MSI Delta 15 (AMD Advantage Edition) เป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบาแต่แรงลื่น ได้ทั้งสเปกที่ใหม่ล่าสุดและดีไซน์เฉียบล้ำ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม บางที่ 19 มิลลิเมตร โดยเปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H อีกหนึ่งรุ่นในตลาด ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ล้ำด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนมอย่าง Cezanne (แซซอง)
จับคู่มากับการ์ดจอ AMD Radeon RX6700M ซึ่งได้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม NAVI 22 (RDNA 2) แน่นอนว่าสเปกนี้ทำให้เราเล่นเกมได้แรงลื่น กว่าสเปกก่อนๆ อย่าง Ryzen 5000H + Radeon RX5500M โดยเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่เน้นความบางเบาหรูหรา ด้วยสีสันตัวเครื่อง Carbon Gray ลักษณะเทาด้านทุกสัดส่วน วัสดุก็พรีเมียมด้วยอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ส่วนแบตเตอรี่เองก็ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 12 ชั่วโมง พร้อมรองรับชาร์จไฟด้วย USB-PD
ตอกย้ำ MSI Delta 15 ด้วยโลโก้ Thunderbird แบบพิเศษที่มุมบนขวาของฝาหลังเป็นแบบแผ่นโลหะ ให้ความหรูหราเรียบเนียนอย่างที่สุด โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่พกพาได้สะดวก ที่รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมระบบระบายความร้อน Cooler Boots 5 เรียกได้ว่าส่วนสเปกฮาร์ดแวร์จัดเต็มแบบสุดๆ ไปเลย ได้คีย์บอร์ด RGB แบบใหม่สวยงามเข้ากับตัวเครื่อง ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนแบบคู่ไว้ขอบด้านบน
สเปกอื่นๆ ได้หน่วยความจำแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe จัดเต็มที่ 1TB มาพร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครันด้วย Wi-Fi 6E, Buetooth 5.2 ที่สำคัญคือได้หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดสูง ความละเอียด Full HD ที่รองรับ Refresh Rate ที่สูงถึง 240Hz ทีเดียว สีสดใสมุมมองกว้าง ลื่นไหล ขอบเขตสีใกล้เคียง sRGB 100% พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย 2 x USB 3.2 Type-C ที่รองรับ DisplayPort / Power Delivery Charging (1 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตใช้โอนข้อมูลปกติ) นอกจากนี้ยังมีพอร์ตอื่นๆ อาทิ 2 x Type-A USB3.2, 1x (4K @ 60Hz) HDMI,บอกเลยว่าจัดเต็มมากๆ ส่วนช่องหูฟังรองรับ Hi-Res Audio และไมค์แบบแจ็คทอง 3.5 มิลลิเมตร มีฟีเจอร์ Nahimic 3 ซึ่งให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นก่อนๆ ชัดเจน
MSI Delta 15-A5EX ราคา 5x,xxx บาท (ราคาคาดการณ์)
- CPU : AMD Ryzen 7 5800H (8C/16T & 3.20 – 4.40GHz)
- GPU : AMD Radeon 8 + Radeon RX 6700M (10GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
- DISPLAY: 15.6″ Full HD IPS 144Hz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 1TB
- OS : Windows 10 Home
- Warranty : 2 Years Carry-in Regional (1 Year for Battery and Adapter)
สำหรับ MSI Delta 15 ผสานระหว่างโน๊ตบุ๊คทำงานและ Gaming เพื่อมารองรับประสิทธิภาพที่แรงกว่าเดิม จากการเลือกใช้งานโดยชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H พร้อมเทคโนโลยี AMD SmartShift ช่วยจัดการพลังงานในระบบของโน๊ตบุ๊กแบบไดนามิก และ Smart Access Memory ช่วยให้โปรเซสเซอร์ทำงานด้วยกันได้เป็นอย่างดีในการเสริมประสิทธิภาพการทำงานหลายรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ถึงขีดสุด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมโปรดหรือตัดต่อวิดีโอ ช่วยให้โน๊ตบุ๊คแพล๊ตฟอร์ม Ryzen ที่มาพร้อมกราฟฟิก Radeon รีดประสิทธิภาพออกมาได้อย่างสูงสุดนั่นเอง
สำหรับดีไซน์ทั้งหมดของตัวเครื่องมีการปรับให้เรียบหรูยิ่งขึ้นไปอีก กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีดำหรือขาวตลอดทั้งตัวเครื่อง ที่คาดหลายคนต้องชอบมากกว่าเดิม ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วแตกต่างจาก Gaming Notebook G Series ของทาง MSI รุ่นอื่นชัดเจน ให้กลายเป็นสีเดียวกัน เน้นเรื่องความพรีเมียมเรียบง่าย สมกับการเป็นซีรีส์ใหม่ที่ได้สเปกใหม่อย่างแท้จริง แน่นอนว่าจะเอาไปเล่นเกมก็ดุดัน จะเอาไปทำงานก็ลงตัวทีเดียว
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมพ์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ ด้านฐานล่างรุ่นนี้เป็นอะลูมิเนียมเรียบๆ ซึ่งดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ 2 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนงานประกอบก็เนียบเหมือนเดิม เรื่องนี้ไว้ใจทาง MSI เค้าได้เลย
แป้นคีย์บอร์ดมีขนาดกำลังพอดี ใช้งานกดสะดวกพร้อมไฟ RGB คีย์บอร์ด ได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ที่สำคัญคือให้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปชัดเจนสุดๆ ติดตั้งทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับมิติตัวเครื่อง เป็นลักษณะผืนผ้าออกแนวยาวๆ ดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ ถ้าเทียบกับรุ่นปีก่อนๆ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี พร้อมรองรับ Multi Gesture ทำงานร่วมกับ Windows 10 Home ได้เป็นอย่างดี
