Lenovo Legion 5 Pro ยกระดับความเป็น Gaming Notebook ปี 2021 จากฟีเจอร์ Gaming ที่ปรับเปลี่ยนมาตรฐานใหม่ ด้วยหน้าจอขนาด 16″ สัดส่วน 16:10 ความละเอียด QHD ที่ Refresh Rate 165Hz ตัวแรกของโลก ขอบเขตสีมาตรฐาน sRGB 100% พร้อมกับสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H ที่เป็นเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม Zen 3 ใหม่ล่าสุด ที่ดีขึ้นในทุกมิติ
และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3060 รุ่นใหม่ล่าสุด เทคโนโลยี 8 นาโนเมตรที่ใหม่ที่สุด ตอบสนองการทำงานหรือการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น สนุกสนานยิ่งขึ้น ได้เทคโนโลยี Lenovo Legion AI Engine ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิ
ที่สำคัญสำหรับฟีเจอร์ Gaming ที่ได้พัฒนามากยิ่งขึ้นกับลำโพง Harman ระบบเสียง Nahimic 3D รวมไปถึงได้เทคโนโลยี Coldfront 3.0 ที่ช่วยจัดการการระบายความร้อนผ่านพัดลมแบบ Dual Fan และช่องระบายความร้อนแบบ Quad Channel เรียกได้ว่าตอบโจทย์การทำงานมืออาชีพหรือการเล่นเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบกว่าเดิม
ในส่วนของสเปกอื่นๆ ก็ได้หน่วยความจำแรมขนาด 32GB Bus 3200 MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มีแพคเกจการรับประกัน Unbeatable Protection Pack มูลค่า 14,900.- บาท (4Y Premium Care / 2Y ADP 100% part and Service) อย่างการ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน และประกันอุบัติเหตุ 2 ปี เคลมได้ 100%
*** รีวิวในบทความนี้จะเป็นเครื่องเดโมนะครับ สเปก Ryzen 7 5800H / RTX 3070 / RAM 16GB / 1TB ***
VDO Review
NBS Verdict
จากการที่แอดมินโป้งสัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ Lenovo Legion 5 Pro ตัวนี้ยังเป็นเครื่องเดโมนะครับ แต่ก็บอกได้ถึงประสบการณ์ใช้งานจริงๆ ได้ ทั้งการเล่นเกมหลากหลายหรือทำงานประมวลผลหนักๆ รวมไปถึงทำงานนอกสถานที่ และความบันเทิงดูหนังฟังเพลงที่บ้านแล้ว บอกได้เลยว่าทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบนั้นมีความพรีเมียมดูดี
ตัวเครื่องก็ร้อนน้อยจากเทคโนโลยี Legion Coldfront 3.0 และด้วยหน้าจอ 16″ สัดส่วน 16:10 พาเนล IPS เกรดสูง ที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล ได้ Refresh Rate ที่ 165Hz นั่นก็ยอดเยี่ยมสุดๆ ได้ความใหญ่กว่า ละเอียดกว่า พื้นที่มากกว่า ลื่นไหลกว่า
ที่สำคัญด้วยสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 ได้แรมเป็น 16GB และ SSD M.2 512GB ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นเทียบเคียงกับสเปกขายจริง เหลือเฟือในการใช้งานพื้นฐาน หรือแม้แต่การใช้งานหนักๆ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ
แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไป ชอบมากๆ ประทับใจสุดๆ เลยก็คือการปรับโหมดเพียง Fn + Q เท่านั้น พร้อมเทคโนโลยี Lenovo Legion AI Engine นับว่าง่ายต่อการใช้งานสุดๆ จากการที่ระบบช่วยจัดการ CPU / GPU ที่เหมาะสม
อีกทั้งมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย ประกันก็เป็นแบบ 4 ปี On-site Service ซึ่งยาวนานที่สุด พร้อมบริการหลังการขายอื่นๆ อาทิ ประกันอุบัติเหตุแบบเคลม 100% ระยะเวลา 2 ปีเต็มๆ มีเครื่องสำรองระหว่างรอเครื่องเคลม หรือบริการโทรศัพท์ Call Center 24/7 อีกด้วย ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์ ในเรื่องของบริการหลังการขายที่เรามั่นใจได้มากกว่า
นอกจากนี้ระบบเสียงก็ดีเยี่ยมจากลำโพงคุณภาพสูง Harman ระบบเสียง Nahimic 3D ช่วยในการเล่นเกมได้สนุกมากยิ่งขึ้น เทียบสเปกราคากับรุ่นก่อนหน้านี้ของ Lenovo Legion 5 Pro นับว่าได้ราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ พร้อมหลายๆ อย่างมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นในหลายๆ ด้าน นาทีนี้ใครกำลังจะซื้อ Gaming Notebook ปี 2021 ในงบไม่เกิน 50,000 บาท รุ่นนี้ต้องเป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน
จุดเด่น Lenovo Legion 5 Pro
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามเรียบหรู งานประกอบแน่นวัสดุดีเยี่ยม แนวทางแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
- ตัวเครื่องเล็กกระชับ แม้จะเป็นหน้าจอ 16″ แต่ได้ขอบหน้าจอบางเฉียบทำให้มีมิติใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Ryzen 7 5800H และการ์ดจอ GeForce RTX 3060 ที่ใหม่ล่าสุด
- ได้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความเร็วแรงระดับสูง ดีกว่าในรุ่นราคาใกล้เคียงกัน
- ประสิทธิภาพในการเล่นเกมหรือทำงานมีความลื่นไหล จากเทคโนโลยี Lenovo Legion AI Engine
- หน้าจอคุณภาพสูง พาเนล IPS คุณภาพสูง ความละเอียด QHD รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz / 3ms
- คีย์บอร์ดมีไฟเป็น 4-zone RGB รองรับ Legion TrueStrike Keyboard
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มีพอร์ตมากมายอาทิ 2 x USB 3.2 Type-C และ 4 x USB 3.2 Type-A และอื่นๆ
- ลำโพงคุณภาพเสียงดีจาก Harman Kardon + Nahimic Audio น่าประทับใจ
- ความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อใช้งานหนักๆ จัดว่ามีอุณหภูมิที่เย็นมากๆ จาก Legion Coldfront 3.0
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ราวๆ 8 ชั่วโมง ถือว่าใช้งานได้ยาวนานเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ด้วยกัน
- มีแพคเกจการรับประกัน Unbeatable Protection Pack มูลค่า 14,900.- บาท (4Y Premium Care / 2Y ADP 100% part and Service)
ข้อสังเกต Lenovo Legion 5 Pro
- ตอนนี้ยังมีเพียงสเปกเดียวและสีเครื่องสีเดียวให้เลือกซื้อ
- น้ำหนักตัวเครื่องและอแดปเตอร์ค่อนข้างหนัก แต่อยู่ในเกณฑ์รับได้
- บทความนี้ยังยังเป็นเครื่องเดโมในการทดสอบ
Specification
สเปกเต็มๆ ของ Lenovo Legion 5 Pro รุ่นที่พร้อมขายสเปกจริงจะเป็นชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 7 5800H ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz สถาปัตยกรรม Zen 3 (Cezanne) ล้ำด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตรรุ่นใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด ส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ร้อนน้อยลงด้วย พร้อมการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3060 (6GB GDDR6) ที่ให้ความแรงลื่นทั้งในการทำงานหรือเล่นเกมเหนือชั้นกว่า Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ
ได้ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz หนึ่งแถว (อัพได้สูงสุด 32GB) ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก แน่นอนว่าสเปกแบบนี้ใช้งานทั่วไปพื้นฐานลื่นไหลแน่นอน รวมไปถึงเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ ก็ดีเยี่ยมมากๆ อย่างไรก็ตามแนะนำให้อัพเกรดแรมเป็น 32GB จะสุดทาง
ได้หน้าจอขนาด 16″ แบบด้าน ขอบหน้าจอบางพิเศษเป็น ความละเอียด Quad HD (2560 x 1600 พิกเซล) ที่สัดส่วน 16:10 พาเนล IPS มี Refresh Rate รองรับ 165Hz ที่ 3ms ให้สีสันสวยงามและมุมมองที่กว้าง เหมาะกับการทำงานหรือเล่นเกม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 2 x USB 3.2 Type-C, HDMI, 4 x USB 3.2 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45, Headset
พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX (2×2) ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น ประกันยาวนานถึง 4 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน รวมไปถึงมีประกันอุบัติเหตุแบบเคลม 100% ในระยะเวลา 2 ปี และมีเครื่องสำรองระหว่างใช้งาน อีกทั้งมี Call Center 24/7 ด้วย
Lenovo Legion 5 Pro ราคา 49,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 7 5800H (8C/16T : 3.20 – 4.40GHz)
-
GPU : Radeon 8 + GeForce RTX 3060 Max-P
-
RAM : 32GB DDR4 3200 MHz
-
DISPLAY: 16″ IPS QHD (2560 x 1600) @ 165Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Home
- Warranty : 4Y Premium Care (On-site) / 2Y ADP 100% part and Service
- รับฟรีกระป๋า Legion Recon Backpack มูลค่า 1,790.- บาท
- รับฟรีฮาร์ดดิสก์ 500GB NVMe PCIe SSD
เสริมความมั่นใจให้กับเหล่าเกมเมอร์อีกขั้นด้วยแพคเกจประกัน Unbeatable Protection ใหม่ล่าสุดครั้งแรกของประเทศไทยกับ Gaming Laptop Premium Service Level ที่ให้การรับประกันยาวนานสูงสุดถึง 4 ปี การันตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ทุกชิ้นส่วนถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่ผ่านการเลือกสรรและทดสอบมาอย่างดีที่สุด เสริมมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
รายละเอียดการรับประกันมีดังนี้ ;
แพคเกจ Unbeatable Protection Pack ราคา 14,900 บาท
ประกันแบบ Premium Care ระยะเวลา 4 ปี
- การสนับสนุนแบบ 24/7
- พนักงาน Call Center เป็นผู้ชำนาญการด้านเทคนิคโดยเฉพาะ
- รับประกันการซ่อมแบบ on-site next business day
- เวลาทำการบริการ on-site ระหว่าง 9 AM- 9PM
การคุ้มครอง Lenovo Accidental Damage Protection (ADP) 2 ปี
- การคุ้มครองด้านอุบัติเหตุแบบ Ultimate ADP
- 100% ดูแลด้านชิ้นส่วนและบริการ
แพคเกจ Unbeatable Protection Pack ราคา 9,900 บาท
ประกันแบบ Premium Care ระยะเวลา 3 ปี
- การสนับสนุนแบบ 24/7
- พนักงาน Call Center เป็นผู้ชำนาญการด้านเทคนิคโดยเฉพาะ
- รับประกันการซ่อมแบบ on-site next business day
- เวลาทำการบริการ on-site ระหว่าง 9 AM- 9PM
การคุ้มครอง Lenovo Accidental Damage Protection (ADP) 2 ปี
- การคุ้มครองด้านอุบัติเหตุแบบ Ultimate ADP
- 100% ดูแลด้านชิ้นส่วนและบริการ
Hardware / Design
Lenovo Legion 5 Pro ต้องบอกเลยว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก Lenovo Legion รุ่นก่อนๆ อีกหนึ่งสุดยอด Gaming Notebook ประจำปี 2021 ที่มาพร้อมความแตกต่างจากดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แนวทำงานที่พกพาไปใช้งานได้ทุกที หรือเล่นเกมที่บ้านก็มีความลงตัว ซึ่งเป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของโลก ที่ใช้สเปกหน้าจอความละเอียด Quad HD ที่ 2560 x 1600 พิกเซล ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า Full HD ที่ 1920 x 1080 แบบเดิมๆ
ได้สัดส่วนที่มากกว่าเป็น 16:10 พาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz ให้ทั้งความลื่นไหลและคุณภาพดีสีสันสวยงามสมจริง เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงอื่นๆ ที่สำคัญยังมีดีไซน์ขอบจอที่บางเฉียบ ส่งผลให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นแบบรู้สึกได้ ในดีไซน์การออกแบบขนาดเทียบเท่า Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″
ส่งผลให้ดีไซน์รวมๆ ของตัวเครื่องมาพร้อมกับสีสัน Storm Grey ที่ให้ความพรีเมียม โดยมีมิติที่เล็กกระชับ ด้วยความบางเพียง 21.7-26.85 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.54 กิโลกรัม ซึ่งเป็นจุดที่สมดุลทั้งในแง่ของประสิทธิภาพในการเล่นเกม และความสามารถในการพกพาได้อย่างลงตัว กับ Gaming Notebook ราคาระดับสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นแต่ความคุ้มค่าอย่างเดียว แต่อยากได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีด้วย จากหน้าจอคุณภาพสูง ซึ่งเชื่อได้เลยว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คน
ตอบโจทย์คนอยากได้โน๊ตบุ๊คเอาไปเล่นเกม แต่ไม่อยากได้ดีไซน์ Gaming ที่ดูจริงจังอย่างสีแดงฉูดฉาดมากเกินไป เพราะเครื่องเดียวกันนั้นต้องพกพาไปใช้งานด้วย ด้วยความที่สเปกเองก็แรงลื่นเอาไปทำงานหนักๆ อย่างโปรเซสไฟล์ภาพถ่ายหรือตัดต่อวีดีโอก็ได้แบบสบายๆ โดยวัสดุที่ใช้ในการประกอบตัวเครื่องนั้นเป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่ดีอีกทั้งยังทนทานไม่เป็นรอยง่ายๆ งานประกอบรวมก็มีคุณภาพมาตรฐาน
ตอกย้ำการออกแบบและดีไซน์ตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นสีสันที่เป็นตัวเครื่องเลือกที่จะให้มีความเรียบง่าย อย่างสีเทาด้านโดยมีโลโก้ ตัว Y ขนาดใหญ่ (ตรงนี้จะมีไฟเปล่งออกมาเมื่อต่อกับอแดปเตอร์) ที่เป็นสัญลักณ์ของ Legion ที่ฝาหลังและบานพันแบบแกนเดียวขนาดใหญ่เป็น ซึ่งขอบบานพับมีโลโก้ Y เช่นกัน พร้อมกันนั้นก็มีโลโก้ของ Lenovo อยู่ 2 ตำแหน่งคือด้านท้ายของตัวเครื่องนอกและด้านในตัวเครื่อง ส่วนด้านล่างตัวเครื่องก็จะเป็นช่องดูลมเย็นขนาดใหญ่ พร้อมยางรองยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ซึ่งมีคำว่า Legion ติดตั้งเอาไว้อยู่
โดดเด่นด้วยการอัพเกรดระบบควบคุมอุณหภูมิและระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 3.0ให้ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ผ่านใบพัดโพลีเมอร์คริสตัลและท่อนำความร้อนขนาดใหญ่พิเศษ พร้อมช่องระบายความร้อนใต้สวิตช์คีย์บอร์ด ทำให้ระบายความร้อนได้รวดเร็วมากขึ้น เพื่อระบายความร้อนออกสู่ภายนอกให้เร็วที่สุด มีการติดตั้งแผ่นโลหะที่ Cover ทั้ง CPU / GPU แบบเต็มพื้นที่ ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อน 4 ทิศทาง โหมดอัจฉริยะใหม่ AI เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ขณะเดียวกันไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนที่ดังเกินไป โดยยังให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมอยู่
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุของ Lenovo Legion 5 Pro รุ่นใหม่นั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Lenovo ที่ทุกคนมั่นใจจริงๆ ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้าก็ถือว่ายังคงรูปแบบเดิมเอาไว้ ให้ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความเฉียบคมและดุดัน ด้วยโลโก้ใหม่ที่ดูน้อยแต่มาก รวมไปถึงการเลือกใช้ไฟคีย์บอร์ดเป็นไฟ RGB 4 โซน ซึ่งดีกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เป็นสีขาวสีเดียว โดยเราสามารถเลือกปรับเป็นสีขาวสีเดียวแบบเดิมก็ได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage กรณีที่นำไปใช้งานนนอกสถานที่เช่นออฟฟิศเป็นต้น ทั้งหมดนี้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike ของ Lenovo Legion 5 Pro โดดเด่นด้วยสวิตช์ซอฟต์แลนดิ้งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้กดที่ลึกขึ้นและมีแรงเท่า ๆ กัน ได้ความแม่นยำ นุ่มนวล หนักแน่น พร้อมไฟ RGB แบบ 4 โซน รองรับ Anti-Ghosting 100% และตอบสนองได้รวดเร็วใน 1ms กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด อีกทั้งมีความแข็งแรงทนทาน
จุดเด่นเลยก็คือ Q Control 4.0 สำหรับการรีดประสิทธิภาพหรือเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ เราสามารถเลือกปรับโหมดได้เองระหว่างโหมดการรักษาอุณหภูมิ Quiet, Balance และ Performance ด้วยการกดปุ่ม Fn + Q นอกจากนี้ยังสามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อดัน CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กัน จากการที่ควบคุมความเร็วพัดลมและแรงดันไฟฟ้า
ในส่วนของทัชแพดนั้นได้รับการออกแบบมาใหม่ที่ดูแล้วเรียบง่าย ลักษณะเป็นแบบแยกปุ่มคลิ๊กซ้ายขวา ดูแล้วมีความสวยงามไม่น้อยเลยสำหรับการดีไซน์ออกแบบ โดยรวมแล้วให้ความรู้สึกการใช้งานที่ดี ที่สำคัญเรายังสามารถปิดทัชแพดและปุ่ม Windows แบบอัตโนมัติเมื่อเราเข้าสู่การเล่นเกม ผ่านทางฟีเจอร์นี้ในซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ Lenovo Legion 5 Pro เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 16″ บนความละเอียดในระดับ Quad HD หรือ 2560 x 1600 พิกเซล (ความหนาแน่นของพิกเซล 34%) สัดส่วนก็มากกว่าที่ 16:10 พาเนลยังเป็น IPS คุณภาพสูง ได้ Refresh Rate ที่ 165Hz / 3ms รองรับ NVIDIA G-Sync และ AMD FreeSync ได้ความลื่นไหลกว่าแบบรู้สึกได้แม้จะนำไปใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตก็ตาม ให้การแสดงผลที่สมจริงมุมมองกว้างกว่าพวกโน๊ตบุ๊คที่เป็นพาเนล TN เหมาะการใช้งานทุกประเภทแน่นอน พร้อมรองรับเทคโนโลยี VESA DisplayHDR 400 / Dolby Vision
เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าประทับใจ ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง หรือชมวีดีโอจาก Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี เรียกได้ว่า Lenovo Legion 5 Pro ยังคงรักษามาตรฐานของ Gaming Notebook เหมือนรุ่นอื่นๆ ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ E-Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น ซึ่งปุ่มนี้ติดตั้งอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านขวา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS เกรดสูง ด้วย Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 91% และ AdobeRGB ที่ 71% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบ 500 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐาน เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก ใครที่จริงจังด้านสีสันถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจรุ่นนึงทีเดียว
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางของหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมซ้ายและขวาบนลดลงไปที่ระดับ 8% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตราฐานทั่วไปมาก เหมาะสำหรับคนเอามาทำงานมืออาชีพหรือเล่นเกมแบบจริงจัง
Lenovo Legion 5 Pro ระบบและการออกแบบลำโพงที่เป็นจุดเด่นอย่างแท้จริง ด้วยลำโพงขนาดใหญ่จากแบรนด์ Harman Kardon แบบ 2 x 2W แยกซ้ายขวาที่ติดตั้งบริเวณขอบตัวเครื่องด้านหน้าจำนวน 2 ตัว ซึ่งได้คุณภาพเสียงที่ดี พร้อมระบบเสียง Nahimic แบบ 3 มิติ ที่จะเข้ามาเสริมพลังเสียงให้หนักแน่น เต็มอิ่ม และดังเพียงพอสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ความบันเทิงให้กับคนรอบข้าง รวมไปถึงปรับแต่งเพิ่มเติ่มได้
Connector / Thin And Weight
Lenovo Legion 5 Pro จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 4 x USB 3.2 Type-A, 2 x USB 3.2 Type-C (รองรับ DisplayPort), 1 x HDMI 1.4, LAN RJ45 และ Mic-in/Headphone-out โดยตัวพอร์ตเองมีทั้งด้านข้าง 2 ข้าง และด้านหลัง เรียกได้ว่ามีการจัดว่าอย่างลงตัว เหมาะสมกับการใช้งานจริง
พร้อมใส่สัญลักษณ์ตามพอร์ตต่างๆ เอาไว้ แต่ในส่วนของ Card Reader ไม่มีมาให้ อีกทั้งมีปุ่ม Restore Windows มาให้เหมือนเดิม พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีความสเถียร กว่าการเชื่อมต่อมาตรฐาน Wi-Fi 5 AC แบบรุ่นก่อนหน้า
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่ค่อนข้างใหญ่โตพอสมควรกับการจ่ายไฟที่ 230Watt ตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คที่สเปกแรงก็ต้องใช้กำลังไฟที่สูงด้วย ส่วนของการพกพาทำได้น่าพอใจไม่แพ้ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ด้วยน้ำหนัก 2.54 กิโลกรัม (หนักกว่าก็จริงแต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้) อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็จัดว่ามีความหนักขึ้นมาก็ขั้น เพราะตัวอแดปเตอร์เองก็ใหญ่โตทีเดียว ตามสไตล์ของ Lenovo แต่ก็ถือว่าพอพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ (ที่แปลว่าเกือบไม่ได้แล้ว )
Performance / Software
Lenovo Legion 5 Pro เครื่องเดโมมาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวแรงยอดนิยมในตลาดของ Gaming Notebook ของ AMD อย่าง Ryzen 7 5800H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่า Ryzen 4000H ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม Cezanne มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 16MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ มากยิ่งขึ้นไปอีก แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก ก็รองรับได้อย่างสบายๆ และดีที่สุดแน่นอน เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 7 4800H แน่นอน พร้อมได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz (8GB x 2) ใช้งานได้ทันที
ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 8 มีความเร็วในการทำงานที่ 2000MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเป็นหลัก กับหน้าจอความละเอียดสูงให้ความลื่นไหลเป็นอย่างดี ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) สถาปัตยกรรม Ampere โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เทียบเคียงอย่าง GeForce RTX 2070 ได้ดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท ทั้งตัวหนาหนักและบางเบา รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากๆ อย่างน่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Ryzen 5000H เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H / Intel Core i7-10875H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยก RTX 3070 เองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนสุด ที่เน้นการทำงาน 3D เป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจมากๆ บนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนที่เป็น SATA 3 หรือ SSD M.2 SATA 3แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3406MB/s และเขียนที่ 3085 MB/s ความเร็วถือว่าทำได้ดีเยี่ยมยอด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ราคาคุ้มค่า ที่ได้ SSD ระดับสูง อันนี้เป็นจุดเด่นที่ชัดเจนทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 6,378 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ด้วยการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุด
จากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming ตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คตัวท็อปรุ่นปีก่อนๆ มากพอตัวระดับเทียบเท่า Desktop ไฮเอนด์ไปแล้ว ฉะนั้นการใช้งานพื้นฐานหรือทำงานหนักๆ สอบผ่านได้สบายๆ
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 50 – 60 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 3070 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 Bus 3200MHz รวมไปถึง SSD NVMe PCIe ความจุ 1TB ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวที่เป็นประเภทออนไลน์อย่าง Resident Evil 3 Remark / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมเทียบ 2560 x 1600 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด แถมไม่กินทรัพยากรเครื่องจนเกินไปด้วย ซึ่งถ้าต้องการเล่นให้ลื่นไหลกว่านี้แนะนำให้ปรับกราฟิกลงมากลางๆ หน่อย
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล และ 2560 x 1600 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 – 100 ขึ้นไปตลอดทั้ง 2 ความละเอียด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ
Lenovo Legion 5 Pro แน่นอนว่ามาพร้อมซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage มีในส่วนเรื่องเช็คการทำงานของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถปรับไฟ RGB 4 โซนได้ตรงนี้เลย อีกทั้งตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย นับได้ว่า Lenovo Vantage เป็นซอฟต์แวร์ Ultility ติดเครื่องที่ดีและใช้งานจริงได้
Inside / Upgrade
การแกะงัดเพื่อเครื่อง Lenovo Legion 5 Pro นั้นสามารถที่จะทำได้ค่อนข้างง่าย เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ส่วนวางอย่างลงตัว งานประกอบก็เรียบร้อยมากๆ โดยตัวเครื่องนั้นจะเป็นแบตเตอรี่ที่มีความจุอยู่ที่ 5100 mAh ซึ่งภายในเกือบทุกชิ้นส่วนจะมีการติดตั้งแผ่นโลหะเอาไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงด้วย สำหรับในส่วนของแรมนั้นจะต้องถอดเอาที่ครอบออกก่อนจากนั้นก็จะเห็นแรม โดยตัวเครื่องนั้นจะมี 16GB x 2 แถว เราสามารถที่จะอัพเกรดหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 32 GB
ระบบระบายความร้อนของ Lenovo Legion 5 Pro นั้นมีทิศทางการไหลของลมที่ดีขึ้นจากเดิมพอสมควร ด้วยการออกแบบให้มีชุดระบายอากาศ 2 ชุด แยกกันระหว่าง CPU และ GPU ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อนถึง 4 ช่อง และผ่านใบพัดโพลีเมอร์คริสตัลเหลว พร้อมด้วยโลหะปกคลุมทั้งหมด เพื่อระบายความร้อนออกสู่ภายนอกให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนที่ดังเกินไปอีกด้วย เรียกได้เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อน แต่จะดีขึ้นหรือเปล่านั้นไปติดตามกันต่อดู แต่บอกได้เลยว่า Gaming Notebook ที่งานประกอบภายในเนี๊ยบจริงๆ
Battery / Heat / Noise
Lenovo Legion 5 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 5100 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็มีความจุที่ใหญ่กว่า Gaming Notebook ทั่วไปแต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียวเลย โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ว่าทำเวลาได้ใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คที่บางเบาเน้นพกพาเลยก็ว่าได้ คาดว่าจะเป็นเพราะการจัดการพลังงานที่ดีของ Lenovo และชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H รุ่นใหม่ จากเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตรนั่นเอง
ส่วนของอุณหภูมิตัวเครื่องโดยรวมถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีขณะที่เราเล่นเกมทดสอบเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลกับการ์ดจอแยกพบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องด้านหลัง แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักเมื่อเราใช้งานทั่วไป จากการที่มีพัดลมสองตัวพร้อมฮีตไปป์ขนาดใหญ่เป่าออกด้านหลังด้านข้าง 4 ทิศทาง และเทคโนโลยี Lenovo Legion Coldfront 3.0 ช่วยจัดการได้อย่างเยี่ยมยอด
อุณหภูมิภายในดูจากโปรแกรม Hardware Monitor เผยถึงชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H โดยมีความร้อนสูงสุดคือ 98 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอร้อนที่สุดที่ 78 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของ Lenovo Legion 5 Pro เครื่องนี้มีอุณหภูมิที่เย็นมากๆ ซึ่งส่งผลให้ตัวเครื่องไม่เสียหายหรือเล่นเกมใช้งานมีปัญหาหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ที่จัดการความร้อนได้ดีเยี่ยมทีเดียว
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย ยอมรับว่า Lenovo ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU (เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงพัดลมนั้นจะไม่มีเสียงดังรบกวนจนเกินไปนัก แม้ว่าจะใช้งานหนักๆ ก็ตาม
นอกจากนี้ยังมี Lenovo Legion AI Engine ซึ่งเป็นระบบของ AI ที่ให้เฟรมเรตสูงสุดในเกมระดับ AAA ในปัจจุบัน สามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อปรับแรงดันไฟฟ้า CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กันอีกด้วย
Conclusion / Award
Lenovo Legion 5 Pro เป็น Gaming Notebook ปี 2021 ที่น่าสนใจมากๆ จากการที่ได้สเปคสุดแรง AMD Ryzen 5000H รุ่นล่าสุดที่ยังแรงขึ้นร้อนน้อยแบตยาวนานได้อีก แม้ในตอนนี้ยังมีสเปกขายจริงสเปกเดียว คือ Ryzen 7 5800H ส่วนการ์ดจอได้เป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 เรียกได้ว่าเข้าคู่กันเป็นอย่างดี ดีขึ้นทั้งประสิทธิภาพ ร้อนน้อยลง และแบตยาวนานขึ้น ในเครื่องเดียว ได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ทุกๆ รุ่น
โดย Lenovo Legion 5 Pro แม้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.54 กิโลกรัม ซึ่งหนักกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะได้หน้าจอ 16″ ความละเอียด QHD ที่ 2560 x 1600 พิกเซล Refresh Rate ที่ 165Hz ตัวแรกของโลก โดยได้พาเนล IPS เกรดสูง มีขอบเขตสี sRGB ใกล้เคียง 100% รองรับทั้งการทำงานแบบมืออาชีพหรือเล่นเกมแบบจริงจังที่มากกว่า พร้อมเทคโนโลยี Lenovo Legion Coldfront 3.0 ที่ช่วยควบคุมความอุณหภูมิ และฟีเจอร์ Q Control 4.0 สำหรับการรีดประสิทธิภาพหรือเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น
Legion TrueStrike Keyboard โดดเด่นด้วยสวิตช์ซอฟต์แลนดิ้งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้กดที่ลึกขึ้นและมีแรงเท่า ๆ แม่นยำ นุ่มนวล หนักแน่น พร้อม 4-zone RGB รองรับ anti-ghosting 100% และตอบสนองได้รวดเร็วใน 1ms ทนทานมากขึ้นด้วยการเคลือบสารให้คุณสมบัติต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อน และแบตเตอรี่ที่ปรับใหม่ให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นใช้ได้นานถึง 8 ชั่วโมง อีกทั้งสามารถเลือกปรับโหมดได้เองระหว่างโหมดการรักษาอุณหภูมิ Quiet, Balance และ Performance
นอกจากนี้ยังมี Lenovo Legion AI Engine ซึ่งเป็นระบบของ AI ที่ให้เฟรมเรตสูงสุดในเกมระดับ AAA ในปัจจุบัน สามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อดัน CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กัน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น Legion ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดันแต่เน้นประสิทธิภาพด้วย ทำให้ไม่ว่าเราจะใช้งานทั่วไปอย่าง ดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต ทำงานเอกสารลื่นไหลแน่นอน รวมไปถึงเอาไปทำงานตัดต่อวีดีโอโปรเซสไฟล์ภาพก็สบายๆ
โดยรุ่นที่เรานำมาทดสอบทั้งหมดเป็นเครื่องเดโมนะครับ ส่วนรุ่นราคาขายจริง 49,990 บาท สเปก Ryzen 7 5800H / RTX 3060 / RAM 32GB / SSD 512GB ถือว่าเป็น Gaming Notebook ได้สเปกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและการ์ดจอ ขอบจอบางเฉียบ ดีไซน์เน้นเรียบๆ ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม ได้คุ้มค่าคุ้มราคาถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามใครคนไหนที่กำลังมองหา Gaming Notebook ระดับบนที่มีความสดใหม่สุดๆ บอกได้เลยว่า Lenovo Legion 5 Pro เป็นคำตอบครับ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 16 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Lenovo Legion 5 Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Lenovo Legion โน๊ตบุ๊คสาย Gaming ซึ่งล่าสุดได้ขนาด 16″ ในมิติตัวเครื่อง 15.6″ ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Lenovo Legion 5 Pro ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามเรียบหรูดูเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม อีกทั้งยังพกพาไปทำงานได้ลงตัว วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ได้ไฟคีย์บอร์ดเป็น RGB แบบ 4 โซน พร้อมปรับหลายๆ ส่วนให้ดีขึ้น ทำให้เป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook ที่หลายคนจับตามองทีเดียว
Best Performance
ด้วยสเปก Lenovo Legion 5 Pro ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 32GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce RTX 30 Series รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูง อีกทั้งได้หน้าจอ IPS คุณภาพสูงที่ดีเยี่ยม ความละเอียด QHD สัดส่วน 16:1- รองรับเทคโนโลยี DisplayHDR 400 ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ
Best Multimedia
เรื่องความบันเทิงก็ทำได้ดีจากลำโพง Harman พร้อมระบบเสียง Nahimic ที่จะเข้ามาเสริมพลังเสียงให้หนักแน่น เต็มอิ่ม และดังเพียงพอสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ความบันเทิงให้กับคนรอบข้าง มาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรงจาก AMD Ryzen 5000H สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างดี ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Lenovo Legion 5 Pro จะได้รางวัลนี้ไป