Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Asus

รีวิว ASUS ROG Strix G15 สเปก Ryzen 5 5600H + RTX 3050Ti + RAM 16GB + SSD 512GB แรงลื่นคุ้มค่าสุดๆ ราคา 32,990 บาท

ASUS ROG Strix G15  (GL543) เป็น Gaming Notebook ปี 2021 ได้ความแรง ฟีเจอร์ และราคาที่คุ้มค่ามากๆ ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H การ์ดจอ RTX 30 Series ด้วยค่าตัว 32,990 บาท เน้นความเป็น Gaming ที่มากกว่า TUF Series อีกทั้งมีให้เลือกหลากหลายรุ่น โดดเด่นด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB พร้อม Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ที่เราสามารถปรับแต่งได้

นอกจากนี้ยังมาพร้อมด้วยระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับสารโลหะเหลว (Liquid metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ นับว่าส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นอย่างที่หาไม่ได้ใน Gaming Notebook ทั่วไป ทำงานร่วมกับพัดลม 83 ใบพัดและมีช่องไล่ฝุ่นอัตโนมัติ 

Advertisement

ASUS ROG Strix G15

รุ่นที่ได้รับมารีวิวก็คือ ASUS ROG Strix G15 GL543 ซึ่งมีราคาถูกที่สุดในตอนนี้ ในหลายๆ ส่วน เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสเปกตัวแรงได้ชิปประมวลผลตัวแรงแต่คุ้มค่าสุดๆ อย่าง AMD Ryzen 5 5600H ที่ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด สถาปัตยกรรม Zen 3 พร้อมด้วยการ์ดจอแยกที่ประสิทธิภาพในราคาที่ไม่แพง รุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti ได้ความสดใหม่ ซึ่งจัดว่าเป็นรุ่นแรกในไทยที่พร้อมขายด้วย 

สเปกอื่นๆ ได้หน่วยความจำแรมขนาด 16GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe 512GB อีกทั้งได้หน้าจอเป็น 15.6″ Full HD พาเนล IPS ที่ 144Hz ที่ต้องบอกว่าเป็นหน้าจอที่ดีสำหรับเล่นเกม การเชื่อมต่อก็ครบถ้วนด้วย Wi-Fi 6AX และ USB 3.2 Type-C ที่รองรับการชาร์จไฟได้ กับราคาเพียง 30,000 บาทต้นๆ ที่สำคัญคือได้ประกัน 3 ปี On-site ที่มีบริการซ่อมฟรีถึงบ้าน โดยปีแรกมี Perfect Warranty ที่เป็นประกันอุบัติเหตุด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าต่อสิ่งที่ได้จริงๆ

VDO Review

NBS Verdict

สรุปแล้ว ASUS ROG Strix G15 (GL543) ถือว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2021 ที่เน้นความคุ้มค่า ได้ฟีเจอร์ Gaming จริงจังแบบ eSport ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ ซึ่งหลายๆ ส่วนอัพเกรดมาจากรุ่นก่อนหน้า มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5600H และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti ที่แรงกับทุกเกมในตลาดแน่นอน ในราคาที่คุ้มค่าไม่แพงเลย ที่ 32,990 บาท เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ รวมถึงฟีเจอร์ Gaming ต่างๆ อย่างที่โน๊ตบุ๊คทั่วไปไม่มีแน่นอน 

ASUS ROG Strix G15

เรื่องระบบระบายความร้อนก็ทำได้ดี ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง  เน้นความคุ้มค่าต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีสเปกที่แรงกว่า เป็น Ryzen 9 5900HX + RTX 3060 ราคา 49,990 บาท จนไปถึง 59,990 บาท ที่เป็นสเปก Ryzen 9 5900HX + RTX 3070 นอกจากนี้ยังมีรุ่นหน้าจอใหญ่ที่ 17.3″ อย่าง ASUS ROG Strix G17 ด้วย 