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพงแบบสเตอริโอ โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic 3 ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก
การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost 5 ที่มีพัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผลและการ์ดจอ หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม โดยมีการทำงานและควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ตัวใหม่อย่าง MSI Center ที่ช่วยปรับแต่งได้เป็นอย่างดี
MSI CENTER เวอร์ชั่นล่าสุด เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ Utility จุดเด่นคือใช้งานสะดวกและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัพเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ ก็สามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
MSI Delta 15 รุ่นนี้มีประสิทธิภาพที่เหนือชั้นกว่า ด้วยชิปประมวลผลตัวแรงยอดนิยมในตลาดของ Gaming Notebook ของ AMD อย่าง Ryzen 7 5800H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่า Ryzen 4000H ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม Cezanne มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 16MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W อีกทั้งประหยัดแบตมากกว่าด้วย
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ มากยิ่งขึ้นไปอีก แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก ก็รองรับได้อย่างสบายๆ และดีที่สุดแน่นอน เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 7 4800H แน่นอน พร้อมได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz (8GB x 2) ใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังอัพเกรดแรมได้สูงสุดที่ 64GB
ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 8 มีความเร็วในการทำงานที่ 2100MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเป็นหลัก กับหน้าจอความละเอียดสูงให้ความลื่นไหลเป็นอย่างดี ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงจาก AMD เช่นกัน
อย่าง Radeon RX 6700M (R21M-E110-70) สถาปัตยกรรม NAVI 22 เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร มี 2,304 Stream Processors ที่ค่า TGP (Total Graphic Power) 135W มีแรม 10GB GDDR6 กับ Memory bus 160-bit ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ระดับท็อป รองรับเกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
*** ผลทดสอบเป็นอีกสเปก Ryzen 9 5900HX + RX 6700M ***
ตารางสเปก MSI Delta 15
CPU | GPU | RAM | SSD | Display | Price | |
Delta 15 A5EX | Ryzen 7 5800H | RX 6700M | 16GB | 1TB | FHD 240Hz | 5x,xxx |
Delta 15 A5EFK | Ryzen 9 5900HX | RX 6700M | 32GB | 1TB | FHD 240Hz | 6x,xxx |
สรุป MSI Delta 15 (AMD Advantage Edition) ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย ทั้งความแรงและบางเบาจบครบในเครื่องเดียว พร้อมจัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานแบบนี้ได้ ต่อยอดความสำเร็จของ MSI Notebook ขึ้นไปอีก อย่างไรก็จะมาขายเมื่อไหร่นั้นคงต้องรอติดตามกันอีกที สนนราคาคาดการณ์ที่ 5x,xxx บาทขึ้นไป ได้ประกัน 2 ปีตามมาตรฐานของ MSI ประเทศไทย ไว้ดูรีวิวตัวจริงกันแน่นอน ไม่นานเกินรอ
เปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางรุ่นสามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ หรือจะดูเป็นรุ่นอื่นๆ อย่าง MSI Alpha สเปก Ryzen 5000H + Radeon RX 6000M ที่อาจจะหนักและหนากว่าหน่อย แต่ไม่ได้ฟีเจอร์หลายๆ อย่างก็เป็นอีกตัวเลือกในราคาที่ถูกกว่าก็ได้
เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาช่วงงบประมาณ 5x,xxx บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่สเปกเหมือนๆ กัน แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Gaming Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานแบบนี้ได้ ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ Ultimate Performance พร้อมเพิ่มรอบพัดลมอัตโนมัติ จากการที่มีพัดลม 2 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว
ข้อดี MSI Delta 15
- ดีไซน์การออกแบบถูกใจเกมเมอร์ยุคใหม่ ตามสไตล์ของ MSI Gaming แนวเรียบหรูดูล้ำ
- หน้าจอ 15.6″ เล็กกระชับกว่าเดิมเทียบ 14″พกพาสะดวก น้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัม
- งานประกอบแน่น วัสดุดีด้วยอะลูมเนีนยมตอลดทั้งตัวเครื่อง บางที่ 19 มิลลิเมตร
- สเปคแรงด้วยชิปประมวลผล Ryzen 7 5800H และการ์ดจอแยก Radeon RX 6700M
- ได้แรมมาขนาด 16GB และ SSD M.2 ความจุ 1TB ใช้งานได้ลื่นไหล
- ประสิทธิภาพสูงจากสเปกใหม่ล่าสุดทั้งจากชิปประมวลผลและการ์ดจอ AMD 100%
- มีซอฟต์แวร์ MSI Center ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง
- มี Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ MSI ตามมาตรฐาน
ข้อสังเกต MSI Delta 15
- ไม่สามารถอัพเกรด HDD / SSD 2.5″ SATA 3 เพิ่มได้ภายหลัง
- ไม่มี Card Reader ทั้ง microSD Card / SD Card Reader
- เป็น MSI Notebook ที่ใช้สเปกเป็น AMD รุ่นราคาสูงที่สุด