เมาส์ปากกาต่อคอมได้รับความนิยมมาตลอดสำหรับสายอาร์ต แต่จะมีรุ่นไหนน่าใช้บ้างนะ?
เมาส์ปากกานั้นได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อนักวาดในยุคนี้ย้ายมาวาดภาพขายงานศิลป์กันบนอินเตอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความสะดวก แก้ไขง่าย รวมทั้งทดลองไกด์และลงสีได้ง่าย ใช้งานกับซอฟท์แวร์วาดภาพต่างๆ ได้ทันทีอีกด้วย ทำให้ศิลปินรุ่นเก่าทำงานใหม่ออกมาได้เยอะและเร็ว รวมทั้งมีศิลปินรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ รวมทั้งเหรียญคริปโต NFT ที่ใช้ซื้อขายสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินดิจิตอลต่างๆ รวมทั้งงานอาร์ตต่างๆ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นอกจากนี้ในยุคที่เรียนออนไลน์กันมากขึ้นในปัจจุบันนี้ ก็เชื่อว่าครูอาจารย์หลายๆ คนก็หันมาใช้เมาส์ปากกาในการสอนมากขึ้น เพราะสามารถเขียนเนื้อหาหรือสิ่งที่ต้องการลงไปบนหน้าจอให้นักเรียนเห็นได้ทันที จึงไม่ต้องใช้กล้องหลังมาส่องเขียนบนกระดาษ ช่วยเพิ่มความสะดวกได้มาก เพราะทำทุกอย่างเสร็จในพีซีได้เลย
ก่อนซื้อเมาส์ปากกาต้องดูเรื่องอะไรบ้าง?
เมาส์ประเภทนี้แม้จะดูห่างตัวสำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็ตาม แต่ถ้าใครทำงานสายวาด, ทำ 3D Model และอนิเมชั่นล่ะก็ นี่คือเมาส์สำหรับทำงานที่ดีกว่าเมาส์ทรงปกติที่ใช้ทำงานและเล่นเกมมาก ซึ่งเมาส์ทรงนี้ทำงานเหมือนกับเราใช้ปากกาจริงๆ วาดเข้าไปในคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเวลาใช้วาดภาพก็ช่วยลดอาการบาดเจ็บข้อมือได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครทำงานสายอาร์ตเป็นหลักล่ะก็นี่คือเมาส์ที่ต้องมีติดโต๊ะเลยทีเดียว
ซึ่งตัวปากกาและตัวแป้นวาดนั้นจะออกแบบมาให้ทำงานร่วมกัน โดยส่วนหัวปากกานั้นออกแบบให้ปลายปากกาเป็นเหมือนการคลิกซ้าย และบางรุ่นที่ตัวด้ามก็จะมีปุ่มกดคำสั่งต่างๆ ให้ผู้ใช้ตั้งค่าได้ และส่วนของตัวแป้นที่วาดภาพ หลายๆ รุ่นก็จะมีวงล้อและปุ่มสำหรับตั้งค่าคำสั่งพิเศษต่างๆ เข้าไปได้อีกด้วย เช่น Wacom รุ่นราคาแพงหน่อย และบางรุ่นก็เป็นกระดานแบบหน้าจอแท็บเล็ตที่แสดงผลภาพบนหน้าจอได้เลยอีกด้วย และส่วนที่ต้องโฟกัสก่อนจะซื้อเมาส์ปากกามาใช้งานนั้นจะมีส่วนแนะนำดังนี้
- ความละเอียดหน้าจอ – ในส่วนของความละเอียดหน้าจอนั้น จะเน้นเฉพาะเวลาที่เราซื้อแบบที่เป็นหน้าจอแท็บเล็ตมาใช้งาน ซึ่งถ้าต้องการซื้อมาใช้แนะนำให้หาความละเอียดให้สูงระดับราว Full HD จะทำให้เห็นรายละเอียดต่างๆ บนภาพได้ดีขึ้น ส่วนปากกานั้นปัจจุบันจะรับแรงกดได้ 4096 ระดับขึ้นไปอยู่แล้ว
- ขนาดของตัวแป้นวาด – เพราะห้องและที่วางแป้นวาดของแต่ละคนมีขนาดไม่เท่ากัน บางคนอาจจะเหมาะกับตัวแป้นขนาดเล็กก็เต็มที่แล้ว หรือบางคนใช้โต๊ะขนาดใหญ่หน่อยสำหรับวางตัวเมาส์เลยก็มีเหมือนกัน ดังนั้นก่อนอื่นแนะนำให้ลองวัดขนาดและดูไซซ์ของตัวแป้นให้ดีก่อนซื้อด้วย จะได้ไม่ต้องจัดโต๊ะกันให้วุ่นวาย
- ราคา – บางคนคิดว่าอยากจะเอาดีด้านวาดภาพ ก็เลือกลงทุนซื้อที่วาดราคาแพงๆ มาเลย แต่จริงๆ แล้วผู้เขียนแนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อตัวราคาแพงมาทีเดียว แต่อาจจะเริ่มต้นใช้จากตัวราคากลางๆ ไม่แพงมากเพื่อพัฒนาฝีมือกันก่อน แล้วจะขยับไปตัวแพงทีหลังก็ได้ และตอนนี้นอกจาก Wacom ราคาแพงๆ ก็มีแบรนด์ทางเลือกอีกหลายแบรนด์ที่คุณภาพดี ฟีเจอร์ครบไม่แพ้แบรนด์ใหญ่หลายๆ แบรนด์แล้วด้วย และบางคนอาจจะได้ใช้แบรนด์เหล่านี้กันไปยาวๆ จนผลงานเริ่มเป็นที่รู้จักและมีเงินมาเปลี่ยนเป็นรุ่นแพงแบรนด์ชั้นนำในภายหลังก็ได้เหมือนกัน
6 เมาส์ปากกาน่าซื้อสำหรับศิลปินและสอนออนไลน์
ในตอนนี้ เมาส์ประเภทนี้นอกจาก Wacom ที่เป็นหัวหอกรุ่นยอดนิยมอยู่ ก็มีแบรนด์ทางเลือกให้หาซื้อเอาไว้ใช้งานเหมือนกัน แม้บางแบรนด์จะเป็นแบรนด์จีนแต่เมื่อดูสเปคแล้วถือว่าน่าสนใจมาก โดยรุ่นน่าสนใจที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำให้ผู้อ่านจะมีทั้งหมด 6 รุ่นดังนี้
- VEIKK A50 (1,339 บาท)
- XP-Pen Deco Pro (3,390-4,190 บาท)
- Huion Q620M (3,416 บาท)
- Wacom Medium CTL-6100WL/E0-CX (6,990 บาท)
- Wacom ONE 13 DTC-133W0C (12,500 บาท)
- Wacom INTUOS PRO MEDIUM (12,900 บาท)
1. VEIKK A50 (1,339 บาท)
VEIKK A50 อาจจะไม่คุ้นหูผู้ใช้ชาวไทยเท่าไหร่ แต่ถือเป็นแบรนด์ที่มีศูนย์ R&D ของตัวเองเพื่อพัฒนาเมาส์ประเภทนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ เช่น Microsoft Office, เขียนเซ็นบนเอกสารไฟล์ PDF, โปรแกรมวาดและดีไซน์ต่างๆ เช่น Autodesk แม้แต่โปรแกรมประชุมหรือไลฟ์ต่างๆ เช่น Microsoft Team, XSplit, Twitch และอื่นๆ ก็ใช้ได้ทั้งหมด รวมทั้งเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Android เพื่อวาดภาพก็ได้ผ่านพอร์ต USB-C ของกระดานวาด
สเปคของตัว VEIKK A50 จะเป็นกระดานขนาด 10×6 นิ้ว ยาว 370 มม. x กว้าง 212 มม. x หนา 9 มม. มีปุ่ม Shortcut บนตัวแป้น 8 ปุ่ม กับทัชแพดเอาไว้คุมการทำงาน รองรับ Getsure control ด้วย ตัวปากกาเป็นปากกาแบบ Passive Pen คือไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ก็วาดเขียนบนกระดานได้ รวมทั้งมีฟีเจอร์รองรับการเอียงหัวปากกาเวลาวาด รองรับแรงกด 8,192 ระดับ ยกสูงจากตัวแท่นวาดได้ 10 มม. ก็ยังทำงานได้ มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลของปากกากับกระดาน 250 pps (250 points per second) ใช้งานกับ Windows Vista เป็นต้นไป, Mac OS X 10.12, Android 6.0 ได้ทันที ทำให้วาดภาพหรือเขียนเอกสารต่างๆ ได้เหมือนดินสอจริงๆ วาดลงบนกระดาษ ซึ่งถ้าใครอยากเข้าสายวาดภาพล่ะก็ อาจจะเริ่มจาก VEIKK A50 ตัวนี้ก่อนก็ได้แล้วค่อยขยับไปตัวแพงกว่านี้ก็ได้
สเปคของ VEIKK A50
- กระดานขนาด 10×6 นิ้ว ยาว 370 มม. x กว้าง 212 มม. x หนา 9 มม. เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C
- มีปุ่ม Shortcut บนตัวแป้น 8 ปุ่ม กับทัชแพดรองรับ Getsure control
- ปากกาแบบ Passive Pen ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับการเอียงปากกาเพื่อวาด รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 10 มม.
- ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของปากกากับกระดาน 250 pps (250 points per second)
- รองรับ Windows Vista เป็นต้นไป, Mac OS X 10.12, Android 6.0
- ราคา 1,339 บาท (VEIKK Official Shop Shopee)
2. XP-Pen Deco Pro (3,390-4,190 บาท)
XP-Pen Deco Pro นั้นเรียกว่าเป็นเมาส์ปากกาแบรนด์ทางเลือกที่สื่อต่างประเทศก็แนะนำให้ผู้ใช้ที่กำลังจะเริ่มวาดภาพหืรอต้องการเอาไว้ทำงานก็มาเริ่มจากรุ่นนี้ก่อนได้เลย ใช้งานกับโปรแกรมอาร์ตต่างๆ ทั้ง Photoshop, Illustrator, Clip Studio Paint, Paint Tool SAI หรือจะต่อกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Android เพื่อวาดภาพก็ได้เหมือนกัน
ตัวกระดานวาดภาพมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 9×5 นิ้ว หรือ 11×6 นิ้ว เลือกได้ เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C มีปุ่ม Shortcut ให้ใช้ 8 ปุ่มและมีวงล้อสำหรับหมุนและวงสีดำบนตัววงล้อเป็นทัชแพดในตัวและกดเพื่อสั่งงานได้ ส่วนปากกาเป็นแบบ Passive Pen ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ใช้เคสใส่ปากกาเป็นที่วางปากกาได้ด้วย รองรับแรงกด 8,192 ระดับ รองรับการเอียงปากกาวาดภาพในโปรแกรมวาดภาพได้ มีปุ่มบนตัวปากกา 2 ปุ่ม โดยปุ่มใหญ่ใช้สลับระหว่างปากกากับยางลบ ปุ่มเล็กเป็นปุ่มคลิกขวา รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7, Mac OS X 10.10, Android 6 หรือใหม่กว่า ซึ่งถ้าใครมีงบประมาณสักนิดแล้วเน้นวาดภาพเป็นหลัก XP-Pen Deco Pro ตัวนี้ก็น่าสนใจทีเดียว และเป็นเมาส์ปากกาตัวทดแทน Wacom ได้เป็นอย่างดี ในแพ็คเกจมีถุงมือ
สเปคของ XP-Pen Deco Pro
- กระดานมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 9×5 นิ้ว หรือ 11×6 นิ้ว เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C
- มีปุ่ม Shortcut บนตัวแป้น 8 ปุ่ม มีวงล้อใช้หมุนคุมการทำงานและแผ่นสีดำเป็นทัชแพด
- ปากกาแบบ Passive Pen ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับการเอียงปากกาเพื่อวาด รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ มีปุ่มคุมการทำงานบนปากกา 2 ปุ่ม
- รองรับ Windows 7 เป็นต้นไป, Mac OS X 10.10, Android 6.0
- ราคา 3,390-4,190 บาท (XP-Pen Official Website)
3. Huion Q620M (3,416 บาท)
สายวาดหรือคนทำงานศิลป์ที่อยากจัดโต๊ะคอมให้สวยๆ แต่เมาส์ปากกาก็อยากได้รุ่นคุณภาพดี แนะนำให้ดู Huion Q620M รุ่นนี้ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อผ่านทาง USB Wireless เข้ากับอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งานด้วยได้เลย สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 20 ชม. หรือจะใช้ USB-C ต่อเข้ากับคอมหรือสมาร์ทโฟน Android ก็ได้ ทำให้สายไฟบนโต๊ะทำงานน้อยลง และฟีเจอร์ก็ถือว่าครบเครื่องไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ อีกด้วย
ตัวพื้นที่กระดานวาดภาพมีขนาด 10.5×6.56 นิ้ว ขนาดทั้งตัว 375.5 × 220.4 × 8 มม. เชื่อมต่อได้ทั้ง USB-C หรือ USB Wireless ก็ได้ ถ้าเชื่อมต่อไร้สายใช้งานได้นานสุด 20 ชม. ใช้เวลาชาร์จ 1.2 ชม. มีปุ่ม Shortcut ให้ตั้งค่าได้ 8 ปุ่มที่ตัวแป้นวาดและมีวงล้อหมุนสำหรับคุมการทำงานกับโปรแกรมต่างๆ ได้ ปากกาเป็นแบบ Battery-free ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับแรงกด 8,192 ระดับและเอียงปากกาเพื่อวาดเขียนได้และมีปุ่มกดบนตัวปากกา 2 ปุ่มตั้งค่าได้ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 10 มม. ความเร็วในการตอบสนองอยู่ที่ 233 pps รองรับระบบปฏิบัตการ Windows 7, macOS 10.12, Android 6 ขึ้นไป ซึ่งถ้าใครอยากจัดโต๊ะคอมและได้เมาส์ปากกาดีๆ ไว้ทำงานด้วยล่ะก็ Huion Q620M ตัวนี้ก็น่าสนใจทีเดียว รวมทั้งมีที่วางปากกาติดมาให้ใช้ด้วย
สเปคของ Huion Q620M
- กระดานขนาด 10.5×6.56 นิ้ว ขนาดทั้งตัว 375.5 × 220.4 × 8 มม. เชื่อมต่อได้ทั้ง USB-C หรือ USB Wireless ใช้งานแบบไร้สายได้นานสุด 20 ชม. ชาร์จ 1.2 ชม. เต็ม
- มีปุ่ม Shortcut บนตัวแป้น 8 ปุ่ม กับวงล้อสำหรับคุมการทำงาน
- ปากกาแบบ Battery-free ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับการเอียงปากกาเพื่อวาด รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 10 มม.
- ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของปากกากับกระดาน 233 pps (233 points per second)
- รองรับ Windows 7, macOS 10.12, Android 6 ขึ้นไป
- ราคา 3,416 บาท (Huion Shopee Official Shop)
4. Wacom Medium CTL-6100WL/E0-CX (6,990 บาท)
Wacom Medium CTL-6100WL/E0-CX เรียกว่าเป็นปากกาตัวเริ่มต้นสำหรับคนอยากได้เมาส์ปากกาของ Wacom ไว้ใช้งาน ซึ่งรุ่นนี้เป็นตัวเริ่มต้นที่มีฟีเจอร์พื้นฐานให้ใช้งานเท่านั้นและเลือกขนาดได้ทั้งขนาด S ขนาด 7 นิ้ว หรือ M ขนาด 10 นิ้ว แต่ข้อดีคือ Wacom จะแถมโปรแกรมให้ใช้งาน 3 โปรแกรม คือ Corel Painter Essential 8 (64-bit), Corel AfterShot 3 (64-bit) ใช้งานได้ฟรี 90 วัน และ CLIP STUDIO PAINT PRO ใช้งานฟรี 2 ปีเต็ม เหมาะกับสายวาดที่ทำงานอาร์ตหรือรับวาดภาพเป็นอย่างมาก แค่ได้ใช้ CLIP STUDIO PAINT PRO 2 ปีฟรีๆ ก็กำไรแล้ว
สเปคของกระดานมีขนาด 264 x 200 x 8.8 มม. ส่วนพื้นที่สำหรับวาดภาพมีขนาด 216.0 x 135.0 มม. เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือสาย USB ที่ติดมาในกล่องเพื่อทำงานและชาร์จตัวที่วาดก็ได้ โดยใช้งานโหมด Bluetooth ได้ 15 ชม. ชาร์จเต็มภายใน 3.5 ชม. มีปุ่มกด 5 ปุ่ม รวมปุ่ม Power ด้วย รองรับคำสั่ง Radial menu บนหน้าจอ เพื่อเลือกคำสั่งต่างๆ ของโปรแกรมนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ปากกาเป็นแบบ Battery-free มีเทคโนโลยี EMR (Elecro-Magnetic Resonance) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของทาง Wacom ทำให้สัมผัสตอนวาดทำได้ดีและต่อเนื่องกว่าเมาส์ปากกาแบรนด์อื่นๆ ดีไซน์ Ergonomic ให้เข้ากับการจับของเรา รองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 7 มม. ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของปากกากับกระดาน 133 pps ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 7, macOS X 10.11, Android 6, Chrome OS 87 หรือใหม่กว่าได้เลย เพียงแค่ลงไดรเวอร์เท่านั้น เรียกว่าเป็นตัวพื้นฐานเริ่มต้นที่นักวาดหลายๆ คนเลือกใช้งานกันในปัจจุบันนี้ ส่วนราคาอาจจะสูงอยู่บ้างแต่ก็น่าลงทุนหากต้องการเน้นเรื่องการวาดภาพแบบจริงจังมากยิ่งขึ้น
สเปคของ Wacom Medium CTL-6100WL/E0-CX
- กระดานขนาด 264 x 200 x 8.8 มม. ส่วนพื้นที่สำหรับวาดภาพมีขนาด 216.0 x 135.0 มม. เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือสาย USB ใช้งานแบบไร้สายได้นานสุด 15 ชม. ชาร์จ 3.5 ชม. เต็ม
- มีปุ่ม Shortcut บนตัวแป้น 5 ปุ่ม รวมปุ่ม Power มีคำสั่ง Radial menu บนหน้าจอ
- ปากกาแบบ Battery-free มีเทคโนโลยี EMR (Elecro-Magnetic Resonance) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของทาง Wacom ทำให้สัมผัสตอนวาดทำได้ดีและต่อเนื่อง รับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 7 มม.
- ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของปากกากับกระดาน 133 pps (133 points per second)
- รองรับ Windows 7, macOS X 10.11, Android 6, Chrome OS 87 ขึ้นไป
- ราคา 6,990 บาท (Advice)
5. Wacom ONE 13 DTC-133W0C (12,500 บาท)
Wacom ONE 13 DTC-133W0C เป็นตัวอัพเกรดขึ้นมาจาก Wacom Medium ในข้อที่แล้ว โดยตัวแป้นเป็นแบบแท็บเล็ตขนาดค่อนข้างใหญ่ใกล้เคียงไซซ์ A4 และกระจกบนหน้าจอทำให้แรงเสียดทานสะท้อนจากกระจกน้อย ให้สัมผัสตอนวาดเหมือนกับเขียนบนกระดาษมากที่สุด รวมทั้งได้ซอฟท์แวร์ไปใช้ 3 ตัวด้วยกันได้แก่ Adobe Permier Rush หรือ Adobe Creative Cloud Photography Plan ไปใช้ฟรี 2 เดือน, Explain Everything ฟรี 3 เดือน และ Adobe Fresco อีก 6 เดือน เรียกว่าคุ้มค่าเช่นกัน ถ้าใช้งานเสร็จแล้วอยากใช้งานต่อก็ได้
ขนาดตัวแท็บเล็ตอยู่ที่ 225 x 357 x 14.6 มม. มีขาตั้งพับได้ กาง 19 องศา เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทาง HDMI กับ USB-A เข้าคอมพิวเตอร์ได้เลย ตัวปากกาเป็นรุ่น Wacom One ไม่ใช้แบตเตอรี่ มีเทคโนโลยี EMR รองรับแรงกดปากกา 4,096 ระดับ รองรับการเขียนเอียงได้ด้วย มีปุ่มที่ตัวปากกา 1 ปุ่ม ตั้งค่าได้ ยกสูงจากตัวแท็บเล็ตได้ 11 มม. ส่วนความเร็วการรับส่งข้อมูลของปากกากับตัวแท็บเล็ต 240rps (Report Rate Speed) รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7, Mac OS X 10.13 หรือใหม่กว่า ซึ่งถ้าใครอยากได้เมาส์ปากกาที่เป็นแบบแท็บเล็ตไปเลย แนะนำให้ลงทุนซื้อตัวนี้ไปได้เลยแล้วใช้งานกันได้ยาวๆ จะได้ใช้งานได้นานๆ
สเปคของ Wacom ONE 13 DTC-133W0C
- กระดานขนาด 225 x 357 x 14.6 มม. มีขาตั้งพับได้ กาง 19 องศา เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทาง HDMI กับ USB-A เข้าคอมพิวเตอร์
- ปากกา Wacom One เป็น Battery-free มีเทคโนโลยี EMR (Elecro-Magnetic Resonance) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของทาง Wacom ทำให้สัมผัสตอนวาดทำได้ดีและต่อเนื่อง รับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 11 มม. มีปุ่มที่ตัวปากกา 1 ปุ่ม
- ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของปากกากับกระดาน 240rps (240 Report Rate Speed)
- รองรับ Windows 7, Mac OS X 10.13 ขึ้นไป
- ราคา 12,500 บาท (Wacom Official Shop Shopee)
6. Wacom INTUOS PRO MEDIUM (12,900 บาท)
Wacom INTUOS PRO MEDIUM เรียกว่าเป็นเมาส์ปากกาสำหรับมือโปรที่ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ให้ฟีเจอร์มาแบบครบเครื่องพร้อมทำงานอาร์ตระดับมือโปรหรือวาดรูปขายได้เลยพร้อมโปรแกรมสำหรับทำงานแถมมาให้ลองใช้งานฟรีได้แก่ Adobe Premier & After Effect ฟรี 2 เดือน และ Boris FX Suite อีก 3 เดือน เรียกว่าเป็นรุ่นเด็ดสำหรับคนทำงานภาพจริงๆ
สเปคมีขนาด 338 x 219 x 8 มม. พื้นที่ใช้งาน 224 x 148 มม. กับปุ่ม ExpressKeys ตั้งค่าการทำงานได้ 8 ปุ่ม มี Touch ring เป็นวงฟังก์ชั่นคุมการทำงาน ตั้งค่าได้ 4 ฟังก์ชั่นด้วยกัน เชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 หรือ Bluetooth ก็ได้ ส่วนตัวปากกา Wacom Pro Pen 2 เป็นปากกา Battery-Free รองรับการเขียนได้ดีขึ้น มีปุ่มสำหรับกดคุมการทำงานได้ 2 ปุ่ม รองรับการเขียนทั้งแบบปกติและเอียงปากกาเขียนได้โดยไม่มีอาการแล็ค รองรับน้ำหนักการเขียนได้ 8,192 ระดับ รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7, macOS 10.12 หรือใหม่กว่า พอลงไดรเวอร์แล้วสามารถใช้งานได้ทันที เรียกว่าเป็นเมาส์ปากกาสเปคดีที่ถ้าลงทุนแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
สเปคของ Wacom ONE 13 DTC-133W0C
- กระดานขนาด 338 x 219 x 8 มม. พื้นที่ใช้งาน 224 x 148 มม. เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทาง USB 2.0 หรือ Bluetooth
- ปากกา Wacom Pro Pen 2 เป็น Battery-free มีเทคโนโลยี EMR (Elecro-Magnetic Resonance) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของทาง Wacom ทำให้สัมผัสตอนวาดทำได้ดีและต่อเนื่อง รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ มีปุ่มที่ตัวปากกา 2 ปุ่ม
- รองรับ Windows 7, macOS 10.12 ขึ้นไป
- ราคา 12,900 บาท (JIB)
สรุปสเปคเมาส์ปากกา 6 รุ่นสำหรับสายวาด
จะเห็นว่าตอนนี้เมาส์ปากกานั้นมีให้เลือกตั้งแต่รุ่นราคาไม่แพงมากไปจนรุ่นราคาจัดเต็มสำหรับสายวาดมือโปรเลยทีเดียว ซึ่งถ้าสรุปสเปคแล้วจะได้ดังนี้
สเปคเมาส์ปากกา | สเปคกระดานวาดภาพ | สเปคปากกา | ระบบปฏิบัติการ | ราคา |
VEIKK A50 | 10×6 นิ้ว ยาว 370 มม. x กว้าง 212 มม. x หนา 9 มม. เชื่อมต่อผ่าน USB-C ปุ่ม Shortcut 8 ปุ่มกับทัชแพด |
Passive Pen ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับการเอียงปากกาเพื่อวาด รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 10 มม. |
Windows Vista เป็นต้นไป Mac OS X 10.12 Android 6.0 |
1,339 บาท |
XP-Pen Deco Pro | มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 9×5 นิ้ว หรือ 11×6 นิ้ว เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C ปุ่ม Shortcut 8 ปุ่ม วงล้อใช้หมุนคุมการทำงานและแผ่นสีดำเป็นทัชแพด |
Passive Pen ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับการเอียงปากกาเพื่อวาด รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ มีปุ่มบนปากกา 2 ปุ่ม |
Windows 7 Mac OS X 10.10 Android 6.0 |
3,390-4,190 บาท |
HUION Q620M | ขนาด 10.5×6.56 นิ้ว ขนาดทั้งตัว 375.5 × 220.4 × 8 มม. เชื่อมต่อได้ทั้ง USB-C หรือ USB Wireless ใช้งานแบบไร้สายได้นานสุด 20 ชม. ปุ่ม Shortcut บนตัวแป้น 8 ปุ่ม กับวงล้อสำหรับคุมการทำงาน |
Passive Pen ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับการเอียงปากกาเพื่อวาด รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 10 มม. ความเร็วรับส่งข้อมูล 233 pps |
Windows 7 Mac OS X 10.12 Android 6.0 |
3,416 บาท |
WACOM MEDIUM CTL-6100WL/E0-CX | ขนาด 264 x 200 x 8.8 มม. พื้นที่สำหรับวาดภาพมีขนาด 216.0 x 135.0 มม. เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือสาย USB ใช้งานแบบไร้สายได้นานสุด 15 ชม. ปุ่ม Shortcut บนตัวแป้น 5 ปุ่ม รวมปุ่ม Power |
ปากกา Battery-free มีเทคโนโลยี EMR รับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 7 มม. ความเร็วรับส่งข้อมูล 133 pps |
Windows 7 Chrome OS 87 |
6,990 บาท |
Wacom ONE 13 | ขนาด 225 x 357 x 14.6 มม. มีขาตั้งพับได้ กาง 19 องศา เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทาง HDMI กับ USB-A |
Wacom One เป็น Battery-free มีเทคโนโลยี EMR รับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ยกสูงจากแท่นวาดได้ 11 มม. มีปุ่มที่ตัวปากกา 1 ปุ่ม ความเร็วรับส่งข้อมูล 240rps |
Windows 7 Mac OS X 10.13 |
12,500 บาท |
Wacom INTUOS PRO MEDIUM | ขนาด 338 x 219 x 8 มม. พื้นที่ใช้งาน 224 x 148 มม. เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทาง USB 2.0 หรือ Bluetooth |
Wacom Pro Pen 2 เป็น Battery-free มีเทคโนโลยี EMR รับแรงกดได้ 8,192 ระดับ มีปุ่มที่ตัวปากกา 2 ปุ่ม |
Windows 7 macOS 10.12 |
12,900 บาท |
จะเห็นว่าคนที่อยากเริ่มเทิร์นโปรเป็นสายวาดภาพหรือต้องทำงานสายครีเอทีฟที่ต้องพึ่งเมาส์ปากกานั้น ถ้าเน้นใช้งานทั่วไปก็มีตั้งแต่ราคาหลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่นที่ทำมาเพื่อนักวาดมือโปรเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครอยากลองเริ่มเข้าสู่สายวาดภาพดูอาจจะลองเริ่มจากรุ่นราคาไม่แพงมาก ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วลองเริ่มซ้อมมือวาดไปเรื่อยๆ ก่อนก็ได้ เพราะเรื่องงานศิลปะทั้งหลายเริ่มต้นได้จากการฝึกซ้อมมาเรื่อยๆ เรียนรู้เทคนิคและเอามาปรับใช้พัฒนาฝีมือตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไม่แน่ว่าตอนแรกๆ เราอาจจะใช้รุ่นราคาไม่แพงวาดขายงานไปเรื่อยๆ ก่อนจะเทิร์นโปรได้รับงานวาดมากขึ้นแล้วขยับไปตัวแพงกว่านี้และเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์การทำงานของเรามากขึ้นก็ได้เช่นกัน