รวมเว็บไซต์/แอพขายรูปภาพออนไลน์ สร้างรายได้ผ่านรูปภาพด้วยตัวเอง
ในการขายภาพออนไลน์นั้น ถือว่ามีมานานมากแล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่การขายภาพ จะใช้กล้องที่เป็นมือโปรหน่อย แต่เดี๋ยวนี้เมื่อมือถือมีกล้องที่ดีขึ้น การขายภาพออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น
เว็บไซต์สำหรับหรับการขายภาพออนไลน์นั้นจะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมภาพจากทั่วโลก โดยจะมี ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย (ช่างภาพ) ลักษณะการขายก็เปรียบเหมือนการ เช่าสิทธิ์ ที่จะนำรูปภาพไปใช้ในเรื่องต่าง ๆ โดยที่ไม่ละเมิดกฏของเว็บไซต์นั้นๆ เช่น นำไปประกอบบทความได้ แต่เอาไปดัดแปลงหรือขายต่อไม่ได้ เว้นแต่ช่างภาพจะกำหนดให้ภาพนั้นเป็น Commercial Use (การใช้งานในเชิงพาณิชย์) หรือ Enhanced License ผู้ซื้อก็สามารถนำภาพนั้นไปใช้ได้อย่างอิสระเต็มที่
การขายภาพออนไลน์
ก่อนที่เราจะไปดูเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันสำหรับการขายภาพในผ่านช่องทางออนไลน์ เราต้องมาทำความรู้จักกับการขายภาพกันก่อน จริงๆ จะเรียกว่าการขายภาพตรงๆ เลยก็คงไม่ได้เสียทีเดียว แต่การลงภาพ Stock Photo ในเว็บ หรือแอพขายภาพ จะเป็นการให้เช่า เพื่อนำไปใช้มากกว่า เพราะว่ายิ่งภาพของเราน่าสนใจ และมีความเกี่ยวข้องกับ Trending ที่คนกำลังต้องใช้รูปแนวนั้นอยู่ ก็ยิ่งทำให้คนอยากได้รูปเรามากขึ้น เช่น เราถ่ายรูปแมว แล้วนำไปลงขายทิ้งไว้ เมื่อมีคนกำลังอยากได้รูปแมว เพื่อนำไปโปรโมทสินค้า หรือนำไปใช้ประกอบผลงาน เขาก็จะมาซื้อภาพเราไป โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์
นั่นหมายความว่า ถ้ามีหลายๆคนอยากได้รูปแมว เราก็จะยิ่งได้เงินจากลูกค้าหลายๆ คน ที่ต้องการรูปแมวของเรานั่นเอง และภาพ Stock Photo ของเรานั้น สามารถใช้ซ้ำได้ไม่จำกัด ก็คือมีคนเข้ามาซื้อได้เรื่อยๆ นั่นแหละ อาจจะฟังดูง่ายๆ ที่เพียงลงรูปเอาไว้แล้วเดี๋ยวก็มีคนมาซื้อเอง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะบางเว็บอย่างเว็บดังๆ ที่มีคนเข้าไปค้นหารูปเยอะๆ ก็จะต้องมีการทดสอบก่อนจะสมัคร และลงรูปเพื่อขายได้ ถ้าส่งไปแล้วไม่ผ่านก็จะไม่ได้ลงขาย หรือถ้าเป็นเว็บที่สมัครได้ง่ายๆ ก็อาจจะมีคนเข้าไปใช้งานน้อย และถ้าอย่างน้อยเรามีฝีมือพอสมควร ก็จะยิ่งทำให้คนสนใจรูปเรามากขึ้นด้วย โดยส่วนใหญ่เราจะเรียกเว็บขายภาพออนไลน์พวกนี้ว่า “Microstock”
การได้เงินจากการขายภาพออนไลน์
การได้รับเงินนั้น จะได้รับเงิน และจ่ายเงินผ่านทาง PayPal ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ใช้กันอย่างสากล โดยเมื่อเราทำการสมัคร PayPal เรียบร้อยแล้ว ให้นำข้อมูล Email ที่เป็นของ PayPal ไปลงไว้ในแอพ ที่เราต้องการขายภาพนั้น แต่ละแอพนั้น ก็จะมียอดขั้นต่ำที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าทางแอพ จะกำหนดขั้นต่ำเท่าไหร่ เราถึงจะขอถอนเงิน (Withdraw) เพื่อนำมาใช้งานได้ หรือบางแอพอาจโอนเงินให้โดยอัตโนมัติ ถ้าหากเงินถึงยอดขั้นต่ำ ที่ได้กำหนดไว้แล้ว
การสมัคร PayPal ให้เชื่อมกับบัตรนั้น สามารถทำได้ทั้งบัตรเครดิต และบัตรเดบิต ส่วนขั้นตอนการสมัครก็ไม่ได้ยากมากนัก เพียงทำตามขั้นตอนของทางเว็บ PayPal ซึ่งจะมีบอกเอาไว้ แต่ล่าสุด ตอนนี้ทาง PayPal ได้ระงับการสมัครการใช้งานอยู่ ประเทศไทยอาจต้องรอถึงปีหน้า ถึงจะเปิดรับสมัครใหม่อีกครั้ง ถ้ามีข่าวอัพเดท เราจะมาบอกกันอีกที ส่วนลูกค้าเดิม ก็ยังสามารถเข้าไปใช้งาน และชำระเงินได้ตามปกติ
9 เว็บไซต์ขายภาพออนไลน์
1. Shutterstock
Shutterstock เป็นเว็บไวต์ที่ขายทั้งภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และคลิปวีดีโอ ที่เรียกได้ว่าเป็น สต็อกออนไลน์อันดับ 1 สำหรับภาพถ่ายและคลิปวีดีโอจะต้องส่งภาพไปสอบ 10 ภาพต้องผ่านอย่างน้อย 7 ภาพราคาคอมมิชชั่นต่อภาพอาจจะเริ่มต้นแค่ $0.25 แต่เพราะเป็นเว็บสต็อกที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดทำให้มีลูกค้าจำนวนมหาศาลเลยทำให้เว็บนี้คึกคักมียอดดาวน์โหลดจำนวนมากในแต่ละวันอีกทั้งยังมีการดาวน์โหลดแบบ single ดาวน์โหลดซึ่งเป็นการมอบภาพและสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อทั้งหมดทำให้การขายครั้งเดียวอาจได้ถึงหลัก $100
2. iStockphoto
iStockphoto เป็นเว็บที่ขายภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ คลิปวีดีโอ รวมไปถึงคลิปเสียง แถมยังเว็บที่เป็นคู่แข่งตีคู่มากลับ Shutterstock มีการสอบที่ยากน่าจะเรียกได้ว่ายากที่สุดในบรรดาเว็บสต็อก แต่ก็คุ้มอย่างยิ่งที่จะพยามสอบให้ผ่าน เพราะรายได้สำหรับช่างภาพที่สมัครขายแบบ Exclusive (ต้องลงภาพแค่เว็บนี้เว็บเดียวเท่านั้น) รายได้ดีกว่าการขายแบบธรรมดาอยู่เยอะทีเดียว ด้วยความที่เป็นเว็บใหญ่และช่างภาพเลือกขายภาพเยอะ จึงจำเป็นต้องหาแนวทางของรูปที่ตัวเองจะขายให้ได้ไวๆยิ่งเป็นแนวที่ตลาดต้องการแต่มีน้อย รายได้ก็จะมาแบบมหาศาลเลยทีเดียว ซึ่งการอัพโหลดภาพไปขายผ่านเว็บนี้จะมีโปรแกรมที่ใช้อัพโหลดโดยเฉพาะสามารถโหลดได้ที่ Deepmeta
3. Dreamstime
Dreamstime เป็นเว็บสต็อกชื่อดังอันดับ 3 ที่เป็นตัวเลือกของช่างภาพด้วย ตัวเว็บขายเฉพาะภาพถ่ายและภาพเว็คเตอร์ ข้อดีของเว็บนี้เลยก็คือ เป็นเว็บที่สามารถลงทะเบียนสมัครแล้วส่งภาพขายได้เลยไม่ต้องสอบรออนุมัติภาพที่ส่งก็สามารถขายได้เลยหากอัพโหลดภาพในพอร์ตเยอะในระดับนึงแล้วก็สามารถมีที่จะเริ่มมีรายได้อย่างสม่ำเสมอได้แล้ว
4. Adobe Stock
Adobe Stock เป็นบริการขาย ภาพ, เวกเตอร์กราฟิก และ วีดีโอ แบบออนไลน์บนเว็บไซต์ https://stock.adobe.com/ ที่ทาง Adobe ได้เปิดบริการ โดยภาพรวมของเว็บนั้นก็ไม่ได้ต่างจากเว็บไซต์ขายภาพออนไลน์เจ้าอื่น แต่ที่มีความต่างและดีกว่าเจ้าอื่นก็คงเป็นการเชื่อมต่อกับโปรแกรมต่าง ๆ ของ Adobe กับทาง Adobe Stock ได้เลย ไม่ต้องไปเสียเวลาเปิดเว็บไซต์หาภาพให้วุ่นวาย
5. Fotolia
Fotolia เป็นเว็บไซต์ขายภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และวีดีโอ ที่ติด 1 ใน 5 ของเว็บสต็อกที่ช่างภาพนิยมนำรูปมาลงขายเพียงแค่สมัครแล้วส่งภาพขายได้ทันทีไม่ต้องสอบแถมอนุมัติภาพได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าหากภาพดีเป็นที่ต้องการในช่วงเทศกาลนั้น ๆ ก็จะมียอดดาวน์โหลดมาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย และที่สำคัญ ในปัจจุบันนั้น Fotolia ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Adobe Stock ไปเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ยังสามารถเข้าใช้งาน ลงขายภาพกับเว็บไซต์นี้ได้อยู่เหมือนเดิม
6. Depositphotos
Depositphotos เป็นเว็บขายภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และวิดีโอ ที่เป็นเว็บสต็อกที่จัดว่าสมควรเลือกเป็นอีกเว็บในการอัพโหลดสำหรับช่างภาพมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น ถึงแม้ว่าจะมีการสอบแต่หากมีพื้นฐานที่ดีหรือสอบผ่านเว็บสต็อกข้างบนได้แล้วก็นำรูปมาส่งที่เว็บนี้ได้หากผ่านแล้วอัพโหลดรูปให้เยอะเท่าที่จะมีให้อัพก็เป็นอีกเว็บที่สามารถทำเงินให้ได้ในระดับนึงเลยทีเดียว
7. CanStockPhoto
CanStockPhoto เป็นเว็บที่ติด 1ใน 10 จากการจัดอันดับของเว็บต่างประเทศ โดยจะขายทั้ง ภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และวิดีโอ แต่ต้องส่งภาพสอบก่อน 3 ภาพ สำหรับใครที่มีรูปภาพสวยๆ ตามความต้องการของตลาดก็แนะนำให้อัพโหลดเข้าไปเยอะๆ ยิ่งมากยิ่งมีโอากาสเห็นยอดดาวน์โหลดถึงแม้จะเห็นยอดดาวน์โหลดยากสักหน่อยแต่ส่งหลายเว็บยังไงก็มีโอกาสทำเงินได้มากกว่าส่งเว็บเดียวแน่นอน
8. Crestock
Crestock นั้นเป็นเว็บไซต์สำหรับขายภาพออนไลน์ที่ถึงแม้ตัวเว็บจะไม่ดังเท่าเว็บอื่นๆ แต่สำหรับช่างภาพที่ลงภาพขายที่นี่แล้ว นอกจากไม่ต้องตรวจสอบแล้ว ในการขายรูป ถ้ายิ่งขายได้มากก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นมากขึ้น โดยตัวเว็บจะมีขายตั้งแต่ ภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ และวิดีโอเลยด้วย
9. 123RF
สำหรับ 123RF เป็นเว็บที่ไม่ต้องตรวจสอบ ส่วนขั้นตอนการลงทะเบียนก็ไม่เยอะมาก สมัครแล้วสามารถส่งภาพขายได้เลย และน่าจะเป็นเว็บที่รับภาพง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับเว็บอื่นและยังมี Application บนมือถือทำให้สามารถถ่ายและอัพโหลดส่งขายได้เลย ทำให้เป็นเว็บที่สร้างรายได้ให้พอสมควรหากมีรูปในพอร์ตที่เยอะในระดับนึง ในส่วนของการขาย ตัวเว็บก็จะขายตั้งแต่ ภาพถ่าย ภาพเว็คเตอร์ รวมไปถึงวิดีโอ และคลิปเสียงด้วย
5 แอพขายภาพออนไลน์
ต่อมาก็จะเป็นแอพพลิเคชันขายภาพออนไลน์ ที่จะนำมาฝากกัน ความจริงแล้วมีหลายแอพมาก ที่ทำขึ้นมาเพื่อให้เราได้ลงรูป เอาไว้ให้คนอื่นมาซื้อ แต่เราจะแนะนำแอพ ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง และมีหลายคนให้ความสนใจกันมากหน่อย ก็คือมีคนเข้ามาซื้อ-ขายกันเยอะ ซึ่งแต่ละอันนั้น ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือว่าเป็นมือโปรฯ ก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน แถมบางแอพยังมี Challenges ให้ร่วมเล่นไปกับคนที่อยู่ในแอพด้วย ทางที่ดีควรค่อยๆ หาแนวทางของตัวเองก่อน หรือจะดูตัวอย่าง (Reference) ของคนอื่นก่อนก็ได้ เพราะบางแอพ ก็มีให้กดติดตาม เพื่อดูผลงาน ของคนที่เราให้ความสนใจเป็นพิเศษได้ มาเริ่มกันเลย
1. Shutterstock Contributor
เชื่อว่าคนที่เคยค้นหารูปภาพ เพื่อนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะใช้ตอนเรียนหรือตอนทำงาน ก็ต้องคุ้นเคยกับเว็บ Shutterstock ที่มักจะมีลายน้ำ ติดอยู่ที่รูปหลายๆ อันบน Google ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าไม่อยากได้ลายน้ำ ก็ต้องทำการซื้อภาพนั่นเอง
Shutterstock นั้น โด่งดังมานานมากแล้ว กับเรื่องของการขายภาพผ่านเว็บไซต์ ซึ่งก็มีคนที่ให้ความสนใจมากมาย ไปสมัครสมาชิกกัน เพื่อที่จะเอาภาพของตัวเอง มาลงไว้ในเว็บนี้ เพื่อให้คนเข้าไปซื้อ และเมื่อมาถึงในยุคของมือถือ ที่กำลังรุ่งเรืองอยู่ในตอนนี้ ทาง Shutterstock ก็ได้ทำแอพ แยกออกมาอีก 1 ตัว นั่นก็คือ Shutterstock Contributor ที่ทำขึ้นมาสำหรับการลงภาพเพื่อขายออนไลน์เท่านั้น ทั้งมือใหม่และมือโปรฯก็สามารถมาอัพโหลด เพื่อทำการขายได้เหมือนกัน แต่ต้องขอบอกก่อนว่า การสมัครเป็นสมาชิกเพื่อขายภาพผ่านแอพ Shutterstock Contributor จำเป็นต้องผ่านการทดสอบก่อน โดยจะให้ทดสอบโดยการส่งรูปไปเพื่อพิจารณา ตามกฎของ Shutterstock และถ้าผ่านเพียง 1 รูป ก็จะสามารถลงขายได้เลย
ภาพโดยรวมแล้วแอพ นี้คนใช้งานเยอะมาก ซึ่งก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย ข้อดีคือคนเข้าถึงเยอะ หากเราลงรูปเยอะๆก็มีโอกาสทำให้คนมาซื้อเยอะเช่นกัน แต่ด้วยความเยอะของผู้ใช้งาน หากภาพของเราไม่สะดุดตาจริงๆ หรือใส่ข้อมูลไม่ครบ การแท็กคีย์เวิร์ดไม่ตรง ก็อาจจะทำให้ภาพที่เราลงไว้ไม่มีคนเห็นก็ได้ ต้องลองศึกษา และลงรูปเรื่อยๆ เพื่อ Stock เป็นผลงานให้คนเข้ามาตัดสินใจซื้อภาพของเรา ได้ง่ายขึ้น
Android : ดาวน์โหลดแอพ Shutterstock Contributor
iOS : ดาวน์โหลดแอพ Shutterstock Contributor
2. Foap
แอพ ขายภาพออนไลน์อย่าง Foap นั้น มีมานานพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นแอพ ยุคแรกๆ ของการขายรูปออนไลน์ ผ่านมือถือเลยก็ว่าได้ และค่อนข้างเป็นที่นิยมในต่างประเทศ เนื่องจากความง่ายต่อการใช้งาน และแอพ นี้ทำขึ้นมาเพื่อขายภาพที่ถ่ายด้วยมือถือก็ได้ ถ้าจะพูดเปรียบกับแอพ ที่คุ้นเคยกันดี ก็คล้ายๆ กับ Instagram อะไรแบบนั้นเลย มีให้ Follow คนที่เราอยากติดตามผลงาน และโปรไฟล์ของตัวเองด้วย
แต่ความต่างจากแอพ โพสต์รูปทั่วๆ ไปคือ มันสามารถขายได้ด้วย โดยเราสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ในภาพ ให้มีอะไรที่น่าสนใจ และคนอยากเข้ามา เพื่อซื้อภาพของเราไปใช้งานได้ การโพสต์ลงไปในแต่ละครั้ง ก็ไม่มีระยะเวลาด้วย เพียงแค่ลงรูปไว้แล้วรอคนมาซื้อนั่นแหละ หรือบางครั้งอาจมีแบรนด์ ที่ต้องการภาพเป็นแคมเปญ ก็สามารถเข้ามาโปรโมทสินค้า โดยให้คนที่เล่นแอพ นี้ส่งภาพเข้าไปประกวดก็ได้
ข้อดีของแอพ Foap คือ สามารถสมัคร และใช้งานได้ในทันที ไม่จำเป็นต้องมีการสอบใดใดทั้งสิ้น แต่ในเรื่องการขายภาพนั้น จะต้องมีคนมาให้คะแนนก่อน ถ้าคะแนนถึงเกณฑ์ ถึงจะลงขายได้ ความแฟร์ของแอพ นี้อีกเรื่องคือ ทุกๆภาพจะถูกขายในราคา 10$ (ประมาณ 300 กว่าบาท) และแบ่งให้เรา 5$ ผ่านทาง PayPal เท่านั้น ก็เหมือนค่าฝากขายอะไรแบบนั้น วินวินกันไป พอถึงยอดขั้นต่ำที่เบิกได้ ก็เอาเงินออกมาใช้ได้เลย ข้อสำคัญคือ การที่จะขายภาพได้นั้น ต้องมีความน่าสนใจ และลงข้อมูลรายละเอียดให้ครบ หากลงไปเล่นๆ ก็คงยากที่จะมีคนมาสนใจได้
Android : ดาวน์โหลดแอพ Foap
iOS : ดาวน์โหลดแอพ Foap
3. Snapwire
แอพขายภาพออนไลน์ ที่แหวกแนว และมีความคิดสร้างสรรค์มากๆ สำหรับแอพ ที่ชื่อว่า Snapwire เนื่องจากการขายภาพของเรา จะได้สนุกมากขึ้นกว่าการขายปกติ ด้วย ฟีเจอร์ Requests และ Challenges ซึ่งตัวอย่างของการ Requests ก็คือจะมีคนที่ตั้งโจทย์มาให้ แล้วถ้าตรงกับที่เราถนัดพอดี เราก็สามารถกดรับงาน แล้วไปถ่ายภาพมาให้ เพื่อนำมาขายได้ อันนี้เหมาะกับพวกเริ่มโปรแล้ว ถ้ามือสมัครเล่นก็อย่าเพิ่งไปลอง เดี๋ยวจะทำให้คะแนนในแอพ ของเราตกต่ำลงไปมากกว่า ควรไปลองเล่นอย่างอื่นก่อน
ส่วนอีกอันก็น่าสนใจไม่น้อย นั่นก็คือ Challenges ซึ่งจะมีคนตั้งโจทย์มาให้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Playing Video Games, Home Gardens ฯลฯ แล้วแต่ว่าตอนนั้นจะมี Challenges อะไรบ้าง เราก็แค่ถ่ายภาพให้ตรงตามโจทย์ และแข่งกับคนอื่นๆ ถ้าภาพไหนถ่ายออกมาได้ดีที่สุด ก็จะถูกซื้อไป โดยมีมูลค่ามากถึง 75$ เลยทีเดียว เงินที่ได้เราจะได้ 70% ส่วนที่เหลือแอพ จะหักไป ก็ถือว่าคุ้มนะ ถ้าชนะขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่ได้มีแค่การแข่งกันเท่านั้น เราสามารถขายภาพได้ปกติ โดยให้เลือกภาพที่คิดว่าดีที่สุดของเรา เพื่อลงขายใน MarketPlace ถ้ามีคนชอบเยอะ และให้คะแนนเยอะ เลเวลเราก็จะเพิ่มขึ้น และทำให้ผู้ซื้อสนใจภาพเรามากขึ้นนั่นเอง
ข้อดีของแอพ นี้คือ สามารถลงขายได้เลย ไม่ต้องทดสอบอะไร และสามารถถอนเงินไปโดยผ่าน PayPal เมื่อถึงเกณฑ์ที่แอพ กำหนดไว้ แต่อาจจะต้องมีฝีมือนิดนึงในการเล่น Challenges ต่างๆ เนื่องจากมีหลายคนที่ส่งเข้าไปแข่ง ยิ่งถ้าเรามีเลเวลเยอะ ก็ยิ่งทำให้ภาพเราน่าสนใจมากขึ้นได้ด้วย
Android : ดาน์โหลดแอพ Snapwire
iOS : ดาวน์โหลดแอพ Snapwire
4. Contributor Getty Images
แอพ ที่สายถ่ายภาพ หรือทำกราฟิกต้องรู้จักกันบ้างแหละ สำหรับแอพ ขายภาพออนไลน์อย่าง Getty Images ที่มีมานาน และเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของทาง Shutterstock เลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบัน ก็ได้รวมตัวเข้ากับ iStockphoto ไปแล้วด้วย เว็บนี้เหมาะกับคนที่เป็น Professional แล้วเท่านั้น เนื่องจากการสอบเข้าเพื่อลงรูปขายนั้น เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร โดยจะเลือกให้ผ่านถึง 3 ภาพด้วยกัน จากทั้งหมด 6 ภาพ แต่ก็ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะพอสมควร ตอนนี้ก็สามารถให้ทดสอบ และลงรูปผ่านแอพ ได้แล้วด้วย
การขายภาพแต่ละภาพนั้น ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือ Commercial ที่เป็นทางการ เพราะว่าภาพแต่ละภาพในเว็บนั้นมีราคาที่สูงมาก บางภาพราคาขึ้นไปถึงหลักหมื่นเลย เนื่องจากความเข้มงวดของทางเว็บด้วย และก็ฝีมือช่างภาพแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาจริงๆ บางคนอาจได้รับคำเชิญให้ไปถ่ายลงไว้ในเว็บ แต่บางคนก็สามารถผ่านการสมัครได้เลย ถ้าใครคิดว่าตัวเองเจ๋งพอ และอยากประลองฝีมือกับ Getty Images ก็ลองสมัครแล้วส่งผลงานไปทดสอบได้ เผื่อได้ลงขายขึ้นมา รับรองว่าได้รับเงินเยอะแน่นอน
ข้อดีของแอพนี้คือ สามารถขายภาพได้ในราคาที่มีเรทสูง และมีคนต้องการภาพจาก Getty Images เป็นจำนวนมาก ถ้าผ่านการรับรองยิ่งทำให้มีโอกาสขายภาพได้สูง แต่ความยากของการทดสอบก็เป็นสิ่งที่ท้าทายพอสมควร เราสามารถส่งภาพไปทดสอบได้เรื่อยๆ จนกว่าจะผ่าน และถ้าผ่านก็ลงรูปแล้วรอรับเงินได้เลย
Android : ดาวน์โหลดแอพ Contributor Getty Images
iOS : ดาวน์โหลดแอพ Contributor Getty Images
5. EyeEm
