิทธิ์การจัดการข้อมูล


ใครเหมาะกับอุปกรณ์จัดการข้อมูล NAS?

  1. คนที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัลเยอะ

ถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องเสียค่าบริการรายปีสำหรับพื้นที่จัดเก็บบนบริการคลาวด์สาธารณะ คงจะประสบกับข้อจำกัดต่าง ๆ ของนโยบายของแพ็กเกจราคาตามขนาดจัดเก็บที่เพิ่มขึ้นเป็นขั้น ๆ และเป็นการจ่ายเงินในระยะยาวที่ไม่มีสิ้นสุด ยกตัวอย่าง พ็กเกจ Google One คุณต้องเสียค่าบริการ 990 บาทต่อปีสำหรับพื้นที่จัดเก็บ 200GB หากคุณต้องการจัดเก็บมากกว่า 200GB คุณจำเป็นต้องเลือกแผน 2TB ที่มีค่าบริการ 3,500 ต่อปี

ในทางกลับกัน การลงทุนครั้งเดียวของคลาวด์ส่วนตัวอย่าง NAS ที่บ้านนั้น มีราคาตัวเครื่องรุ่นเริ่มต้น 2 เบย์อยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับฮาร์ดไดร์ฟความจุ 2TB อีกประมาณ 2,500 บาทเพื่อเปรียบเทียบแล้ว การใช้งาน NAS เป็นระยะเวลา 2 ปีขึ้นไปก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าบริการคลาวด์สาธารณะอยู่มาก โดยที่คุณสามารถปรับขนาดความจุฮาร์ดไดร์ฟได้ตามต้องการ อาจจะเริ่มต้นที่ 1TB และสูงไปจนถึง 16TB ต่อลูกได้อีกด้วย

สิ่งที่คุณควรพิจารณา คือ หากปริมาณข้อมูลที่คุณจัดเก็บต่ำกว่า 2TB หรือ 200GB การเช่าพื้นที่คลาวด์สาธารณะนั้นอาจคุ้มค่ามากกว่าการจัดเก็บข้อมูลใน NAS แต่ถ้าคุณโฟกัสเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัวและการควบคุมจัดการข้อมูล รวมถึงฟีเจอร์แอปพลิเคชันฟรีบน NAS อื่น ๆ อย่างการสตรีมวิดีโอ เพลง หรือการสร้างเว็บไซต์ตัวเอง NAS คลาวด์ส่วนตัวก็อาจจะเป็นอีกแก็ตเจทประจำบ้านที่น่าสนใจ

pic2

▲ หากคุณมีปริมาณข้อมูลน้อย การเสียค่าเช่าพื้นทีบริการคลาวด์อาจเหมาะกับคุณ แต่ถ้าไฟล์ที่คุณต้องการจัดเก็บและสำรองมีขนาดมากกว่า 200GB หรือ 2TB – 10TB แล้วนั้น คุณอาจพิจารณาลงทุนกับแก็ตเจทการจัดการข้อมูล NAS

หมายเหตุ: ราคาแพ็กเกจ Google One ในประเทศไทย พื้นที่เก็บข้อมูลที่จะได้รับต้องหักโควต้าพื้นที่ฟรี 15GB ออกก่อน เช่น ในแผนเริ่มต้นราคา 70 บาทต่อเดือนสำหรับพื้นที่ 100GB หมายถึง 15GB + 85GB รวมเป็น 100GB

  1. คนที่ต้องการช่วยจัดการไฟล์รูปภาพ/วิดีโอให้กับสมาชิกในบ้าน หรือไฟล์งานเอกสารต่าง ๆ

จากที่กล่าวไปข้างต้น หากปริมาณการจัดเก็บข้อมูลของคุณเยอะ การลงทุนกับแก็ตเจทการจัดการข้อมูล NAS นั้นคุ้มค่ากว่าในระยะยาว เมื่อคุณพิจารณาปริมาณข้อมูลที่จัดเก็บนั้น คุณอาจต้องคำนึงถึงข้อมูลอื่น ๆ นอกจากรูปภาพส่วนตัวของคุุณร่วมด้วยอย่างพื้นที่จัดเก็บร่วมกับสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ใช้งานคนอื่น ๆ เช่น คุณอาจต้องการช่วยพ่อหรือแม่ของคุณจัดเก็บและสำรองรูปภาพและวิดีโอจากมือถือที่ถ่ายในชีวิตประจำวันหรือทริปท่องเที่ยว ซึ่งหากนับรวมการจัดเก็บของสมาชิกหลาย ๆ คนแล้ว ก็ถือได้ว่าต้องการพื้นที่จัดเก็บที่มากทีเดียว

