Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

Tips & Tricks

8 เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์ สร้างวิดีโอปังๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรม

แนะนำ 7 เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์ ฟรี สร้างวิดีโอสุดปังได้ง่ายๆ

เดี๋ยวนี้คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก มาดู 7 เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์ ที่สามารถตัดต่อวิดีโอได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม ให้เราได้มีวิดีโอน่ารัก ๆ ดูดี ตามสไตล์ของตัวเองได้ง่าย ๆ ไม่กินทรัพยากรเครื่องด้วย

video editor web

ต้องบอกว่าปัจจุบันนั้น คอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอแทบจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานหลาย ๆ ด้าน ที่ต้องการการโปรโมท แม้แต่กับการเรียน บางรายวิชาเราก็ต้องทำงานส่งเป็นรูปแบบวิดีโอ วันนี้ทีมงาน Notebookspec เลยอยากจะมาแนะนำเว็บไซต์สำหรับตัดต่อวิดีโอออนไลน์ เหมาะกับใครที่เป็นมือใหม่ อยากฝึกตัดต่อวิดีโอ ไม่ได้ต้องการความโปร ความเทพ ที่ต้องใช้ความละเอียด และฝีมือในการตัดต่อแบบมืออาชีพ และกับใครที่มีพื้นที่ในคอมพิวเตอร์ หรือสเปคคอมพิวเตอร์ที่ค่อนข้างจำกัด ไม่อยากลงโปรแกรมให้หนัก เว็บไซต์เหล่านี้ก็จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

Advertisement

1. Adobe Spark

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์

เริ่มต้นกันด้วยเว็บไซต์ Adobe.Spark ที่เป็นเว็บไซต์สำหรับตัดต่อวิดีโอออนไลน์ และทำภาพกราฟฟิก จากค่ายชื่อดังอย่าง Adobe ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของมัลติมีเดียอยู่แล้วนั่นเอง โดยในเว็บไซต์นั้นจะมีส่วนที่ให้บริการเราอยู่ 3 ส่วน หลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่

  • Adobe Spark Post สำหรับการสร้างสรรค์งาน Social Graphic, Poster , Print
  • Adobe Spark Page สำหรับการสร้าง Portfolios
  • Adobe Spark Video สำหรับสร้างและตัดต่อวิดีโอ

ซึ่งใน Adobe Spark Video นั้น ก็จะมีฟีเจอร์การตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐานให้เราได้ใช้งานกัน ไม่ว่าจะเป็นการ ตัด, ใส่ข้อความ, ใส่โลโก้ ฯลฯ ผู้ใช้งานก็สามารถเลือกส่วนของวิดีโอที่ต้องการจะใช้งานได้เลย โดยที่ไม่ต้องอัพโหลดทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ถือว่าดีมาก ๆ เพราะเราจะไม่ต้องอัพโหลดไฟล์ขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็นนั่นเอง นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้งานร่วมกับ Adobe Creative Cloud คือสามารถที่จะอัพโหลดไฟล์วิดีโอของเรา ขึ้นไปเก็บไว้บน Cloud ของ Adobe ได้นั่นเอง และด้วยความเป็น Adobe จึงมั่นใจในคุณภาพของงานได้เลย แถมการใช้งานเบื้องต้นนั้น เราก็สามารถใช้ได้ฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมาะมากกับคนที่ต้องการใช้งานตัดวิดีโอขั้นพื้นฐาน ไม่ได้เน่นความเป็นมืออาชีพมากมาย แต่ต้องการคุณภาพของงานที่ดี Adobe.Spark ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย

เว็บไซต์ Adobe Spark


2. ClipChamp

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์

เว็บไซต์ต่อมาที่จะแนะนำนั้นก็คือ ClipChamp ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับตัดต่อวิดีโอออนไลน์ ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีฟีเจอร์ให้เราได้เลือกใช้งานพอสมควรเลย โดยเฉพาะกับการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน เหมาะมากโดยเฉพาะกับใครที่เป็นมือใหม่อยากลองฝึกฝนสกิลการตัดต่อวิดีโอ แต่ไม่อยากลงโปรแกรมให้หนักเครื่อง หรือยังไม่พร้อมที่จะซื้อโปรแกรมเฉพาะทางมาใช้งานนั่นเอง สำหรับฟีเจอร์หลัก ๆ ที่น่าสนใจของ ClipChamp นั้น ก็จะมีตัดต่อ การตัดส่วนของวิดีโอ, การเรียง Footage ที่ตัวเว็บทำได้ค่อนข้างดี, การปรับสีของวิดีโอเบื้องต้น, มีเพลงประกอบให้ได้เลือกใช้งาน, สามารถอัพวิดีโอผ่านทางกล้องเว็บแคมของเรา หรืออัพวิดีโอหน้าจอก็ได้ ฯลฯ เรียกได้ว่า เป็นอีกเว็บไซต์ที่น่าสนใจ แต่น่าลองใช้งานไม่น้อย แต่นอกจากข้อดีแล้วก็มีข้อสังเกตอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ การใช้งานเบื้องต้นนั้น ตัวเว็บเปิดให้ใช้งานกันได้ฟรี ๆ แต่วิดีโอก็จะติดลายน้ำ ถ้าใครไม่ซีเรียสก็สามารถใช้งานได้สบาย ๆ แต่ถ้าใครที่ไม่อยากติดลายน้ำ ก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่าย อัพเกรดเป็น Premium ซึ่งถ้าอัพเกรดแล้วก็สามารถใช้งานการ Export วิดีโอแบบความละเอียด 720p ขึ้นไปได้ด้วย และก็จะไม่มีลายในงานวิดีโอของเราเช่นกัน

เว็บไซต์ ClipChamp


3. WeVideo

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์

เว็บไซต์สำหรับการตัดต่อวิดีโอผ่านช่องทางออนไลน์ต่อมา ที่อยากจะแนะนำ ก็คือ WeVideo นั่นเอง เว็บไซต์นี้เป็นอีกเว็บที่ให้บริการตัดต่อวิดีโอที่เน้นความง่าย ไม่ซับซ้อน มือใหม่ก็สามารถทำเองได้อย่างง่ายดาย เหมาะกับใครที่เน้นการตัดต่อวิดีโอแบบพื้นฐานทั่วไป ไม่เน้นความละเอียดระดับมืออาชีพ การใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ จากนั้นก็อัพโหลดไฟล์วิดีโอที่เราต้องการจะตัดต่อขึ้นไป ระบบก็จะตึง Footage ของวิดีโอออกมาให้เราได้เลือกช่วงที่ต้องการ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ WeVideo ก็จะมี ใส่ข้อความ, Overlay, ใส่ Background, มี Theme ของวิดีโอให้เราได้เลือกใช้งาน, ความสามารถในการเพิ่ม Layer ของวิดีโอได้ เพื่อให้เราสามารถวางวิดีโอซ้อนกัน หรือจะเพิ่มเสียง เข้าไปก็ได้, สามารถที่จะดึงไฟล์วิดีโอที่เราได้อัพโหลดไว้บน Cloud อื่น ๆ ได้ เช่น Google Drive, Dropbox ฯลฯ ส่วนข้อสังเกตของ WiVideo ก็จะคล้าย ClipChamp เลย นั่นก็คือ เบื้องต้นเราสามารถใช้งานได้ฟรี แต่ก็จะติดลายน้ำ สำหรับใครที่ไม่อยากติดลายน้ำก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดเป็น Premium นั่นเอง

เว็บไซต์ WeVideo


4. Online Video Cutter

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์

เว็บไซต์สำหรับการตัดต่อวิดีโอเว็บไซต์ต่อมาที่อยากแนะนำก็คือ Online Video Cutter ที่มาพร้อมความสามารถขั้นพื้นฐานในการตัดต่อวิดีโอ ใช้งานง่าย แค่อัพโหลดไฟล์วิดีโอขึ้นไป ก็สามารถตัดต่อวิดีโอได้เลยทันที สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจของเว็บนี้ก็จะมีตั้งแต่ ฟีเจอร์ตัดต่อคลิป, Crop เฉพาะส่วนของวิดีโอ, Rotate, การปรับความละเอียดของวิดีโอ, Volume, Speed, Loop, Stabilize และฟีเจอร์ Remove Logo สำหรับในส่วนของนามสกุลไฟล์นั้น ก็รองรับ MP4, MOV, MKV หรือจะตั้งให้เป็นอัตโนมัติ ก็ได้ ซึ่งโดยรวมแล้วเว็บไซต์นี้นั้น เหมาะกับคนที่ต้องการตัดต่อวิดีโอแบบขั้นพื้นฐานสุด ๆ จริง ๆ อาจจะมีลูกเล่นกับปรับสีวิดีโอนิดหน่อย แต่ถ้าใช้งานใส่ลูกเล่นอื่น ๆ เว็บไซต์นี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ แต่ข้อดีก็คือ สามารถใช้งานได้ฟรี ๆ แบบไม่มีลายน้ำติดวิดีโอ

เว็บไซต์ Online Video Cutter


5. Movie Maker Online

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์

สำหรับ Movie Maker Online ก็เป็นอีกเว็บไซต์สำหรับตัดต่อวิดีโอที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะตัวเว็บออกแบบมาสำหรับให้บริการการตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน ใช้งานง่าย เข้าใจได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง การใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ อัพโหลดไฟล์วิดีโอที่เราต้องการตัดต่อ สำหรับลูกเล่นนั้นก็มีตั้งแต่ การใส่เพลง การใส่พื้นหลัง การใส่ข้อความ และมีเอฟเฟคลูกเล่นอื่น ๆ ให้ได้เลือกใช้งานกันด้วย นอกจากนี้เราก็ยังสามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานฟีเจอร์ Trim, Merge, Editor, Movie Maker หรือ Slideshow ซึ่งก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ฟื้นฐานของการตัดต่อวิดีโอ ที่เหมาะกับการเริ่มต้นมาก ๆ ข้อดีของเว็บไซต์นี้เลยก็คือ สามารถใช้งานได้ฟรี ๆ และวิดีโอที่ตัดต่อนั้นก็จะไม่ติดลายน้ำด้วย มือใหม่คนไหนอย่างลองตัดวิดีโอแบบง่าย ๆ Movie Maker Online ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจทางเลือกหนึ่ง

เว็บไซต์ Movie Maker Online


6. Magisto

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์

สำหรับ Magisto ก็เป็นเว็บไซต์สำหรับตัดต่อวิดีโอออนไลน์ที่น่าสนใจไม่แพ้เว็บไซต์อื่นเลย ซึ่งนอกจากจะเปิดให้บริการตัดต่อวิดีโอผ่านทางเว็บไซต์แล้ว Magisto ก็มีแอพพลิเคชันให้ดาวน์โหลดด้วย รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android การใช้งานก็ง่ายมาก ๆ ตัวเว็บมีฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานให้ AI เป็นตัวช่วยในการตัดต่อวิดีโอของเราได้ แถมวิดีโอที่ได้นั้นก็ไม่มีลายน้ำด้วย แต่สำหรับผู้ใช้งานในเวอร์ชั่นที่เปิดให้ใช้ฟรี ก็จะมีโลโก้ของ Magisto โผล่เพิ่มเข้ามาในตอนท้ายของวิดีโอ และคุณภาพของวิดีโอที่ได้ก็จะเป็นความละเอียดอยู่ที่ SD ใครที่อยากได้ความละเอียดที่สูงกว่านี้ก็จะต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งสามารถเลือกได้ตามแพ็กเกจรายเดือนในเว็บไซต์

ในส่วนของฟีเจอร์และการใช้งานนั้นก็ทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เราอัพโหลดวิดีโอขึ้นไป จากนั้นก็สามารถทำการตัดต่อวิดีโอได้เลย โดยไฟล์วิโอที่เราอัพขึ้นไปก็สามารถเพิ่มได้หลายไฟล์ เราสามารถเลือก Style ของวิดีโอที่ต้องการได้ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ทั้งเวอร์ชันฟรีและสำหรับ Premium สามารถเลือกใส่ข้อความที่ต้องการได้ จากนั้นก็สามารถใส่เพลงได้ โดยในเว็บก็จะมีเพลงให้เราได้เลือกใส่เช่นเดียวกับสไตล์ จากนั้น AI ก็จะทำหน้าที่ประมวลผลให้เรา และออกมาเป็นวิดีโอตามที่เราต้องการนั่นเอง ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลย และที่สำคัญ เหมาะมากกับใครที่ต้องการทำวิดีโอที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก มีผู้ช่วยทำให้เราเรียบร้อย เพียงแค่นำวิดีโอหรือรูปภาพมาเรียงกัน ถ้าใครอยากลองทำคลิปอวยพรวันเกิด หรือคลิปวันครบรอบน่ารัก ๆ Magisto ก็เป็นอีกเว็บที่น่าสนใจ

เว็บไซต์ Magisto


7. Canva

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกับ Canva เว็บไซต์ที่รวบรวม Template มากมาย สำหรับการทำงานออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าปก โปสเตอร์ พอร์ต ฯลฯ และ Canva ก็มีฟีเจอร์สำหรับการตัดต่อวิดีโอออนไลน์ด้วยเช่นกัน แถมยังสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ใช้งานคล้าย ๆ กับตอนที่เราออกแบบปก หรือโฟสเตอร์ ผ่านทางเว็บไซต์ของ Canva เลย ในส่วนของฟีเจอร์ที่น่าสนใจนั้น ก็มีตั้งแต่ สามารถเลือกความละเอียดของวิดีโอได้ เลือกได้ว่าจะเป็นวิดีโอที่เราจะนำไปอัพโหลดลงโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, วิดีโอแบบสไลด์โชว์ หรือวิดีโอ Youtube ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังสามารถ ตัดต่อ แก้ไข เพิ่มข้อความ ใส่เพลง ปรับแต่งขนาดของไอค่อน หรือรูปภาพ ส่วนไปถึงภาพเคลื่อนไหว สติ๊กเกอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการทำงานนั้นก็สามารถทำได้ฟรี ๆ เลยด้วย ใครที่ชอบงานสไตล์ของ Canva นั้น ก็ต้องลองไปใช้งานฟีเจอร์ตัดต่อวิดีโอกันดู ว่าจะออกมาดูดี และสวยเหมือน Templates ที่ใช้ในการทำงานออกแบบปก โปสเตอร์ และอื่น ๆ หรือไม่

เว็บไซต์ Canva


8.BeeCut

333

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอออนไลน์ของ BeeCut ทำให้ง่ายต่อการแปลงวิดีโอเป็น GIF แยกเสียงจากวิดีโอ ผสาน ตัดแต่ง หมุน ครอบตัดวิดีโอและอื่น ๆ มีฟังก์ชันเกือบทั้งหมดที่คุณต้องการเพื่อสร้างวิดีโอที่ยอดเยี่ยมในเวลาไม่กี่นาที ทั้งหมดนี้อยู่แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส การใช้งานง่าย มีเมนูเป็นรูปชัดเจนว่าแต่ละปุ่มทำงานอย่างไร หรือจะขั้นสูงเช่นลบลายน้ำ หมุนวีดีโอ แปลงจากเสียงเป็นข้อความเจ้าโปรแกรมตัวนี้ก็รองรับทั้งหมด เหมาะกับมือใหม่ที่อาจจะต้องการทำงานวีดีโอแค่เล็กๆน้อยๆ และยังสามารถทำงานแบบออนไลน์บน Browser ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องโหลดแอป

แต่ข้อจำกัดหลักเลยจะทำงานเวอร์ชั่นฟรีได้แค่ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ไม่เกิน 100MB เท่านั้น ถ้าเกินจากนั้นต้องเป็นเวอร์ชั่นเสียเงิน ซึ่งจะอัพโหลดไฟล์ ตัดต่อทำงานได้ไม่จำกัด

เว็บไซต์ BeeCut


ตารางเปรียบเทียบเว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์ ฟรี แต่ละเว็บไซต์

เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์ข้อดี / ฟีเจอร์ที่น่าสนใจข้อสังเกต
1. Adobe Spark– มีฟีเจอร์การตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐานให้ได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการ ตัด, ใส่ข้อความ, ใส่โลโก้ ฯลฯ
– สามารถเลือกส่วนของวิดีโอที่ต้องการจะใช้งานได้ โดยที่ไม่ต้องอัพโหลดทั้งหมด
– ใช้งานร่วมกับ Adobe Creative Cloud
– สามารถใช้ได้ฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย เหมาะมาก กับคนที่ต้องการใช้งานตัดวิดีโอขั้นพื้นฐาน
สามารถใช้งานฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานได้ฟรี แต่หากต้องการเป็น Premium Features หรือการใช้งานเต็มรูปแบบนั้น ก็จะมีค่าใช้จ่าย
2. ClipChamp– สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีฟีเจอร์ให้เราได้เลือกใช้งานพอสมควร
– เหมาะกับคนที่เป็นมือใหม่อยากลองฝึกฝนสกิลการตัดต่อวิดีโอ
– สามารถตัดต่อ ตัดส่วนของวิดีโอ, การเรียง Footage, การปรับสีของวิดีโอเบื้องต้น, มีเพลงประกอบให้ได้เลือกใช้งาน
– สามารถอัพวิดีโอผ่านทางกล้องเว็บแคมของเรา หรืออัพวิดีโอหน้าจอก็ได้
– ตัวเว็บเปิดให้ใช้งานกันฟรี ๆ แต่จะติดลายน้ำ
– สำหรับการใช้งานแบบเต็มรูปแบบ ไม่ติดลายน้ำนั้น จะต้องมีการเสียค่าใช้จ่าย
3. WeVideo– ให้บริการตัดต่อวิดีโอที่เน้นความง่าย ไม่ซับซ้อน
– เหมาะกับใครที่เน้นการตัดต่อวิดีโอแบบพื้นฐานทั่วไป ไม่เน้นความละเอียดระดับมืออาชีพ
– เพียงแค่อัพโหลดไฟล์วิดีโอที่ต้องการตัดต่อขึ้นไป ระบบก็จะตึง Footage ของวิดีโอออกมาให้ได้เลือกช่วงที่ต้องการได้เลย
– สามารถใส่ข้อความ, Overlay, ใส่ Background, มี Theme ของวิดีโอให้ได้เลือกใช้งาน
– มีความสามารถในการเพิ่ม Layer ของวิดีโอได้ เพื่อให้สามารถวางวิดีโอซ้อนกัน หรือจะเพิ่มเสียง เข้าไปก็ได้
– สามารถที่จะดึงไฟล์วิดีโอที่เราได้อัพโหลดไว้บน Cloud อื่น ๆ ได้ เช่น Google Drive, Dropbox ฯลฯ
– เบื้องต้น สามารถใช้งานได้ฟรี แต่ก็จะติดลายน้ำ สำหรับใครที่ไม่อยากติดลายน้ำก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดเป็น Premium
4. Online Video Cutter– มาพร้อมความสามารถขั้นพื้นฐานในการตัดต่อวิดีโอ ใช้งานง่าย
– อัพโหลดไฟล์วิดีโอขึ้นไป ก็สามารถตัดต่อวิดีโอได้เลยทันที
– มีฟีเจอร์ตัดต่อคลิป, Crop เฉพาะส่วนของวิดีโอ, Rotate, การปรับความละเอียดของวิดีโอ, Volume, Speed, Loop, Stabilize และฟีเจอร์ Remove Logo
– รองรับไฟล์ MP4, MOV, MKV ฯลฯ
– เหมาะกับคนที่ต้องการตัดต่อวิดีโอแบบขั้นพื้นฐานสุด ๆ
– ลูกเล่นไม่เยอะ แต่สามารถใช้งานได้ฟรีโดนไม่มีลายน้ำ
5. Movie Maker Online– ใช้งานง่าย เข้าใจได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง
– รองรับการใส่เพลง การใส่พื้นหลัง การใส่ข้อความ และมีเอฟเฟคลูกเล่นอื่น ๆ ด้วย
– รองรับการใช้งาน ฟีเจอร์ Trim, Merge, Editor, Movie Maker หรือ Slideshow
– ใช้งานได้ฟรี ๆ และวิดีโอที่ตัดต่อนั้นก็จะไม่ติดลายน้ำ
6. Magisto-เปิดให้บริการทั้งบนหน้าเว็บไซต์ และแอพพลิเคชัน รองรับทั้ง iOS และ Android
– มีฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานให้ AI เป็นตัวช่วยในการตัดต่อวิดีโอได้
– สามารถเพิ่มไฟล์วิดีโอที่อัพโหลดได้หลายไฟล์
– เลือก Style ของวิดีโอได้ตามต้องการ
– รองรับการใส่เพลง ข้อความ
– สำหรับผู้ใช้งานในเวอร์ชั่นที่เปิดให้ใช้ฟรี ก็จะมีโลโก้ของ Magisto โผล่เพิ่มเข้ามาในตอนท้ายของวิดีโอ และคุณภาพของวิดีโอที่ได้ก็จะเป็นความละเอียดอยู่ที่ SD
7. Canva– ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
– สามารถเลือกความละเอียดของวิดีโอได้
– เลือกได้ว่าจะเป็นวิดีโอที่เราจะนำไปอัพโหลดลงโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, วิดีโอแบบสไลด์โชว์ หรือวิดีโอ Youtube ฯลฯ
– รองรับการ ตัดต่อ แก้ไข เพิ่มข้อความ ใส่เพลง ปรับแต่งขนาดของไอค่อน หรือรูปภาพ ส่วนไปถึงภาพเคลื่อนไหว สติ๊กเกอร์ และอื่น ๆ
– สามารถใช้งานฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานได้ฟรี แต่หากต้องการเป็น Premium Features หรือการใช้งานเต็มรูปแบบนั้น ก็จะมีค่าใช้จ่าย

