เมาส์เล่นเกมกับเมาส์ทั่วไป แบบไหนดี? ซื้อแพงได้อะไร ซื้อถูกดีอย่างไร?
เคยทะเลาะกันกับเพื่อนมั้ยครับ ซื้อเมาส์เล่นเกมแพงๆ ก็เอามาโชว์เอามาขิงกันซะงั้น ยิ่งหลายคนก็คิดว่าแค่เป็นเมาส์ก็เอามาเล่นเกมได้เหมือนกันหมด แล้วทำไมต้องซื้อแพงๆ แต่ในเรื่องของราคาหรือความพรีเมียมของ gaming mouse มักจะต้องมีอะไรแฝงอยู่เสมอ ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตาที่ดูดีเท่านั้นนะ แต่ยังมีรายละเอียดอีกมากมาย วันนี้เรามาลองวิเคราะห์กันดูกับ 5 ข้อนี้ ระหว่างเกมมิ่งเมาส์กับเมาส์ทั่วไป ทำไมต้องจ่ายแพง?
เมาส์เล่นเกมกับเมาส์ทั่วไป แบบไหนดี?
1.ประสิทธิภาพ
สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนในเรื่องนี้ก็คือ ค่า DPI หรือ Dot per Inch เป็นความละเอียดของเซ็นเซอร์ เวลาที่เคลื่อนไหวเมาส์ มีผลตั้งแต่เกม Action FPS ไปจนถึง DOTA2 เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแม่นยำ ถ้าคุณเคยเล่นสายสไนเปอร์ จะรู้ได้เลย ว่าถ้าเมาส์ไม่นิ่ง ไม่ละเอียดพอ จะหวังผลกับการส่องระยะไกลได้ยาก หรือแม้จะเป็นระยะใกล้ ถ้าคุณวืดวาด เลื่อนเมาส์แล้วไม่เข้าเป้าเล็ง ก็ยิงโดนได้ยากเช่นกัน รวมถึงตัวอย่างในเกม Counter Strike การสะบัดเมาส์ให้หันไปยิงคู่ต่อสู้ให้ทัน ก็ขึ้นอยู่กับค่า ค่า DPI ด้วยเช่นกัน
เซ็นเซอร์บนเมาส์ทั่วไป อาจจะให้ค่า DPI อยู่ที่ประมาณ 2,000 – 6,000 DPI ส่วนถ้าเป็นเมาส์เกมมิ่งประสิทธิภาพดีๆ หน่อย ก็อาจจะถึง 20,000 DPI หรือสูงกว่าเลยทีเดียว แม้ว่าบางคนก็บอกใช้ค่า DPI ต่ำๆ เล่นเกมก็พอ ละเอียดไปก็ดูไม่ทันแล้ว แต่ถ้าใครใช้จอใหญ่ๆ ความละเอียดสูงๆ ก็จำเป็นจะต้องใช้เมาส์ DPI สูงตามไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเคลื่อนไหวไปมาได้ไม่สะดวก และที่น่าสนใจคือ ในเกมมิ่งเมาส์รุ่นแพงๆ จะมีเมมโมรีมาบนตัวเมาส์ สำหรับบันทึกโพรไฟล์ให้กับการเล่นของคุณได้ อย่างน้อยๆ ก็ 3 โพรไฟล์ หรือมากกว่า 8 โพรไฟล์เลยทีเดียว
อีกค่าหนึ่งใน gaming mouse ก็คือ Polling Rate ที่มากกว่า แต่ค่าที่ว่านี้คืออะไร? ถ้าจะอธิบาย Polling Rate ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ อัตราการตอบสนองของเมาส์ที่มีต่อระบบ หรือการติดต่อข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งแสดงผลเป็นตัวเลข Hz ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งดี เมาส์ทั่วๆ ไปอาจจะอยู่ที่ 125 -500Hz แต่ในเกมมิ่งเมาส์รุ่นใหม่ๆ จะอยู่ที่ 1,000Hz หรือมากกว่านั้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนี้มีผลอย่างไรต่อการเล่นเกม ยิ่งการติดต่อได้รวดเร็ว ตอบสนองไว นั่นก็หมายถึงการเล่นเกมของคุณจะไม่มีอาการหน่วง คุณกดปุ่มไหน คลิ๊กอะไรออกไป เกมหรือการใช้งานเหล่านั้น ก็ตอบสนองได้ทันทีทันใดนั่นเอง
2.ความทนทาน
เรื่องของความทนทาน อาจจะต้องว่ากันตั้งแต่ วัสดุที่เป็นบอดี้ ไปจนถึงสายสัญญาณ และที่สำคัญก็คือ เรื่องของสวิทช์ที่นำมาใช้ในการเป็นปุ่มคลิ๊กซ้าย-ขวานั่นเอง
สวิทช์ (Switch): โดยเฉพาะสวิทช์ที่ใช้ จะมีอัตราคลิ๊กเป็นตัวกำหนด โดยสวิทช์ที่เรารู้จักกัน เช่น Omron, Kailh, TTC หรือ HUANO เป็นต้น หรือบางค่ายอย่าง Razer ก็ทำสวิทช์ของตัวเอง Switch เหล่านี้ จะมีบุคลิคและอัตราการคลิ๊กที่ต่างกันออกไป เช่น บางรุ่นอาจจะแค่ 20 ล้านคลิ๊ก แต่บางสวิทช์ เช่น Kailh GM 8.0 รองรับได้กว่า 80 ล้านคลิ๊กเลยทีเดียว ลองคิดดูว่าวันๆ หนึ่งคุณเล่นเกมแล้วต้องคลิ๊กเมาส์กี่ครั้ง ยังไม่รวมการท่องเว็บ ทำงานและอื่นๆ อีก การจ่ายเงินกับสวิทช์ที่ทนทานและการใช้งานที่ยาวขึ้น ไม่เจอคลิ๊กเบิ้ลง่ายๆ เท่านี้ก็ให้คุณสนุกกับการเล่นเกมไปยาวๆ แล้วครับ
บอดี้: เคยเจอมั้ยครับกับบอดี้ของเมาส์ ที่ไปก่อนวัยอันควร เรียกว่า เซ็นเซอร์ยังไม่เสีย สายยังไม่ขาด ปุ่มยังคลิ๊กได้ดี แต่ผิวของเมาส์หลุดลอกร่อน หรือไม่ก็เยิ้มเหนียวกันไปแล้ว จะจับเมาส์เล่นก็ไม่สบายมือ เละเทะกันไปหมด ไม่ได้บอกว่าต้องเลือกเมาส์ถูกหรือแพง แต่ดูที่วัสดุด้วยก็ดี บอดี้ก็ต้องใส่ใจด้วยนะคร้าบบบบ
Cable หรือสายสัญญาณ: จะมีให้เลือกทั้งแบบ สายอ่อน สายยาง สายถัก ชื่อเรียกก็ตามแต่ละค่ายเลือกใช้ เช่น HyperFlex หรือ Speedflex เป็นต้น สายพวกนี้ สำคัญอย่างไร จุดแรกคือ
ความทนทาน: อย่าลืมว่าหลายคน ยังคงลากสายเมาส์มาจากด้านหลังเครื่องคอม บางครั้งอาจมีถูรูดกับขอบคมๆ สายที่จัดการมาไม่ดี อาจเสียหายได้ง่าย
ความสะดวกในการเคลื่อนไหวเมาส์: เป็นอีกสิ่งสำคัญในการเลือกสาย บางคนอาจรำคาญกับสายที่มักจะพันกันในช่วงที่เล่นอยู่ ต้องมาขยับกันบ่อยๆ สายดีๆ ที่ไม่โค้งงอบิดเบี้ยวหรือพันกันง่าย น่าจะเป็นสิ่งที่เกมเมอร์ต้องการ การจัดเก็บ การม้วนหรือพันสายเก็บได้แบบง่ายๆ ทำให้การพกพาสะดวก ใส่กระเป๋าไปใช้นอกบ้าน แกะออกมาก็ง่าย และเมื่อใช้บนโต๊ะทำงาน ก็ไม่ทำให้ดูรกจนเกินไปนั่นเอง
3.ฟังก์ชั่นและการปรับแต่ง
เกมเมอร์หลายคน เลือกเมาส์คุณภาพดี ราคาสูง เพราะอยากได้ฟังก์ชั่นในการปรับแต่ง เพื่อให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ไม่ว่าการโจมตีได้ไว ออกอาวุธเร็ว หรือใช้ท่าไม้ตายได้ก่อน สิ่งเหล่านี้
มาโคร: บางรุ่นตั้งปุ่มได้ตามเกมเลย เลือกเอาว่าเล่นแนวไหน จะใช้ฟังก์ชั่นอะไร หมอบ คลาน โจมตี รักษา หรือว่าจะสร้าง และทำท่าคอมโบเป็นต้น แต่เมาส์รุ่นประหยัดหรือเกมมิ่งเริ่มต้น ก็มีให้ปรับบ้างแล้ว จะมากน้อยก็อยู่ที่การออกแบบ
ปรับค่า DPI: เรียกว่าปรับกันได้ขณะที่เล่น อยากให้จังหวะไหน ไวความละเอียดสูงหรือหน่วงช้าลงหน่อย ก็เลือกได้ตามสะดวก
มีไฟสถานะ: บางรุ่นก็บอกสเตปของค่า DPI ผ่านทางแสงไฟบนตัวเมาส์ หรือจะมีบอกโพรไฟล์และอื่นๆ ได้นอกเหนือจากแสงไฟ RGB ที่โชว์กันเป็นพื้นฐานแล้วนั่นเอง
ปรับ Scroll wheel: เมาส์ระดับไฮเอนด์ ส่วนใหญ่มีให้เลือกความหนืดหรือค่าฟรีเยอะได้ตามสะดวก เพราะอย่าลืมว่าในเกมบางเกม การใช้ Scroll mouse ที่หน่วงลง ก็ทำให้การซูมขยายได้แม่นยำขึ้น แต่เมื่อใช้ทำงาน ความเร็วในการสกอลล์ที่เร็วขึ้น ก็ทำให้สะดวกต่อการท่องเว็บ หรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี -แสงไฟ RGB: เกมมิ่งเมาส์ปัจจุบัน จะมีให้ปรับกันเป็นโซน หรือเลือกเอฟเฟกต์ได้ตามต้องการ ตั้งเป็นโพรไฟล์ รวมถึงเซ็ตค่าในซอฟต์แวร์ก็ยังได้
4.ลูกเล่น
ข้อนี้ บางคนบอกมีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เดือดร้อน แต่เชื่อว่าหลายคนที่จ่ายเงินไปแล้ว ก็อยากจะได้อะไรที่แถมมาให้ ใช้หรือไม่ใช้ ค่อยว่ากันอีกที และชัดเจนว่า ถ้าคุณอยากจะได้ฟีเจอร์เหล่านี้ ก็อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มจากเดิม เพื่อให้ได้เกมมิ่งเมาส์ที่มีความเร้าใจ เล่นได้สนุกขึ้น หรืออย่างน้อยก็ต้องได้เปรียบกว่าการใช้เมาส์ธรรมดา ลูกเล่นที่ว่านี้ เช่นอะไรบ้าง
ตุ้มปรับน้ำหนัก: เป็นฟีเจอร์ที่เมาส์แพงๆ ในอดีต มักมีให้เลือก รวมถึงเมาส์ในปัจจุบันบางรุ่น สำหรับให้เกมเมอร์มือหนัก ได้เลือกเสริมน้ำหนักกันตามใจชอบ บางรุ่นอาจจะได้แค่ใส่และถอด แต่บางรุ่นก็มาพร้อมตุ้มหลายระดับ เพื่อการปรับระดับมือได้หลากหลาย
แสงไฟ RGB: อันนี้สำคัญ เมาส์โดยทั่วไป อาจเป็นแค่แสงไฟรอบๆ หรือสว่างตรงโลโก้ แต่เกมมิ่งเมาส์ราคาสูงขึ้นมาหน่อย ก็จะมีให้ปรับเอฟเฟกต์แสงไฟได้มากขึ้น ด้วยการกดปุ่มหรือใช้ซอฟต์แวร์ แต่เมาส์ไฮเอนด์หลายรุ่นนั้น แทบจะเลือก Customize ได้ตามใจชอบ เลือกโซนแสงไฟ เอฟเฟกต์ รวมถึงการปรับความเร็วและอื่นๆ ได้ตามใจชอบเลย
เปลี่ยนหน้ากาก เปลี่ยนปุ่มด้านข้างได้: คงไม่ใช่แค่เรื่องสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เมาส์บางรุ่น ยังเอาใจฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ด้วยการเปลี่ยนชุดควบคุมของเมาส์ เพื่อให้เข้ากับเกมที่เล่น เพราะบางเกม อาจจะเน้นหนักที่คลิ๊กซ้ายขวาหรือแค่ มาโคร แต่บางเกม ก็จะเป็นจะต้องมีหลายๆ ปุ่ม เพื่อเพิ่มสกิลหรือความสามารถในการเล่นให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกมแนว MMORPG อย่างไรก็ดี ลูกเล่นการเปลี่ยนปุ่มได้นี้ ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของเกมเมอร์แต่ละคน ซึ่งบางคนอาจจะชอบ หรือบางคนก็ไม่ใช้ แต่ก็มีไว้ ไม่เสียหายนะ
5.การรับประกัน
เป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลย เพราะอย่าลืมว่า เกมมิ่งเมาส์นั้น ต้องรับบทหนัก ไม่ต่างไปจากคีย์บอร์ด แต่หนักกว่าตรง มีแค่ 2 ปุ่มหลัก จะต้องเจอการคลิ๊กหนักๆ ไม่รู้กี่พันกี่หมื่นครั้งต่อวัน อย่างที่เราได้เห็นกันคือ อาการคลิ๊กเบิ้ล เมาส์หลอนเป็นต้น ผู้จำหน่ายแต่ละค่ายก็ได้การันตีมาไม่เท่ากัน สำหรับเมาส์แต่ละรุ่น ระยะเวลาก็จะต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่เมาส์ที่มีราคาค่อนข้างสูง ก็มักจะมากับการรับประกันที่ยาวนานขึ้น และเงื่อนไขการรับประกันก็จะรวมถึงความเสียหายในแบบต่างๆ รวมถึงบางค่ายก็จะมีการเปลี่ยนหรือ Swap ให้ทันที ดังนั้นบางครั้งการลงทุนในเมาส์ราคาแพงๆ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
ตัวอย่าง 5 เมาส์เล่นเกม ราคาถูก ในงบ 1,000 บาท
1.ASUS TUF GAMING M3
เมาส์ในซีรีส์ TUF GAMING M3 รุ่นนี้ จัดว่าเหมาะกับการเริ่มต้นของเกมเมอร์หลายๆ คนได้เลย เพราะราคาแค่ 890 บาท แต่ได้สเปคที่น่าใช้ เริ่มจากดีไซน์ ที่เรียกว่าเป็นแบบยอดนิยม รองรับการจับได้ทั้งแบบ claw และ palm grip ให้ความละเอียดที่ 7,000 DPI ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาขณะที่เล่น ปุ่มสวิทช์ที่มีความทนทานระดับ 20 ล้านคลิ๊ก และความแกร่งตามสไตล์ของ ASUS TUF ที่สำคัญยังมี Aura Sync RGB สำหรับปรับแต่งไฟ RGB ให้สอดคล้องกับการใช้งานบนระบบของ ASUS รองรับการปรับมาโครได้ 7 ปุ่ม ราคา: 890 บาท
2.Fantech X10 Cyclops RGB
สำหรับ FANTECH นี้ หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ที่มีเกมมิ่งเกียร์เปิดตัวในบ้านเราไปหลายรุ่น กับความโดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่า ราคาค่อนข้างสบายกระเป๋า เช่นเดียวกับ X10 Cyclops รุ่นนี้ ที่ดีไซน์น่าใช้น่าสัมผัส คอเกมที่งบน้อย แต่อยากได้เมาส์ที่มีลูกเล่น ปรับแต่งได้ และให้ไฟสวยงาม ในราคาประมาณ 790 บาทนี้ มาพร้อมเซ็นเซอร์ออพตอคอล ความละเอียดที่ 4,000 DPI กับเซ็นเซอร์ AVAGO ที่ให้ความแม่นยำพอสมควร โดยมีสวิทช์ที่ให้ความทนทานระดับ 20 ล้านคลิ๊ก ปรับแต่งปุ่มด้วยมาโครได้ 7 ปุ่ม กับแสงไฟที่ปรับแต่งได้บนซอฟต์แวร์อีกด้วย ราคา 790 บาท
3.HyperX Pulsefire Core RGB
HyperX Pulsefire คลอดเมาส์เล่นเกมออกมาหลายรุ่นเลยทีเดียว สำหรับ 10 อันดับ เมาส์เกมมิ่ง ครั้งนี้ Pulsefire Core ถือเป็นรุ่นน้องเล็ก ที่ออกมาจับตลาดเกมเมอร์มือใหม่ ที่ต้องการเริ่มต้นกับการเล่นเกม แต่ได้อารมณ์ในการใช้งานแบบเดียวกับรุ่นพี่ๆ ทั้งในด้านรูปลักษณ์มาในทรงยอดนิยม และวัสดุที่จับกระชับมือ ให้ความสวยงาม โดยมีค่า DPI สูงสุดที่ 6,200 DPI และเซ็นเซอร์จาก Pixart โดยมีสวิทช์ที่มีความทนทาน 20 ล้านคลิ๊กมาให้ รวมถึงค่า Polling Rate ในระดับ 1000Hz สามารถตั้งค่ามาโครได้ถึง 7 ปุ่มด้วยกัน และแสงไฟ RGB ที่สว่างอยู่บนโลโก้ ปรับแต่งได้ผ่านซอฟต์แวร์ HyperX NGenuity ราคาอยู่ที่ประมาณ 990 บาทเท่านั้น
4.Tt eSPORTS Iris Optical RGB
ค่าย Tt นี้ ถือว่าเป็นอีกค่ายที่มีเกมมิ่งเกียร์ให้เลือกมากมายในตลาดบ้านเรา เช่นเดียวกับ Iris ที่เป็นเมาส์เกมมิ่ง ที่มีฟังก์ชั่นน่าใช้ ขนาดการจับถือที่เหมาะกับเกมในหลายๆ แบบ ที่สำคัญมาพร้อมแสงไฟสวยงามอีกด้วย โดยจุดเด่นอยู่ที่ Polling Rate ที่มากถึง 2000Hz เพิ่มการตอบสนองและความแม่นยำได้ดี แสงไฟปรับสีได้ 8 รูปแบบสวยๆ รองรับการจับได้ทั้ง Fingertrip, Palm grip และ Claw grip โดยเป็นเซ็นเซอร์แบบออพติคอล ให้ค่า DPI ได้สูงสุดถึง 5,000 DPI ปรับเลื่อนได้ทันทีขณะใช้งาน 400, 800, 1600, 3200, 5000 DPI พร้อมด้วย Switch ที่มีความทนทาน กดได้ 20 ล้านครั้ง ปรับมาโครได้ 5 ปุ่ม และปรับแต่งการทำงานได้บน Tt ESPORTS COMMAND CENTER อีกด้วย ราคา 990 บาท
5.Corsair M55 RGB PRO
Corsair ที่เป็นอีกหนึ่งค่ายที่มีเมาส์เล่นเกมให้เลือกมากมาย Corsair M55 RGB PRO มาในไซส์ขนาดกำลังเหมาะมือ กับฟีเจอร์ที่จัดเต็มมาให้คอเกมในราคา 990 บาท บอดี้ที่กระทัดรัด ให้พื้นผิวสัมผัสที่กระชับมือ มีกริ๊ปด้านข้างที่จับถือได้มั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Claw, Palm grip หรือ Finger ก็ตาม รองรับการใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและขวา มาพร้อมสวิทช์ OMRON ที่กดได้สนุกและทนทานระดับ 50 ล้านครั้ง โดยใช้เซ็นเซอร์ในแบบออพติคอล ความละเอียดสูงสุด 12,400DPI ตอบสนองไว ปุ่มที่สามารถโปรแกรมได้ถึง 8 ปุ่มด้วยกัน แสงไฟ RGB 2 โซนเพิ่มความสวยงาม ปรับแต่งด้วยซอฟต์แวร์ iCUE ให้อัตรา Polling Rate ได้ถึง 1,000Hz เล่นได้สนุก ไม่ว่าจะเป็น FPS หรือ MOBA ก็ตาม ราคา 990 บาท
Switch | Macro | DPI | RGB | Price | |
1.ASUS TUF GAMING M3 | 20 ล้านคลิ๊ก | 7 | 7,000 DPI | Yes | 890 |
2.Fantech X10 Cyclops RGB | HUANO 20 ล้านคลิ๊ก | 7 | 4,000 DPI | Yes | 790 |
3.HyperX Pulsefire Core RGB | Mechanic/ 20 ล้าน Click | 7 | 6,200 DPI | Yes | 990 |
4.Tt eSPORTS Iris Optical RGB | Mechanic/ 20 ล้าน Click | 6 | 5,000 DPI | Yes | 990 |
5.Corsair M55 RGB PRO | OMRON/ 50 ล้าน Click | 8 | 12,400 DPI | Yes | 990 |
สรุปเรื่องเลือกเมาส์เล่นเกมแบบไหนดี?
Gaming mouse ถูกก็เล่นเกมได้ หรือจะเลือกจ่ายแพงแลก Performance เพื่อเกมมิ่งเมาส์ระดับฮาร์ดคอร์ อยู่ที่ความต้องการ ความถนัดและการใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ เพราะเรื่องของเมาส์เล่นเกม ไม่ได้มีแค่เรื่องความสวยงาม หรือฟังก์ชั่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกแบบ สรีระของผู้ใช้งาน เช่น การจับ การเคลื่อนไหว และองค์ประกอบรอบๆ ตัวของเกมเมอร์ด้วย ซื้อเมาส์ดี ฟีเจอร์เยอะ ความละเอียดสูง แต่ไม่เข้ากับมือของคุณ จับอย่างไรก็ใช้งานไม่สะดวก ก็ไม่เกิดประโยชน์ในการเล่นจริงมั้ยครับ เอาเป็นว่า ก่อนซื้อ นอกจากดูสเปคกับฟีเจอร์ ก็อย่าลืมไปลองจับลองใช้ก่อนจะตัดสินใจกันนะครับ
Related Topics
10 อันดับ เมาส์เกมมิ่ง ไม่เกิน 1,000 บาท ตอบสนองไว ทนทาน ไฟ RGB สวย
7 Gaming mouse ในงบ 990 บาท เล่นเกมแอ็คชั่น FPS
10 คีย์ลัด Right-Click คลิ๊กขวา Windows 10 ทางลัดทุกเมนู
รีวิว เมาส์เกมมิ่ง HyperX Pulsefire Haste เบา คลิ๊กไว ระบายอากาศดี