นอกจากนี้ ถ้าคุณทำงานเป็น Content Creator หรือมีไฟล์เอกสารสำคัญที่ต้องจัดเก็บและสำรอง การจัดเก็บกระจัดกระจายบนไดร์ฟภายนอกหรือบริการคลาวด์สาธารณะอาจทำให้คุณใช้งานและจัดการไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างไม่สะดวกนัก ซึ่งการมี NAS ที่เปรียบเหมือนพ่อบ้านดาต้าส่วนตัวที่ช่วยให้คุณจัดการทุกไฟล์ข้อมูลในที่เดียว

และหากคุณกำลังเริ่มขยับการใช้งาน NAS ของคุณจากส่วนตัวเป็นการแชร์กับผู้ใช้งานหลายคน อย่างสมาชิกภายในบ้าน หรือทีมในออฟฟิศย่อม ๆ แล้ว Admin (ผู้มีสิทธิ์กำหนดตั้งค่าต่าง ๆ) ของ NAS เครื่องนั้น ๆ สามารถตั้งค่าการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละผู้ใช้งาน เช่น สิทธิ์การเข้าถึง ดาวน์โหลด แก้ไข และอีกมากมาย ทำให้การจัดการไฟล์และทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

pic3

▲ แอปพลิเคชัน Synology Photos เครื่องมือจัดการรูปภาพ ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีบนทุกอุปกรณ์ หน้าตาและการใช้งานคล้ายคลึงกับ Google Photos โดยพื้นที่ความจุจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่างของ HDD ที่ติดตั้งบน Synology NAS ของคุณ

  1. คนที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

การจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ บนคลาวด์สาธารณะเป็นการอนุญาตให้ผู้ให้บริการสามารถวิเคราะห์และจัดเก็บไฟล์และรูปภาพของคุณ แม้ว่าสิ่งนี้จะมาพร้อมกับความสะดวกสบาย และอาจทำให้คุณต้องเผชิญกับความเสี่่ยงในการรั่วไหลของข้อมูล อ้างอิงเนื้อหาข่าวจาก Entrepreneur India เมื่อคุณดาวน์โหลดข้อมูลของคุณจากอัลบั้มบน Google ผ่าน Google Takeout ข้อมูลของคุณจะถูกถ่ายโอนไปยังอัลบั้มของบุคคลที่สาม หมายความว่า ข้อมูลหรือวิดีโอของคุณอาจถูกดาวน์โหลดโดยคนอื่นได้ ซึ่งอัตราของภัยคุกคามทางไซเบอร์เหล่านี้มีเพิ่มสูงขึ้นทุกปี นั่นเป็นสาเหตุที่คุณต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเมื่อเลือกจัดเก็บข้อมูลบนบริการของบุคคลที่สามที่ไม่สามารถการันตีด้านความปลอดภัยของข้อมูลได้

ในทางกลับกัน อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของคลาวด์ส่วนตัวอย่าง NAS คือ คุณมีสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวและความเป็นเจ้าของข้อมูลของคุณ 100% ด้วยการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดของคุณในฮาร์ดไดร์ฟของ NAS ที่บ้าน และไม่ต้องกังวลเรื่องการวิเคราะห์และเรียนรู้เชิงลึกของรูปภาพจากบริการภายนอก เมื่อคุณต้องการแชร์ไฟล์รูปภาพหรือข้อมูลต่าง ๆ ในกับบุคคลอื่น ๆ คุณสามารถสร้างลิงก์แชร์พร้อมกับตั้งค่าการเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย หากแต่สิทธิ์การจัดการข้อมูลของ NAS ที่ปลอดภัยนี้ มาพร้อมกับความรับผิดชอบของคุณในกำหนดค่าต่าง ๆ และรักษาความปลอดภัยของระบบที่คุณต้องพิจารณาเพิ่มเติม

สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ NAS?

