Acer Swift 3 SF314-511 รุ่นใหม่ช่วงกลางปี 2021 หลังจากนี้ มีตัวเครื่องบางเบาดีไซน์ใหม่ พร้อมมี 3 สีสันล่าสุดให้เลือกซื้อ สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ได้แพลตฟอร์ม Intel EVO สถาปัตยกรรม 10nm SuperFin มี AI ช่วยทำงานในตัวกับบางโปรแกรมที่รองรับ ทำให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นมาก พร้อมใช้การ์ดจอออนชิปที่แรงที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลย
ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 3 สเปกเดียวคือ Core i3-1125G4 / Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 รองรับการทำงานพื้นฐานอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง รวมถึงงานตัดต่อวีดีโอ หรือเล่นเกม 3 มิติ ก็ถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ซึ่งทุกรุ่นทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด สนับสนุนการทำงานที่หลากหลายพร้อม ๆ กันมากยิ่งขึ้น ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 8GB LPDDR4x Bus 4266MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ความจุ 512GB
มาพร้อมหน้าจอ 14″ หน้าจอความละเอียด FullHD พาเนล IPS แบบจอด้าน โดยมีน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัม รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย เหมาะกับคนทำงานหลากหลายอาชีพ หรือ นักเรียนนักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่บางเบาพกพาสะดวก แต่ได้ประสิทธิภาพที่สูงคุ้มค่าต่อราคา ได้ประกัน 2 – 3 ปี โดยปีแรกเป็น On-site Service ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ทำให้พร้อมใช้งานโปรแกรม Word / Excel / Power Point ทำให้เราไม่ต้องไปเสียเงินซื้อเพิ่มด้วย
Acer Swift 3 SF314-511 สเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ตอนนี้มีอยู่ 3 ราคา 3 สเปกชิปประมวลผล เริ่มต้นที่ 19,990 บาทเท่านั้น ไปจนถึง 29,990 บาท
- Intel Core i3-1125G4 : 4 Core 8 Thread / 2.00 – 3.70 GHz
- Intel Core i5-1135G7 : 4 Core 8 Thread / 2.40 – 4.20 GHz
- Intel Core i7-1165G7 : 4 Core 8 Thread / 2.80 – 4.70 GHz
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ Thunderbolt 4 (เป็น USB 3.2 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.2 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 AX (GIG+) ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ได้ประกันเป็น 2 – 3 ปี พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมงด้วย ซึ่งในรุ่นสเปก Core i7 จะได้ประกันแบบซ่อมฟรีถึงบ้านในปีแรกอีกด้วย แน่นอนว่าทุกรุ่นติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มาให้ทันที
Acer Swift 3 SF314-511-35HW ราคา 19,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i3-1125G4 (4 Core 8 Thread / 2.00 – 3.70 GHz)
-
GPU : Intel UHD Graphics
-
RAM : 8GB LPDDR4X 4266 MHz
-
DISPLAY: 14″ IPS Full HD
-
STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
- Software : Office Home & Student 2019
- Warranty : 2Y (Parts & Labor)
Acer Swift 3 SF314-511-5843 ราคา 23,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i5-1135G7 (4 Core 8 Thread / 2.40 – 4.20 GHz)
-
GPU : Intel Iris Xe Graphics
-
RAM : 8GB LPDDR4X 4266 MHz
-
DISPLAY: 14″ IPS Full HD
-
STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
- Software : Office Home & Student 2019
- Warranty : 2Y (Parts & Labor)
Acer Swift 3 SF314-511-70SJ ราคา 27,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i7-1165G7 (4 Core 8 Thread / 2.80 – 4.70 GHz)
-
GPU : Intel Iris Xe Graphics
-
RAM : 8GB LPDDR4X 4266 MHz
-
DISPLAY: 14″ IPS Full HD
-
STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
- Software : Office Home & Student 2019
- Warranty : 3Y (Parts & Labor) + 1Y Onsite Service
โดยหลักๆ แล้วแพลตฟอร์ม Intel Evo มีเงื่อนไขคุณสมบัติประสบการณ์การใช้งาน ได้แก่
- ประสิทธิภาพสูง ใช้ชิปประมวลผล Core i5 / i7 ขึ้นไป, แรม 8GB ขึ้นไป, หน่วยความจำเป็น SSD NVMe 256GB ขึ้นไป
- ประสิทธิภาพดีพอแม้ทำงานด้วยแบตเตอรี่ ใช้งานที่จอ Full HD ได้นานกว่า 9 ชั่วโมง
- ชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จ 30 นาทีใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C (USB Power Delivery)
- เปิดเครื่องต่ำกว่า 1 วินาที แล้วต้องพร้อมทำงานแทบจะทันที (Connected Standby และ Lucid Sleep)
- มีฟีเจอร์ด้าน AI เช่น มีไมโครโฟนรับเสียงจากระยะไกล, ฟีเจอร์เร่งความเร็ว Deep Learning Boost
- รองรับพอร์ต Thunderbolt 4, เชื่อมต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi 6 (AX) Gig+ หรือมีตัวเลือกใช้เครือข่าย Gigabit LTE
- Ultrabook / 2-in-1 Notebook ดีไซน์บางเบา และใช้ Precision Touchpad / รองรับปากกา
Acer Notebook เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์และแม็กนีเซียมอัลลอยด์ ให้การออกแบบที่ปรับเปลี่ยนไปซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง Acer Swift 5 SF514-55 โดยสีสันเป็น Gradient Electric Blue ที่สีหลักเป็นสีเงิน แต่ฝาหลังมีการไล่เฉดเป็นสีฟ้า / Berry Red เป็นสีแดงที่มีความเข้มพิเศษเหมือนกับผลเบอร์รี่ / Steam Blue สีน้ำเงินเข้มออกเป็นสีเทาๆ ซึ่งทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คบางเบาของทาง Acer ได้เป็นอย่างดีที่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่ากว่ารุ่นเดิม
ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับบาง 15.95 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัม ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแบบรู้สึกได้ จนรุ่นเก่าต้องอิจฉาเลยทีเดียว กับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมยังสามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง กับการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานสูงสุดที่ 18 ชั่วฌมงทีเดียว
ฝาหลังเป็นวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ ให้ผิวสัมผัสที่ดีมีความพรีเมียมผิวเรียบเนียนกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer ตามมาตรฐานกลางฝาหลัง ให้สีสันเป็นเงินมันวาว สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในก็จะเป็นแม็กนีเซียมที่ดูหรูหราพร้อมสัมผัสที่แตกต่างไปเล็กน้อยรู้สึกได้ถึงความไม่เรียบ ตัดกับคีย์บอร์ดสีดำยิ่งให้ความสวยงามและโดดเด่นตามสไตล์ของ Acer Notebook
ขอบตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นดีไซน์แบบโค้งมนเนียนๆ เข้ากับมือเวลาหยิบจับถือขึ้นมา โดยจากสติ๊กเกอร์ด้านในบริเวณที่วางมือฟีเจอร์ที่แปะไว้เอาไว้บ่งบอกถึงความพิเศษคือได้แพลตฟอร์ม Intel EVO รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ โดยตัวบานพันด้านหลังเป็นแบบแถวยาวแถวเดียวโดยเลือกใช้เป็นสีเขียว โดยมีคำว่า Swift อยู่ พร้อมยางรองพิเศษที่จะดันตัวเครื่องให้เอียงเมื่อเราทำงานเปิดใช้งาน เพื่อให้รับกับการพิมพ์ของเรา
สรุปสำหรับตัวเครื่องและดีไซน์การออกแบบของ Acer Notebook รุ่นนี้นั้นเป็นการรักษาภาพลักษณ์พร้อมพัฒนาที่ดูลงตัวมากกว่าเดิม อีกทั้งได้มีการเพิ่มสีสันที่ดูสดใสเข้ามาแทน จากการที่ Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง กับราคาเริ่มต้นที 19,990 บาทเท่านั้น ที่ให้ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจ ที่สำคัญคือเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ ต่อฟีเจอร์และสเปกที่ได้ จัดได้ว่ามีราคาที่จับต้องได้ง่ายอีกด้วย
ตัวเครื่องติดตั้งหน้าจอขนาด 14″ ที่เป็นขนาดที่ยอดนิมยมในตลาด ได้ขอบจอบางสุดๆ ที่ 5.1 มิลลิเมตร โดยมีพื้นที่ 85.73% เป็นหน้าจอแสดงผล ได้พาเนล IPS เกรดที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด ความสว่าง 300 nit ที่รองรับความละเอียด Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่เหมาะกับการทำงานหรือความบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยสีสันที่สมจริงเรียบเนียมและมุมมองที่กว้างกว่า แน่นอนว่าขอบด้านบนยังติดตั้งกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟนให้ใช้งาน VDO Call อยู่
อีกทั้งยังมี Acer Color Intelligence เทคโนโลยีนี้จะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี แน่นอนว่าให้ประสบการณ์ใช้งานในการแสดงผลที่เยี่ยมยอด โดยมี BluelightShield ลดแสงสีฟ้า รองรับกับงานทั่วไปเป็นอย่างดีและพอเพียงกับการใช้งานทั่วไป อย่างเล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน รวมไปถึงการดูหนังฟังเพลง ดู Youtube / Netfilx
ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอแบบ 2 x 2W มาพร้อมระบบเสียง Acer DTS Audio และ TrueHarmony โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้ว
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครันสุดในรุ่นหนึ่ง กับพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 2 พอร์ต และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน ที่สำคัญยังให้พอร์ตอย่าง Thunderbolt 4 ที่เป็น Full Function ที่ประกอบไปด้วย USB 3.2 / DisplayPort / PD รองรับการชาร์จไฟในตัวอีกด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าเหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มราคาเดียวกันทีเดียว แต่ก็ยังน่าเสียดายที่อแดปเตอร์เองยังไม่เป็นมาตรฐาน USB-C
คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาในตัวเครื่องเป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างสั้น แต่ใช้งานจริงก็พอได้อยู่ไม่ได้ลำบากในการใช้งานนัก ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว ส่งผลให้พิมพ์ได้อย่างสะดวกไม่แพ้คีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ เลย พร้อมมีไฟคีย์บอร์ดสีขาวส่องสว่างปรับระดับได้
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดี โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ผ่านทาง Windows 10 Home ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Fingerprint สแกนลายนิ้วมือที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งถือว่าเป็นการ Login ผ่านทาง Windows Hello ที่ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยกว่าการกรอกรหัสเข้าใช้งานเครื่องทุกครั้ง
ส่งผลให้เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ สายทำงานตัวจริงพร้อมความบันเทิงแบบจัดเต็มอีกหนึ่งรุ่น ที่น่าซื้อมาใช้งานอย่างแท้จริง พร้อมกันนั้นยังมีฟีเจอร์ Cooling Mode ช่วยในการเล่นเกมหรือทำงาน ซึ่งควบคุมโหมดการใช้งานง่ายๆ ด้วยการแตะปุ่มลัด “Fn + F” เพื่อเปลี่ยนโหมด อาทิ Silent mode / Normal mode / Performance mode นับว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจจริงๆ ที่ก่อนหน้านั้นเราจะเห็นใน Gaming Notebook เท่านั้น แต่ตอนนี้มีในซีรีส์บางเบาแล้ว
จุดเด่น Acer Swift 3
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่บางเบา มีสีสันที่สวยงามไม่ซ้ำใคร
- ได้ดีไซน์ใหม่ ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Swift 3 มีความหรูหรา เกินราคา
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมและแม็กนีเซียมตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว ได้แพลตฟอร์ม Intel EVO
- ได้แรมขนาด 8GB และ SSD M.2 NVMe 512GB มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS สีสันสวยงาม Acer เคลมว่าขอบเขตสี sRGB 100%
- ติดตั้งการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX ใหม่สุดๆ พร้อมรองรับ MIMO
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 มาตรฐานใหม่ ใช้งานได้หลากหลาย อาทิ ชาร์จไฟ PD / ต่อจอแยก
- แม้ทำงานหนัก แต่ตัวเครื่องก็ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ร้อนน้อยกว่ารุ่นก่อน
- มีสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ใช้งานร่วมกับ Windows Hello
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ติดตั้งมาให้ทันที
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดตามที่ Acer เคลมไว้ที่ 18 ชั่วโมง
- ฟีเจอร์ Fast Charge ชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง
- ประกัน 3 ปี (On-site ปีแรก) ส่งศูนย์ซ่อมไวใน 3 ชั่วโมง สำหรับสเปก Core i7
- ได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท)
ข้อสังเกต Acer Swift 3
- หัวชาร์จอแดปเตอร์ยังไม่ได้เป็นมาตรฐาน USB-C
- แรมอัพเกรดไม่ได้และไม่มีสเปกที่ได้แรมขนาด 16GB มาให้พร้อใช้งาน
ตารางสเปก Acer Swift 3
CPU | GPU | RAM | SSD | Office | Price | |
SF314 i3 | i3-1125G4 | Iris Xe | 8GB | 512GB | Yes | 19,990 |
SF314 i5 | i5-1135G7 | Iris Xe | 8GB | 512GB | Yes | 25,990 |
SF314 i7 | i7-1165G7 | Iris Xe | 8GB | 512GB | Yes | 29,990 |
สรุปปิดท้าย Acer Swift 3 SF314-511 ปี 2021 กับการเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาคุ้มค่ารุ่นล่าสุด ประจำซีรีส์ Swift ทั้งเรื่อง สเปก ดีไซน์การออกแบบ พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ นั้น เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่ดูลงตัว เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง มีความน่าใช้งาน ได้สเปกแรงๆ อย่าง Core i3-1124G4 / Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 และการ์ดจอออนชิปที่ทรงพลังอย่าง Iris Xe Graphics อีกทั้งได้มาตรฐานการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดอย่าง Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 4 มาด้วยทันที พร้อมได้แพลตฟอร์ม Intel EVO ด้วย
เรียกได้ว่า Acer เสนอ Acer Notebook ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบารูปแบบใหม่อย่าง Ultrabook มาสู่ท้องตลาด ไม่ใช่แค่บางเบาแบบสุดๆ แต่ยังได้ยกระดับการใช้งานได้สเปกที่แรงลื่นขึ้นจากการที่เป็น Intel Core i Gen 11 Tiger Lake เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin โดดเด่นด้วยการทำงานที่มี AI ช่วยประมวลผลงานบางอย่างในตัว รองรับพวก Microsoft Office / Adobe สนนราคาเพียง 19,990 – 29,990 บาท การรับประกันเป็น 2 – 3 ปีตามมาตรฐานของ Acer ซึ่งปีแรกมี On-site และมีบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย
แม้ประสิทธิภาพก็คงจะเทียบกับ Gaming Notebook ที่เน้นความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพอย่าง Acer Nitro 5 ไม่ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็จัดว่าทำงานหนักๆ หรือเล่นเกมได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ หน้าจอได้รับการอัพเกรดเป็นรุ่นที่สูงขึ้นในระดับเดียว Acer Swift 5 รุ่นพี่ ได้ค่าขอบเขตสีระดับ sRGB ใกล้เคียง 100% นั่นเอง ไว้มีโอกาสจะนำเครื่องจริงมารีวิวแน่นอน แต่โดยรวมๆ รวมถือว่าใช้งานแล้วประทับใจ ซึ่งโดดเด่นสุดๆ ด้วยสีสันไม่ซ้ำใคร