Connect with us

Hi, what are you looking for?

Buyer's Guide

7 คีย์บอร์ดบลูทูธตัวเด็ด ทำงานชิล โต๊ะสะอาดไร้สายไฟ แค่ 1,222 บาท

คีย์บอร์ดบลูทูธนอกจากทำงานได้ดี ยังจัดโต๊ะคอมได้สวยด้วย และราคาตอนนี้ก็ไม่แพงมาก หาซื้อได้สะดวกด้วย

keyboard cover

คนพกคีย์บอร์ดไปทำงานหรือจัดโต๊ะคอมให้สวย สายไฟน้อยๆ ล่ะก็ คีย์บอร์ดบลูทูธก็น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่หลายคนอยากซื้อมาใช้ เพราะทั้งต่อคอมแบบไร้สายจึงจัดโต๊ะได้สวยรวมทั้งตอบสนองได้ดีเหมือนคีย์บอร์ดมีสายเลย ซึ่งสายทำงานน่าจะชื่นชอบและอยากหาซื้อมาใช้กันอย่างแน่นอน

Advertisement

ในตอนนี้คีย์บอร์ดบลูทูธนั้นจะมีทั้งคีย์บอร์ดแบบธรรมดาที่เป็น Rubber Dome ปุ่มยางแบบปกติและ Mechanical Keyboard ให้เลือกซื้อไปใช้กัน และราคาเริ่มต้นหลักร้อยบาทก็หาซื้อมาใช้งานกันได้แล้ว หรือถ้าเพิ่มไปเป็นหลักพันบาทก็ขยับมาเล่น Mechanical Keyboard ซึ่งนอกจากให้สัมผัสตอนพิมพ์งานที่ดีกว่าคนละชั้น รวมทั้งถอดคีย์แคปเปลี่ยนลวดลายตามรสนิยมของเราได้ ทำให้แต่งโต๊ะทำงานได้ตรงรสนิยมของเรามากยิ่งขึ้น

คีย์บอร์ดบลูทูธ

หากจำกันได้ ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยอธิบายถึงขนาดของคีย์บอร์ดไปโดยคร่าวๆ แล้วในบทความ “แนะนำ 5 คีย์บอร์ด Mechanical ทางเลือก งบพันเดียวเอาอยู่!” ให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อคีย์บอร์ดใหม่มาพิมพ์งานกันแล้ว แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องรุ่นที่น่าใช้งาน ลงทุนแล้วคุ้มเป็นหลักแต่จะอยู่ในราคาหลักพันบาทและหาซื้อในประเทศไทยได้ง่ายเป็นหลักแทน

7 คีย์บอร์ดบลูทูธน่าใช้ แนะนำให้โดนไว้ทำงาน

สำหรับคนที่หาคีย์บอร์ดใหม่มาใช้ทำงานแล้วมีโจทย์ว่าต้องเป็นบลูทูธ จะได้จัดโต๊ะทำงานได้สวยๆ สายไฟไม่รกเต็มโต๊ะและทำงานได้ดี ตอนนี้มีให้เลือกหลากหลายรุ่นและหาซื้อได้ง่ายในประเทศไทยอีกด้วย โดยรุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำมีดังนี้

  1. Royal Kludge RK68 (1,222 บาท)
  2. Ajazz K620T (79 ดอลลาร์หรือราว 2,553 บาท)
  3. Royal Kludge RK100 (3,882 บาท)
  4. Logitech MX Keys (3,999 บาท)
  5. Keychron K4 V.2 (4,390 บาท)
  6. IQUNIX A80, L80 (4,920 บาท)
  7. Logitech G913 LIGHTSPEED Wireless RGB (8,999 บาท)
1. Royal Kludge RK68 (1,222 บาท)

61CD3uZaBeL. AC SL1500

คีย์บอร์ดตัวแรกที่เลือกมาแนะนำกันเป็นแบรนด์ Royal Kludge ผู้ผลิตคีย์บอร์ดเมคานิคแบบต่อ Bluetooth ได้ ราคาขวัญใจมหาชนในรุ่น Royal Klugdge RK68 รุ่นนี้ที่เป็นคีย์บอร์ดขนาด 65% ที่ขนาดกะทัดรัดไม่กินพื้นที่มากและมีปุ่มฟังก์ชั่นการใช้งานมาแบบครบๆ แต่ปุ่ม F1-F12 จะต้องกด Fn ค้างเอาไว้ก่อนเท่านั้น และข้อดีอีกอย่างคือเป็นคีย์บอร์ดแบบ Hot Swappable หรือถอดสวิตช์เมคานิคอลเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เหมาะกับคนที่อยากเริ่มลองทำคีย์บอร์ดเมคานิคด้วยตัวเองจะเริ่มลองผิดลองถูกจากคีย์บอร์ดตัวนี้ก่อนเลยก็ได้

สเปคของคีย์บอร์ดตัวนี้จะเป็นคีย์บอร์ดแบบ Hot Swappable 68 ปุ่ม สวิตช์ติดตัวคีย์บอร์ดจะเป็นสวิตช์แบบ Tactile พร้อมไฟ RGB เชื่อมต่อได้ 6 อุปกรณ์พร้อมกันได้ทั้ง Windows, macOS, Android, iOS ก็ได้โดยกดปุ่ม Fn+Q/W/E/R/T แล้วสลับได้เลย เชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth หรือต่อสาย USB-C ก็ได้ มีแบตเตอรี่ในตัว 3,150 mAh จึงใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง และถ้าใครอยากเปลี่ยนสวิตช์ก็ใช้ที่คีบถอดสวิตช์ออกมาแล้วเปลี่ยนสวิตช์ตัวที่ต้องการมาใส่แทนได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากเริ่มแบบไม่แพงมาก ผู้เขียนก็เห็นว่า Royal Klugdge RK68 ก็รุ่นเริ่มต้นที่ดีรุ่นหนึ่ง

สเปคของ Royal Klugdge RK68
  • เมคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ 65% Hot Swappable มี 68 ปุ่ม สวิตช์ Tactile
  • เชื่อมต่อ Bluetooth หรือ USB-C ก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 6 อุปกรณ์
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS
  • แบตเตอรี่ในตัว 3,150 mAh
  • ราคา 1,222 บาท (Lazada)
2. Ajazz K620T V2.0 (79 ดอลลาร์ หรือราว 2,553 บาท)

d30dd1c9998d63fba0f0434c1f4086f4

ส่วนคนที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อหลายชิ้นแล้วอยากได้ถาดสำหรับตั้งแท็บเล็ตด้วย ก็แนะนำเป็น Ajazz K620T V2.0 ที่เชื่อมต่อ Bluetooth ได้ และเป็นคีย์บอร์ดแบบ Hot Swappable ใช้ที่คีปถอดเปลี่ยนสวิตช์เป็นตัวที่ต้องการเปลี่ยนได้เลย ซึ่งตัวแรกที่ไม่มีคำว่า V2.0 จะถอดเปลี่ยนสวิตช์ไม่ได้เหมือนตัวนี้นั่นเอง

Ajazz K620T V2.0 จะเป็นคีย์บอร์ดแบบ 60% แบบ Hot Swappable มี 62 ปุ่ม รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS ได้ รองรับการเชื่อมต่อได้มากสุด 3 อุปกรณ์ สลับระหว่างอุปกรณ์ได้โดยกด Fn+Q/W/E ได้เลย รองรับการเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth 5.0 หรือ USB-C ก็ได้ มีแบตเตอรี่ในตัว 4,400mAh และจุดเด่นคือมีลูกบิดปรับ Volume เพิ่มลดเสียงได้ที่คีย์บอร์ดเลย เพิ่มความสะดวกเวลาใช้งานยิ่งขึ้น ส่วนสวิตช์ที่เลือกได้จะมี 2 แบบ คือ Blue ที่เป็น Clicky หรือสีชมพู Linear ก็ได้ เรียกว่าเป็นคีย์บอร์ดบลูทูธน่าใช้อีกรุ่นที่ทำมาให้คนมีแท็บเล็ตมีที่วางเครื่องได้สะดวก ไม่ต้องหาที่วางแยกให้เสียเงินเพิ่ม

