Application : ลงได้เหมือน ๆ กัน แต่มันคนละแบบ
จุดที่ทำให้ Tablet อย่าง iPad หรือว่าพวก Andriod เป็นที่นิยมก็คือ มันสามารถลง Application หรือ แอพ หรือ โปรแกรมเพิ่มเติมได้ มันก็เลยตอบสนองวิธีการใช้งานของเรามากขึ้น เช่น คนที่ชอบออนไลน์ ก็อาจจะลงพวก TweetDeck ไว้ช่วยติดตามเพื่อน ๆ จากทั้ง Facebook และ Twitter หรือพวกเว็บอื่น ๆ อย่าง Four Square ได้ด้วย แอพที่ให้ข้อมูลแบบนี้ ทำให้เราไม่ต้องลำบากในการเปิดหน้าเว็บทีละหลายๆ เว็บ หน้าตาของแอพก็ทำให้ดึงดูดใจได้ด้วย การที่มีแอพให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติมไม่ว่าจะฟรีหรือเสียสตางค์ เป็นส่วนที่ทำให้ฮาร์ดแวร์พวกนี้สามารถดำรงอยู่ได้จริง ๆ ครับ
สำหรับเครื่องเน็ตบุ๊กในเรื่องของโปรแกรมที่เราสามารถลงได้นั้น อย่างที่รู้ ๆ ว่ามีให้ลงได้ไม่มีหมด สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานได้หลากหลายกว่ามากไม่ว่าจะเป็นเบราเซอร์ที่มีให้เลือกมากกว่า โปรแกรมพิมพ์เอกสารก็มีเยอะแยะแล้วแต่ว่าชอบเจ้าไหน โปรแกรมดูหนังก็ดูได้ทุกประเภท ไม่ต้องกลัวเปิดไม่ขึ้น ถ้าพูดถึงเกมยิ่งแล้วใหญ่ มีให้เลือกตั้งแต่ Causual Game เล็ก ๆ เหมือนใน iPad อย่าง Angry Bird ไปจนถึงเกมโหดร้ายยิงให้หัวหลุดไว้ก่อนเป็นพอ หรืออยากจะค้าขายยาเสพติดก็มีให้เล่น
สรุปก็คือ แอพขั้นเทพเป็นทางรอดของเครื่อง Tablet เลยทีเดียว แต่ยังไง ๆ Windows ก็ลงโปรแกรมได้กินขาดกว่าอยู่ดี นี่ไม่ได้พูดถึงพวก Linux หรือว่า Emulator เล่นเกมเก่า ๆ อีกนะครับ
Connect : เชื่อมต่อไม่ได้ มันก็กระดานฉนวนดี ๆ นั่นเอง
จุดที่ทำให้ Tablet ไม่ได้เกิดจริง ๆ จัง ๆ ในบ้านเรา ไม่ใช่เพราะราคาหรือตัวฮาร์ดแวร์เอง แต่เป็นอินเทอร์เน็ตของเรานั่นแหละครับ ที่บ้านเราไม่มีทั้ง Wi-Fi และ 3G ผู้ใหญ่หลายท่านที่สนใจอยากได้ iPad หรือ Tablet ตัวอื่น ๆ ไว้ใช้งาน เพราะเห็นว่ามันใช้สะดวก พกพาง่าย เป็นเรื่องปกติครับ แต่เวลาซื้อเรามักจะลืมเรื่องของอินเทอร์เน็ตและค่าใช้จ่าย จะซื้อ Tablet หรู? ๆ มาทำไมถ้าเดินออกมานอกบ้านแล้วเน็ตหลุด… เอาไว้ฟังเพลงหรือครับ ฟังจากมือถือก็ได้ เอาไว้พิมพ์งานก็พกเน็ตบุ๊กง่ายกว่าไหม เอาไว้ถ่ายรูปก็ซื้อกล้องตัวละสามพันดีกว่า เอาไว้เล่นเกมคงได้ เพราะจอมันใหญ่ แต่ถ้าเป็นผม ผมซื้อ Nintendo DS ครับ ลองมองสถานการณ์อินเทอร์เน็ตในบ้านเรา Wi-Fi ก็ไม่ครอบคลุม ถึงจะมีบริษัทมาบอกว่าติดไว้สองพันกว่าจุด แต่เดินออกมา 50 เมตร สัญญาณก็หลุด Wi-Fi ฟรีอย่าง Green Bangkok ก็ความเร็วก็พอ ๆ กับโมเด็ม 3G บ้านเราคงไม่ต้องพูดถึง ยังได้ยินคนบ่นกว่าเดินสยามแล้วต่อไม่ติดอยู่เลย แล้วถ้าเราซื้อมาแล้วใช้แค่ EGDE/GPRS ล่ะ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ไม่ได้น้อยเลยนะครับ อย่างชุดไม่จำกัดของ iPad แต่ละเดือนก็ปาไปเกือบพันแล้ว นอกจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว การต่อพ่วงกับอุปกรณ์อื่น? ๆ ก็จำกัดมากๆ คุณไม่สามารถเอา Flash Drive ไปเสียบเข้าเครื่องได้ตรง ๆ ถึงมันจะเสียบการ์ดได้ แต่พวกเราก็พก Flash Drive มากกว่าการ์ดอยู่ดีใช้ไหมครับ
สรุปก็คือ ถ้า Tablet มันต่อเน็ตไม่ได้ มันก็เหมือนกระดานธรรมดา ๆ ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ คุนสมบัติอื่น ๆ ที่มีอย่างพวกโทรศัพท์มือถือก็แทบจะใช้งานได้ทั้งหมดอยู่แล้ว กลายเป็นว่าซื้อมาแล้วก็ใช้ได้แต่ในบ้าน เขียนมาซะยืดยาวจะเห็นได้ว่า Tablet เองก็เป็นเครื่องที่ทำออกมาสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น เล่นเว็บ ดูหนัง ฟังเพลง โดยเราสามารถพกพามันออกไปได้โดยง่าย แต่ขนาดเดียวกันมันก็ต้องการอินเทอร์เน็ต เพื่อจะให้มันใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพจริง ๆ ซึ่งบ้านเราขาดแคลนอย่างแรง Tablet จึงเหมาะสำหรับเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับคนที่มีพวกคอมพิวเตอร์หรือเน็ตบุ๊กไว้ใช้ทำงานอยู่แล้ว เพราะทั้งสองอย่างก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมาะกัน ถ้าคุณคิดจะซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานเป็นอย่างแรก แนะนำให้ซื้อเน็ตบุ๊กเลยครับ