แนะนำจอคอม 4K สเปคเด็ด 6 รุ่น เล่นเกมดี แต่งภาพเด็ด เริ่ม 7,990 บาท

ยุคนี้เกมเมอร์หลายคนที่ประกอบพีซีเกมมิ่งสเปคแรง ๆ มาแล้ว จอคอม 4K น่าจะเป็นคำตอบสำหรับเกมเมอร์และคนชอบดูหนังหลาย ๆ คน ที่อยากเสพย์คอนเทนต์ที่ตัวเองชอบด้วยหน้าจอความละเอียดสูง ๆ ยิ่งในยุคนี้จอ 4K ก็หาซื้อได้ง่ายและราคาเอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นมากแล้วก็เชื่อว่ามีคนที่มองหาหน้าจอความละเอียดสูงระดับนี้อยู่ไม่น้อยเลย

หากจำกันได้ ก่อนหน้านี้เราเคยแนะนำจอเกมมิ่งที่ค่า Refresh Rate สูงถึง 144 Hz ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถ้าความละเอียดระดับ Full HD (1920×1080 พิกเซล) ยังน้อยเกินไปแล้วอยากได้ความละเอียดสูงกว่านี้ บทความนี้จะรวมทั้งเรื่องความละเอียดหน้าจอและรุ่นแนะนำให้เลือกซื้อไปใช้กับคอมที่บ้านพร้อมกันเลยมาดูเรื่องความละเอียดและรายละเอียดของหน้าจอกันก่อนนะ

จอ 4K สักตัว ได้ภาพสวยคมสะใจ ถ้าคอมแรงก็จัดไป

จอคอม 4K และความละเอียดหน้าจอที่ควรรู้

พูดถึงเรื่องความละเอียดหน้าจอแล้ว อัตราส่วนหน้าจอและขนาดก็เป็นเรื่องคู่กันอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะทุกอย่างต้องสัมพันธ์กัน และเพราะหน้าจอคอมพิวเตอร์ปัจจุบันนี้เปลี่ยนจากหน้าจอทรงเกือบ 4 เหลี่ยมจตุรัสอัตราส่วน 4:3 หรือ 5:4 มาเป็นหน้าจอผืนผ้าแบบกว้างอัตราส่วน 16:9, 16:10 หรือแบบกว้างพิเศษที่ 21:9 กันแล้วเนื่องจากอิทธิพลของภาพยนตร์จอกว้างและเกมในปัจจุบันนี้ที่ทำเป็นหน้าจอแบบกว้างกันแทบทั้งหมดแล้ว

เวลาเราเช็คในส่วนของ Display ของ Windows 10 แล้วดูในส่วนของ Display resolution ก็จะเห็นอัตราส่วนที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็จะคุ้นกับอัตราส่วนหน้าจอยอดนิยมต่าง ๆ เช่น 1280×720, 1366×768, 1600×900 หรือแม้แต่ 1920×1080 พิกเซล ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาเป็นอัตราส่วนแบบ 16:9 นั่นเอง เพราะว่าถ้าสมมติให้มีกล่องขนาด 100 พิกเซลวางเอาไว้บนหน้าจอ ก็จะวางกล่องดังกล่าวในแนวตั้งได้ 9 กล่องและแนวนอน 16 กล่องแบบพอดี ๆ 

ซึ่งจริง ๆ แล้วตั้งแต่มีการผลิตหน้าจอขึ้นมาใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้น ไม่ใช่เพียงแค่อัตราส่วนที่เราคุ้นเคยเท่านั้น ซึ่งถ้านับตั้งแต่อดีตมาก็จะเห็นว่าเราจะมีอัตราส่วนหน้าจอมากมาย รวมทั้งชื่อเรียกอัตราส่วนเหล่านั้นด้วยไม่ว่าจะ CGA, HVGA, VGA, PAL, XGA ไปจนถึงระดับความละเอียดสูงสุดที่มีในปัจจุบันอย่าง 8K Full Form (8192×4320 พิกเซล) เป็นต้น

สำหรับจอคอม 4K ที่เราจะเลือกมาแนะนำในบทความนี้เป็นแบบ UHD-1 (3840×2160 พิกเซล) ซึ่งเป็นขนาดยอดนิยม แต่กว้างน้อยกว่า 4K แบบเต็มที่มีความละเอียด 4096×2160 พิกเซล เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหากใครสังเกตสักหน่อย จะเห็นว่าที่เส้นกรอบความกว้างของหน้าจอ UHD-1 ในบทความนี้จะถูกกำกับอัตราส่วนเอาไว้ด้วยว่าเป็นแบบ 16:9 ซึ่งเป็นอัตราส่วนแบบ Wide screen ที่เอาไว้เล่นเกมหรือดูหนังก็ดีนั่นเอง

จอคอม 4K แนะนำทั้ง 6 รุ่น ดูหนังก็ดี เล่นเกมก็เด็ด!

สำหรับหน้าจอคอม 4K น่าใช้ในปัจจุบันนี้มีให้เลือกอยู่หลายรุ่นทีเดียว แต่ถ้าให้เล่นเกมได้ดูหนังก็ดี สเปคคุ้มค่ากับราคาที่สุดนั้นจะมีรุ่นแนะนำอยู่ 6 รุ่นหลัก ๆ ด้วยกัน โดยมีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 28-34 นิ้วทีเดียว โดยรุ่นแนะนำจะมีดังนี้

1. BenQ EL2870U 28″ 4K (7,990 บาท)
2. Samsung LU28R550UQEXXT 28″ 4K (8,990 บาท)
3. AOC U2879VF 28″ TN 4K (9,490 บาท)
4. LG 27UL600-W 27″ 4K (9,900 บาท)
5. Philips 328E1CA/67 31.5″ 4K (11,990 บาท)
6. Xiaomi Ultra Wide 34″ 4K (11,999 บาท)

1. BenQ EL2870U 28″ 4K
(7,990 บาท)

BenQ EL2870U นั้นเป็นหน้าจอคอมสำหรับเล่นเกมความละเอียด 4K รุ่นแรกที่แนะนำให้ผู้ใช้เลือกซื้อไปใช้งาน ซึ่งขนาดจอ 28″ นั้นถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป จึงสามารถเอาไปตั้งที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ในบ้านหรือคอนโดฯ ของใครหลาย ๆ คนได้อย่างแน่นอน และทีเด็ดของจอรุ่นนี้ คือเป็นหน้าจอ HDR และ Brightness Intelligence Plus (B.I.+) ที่สีบนหน้าจอสวยสมจริงแต่ระดับแสงบนหน้าจอก็อยู่ในระดับกำลังดี ไม่ทำร้ายสายตา ปรับโหมดการใช้งานได้หลากหลายและมีโหมดถนอมสายตาให้เลือก รวมทั้งรองรับ AMD FreeSync ช่วยลดอาการภาพฉีกขาดระหว่างเล่นเกมอีกด้วย

สเปคของหน้าจอเป็นหน้าจอ 28″ (27.9″) พาเนล TN แต่องศาการมองเห็นกว้าง 170 องศาทีเดียว จัดเป็นพาเนล TN ที่มีคุณภาพทีเดียว ส่วนความละเอียดหน้าจอ UHD (3840×2160 พิกเซล) Refresh Rate 60 Hz ส่วน Response Time 1ms GtG ซึ่งแม้ Refreh Rate จะไม่สูงมากแต่สังเกตว่า Response Time ต่ำมากเพียง 1ms GtG ทำให้การแสดงผลภาพบนหน้าจอต่อเนื่องกันแม้ Refresh Rate ที่ทำให้ภาพลื่นจะอยู่ที่ 60 Hz ก็ถือว่าใช้ได้เช่นกัน ส่วนขอบเขตสีอยู่ที่ 72% NTSC อยู่ในระดับปานกลางถึงดี เหมาะจะเอามาใช้ตัดต่อวิดีโอทีเดียว

ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังหน้าจอจะมี HDMI 2.0 x 2 ช่อง, DisplayPort 1.4 x 1 ช่อง, USB-C x 1 ช่อง สำหรับต่อเพื่อรับส่งข้อมูลและชาร์จแบตเตอรี่ให้สมาร์ทโฟนได้และมีช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1 ช่อง ซึ่งถือว่าครบถ้วนทีเดียว

สเปคของ BenQ EL2870U

• หน้าจอขนาด 28″ พาเนล TN ความละเอียด UHD (3840×2160 พิกเซล) เป็นจอ HDR ปรับแสงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ
• Refresh Rate 60 Hz, Response Time 1ms (GtG)
• ขอบเขตสี 72% NTSC
• รองรับ AMD FreeSync
• พอร์ตมี HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.4 x 1, USB-C x 1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1
• ราคา 7,990 บาท (Lazada)

2. Samsung LU28R550UQEXXT 28″ 4K (8,990 บาท)

Samsung LU28R550UQEXXT ขนาด 28″ ความละเอียด 4K UHD พาเนล IPS สเปคน่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง โดยดีไซน์เป็นหน้าจอขอบบางพิเศษ 3 ขอบ ทำให้เวลาดูหนังหรือเล่นเกมจะเห็นภาพบนหน้าจอได้กว้างยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งโปรแกรมเพื่อแบ่งหน้าจอแบบ Picture-In-Picture ทำให้เปิดโปรแกรมหลาย ๆ โปรแกรมพร้อมกันได้และไม่กวนการทำงานของเราอีกด้วย เรียกว่าถ้าเอาไว้ทำงานก็ดีหรือจะใช้เป็นจอเล่นเกมก็ดีเช่นกัน และถ้าดูหนังหรือเล่นเกมก็รองรับ HDR10 และมี AMD FreeSync อีกด้วย

สเปคหน้าจอ 28″ นี้มีความละเอียด 4K UHD (3840×2160 พิกเซล) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 60 Hz, Response Time 4ms (GtG) เป็นหน้าจอ Mega ∞ DCR แสดงสีได้ 1 พันล้านสีตามแบบฉบับของ Samsung ให้สีสันสดสวยและมีพอร์ตเชื่อมต่อจัดว่าครบพร้อมใช้ทั้ง HDMI 2.0 x 2 ช่อง, DisplayPort 1.2 x 1 ช่อง ซึ่งหน้าจอนี้ถ้าเอาไว้ดูหนังจัดว่าน่าสนใจทีเดียวและขนาดก็ใหญ่กำลังดีอีกด้วย

สเปคของ Samsung LU28R550UQEXXT

• หน้าจอขนาด 28″ พาเนล IPS ความละเอียด UHD (3840×2160 พิกเซล) เป็นจอ HDR10
• Refresh Rate 60 Hz, Response Time 4ms (GtG)
• หน้าจอ Mega ∞ DCR แสดงสีได้ 1 พันล้านสี
• รองรับ AMD FreeSync
• พอร์ตมี HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.2 x 1
• ราคา 8,990 บาท (JD Central)

3. AOC U2879VF 28″ TN 4K
(9,490 บาท)

AOC U2879VF เป็นจอคอม 4K ขนาด 28″ ที่ดีไซน์ดูเรียบง่ายแต่สเปคก็ถือว่าครบเครื่องอยู่ไม่แพ้หน้าจอรุ่นอื่นด้วย Flicker Free เวลาใช้งานจะไม่มีอาการจอกระพริบจนเรารู้สึกเป็นแถบสีดำจาง ๆ บนหน้าจอ รวมทั้งถ้าเราใช้เล่นเกมก็มี AMD FreeSync ซึ่งเมื่อเราใช้การ์ดจอ AMD แล้ว ภาพจะไม่มีปัญหาฉีกขาด ทำให้เล่นเกมแล้วภาพดูเนียนตายิ่งขึ้น

ส่วนสเปคหน้าจอ 28″ มีความละเอียด 4K UHD (3840×2160 พิกเซล) พาเนล TN ซึ่งแสดงผลได้เร็วและต่อเนื่องซึ่งเหมาะกับการเล่นเกมมาก ส่วนองศาการมองเห็นกว้างถึง 170 องศา มีค่า Refresh Rate 60 Hz, Response Time 1ms (GtG) ทำให้แสดงผลได้เนียนตายิ่งขึ้น ส่วนการเชื่อมต่อรองรับ VGA x 1 ช่อง, DVI x 1 ช่อง, HDMI 2.0 x 1 ช่อง, DisplayPort 1.2 x 1 ช่อง เรียกว่าครบเครื่องทีเดียว ซึ่งถ้าต้องการเชื่อมต่อให้แสดงผล 4K UHD ให้แสดงผลที่ 60 เฟรมต่อวินาทีควรเชื่อมต่อด้วยสาย DisplayPort หรือหาสาย HDMI 2.0 มาเชื่อมต่อจะดีที่สุด

สเปคของ AOC U2879VF

• หน้าจอขนาด 28″ พาเนล TN ความละเอียด UHD (3840×2160 พิกเซล)
• Refresh Rate 60 Hz, Response Time 1ms (GtG)
• หน้าจอ Flicker Free ไม่มีปัญหาเรื่องจอกระพริบ
• รองรับ AMD FreeSync
• พอร์ตมี HDMI 2.0 x 1, DisplayPort 1.2 x 1, VGA x 1, DVI x 1 ช่อง
• ราคา 9,490 บาท (JD Central)

4. LG 27UL600-W 27″ 4K
(9,900 บาท)

LG 27UL600-W เป็นจอคอม 4K สเปคดีและน่าสนใจเพราะเป็นจอพาเนล IPS ที่ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 400 เป็นหน้าจอ HDR ความสว่าง 400 nits ซึ่งจัดว่าสว่างทีเดียวรวมทั้งมีขอบเขตสี sRGB 99% ตั้งค่าเป็นโหมดเกมโดยเฉพาะรวมทั้งมีโปรแกรม OnScreen Control ใช้ตั้งค่าการแสดงผลบนหน้าจอได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมทั้งเกมเมอร์ที่ใช้การ์ดจอ AMD ก็รองรับ AMD FreeSync อีกด้วย

สเปคเป็นหน้าจอ 27″ พาเนล IPS ความละเอียด 4K UHD (3840×2160 พิกเซล) ค่า Refrsh Rate 60 Hz และ Response Time 5ms (GtG) มีขอบเขตสีกว้าง sRGB 99% สามารถใช้แต่งภาพได้ด้วย จัดว่าถ้าเอาไว้ใช้ทำงานและแต่งภาพด้วยโปรแกรม Adobe Lightroom ถือว่าดีทีเดียวและเป็นจอ HDR10 อีกด้วย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมี HDMI x 2 ช่องและ DisplayPort x 1 ช่อง ซึ่งถ้าเน้นใช้เพื่อความบันเทิงและการทำงานก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว

สเปคของ LG 27UL600-W

• หน้าจอขนาด 27″ พาเนล IPS ความละเอียด UHD (3840×2160 พิกเซล) เป็นจอ HDR10
• Refresh Rate 60 Hz, Response Time 5ms (GtG)
• หน้าจอ VESA DisplayHDR 400, ขอบเขตสีกว้าง sRGB 99%
• รองรับ AMD FreeSync
• พอร์ตมี HDMI x 2, DisplayPort x 1
• ราคา 9,990 บาท (BaNANA)

5. Philips 328E1CA/67 31.5″ 4K (11,990 บาท)

Philips 328E1CA/67 เป็นจอคอม 4K แบบโค้ง 1500R เพื่อให้มุมจอโอบเข้าหาผู้ใช้เล็กน้อย ช่วยให้เวลาเล่นเกมหรือดูหนังได้อรรถรสยิ่งกว่าเดิมและเป็นหน้าจอ Ultra-Wide Color ให้สีสันสวยและเข้มกว่าจอทั่วไปและมี SmartContrast ที่ปรับ Contrast อัตโนมัติตามแสงสว่าง เป็นจอ Flicker Free และขาจอยังเจาะร่องเอาไว้สำหรับจัดสายเชื่อมต่อและสายไฟต่าง ๆ อีกด้วย ส่วนขอบเขตสีจะถือว่ากว้างกว่าจอคอม 4K รุ่นอื่นเพราะเป็น 99% NTSC และ sRGB 122% นอกจากนี้ยังรองรับ Adaptive-Sync ทำให้ภาพในเกมไม่มีการฉีกขาดซึ่งใช้งานได้ทั้งการ์ดจอ AMD, NVIDIA ทีเดียว

สเปคเป็นจอ 31.5″ ความละเอียด 4K UHD (3840×2160 พิกเซล) พาเนล VA มีค่า Refresh Rate 60 Hz และ Response Time 4ms (GtG) ตัวจอเป็น W-LED จึงทำให้สีสันและขอบเขตสีกว้างกว่าหน้าจอตัวอื่น ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อรองรับ HDMI 2.0 x 2 ช่อง, DisplayPort 1.2 x 1 ช่อง, ช่องต่อลำโพงและหูฟังอย่างละ 1 ช่องด้วยกัน จัดว่าเป็นหน้าจอคอม 4K สเปคดีน่าสนใจรุ่นหนึ่ง

สเปคของ Philips 328E1CA/67

• หน้าจอขนาด 31.5″ พาเนล VA ความละเอียด UHD (3840×2160 พิกเซล) เป็นจอโค้ง 1500R
• Refresh Rate 60 Hz, Response Time 4ms (GtG)
• ขอบเขตสีกว้าง sRGB 122%, 99% NTSC
• รองรับ Adaptive-Sync
• พอร์ตมี HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.2 x 1, ช่องหูฟัง x 1, ช่องลำโพง x 1
• ราคา 11,990 บาท (Shopee)

6. Xiaomi Ultra Wide 34″ 4K
(11,999 บาท)

จอ Xiaomi Ultra Wide 34″ ตัวนี้จัดเป็นหน้าจอคอม 4K สเปคแรงกับราคาสุดคุ้มรุ่นหนึ่ง โดยเป็นหน้าจอโค้ง 1500R และมี AMD FreeSync Premium ติดตั้งมาด้วย นอกจากนี้ยังเป็นจอขอบเขตสีกว้าง 121% sRGB อีกด้วย จัดว่าจะเอามาใช้ทำงานก็ถือว่าดี แต่เด่นเรื่องการเอามาเล่นเกมเพราะมีค่า Refresh Rate สูงที่สุดในกลุ่มและขาตั้งสามารถปรับสูงต่ำได้อีกด้วย

สเปคเป็นจอ 34″ WQHD ความละเอียด 3440×1440 พิกเซล พาเนล VA อัตราส่วนหน้าจอ 21:9 ค่า Refresh Rate 144 Hz, Response Time 4ms (GtG) และมีโหมดแยกหน้าจอซ้ายขวารวมถึง Picture-In-Picture อีกด้วย ซึ่งในระดับราคานี้จัดว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการหน้าจอกว้างค่า Refresh Rate สูงมาใช้งาน ส่วนการเชื่อมต่อมี HDMI 2.0 x 2 ช่อง, DisplayPort 1.4 x 2 ช่อง, Audio Port x 1 ช่อง

สเปคของ Xiaomi Ultra Wide 34″

• หน้าจอขนาด 34″ พาเนล VA ความละเอียด WQHD (3440×1440 พิกเซล) เป็นจอโค้ง 1500R อัตราส่วน 21:9
• Refresh Rate 144 Hz, Response Time 4ms (GtG)
• ขอบเขตสีกว้าง sRGB 121%
• รองรับ AMD FreeSync Premium
• พอร์ตมี HDMI 2.0 x 2, DisplayPort 1.4 x 2, Audio Port x 1 ช่อง
• ราคา 11,999 บาท (JD Central)

สรุป – ซื้อจอคอม 4K รุ่นไหนจบที่สุด?

จะเห็นว่าจอคอม 4K นั้นมีหลายสเปคและมีจุดเด่นแตกต่างกันตามที่ผู้ผลิตใส่สเปคมาให้ สำหรับสเปคโดยสรุปจะเป็นตามตารางด้านล่างนี้

ซึ่งจะเห็นว่าหน้าจอแต่ละรุ่นจะมีข้อดีแตกต่างกันทั้งเรื่องราคาและฟีเจอร์ที่มีติดตั้งมาในตัวหน้าจอ แต่ถึงอย่างไรก็ตามต่อให้สเปคดีแค่ไหนแต่เราก็ต้องคิดถึงพื้นที่ที่จะวางหน้าจอและจุดมุ่งหมายที่เราซื้อมาใช้งานด้วยว่าเราเน้นใช้งานแบบไหน เช่นเน้นเรื่องการทำสีแต่งภาพตัดต่อวิดีโอ, เน้นใช้ดูหนังฟังเพลงทั่วไป หรือแม้แต่เล่นเกมก็ควรคิดให้ดีเสียก่อนแล้วค่อยซื้อ เพราะหน้าจอก็เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้นานหลายปี ดังนั้นอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ควรเลือกอย่างพิถีพิถันไม่แพ้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชิ้นอื่นด้วย