สาย HDMI 2.1 ยุคนี้หาง่ายแถมราคาไม่แพงมาก เลือกได้ทั้งแบบใช้งานทั่วไปหลักร้อยต้นหรือเน้นความบันเทิงเต็มที่ก็ได้
สาย HDMI ที่หลายคนคิดว่าแค่ซื้อมาต่อคอมหรือต่อทีวีให้ภาพให้เสียงออกก็พอแล้ว แต่เรื่องเทคโนโลยีภาพและเสียงจากสายนี้นอกจากมีที่มายาวนานและรายละเอียดเยอะกว่าที่คิดมาก ยิ่งถ้าใครซื้อทีวีความละเอียดสูงระดับ 4-8K กับเครื่องคอนโซลยุคใหม่อย่าง PlayStation 5, Xbox Series X|S มาเล่นเกมเมื่อไหร่ สาย HDMI คุณภาพดีก็เป็นปัจจัยสำคัญแบบเลี่ยงไม่ได้
หากจำกันได้ในบทความ เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คต่อหน้าจอแยกได้ Refresh Rate 144 Hz หรือเปล่า? รวมวิธีการดูพอร์ต HDMI และรายละเอียดที่คุณไม่เคยรู้! ที่ผู้เขียนได้อธิบายเกี่ยวกับสเปคของ HDMI แต่ละเวอร์ชั่นไปก่อนหน้านี้แล้ว จะเห็นว่าปัจจุบัน HDMI.org เองก็มี HDMI 2.1 ออกมาเป็นมาตรฐานเวอร์ชั่นล่าสุดและรองรับความละเอียดหน้าจอสูงสุดที่ 10K เล่นหนังความละเอียด 8K60Hz หรือ 4K120Hz ได้สบายๆ จะต่อคอมหรือทีวีแล้วดูหนังหรือเล่นเกมก็จะได้ภาพและเสียงที่ดีอย่างแน่นอน
5 สาย HDMI 2.1 สเปคเทพ เล่นเกมได้ ฟังเพลงดี ดูหนังคมชัดถึงใจ
สำหรับคนที่กำลังหา HDMI 2.1 สักเส้นเอามาต่อกับทีวีที่มี eARC หรือจอคอมความละเอียดสูงที่เพิ่งซื้อมาใหม่อยู่ล่ะก็ ปัจจุบันนี้เรียกว่าหาได้ไม่ยากและมีให้เลือกหลายเกรดตั้งแต่เกรดผู้ใช้ทั่วไปที่เน้นเรื่องใช้งานทั่วไปและขอให้เป็น HDMI 2.1 ก็พอแล้ว หรือจะไปถึงระดับใช้ดูหนังฟังเพลง Hi-Fi ก็มีให้เลือก โดยในบทความนี้จะมีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนพันต้นให้เลือกซื้อดังนี้
- Vention HDMI 2.1 (198 บาท)
- Llano 8K HDMI 2.1 (278 บาท)
- UGREEN HDMI 2.1 (329 บาท)
- MOSHOU HDMI 2.1 (1,500 บาท)
- AudioQuest : HDMI Pearl 48 Version 2.1 (1,620 บาท)
1. Vention HDMI 2.1 (198 บาท)
แบรนด์ Vention นับเป็นผู้ผลิตเรื่องสายเชื่อมต่อคุณภาพและราคาไม่แพงเกินไปออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่นสายชาร์จ iPhone ที่เพิ่งแนะนำไปในบทความที่แล้วและผลิตภัณฑ์อื่นๆ มากมายรวมถึง HDMI 2.1 เช่นกัน โดยตัวสายจะเป็นพลาสติก PVC หัวพอร์ตทองเหลืองส่วนภายในเป็นสายทองแดง หุ้มสายภายในด้วยอลูมิเนียมฟอยล์กับสายถักโลหะเสริมความแข็งแรง
ตัวสายยาว 1 เมตร ผ่านมาตรฐาน HDMI 2.1 มีแบนด์วิธรับส่งข้อมูล 48Gbps รองรับความละเอียดสูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz รวมถึงภาพและวิดีโอกว้างพิเศษ อัตราส่วน 21:9 รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT และให้คุณภาพเสียงระดับ HiFi เช่น DTS, Dolby รวมทั้งคลิปและวิดีโอ 3 มิติ รวมทั้งรับประกันตัวสาย 1 ปีด้วย ดังนั้นใครอยากได้ HDMI 2.1 มาใช้ต่อจอคอมหรือเครื่องเกมคอนโซลที่บ้านแล้วอยากได้ราคาไม่แพงจะเริ่มจากสายเส้นนี้ก็ดีเช่นกัน
สเปคของ Vention HDMI 2.1
- HDMI 2.1 ความยาว 1 เมตร ตัวสายหุ้ม PVC, หัวพอร์ตทองเหลือง ภายในเป็นสายทองแดง
- แบนด์วิธรับส่งข้อมูล 48 Gbps
- รองรับความละเอียดสูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz
- รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT
- คุณภาพเสียงระดับ HiFi เช่น DTS, Dolby รวมทั้งคลิปและวิดีโอ 3 มิติ
- ราคา 198 บาท (Vention Official Shop Lazada)
2. Llano 8K HDMI 2.1 (278 บาท)
Llano เป็นผู้ผลิตสาย HDMI คุณภาพดีอีกแบรนด์ซึ่งหลายๆ คนน่าจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ไปใช้งานกันบ้างแล้ว โดย HDMI 2.1 จากแบรนด์นี้เป็นสายถักไนล่อนที่ทนทานไม่หักง่าย หัวพอร์ตเป็นทอง 24K ตัวหัวพอร์ตเป็นสังกะสีผสมอัลลอยด์ป้องกันการเป็นสนิม ด้านในสายหุ้มไว้สามชั้น โดยต่อจากสายพลาสติก PVC แล้วจะเป็นสายเหล็กถักกับอลูมิเนียมฟอยล์และหุ้มสายแยกเส้นเอาไว้อีกชั้น ช่วยให้รับส่งสัญญาณภาพได้ดีขึ้น
ตัวสายเลือกความยาวได้ตั้งแต่ 1, 1.5, 2, 3 เมตร เป็นสายสังกะสีผสมอัลลอยด์ทั้งหมด มีแบนด์วิธรับส่งข้อมูลกว้าง 48 Gbps รับความละเอียดได้สูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz, 2160p60Hz รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT รวมทั้งระบบเสียง HiFi อย่าง Dolby, DTS ให้เสียงระดับ 5.1, 7.1 แชนแนล และมีประกันตัวสาย 1 ปีด้วย ซึ่งถ้าใครอยากได้สาย HDMI 2.1 ดีๆ เอาไว้ดูหนังฟังเพลงจะเลือกแบรนด์ Llano มาใช้งานก็ดีเช่นกัน
สเปคของ Llano 8K HDMI 2.1
- HDMI 2.1 ความยาว 1 เมตร หัวพอร์ตสังกะสีผสมอัลลอยด์ ด้านในหุ้มสามชั้นเป็นเหล็กถักและพลาสติก PVC มีอลูมิเนียมฟอยล์ด้านใน
- แบนด์วิธรับส่งข้อมูล 48 Gbps
- รองรับความละเอียดสูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz, 2160p60Hz
- รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT
- คุณภาพเสียงระดับ HiFi เช่น DTS, Dolby ได้เสียงแบบ 7.1, 5.1 แชนแนล
- 1 เมตร ราคา 278 บาท, 1.5 เมตร ราคา 368 บาท, 2 เมตร ราคา 428 บาท, 3 เมตร ราคา 528 บาท (Llano Official Shop Shopee)
3. UGREEN HDMI 2.1 (329 บาท)
ด้านแบรนด์ขวัญใจมหาชนอย่าง Ugreen ก็มีสาย HDMI 2.1 คุณภาพดีให้เลือกซื้อเช่นกัน โดยตัวหัวสายจะเป็นพลาสติก ABS เนื้อแข็งหรือหัวสายแบบสังกะสีผสมอัลลอยด์ที่แพงกว่าเล็กน้อย สายเป็นสายถักดีบุกผสมทองแดง ด้านในหุ้มด้วยอลูมิเนียมฟอยล์, สายถักและสายกราวน์ ตัวสายหักงอและบิดได้มากกว่า 1,000 ครั้ง ส่วนหัวพอร์ตจะเป็นเหล็กนิกเกิ้ลที่แข็งแรงและเสียยากด้วย
ตัวสายเลือกความยาวได้ตั้งแต่ 0.5-3 เมตร แบนด์วิธรับส่งข้อมูลที่ 48 Gbps ตามมาตรฐาน HDMI 2.1 รองรับความละเอียดสูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz เช่นกัน รองรับฟีเจอร์ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT, HLG รวมทั้ง Dolby Vision HDR10+ และระบบภาพ 3 มิติ ระบบเสียง Dolby, DTS ด้วย เหมาะจะใช้ต่อกับทีวีความละเอียดสูงๆ ระดับ 8K เป็นอย่างมาก
สเปคของ UGREEN HDMI 2.1
- HDMI 2.1 ความยาว 0.5-3 เมตร สายพลาสติก ABS เนื้อแข็งหรือสังกะสีผสมอัลลอยด์ ส่วนสายเป็นสายถักดีบุกผสมทองแดง ด้านในหุ้มอลูมิเนียมฟอยล์
- แบนด์วิธรับส่งข้อมูล 48 Gbps
- รองรับความละเอียดสูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz
- รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT, HLG รวมทั้ง Dolby Vision HDR10+
- คุณภาพเสียงระดับ HiFi เช่น DTS, Dolby
- 0.5 เมตร ราคา 169 บาท, 1 เมตร ราคา 229 บาท, 3 เมตร ราคา 329 บาท (Ugreen Official Shop Lazada)
4. MOSHOU HDMI 2.1 (1,500 บาท)
แบรนด์ MUSHOU อาจจะไม่คุ้นหูคนไทยเท่าไหร่ แต่จากรีวิวต่างประเทศที่มีผู้ใช้เลือกซื้อสาย HDMI จากแบรนด์นี้ไปใช้งานแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าอยากดูหนังให้ได้สีสันระดับโรงหนังและดึงประสิทธิภาพของทีวีออกมาให้ดีที่สุด ต่อ Apple TV ได้ Chroma Subsampling ระดับ 4:2:2 RGB และขอบเขตสี BT.2020 ล่ะก็ สายนี้เป็นตัวเลือกที่ดีมากเส้นหนึ่ง โดยหัวสายเป็นอลูมิเนียมและหัวพอร์ตทำจากโลหะเงิน และสายเป็นพลาสติก PVC แบบสายแบน หุ้มสายด้านในอย่างดีเพื่อลด Noise ตอนดูหนังได้ดีมาก
ตัวสายมีให้เลือก 3 แบบ คือสายแบนฟ้าเขียว เน้นสำหรับคนอยากดูหนังฟังเพลงโดยเสียงกลางและแหลมจะใสและมีมิติภาพดีขึ้น, สายกลมสีน้ำเงินได้เสียงเบสมีมิติ ดูหนังภาพคม, สายกลมสีดำหุ้มไนลอนเป็นสาย HDMI 2.1 แบบมาตรฐาน
สเปคสายมีความยาว 1, 1.5, 2, 3 เมตรให้เลือก แบนด์วิธ 48 Gbps รองรับความละเอียดสูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz ตามมาตรฐาน HDMI.org ส่วนภายในสายหุ้ม 6 ชั้นเพื่อให้สัญญาณภาพและเสียงออกมามีคุณภาพ รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT และคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ด้วย ดังนั้นถ้าใครเป็นสายดูหนังฟังเพลง อยากให้ภาพและเสียงที่ได้มีคุณภาพสูงแต่ราคาสมเหตุผลล่ะก็ สาย MUSHOU ก็ไม่ควรมองข้าม
สเปคของ MUSHOU HDMI 2.1
- HDMI 2.1 ความยาว 1, 1.5, 2, 3 เมตร หัวสายอลูมิเนียม หัวพอร์ตโลหะเงิน สายพลาสติก PVC หุ้มสายด้านในอย่างดี 6 ชั้น
- แบนด์วิธรับส่งข้อมูล 48 Gbps
- รองรับความละเอียดสูงสุด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz
- รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT
- คุณภาพเสียงระดับ HiFi
- ราคา 1,500-2,100 บาท (Shopee)
5. AUDIOQUEST : HDMI Pearl 48 Version 2.1 (1,620 บาท)
AudioQuest : HDMI Pearl 48 Version 2.1 เรียกว่าเป็นสาย HDMI สำหรับคนรักการดูหนังฟังเพลงโดยเฉพาะ โดยตัวสายเป็น Solid LGC ที่เป็นตัวนำสัญญาณภาพและเสียงแบบแกนแข็งทำให้นำสัญญาณได้ดีกว่าสายแบบธรรมดาไม่เกิดปัญหาลดคุณภาพภาพหรือเสียง ตัวสายเป็น OFC (Oxygen Free Copper) เป็นสายทองแดงที่ไม่มีออกซิเจนเจือในตัวเนื้อสาย ทำให้คุณภาพเสียงและภาพออกมาดีมาก ดูหนังความละเอียด 8K Chroma Subsampling ระดับ 4:2:0, 4K60Hz Chroma Subsampling 4:4:4 ได้ ตัวสายเป็นพลาสติกโพลียูริเธนที่ไม่รบกวนคุณภาพของภาพและเสียงด้วย
ตัวสายมีความยาว 1, 2, 3, 5 เมตร รองรับความละเอียดสูงสุด 8K30Hz, 4K60Hz มีแบนด์วิธ 18 Gbps ซึ่งเพียงพอสำหรับการดูหนังฟังเพลงแล้ว รองรับภาพ HDR10+, eARC ได้เสียงระดับ 5.1 แชนแนล ทำให้เล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงแบบ Multichannel ได้ ซึ่งรองรับถึงระดับ Dolby TrueHD, Dolby Atmos, DTS-HD Master Audio, DTS:X ด้วย ซึ่งถ้าห้องนั่งเล่นของใครมีทีวีและเครื่องเสียงคุณภาพสูงอยู่แล้วอยากได้สาย HDMI ไปต่อให้ภาพและเสียงออกมาดีที่สุดล่ะก็ ตัวสาย AudioQuest เส้นนี้เรียกว่าคุ้มค่าทีเดียว
สเปคของ AudioQuest : HDMI Pearl 48 Version 2.1
- HDMI 2.1 ความยาว 1, 2, 3, 5 เมตร เป็นสาย Solid LGC, ทองแดงในสายเป็น OFC หุ้มด้วยพลาสติกโพลิยูริเธน ทำให้คุณภาพของภาพและเสียงออกมาดีที่สุด
- แบนด์วิธรับส่งข้อมูล 18 Gbps
- รองรับความละเอียดสูงสุด 8K30Hz, 4K60Hz
- รองรับ VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT
- คุณภาพเสียงระดับ HiFi ได้แก่ Dolby TrueHD, Dolby Atmos, DTS-HD Master Audio, DTS:X
- ราคา 1,620-5,850 บาท (Shopee)
สรุปสเปคสาย HDMI ทั้ง 5 เส้น เส้นไหนเด็ดเหมาะกับใครบ้าง
จะเห็นว่าสาย HDMI แต่ละเส้นที่เลือกมาแนะนำกันจะมีทั้งแบบทั่วไปที่เน้นเรื่องการใช้งานตามปกติอย่างการเล่นเกมดูหนังฟังเพลง หรือจะเป็นกลุ่มที่เน้นเรื่องเสียงและสีสันของภาพตอนดูหนังให้ออกมาดีที่สุด ก็จะอัพเกรดไปเป็นสายอีกแบบที่ใช้วัสดุภายในคุณภาพสูงขึ้นแทน ซึ่งถ้าสรุปสเปคแล้วจะเป็นดังนี้
สเปคสาย HDMI | ความยาวและวัสดุทำสาย | ความละเอียดสูงสุดและแบนด์วิธ | ฟีเจอร์หลักที่รองรับ | คุณภาพเสียง | ราคา |
Vention HDMI 2.1 | 1 เมตร สายหุ้ม PVC หัวพอร์ตทองเหลือง สายด้านในเป็นทองแดง |
แบนด์วิธ 48 Gbps รองรับความละเอียด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz |
VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT | DTS, Dolby | 198 บาท |
Llano 8K HDMI 2.1 |
1 เมตร หัวพอร์ตสังกะสีผสมอัลลอยด์ ด้านในหุ้มสามชั้นเป็นเหล็กถักและพลาสติก PVC มีอลูมิเนียมฟอยล์ |
แบนด์วิธ 48 Gbps รองรับความละเอียด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz, 2160p60Hz |
VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT | DTS, Dolby ได้เสียงแบบ 7.1, 5.1 แชนแนล | 1 เมตร ราคา 278 บาท 1.5 เมตร ราคา 368 บาท 2 เมตร ราคา 428 บาท 3 เมตร ราคา 528 บาท |
Ugreen HDMI 2.1 | 0.5-3 เมตร สายพลาสติก ABS เนื้อแข็งหรือสังกะสีผสมอัลลอยด์ ส่วนสายเป็นสายถักดีบุกผสมทองแดง ด้านในหุ้มอลูมิเนียมฟอยล์ |
แบนด์วิธ 48 Gbps รองรับความละเอียด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz |
VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT, HLG | DTS, Dolby | 0.5 เมตร ราคา 169 บาท 1 เมตร ราคา 229 บาท 3 เมตร ราคา 329 บาท |
MUSHOU HDMI 2.1 |
1, 1.5, 2, 3 เมตร หัวสายอลูมิเนียม หัวพอร์ตโลหะเงิน สายพลาสติก PVC หุ้มสายด้านในอย่างดี 6 ชั้น |
แบนด์วิธ 48 Gbps รองรับความละเอียด 8K60Hz, 4K120Hz, 2K144Hz, 1080p160Hz |
VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT | คุณภาพเสียง HiFi | 1,500-2,100 บาท |
AudioQuest : HDMI Pearl 48 Version 2.1 | 1, 2, 3, 5 เมตร สาย Solid LGC, ทองแดงในสายเป็น OFC หุ้มด้วยพลาสติกโพลิยูริเธน |
แบนด์วิธ 18 Gbps รองรับความละเอียด 8K30Hz, 4K60Hz |
VRR, QMS, ALLM, eARC, Static/Dynamic HDR, QFT | Dolby TrueHD, Dolby Atmos, DTS-HD Master Audio, DTS:X | 1,620-5,850 บาท |
ซึ่งจากราคาจะเห็นว่ามีตั้งแต่หลักร้อยบาทต้นๆ และหาได้ง่ายตามร้านค้าออนไลน์เจ้าต่างๆ ด้วย ดังนั้นถ้าใครจะซื้อสาย HDMI เส้นใหม่มาใช้ล่ะก็ แนะนำให้เลือกซื้อสายเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเส้นนี้ไปเลย เพื่อให้รองรับฟีเจอร์ใหม่และตอนใช้งานก็จะได้ภาพและเสียงที่ดีและตรงใจที่สุด และสาย HDMI เวอร์ชั่นที่ใหม่ขึ้นก็รองรับ HDMI รุ่นเก่าที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้นด้วย ดังนั้นถ้าซื้อมาใช้ก็สามารถใช้งานได้อย่างแน่นอน