หากคุณพิจารณาแล้วว่า NAS เหมาะกับการใช้งานเพื่อจัดเก็บและสำรองข้อมูลของคุณ นี่คือสิ่งที่คุณต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ NAS

  1. วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

เช่น เพื่อจัดเก็บและสำรองรูปภาพ/วิดีโอของคุณและครอบครัว หรือเพื่อการใช้งานที่สูงขึ้นอย่างการสำรองข้อมูลพีซี เซิร์ฟเวอร์ หรือเครื่องเสมือน (Virtual Machine)

  1. ปริมาณข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บ

คุณสามารถพิจารณาได้จากปริมาณข้อมูลที่จัดเก็บปัจจุบันทั้งบน Google Drive, iCloud, Dropbox หรือในไดร์ฟภายนอก หรือจำนวนรูปภาพ/วิดีโอที่คุณถ่ายในแต่ละเดือน เพื่อคำนวณปริมาณข้อมูลที่จะจัดเก็บสำหรับในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า ซึ่งการคำนวณนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงการอัปเกรดขนาดความจุฮาร์ดไดร์ฟที่ถี่เกิดไปโดยไม่จำเป็น

  1. สเปคของฮาร์ดแวร์และแอปพลิเคชันที่ต้องการ

NAS แต่ละรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้มีความแตกต่างด้านฮาร์ดแวร์และข้อจำกัดของแอปพลิเคชันที่รองรับ เช่น Synology รุ่น j-series ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้นและขนาดเล็ก และรุ่น plus-series ที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น

รุ่น NAS 2 เบย์ที่แนะนำสำหรับใช้ในบ้าน

Synology ผู้ผลิตและเชี่ยวชาญด้านการจัดเก็บข้อมูลลำดับต้น ๆ ของตลาด NAS ได้ออกรุ่นผลิตภัณฑ์ NAS 2 เบย์แบบ Dual-core ในกลุ่ม plus-series อย่าง Synology DiskStation DS220+ และ DS720+ เพื่อรองรับความต้องการและประสิทธิภาพที่ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งานในบ้านหรือออฟฟิศขนาดย่อม ๆ แต่คุณอาจสงสัยว่าทำไมคุณถึงต้องยอมเสียเงินเพิ่มอีก 2,000 – 3,000 บาทให้กับรุ่น DS720+ และเพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน คุณสามารถพิจารณาความแตกต่างได้ตาม Checklist ด้านล่างนี้

pic4 1

▲ Synology DiskStation DS220+ (ซ้ายมือ) และ Synology DiskStation DS720+ (ขวามือ)

  1. ปริมาณงานที่ต้องจัดการเยอะและขนาดใหญ่หรือไม่?

แม้ว่าทั้ง 2 รุ่นถูกออกแบบให้ทำงานด้วย CPU ประสิทธิภาพสูงอย่าง Intel Celeron J4000 แต่รุ่น Synology DS720+ นั้นมาพร้อมกับ CPU core ที่มากขึ้น 2 เท่า (จาก 2-core เป็น 4-core) เพื่อรองรับการทำงานที่มากขึ้นและใหญ่ขึ้น

  1. คุณมีความต้องการในการปรับขยายความจุพื้นที่จัดเก็บในอนาคตหรือไม่?

รุ่น Synology DS720+ นั้นมีเพิ่มพอร์ต eSATA ซึ่งพอร์ตนี้จะทำให้คุณสามารถปรับขยายการติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟจาก 2 ลูกเป็น 7 ลูกได้ ด้วยการติดตั้งยูนิตเสริม Synology DX517 เพื่อเพิ่มเบย์ของไดร์ฟอีก 5 ช่อง

  1. คุณต้องการประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลที่เร็วขึ้นหรือไม่?

สเปคของรุ่น Synology DS720+ มีเบย์แยกสำหรับ M.2 NVMe SSD เพื่อรองรับทำ Cache ทำให้ NAS ทำงานในความหน่วงต่ำและ IOPS สูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ผู้ใช้งานสามารถอ่าน/เขียนข้อมูลบน NAS ได้เร็วขึ้น

  1. คุณมีความต้องการในการใช้จัดเก็บและทำงานข้อมูล Virtualization หรือไม่?

หากคุณเป็นผู้ใช้งานระดับโปร แต่ต้องการทำงานข้อมูลเสมือน Virtualization อย่าง OpenStack, Citrix Ready, VMware vSphere หรือ Windows Server ซึ่งไม่รองรับในรุ่น Synology DS220+ คุณคงต้องเลือกใช้งานรุ่นที่สูงกว่าอย่าง Synology DS720+

  1. คุณต้องการระยะเวลาการรับประกันที่มากขึ้นหรือไม่?