ในส่วนของรุ่นที่นำมารีวิวนี้เป็นสเปกเริ่มต้นของ ASUS ROG Strix G15 คาดว่าจะมีตัวที่ราคาหลากหลายกว่านี้โดยใช้สเปกเป็น Ryzen 7 5800H ซึ่งเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H รุ่นใหม่รุ่นยอดนิยม ส่วนตัวท็อปก็จะเป็น Ryzen 5900HX ที่ให้ประสิทธิภาพที่แรงที่สุดพร้อม OC (Overcolck) ได้ รองรับการทำงานพื้นฐานได้สมบูรณ์อบบ หรือจะเอาไปทำงานหนักๆ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็สบายมากๆ ที่เราสามารถเลือกซื้อได้ตามงบประมาณได้เลย 

ASUS ROG Strix G15

ในส่วนของการ์ดจอก็มีให้เลือกเป็น NVIDIA GeForce RTX 3050Ti /  RTX 3060 / RTX 3070 ที่เป็นรุ่นใหม่ (ตัว Max-P ปกติไม่ใช่ Max-Q) เล่นเกมได้ลื่นไหลเป็นมาตรฐานที่ยอดเยี่ยม กว่า RTX 20 Series รุ่นก่อนหน้า ก็สามารถเลือกซื้อได้เช่นกัน ติดตั้งแรมมาให้ขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB โดยได้ความเร็วที่น่าประทับใจกว่า TUF Series อีกด้วย  มีข้อมสังเกตก็คือ สเปกจอ 144 Hz จะเป็นเกรด IPS กลางๆ ไม่เหมือน 300Hz ที่ให้ขอบเขตสีที่ดีกว่า  

เรียกได้ว่าใครต้องการ Gaming Notebook ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นที่ดีกว่า Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าราคาประหยัดล่ะก็ สามารถเลือกซื้อเป็น ASUS ROG Strix G15 GL543 ได้เลย แน่นอนว่าได้ฟีเจอร์ Gaming อย่างไฟคีย์บอร์ด RGB ไฟ Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง รวมถึงระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับสารโลหะเหลว (Liquid metal) จากทาง Thermal Grizzly ที่ต้องบอกว่าราคาสูงกว่า TUF Gaming A15 (FA506) ก็จริง แต่ก็ได้อะไรที่มากกว่าเยอะเช่นกัน 

ASUS ROG Strix G15

 จุดเด่น ASUS ROG Strix G15

  • ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์แฟนๆ ROG สไตล์ปี 2021 พร้อมงานประกอบที่ดี 
  • ประสิทธิภาพแรงราคาคุ้มค่า ด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H การ์ดจอ RTX 30 Series
  • ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการติดตั้ง SSD M.2 อีก 1 ตัวได้ทันที
  • คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีแบบ Per-key RGB พร้อม Surrounded Light Bar ด้วย AURA RGB
  • มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
  • มาพร้อม Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที
  • มีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน เพียงพอต่อการใช้งาน 
  • ลำโพงดัง 4W x 2 คุณภาพเสียงดีด้วยเทคโนโลยี Smart Amp
  • ระบบระบายความร้อนดีขึ้นด้วยโลหะเหลว (Liquid Metal) เทียบกับสเปกนี้
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 13 – 14 ชั่วโมง
  • รองรับการชาร์จไฟผ่านทาง USB-PD (ชาร์จช้าอแดปเตอร์ปกติ)
  • ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 ปีแรกมีประกับอุบัติเหตุ

ข้อสังเกต ASUS ROG Strix G15

  • ไม่มีกล้องเว็บแคมมาให้ในตัว
  • ดีไซน์โดยรวมคราวรุ่นก่อน แต่มีการปรับลวดลายให้สวยยิ่งขึ้น ซึ่งก็สวยขึ้นจริงๆ
  • หน้าจอ 144Hz ได้สเปกพาเนล IPS เกรดกลางๆ ต่างจาก 300Hz ที่ขอบเขตสีดีกว่า 

Specification

ASUS ROG Strix G15 ปี 2021 รุ่นที่เราได้มารีวิวล่าสุดเป็นสเปกเริ่มต้น เป็น AMD Ryzen 5 5600H ความเร็ว 3.30 – 4.20GHz ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพดี พร้อมการ์ดจอแยกรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti (4GB GDDR6) ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz หนึ่งแถว (อัพได้สูงสุด 32GB) พร้อมฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ด้วย  

หน้าจอได้ขนาดเป็น 15.6″ กับความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.2 Type-C, HDMI, 3 x USB 3.2 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX (2×2)

สนนราคา ASUS ROG Strix G15 ราคาอยู่ที่ 32,990 บาท ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 Home พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก แน่นอนว่ามีซอฟต์แวร์อย่าง Armoury Crate และ MyASUS ช่วยปรับแต่งและสจัดการ ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าถูกอัพเกรดเป็นแบบ 3 ปี มีบริการ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านด้วย พร้อมประกันอุบัติเหตุอีก 1 ปี จากทาง ASUS Thailand เหมือนเดิม 

ASUS ROG Strix G15 GL543 ราคา 32,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : AMD Ryzen 5 5600H (6C/12T & 3.30 – 4.20GHz)
  • GPU : AMD Radeon 7 + GeForce RTX 3050 Ti (4GB GDDR6)
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 15.6″ Full HD IPS 144Hz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 Home
  • Warranty : 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty

Hardware / Design

ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix G15 เป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ปี 2021 ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไปตามสไตล์ ROG Strix สเปกหน้าเว็บไซต์มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม แต่ชั่งจริงแล้วจะอยู่ที่ 2.1 กิโลกรัมโดยประมาณ มีความบางที่ 22.6 ~ 27.2 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าโดยรวมมาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบ ได้รับ DNA มาจาก ASUS ROG Strix G15 G542 แต่ว่าทำได้ดีขึ้นกว่าในหลายๆ ส่วน

ได้ชุดระบายความร้อนด้านหลังที่รูปแบบ 3 มิติ พร้อมระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดีไซน์ช่องระบายความร้อนแบบ 3D Flow Zone เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ นำความร้อนออกจากภายในตัวเครื่องได้รวดเร็วที่สุด  รวมไปถึงระบบกำจัดฝุ่น Anti-Dust Cooling เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเลือกใช้โลหะเหลว (Liquid Metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ 

ASUS ROG Strix G15

ให้ผิวสัมผัสบนตัวเครื่องในส่วนที่ต้องใช้งานมีอุณหภูมิไม่สูงกว่า 40C (ทดสอบที่อุณหภูมิห้อง 25C) วัสดุโดยรวมทั้งหมดเป็นพลาสติกให้สัมผัสที่ดีพรีเมียม และรู้สึกดีกว่าพลาสติกแบบธรรมดาทั่วไป พร้อมทำลวดลายโฉบเฉียบตามสไตล์ของ ROG แต่มีการปรับรายละเอียดเล็กน้อยกับลวดลาย ROG เล็กๆ ที่ให้ความเป็น Gaming Notebook ที่จัดเต็มด้วยไฟ RGB มากกว่า อย่างฟีเจอร์ Surrounded Light Bar ที่เป็นขอบตัวเครื่องด้านหน้าทั้งหมด พร้อมกินพื้นที่มาด้านข้างเล็กน้อย

ได้เกมมิ่งคีย์บอร์ดแบบ Per-key RGB ให้สามารถปรับแต่งแสงไฟได้ตามสไตล์ของผู้ใช้อย่างอิสระมากถึง 16.7 ล้านสี ผ่านฟีเจอร์ Aura Sync รวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่รองรับ Gaming Gear ของ ASUS เอง ให้รูปแบบคีย์บอร์ดที่แตกต่างจาก Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป จากการที่ตัด Numpad ด้านขวาออกไป พร้อมขยายปุ่มคีย์บอร์ดให้มีความกว้างขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ Gamer อย่างแท้จริง 

ASUS ROG Strix G15

ส่วนหน้าจอของ ASUS ROG Strix G15 จะเป็นแบบบานพับสองแกนดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณ 145 องศา พร้อมเว้นขอบเอาไว้โชว์ไฟแสดงไฟ LED การทำงานต่างๆ ส่วนด้านท้ายและขอบเครื่องทางขวาจะเห็นถึงช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 4 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ ความเร็วรอบสูงกำลัง 12V แบบ 83 ใบพัดรูปแบบใหม่ แยกฝั่ง ซ้าย-ขวา และท่อฮีทไปป์จำนวน 4 ท่อขนาดใหญ่ โดยมี Copper Plate ที่ครอบทับบริเวณชิ้นส่วนที่จะเกิดความร้อน เพิ่มอัตราการไหลเวียนอากาศได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับพัดลมแบบ 5V ปกติ) 

ASUS ROG Strix G15

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่อง ASUS ROG Strix G15 เป็นวัสดุพลาสติกมีลวดลาย ROG พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นเป็นแนวยาวใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รองรับการอัพเกรดแรมได้ 1 แถว, SSD M.2 ซึ่งตัดการรองรับอัพเกรด HDD ออกไปแล้ว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย

ASUS ROG Strix G15

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุทั้งหมด ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ASUS ROG ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ เแม้ว่าดีไซน์จะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ กับมาตรฐานใหม่ของ Gaming Notebook ช่วงต้นปี 2021 ที่ไม่ใช่แค่แรงลื่นล้ำจากสเปกภายใน แต่ได้ฟีเจอร์อื่นๆ และความสดใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งต้องยอมที่จะตัดกล้องเว็บแคมออกไปเลย ถ้าจะใช้ต้องหามาเอง อย่างไรก็ตามสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด 

Keyboard / Touchpad

ASUS ROG Strix G15 GL543 เป็นคีย์บอร์ดมีไฟหลากสีแบ่งเป็น 4 โซน ด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG ที่สามารถปรับแต่งสีไฟเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายในได้ในแต่ละปุ่ม ให้ความสะดวกด้วยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปพร้อมจังหวะเด้งสุดๆ

พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key Rollover & Anti-Ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ ปุ่มปรับโหมดการทำงาน และ ปุ่ม Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility  ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์

ASUS ROG Strix G15

ที่สำคัญมีในส่วนของพร้อมปรับรอบพัดลมได้ 4 แบบ ทั้ง Windows / Balance / Performance / Turbo ทำงานด้วยพัดลมคู่ ผ่านปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 หรือ Hot Key ด้านบน ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด หรือ Balanced mode เพื่อความสมดุลในการใช้งาน  ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายขวาแล้ว ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วย 

Screen / Speaker

หน้าจอแสดงผลของ ASUS ROG Strix G15 มีขนาด 15.6” ความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูงแบบด้าน Anti-glare สำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ด้วย Refresh Rate สูงสุด 144Hz ได้ Response Time ที่ 3msให้ทุกการเล่นเกมคมชัด สมจริง ลื่นไหลและยังแสดงสีได้อย่างแม่นยำสำหรับการทำงานเฉพาะทางอีกด้วย แน่นอนว่ามีดีไซน์หน้าจอขอบจอบางเฉียบทั้งขอบด้านข้างและด้านบน พร้อมเลือกตัดกล้องเว็บแคมออกไป ทำให้ถ้าใครต้องการใช้งานต้องไปซื้อแบบภายนอกมาเชื่อมต่อเอง 

ASUS ROG Strix G15

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ROG Strix G15 รุ่นนี้ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพที่ดี ได้ Refresh Rate 144Hz ซึ่งแตกต่างจากสเปก 300Hz จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 59% และ AdobeRGB ที่ 4% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับที่ดีแบบมาตรฐานที่ควรจะเป็นของโน๊ตบุ๊คราคาช่วงนี้ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน นับได้มาพัฒนาจากรุ่นปีก่อนได้ยอดเยี่ยม

s3 5

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมขวาบนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 16% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ชัดเจนว่าขอบเขตสีน้อยกว่าสเปก 300Hz แน่นอน 

ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง กำลัง 4W x 2 พร้อม Smart Amp เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะไม่มีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม เรื่องของความดังของเสียงถือว่ามากกว่า 2 เท่า ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG Strix G15 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมตัวจริงที่มีพอร์ทมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 พอร์ต, และ USB 3.2 Type-C อีกจำนวน 1 พอร์ตมาให้ด้วย ซึ่งรองรับการโอนถ่ายข้อมูล ชาร์จไฟด้วยมาตรฐาน USB-PD ทั้งอแดปเตอร์หรือ Power Bank (แนะนำว่าควรใช้รุ่น 65W ขึ้นไป) นับได้ว่าในส่วนฟีเจอร์นี้เยี่ยมยอดกับการชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องที่สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งชาร์จช้ากว่าอแดปเตอร์หลัก แต่ก็ถือกว่าหลายๆ รุ่นที่ไม่มี 

ASUS ROG Strix G15

พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, พอร์ต LAN ตัวเต็ม และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภายนอกในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX ได้เทคโนโลยี RangeBoost แบบ 2 x 2 ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ไม่มี SD Card Reader ติดตั้งมาให้ด้วย

ASUS ROG Strix G15

ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า ASUS ROG Strix G15 มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.1 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ตัวอื่นๆ มิติตัวเครื่องโดยรวมมีขนาด 360 x 275 x 21~25.8 มิลลิเมตร อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมในเรื่องการพกพาไปไหนมาไหน แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์ 200 Watt แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 2.7 กิโลกรัม ก็พอที่จะใส่กระเป๋าและเอาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ไม่ยากเย็นอะไร ถือได้ว่าสะดวกสำหรับการเคลื่อนย้ายอยู่ 

Inside / Upgrade

ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมดประมาณ 10 ตัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี 

อย่างไรก็ตามสำหรับเครื่องนี้ มีข้อควรระวังก็คือ Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ซึ่งจะมีสายแพรเชื่อมต่อไว้อยู่ ไม่แนะนำให้ถอดโดดเด็ดขาด ฉะนั้นเมื่อแกะฝาแล้วให้ถอดวางไว้ใกล้ๆ กัน และระมัดระวังมากๆ ขณะที่อัพเกรดหรือทำความสะอาด 

ASUS ROG Strix G15

เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะสามารถอัพเกรดแรม DDR4 Bus 3200 MHz ได้อีก 1 แถวทันที (ติดตั้งมาแล้ว 16GB แถว SO-DIM RAM) รองรับการอัพเกรดได้สูงสุด 64GB (Dual Channel) และ SSD ขนาด 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปและใข้งานเล่นเกม AAA แต่ถ้าใช้งานหนักๆ จนไปถึงการสตรีมเกม หรือเปิดโปรแกรมเยอะๆ แนะนำให้อัพเกรดเป็นแรม 32GB จะดีมากๆ

ระบบระบายความร้อนใช้ในการพัดลมเข้าออกนั้นจะอยู่ที่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง 2 ช่อง (มีช่องไล่ฝุ่น) ด้านข้างอีก 2 ช่อง โดยการเชื่อมต่อระหว่างส่วนของพัดลมนี้กับชิป CPU / GPU จะทำผ่าน Heat Pipe จำนวน 4 เส้นขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือใช้ซิลิโคนแบบพิเศษแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ด้วยสารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal ระดับพรีเมี่ยมจากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล ซึ่งการทดสอบบอกได้เลยว่าน่าประทับใจมากๆ แม้สเปกจะแรงขึ้นแต่ควบคุมได้ดี 

Performance / Software

สำหรับ ASUS ROG Strix G15 มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวเริ่มต้น Gaming ของ AMD อย่าง Ryzen 5 5600H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่า Ryzen 5000U เลือกใช้กับ Gaming Notegook ที่คุ้มค่า ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม Cezanne มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 3.30 – 4.20 GHz แบบ 6 Core/ 12 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 16MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก

มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 16GB x 1 แถว แบบ SO-DIMM ซึ่งเราสามารถถอดอัพเกรดเพิ่มได้ทันที เพราะว่างอยู่แล้ว 1 แถว กับขนาดแรมที่รองรับสูงสุดที่ 64GB พร้อมกับมี SSD M.2 NVMe PCIe 3.0 ความจุ 512GB ตัว ซึ่งก็รองรับการอัพเกรดอีก 1 ตัวทันทีเช่นกัน พร้อมเชื่อมต่อแบบ Raid 0 เพิ่มความแรงไปอีก แน่นอนว่าสามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ใช้งานลื่นไหลทันทีแบบรวดเร็วอย่างที่สุด

c1 4.   c2 4

ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 7 มีความเร็วในการทำงานที่ 1800MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเป็นหลัก กับหน้าจอความละเอียดสูงให้ความลื่นไหลเป็นอย่างดี ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ

อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti (4GB GDDR6) เป็น Max-P ปกติ ไม่ใช่รุ่น MAx-Q สถาปัตยกรรม Ampere โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เทียบเคียงอย่าง GeForce GTX 1660 Ti ได้ดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แน่นอนว่ารองรับการ Overclock จาก ASUS ด้วย

g1 4.   g2 4

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5600H คะแนนก็อยู่ในระดับที่ดี สมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Ryzen 5000H เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยก RTX 3050 Ti เองก็มีประสิทธิภาพสูงกว่า GTX 1660 Ti ตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนสุด ที่เน้นการทำงาน 3D เป็นหลัก

cine15 4.   cine20 4

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว โดยใช้เป็นเกรดสูงสุด ซึ่งทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจมากๆ บนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe พร้อมรองรับอีก 1 สล็อต ทำให้ทำ Raid เพื่อเพิ่มความเร็วแรงมากกว่า SSD M.2 ทั่วไปก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 3107 MB/s และเขียนที่ 1624 MB/s ที่ต้องบอกว่าเหนือชั้นกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด

ssd 4

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 6,120 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ด้วยการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุด จากชิปประมวลผลและการ์ดจอแยกระดับ Gaming รุ่นเริ่มต้น ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในช่วงราคาใกล้เคียงกันเมื่อปีก่อน รองรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป หรือทำงานหนักๆ สอบผ่านได้สบายๆ

PCMark 10

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 4,391 และประมวลผลคาดการณ์เกม Apex Legends ปรับสุด Full HD ได้ 120+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน 

3dm

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 130 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย

จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรท RE 3 Remark / GTA V / BF V / Farcry 5 ที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 Remark ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 4GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าประทับใจอยู่

gametest

ตเกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน  สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย  ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook สเปกก่อนหน้าทั้งส่วนของ AMD Ryzen จะเห็นว่าแรงกว่าเดิมพอตัวในรุ่นราคาที่ใกล้เคียงกัน

ASUS ROG Strix G15 GL543 R5 RTX3050Ti Review 18

ซอฟต์แวร์  Armoury Crate ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆของระบบรวมไปถึงการปรับแต่งไฟด้วย Aura Sync นั้นทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว หรือผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลากหลายโปรไฟล์ ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ

arm

แน่นอนว่า ASUS Notebook รุ่นนี้เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ที่สำคัญยังเลือกเชื่อมต่อกับมือถือสมาร์ทโฟนผ่านทางซอฟต์แวร์ตัวนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน

myasus 1

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Strix G15 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวได้กว่า 11:30 ชั่วโมงทีเดียว เรียกได้ว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้นานมากๆ ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นต่างๆ ในยุคก่อน คาดว่าจะการที่ตัวเครื่องจัดการพลังงานได้ดีขึ้นจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H รุ่นใหม่ พร้อมกันนั้นยังรองรับ USB-PD ในการชาร์จไฟกลับเข้าเครื่องด้วย 

batt 4

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ตัวเครื่องเมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ซึ่งทั้งหมดนี้ดูผ่านทางซอฟต์แวร์ Hardware Monitor เพื่อดูว่าชิปประมวลผล CPU ว่าจะร้อนที่สุดอยู่เท่าไรในการใช้งานจริงๆ

ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องสำหรับชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 88 องศาเซลเซียสเท่านั้น ที่ต้องบอกว่าค่อนข้างเย็นทีเดียวถ้าเทียบความแรงที่ได้จากรุ่นก่อนๆ จากการใช้สารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal ช่วยนำพาความร้อนได้เป็นอย่างดี ส่วนที่เป็นการ์ดจอแยก GPU จะอยู่ที่ 89 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่ามีความเย็นพอตัว จากที่เป็นการ์ดจอรุ่นใหม่ ส่วนเสียงพัดลมก็ดังขึ้นจากการที่เปิดฟีเจอร์ Turbo แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง

temp 2

Conclusion / Award

ASUS ROG Strix G15 เป็น Gaming Notebook สเปก Ryzen 5 5600H ทำงานร่วมกับการ์ดจอ GeForce RTX 3050 Ti รุ่นแรกที่พร้อมขายในไทย สนับสนุนทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง ASUS ROG Strix G15 GL542 ทั้งความแรงและราคาที่คุ้มค่า ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า ด้วยลวดลายใหม่ สีสันใหม่ เน้นฟีเจอร์และความพรีเมียมกว่า TUF  มีไฟ RGB จัดเต็ม งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด 

ASUS ROG Strix G15

เรียกได้ว่าเหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ช่วงราคาเดียวกัน โดดเด่นด้วยสเปคประสิทธิภาพสูงกว่ามาก ทั้งในการเล่นเกมหนักๆ ระดับ AAA หรือว่าการทดสอบอื่นๆ ที่บอกเลยว่าของจรอง อีกทั้งยังควบคุมความร้อนและจัดการแบตเตอรี่ได้ดีกว่าเดิมมากๆ ที่สำคัญคือ ได้ประกัน On-site Service ระยะเวลา 3 ปี ซ่อมฟรีถึงบ้าน และประกันอุบัติเหตุในปีแรก ก็นับว่ามีความคุ้มค่าจริงๆ 

ที่น่าสนใจอื่นๆ ก็จะเป็นระบบระบายความร้อนอย่าง ROG Intelligent Cooling และ สารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal ระดับพรีเมี่ยมจากทาง Thermal Grizzly ที่ใส่ทุกอย่างจัดเต็มกว่าทีเคยมีมา ที่แม้สเปกจะแรงขึ้นแต่ก็เย็นกว่าเดิม คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีแบบแบ่งเป็น 4 โซน ด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG และ Light Bar ที่สามารถปรับแต่งเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายใน

ASUS ROG Strix G15

ตัวแป้นคีย์บอร์ดเองก็ให้ความสะดวกด้วยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ อีกทั้งยังมี Hot Key การเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.2 Type-C ที่รองรับการชาร์จไฟมาตรฐาน PD เข้าเครื่อง และมี USB 3.2 Type-A / Gigabit Ethernet / Bluetooth 5.1 / Wi-Fi 6 AX ASUS RangeBoost ใช้งานได้ครบครัน

อย่างไรก็ตามใช่ว่า ASUS ROG Strix G15 จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว อย่างกล้องเว็บแคมที่ไม่มีมาให้เหมือนรุ่นอื่นๆ ต้องบอกว่า ASUS จากการที่ต่อยอดมาจากโมเดลรุ่นก่อน ทำให้ยังไม่มีกล้องเว็บแคมเช่นเดิม เข้าใจว่า Gamer ใช้งานกันน้อยอยู่แล้ว ส่วนถ้าใครจะสตรีมจริงจังยังไงก็คงต้องซื้อแยกอยู่ดีนั่นเอง รวมไปถึงหน้าจอพาเนล IPS ที่เป็นสเปก Refresh Rate 144 Hz ให้ค่าขอบเขตสีที่น้อยกว่าสเปก Refresh Rate 300Hz ด้วย 

ASUS ROG Strix G15 GL543 R5 RTX3050Ti Review 54

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Strix G15 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Gaming

ASUS ROG Strix G15 GL543 เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่ได้ความแรงจัดๆ และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ 144Hz พาเนล IPS ขอบจอบางเฉียบ ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม ผสานการทำงานของ Liquid Metal ระดับพรีเมี่ยม ช่วยนำความร้อนเป็นอย่างดี รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Armory Crate ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และอื่นๆ อีกมากมาย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมเน้นความคุ้มค่าที่มาพร้อมฟีเจอร์ ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกในตลาด Gaming Notebook ที่ดีรุ่นหนึ่ง ในช่วงราคา 30,000 บาทต้นๆ เท่านั้น 

 award new Gaming 

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ROG โน๊ตบุ๊ค Gaming ระดับ eSport มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นเห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG Strix G15 GL543 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วหรูหราตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม เน้นความ eSport ตัวจริง เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็น 3 มิติ ที่โดดเด่น อีกทั้งยังมีไฟ RGB Light Bar รอบตัวอีกด้วย เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

award new Design

Best Value

ด้วยสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5600H รุ่นล่าสุด และการ์ดจอรุ่นใหม่ตัวแรงคุ้มค่า NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti (4GB GDDR6) Max-P ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz และ รวมไปถึง SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทียบความแรงและฟีเจอร์ทั้งหมดที่ได้กับราคาคุ้มค่ามากๆ แนะนำว่าเลยว่าน่าซื้อสุดๆ 

award new value

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก