Intel EVO แพลตฟอร์ม เพื่อความง่ายกับชีวิตและสบายขึ้นด้วย 2-in-1 Notebook ที่ล้ำกว่าจาก AI ใน CPU พร้อมแนะนำรุ่นน่าซื้อ

Intel EVO แพลตฟอร์มถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ 2-in-1 Notebook ปี 2021 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์ใช้งานที่มากกว่า ตอบโจทย์สำหรับความง่ายกับชีวิตและสบายขึ้นด้วย 2-In-1 Notebook รุ่นล่าสุด แน่นอนว่ามาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake ที่ได้ความแรงลื่นในทุกๆ การทำงาน ที่ล้ำกว่าจาก AI ใน CPU (Core i5 ขึ้นไป) อีกทั้งได้มาตรฐานพอร์ต Thunderbolt 4 และการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX ที่ดีที่สุด

Intel EVO รองรับงานเอกสารทั่วไปผ่านทางโปรแกรม Office Home & Student 2019 และการใช้งาน Content Creator ด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop / Lightroom / Premiere Pro โดยรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ขนาด 13.3″ – 14″ พับหน้าจอได้ 360 องศา มีโหมดต่างๆ รวมไปถึงมีปากการองรับการขีดเขียนแม่นยำ สูงสุดถึง 4096 ระดับ ทำให้ใกล้เคียงกับปากกาหรือดินสอจริงๆ อย่างที่สุด 

แน่นอนว่าโน๊ตบุ๊คที่จะได้แพลตฟอร์ม Intel EVO ต้องมาพร้อมกับสเปกที่ใช้ฮาร์ดแวร์ภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 เป็นพื้นฐาน โดดเด่นด้วยสติ๊กเกอร์ Inetel EVO ติดเครื่องมาเลย (เห็นได้ชัดเจน) นอกเหนือจากนั้นยังมีมาตรฐานอื่นๆ ของโน๊ตบุ๊คที่จะได้แพลตฟอร์ม Intel EVO จะประกอบไปด้วย

• ประสิทธิภาพสูง ใช้ชิปประมวลผล Core i5/i7 ขึ้นไป, แรม 8GB ขึ้นไป, หน่วยความจำเป็น SSD NVMe 256GB ขึ้นไป
• ประสิทธิภาพดีพอแม้ทำงานด้วยแบตเตอรี่ ใช้งานที่จอ Full HD ได้นานกว่า 9 ชั่วโมง
• ชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จ 30 นาทีใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C (USB Power Delivery)
• เปิดเครื่องต่ำกว่า 1 วินาที แล้วต้องพร้อมทำงานแทบจะทันที (Connected Standby และ Lucid Sleep)
• มีฟีเจอร์ด้าน AI เช่น มีไมโครโฟนรับเสียงจากระยะไกล, ฟีเจอร์เร่งความเร็ว Deep Learning Boost
• รองรับพอร์ต Thunderbolt 3, เชื่อมต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi 6 (AX) Gig+  และมีตัวเลือกใช้เครือข่าย Gigabit LTE
• Ultrabook / 2-in-1 Notebook ดีไซน์บางเบา และใช้ Precision Touchpad / รองรับปากกา

สเปกภายในจะได้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ที่เน้นแรงประหยัดพลังงาน พร้อมให้ประสิทธิภาพประมวลผลได้หลากหลาย ส่วนการ์ดจอมีทั้งเป็นแบบออนชิป Intel Iris Xe Graphics ที่รองรับการทำงานทั่วไปเป็นหลัก หรือทำงาน 2 มิติ 3 มิติ รวมไปถึงเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหล หน่วยความจำแรมจะได้เป็นขนาด 8GB – 16GB พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐานเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ได้พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน

แนะนำ 2-in-1 notebook ที่ได้ Intel EVO แพลตฟอร์ม

1. ASUS ZenBook Flip 13 UX363EA ราคา 31,900 – 39,900 บาท
2. Lenovo YOGA 7 14 ราคา 32,900  – 39,900 บาท
3. Dell Inspiron 13 7306 ราคา 32,900 – 42,900 บาท

1.ASUS ZenBook Flip 13 UX363EA ราคา 31,900 – 39,900 บาท

ASUS ZenBook Flip 13  UX363 ถือเป็น 2-in-1 Notebook ที่ได้ Intel EVO แพลตฟอร์ม พร้อมความบางเบาเน้นความพรีเมียมในราคาไม่แพง โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 (Tiger Lake) ประสิทธิภาพสูง มี AI ในตัว พร้อมหน้าจอ OLED ที่ดีที่สุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 31,900 บาท อีกทั้งได้ปากกา Stylus ใช้วาดรูปขีดเขียนอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่มีความครบเครื่องอย่างสุดรุ่นนึงในตลาดที่ได้ความคุ้มค่าไปในตัว 

จากดีไซน์ที่สวยงามหรูหราสีสัน Pine Grey ตามสไตล์ของ ZenBook ปี 2021 พร้อมสเปกและฟีเจอร์ที่แน่นมากๆ กว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป กับขนาดหน้าจอ 13.3″ ตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดเน้นการพกพามากกว่ารุ่น 14″ โดยมีน้ำหนักที่ 1.3 กิโลกรัม และบางเฉียบเพียง 13.9 มิลลิเมตรเท่านั้น จัดเต็มหรูหราตามสไตล์ของ ZenBook จากทาง ASUS ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้การใช้งานประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม ตัวเครื่องเองผ่านการทดสอบเรื่องความทนทานระดับ US MIL-STD 810G Military-Grade Standard ด้วย

สเปกเต็มๆ ของ ASUS ZenBook Flip 13 UX363 ใช้ชิปประมวลผล Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 ที่เป็นสถาปัตยกรรมที่การผลิต 10 นาโนเมตร เทคโนโลยี SuperFin ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด โดยมีการ์ดจอออนบอร์ดเป็น Intel Iris Xe Graphics ประสิทธิภาพแรงลื่นที่สุดเทียบเท่าการ์ดจอแยกได้เลยควบคู่กับแรมขนาด 8 – 16GB LPDDR4X Bus 4266 MHz และ SSD M.2 PCIe NVMe ความจุ 512GB 

ส่วนหน้าจอเป็นแบบจอกระจกสัมผัส 13.3″ รองรับสัมผัสมัลติทัชและปากกา Stylus รองรับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ พาเนลจอเป็นเทคโนโลยี OLED แสดงผลได้ดีกว่า IPS ที่ความละเอียด Full HD พร้อมกับ Windows 10 และโปรแกรม Office Home and Student 2019 แน่นอนว่าได้มาตรฐานการเชื่อมต่อเป็น Wi-Fi 6 AX และติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาด้วย มีประกัน 3 ปี On-site Service และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty ในปีแรกมาให้ 

ASUS ZenBook Flip 13 UX363EA-HP184TS ราคา 31,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

• CPU : Intel Core i5-1135G7 (4C/8T & 2.40 – 4.20GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 8GB LPDDR4X 4266 MHz
• DISPLAY: 13.3″ Full HD OLED Touch Screen
• STORAGE : 512GB GB SSD PCIe M.2
• OS : Windows 10 Home
• Software : Office Home and Student 2019
• Warranty : 3 Years On-site Service + 1 Year Perfect Warranty

ASUS ZenBook Flip 13 UX363EA-HP115TS ราคา 39,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

• CPU : Intel Core i7-1165G7 (4C/8T & 2.80 – 4.70 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 16GB LPDDR4X 4266 MHz
• DISPLAY: 13.3″ Full HD OLED Touch Screen
• STORAGE : 512GB GB SSD PCIe M.2
• OS : Windows 10 Home 
• Software : Office Home and Student 2019
• Warranty : 3 Years On-site Service + 1 Year Perfect Warranty

2.Lenovo YOGA 7 14 ราคา 32,900  – 39,900 บาท

Lenovo YOGA 7 14 เป็น 2-in-1 Notebook ที่ได้ Intel EVO แพลตฟอร์ม มาพร้อมขุมพลังชิปประมวลผล Intel Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 ที่เป็น Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake ส่วนสเปกอื่นๆ ก็มาพร้อมกับหน่วยความจำแรมขนาด 16GB และแหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ได้ดีไซน์หรูหรากะทัดรัด หน้าจอ 14″ แบบทัชสกรีน ตัวเครื่องบางเพียง 15.68-17.7 มม. และเบาเพียง 1.4 กิโลกรัม มาพร้อมกับความเรียบหรูระดับพรีเมี่ยม

เป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดรุ่นนึงจากทาง Lenovo บานพับ 360 องศา หน้าจอสัมผัส Full HD พาเนล IPS ขอบบาง ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับการใช้งานหลากหลายโหมดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Lenovo Active Pen ที่มีเทคโนโลยี Palm-Rejection ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติขณะเขียนเหมือนการเขียนปากกาบนกระดาษ ให้เสียงนุ่มจากลำโพงคุณภาพพร้อมมีระบบ Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีเยี่ยม

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo YOGA 7 14 จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูงในขนาดหน้าจอ 14″ ที่เน้นความหรูหราบางเบา เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 14″ ส่งผลให้ Lenovo YOGA 7 14 เป็นอีกหนึ่ง 2-in-1 Notebook ปี 2021 ที่ดูเล็กกระทัดที่สุด เหมาะกับคนที่ต้องการสุดยอดโน๊ตบุ๊คเน้นเดินทางบ่อยๆ มาพร้อมการติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 ที่เป็นการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด รวมถึง Wi-Fi 6 AX ด้วย

ส่วนของตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพเป็นวัสดุหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสันที่โดดเด่นด้วยSlate Grey คลาสสิกหรือ Dark Moss ที่มีลวดลายซับซ้อน ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหราให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ พร้อมกับ Windows 10 ในตัวพร้อมได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ โดยมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 32,900 – 39,900 บาท ประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี แบบ On-site Service

Lenovo Yoga 7 14ITL5-82BH005NTA ราคา 32,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

• CPU : Intel Core i5-1135G7 (4C/8T , 2.40 – 4.20GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 16GB LPDDR4X 4266 MHz 
• DISPLAY: 14″ Full HD IPS Touch Screen 
• STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
• OS : Windows 10 Home 
• Software : Office Home and Student 2019
• Warranty : 3 Years On-site Service

Lenovo Yoga 7i 14-82BH005PTA ราคา 39,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

• CPU : Intel Core i7-1165G7 (4C/8T , 2.80 – 4.70GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 16GB LPDDR4X 4266 MHz 
• DISPLAY: 14″ Full HD IPS Touch Screen 
• STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
• OS : Windows 10 Home
• Software : Office Home and Student 2019
• Warranty : 3 Years On-site Service

3.Dell Inspiron 13 7306 ราคา 32,900 – 42,900 บาท

Dell Inspiron 13 7306 จัดว่าเป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด ได้ Intel EVO แพลตฟอร์ม สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ ขอบจอบางเฉียบ ความละเอียด Full HD / Ultra HD รองรับการทัชสกรีนและปากกา พร้อมมีช่องเก็บตรงบานพับในตัว ที่ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเบาเล็กกระทัดรัด ที่ 1.4 กิโลกรัม ขอบจอก็บางเฉียบ แรมขนาด 8GB / 16GB  พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง พร้อมใช้งานด้วย Windows 10 และมีซอฟต์แวร์ต่างๆ มากมาย

มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบๆ แต่แฝงความหรูหรา ที่สำคัญคือติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 และ Wi-Fi 6 AX มาให้พร้อมใช้งานด้วย สนนราคา Dell Inspiron 13 7306 สำหรับคอมพิวเตอร์แบรนด์ Dell ได้รับความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมในการใช้งานกับองค์กรและภาคธุรกิจอย่างมากมาย ทั้งมาตรฐานการบริการ Dell Premium Support และ On-site Service “บริการซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ” ถึง 2 ปีด้วยกัน

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Dell Inspiron 13 7306 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใส่ใจในรายละเอียดก็คือ มีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางเครื่องก็เพียง 15.94 – 16.74 มิลลิเมตร บอกได้เลยว่าจะหาโน๊ตบุ๊คแบบนี้จากแบรนด์อื่นๆ ก็ยากซักหน่อย  ที่สำคัญอีกเรื่องก็คือบานพับก็เป็นอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทานไม่ต่างจากตัวเครื่อง คอยทำหน้าที่หมุนหน้าจอได้ถึง 360 องศา ไว้ใช้ Multi Mode ทำให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

ส่วนการออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนของโลโก้ Dell ฝาหลังที่สวยงาม พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก สำหรับ Dell Inspiron 13 7306 ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี  ที่สำคัญ 2-in-1 Notebook มีการดีไซน์ที่เก็บปากกาล้ำๆ โดยติดตั้งอยู่ที่บานพับ ซึ่งอาศัยแม่เหล็กในการเก็บอีกที

Dell Inspiron 13 7306-W567153202BTHW10 ราคา 32,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

• CPU : Intel Core i5-1135G7 (4C/8T & 2.40 – 4.20GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics 
• RAM : 8GB LPDDR4X 4266 MHz 
• DISPLAY: 13.3″ IPS Full HD Touch Screen
• STORAGE :  SSD M.2 NVMe PCIe 512GB 
• OS : Windows 10 Home
• Warranty : 2 Years On-site Service

Dell Inspiron 13 7306-W567153104BTHW10 ราคา 42,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

• CPU : Intel Core i7-1165G7 (4C/8T & 2.80 – 4.70 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics 
• RAM : 16GB LPDDR4X 4266 MHz 
• DISPLAY: 13.3″ IPS Ultra HD Touch Screen
• STORAGE :  SSD M.2 NVMe PCIe 512GB 
• OS : Windows 10 Home
• Warranty : 2 Years On-site Service

2-in-1 Notebook ที่ได้แพลตฟอร์ม Intel EVO หลายๆ รุ่นยังได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ซึ่งประกอบไปด้วย Word / Excel / Power Point มาให้ฟรีๆ ติดเครื่องใช้งานยาวๆ ทันที ในส่วนของการพกพาก็ทำได้เยี่ยมยอด โดยมีน้ำหนักเบาสุดแค่ 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสุดที่ 10 ชั่วโมงขึ้นไปด้วยกัน ช่วงราคาเริ่มต้นที่ 31,900 บาท จนไปถึง 42,900 บาท จัดว่าน่าซื้อจริงๆ กับการเป็นแพลตฟอร์ม เพื่อความง่ายกับชีวิตและสบายขึ้นด้วย 2-In-1 Notebook ที่ล้ำกว่าจาก AI ใน CPU พร้อมแนะนำรุ่นน่าซื้อ

ตารางโน๊ตบุ๊คที่ได้ Intel EVO แพลตฟอร์ม