แอพสุดท้ายที่จะมานำเสนอ ก็คือแอพ EyeEm แอพขายภาพออนไลน์สำหรับมือใหม่ก็ใช้ดี มือโปรก็ใช้ได้ เพราะตัวแอพออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และเป็นแอพที่ใครๆ ก็บอกกันว่า สามารถทำเงินได้จริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องถึงขั้นมือโปร แบกกล้องตัวใหญ่ไปถ่ายด้วยความชัดสูงขนาดนั้น แค่เพียงใช้มือถือ ก็สามารถนำภาพมาลงขายได้แล้ว โดยเราสามารถกำหนดได้ว่า ภาพที่ลงไปนั้นจะเป็นภาพที่เก็บ Stock ไว้เฉยๆ เพื่อให้คนเข้ามาดูผลงาน หรือจะลงราคาขายไว้ก็ได้ ภาพในแอพนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงด้วย มีฟีเจอร์ให้กดติดตาม เพื่อดูผลงานของคนอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีการให้เล่น Missions เพื่อชิงเงินรางวัลอีกด้วย โดยจะคล้ายๆ Snapwire ที่มีคนตั้งโจทย์ขึ้นมา แล้วให้เราสามารถทำ Challenges กับคนอื่นๆ ใครที่สามารถถ่ายรูปได้ดีที่สุด ก็จะได้รับรางวัลไป มีทั้ง Challenges จากแอพและจากบริษัทเอเจนซี่ที่เข้ามาตั้งโจทย์ให้ รางวัลได้มากถึง 500$ เลยทีเดียว แอพที่ทำขึ้นมานี้ เอาไว้อัปโหลดรูปขึ้นโดยเฉพาะ ไม่สามารถซื้อภาพผ่านแอพได้ ต้องทำการซื้อในเว็บเท่านั้น ส่วนราคาที่ได้จะแบ่งกัน 50% ของราคาที่ขายได้ และจะได้รับเงินผ่านทาง PayPal เท่านั้น
ข้อดีของแอพนี้คือ เมื่อสมัครงานแล้ว สามารถใช้งานได้เลย โพสต์รูปลงได้เลย ไม่ต้องทดสอบอะไรทั้งสิ้น แต่ทางที่ดีควรจะศึกษาดูก่อนว่า ควรจะถ่ายเป็นแนวไหน และควร Stock ภาพไว้เยอะๆ เพื่อเก็บเป็นผลงานให้คนเข้ามาสนใจเยอะขึ้น ก่อนจะขายได้ แต่ถ้ามั่นใจฝีมือก็ลองลงขายไปเลย ไม่ว่ากัน
Android : ดาวน์โหลดแอพ EyeEm
iOS : ดาวน์โหลดแอพ EyeEm
สรุป
สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ แล้วอยากลองขายภาพ ผ่านทางออนไลน์ แนะนำให้ลองใช้ EyeEm และ Snapwire ดูก่อน เนื่องจากเหมาะกับการทดลองขาย เริ่มต้นก่อน ค่อยๆเก็บประสบการณ์ไปก่อน ลอง Stock ไว้ก่อนสัก 200 – 300 รูป ให้คนเริ่มรู้จักเรา แล้วอาจจะขยับไปเล่นพวกที่เป็นโปรมากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเองด้วย ว่ามั่นใจหรืออยากลองไปแอพ ใหญ่เลยหรือไม่ เพราะเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น
แต่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ และถ่ายรูปเป็นประจำ รู้มุม รู้สภาพแสง และจัดองค์ประกอบได้ดีแล้ว จะลองขายผ่านแอพ Contributor Getty Images, Shutterstock Contributor และ Foap ก็ได้ เนื่องจากจำเป็นต้องสอบ ก่อนที่จะขายได้ อย่างน้อยผู้ที่เป็นคนสอบ ก็จะได้มั่นใจได้ว่า เราถ่ายเป็นจริงๆ โดยเฉพาะของ Getty Images ที่หลายๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สอบเข้ายากมากๆ เพราะจะผิดเพี้ยนไปนิดเดียวก็ไม่ได้ ต้องสวยเป๊ะเท่านั้น แต่ถ้าสามารถสอบผ่าน ก็รับรองได้เลยว่า ทำเป็นอาชีพได้แน่นอน