และทั้งหมดนี้ก็คือ 8 เว็บไซต์สำหรับตัดต่อวิดีโอ ที่ทีมงานได้นำมาแนะนำกัน ซึ่งทั้งหมดนั้นก็สามารถที่จะตัดต่อและสร้างสรรค์วิดีโอได้ค่อนข้างออกมาดี เหมาะสำหรับมือใหม่หรือใครที่ต้องการที่จะตัดต่อวิดีโอแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนวุ่นวาย ไม่ได้ต้องการเครื่องมือระดับมืออาชีพ โดยแต่ละเว็บไซต์ที่แม้จะมีฟีเจอร์พื้นฐานคล้ายกัน แต่ลูกเล่นอย่างอื่นก็แตกต่างกันออกไปตามแต่ละเว็บ ซึ่งใครที่ชอบแบบไหน แนวไหน ก็ลองเข้าไปใช้งานกันดูได้เลย


อ่านบทความเพิ่มเติม/บทความที่เกี่ยวข้อง

https://youtu.be/q3mGhCNeQzU
เปลี่ยนแรมโน๊ตบุ๊คครั้งแรก
Clubhouse
เล่นยูทูปปิดหน้าจอ
 Facebook เข้าไม่ได้
โปร iPad
ปัญหา LINE ไลน์ไม่เด้ง
ค้นหาด้วยรูป ค้นหาด้วยภาพ
ลบไฟล์ขยะ Windows 10
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

How to

ไม่ว่าจะระบบปฏิบัติการไหนก็ต้องมีโปรแกรมเอาไว้ทำงานทั้งนั้น รวมถึง Ubuntu Linux ซึ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และวิธีติดตั้งโปรแกรมใน Ubuntu ในปัจจุบันก็สะดวกกว่าในอดีตมากจนแทบไม่ต่างจากระบบปฏิบัติการยอดนิยมตัวอื่นเลย แถมมีให้เลือกดาวน์โหลดไปใช้ได้หลากหลายอย่าง ตั้งแต่เบราเซอร์, โปรแกรมทำงานเอกสาร, แต่งภาพ, ตัดต่อวิดีโอ ไปจนเขียนและคอมไพล์โปรแกรมให้นำไปติดตั้งได้ตามต้องการ ผ่านทาง App Center เหมือนกับ Microsoft Store ของ Windows 11 หรือ...

SOFTWARE

ใครว่าของใช้ฟรีใช้ดีไม่มีในโลก? ในปี 2025 นี้ คุณสามารถหาผู้ช่วย เพื่อใช้โปรแกรมวาดรูป สร้างสรรค์ผลงานตั้งแต่มือใหม่ ไปจนถึงวัยทำงานและเป็นโปรแกรมฟรี เรารวบรวม 5 เครื่องมือวาดรูปฟรี ใช้งานง่าย เป็นกันเอง แต่มีฟีเจอร์ครบครัน และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลก สำหรับติดตั้งและใช้งานบนคอมพิวเตอร์ เตรียมเวลาและเครื่องมืออย่าง เมาส์ ปากกาสไตลัสของคุณให้พร้อม แล้วไปดูกันว่ามีโปรแกรมใด ที่จะมาเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งในการสร้างงานของคุณบ้าง! 5 โปรแกรมวาดรูปฟรีบนพีซีปี 2025 ใช้งานง่าย 1....

Tips & Tricks

แนะนำวิธีย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ ทำด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน อัพเดท 2024 เชื่อว่าหลายๆ คนมีความคิดที่ว่า การดำเนินการเกี่ยวกับราชการนั้น เป็นเรื่องยุ่งยาก และต้องรอคิวนาน แต่ในปัจจุบันนั้น หลายๆ หน่วยงาน ก็เริ่มมีการให้บริการการจองคิวออนไลน์ หรือการยื่นเรื่องดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์กันแล้ว และครั้งนี้ ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากมาแนะนำวิธีย้ายทะเบียนบ้านออนไลน์ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชันอย่าง ThaID แอพพลิเคชันจากหน่วยงานรัฐ ที่น่าสนใจ...

Tips & Tricks

แนะนำวิธีดาวน์โหลด TikTok ไม่มีลายน้ำ ทำได้ฟรี ในไม่กี่ขั้นตอน อัพเดท 2024 ในปัจจุบันนั้น TikTok ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีคอนเทนต์วิดีโอให้เราได้รับชมมากมาย หลายๆ คนก็อยากดาวน์โหลดคลิปมาเก็บไว้ดู แต่ก็ไม่อยากให้มีลายน้ำติดมา ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะมาแนะนำวิธีดาวน์โหลด TikTok ไม่มีลายน้ำ ฟรี ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม ทำได้ง่ายๆ ใน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก