ASUS ZenBook Pro Duo UX582 เป็นโน๊ตบุ๊ค 2 จอสุดล้ำ สาย Content Creator โดยถือว่าเป็นสุดยอดโน๊ตบุ๊คแห่งปี 2021 ซึ่งมาพร้อมกับ ScreenPad Plus กับหน้าจอที่สอง ต่อยอดมาจากปีก่อนที่มีปรับหน้าจอยกตัวให้สูงขึ้น มาพร้อมสเปกแรงลื่นด้วยสเปก Intel Core i7-10870H + GeForce RTX 3070 + RAM 32GB + SSD 1TB พร้อมหน้าจอขนาด 15.6″ OLED 4K + 14″ IPS รองรับการทัชสกรีนทั้งคู่ และมีปากกาในชุดบันเดิลทันที ในราคา 99,990 บาท ได้การรับประกัน 3 ปี On-site Service + ประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty ในปีแรก
การมาของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ตอกย้ำการทำงานสายมืออาชีพที่เหนือชั้น โดยเป็นโน๊ตบุ๊คที่รองรับการทำงานที่หลากหลายพร้อมๆ กันอย่างแท้จริง ด้วย ScreenPad Plus โดยที่เราไม่จำเป็นต้องหาหน้าจอภายนอกมาเชื่อมต่อแต่อย่างใด เป็นหน้าจอขนาดใหญ่ โดยอยู่ใต้หน้าจอหลัก ส่วนการใช้งานก็หลากหลายมากๆ จะเป็นหน้าจอที่สองเปิดโปรแกรมเพิ่ม หรือจะใช้งานเป็นส่วนของเครื่องมือโปรแกรมนั้นๆ รวมไปถึงลงแอปเพิ่มเติมได้อีก ทำให้ในการใช้งานของเรานั้นมีความหยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างที่หาไม่ได้ในแบรนด์อื่นๆ แน่นอน
VDO Review
NBS Verdict
สรุปแล้ว ASUS ZenBook Pro Duo UX582 เหมาะกับเพื่อนๆ หรือใครที่เน้นการทำงานแบบได้ Productivity เยอะที่สุดด้วยสองหน้าจอ พร้อมพกพาไปนอกสถานที่ได้ และต้องการความแรงของชิปประมวลผลสูงๆ โดยที่บางโอกาสก็เล่นเกมบ้าง ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ก็ตอบโจทย์เป็นรุ่นต่ยอดมาจาก UX581 ในหลายๆ ส่วนก็ว่าได้ ที่สำคัญยังล้ำหน้าด้วย ScreenPad Plus รุ่นใหม่ที่ยกตัวสูงขึ้นได้ มุมมองลงตัวยิ่งขึ้น
ภายใต้เทคโนโลยี AAS Plus ที่เป็นการระบายความร้อนแบบใหม่ในการเปิดช่องทางให้อากาศเข้าได้มากขึ้น จากช่องรับอากาศด้านหลังของหน้าจอที่สองที่จะยกตัวขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งานเครื่อง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้อีกถึง 36%กับสเปก Intel Core i7-10870H + RTX 3070 ราคาอยู่ที่ 99,990 บาท ที่ต้องบอกว่าไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับนวัตกรรมที่ได้แบบจัดเต็มอย่างที่หาไม่ได้ในโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ
ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เน้นประสิทธิภาพการประมวลและความก้าวล้ำใช้งานได้ด้วยหน้าจอที่ 2 ต่างจาก Gaming Notebook ที่เน้นความแรงของการ์ดจอเป็นหลัก และรูปลักษณ์ที่ดุดันพร้อมไฟ RGB หลากสีสัน ฉะนั้นถ้าใครจะซื้อมาเน้นเล่นเกมเป็นหลัก มองข้ามตัวนี้ไปเลย แนะนำเป็นตระกูล ROG จะเหมาะกว่า ที่สำคัญมาพร้อมกับการรับประกันแบบ Onsite Service 3 ปีเต็ม โดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญพร้อมดำเนินการให้บริการหลังการขายถึงบ้าน และยังมี Perfect Warranty ประกันอุบัติเหตุให้ 1 ปีแรก
บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดีแบบเอาอยู่ (แม้ว่าจะร้อนไปซักหน่อย) แน่นอนว่ามี Windows 10 Home และ Microsoft Office Home & Student 2019 มาให้พร้อมใช้งาน อีกทั้ง ScreenPad Plus ก็มีรูปแบบและแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานร่วมกันอย่างลงตัว หลากหลาย จะใช้งาน 4 – 5 โปรแกรมก็ปรับแต่งได้ตามความต้องการ
อย่างไรก็ตาม ASUS Notebook เครื่องนี้ก็มีข้อสังเกตบ้างในเรื่องของน้ำหนักที่หนักและหนากว่า Notebook หน้าจอ 15.6″ ทั่วไปเล็กน้อย จากการที่มีจอที่สองและฟีเจอร์ Creator ต่างๆ ที่อัดแน่นมากๆ ซึ่งก็จัดว่าเป็ยข้อสังเกตที่ยอมรับได้ เพราะแลกมาด้วยคุณสมบัติต่างๆ ก็มีความเยี่ยมยอดมากๆ ทีเดียว ส่วนอีก รวมไปถึงชิปประมวลผลเองก็ยังไม่ใช้ Core i Gen 11 H45 แต่จริงๆ แล้ว i7-10870H ก็ยังมีประสิทธิภาพที่สูงอยู่ (แต่ถ้าได้ของใหม่ล่าสุดก็น่าจะดีกว่า)
จุดเด่น ASUS ZenBook Pro Duo
- ติดตั้งหน้าจอที่สอง ScreenPad Plus เพิ่มประสบการณ์ใช้งานโน๊ตบุ๊คสาย Content Creator
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ OLED 15.6 นิ้ว คุณภาพสูง ความละเอียด 4K Ultra HD สมบูรณ์ที่สุดรุ่นหนึ่ง
- ด้วยการใช้งาน 2 หน้าจอร่วมกัน ทำให้เราสามรถเปิดโปรแกรมและมีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น
- ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี NanoEdge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
- ดีไซน์พิเศษบานพับ ErgoLift Hinge ช่วยให้ใช้งานดีขึ้น
- หน้าจอแสดงผลขอบเขตสีใกล้เคียง 100% sRGB และ มีความผิดเพี้ยนน้อยมาก
- ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วย Core i7-10870H + RTX 3070 + RAM 32GB + SSD 1TB
- ระบบระบายความร้อน AAS Plus (Active Aerodynamic System Plus) ใช้งานได้ยอดเยี่ยม
- คีย์บอร์ดสวยงามมีไฟใช้งานได้จริง กดเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี
- วัสดุตัวเครื่องคุณภาพสูงทั้งตัว สวยงามทนทาน ระดับ Military Standard 810G
- ลำโพง Harman/ Kardon ให้ประสบการณ์ใช้งานด้านเสียงที่ดีเยี่ยม
- มาพร้อม IR Cameraใช้งานผ่านทาง Windows Hello ที่รวดเร็วปลอดภัย
- มี Windows 10 Home มาให้พร้อมใช้งาน และ MyASUS ใช้งานได้ดี
- ได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 ติดเครื่องมาเลย
- มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 AX + Thunderbolt 3 x 2 ที่ดีกว่ารุ่นทั่วไป
- ประกัน 3 ปี On-site Service พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 แรก
- บันเดิลอุปกรณ์มากมาย อาทิ ปากกา / Plam Rest / แผ่นรองเครื่อง
ข้อสังเกต ASUS ZenBook Pro Duo
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยม
- ด้วยที่จอเป็นคนละประเภท ทำให้แสดงผลได้มาตรฐานแตกต่างกัน
- ความร้อนชิปประมวลผลและการ์ดจอที่เกิดขึ้น อุณหภูมิสูงก็จริงแต่ไม่มีผลกับการใช้งาน
- ชิปประมวลผลไม่ใช้ Intel Core i Gen 11 H45
Specification
ในเรื่องของสเปก ASUS ZenBook Pro Duo UX582 เครื่องขายจริง เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10870H ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด ที่ความเร็ว 2.20 – 5.00 GHz สถาปัตยกรรม Comet Lake H เทคโนโลยีการผลิต 14 นาโนเมตร ที่ในเรื่องของประสิทธิภาพความแรงหายห่วงได้ เมื่อเล่นเกมหรือประมวลผลหนักๆ รวมถึงรองรับการทำงานที่หลากหลายพร้อมๆ กันก็ทำได้อย่างดีที่สุด ส่วนการ์ดจอออนชิปเป็น Intel UHD 630 Graphics ที่เพียงพอในการใช้งานพื้นฐาน หรือ 3 มิติเล็กน้อย
ได้การ์ดจอแยกที่ติดมาให้นั้นจะเป็น NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-Q (8GB GDDR6) สถาปัตกรรม Ampere เทคโนโลยีการผลิต 8 นาโนเมตร ที่มีความแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พอตัวเล่นเกมได้ลื่นและสนับสนุนหน้าจอความละเอียดสูง แรมก็ให้มา 32GB DDR4 แบบ 16GB x 2 ส่วน SSD M.2 NVMe มีมาให้ความจุ 1TB ทั้งใหญ่และแรง โดยตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit มาให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานหรูหราระดับสูงสุดของทาง ASUS ก็ว่าได้
ที่สำคัญเลยก็คือใช้จอหลักเป็นมาตรฐานใหม่ OLED ขนาด 15.6″ ที่แสดงสีสันได้ดีเยี่ยมสุดของหน้าจอปัจจุบัน บนความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล มาตรฐาน Ultra HD 4K และจอที่สอง ScreenPad Plus ได้ขนาดที่ 14″ บนความละเอียด 3840 x 1100 พิกเซล ซึ่งทั้ง 2 หน้าจอนี้รองรับการทัชสกรีนจากนิ้ว และปากกาไว้วาดขีดเขียนจากทาง ASUS ที่บันเดิลมาด้วย
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้น มีมาอย่างครบครัน ทั้ง USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต, HDMI, ช่องต่อหูฟัง และ Thunderbolt 3 อีก 1 พอร์ต ส่งผลให้การใช้งานนั้นครอบคลุม ที่สำคัญยังมาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 รุ่นล่าสุดดีที่สุด แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ ส่วนการรับประกันมีระยะ 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกอีกด้วย
สเปก ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ราคา 99,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
- CPU : Intel Core i7-10870H (8C/16T : 2.20 – 5.00 GHz)
- GPU : Intel UHD 630 + NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-Q
- RAM : 32GB DDR4 Bus 2933MHz
- DISPLAY: 15.6″ OLED 4K+ 14.1″ IPS Touch Screen
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 1TB
- OS : Windows 10 Home (64 Bit)
- Software : Office Home and Student 2019
- Warranty : 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty
นอกจากนี้ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ยังบันเดิลของมาสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ASUS Active Pen ที่รองรับแรงกด 4,096 ระดับ ใช้ถ่านเป็น AAAA พร้อมด้วย Plam Rest ที่รองข้อมือต่อจากแป้นคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีแท่นรองตัวเครื่องที่สามารถพับเก็บไปมาได้ โดยออกแบบมาไม่ให้บังช่องลมด้านใต้ตัวเครื่อง รวมไปถึงกระเป๋าเป๋ (ในภาพไม่มีประกอบ) บอกได้เลยว่า ASUS ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ
Hardware / Design
ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 นั้นจะดูเล็กกว่าและบางกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ อยู่พอสมควร โดยมีน้ำหนักเบาทเพียง 2.5 กิโลกรัม และเนื่องด้วยมีขอบจอที่ค่อนข้างบางตามสไตล์ NanoEdgeทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพาสะดวกสบาย แม้จะไม่ได้เบาที่สุดๆ แต่ได้ฟีเจอร์จัดเต็มแบบไร้คู่แข่ง เพราะในตลาดตอนนี้แนวคิด 2 หน้าจอแบบนี้มีเพียง ASUS เท่านั้น พร้อมระบบระบายความร้อน AAS Plus (Active Aerodynamic System Plus) ที่เป็นการยกหน้าจอ ScreenPad Plus ให้สูงขึ้น ทำให้นำพามวลอากาศดีขึ้น 36%
ScreenPad Plus ขนาดใหญ่โตระดับ 14.1″ พร้อมเอียงรับกับมุมที่ 9.5 องศา ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับหน้าจอหลักก็ทำให้แทบจะไร้รอยต่อเลยทีเดียว เทคโนโลยีแบบนี้มีเพียง ASUS เท่านั้น ได้ความละเอียดเป็น 3840 x 1100 พิกเซล พาเนล IPS เกรดสูง ส่วนงานประกอบก็เป็นแบบ Unibody ที่แทบจะไร้รอยต่อเลยทีเดียว พร้อมตัดขอบตัวเครื่องรอบๆ แบบ Daimond Cutting ขอบตัวเครื่องด้านหลังมีความสวยงามเรียบง่าย โดยมีการเพิ่มคำว่า ZenBook Pro Duo ซ่อนเอาไว้ที่ใต้ ScreenPad Plus อีกด้วย
ซึ่งการออกแบบออกมาได้ดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของมุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบมุมเป็นเหลี่ยม มิติโดยรวมเป็นแบบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนให้ผิวสัมผัสที่ดี รวมถึงแกนพับหน้าจอขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางดูแข็งแรงทนทานสุดๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญเลือกใช้สีสันเป็น Celestial Blue ลักษณะสีน้ำเงินพร้อมแซมด้วยสีเงินลงไปที่ไม่เหมือนใคร ส่วนวัสดุงานประกอบจะเป็นอลูมิเนียมเกรดสูงทั้งหมดพร้อมความทนทานระดับ Military Standard 810G ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด
ตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องวัสดุจะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งโลหะเกรดนี้มีความแข็งแรงมากกว่าโลหะอัลลอยธรรมดาแสดงถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียดของการดีไซน์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฝาหลัง ตัวเครื่องด้านใน และใต้ตัวเครื่อง ทำให้มีทั้งความแข็งแรในด้านดีไซน์ฝาหลังใช้ลวดลายเป็นวงกลมล้อมรอบโลโก้ ASUS แต่ถูกขยับไปทางด้านขวา มีอีกจุดที่ทำมาได้น่าสนใจมากคือบานพับแบบ ErgoLift ที่เมื่อกางหน้าจอออก ตัวบานพับก็จะหนุนเครื่องให้ลาดเอียงขึ้นไปอีก (ทำมุมได้สูงสุดในทุกรุ่น)
ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการใช้พิมพ์งาน รวมถึงยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน และช่วยเพิ่มพลังเสียงให้กับลำโพงภายในจาก Harman / Kardon ได้อีกด้วย ส่วนช่องระบายอากาศก็จะมีอยู่ทั้งสองฝั่งซ้ายขวาของตัวเครื่อง พร้อมซ่อนอยู่ใต้หน้าจออีก 1 แถวยาว โดยเป็นช่องที่ใช้ระบายความร้อนจากภายใน ส่วนช่องดูดลมจากภายนอกเข้าไปข้างในจะอยู่ที่ฝาด้านล่างของตัวเครื่อง พร้อมการติดตั้งสติ๊กเกอร์บกบอกถึงคุณสมบัติมากมาย อาทิ การ์ดจอ GeForce RTX / PANTONE® Validated / Perfect Warranty / Microsoft Office 2019
สำหรับตำแหน่งของคีย์บอร์ดที่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน จากการที่เลื่อนชุดแป้นคีย์บอร์ดมาไว้ด้านล่างสุด และขยับในส่วนของทัชแพดออกไปด้านข้าง จากการที่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ดได้มีการติดตั้ง ScreenPad Plus เอาไว้นั่นเอง เรียกได้ว่ามีแนวคิดแบบเดียวกับ ASUS ROG ZEPHYRUS Duo 15 SE ซึ่งเป็นหน้าจอที่ยกขึ้นมา โดยแป้นพิมพ์ของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ได้เต็มที่ มีไฟ LED สีขาว แม้รูปแบบจะดูแปลกๆ หน่อยแต่เมื่อใช้งานไปสักพักก็จะเกิดความเคยชินทำให้การใช้งานตรงจุดนี้นั้นน่าจะไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไรนัก
Keyboard / Touchpad
เมื่อมีจอที่สองเกินขึ้น สำหรับ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ก็ได้มีการวางตำแหน่งของคีย์บอร์ดที่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน จากการที่เลื่อนชุดแป้นคีย์บอร์ดมาไว้ด้านล่างสุด และขยับในส่วนของทัชแพดออกไปด้านข้าง ทำให้บริเวณด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีพื้นที่ไว้ติดตั้ง ScreeenPad Plus ซึ่งจริงๆ นั้นทาง ASUS ได้ติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบจัดเต็มเอาไว้ด้วยด้านล่าง โดยมีช่องขนาดเล็กทำหน้าที่ดูดลมเย็นลงไปให้ผ่านทางฮีต์ไปป์ เรียกได้ว่างานประณีตละเอียดดีจริงๆ
โดยแป้นพิมพ์ของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวปุ่มเป็นพลาสติกสี Celestial Blue เข้ากับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีขาวตัดกับปุ่ม ซึ่งมีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ เป็นแบบ Chiclet มีระยะยุบ 1.4 มิลลิเมตร พร้อมความโค้งของปุ่มรับเข้ากับนิ้ว ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น สัมผัสนุ่ม มีระยะห่างของปุ่มกำลังพอดี้ เพื่อให้มีความรู้สึกที่สะดวกสบายในการพิมพ์ กดแรงๆ ก็ไม่มีอาการแป้นยวบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สามารถปรับได้ 3 ระดับ พร้อมกันนั้นปุ่มแถวบนยังจัดเต็มด้วย Hot Key มากมาย
ดีไซน์ทัชแพดแบบ NumberPad นั้นก็ใช้เป็นแบบซ่อนปุ่มคลิก โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็มีความนุ่มและเด้งรับได้น่าประทับใจ การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก นอกเหนือจากนั้นทัชแพดยังสามารถเปลี่ยนไปใช้งานในรูปแบบของปุ่ม NumPad ได้ ซึ่งตรงจุดนี้นั้นถือว่า ASUS สามารถที่จะใช้พื้นที่ได้อย่างมีประโยชน์ที่สุด จัดว่าเป็น DNA ใน ASUS Notebook หลานรุ่นเลยก็ว่าได้
ส่วนเหนือปุ่มทัชแพดจะมีปุ่ม Turbo มาให้ เพื่อให้เครื่องทำงาน 100% และปุ่มปิดเปิด ScreenPad Plus อย่างไรก็ตามสำหรับการใช้งานจริงๆ คงต้องปรับตัวซะหน่อยทั้งคีย์บอร์ดและทัชแพด เพราะข้อมือของเราต้องโดนขอบเครื่องตรงๆ แต่จริงๆ ASUS ก็มี Plam Rest มาให้อยู่แล้ว เราก็สามารถนำมาวางต่อได้ทันที ในส่วนนี้ถือว่าเป็นความใส่ใจของทาง ASUS ที่ต้องการให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายที่สุด
Screen / Speaker
ASUS ZenBook Pro Duo UX582 มีจุดเด่นอย่างขอบหน้าจอ NanoEdge มีขนาดความบางเฉียบซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีมิติเล็กลงไปอีก ได้ติดตั้งหน้าจอหลักเป็นแบบกระจกเทคโนโลยี OLED (Organic light-emitting diode) ขนาด 15.6″ ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล มาตรฐาน Ultra HD 4K ซึ่งให้คุณภาพสูงมากในการแสดงสีสันพร้อมรองรับ HDR ให้ความเรียบเนียนสุดๆ โดยให้ขอบเขตของสีระดับ 100% sRGB จริงๆ และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ไม่ว่ามองจากมุมไหนสีสันไม่มีเพี้ยนแน่นอน
รวมไปถึงยังมีตัวเลือกเป็นหน้าจอทัชสกรีน พร้อมรองรับ ASUS Active Pen อีกด้วย หน้าจอยังได้รับรองตามมาตรฐาน PANTONE Validated สำหรับความเป็นที่สุดในเรื่องความแม่นยำของสี ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง อย่างที่ไม่เคยมาก่อนในตลาดของโน๊ตบุ๊คประเทศไทยเลย อีกทั้งแม้ขอบหน้าจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนแบบคู่มาปกติที่ขอบด้านบน พร้อมด้วย IR Camera ไว้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพด้วยอุปกรณ์ Spyder5Elite แบบละเอียด ของหน้าจอของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอเทคโนโลยี OLED ที่ได้มาตราฐานการแสดงสีสันที่เหนือชั้นกว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คพาเนล IPS ทั่วไปที่เป็นแบบ LED Backlight ซึ่งในการแสดงสีสันที่สดใสมากๆ อย่างสีขาวก็สว่างสุดๆ และสีดำก็มีความลึกดำที่สุด ให้ความสวยงามอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนสำหรับโน๊ตบุ๊คที่ผ่านมาทั้งหมด รองรับทั้งการทำงานที่จริงจัง รวมไปถึงความบันเทิง ซึ่งสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้นได้
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 100% และ AdobeRGB ที่ 99% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ทั้งหมดในตลาด ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูงและแม่นยำอย่างที่สุด ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 400 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับสูงเช่นกัน ทำให้เมื่อนำไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรง ที่เน้นความเป็นมืออาชีพก็สามารถไว้ใจได้อย่างสบายๆ ว่าสีถูกต้องแน่นอน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง ที่จะเห็นได้ว่าช่องแถวบนมุมขวาและช่องแถวกลางขวาของจอมีค่าเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 400 cd/m2 แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายจะมีแสงสว่างลดลงที่ระดับ 8% นั่นเอง พร้อมด้วยค่า Delta-E < 2 ที่ค่าสีคลาดเคลื่อนน้อยจริงๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวมทุกด้าน ได้ 4.0 คะแนน เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว นับว่าได้เป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสิทธิภาพหน้าจอที่ดีสุดในตลาด ณ ตอนนี้ก็ได้
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง 2 ตัว ระบบเสียง Harman/Kardon พร้อมด้วย Smart AMP ให้ที่เสียงที่ดีมากทั้งความดังและคุณภาพ ผ่านตัวซอฟต์แวร์ ASUS SonicMaster ทั้งในเรื่องของเสียงเบสที่มีน้ำหนัก เสียงกลางที่สมดุล และเสียงแหลมที่ออกมาใสๆ พร้อมทั้งความดังและกังวาลที่มากกว่า พูดเลยว่ามีโน๊ตบุ๊คเพียงไม่กี่รุ่นที่ทำเสียงออกมาดีได้ขนาดนี้ ซึ่งตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น 2 ตัว ทำให้เสียงที่ออกมามีเสียงดังฟังชัด
ScreenPad Plus
จอ ScreenPad Plus เป็นพาเนล IPS แบบด้าน รองรับการทัชสกรีน บนความคมชัดระดับ 4K ที่ 3840 x 1100 พิกเซล อันเป็นเอกลักษณ์ของ ZenBook Pro Duo นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินและใช้งานจอภาพทั้งสองบนโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องได้อย่างเต็มความสามารถ หน้าจอสัมผัสขนาดอัตราส่วน 32:9 เหนือคีย์บอร์ดเพิ่มเนื้อที่การทำงานของจอภาพ ในขณะที่ยังคงรูปแบบโน๊ตบุ๊ค
โดยสามารถใช้งานจอ ScreenPad Plus ได้เสมือนเป็นจอแสดงผลที่สองของ Windows 10 Home ใช้แสดงภาพ หรือใช้ฟังก์ชั่นต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดเวลาผู้ใช้ด้วยซอฟท์แวร์ ScreenXpert 2 ซึ่งช่วยให้การใช้งานหลายๆหน้าต่างและแอพลิเคชั่นเป็นเรื่องง่าย รวมถึงสามารถใช้งานโต้ตอบข้ามหน้าจอระหว่างหน้าจอหลัก และ ScreenPad Plus ผู้ใช้สามารถเริ่มโหมดการทำงานเปิดโปรแกรมหลายโปรแกรมได้ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว
ScreenPad Plus ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ ทำให้ผู้ใช้ ใช้ง่ายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะฟีเจอร์ใหม่ อย่าง Control Panel ซึ่งจะทางานร่วมกับโปรแกรมทางด้านตัดต่อ Adobe จานวน 4 โปรแกรม ได้แก่ Pe / Ps / Ae / Lr โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน แถบคำสั่ง ได้ด้วยตัวเอง สามารถเปลี่ยนการจัดวาง เพิ่ม หรือ ลบ คำสั่งใดๆ ก็ได้ตามความถนัด และ แถบคำสั่งของโปรแกรมที่เราจัดไว้ จะไปอยู่ที่ ScreenPad Plus ให้ใช้งานได้อย่างสะดวก (จอที่สองจะสามารถใช้งานพวก Tools ต่างๆของโปรแกรมได้)
นอกจากนี้ยังสามารถลากแอพพลิเคชั่น, แถบเครื่องมือ หรือเมนูไปยังจอ ScreenPad Plus เพื่อลดความยุ่งเหยิงของหน้าจอหลัก และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น กลุ่มครีเอเตอร์สามารถเชื่อมต่อเครื่องมือในการทำงาน เช่น ตัวอย่างวีดีโอ, การควบคุมไทม์ไลน์, รหัส Windows หรือพาแนลเสียงเข้ากับ ScreenPad Plus เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างลื่นไหลมากที่สุด และเมื่อใช้งานแอพลิเคชั่นทางด้านโซเชียลบน ScreenPad Plus ก็ยังช่วยให้สามารถติดตามข่าวสารและตอบข้อความได้ทันทีในขณะทำงานโดยไม่จำเป็นต้องสลับหน้าต่างไปมา
ASUS ได้ร่วมมือกับนักพัฒนาซอฟแวร์ต่างๆ รวมถึง Corel เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของ ScreenPad Plus ให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม แอพลิเคชั่นบนวินโดวส์ทุกชนิดสามารถใช้งานบนจอ ScreenPad Plus ได้โดยไม่ต้องมีเวอร์ชั่นเฉพาะรองรับ สำหรับการใช้ปากกาสไตลัสที่ให้มากับเครื่องหรือปากกาสไตลัสรุ่นอื่นๆ ก็สามารถใช้งานกับจอ ScreenPad Plus ได้อย่างเสถียร ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหรือวาดภาพ
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ZenBook Pro Duo UX582 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต, และ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครัน พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, HDMI และช่องเสียบอแดปเตอร์ ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5 และ Wi-Fi 6 (802.11ax) พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
ส่วนการพกพาเองก็ถือว่าตัวเครื่องน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.5 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ ที่เน้นประสิทธิภาพการทำงานที่สูงเหมือนกันถือว่าหนักและหนากว่าเล็กน้อย ที่รับได้อยู่จากฟีเจอร์ล้ำๆ มากมาย แต่ก็โดดเด่นกว่าก็คือมิติตัวเครื่องเล็กลงมาก อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมในเรื่องการพกพาไปไหนมาไหน แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์ 240 Watt แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมต้นๆ ก็พอที่จะใส่กระเป๋าและเอาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ไม่ยากเย็นอะไร
Performance / Software
ASUS ZenBook Pro Duo UX582 มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 10H อย่าง Intel Core i7-10870H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D หรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง ซึ่งจัดว่าแรงกว่าในรุ่น Core i7-10750H หรือ Core i5-10300H ไปอีกระดับ
โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.0 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 32GB DDR4 Buss 2933MHz ทำงาน Dual Channel (16GB x 2 แถว) ติดตั้งแบบออนบอร์ด ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ แล้ว
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6)
ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็น Max-Q ไม่ใช่ Max-P เน้นความแรงแต่ปลดปล่อยความร้อนที่ต่ำกว่า สถาปัตยกรรม Ampere เทคโนโลยีการผลิต 8 นาโนเมตร โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เทียบเคียงอย่าง GeForce RTX 2080 ได้ดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่าด้วย เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท ทั้งตัวหนาหนักและบางเบา
รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แม้ว่าจะเป็น Max-Q แต่ความแรงไม่เป็นรองสเปก Max-P เลย อีกทั้งตัว Driver เองก็รองรับ NVIDIA Studio Driver ด้วย
โดยเป็นการนำการ์ดจอ GeForce Series มาใช้ในการทำงานด้านต่างๆ โดยเฉพาะงาน Content Cretor ได้ ส่งผลให้การ์ดจอของเราทำงานได้เต็มที่ยิ่งขึ้น อีกทั้งมีปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) มาช่วยจัดการงานต่างๆ ให้ลื่นไหลอย่างที่สุด เพื่อใช้งานซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ อาทิ Autodesk / Photoshop / Lightroom / Premiere Pro / OBS Studio / Unreal Engine 4 ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i7-10870H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากๆ อย่างน่าประทับใจสมกับเป็นรุ่นระดับบน เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryze / Intel Core รุ่นก่อนๆ ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยก RTX 3070 เองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนสุด ที่เน้นการทำงาน 3D เป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD รุ่นระดับบน ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD M.2 SATA3 หรือฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3,372 MB/s และเขียนที่ 3,011 MB/s สมกับเป็นรุ่นบนๆ ของตลาดจริงๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,584 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Creator Notebook สเปกแรงจากชิปประมวลผล Intel Core i7-10870H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming รุ่นบนอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 9,030 และประมวลผลคาดการณ์เกม Apex Legends ปรับสุด Full HD ได้ 140+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 30 – 90 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 8GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลจริงๆ
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ ที่ความละเอียด Native 4K Ultra HD หรือถ้าอยากลื่นกว่านี้ก็ปรับเป็น Full HD ก็ทำได้
ASUS ZenBook Pro Duo UX582 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถปรับโหมดพัดลม ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน รวมไปถึงโหมดพัดลมและโปรไฟล์สีการแสดงผลอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน จากการทดสอบใช้งานจริง สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ จากการปิด ScreenPad Plus และดู Youtube ผ่านทาง Microsoft Edge จอหลักจอเดียว เชื่อมต่อผ่านทาง Wi-Fi และปรับเป็น Power Saver Mode อย่างไรก็ตามถือว่าใช้งานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแล้ว อย่างลืมว่านี่ใช้ชิปเป็น Core i7-10870H + RTX 3070 คาดว่าอาจจะได้น้อยกว่านี้กรณีที่เปิดพร้อมกัน 2 หน้าจอ
ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 + องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่ 100% ยาวนาน จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 98 องศาเซลเซียสสำหรับชิปประมวลผล ส่วนการ์ดจออยู่ที่ 89 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีประมาณนึง ที่แม้ว่ามีอุณหภูมิที่สูงระดับใกล้ๆ 100 องศาเซลเซียส แต่ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด รวมไปถึงตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนจนรบกวนการใช้งานด้วย
Conclusion / Award
เรียกได้ว่า ASUS ZenBook Pro Duo UX582 เป็นโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ สาย Contenr Creator ที่ดีที่สุดในตลาดรุ่นหนึ่ง ทั้งจากความล้ำหน้ากว่าใครๆ ด้วยหน้าจอที่สอง ScreenPad Plus ขนาด 14.1″ เน้นประสบการณ์ใช้งานประสิทธิภาพอีกหนึ่งรุ่นที่พร้อมชนกับโน๊ตบุ๊คระดับท็อปในทุกๆ แบรนด์ โดดเด่นกับความใหญ่และใช้งานได้จริงๆ พร้อมด้วยหน้าจอหลักที่เป็นเทคโนโลยี OLED ความละเอียด 4K Ultra HD ที่สำหรับโน๊ตบุ๊คในตลาดประเทศไทยยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง แสดงผลสีสันได้ขั้นเทพอย่างที่สุด
ที่มีความเจ๋งยิ่งกว่าตรงที่ชิปประมวลผลมีรุ่น Intel Core i7-10870H ที่แม้จะไม่ใช้ Intel Core i Gen 11H45 แต่ก็มีประสิทธิภาพที่สูงพร้อมความสเถียรอยู่ จับคู่การทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-Q ตัวแรงรุ่นล่าสุด ที่สามารถใช้งานได้ลื่นไหล รองรับการทำงานประมวลผลที่หนักๆ หรือหลากหลายพร้อมๆ กัน และความบันเทิงทั่วไปอย่างดูหนังฟังเพลงก็ตอบโจทย์ทั้งหมด จากความแรงของมันทำให้เหมือนเรายก Desktop PC สเปกเทพๆ ไปใช้งานตลอดเวลาเลยล่ะ
ส่วนสเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มด้วยแรมขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB รองรับงานทั่วไปลื่นไม่มีสะดุด หรืองานหนักๆ ประมวลผลเยอะ เปิดหลายๆ โปรแกรมก็เอาอยู่ ส่วนการเล่นเกมก็สบายๆ หายห่วงเลย พร้อมปรับกราฟิกสุดได้ทุกๆ เกมที่ความละเอียด 4K Ultra HD ตาม Native ของหน้าจอหลัก และแม้ตัวเครื่องมีความร้อนสูง แต่ด้วยระบายความร้อน AAS Plus ที่ยก ScreenPad Plus ให้สูงยิ่งขึ้น ก็ช่วยนำพาความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีความลื่นไหลไม่สะดุดปแมว่าเครื่องจะประมวลผลหนักก็ตาม (ดีกว่า UX581 แบบรู้สึกได้)
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ASUS ZenBook Pro Duo UX582 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Intel Core i7-10870H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 ที่ทรงพลังในทุกๆ การทำงานสาย Creator พร้อมแรมตัวเครื่องที่ให้มา 32GB มาตรฐาน DDR4 Bus 2933 MHz และ SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe ความจุ 1TB ทีทั้งใหญ่โตและให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงหน้าจอ OLED 4K UHD แสดงผลภาพดีมาก ทั้งทำงานหรือเล่นเกมก็สมบูรณ์แบบ รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ZenBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ สีบอดี้วยสีสันอย่าง Celestial Blue ลักษณะสีน้ำเงินพร้อมแซมด้วยสีเงินลงไปที่ไม่เหมือนใครพร้อมตัดขอบตัวเครื่องรอบๆ แบบ Daimond Cutting ขอบตัวเครื่องด้านหลังมีความสวยงามเรียบง่ายแต่ดูแพง ส่วนวัสดุงานประกอบจะเป็นอลูมิเนียมเกรดสูงทั้งหมดพร้อมความทนทานระดับ Military Standard 810G ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด
Best Graphic
สุดทางจริงๆ สำหรับหน้าจอแสดงผลของ ASUS ZenBook Pro Duo UX582 ที่เป็นหน้าจอ OLED ขนาด 15.6″ บนความละเอียด Ultra HD ระดับสูง sRGB 100% พร้อมจอที่สอง ScreenPad Plus เป็นพาเนล IPS แบบด้าน รองรับการทัชสกรีนทั้งคู่ ใช้ได้ทั้งนิ้วปากกา ซึ่งใช้งานหน้าจอของเราสมบูรณ์แบบด้วยความเรียบเนียนไม่เห็นรอยหยัก ด้วยการ เพิ่มสเกลหรือจะปรับให้เป็น Native เพื่อพื้นที่การทำงานก็ทำได้ ที่สำคัญทำให้เราเปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานโน๊ตบุ๊คแบบเดิมๆ ไปตลอดกาล กับหน้าจอที่สองที่ทำอะไรได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปหน้าจอเดียวที่เคยมาทั้งหมด ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีคู่แข่งด้วย