โปรแกรม Super PI ใช้วิธีการคำนวณค่า PI จาก เส้นรอบวง/เส้นผ่านศูนย์กลาง จะได้เป็นค่า 3.14? โดยที่ทศนิยมนั้น เป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ถ้าไม่สั่งให้หยุด โปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่า ให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
ผลคะแนนการทดสอบด้วย SuperPI ใช้เวลาในการคำนวนไป 16.708 วินาที
โปรแกรม Hyper PI ใช้หลักการคำนวนเหมือนกับ Super PI แต่สามารถสั่งให้ทุก Thread ของ CPU คำนวนได้พร้อมกัน
ผลคะแนนการทดสอบด้วย HyperPI ใช้เวลาในการคำนวนไป 30.466 วินาที เสียเวลาคำนวนผ่านทาง Hyper Threading มากกว่าซีพียูที่ไม่มีระบบนี้
โปรแกรม PCMark05 ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหลายๆ รูปแบบ เช่น การคำนวนทางฟิสิกก์ การเข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์เพื่อสร้างคะแนนเปรียบเทียบประสิทธิภาพออกมา
ผลการทดสอบด้วย PCMark ได้คะแนนรวมไป 6601 คะแนน โดยคะแนนในแต่ละส่วนประกอบย่อยๆ ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก แสดงว่าเครื่องถูกออกแบบมาให้อุปกรณ์ภายในไม่เป็นคอขวดกันเอง
โปรแกรม 3DMark06 ใช้สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU โดยทดสอบทั้ง High Dynamic Range, Shader Model 3.0 รองรับ CPU ทั้ง Single Core และ Multi Core
ทดสอบที่ความละเอียด 1280 x 768
คะแนนจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3DMark06 ได้คะแนนรวมไป 3978 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆ สามารถเปิดเกมใหม่ล่าสุดได้ แต่ต้องลดคุณภาพของภาพลดเพื่อให้สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล แต่สำหรับการชมภาพยนตร์กับเครื่องแล้วไม่เป็นปัญหา
โปรแกรม CINEBENCH R 11.5 ใช้ทดสอบการประมวลผลงานสามมิติแบบมืออาชีพที่ต้องใช้งานผ่าน OpenGL โปรแกรมทดสอบทั้งการเรนเดอร์ด้วย CPU และ GPU โดยมีพื้นฐานมาจากโปรแกรม Maxon CINEMA 4D
ผลคะแนนที่ออกมายังค่อนข้างน้อยโดยเฉพาะส่วนของซีพียู เครื่องนี้ไม่เหมาะจะเอาไว้ใช้ทำงานประเภทโปรแกรมสามมิติเท่าไรนัก
โปรแกรม Performance Test เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สามารถทดสอบประสิทธิภาพเครื่องได้ในหลายๆ ส่วนทั้ง CPU, GPU, 2D, 3D, CD/DVD ด้วย
ผลคะแนนของโปรแกรม PerformanceTest ได้คะแนนรวมไป 894 คะแนน ส่วนที่ดูจะได้น้อยคงจะเป็นเรื่องของการ์ดจอ ATI Radeon HD 545v