หากคุณเป็นคนที่กังวลเรื่องระยะเวลาในการรับประกัน คุณอาจพิจารณาเลือกซื้อรุ่น Synology DS720+ ที่รับประกันฮาร์ดแวร์ 3 ปี ซึ่งสามารถซื้อขยายเพิ่มอีก 2 ปีเพื่อครอบคุลมสูงถึง 5 ปี ซึ่งการรับประกันฮาร์ดแวร์ของรุ่น Synology DS220+ คือ 2 ปี และไม่สามารถขยายเพิ่มได้

บทสรุป

อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางเลือกการจัดเก็บใดที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าคุณจะจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์สาธารณะ หรือคลาวด์ส่วนตัว หรือวิธีการอื่น ๆ มีเพียงวิธีที่ช่วยให้คุณลดความเสี่ยงได้มากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปในการสำรองรูปภาพและวิดีโอในบ้านและออฟฟิศขนาดย่อม ๆ นั้น รุ่น NAS แบบ 2 เบย์ (รองรับฮาร์ดไดร์ฟ 2 ลูก) พร้อมกับฮาร์ดไดร์ฟความจุ 2TB หรือ 4TB นั้นก็เรียกได้ว่าเพียงพอสำหรับการใช้งาน 2 – 3 ปีแล้ว

และถึงแม้ว่า Synology DS220+ นั้นจะเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้านและออฟฟิศขนาดย่อม และปุ่ม USB Copy ที่ช่วยให้สามารถคัดลอกข้อมูลจากไดร์ฟภายนอกได้อย่างง่ายดาย แต่หากคุณมี Budget หรือมีแพลนรองรับสำหรับความต้องการมากขึ้นในอนาคต ทั้งด้านการเข้าถึงข้อมูล ปริมาณผู้ใช้งาน แอปพลิเคชันที่รองรับ และสเปคของฮาร์ดแวร์แล้วนั้น คุณคงต้องพิจารณาเลือกซื้อ Synology DS720+ สำหรับการใช้งานในระยะยาว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม?

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Synology NAS : https://sy.to/ii26v
สอบถามข้อมูลสินค้า Synology เพิ่มเติม : https://sy.to/1yiqf
แหล่งจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย : https://sy.to/tzwc9

Click to comment

บทความน่าสนใจ

PR-News

​​Synology ชี้โลกเข้าสู่ยุค Data Boom คาดปริมาณข้อมูลพุ่งทะลุ 175Zettabytes ภายในปี 2025 และจะเพิ่มอีกกว่า 10 เท่าภายใน 10 ปีข้างหน้า พร้อมเผยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็น Digital Hub ของโลก ด้วยมูลค่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล 30.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าองค์กรอีก 200% ภายใน 5 ปี หลังสร้างยอดขายเติบโต 250% ใน 5 ปีที่ผ่านมา ​นางสาวธัชวรรณ ชินชนากานต์ หัวหน้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท...

IT NEWS

Synology ประกาศเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่หลังจากเกิดกระแสต่อต้านจากผู้ใช้งานทั่วโลก โดยล่าสุดได้กลับมาเปิดให้ NAS รุ่นปี 2025 สามารถใช้งานฮาร์ดดิสก์และ SSD จากแบรนด์อื่นได้อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้จำกัดให้ใช้เฉพาะไดรฟ์ที่มีโลโก้ Synology เท่านั้น Advertisement การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ DiskStation Manager (DSM) เวอร์ชัน 7.3 ซึ่งคืนความสามารถให้กับผู้ใช้ในการติดตั้ง HDD 3.5 นิ้ว และ...

PR-News

เปิดตัว Synology AI Console รวม AI ชั้นนำยกระดับ Generative AI บน Private Cloud ติดปีกองค์กรยุค AI ใช้งานปลอดภัย ปกป้องข้อมูลองค์กร ไม่เก็บค่าบริการรายเดือนเสริมพลัง Synology Office Suite ให้ผู้ใช้สร้าง-สรุปเนื้อหา แปลงไฟล์ ทำสูตรสเปรดชีตได้ง่าย พร้อมฟีเจอร์ควบคุมสิทธิ์...

PR-News

ในเดือนกรกฎาคม 2025 Microsoft ออกประกาศว่ามีการพบช่องโหว่ของ SharePoint และกำลังตกเป็นเป้าการโจมตี เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 9,000 แห่งทั่วโลกที่ใช้งาน SharePoint Server ผู้โจมตีใช้สิทธิ์ฝั่ง Server ในการแก้ไขค่า Machine Keys หรือ รหัสลับเฉพาะของเครื่อง และข้ามกระบวนการยืนยันตัวตน เพื่อดำเนินการโจมตี Advertisement SharePoint ถือเป็นระบบหลักของหลายบริษัท และมักถูกใช้เพื่อการทำงานร่วมกัน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก