6 ปลั๊กไฟ USB ชาร์จมือถือแท็บเล็ตได้สบายๆ น่ามีติดโต๊ะเริ่ม 349 บาท

ปลั๊กไฟ USB มีติดโต๊ะเอาไว้ประหยัดช่องปลั๊กธรรมดาได้เยอะมาก น่ามีติดโต๊ะสักอัน

ในตอนนี้ที่ผู้ใช้หลายๆ คนใช้สมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตเยอะขึ้นเรื่อยๆ ปลั๊กไฟ USB ก็เป็นปลั๊กประเภทยอดนิยมอีกรุ่นที่ผู้ใช้หลายๆ คนสนใจ เนื่องจากตัวเล็กและจ่ายไฟชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนได้ดีและไม่กินพื้นที่แค่ยังเสียบปลั๊กทีเดียวก็ใช้งานได้เลยอีกด้วย ซึ่งตอนนี้ผู้ผลิตหลากหลายแบรนด์ก็มีปลั๊กประเภทนี้เปิดตัวมาให้เลือกซื้อกันหลายรุ่นทีเดียว นอกจากนี้ปลั๊กไฟ USB แบบนี้หลายๆ รุ่นก็รองรับ Protocol การชาร์จแบบ Quick Charge ที่เป็นมาตรฐานชาร์จไวรุ่นใหม่กันหลายรุ่นแล้ว ทำให้ชาร์จอุปกรณ์ได้หลากหลายแบบด้วย

และข้อดีอีกอย่างคือ ถ้าเราต่อปลั๊ก USB แล้วก็จะประหยัดช่องเสียบปลั๊กไฟปกติไปได้เยอะ ไม่ต้องให้หัวปลั๊กมือถือหรือแท็บเล็ตมาแชร์ช่องกับปลั๊กคอมพิวเตอร์เลย เพราะปลั๊ก USB ในยุคนี้ต่อสายไฟ AC เข้ากับไฟบ้านแล้วชาร์จอุปกรณ์ของเราได้เลยอีกด้วย ถ้ามีติดโต๊ะเอาไว้สักอันก็จะสะดวกขึ้นมากทีเดียว

6 ปลั๊กไฟ USB น่ามีติดโต๊ะ ชาร์จมือถือและแท็บเล็ตได้สบายๆ

ปัจจุบันนี้ปลั๊กไฟ USB คุณภาพทั้งแบรนด์ที่รู้จักกันดีและมีขายในประเทศไทยและแบรนด์คุณภาพระดับโลกที่คุ้มค่าตัวและมีหัวปลั๊กหลายช่องให้เลือกซื้อด้วย ซึ่งบางรุ่นอาจจะราคาสูงสักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าตัวเช่นกัน โดยปลั๊กรุ่นแนะนำที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำให้ผู้ใช้ที่กำลังหาปลั๊กใหม่เอาไว้ต่ออุปกรณ์บนโต๊ะจะมีดังนี้

1. ปลั๊ก USB 5 ช่อง DATA (349 บาท)
2. Toshino TS-4USB (399 บาท)
3. RANDY 889U (449 บาท)
4. Zmi HA932 (859 บาท)
5. Anker PowerPort+ 6 (1,399 บาท)
6. RAVPower 60W 12A 6-Port Desktop Charger (45.99 ดอลลาร์ หรือราว 1,495 บาท)

1. ปลั๊ก USB 5 ช่อง DATA (349 บาท)

ถ้าจำกันได้ ปลั๊ก USB 5 ช่องของ DATA นั้น ผู้เขียนเคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ในบทความ “6 ปลั๊กไฟ USB คุณภาพน่าใช้ ปลอดภัยพร้อมวิธีดูสเปคปลั๊กไฟ อัพเดทปี 2021” แล้วครั้งหนึ่ง แต่ถ้าใครต้องการปลั๊ก USB ที่ต่อไฟ AC แล้วชาร์จมือถือกับแท็บเล็ตได้เลยไม่ต้องไปแย่งช่องปลั๊กคอมพิวเตอร์ล่ะก็ ปลั๊กตัวนี้เรียกว่าน่าใช้และราคาไม่แพงอีกด้วย

ตัวปลั๊กเป็นบอดี้พลาสติก ABS พร้อมช่องจ่ายไฟ USB x 5 ช่องด้วยกัน แยกเป็นช่อง Quick Charge 3.0 จ่ายกระแส 5V 3A x 1 ช่อง และ USB 5V 2.1A x 4 ช่อง มีสายไฟ AC ยาว 1.2 เมตร แค่เสียบปลั๊กเดียวก็พร้อมใช้งานได้ทันทีพร้อมฟีเจอร์ป้องกันการชาร์จเกินกำลังติดตั้งมาให้อีกด้วย

สเปคของปลั๊ก USB 5 ช่อง DATA

• ปลั๊กบอดี้พลาสติก ABS พร้อมสายไฟ AC ยาว 1.2 เมตร
• มีช่อง USB Quick Charge 3.0 จ่ายกระแส 5V 3A x 1, USB 5V 2.1A x 4 ช่อง
• มีฟีเจอร์ป้องกันการชาร์จเกินกำลังไฟ
• ราคา 349 บาท (OfficeMate)

2. Toshino TS-4USB (399 บาท)

Toshino ผู้ผลิตปลั๊กไฟชั้นนำของประเทศไทยก็มีปลั๊ก USB รุ่น ให้เสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้เหมือนกันและมีช่องเสียบปลั๊ก 4 ช่อง มีหัวชาร์จ Quick Charge 3.0 ให้ใช้โดยเฉพาะหนึ่งช่องและพอร์ต USB แบบกำลังชาร์จรวมให้ใช้อีก 3 ช่องด้วย

ตัวปลั๊กจะเป็นบอดี้พลาสติก ABS แข็งแรง ติดไฟ LED แสดงสถานะการใช้งาน มีช่องชาร์จรวม 4 ช่อง แยกเป็น USB แบบ Quick Charge 3.0 x 1 ช่อง กระแส 5V 3A กำลังชาร์จ 18W และ USB x 3 ช่อง กำลังชาร์จรวม 5V 3.6A x 3 ช่อง ซึ่งถ้าชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ พร้อมกันจะแชร์กำลังไฟระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้พอร์ตนี้ร่วมกัน เสียบปลั๊กไฟ AC ยาว 1.2 เมตรเพื่อชาร์จไฟได้เลย ซึ่งถ้าใครมีทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอยู่ แนะนำให้เอาแท็บเล็ตชาร์จช่อง Quick Charge 3.0 แล้วเอามือถือชาร์จช่อง USB ปกติ จะชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้เร็วขึ้น

สเปคของ Toshino TS-4USB

• ปลั๊กบอดี้พลาสติก ABS พร้อมสายไฟ AC ยาว 1.2 เมตร
• มีช่อง USB Quick Charge 3.0 จ่ายกระแส 5V 3A x 1, USB 5V 3.6A x 3 ช่อง แบบกำลังชาร์จรวม
• ราคา 399 บาท (Toshino Official Website)

3. RANDY 889U (449 บาท)

ด้านของ RANDY 889U นั้นจะเป็นปลั๊ก USB อย่างเดียวมาตรฐานเยอรมันที่ต่อปลั๊ก AC 1.5 เมตร เส้นเดียวก็ใช้งานได้เลย โดยตัวปลั๊กจะมี IC สำหรับจัดการกระแสไฟที่ชาร์จให้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ดี รวมทั้งบอดี้ยังล็อคบอดี้ภายในตัวแบบอลูมิเนียมอีกด้วย ทำให้ตัวปลั๊กแข็งแรงไม่พังเร็วและพกพาใส่กระเป๋าได้ง่ายตอนต้องการพกพาไปไหนมาไหนอีกด้วย

ตัวปลั๊กนี้จะเป็น USB Fast Charge 5V 3.1A x 1 ช่อง และ USB 5V 2.4A อีก 4 ช่อง แบบจ่ายกระแสเต็มไม่แชร์รวมในกลุ่ม USB ที่ไม่ใช่ Fast Charge อีกด้วย ซึ่งถ้าใครมีมือถือ, แท็บเล็ตหรืออุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไวหลายๆ ชิ้น แนะนำให้ซื้อตัวนี้ไปใช้ได้เลย และมีฟีเจอร์ป้องกันกระแสไฟเกิน, ป้องกันเรื่องแรงดันไฟฟ้า, ป้องกันการชาร์จเกิน รวมทั้งป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรอยู่ในตัวด้วย

สเปคของ RANDY 889U

• ปลั๊กบอดี้พลาสติก ABS พร้อมสายไฟ AC ยาว 1.5 เมตร
• มีช่อง USB Quick Charge 3.1 จ่ายกระแส 5V 3.1A x 1, USB 5V 2.4A x 4 ช่อง
• ฟีเจอร์ป้องกันกระแสไฟเกิน, ป้องกันเรื่องแรงดันไฟฟ้า, ป้องกันการชาร์จเกิน รวมทั้งป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
• ราคา 449 บาท (RANDY Official Shop Shopee)

4. Zmi HA932 (859 บาท)

ส่วนคนที่มีโน๊ตบุ๊คที่รองรับการชาร์จแบบ USB-C Power Delivery อยู่ จะแนะนำเป็นปลั๊กไฟ USB แบบตั้งโต๊ะที่กำลังชาร์จสูงหน่อยอย่าง Zmi HA932 ซึ่งมีกำลังชาร์จที่พอร์ต USB-C สูงถึง 65 วัตต์ ใช้ชาร์จโน๊ตบุ๊คพร้อมกับมือถือได้อีก 2 เครื่องพร้อมกันอีกด้วย โดยตัว HA932 นี้ผู้เขียนเลือกซื้อมาใช้ชาร์จมือถือและโน๊ตบุ๊คที่บ้านและใช้างานมาสักระยะหนึ่งแล้ว สามารถพูดได้ว่าเป็นของดีที่ราคาไม่แพงมาก ชาร์จไฟได้เร็วและไม่มีปัญหาระหว่างใช้งานเลย

ตัวอแดปเตอร์จะมีปลั๊ก USB-C x 2 ช่องและ USB-A x 1 ช่อง โดยช่องที่เขียนว่า USB-C 1 จะมีกำลังชาร์จสูงสุด 65 วัตต์ ใช้ชาร์จโน๊ตบุ๊คที่รองรับการชาร์จผ่านทาง USB-C Power Delivery ได้เลย ส่วน USB-C 2 และ USB-A จะชาร์จเร็วกำลังไฟสูงสุด 18W ต่อช่อง ใช้ชาร์จอุปกรณ์ 3 ชิ้นพร้อมกัน แต่ถ้าใช้ USB-C ทั้ง 2 ช่องพร้อมกันจะเฉลี่ยไฟเหลือ 45+18 วัตต์แทน แต่ก็ยังใช้ชาร์จทั้งโน๊ตบุ๊คและมือถือพร้อมกันได้ด้วย ในกล่องมีสายไฟ AC ยาว 1.5 เมตรพร้อมสาย USB-C to C รองรับกระแส 100 วัตต์แถมมาให้ใช้ด้วย

สเปคของ Zmi HA932

• ปลั๊กบอดี้พลาสติก ABS พร้อมสายไฟ AC ยาว 1.5 เมตร
• มีช่อง USB-C x 2 ช่อง แยกเป็น 65 กับ 18 วัตต์ อย่างละ 1 ช่อง ใช้พร้อมกันกระแสไฟจะเหลือ 45+18 วัตต์ กับ USB-A กำลังชาร์จ 18 วัตต์ x 1 ช่อง
• ในกล่องแถมสาย USB-C to C รองรับกระแส 100 วัตต์มาให้ 1 เส้น พร้อมใช้งานทันที
• ราคา 859 บาท (Zmi Thailand Shopee)

5. Anker PowerPort+ 6 (1,399 บาท)

ส่วนคนที่มีอุปกรณ์ชาร์จ USB-A หลายๆ ช่อง แล้วมองหาปลั๊กไฟ USB คุณภาพดีมาตรฐานระดับโลกเอาไว้ใช้งาน จะมี Anker PowerPort+ 6 ที่เป็นปลั๊ก Hub ต่อสายไฟ AC เข้ากับไฟบ้านได้โดยตรงและมีระบบป้องกันอุณหภูมิสูงเกิน, ตัวคุมลิมิตกระแสไฟ, ป้องกันไฟเกินและการช็อตติดตั้งเอาไว้ในตัวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นระหว่างชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ไอทีชิ้นอื่นๆ รวมทั้งได้ MFi การันตีเอาไว้ด้วย ดังนั้นใครที่ใช้ iPhone, iPad, iPod อยู่ ถือว่าเป็นปลั๊ก USB Hub ที่น่าใช้รุ่นหนึ่ง

บอดี้เป็นพลาสติก ABS คุณภาพสูง มี USB-A x 6 หัว แยกเป็น USB Quick Charge 3.0 x 1 ช่อง โดยกำลังชาร์จจะเป็น 3.6-6.5V/3A , 6.5-9V/2A , 9-12V/1.5A โดยตัวอแดปเตอร์จะแปลงระบบไฟอัตโนมัติ ส่วนอีก 5 ช่องเป็น PowerIQ ที่จ่ายกำลังไฟรวมได้สูงสุด 5V 8.4A (42W) ถ้าชาร์จพร้อมกัน 5 ช่องจะเหลือช่องละ 5V 1.68A (ชาร์จเต็มกำลังที่ 2.4A) ถือว่าปลั๊กนี้เหมาะกับตอนพกใส่กระเป๋าไปใช้แล้วแชร์เพื่อนในกลุ่มชาร์จด้วยกันได้เลยโดยไม่ต้องเปลืองช่องปลั๊กหลายๆ ช่องในบ้านอีกด้วย

สเปคของ Anker PowerPort+ 6

• ปลั๊กบอดี้พลาสติก ABS คุณภาพสูง พร้อมสายไฟ AC
• มีช่อง USB-A x 6 ช่อง แยกเป็น USB Quick Charge 3.0 x 1 ช่อง (สีเขียว) และ USB-A แบบ PowerIQ แชร์กำลังการชาร์จ โดยจ่ายกระแสรวมกันสูงสุด 5V 8.4A (42W) ถ้าชาร์จทุกช่องพร้อมกันกำลังชาร์จจะเหลือ 5V 1.68A ต่อช่อง
• ผ่านมาตรฐาน MFi ใช้ชาร์จอุปกรณ์ของ Apple ได้อย่างมีคุณภาพ
• ราคา 1,399 บาท (Anker Thailand)

6. RAVPower 60W 12A 6-Port Desktop Charger (45.99 ดอลลาร์ หรือราว 1,495 บาท)

ตัวสุดท้ายที่เลือกมาแนะนำเป็น RAVPower 60W 12A 6-Port Desktop Charger คุณภาพดีไม่แพ้กับ Anker เลยทีเดียว แต่ตอนนี้ถ้าต้องการซื้อต้องสั่งซื้อจากเว็บไซต์ต่างประเทศอย่างเป็นทางการเป็นหลัก โดยตัว USB Hub ตัวนี้จะมีกำลังชาร์จรวม 60 วัตต์ และมีเทคโนโลยี iSmart จัดกำลังชาร์จให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่ใช้ชาร์จได้ เหมาะจะเอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับมือถือและอุปกรณ์ที่ชาร์จผ่าน USB ได้เป็นอย่างมาก และมีฟีเจอร์ป้องกันการชาร์จเกิน, ความร้อนสูงเกิน และป้องกันไฟช็อตได้อีกด้วย

ตัวพอร์ตเป็น USB-A x 6 ช่อง กำลังชาร์จรวมกัน 60 วัตต์ ใช้ชาร์จมือถือและแท็บเล็ตได้ โดยจ่ายกระแสได้ 2.4 แอมป์ต่อพอร์ตได้เลย ตัวอแดปเตอร์ใช้สายไฟ AC ยาว 1.5 เมตรต่อปลั๊กชาร์จได้เลย เรียกว่าเป็นอแดปเตอร์คุณภาพดีอีกรุ่นที่มีติดโต๊ะหรือใส่กระเป๋าเอาไว้ชาร์จมือถือหลายๆ เครื่องพร้อมกันได้เลย

สเปคของ RAVPower 60W 12A 6-Port Desktop Charger

• ปลั๊กบอดี้พลาสติก ABS คุณภาพสูง พร้อมสายไฟ AC 1.5 เมตร
• มีช่อง USB-A x 6 ช่อง จ่ายกระแสรวมกันสูงสุด 60W
• มีระบบ iSmart จัดกำลังชาร์จให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่ชาร์จได้, มีฟีเจอร์ป้องกันการชาร์จเกิน, ความร้อนสูงเกิน และป้องกันไฟช็อต
• ราคา 45.99 ดอลลาร์ หรือราว 1,495 บาท (RAVPower Official Website)

สรุปสเปคของปลั๊กไฟ USB 6 รุ่น

สำหรับปลั๊กไฟ USB ทั้ง 6 รุ่นที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้ จะมีทั้งแบบราคาไม่แพงมาก ใช้ชาร์จมือถือได้ไปจนถึงแบบที่ชาร์จโน๊ตบุ๊คได้เลย โดยสเปคจะเป็นดังนี้

สำหรับปลั๊กไฟ USB นั้น ส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่าเป็นหนึ่งในของใช้ที่น่ามีติดโต๊ะทำงานไม่แพ้กับปลั๊กไฟแบบปกติเลย เนื่องจากตอนนี้เราใช้อุปกรณ์ไอทีหลากหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊ค, สมาร์ทโฟนหรือบางคนถ้ามีแท็บเล็ตก็ควรมีเอาไว้สักอันหนึ่ง เพื่อไม่ให้เปลืองช่องปลั๊กทั่วไปที่ใช้เสียบปลั๊กต่อหน้าจอหรือตัวคอมพิวเตอร์ หรือบางคนอาจจะซื้อแบบ USB Hub เอาไว้ใช้เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วแชร์ชาร์จมือถือร่วมกันกับเพื่อนๆ ได้ด้วย ดังนั้นผู้เขียนแนะนำให้ซื้อเอาไว้ใช้สักอันหนึ่งจะมีประโยชน์มาก

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 6 ปลั๊กไฟ USB คุณภาพน่าใช้ ปลอดภัยพร้อมวิธีดูสเปคปลั๊กไฟ อัพเดทปี 2021

• 7 ไมค์คอมพิวเตอร์ตัวเด็ด เพื่อสตรีมเมอร์หรืออัด Podcast ก็แจ่มไม่แพ้กัน!