สเปคของ Ajazz K620T V2.0
  • เมคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ 60% Hot Swappable มี 62 ปุ่ม สวิตช์ Clicky, Linear
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 หรือ USB-C ก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 3 อุปกรณ์
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS
  • แบตเตอรี่ในตัว 4,400 mAh
  • ราคา 79 ดอลลาร์ หรือราว 2,553 บาท (Aliexpress)
3. Royal Kludge RK100 (3,882 บาท)

rk100

ถ้าคีย์บอร์ดบลูทูธตัวสั้นๆ ไม่ตอบโจทย์เพราะว่าต้องใช้ Numpad พิมพ์ตัวเลขอยู่บ่อยๆ ล่ะก็ Royal Kludge RK100 จะมีภาษีที่ดีกว่าอย่างชัดเจน เพราะว่าตัวคีย์บอร์ดเป็นแบบ Full-size แล้วราคาไม่แพงมาก รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายแบบรวมทั้งสลับเลย์เอ้าท์ของคีย์บอร์ดไปมาระหว่าง macOS และ Windows ได้ เพียงแค่กด Fn+A/S เท่านั้น

Royal Kludge RK100 เป็นคีย์บอร์ดแบบ 96% Hot Swappable มี 100 ปุ่มโดยมี Numpad ในตัว เลือกสวิตช์ได้ 4 สี คือ Black, Brown, Blue, Red รองรับการเชื่อมต่อกับ Windows, macOS, Android, iOS ทั้งหมด สามารถกดสลับเลย์เอ้าท์ของคีย์บอร์ดไปมาระหว่าง Windows, macOS ได้สะดวกมาก รองรับการเชื่อมต่อได้ 5 อุปกรณ์พร้อมกันโดยกด Fn+Q/W/E/R/T ส่วนการเชื่อมต่อรองรับ 3 แบบทั้ง Bluetooth, USB-C, USB Wireless ได้ทั้งหมด มีแบตเตอรี่ในตัว 3,750 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ซึ่งถ้าใครต้องการคีย์บอร์ดปุ่มครบและมีฟีเจอร์เปลี่ยนเลย์เอ้าท์คีย์บอร์ดได้ด้วยล่ะก็ คีย์บอร์ดรุ่นนี้เรียกว่าเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว

สเปคของ Royal Kludge RK100
  • เมคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ 96% Hot Swappable มี 100 ปุ่ม สวิตช์ Black, Brown, Blue, Red
  • เชื่อมต่อ Bluetooth, USB Wireless หรือ USB-C ก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 5 อุปกรณ์
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS
  • แบตเตอรี่ในตัว 3,750 mAh
  • ราคา 3,882 บาท (Lazada)
4. Logitech MX Keys (3,999 บาท)

us mx keys gallery graphite front

คนที่อยากได้คีย์บอร์ดแยกสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ของ Apple อย่าง MacBook หรือ iPad ล่ะก็ Logitech MX Keys ถือว่าเป็นคีย์บอร์ดบลูทูธที่ไม่ควรมองข้ามเลย ซึ่งตัวคีย์บอร์ดจะเป็นแบบ Full-size ปุ่มเตี้ยดีไซน์ตรงกลางปุ่มเว้าเข้าไปเล็กน้อยที่ทางบริษัทเรียกว่า “Perfect Stroke” ให้ผู้ใช้ที่ถนัดกับคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คใช้งานได้โดยไม่ต้องปรับตัวมาก ส่วนเลย์เอ้าท์ของคีย์บอร์ดยังออกแบบมาเพื่อ macOS โดยเฉพาะ

Logitech MX Keys จะเป็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size ที่เชื่อมต่อได้ผ่านทาง Bluetooth, USB-C และ USB Wireless ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ใช้งาน รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ 3 เครื่อง มีไฟลอดตัวอักษรขึ้นมาเพื่อให้พิมพ์งานได้สะดวกซึ่งคีย์บอร์ดจะเปิดปิดไฟแบบอัตโนมัติด้วยเซนเซอร์ที่จับว่าถ้ามือของเราอยู่ใกล้คีย์บอร์ดก็จะเปิดไฟให้โดยอัตโนมัติ ถ้าเปิดไฟจะใช้งานต่อเนื่องได้ 10 วัน แต่ถ้าปิดจะใช้งานโดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ได้นาน 5 เดือน และรองรับการทำงานกับ Logitech Flow เมื่อใช้งานคู่กับเมาส์ Logitech MX Master 3 โดยใช้เมาส์และคีย์บอร์ดตัวเดียวคุมการทำงาน, โอนไฟล์ข้ามไปมาระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างต่อเนื่องทั้งระบบปฏิบัติการ Windows, macOS เพียงลงซอฟท์แวร์แล้วเชื่อมต่อ Wi-Fi ตัวเดียวกันทั้งสองเครื่องก็เพียงพอแล้ว ซึ่งถ้าใครหาคีย์บอร์ดสายทำงานคู่กับเมาส์ดีๆ สักตัวล่ะก็ Logitech MX Keys ตัวนี้นับว่าสมบูรณ์แบบมากตัวหนึ่ง

สเปคของ Logitech MX Keys
  • คีย์บอร์ดแบบ Full-size ปุ่มเตี้ยดีไซน์ Perfect Stroke
  • เชื่อมต่อ Bluetooth, USB Wireless หรือ USB-C ก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 3 อุปกรณ์
  • รองรับระบบปฏิบัติการ macOS, iOS
  • แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ 10 วันแบบเปิดไฟหรือ 5 เดือนเมื่อปิดไฟ
  • ราคา 3,999 บาท (Logitech Official Website)
5. Keychron K4 V.2 (4,390 บาท)

pf 7e3eab66 Extra keys for windows

ถ้าพูดถึงคีย์บอร์ดบลูทูธแบรนด์ขวัญใจคนไทยก็ต้องมี Keychron เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันนี้จะมีหลายขนาดให้เลือกซื้อกัน แต่สำหรับสายทำงานที่ไม่อยากปรับตัวเยอะ มี Numpad ให้ใช้งานล่ะก็ Keychron K4 V.2 นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนเน้นหาคีย์บอร์ดเอาไว้ทำงานสักตัวและเหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งคีย์บอร์ดด้วย

Keychron K4 V.2 เป็นคีย์บอร์ดแบบ 96% แบบ Hot Swappable มี 100 ปุ่ม เป็นสวิตช์ของ Gateron เลือกได้ 3 สีคือ Red, Blue, Brown ตามสไตล์การใช้งาน รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Windows, macOS, Android, iOS รองรับการเชื่อมต่อได้มากสุด 3 อุปกรณ์ด้วยกันผ่านทางสาย USB-C หรือ Bluetooth 5.0 ตามความเหมาะสม มีสวิตช์สลับการทำงานระหว่าง Windows หรือ macOS ติดตั้งเอาไว้ที่ตัวคีย์บอร์ดและติดตั้งแบตเตอรี่เอาไว้ 4,000 mAh ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ซึ่งตอนนี้คีย์บอร์ดของ Keychron นั้นได้รับความนิยมมากแต่ถ้าใครต้องการแล้วรอสินค้าได้ ผู้เขียนแนะนำให้สั่งซื้อแล้วส่งจากต่างประเทศไปเลยจะได้สินค้าเร็วกว่าหรือจะรอจากร้านค้าที่ยังมีสินค้าพร้อมจำหน่ายก็ได้

สเปคของ Keychron K4 V.2
  • เมคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ 96% Hot Swappable มี 100 ปุ่ม สวิตช์ Gateron เลือกได้ 3 สีคือ Brown, Blue, Red
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 หรือ USB-C ก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 3 อุปกรณ์
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS
  • แบตเตอรี่ในตัว 4,000 mAh
  • ราคา 4,390 บาท (Keychron Thailand)
6. IQUNIX A80, L80 (4,920 บาท)

ส่วนคีย์บอร์ดบลูทูธที่เป็นคีย์บอร์ดเมคานิคดีไซน์สวยแตกต่างและพร้อมเอาไปปรับแต่งเปลี่ยนสวิตช์และคีย์แคปต่อได้ในอนาคตล่ะก็ ผู้เขียนแนะนำเป็น IQUNIX A80 หรือ L80 ก็ได้ โดยทั้งสองรุ่นนี้ราคาและปุ่มนั้นเท่ากันทั้งคู่ แต่จะแตกต่างเรื่ององศาตัวโครงของคีย์บอร์ดเล็กน้อยเท่านั้น โดยตัว L80 จะเป็นแบบราบเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป แต่ A80 ที่บรรทัดของ F1-F12 จะเฉียงชันขึ้นกว่า แต่ในส่วนของสเปคทั้งสองรุ่นนี้จะเหมือนกันและมีขาตั้งยกตัวคีย์บอร์ดขึ้นทั้งคู่

IQUNIX A80 และ L80 ทั้งสองตัวนี้จะเป็นคีย์บอร์ดแบบ 80% แบบ Hot Swappable มี 87 ปุ่ม สามารถถอดสวิตช์เปลี่ยนได้ตามต้องการ โดยสวิตช์รุ่นเริ่มต้นที่ราคาไม่แพงมากจะเป็น Cherry MX Speed Silver เป็นสวิตช์แบบ Linear ที่แรงกดน้อยตอบสนองไว แต่ก็เลือกได้ว่าต้องการใช้ สวิตช์ Cherry MX หรือ Gateron โดยมี 3 สีหลักคือ Brown, Blue, Red ด้วย รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS สามารถเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน โดยเป็น Bluetooth 5.0 กับ USB Wireless สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันแล้วกดสลับไปมาระหว่างสองอุปกรณ์ได้เลยโดยกด Fn+Tab ค้าง 5 วินาที และชาร์จแบตเตอรี่หรือเชื่อมต่อกับเครื่องที่ต้องการใช้งานผ่านทาง USB-C ได้ด้วย ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh เอาไว้ในตัว จึงใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ดังนั้นถ้าใครต้องการคีย์บอร์ดบลูทูธแบบเมคานิคอลในตัวแล้วถอดปุ่มมาทำและโมดิฟายต่อได้และราคาไม่แพงมาก ผู้เขียนแนะนำให้เริ่มต้นจากตัวนี้ได้เลย เพราะราคาคุ้มน่าใช้มาก

สเปคของ IQUNIX A80 และ L80
  • เมคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ 80% Hot Swappable มี 87 ปุ่ม สวิตช์ Cherry MX หรือ Gateron มี 3 สีหลักคือ Brown, Blue, Red มีสีพิเศษคือ Cherry MX Speed Silver, Cherry MX Pink 
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0, USB Wireless หรือ USB-C ก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ พร้อมกัน กดสลับอุปกรณ์ได้โดยกด Fn+Tab ค้าง 5 วินาที
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Android, iOS
  • แบตเตอรี่ในตัว 4,000 mAh
  • ราคา 4,920 บาท สวิตช์ Cherry MX Speed Silver, Red (Joystick Thai Shopee : IQUNIX L80 / IQUNIX A80)
7. Logitech G913 LIGHTSPEED Wireless RGB (8,999 บาท)

284a0bb0 4718 445d 8111 bc598402bdd3

รุ่นสุดท้ายเป็นคีย์บอร์ดบลูทูธแบบเอาใจเกมเมอร์สักหน่อยกับ Logitech G913 LIGHTSPEED Wireless RGB ที่มีฟีเจอร์สำหรับเกมมิ่งครบเครื่องทั้งปุ่มมาโคร, Multimedia Key, วงล้อปรับเสียงและเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ Low Profile แบบปุ่มเตี้ย ทำให้วางบนพื้นโต๊ะแล้วเล่นเกมได้เลยโดยไม่ต้องยกนิ้วมากนักเหมือนคีย์บอร์ดแบบทั่วไป

Logitech G913 LIGHTSPEED Wireless RGB จะเป็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size แบบมีปุ่มมาโครติดตังเอาไว้ด้านข้างซ้ายมืออีก 5 ปุ่ม พร้อมปุ่ม M1, 2, 3 เอาไว้สลับเลเยอร์ของมาโครได้ 3 แบบ เท่ากับเราสามารถตั้งมาโครเอาไว้บนตัวคีย์บอร์ดได้ 15 รูปแบบด้วยกัน ทำให้เล่นเกมสไตล์ RPG ได้สะดวกยิ่งขึ้น ตัวคีย์บอร์ดเป็นสวิตช์ GL ของทาง Logitech แบบปุ่มเตี้ย ระยะกดสั้นตอบสนองเร็ว เลือกได้ทั้ง Clicky, Tactile, Linear ตามสไตล์การใช้งาน ส่วนการเชื่อมต่อรองรับทั้ง Windows, macOS, Android, iOS ทั้งหมด เชื่อมต่อผ่านทาง LIGHTSPEED หรือ USB Wireless ตอบสนองเร็วเพียง 1ms ของทาง Logitech หรือถอดหัวขยายสัญญาณแล้วเอาหัว Micro-USB ต่อคีย์บอร์ดก็ได้ หรือสลับไป Bluetooth ก็ได้เช่นกัน ปรับแต่งการทำงานในซอฟท์แวร์ Logitech G Hub ได้ทันที ใช้งานต่อเนื่องได้ 30 ชั่วโมงเมื่อเปิดไฟ RGB ความสว่าง 100% เรียกว่าเป็นคีย์บอร์ดบลูทูธแบบเอาใจเกมเมอร์โดยเฉพาะสาย RGB หรือ MOBA น่าจะใช้ประโยชน์จากปุ่มมาโครได้มากทีเดียว

สเปคของ Logitech G913 LIGHTSPEED Wireless RGB
  • เมคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ Full-size สวิตช์ GL ปุ่มเตี้ย เลือกสวิตช์ได้ 3 แบบคือ Clicky, Tactile, Linear พร้อมปุ่มมาโคร 5 ปุ่ม ปรับได้ 3 เลเยอร์ สุทธิ 15 ปุ่ม
  • เชื่อมต่อ Bluetooth, USB Wireless หรือ Micro-USB ก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ ถอดหัวขยายสัญญาณของ USB Wireless มาต่อคีย์บอร์ดใช้งานได้เช่นกัน
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, Android, macOS, iOS
  • แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ 30 ชั่วโมงเมื่อเปิด RGB 100%
  • ราคา 8,999 บาท (Logitech Official Website)

สรุปสเปคคีย์บอร์ดบลูทูธ 7 รุ่นเด็ดน่าโดน

คีย์บอร์ดบลูทูธในปัจจุบันนี้จะมีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามการใช้งาน และเหมาะจะลงทุนเอามาใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งสเปคของแต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปเล็กน้อย โดยสรุปได้ดังนี้

สเปคคีย์บอร์ดบลูทูธ จำนวนปุ่ม, ขนาดและสวิตช์ การเชื่อมต่อ ระบบปฏิบัติการที่รองรับ ระยะเวลาใช้งานหรือความจุแบตเตอรี่ ราคา
Royal Kludge RK68 แบบ 65%
68 ปุ่ม

สวิตช์ Tactile

Hot Swappable
Bluetooth

USB-C

เชื่อมต่อได้ 6 อุปกรณ์
Windows

macOS

Android

iOS
3,150 mAh 1,222 บาท
Ajazz K620T V2.0 แบบ 60%
62 ปุ่ม

สวิตช์ Clicky, Linear

Hot Swappable
Bluetooth 5.0

USB-C

เชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์
Windows

macOS

Android

iOS
4,400 mAh 79 ดอลลาร์ หรือราว 2,553 บาท
Royal Kludge RK100 แบบ 96%
100 ปุ่ม

สวิตช์ Black, Brown, Blue, Red

Hot Swappable
Bluetooth 5.0

USB Wireless

USB-C

เชื่อมต่อได้ 5 อุปกรณ์
Windows

macOS

Android

iOS
3,750 mAh 3,882 บาท
Logitech MX Keys แบบ Full-size

ปุ่ม Perfect Stroke
Bluetooth

USB Wireless

USB-C

เชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์
macOS

iOS
เปิดไฟใช้งานต่อเนื่องได้ 10 วัน

ปิดไฟใช้งานต่อเนื่องได้ 5 เดือน
3,999 บาท
Keychron K4 V.2 แบบ 96%
100 ปุ่ม

สวิตช์ Brown, Blue, Red

Hot Swappable
Bluetooth 5.0

USB-C

เชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์
Windows

macOS

Android

iOS
4,000 mAh 4,390 บาท
IQUNIX
A80, L80
แบบ 80%
87 ปุ่ม

สวิตช์ Brown, Blue, Red, Silver, Pink ของ Cherry MX หรือ Gateron

Hot Swappable
Bluetooth

USB Wireless

USB-C

เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
Windows

macOS

Android

iOS
4,000 mAh 4,920 บาท
Logitech G913 LIGHTSPEED Wireless RGB แบบ Full-size

สวิตช์ GL ปุ่มเตี้ย เลือกสวิตช์ได้ทั้ง Clicky, Tactile, Linear
Bluetooth

USB Wireless

Micro-USB

เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
Windows

macOS

Android

iOS
30 ชั่วโมงเมื่อเปิด RGB 100% 8,999 บาท

ในแง่ของคีย์บอร์ดนั้น ส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ควรลงทุนซื้อของดีเอาไว้ใช้งานไปเลย เพราะว่าคีย์บอร์ดเองก็เป็นของใช้กับคอมพิวเตอร์ที่ถ้าลงทุนซื้อของดี นอกจากสัมผัสการพิมพ์ตอนทำงานจะดี ทำงานได้สนุกและสะดวกแล้ว ยังใช้งานต่อเนื่องได้หลายปีโดยไม่เสียง่ายๆ อีกด้วย ดังนั้นถึงจะเห็นราคาหลักพันก็ตาม แต่ถ้าหารเฉลี่ยเป็นรายเดือนที่เอามาทำงานล่ะก็ ราว 3 เดือนก็ถือว่าคืนทุนแล้ว

นอกจากนี้ คนที่ต้องการลองทำ Custom Mechanical Keyboard เพื่อให้สัมผัสตอนพิมพ์ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม อาจจะเริ่มจากเมคานิคอลคีย์บอร์ดรุ่นที่เลือกมาแนะนำก่อนก็ได้โดยถือเป็นการซ้อมมือกันก่อน แล้วจะขยับไปเป็นรุ่นที่ราคาแพงกว่านี้หรือเป็นโครงล้วนแล้วหาชิ้นส่วนมาประกอบเองในภายหลังก็ไม่น่าเสียดายเท่าไหร่อีกด้วย ไม่แน่ว่าพอปรับแต่งคีย์บอร์ดจนเสร็จก็อาจจะถูกใจตอบโจทย์การใช้งานไปแล้วก็ได้


บทความที่เกี่ยวข้อง

extended monitor cover

wherelaptop cover

laptpservice cover

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

หูฟัง Bluetooth ไร้สายพร้อมสายคล้องแบบนี้บอกเลย ถูกใจสายออกกำลังกายแน่นอน! หูฟัง Bluetooth ไร้สายนอกจากดีไซน์ยอดนิยมอย่าง True Wireless ที่ผู้ผลิตแต่ละบริษัทใส่ใจพัฒนาแล้วเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ เป็นประจำ แต่หูฟัง TWS ก็มีข้อเสียใหญ่หลวงอยู่ คือ ถ้าใครเป็นคนขี้ลืมแล้วทำหายสักข้างก็ใช้งานไม่ได้แล้วเจ้าหูฟังตัวโปรดก็ต้องไปลงเอยในถังขยะอุปกรณ์ไอที หรือวางทับกระดาษทิ้งไว้ให้เสียอารมณ์ หรือดีหน่อยใช้ AirPods ก็ยังไปซื้อแยกข้างมาใช้ได้บ้าง ดังนั้นถ้าใครเจอปัญหาหรือห่วงว่าจะเกิดปัญหานี้ หูฟัง Bluetooth ไร้สายแบบมีสายคล้องคอ...

Buyer's Guide

อยากฟังเพลงให้ฟิน ตอนนี้ต้องมีหูฟังบลูทูธเด็ดๆ ติดกระเป๋าเอาไว้สักตัวแล้วแหละ! หูฟังบลูทูธเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาหลายปีแล้วตั้งแต่ใช้ต่อมือถือคุยโทรศัพท์ทั่วไป พัฒนาจนมีสายคล้องคอแบบ Neckband ที่สายออกกำลังกายชื่นชอบเพราะถอดหูฟังก์ไม่หล่นหายเพราะสายช่วยรั้งตัวสายหูฟังไว้ จนกระทั่งเทคโนโลยีการย่อชิ้นส่วนก้าวหน้าเป็นอย่างมากก็ทำให้หูฟังบลูทูธแบบ True Wireless ก็ถือกำเนิดขึ้นในโลกในที่สุด สำหรับหูฟังบลูทูธแบบ True Wireless หลายคนอาจคิดว่า Apple AirPods เป็น TWS รุ่นแรกของโลก ซึ่งผิดถนัดเพราะ AirPods รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปี 2016...

Buyer's Guide

เมาส์ทำงานใครว่าไม่สำคัญ ใครเป็น Office Syndrome ควรเปลี่ยนด่วน! เรื่องสุขภาพร่างกายกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างเมาส์ทำงานในตอนแรกหลายคนอาจคิดว่ามันห่างเหินกันมากจนไม่น่าเกี่ยวข้องกันได้ แต่ในยุคนี้เมื่อคนทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตจน Office Syndrome ถูกเลื่อนขั้นมาเป็นโรคยอดฮิตแล้ว นอกจากออกกำลังกายก็ต้องใส่ใจเรื่องอุปกรณ์ทำงานประจำตัวอย่างเมาส์ด้วย ถ้าเลือกเมาส์ดีถูกหลักสรีรศาสตร์นอกจากจะป้องกันยังบรรเทาอาการ Office Syndrome ที่เป็นอยู่ได้ด้วย แม้ราคาสูงแต่ก็เป็นการลงทุนในระยะยาวที่ดี 8 เมาส์ทำงานคุณภาพ บอกลาออฟฟิศซินโดรม ฟีเจอร์อย่างเยอะ ใช้งานอย่างลื่น!! นอกจากเมาส์เกมมิ่งบนโต๊ะคอมเล่นเกมที่บ้านแล้ว ชีวิตวันทำงานก็ต้องมีเมาส์ทำงานดีๆ เอาไว้ใช้สักตัวให้ทำงานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นและลดโอกาสเกิด...

Buyer's Guide

ลำโพงคอมดีๆ ปี 2023 นี้มีให้เลือกหลายรุ่นตั้งแต่ราคาเบาไปจนตัวพรีเมี่ยมเลย! คนที่ชื่นชอบเรื่องไอทีรู้ว่าอุปกรณ์คอมแทบทุกชิ้นสามารถอ่านกระดาษสเปคแล้วตัดสินใจซื้อได้ ยกเว้นลำโพงคอมเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่ทำอย่างนั้นแทบไม่ได้เลย เพราะเรื่องของเสียงเกี่ยวข้องกับรสนิยมของแต่ละคน บางคนอาจจะชอบเสียงแหลมเคลียร์ เบสฟังสบายหู แต่บางคนก็ตรงกันข้ามอยากได้เสียงเบสหนัก โทนเสียงทึบดุดัน เพราะชอบเพลงร็อคและเมทัล ถ้าได้ลำโพงสไตล์นั้นไปก็คงจะส่ายหน้า ดังนั้นอุปกรณ์คอมที่เกี่ยวข้องกับรสนิยมและความชอบของแต่ละคนจึงเอากระดาษสเปคมาดูได้ แต่ก็ต้องไปทดลองฟังเสียงของลำโพงตัวนั้นด้วย ว่าถูกใจหรือเปล่า? แต่ถ้าไม่คิดมากจะซื้อมาต่อคอมให้ได้ยินเสียงของหนังที่ดูเพลงที่ฟังอย่างนี้ก็ไม่ต้องคิดมากก็ได้ ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะลงทุนกับลำโพงคอมดีๆ สักตัว ณ ตอนนี้ก็มีตั้งแต่รุ่นราคาไม่แพงแค่ 2,000 บาทก็ใช้ฟังเพลงได้แล้ว หรือจะจริงจังก็ซื้อแบบเป็นตู้ลำโพงมีพอร์ตเชื่อมต่อหลายๆ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก