Acer Aspire 7 A715 รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2021 นับได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่าสเปกดีน่าซื้อน่าใช้งานมากๆ จากการที่ได้สเปกแรงลื่นระดับ Gaming Notebook ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000U ทำงานร่วมกับการ์ดจอเกมมิ่งอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 พร้อมได้หน้าจอพาเนล IPS เกรดดี ที่ 144Hz รวมไปถึงเรื่องงานออกแบบดีไซน์ของตัวเครื่องก็ทำได้อย่างลงตัว สีสันก็ดูพรีเมียมหรูหราเรียบง่ายแต่ดูดี แน่นอนว่ามี Windows 10 Home แท้มาให้ด้วย
สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่แรงลื่นแต่คุ้มค่า ซึ่งทาง Acer วางเอาไว้ โดยนำเสนอด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 21,900 บาท จนไปถึง 23,900 บาทเท่านั้นเอง ได้แรม 8GB และ SSD M. 512GB ส่งผลให้ตลาดของโน๊ตบุ๊คราคา 2x,xxx บาท มีควาน่าสนใจขึ้นมาก ที่สำคัญเป็นการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือส่งศูนย์เองก็ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ด้วย โดยแบตเตอรี่ตามที่ทาง Acer เคลมไว้คือ ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมงทีเดียว
VDO Review
NBS Verdict
สรุปปิดท้ายรีวิว Acer Aspire 7 ต้องบอกว่ามีความประทับใจมากๆ ในการรีวิวโน๊ตบุ๊คราคา 20,000 าทต้นๆ ที่ทาง Acer ได้นำเสนอโน๊ตบุ๊คดีๆ ที่คุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมให้ประสิทธิภาพและการรับประกันที่ดีเยี่ยม ทำให้เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาจะซื้อโน๊ตบุ๊ค เน้นของแรงๆ ราคาไม่แพง ดีไซน์สวยเรียบ หน้าจอ 15.6″ 144Hz ที่ให้จอดีๆ ที่เอาไว้ทำงานก็ดี เล่นเกมก็ดีไม่แพ้กัน ควบคุมโหมดการใช้งานง่ายๆ ด้วยการแตะปุ่มลัด “Fn + F” เพื่อเปลี่ยนโหมด
โดดเด่นด้วยสเปกภายในใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000U รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีความเจ๋งมากมาย มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Cezanne สุดล้ำที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า เรียกได้ว่าให้ความแรงที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร เทียบเท่า H Series เลยก็ว่าได้
เหมาะกับนักเรียนนักศึกษาหรือคนทำงาน ที่รับกับน้ำหนัก 2.15 กิโลกรัมได้ ซึ่งก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของโน๊ตบุ๊คสเปกจอ 15.6″ ที่ได้การ์ดจอแยก GTX 1650 จริงๆ แล้วจัดว่าไม่ได้บางเบามากมาย แต่ก็อยู่ในเกณ์ที่รับได้ เพราะถือว่าได้สเปกที่ประสิทธิภาพสูงมาแทน พร้อมบริการหลังการขายอย่างประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน และมีบริการกรณีนำไปส่งซ่อมศูนย์เอง ก็ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย
สำหรับของสังเกตุ Acer Aspire 7 รุ่นนี้ที่แม้จะดูสมบูรณ์ไปหมดทุกด้าน แต่ถ้าให้บอกกันหน่อย ก็คงเป็นเรื่องวัสดุที่รุ่นก่อนหน้าเป็นโลหะส่วนรุ่นล่าสุดนี้เป็นพลาสติก และซอฟต์แวร์ที่ไม่มีให้ปรับแต่งเหมือน NitroSense ที่ใช้ในซีรีส์ Gaming อย่าง Nitro หรือ Predator ที่จะช่วยใช้ CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดๆ แต่ยังไงก็ตามความร้อนที่เกิดขึ้นก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมมากๆ อยู่ และไม่มีผลต่อการใช้งานอะไร
นอกจากนั้นจะเป็นเรื่องของหน้าจอที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็อยู่ในระดับกลางๆ ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าตั้งใจเอาไปใช้งานด้านสีสันคงต้องระมัดระวังกันหน่อย ปิดท้ายที่ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว ต้องไปหาอแดปเตอร์มาเพิ่ม และยังแอบมีพอร์ต USB 2.0 มาให้เท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อเทียบกับราคากับสิ่งที่ได้บอกได้คำเดียวว่าคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ข้อดี Acer Aspire 7
- การออกแบบเล็กกระชับ น้ำหนักเบา งานประกอบแน่นหนา ดีไซน์พรีเมียม
- สเปคประสิทธิภาพดีราคาคุ้มค่าได้ทั้งการทำงานจริงจังหรือเล่นเกมดีไม่แพ้ Gaming Notebook
- ชิปประมวลผลแรงจริงด้วย AMD Ryzen 5000U + GeForce GTX 1650 ที่แรงลื่นแม้ไม่ใช่รุ่นใหม่
- แรมขนาด 8GB x 1 แถว DDR4 รองรับการอัพเกรด 1 แถว + SSD M.2 ความจุ 512GB รวมเร็วสูง
- หน้าจอ 15.6″ IPS คุณภาพดี Refresh Rate 144Hz ขอบหน้าจอบางเฉียบ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C, HDMI, LAN
- ได้มาตรฐานเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX MU-MIMO
- คีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีขาวตามสไตล์โน๊ตบุ๊คสายทำงาน
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
- มีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 Home แท้ ใช้งานได้ทันที
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ราคาเทียบกับสิ่งที่ได้ทั้งหมด ถือว่าคุ้มค่าที่สุดรุ่นนึงในตลาดตอนนี้
ข้อสังเกต Acer Aspire 7
- หน้าจอเป็นพาเนล IPS ระดับกลางๆ ค่า sRGB อยู่ที่ 62%
- ไม่มีซอฟต์แวร์ในการปรับแต่งรอบพัดลมเหมือน Nitro 5
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว และยังมี USB 2.0 อยู่
- เป็นได้ควรอัพเกรดเป็นแรมขนาด 16GB เพื่อการใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
- รุ่นก่อนวัสดุเป็นอลูมิเนียม รุ่นนี้เป็นพลาสติก แต่ก็เบากว่าที่ 2.15 กิโลกรัม
Specification
Acer Aspire 7 ปี 2021 มีอยู่ 2 สเปกในตอนนี้ คือใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5500U ราคา 21,990 บาท และ AMD Ryzen 7 5700U ราคา 23,990 บาท ที่เป็นชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ที่แรงขึ้นและร้อนน้อยกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน การ์ดจอเป็นออนชิป Radeon 7 / 8 รุ่นใหม่ พร้อมได้การ์ดจอระดับ GTX รุ่นเริ่มต้นอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6) เน้นความแรงและคุ้มค่าเป็นหลัก สนับสนุนการเล่นเกมได้ลื่นไหลสนับสนุนการเล่นเกมได้ลื่นไหล
ได้แรมติดเครื่องมาทันทีที่ขนาด 8GB DDR 4 Bus 3200 MHx พร้อมใส่ได้อีก 1 แถว สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB (แต่แนะนำให้อัพเกรดเป็น 16GB ก็เหลือๆ แล้ว) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 PCIe Gen3 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถใส่เพิ่มได้อีก 1 ตัว นอกจากนี้ยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS เกรดดี ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง เหมาะทั้งการทำงานแบบความบันเทิง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลมากกว่า 60Hz แบบเดิมๆ ในการเล่นเกม
ในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง เพื่อใช้งาน VDO หรือประชุมออนไลน์ ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.2 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.2 Type-C, Kensington Lock, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX 2×2 MU-MIMO แน่นอนว่าได้ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์แท้ใช้งานได้ทันที พร้อมการรับประกันแบบ 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
Acer Aspire 7 A715-42G-R7RS ราคา 21,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 5 5500U (6C/12T : 2.10 – 4.00 GHz)
-
GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6)
-
RAM : 8GB DDR4 3200 MHz (x1)
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD 144Hz
-
STORAGE : SSD PCIe Gen3 NVMe 512GB
-
OS : Windows 10 Home
- Warranty : 3 Years On-site Service
Acer Aspire 7 A715-42G-R113 ราคา 23,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 5 5700U (8C/16T : 1.80 – 4.20 GHz)
-
GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6)
-
RAM : 8GB DDR4 3200 MHz (x1)
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD 144Hz
-
STORAGE : SSD PCIe Gen3 NVMe 512GB
-
OS : Windows 10 Home
- Warranty : 3 Years On-site Service
ตารางสเปกและราคา Acer Aspire 7 A715-42
Model | CPU | GPU | RAM | SSD | Display | Price |
A715-42G-R7RS | Ryzen 5 5500U | GTX 1650 | 8GB | 512GB | 15.6″ IPS 144Hz | 21,900 |
A715-42G-R113 | Ryzen 7 5700U | GTX 1650 | 8GB | 512GB | 15.6″ IPS 144Hz | 23,900 |
Hardware / Design
Acer Aspire 7 ปี 2021 เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ ต้องยอมรับเลยว่าได้ DNA จาก Acer Nitro 5 รุ่นปี 2019 มาเต็มๆ แต่มีการปรับให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรูดูเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่ดูพรีเมียม ตามสไตล์ของ Aspire Series ซึ่ง Aspire 7 ก็ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุด ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นพลาสติกสี Charcoal Black ตลอดทั้งตัวเครื่องทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรากว่า Acer Aspire 3 / Aspire 5 อย่างเห็นได้ชัด
รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Aspire 7 A715 รุ่นใหม่ ได้หน้าจอ 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่สามารถรองรับการแสดงผล Refresh Rate 144Hz ได้ แน่นอนว่าจากการที่เป็นดีไซน์ขอบหน้าจอบาง พื้นที่แสดงผลกว่า 81.61% เป็นหน้าจอ ทำให้มีขนาดตัวเครื่องพอๆ กับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่เป็นขอบหนาๆ นั่นเอง ส่งผลให้เราได้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ในขนาดตัวเครื่องที่เท่าๆ กับรุ่น 14″ สมัยก่อนเลยล่ะ
สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำด้านให้ความเรียบเนียนตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความโดดเด่นและสวยงามกว่ารุ่นอื่นๆ โดยฝาหลังของ Acer Aspire 7 จะเป็นเรียบง่าย มีเพียงโลโก้ Acer ที่มันวาวเท่านั้น รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับจะเป็นสีเทาตัดกับตัวเครื่องพร้อมมีคำว่า Aspire อยู่ ซึ่งทั้งตัวเครื่องให้ความแข็งแรง ขอบตัวเครื่องทั้งหมดมีความโค้งมนทำให้เราสามารถจับถือได้สะดวก เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คสายทำงานของทาง Acer ได้เป็นอย่างดี
ที่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่ากว่ารุ่นเดิมส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก ด้วยขอบหน้าจอที่บางเฉียบ มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ โดยมาพร้อมกับความบางของตัวเครื่องเพียง 23 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 2.15 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าไม่ได้บางเบามากมาย แต่ก็อยู่ในเกณ์ที่รับได้ เพราะถือว่าได้สเปกที่ประสิทธิภาพสูงมาแทน
โดยจากสติ๊กเกอร์ด้านในบริเวณที่วางมือฟีเจอร์ที่แปะไว้เอาไว้ บอกว่า ขอบหน้าจอบางเฉียบ ได้ความละเอียดเป็น Full HD พร้อมกับมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่าง และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า ถือว่าได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อไร้สายที่ดีที่สุด สุดท้ายกับการที่มีพอร์ต HDMI ไว้ใช้งาน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็จะบ่งบอกถึงสเปกชิปประมวลผลอย่าง AMD Ryzen 5000 Series และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX นั่นเอง
ส่วนการอัพเกรดแรมและ SSD / HDD ในอนาคตนั้น แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องถอดฝาล่างของตัวเครื่องออกมา โดยวัสดุของฝาล่างนี้ก็เป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบไม่เรียบให้ความรู้ติดมือ พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นพร้อมกับพัดลม 2 ตัว มาพร้อมช่องระบายความแถวยาวด้านหลัง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมแบบคู่ด้วย
สรุปแล้วสำหรับหน้าตาการออกแบบ Acer Aspire 7 ดีไซน์เครื่องโดยรวม ให้ความรู้สึกที่พรีเมียม แม้จะมีรูปทรงที่ใกล้กันกับรุ่นก่อน แต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า รองรับทุกๆ การใช้งานประเภทหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นตัดต่อวีดีโอโปรเซสไฟล์ภาพถ่าย ที่ต้องการหน้าจอคุณภาพสูง หรือเปิดโปรแกรมที่หลากหลายใช้ทรัพยากรเยอะ เหมาะกับนักเรียนนักศึกษาคนทำงาน ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง แต่ไม่อยากได้ดีไซน์ที่เป็น Gaming มากนัก
Keyboard / Touchpad
Acer รุ่นนี้ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่มาพร้อมปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีขาว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีขาว ที่ให้ความสว่างสวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ ส่วนเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มจัดว่ามีความใช้ได้ ในการพิมพ์งานต่างๆ แต่ก็ไม่ได้มีความลึกและตอบสนองได้เท่ากับ Nitro 5 / Nitro 7 ขนาดนั้น ที่เหมาะสมกับการเล่นเกมมากกว่า
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดี โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ที่เพียงแตะเท่านั้น คล้ายๆ ใช้งานพวกสมาร์ทโฟน ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าพอใจในการใช้งานมากๆ อีกทั้งยังมี Fingerprint ที่สแกนลายนิ้วมือ ที่ใช้งานผ่านทาง Windows Hello เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย
Screen / Speaker
Acer Aspire 7 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body ด้วยขอบจอบางพิเศษในส่วนของด้านข้างทั้งซ้ายขวาและขอบบน บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS เกรดดีให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง มาพร้อมกับมาตรฐาน Refresh Rate ที่ 144Hz ที่ลื่นไหลในทุกๆ การใช้งานหรือแม้แต่การเล่นเกม โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้ยอดเยี่ยม
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer รุ่นนี้ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS เกรดดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 62% และ Adobe RGB ที่ 47% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นจัดว่าเป็นตามาตรฐานซึ่งดูเน้นใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมมากกว่าทำงานแบบมืออาชีพ
ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 จัดว่าเพียงพอกับการใช้งานแน่นอน พร้อมกับวัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าตรงช่องกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมขวาบนที่ลดลงไป 13% สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดได้คะแนนไป 3.5 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Aspire 7 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวแบบ 2W x 2 โดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับที่น่าพอใจมากๆ
Connector / Thin And Weight
Acer Aspire 7 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาคุ้มค่าขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.2 Type-A, 1 x USB 3.2 Type-C, 1 x USB 2.0 Type-A , HDMI, RJ45 และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน พูดตรงๆ ก็คือ เหมือนกันกับ Acer Nitro 5 เลยล่ะ ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีส่วนของช่อง SD(XC/HC) Card reader ถ้าใครต้องการใช้งานก็ต้องซื้ออุปกรณ์มาเพิ่มเติม
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX Dual Band MU-Mimo ซึ่งนับว่าดีที่สุดในตลาดตอนนี้ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดได้ครบครัน และทางด้านการพกพา ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่มีดีไซน์ขอบจอบาง ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.15 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Aspire 7 นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที โดยมีฮีท์ไปป์ 3 เส้นพาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองตัวติดกัน ช่องระบายความร้อนแถวยาวช่องเดียวด้านหลัง พร้อมด้านข้างทางขวาอีก 1 ช่อง
ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 8GB มาแล้ว 1 แถว สามารถอัพเกรดเพิ่มได้อีกแถวทันที โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 1 สล็อตด้วยกัน โดยใส่มาแล้ว 1 ตัวที่ 512GB เรียกได้ว่ารุ่นใหม่ๆ นี้จะไม่สามารถอัพเกรด HDD SATA / SSD SATA ขนาด 2.5″ ได้แล้ว อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกันแต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย
Performance / Software
โดย Acer Aspire 7 รุ่นที่นำมารีวิวเป็นตัวท็อปขายจริง ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5700U ที่แรงกว่า AMD Ryzen 4000U และ H รุ่นก่อนหน้าแบบก้าวกระโดด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 2 มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 1.80 – 4.30 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 8MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 25W
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบ SO-DIM ปกติ เป็นมาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz ตามเทคโนโลยีของ AMD Ryzen 5000U ที่เหนือชั้นกว่า พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home แบบไร้กังวล
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon 8 มีความเร็วในการทำงานที่ 1900MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
โดยมีการ์ดจอแยกตัวแรงคุ้มค่าอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 ได้แรมการ์ดจอจะเป็น 4GB GDDR6 แทนที่รุ่นก่อนที่เป็น 4GB GDDR5 เน้นใช้งานกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานหลากหลายหรือ Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าแต่ก็ยังแรงลื่นพอตัว เพราะเน้นประหยัดพลังงานและปลดปล่อยความร้อนที่น้อยกว่า และแม้ไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5700U คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของแบรนด์ Hynix ก็ทำผลทดสอบเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe 3 ระดับสูง แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3566 MB/s และเขียนที่ 2889 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,234 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5700U ที่แม้ไม่ใช่ H Series แต่ก็ยังแรงมากๆ ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกันกับ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นเมื่อปีก่อนๆ เลยทีเดียว
ทดสอบเกมสำหรับ Acer Aspire 7 สเปก Ryzen 5000U + GeForce GTX 1650 + RAM 8GB + SSD 512GB ได้คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คในราคาใกล้ๆ กัน เรียกได้ว่าดีกว่า Gaming Notebook หลายๆ รุ่นที่ใช้เป็น H Series เลยก็ว่าได้ ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 Remark / GTA V / FarCry 5 / BF V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เทียบชั้นกับ Gaming Notebook ได้เลย เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้น่าประทับใจในงบนี้ ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ ทั้งนี้เราเลือก Cooling Mode ได้ ในการปรับ Silent mode / Normal mode / Performance mode ด้วยการกดปุ่ม Fn+F
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากนัวๆ กันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 40 – 60 – 90 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นลื่นไหลจริงๆ และเชื่อว่าถ้าเพิ่มแรมเป็น 16GB น่าจะดีกว่านี้แบบรู้สึกได้
สำหรับ Acer Notebook รุ่นนี้ไม่ได้มีซอฟต์แวร์ปรับแต่งอย่าง NitroSense ที่จะช่วยใช้ CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดๆ แต่ก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน
หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Acer Notebook เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3800mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon ปรับเป็น Power Saver แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวได้ที่ 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม กับสเปกความแรงแต่ได้แบตเตอรี่ที่ยาวนานประมาณนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้นเมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุดเพื่อให้พัดลมทำงาน 100% แต่ระดับเสียงก็ถือว่าว่าเบากว่า Gaming Notebook อย่าง Acer Nitro 5
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 80 – 86 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอ GPU ถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 70 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเทียบกับ Acer Nitro 5 ด้วยกันเองก็จัดว่าเย็นกว่า พร้อมยังได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่ โดยให้เสียงรบกวนในเวลาทำงานหนักๆ น้อยกว่าด้วย แต่ถ้าใช้งานเบาๆ คือเงียบสนิทเพราะพัดลมไม่หมุนเลย
Conclusion / Award
การมาของ Acer Aspire 7 A715 ปี 2021 นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานดีไซน์เรียบหรูหน้าจอขนาด 15.6″ ขอบจอบาง แต่ได้สเปกแรงๆ ที่น่าซื้อที่สุดรุ่นนึงในตลาดต้นปี 2021 ทีเดียว ซึ่งไม่ใช่แค่ได้วัสดุอลูมิเนียมดีไซน์การออกแบบที่ดูพรีเมียมเกินราคาค่าตัว 21,990 – 23,990 บาทเท่านั้น ซึ่งมีความเบาเพียง 2.15 กิโลกรัม แต่ได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอพาเนล IPS ที่ 144Hz ในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ เรียกได้ว่าใครหาโน๊ตบุ๊คจอดีๆ ในงบเท่านี้ ก็ตอบโจทย์สุดๆ ไปเลย
รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายยังเป็น Wi-Fi 6 AX ที่ใหม่ล่าสุด ดีที่สุด มาตรฐาน 2×2 MU-MIMO และยังได้การเชื่อมต่อ LAN RJ45 อีกทั้งยังรรองับการใช้งานสแกนลายนิ้ว ด้วย Fingerprint เรียกได้ว่าจัดเต็มจริงๆ นอกจากนี้โดดเด่นไม่แพ้กันเลยก็คือเรื่องของประกัน ซึ่งเป็นแบบประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม พร้อมบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นประสิทธิภาพความแรงต่อราคาที่น่าสนใจที่สุดในช่วงราคานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว
กลับมาที่สเปกที่เป็นจุดเด่นสำคัญของ Acer Aspire 7 คือได้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5 5500U / Ryzen 7 5700U ซึ่งเป็นรุ่นแรงรุ่นใหม่ที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าในทุกมิติ โดยมาพร้อมกับการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6) ที่ต้องบอกว่าประสิทธิภาพโดยรวมทั้งการทำงานหรือเล่นเกมนั้นแรงกว่าดีกว่าคุ้มค่ากว่าในส่วนของ Acer Swift 3 อย่างแน่นอนในราคาที่ใกล้เคียงกัน (ถ้าเลือก Acer Swift 3 คือเน้นบางเบากับได้ Office แท้) สำหรับในส่วนของแรมได้มาขนาด 8GB และได้ SSD ความจุ 512GB ซึ่งโดดเด่นด้วยความเร็วที่สูงเกินราคาค่าตัว อีกทั้งรองรับการอัพเกรดแรมทันที 1 แถว ซึ่งแนะนำว่าให้อัพเกรดเป็น 16GB กำลังดี
สรุปปิดท้ายรีวิว Acer Aspire 7 ต้องบอกว่ามีความประทับใจมากๆ ที่ทาง Acer ได้นำเสนอโน๊ตบุ๊คดีๆ ที่คุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมให้ประสิทธิภาพและการรับประกันที่ดีเยี่ยม ทำให้เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาจะซื้อโน๊ตบุ๊คราคา 20,000 บาทต้นๆ เน้นของแรงๆ ลื่นๆ ดีไซน์สวยๆ หน้าจอ 15.6″ ที่ให้จอลื่นๆ 144Hz เอาไว้ทำงานก็ดี เล่นเกมก็ดีไม่แพ้กัน สำคัญคือได้ฟีเจอร์ครบ มีไฟคีย์บอร์ดเพิ่มความดูดี ในตอนนี้ Acer ทำออกมาขายแล้ว นับว่าเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ จริงๆ เหมาะกับนักเรียนนักศึกษาหรือคนทำงานในงบนี้สุดๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Aspire 7 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Aspire โน๊ตบุ๊สายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Aspire 7 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ สีสัน Charcoal Black ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ทำงานและชอบเล่นเกมในเครื่องเดียว ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แม้จะมีน้ำหนักที่ 2.15 กิโลกรัม ถือว่าเบากว่าปกติ เพราะเข้าใจว่าวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดพลาสติกทั้งหมดแต่ยังคงสัมผัสดีเยี่ยม
Best Value
Acer Aspire 7 รุ่นใหม่ได้สเปกล่าสุดเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000U และการ์ดจอ NVDIA GeForce GTX 1650 ได้แรมขนาด 8GB และ SSD 512GB ราคาเพียง 21,990 – 23,990 บาท ได้จอ IPS สีสันดีมี Refresh Rate 144Hz จากสเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า เรียกได้ว่าด้วยสเปกใหม่ราคาไม่ถึงสองหมื่นบาทต้นๆ ให้คุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังเน้นประสิทธิภาพหรือเล่นเกมก็ลื่นกว่าในช่วงงบใกล้ๆ กัน โดยมีสแกนนิ้วและไฟคีย์บอร์ดให้ความพรีเมียมแบบนี้ นอกจากนี้ยังได้ Wi-Fi 6 AX อีกด้วย
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5500U / Ryzen 7 5700U ตัวล่าสุด และการ์ดจอ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบ DDR4 (แนะนำให้อัพเกรดเป็น 16GB ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก) รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูงเป็นพิเศษ ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ ในราคาคุ้มที่สุดถ้าเทียบ Gaming Notebook ในช่วงราคาใกล้ๆ กัน