HP Pavilion 15 รุ่นปี 2021 ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 (Tiger Lake) เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin ที่สุดในโน๊ตบุ๊คบางเบา อย่าง Core i5-1135G7 ที่ไม่ใช่แค่แรงขึ้น แต่มี AI ช่วยทำงานในตัว CPU พร้อมการ์ดจอออนชิปตัวใหม่อย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ทำให้ประสิทธิภาพกราฟฟิกดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ที่เคยมีมาทั้งหมด
ด้วยฟีเจอร์ Intel Quick Sync ไม่ว่าจะดูหนังความละเอียดสูง 4K 8K ทำงานเอกสารได้ไหลลื่น ช่วยประมวลผลด้านทำกราฟิก อาทิตระกูล Adobe ต่างๆ ทำให้ตอบสนองได้อยางรวดเร็ว ตัดต่อ Video โดยใช้ iGPU ทำงาน รวมถึงสตรีมมิ่งก็ทำได้อย่างง่ายดาย เครื่องบางเบา พกพาสะดวก แบตเตอรี่ยาวนาน ประสิทธิภาพทั้งหมดอยู่ใน HP Pavilion 15 รุ่นใหม่ที่ใช้ Intel Core i Gen 11
ที่สำคัญตัวเครื่องมาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามากเพียง 1.75 กิโลกรัม และบางเพียง 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เหมาะกับสายการทำงานหรือบันเทิงที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ อาจจะใช้งานตามออฟฟิศหรือร้านกาแฟก็ลงตัวเหมือนกัน อีกทั้งมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX450 ที่รองรับการเล่นออนไลน์ได้ลื่นไหลใกล้เคียงการ์ดจอแยก Gaming
ทำงานร่วมกับแรมขนาด 8GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB สนนราคาเพียง 25,990 บาท ได้ Windows 10 และซอฟต์แวร์ช่วยจัดการ พร้อมประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านด้วย และที่ให้ความคุ้มค่ามากๆ ก็คือได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 ซึ่งมี Word / Excel / Power Point ใช้งานติดเครื่องยาวๆ ฟรีๆ ทันที
VDO Review
NBS Verdict
HP Pavilion 15 เครื่องรีวิวบทความนี้เป็นสเปกขายจริง และพร้อมขายตามหน้าร้านแล้ว ได้สเปกและดีไซน์รุ่นล่าสุด ทดสอบใช้งานจริงแล้วน่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีทีเดียวกับโน้ตบุ๊ตบางเบา ที่ให้ความสดใหม่แบบสุดๆ กับสเปกชิปประมวลผล Intel Core i5-1135G7 ที่จัดเต็มเรื่องเทคโนโลยี การผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin ที่มี AI ช่วยงานประมวลผลร่วมกับซอฟต์แวร์ที่รองรับ อาทิ Microsoft Office ที่ประกอบไปด้วย Word / Excel / Power Point ซึ่งทำให้การทำงานมีความลื่นไหลกว่า Gaming Notebook แรงเสียอีก
รวมถึงโปรแกรมตระกูล Adobe อย่าง Photoshop / Lightroom ซึ่งช่วยให้ทำงานเร็วขึ้นกว่า พร้อมด้วยการ์ดจอออนชิป Iris Xe Graphics ซึ่งรองรับการแสดงผลภาพหน้าจอภายนอกสูงสุดที่ 4K – 8K ทำงานร่วมกับการ์ดจอ GeForce MX450 ที่เล่นเกมได้ลื่นไหลกว่า MX รุ่นก่อนๆ โดยมีแรม 8GB รองรับการอัพเกรดใส่เพิ่มได้อีก 1 แถวทันที พร้อมติดตั้ง SSD 512GB มาในราคาไม่แพง โดดเด่นด้วยตัวเครื่องที่มีความพรีเมียม พร้อมความบางเบา และแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ส่วนเรื่องอื่นๆ ถือว่าลงตัวมากๆ ในราคาที่เราจ่ายไป ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์งานประกอบ ประสิทธิภาพความลื่นไหล แบตเตอรี่และพอร์ตการเชื่อมต่อ แต่ถ้าเป็นข้อสังเกตเล็กน้อยก็น่าจะเป็นเรื่องของขอบเขตสีหน้าจออยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งเหมาะกับงานทั่วไปมากกว่างานแบบมืออาชีพ รวมไปถึงในส่วนของความร้อนชิปประมวลผลที่อาจจะดูสูงไปหน่อย แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไม่มีปัญหาใดๆ และปิดท้ายก็คือไม่ได้พอร์ตเป็น Thunderbolt 4 มาด้วยเท่านั้นเอง ซึ่งเทียบกับราคา 25,990 บาท ก็นับว่ารวมๆ แล้วคุ้มค่าน่าใช้งาน
การรับประกันอย่าง HP On-site Service รับซ่อมเครื่องถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend (Plus) 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมงเพิ่มความคุ้มยิ่งเพิ่มเข้ามาอีกเยอะเลยล่ะ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีเหนือระดับกว่าโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ ในราคาที่จ่ายถูกกว่า ก็ตามไปจัด HP Pavilion 15 ได้เลย โดยรวมแล้วเหมาะกับนักเรียนนักศึกษา คนทำงานที่เน้นใช้งานพื้นฐาน เล่นเกมบ้าง ให้ความสำคัญเรื่องดีไซน์ที่ดูดีในราคาที่คุ้มค่า โดยได้สเปกที่แรงลื่นเพียงพอกับการใช้งาน
ข้อดี HP Pavilion 15
- ตัวเครื่องออกแบบใหม่ ให้ความสวยงามและหรูหรา งานประกอบดี พร้อมมีให้เลือก 2 สีสัน
- ขอบจอบางเฉียบ ตัวเครื่องบางเบา เพียง 1.75 กิโลกรัม บางเฉียบ 17.9 มิลลิเมตร
- ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 11 รุ่นใหม่ล่าสุด และการ์ดจอแยก GeForce MX 450
- ได้แรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz ที่ใช้งานได้ทันที หรือจะอัพเกรดก็ทำได้เลย
- มาพร้อมหน่วยความจำสำรอง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ความเร็วสูงเพียงพอ
- ประสิทธิภาพดี รองรับการทำงานและได้เล่นเกมออนไลน์ ได้อย่างลื่นไหล
- มีพอร์ต USB 3.2 Type-A ทั้งหมด พร้อม USB 3.2 Type-C
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง
- รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
- HP SmartFriend (Plus) บริการหลังการขายที่มากกว่า
ข้อสังเกต HP Pavilion 15
- พอร์ต USB-C ยังไม่ได้เป็นมาตรฐาน Thinderbolt 4 แต่รองรับ PD
- พาเนลจอเป็น IPS ให้ขอบเขตสีระดับกลางๆ เหมาะกับงานพื้นฐานทั่วไป
- ความร้อนชิปประมวลผลดูสูงไปหน่อยเมื่อทำงานหนักๆ แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน
Specification
HP Pavilion 15 ปี 2021 มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด อย่าง Intel Core i5-1135G7 (อนาคตน่าจะมี Core i7-1165G7 มาเป็นตัวเลือก) สถาปัตยกรรม Tiger Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร SuperFin ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 2.40 – 4.20 GHz โดยมี AI ในตัวช่วยประมวลผลงานต่างๆ มีค่า TDP ที่ 15Watt
โดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel Iris Xe Graphics ตัวแรง พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX 450 (2GB GDDR6) ที่แรกกว่า รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ รวมไปถึงเล่นเกม ส่วนใส่ที่เก็บข้อมูลให้มาแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ที่ 512GB พร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz (รองรับการอัพเกรดอีก 1 แถวทันที)
ได้หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้าน พาเนล IPS คุณภาพดี ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว ทางด้านพอร์ตที่ติดตั้งมีมาให้จะใช้ถือว่าครบครันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 2 ช่อง, USB 3.2 Type-C จำนวน 1 ช่อง, micro-SD Card Reader, HDMI สำหรับต่อหน้าจอเสริม และรูหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ
อัพเดทรองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 AX201 (2 x 2) กับ Bluetooth 5.0 พร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ตามมาตรฐานของ HP ที่ทุกคนไว้ใจได้ ที่สำคัญก็คือนอกจากระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ติดเครื่องมาให้พร้อมใช้งานแล้ว ยังให้ในส่วนของโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่ากว่า 4,299 บาท มาฟรีๆ ติดเครื่องยาวๆ ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มแยกต่างหากด้วย
HP Pavilion 15-eg0034TX ราคา 25,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i5-1135G7
-
GPU : Intel Iris Xe Graphics + MX450
-
RAM : 8GB DDR4 3200 MHz
-
DISPLAY: 15.6″ Full HD IPS 60Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
- Software : Microsoft Office Home & Student 2019
- Warranty : 2 Year Onsite Service
HP Pavilion 15-eg0033TX ราคา 25,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i5-1135G7
-
GPU : Intel Iris Xe Graphics + MX450
-
RAM : 8GB DDR4 3200 MHz
-
DISPLAY: 15.6″ Full HD IPS 60Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
- Software : Microsoft Office Home & Student 2019
- Warranty : 2 Year Onsite Service
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion 15 ปี 2021 วัสดุเป็นโลหะเกือบทั้งหมด โดดเด่นด้วยสีสันให้เลือก 2 สีคือเทา (Natural Silver) และน้ำเงิน (Fog Blue) โดยในรีวิวนี้เป็นสีน้ำเงิน เน้นไปที่ความเรียบง่าย จัดว่าพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น HP อยู่อย่างชัดเจน ด้วยวัสดุเกรดดีทั้งหมด ทำให้ได้งานประกอบแน่นหนา
ฝาหลังวัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมอัลลอยด์ พื้นผิวแบบเรียบๆ มีโลโก้ HP สีเงินมันวาวดูหรูหรา พื้นผิ้วติดมือทำให้เวลาจับไม่ลื่น แกนฝาพับก็เป็นแบบแกนเดียวขนาดใหญ่ ส่วนตัวบอดี้ด้านในที่เป็นบริเวณคีย์บอร์ดวัสดุจะเป็นพลาสติกที่ให้สัมผัสคล้ายโลหะส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะส่วนหนึ่งของแป้นคีย์บอดร์ดให้ความเรียบเนียน
ส่วนด้านในตัวเครื่องบริเวณที่พักข้อมือก็จะเป็นสีเงินเช่นเดียวกัน ให้ความเรียบง่ายแต่ดูดีเช่นกัน รวมถึงแป้นคีย์บอร์ดก็เป็นสีเงิน ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่บางเบาพกพาง่ายกว่าเดิมมาก ด้วยน้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัม และด้วยความบางของตัวเครื่องที่ 17.9 มิลลิเมตร ตามสไตล์โน๊ตบุ๊คสมัยนี้ที่เน้นบางเบาและขอบจอต้องบางด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่ราคาไม่แพง เน้นใช้งานทั่วไป ประสิทธิภาพดีลื่นไหลใช้งานได้ยาวๆ สวยงามเกินราคา
HP Pavilion 15 รุ่นใหม่ ต้องบอกว่างานดีจริงๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญก็คือในส่วนของดีไซน์การเปิดตัวหน้าจอจะมียางรองด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องและชุดคีย์บอร์ดให้เอียงรับเพื่อทำมุมอย่างเหมาะสมเวลาเปิด ทำให้เวลาที่ใช้งานนั้นผู้ใช้จะรู้สึกว่าตัวเครื่องมีการระบายอากาศทางด้านล่างของโน๊ตบุ๊คออกไปอย่างรวดเร็วและให้ความรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นเวลาพิมพ์
ส่วนระบบระบายความร้อนก็ได้ติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอ ทำให้หมดกังวลเรื่องปัญหาที่จะทำให้ร้อนมืออย่างรุ่นก่อนๆ โดยบานพับเป็นแบบแกนเดียวขนาดใหญ่ที่แลดูแข็งแรงทนทานเข้ากับเครื่อง อาศัยระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมถึง 2 ตัวด้วยกัน (ทั่วไปสเปกนี้จะให้มาแค่ตัวเดียวเท่านั้น) ในการใช้งานจริงๆ แทบไม่มีความร้อนแผ่ขึ้นมาเลย รวมๆ HP Pavilion 15 สเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ถือว่าออกแบบมาได้เรียบง่ายแต่ดูดีเกินราคาไปมากจริงๆ กับราคาล่าสุดเพียง 25,990 บาท นับได้ว่าราคาไม่แพงเลย
Keyboard / Touchpad
ชุดคีย์บอร์ดของ HP Pavilion 15 ปี 2021 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีน้ำเงินเข้ากับตัวเครื่อง (ถ้าเครื่องเป็นสีเทาปุ่มก็จะเป็นสีเทา)โดยสกรีนตัวอักษรเป็นข่าว อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่แบบ Island Style ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด อีกทั้งให้สัมผัสและการเด้งตอบสนองได้ดีในระดับหนึ่ง
โดยขนาดของคีย์บอร์ดเป็นไซต์แบบปกติของโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ ซึ่งจะมีแป้นตัวเลขในส่วนของ Numpad มาให้ แน่นอนว่ามีไฟ Backlit สีขาวทำให้ใช้งานในที่มืดๆ หรือแสงน้อยได้ดีด้วย สำคัญคือเพิ่มความหรูหราเข้าไปอีก นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งปุ่มสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint มาเพื่อเข้าใช้งาน Windows 10 ได้สะดวกสบายและรวดเร็วปลอดภัยด้วย
ทางด้านทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และยาวเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปุ่มคลิกซ้ายขวาเป็นแบบซ่อนปุ่ม การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ กดไม่มียวบยาบ งานประกอบดี ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ใช้งานมัลติทัชร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างลื่นไหล ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่เหนือปุ่ม Backspace พร้อมมีไฟ LED สีขาวแสดงสถานะการทำงาน
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอเป็นแบบจอกระจกที่สดใส ขนาด 15.6″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คในปี 2021 โดยใช้พาเนล IPS ซึ่งให้สีสันที่ดีในระดับที่สวยงาม มุมมองกว้าง ซึ่งไม่ว่าจะนำมาเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง หรือชมวีดีโอจาก YouTube ก็ได้สบายๆ
ภาพที่เห็นก็คมชัดดี ให้ความเรียบเนียนกว่าความละเอียด HD เดิมๆ ตัวงานประกอบขอบหน้าจอก็ทำได้ดีเป็นพลาสติกสีดำด้านแบบขอบบางเฉียบทั้ง 4 ด้าน ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟน รวมถึงยังมีหลอดไฟ LED สำหรับแสดงสถานะว่ากล้องทำงานอยู่
เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ฉะนั้นมั่นใจเรื่องความแข็งแรงทนทานได้เลย
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 62% และ AdobeRGB ที่ 46% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจมาก ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้สบายๆ เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน ยิ่งได้เรื่องความละเอียดหน้าจอที่สูงกว่า Full HD ด้วย ยิ่งตอบโจทย์ได้ยอดเยี่ยม
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมซ้ายบนของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างช่องแถวล่างซ้ายและขวาจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 13%ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ทางด้านลำโพงจะเป็นแบบสเตอริโอของ B&O แบบ 2W x 2 ซึ่งถูกติดตั้งอยู่เหนือชุดคีย์บอร์ด คุณภาพถือว่าดีเยี่ยมเพียงพอที่จะใช้งานในด้านของความบันเทิงทั่วๆ ไป เช่นดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมต่างๆ ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งตัวลำโพงจะวางอยู่ด้านบนคีย์บอร์ด ทั้งในด้านคุณภาพของเสียงและระดับความดังของเสียงอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คทั่วไป ตอบสนองการใช้งานพื้นฐานได้หมด
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP Pavilion 15 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมากเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียวไม่ว่าจะเป็น
USB 3.2 Type-A จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.2 Type-C อีก 1 พอร์ต, HDMI, micro-SD Card Reader และช่องต่อหูฟังกับไมค์ขนาดแบบคอมโบขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เพียงพอต่อการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในยุคปัจจุบัน แต่ก็เสียดายที่ USB-C ที่ให้มาไม่ได้เป็น Thunderbolt 4 แต่ก็ยังรองรับการชาร์จไฟ PD อยู่
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ขนาด 36.16 x 24.56 x 1.79 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.75 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักราวๆ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักเบามาก ซึ่งแน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คในยุคปัจจุบันทีเดียวเลย เน้นใช้งานแบบยกไปยกมาตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยได้แบบคล่องตัวสุดๆ
Inside / Upgrade
การแกะฝาฝาล่างทั้งหมดของตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด แต่ก็ต้องระวังเพราะมีน็อตส่วนที่ซ่อนอยู่ตรงยางรองตัวเครื่อง 2 จุด ต้องใช้นิดงัดออกมาก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ มีงานประกอบเรียบร้อยดี หลักๆ แล้วเห็นได้ชัดถึงเมนบอร์ด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ พร้อมระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 2 ตัว ฮีตไปป์ 2 เส้น มีช่องระบายความร้อน 2 ช่องแบบติดกัน
สำหรับฮาร์ดแวร์ภายใน เราจะเห็นถึงการติดตั้งแรมฝังบอร์ดมาแล้วขนาด 8GB x 1 ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทันทีไม่ต้องไปหาซื้อมาเพิ่มเองภายหลังแต่อย่างใด หรือจะอัพเกรดก็มีช่องว่างอีก 1 ช่อง พร้อมกันนั้นเราจะเห็นถึง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปจนไปถึงทำงานตัดต่อวีดีโอที่ไม่ซับซ้อนมาก สำหรับสเปกฮาร์ดแวร์ภายในถือว่าเหลือเฟือในการใช้งานเลยล่ะ
Performance / Software
HP Pavilion 15 สเปก Intel Core i Gen 11 เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i5-1135G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.40 – 4.20 GHz ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร อย่าง Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin พร้อมมี AI ช่วยในการทำงานตัว ที่ดีกว่า Intel Core i Gen 10 อย่างที่ชิปประมวลผลรุ่นอื่นๆ ไม่สามารถให้ได้ พร้อมกันนั้นโน้ตบุ๊ครุ่นนี้สามารถรีดประสิทธิภาพได้ด้วย
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบปกติ 1 แถว (SO-DIMM) เป็นมาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz ตามเทคโนโลยีของ Intel Core i Gen 11 พร้อมเหลืออีกหนึ่งช่องรองรับการอัพเกรดเป็น 16GB ที่ทำงานแบบ Dual Channel ได้ทันที
พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความเร็วสูง ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX450 (2GB GDDR6) มาร่วมทำงานในส่วนของที่ทรัพยากรมากกว่า ที่ต้องบอกว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการ์ดจอ Gaming ระดับเริ่มต้นเลยทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U Series รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอออนชิปเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอที่อัพเกรดใหม่ที่เน้นการทำงาน 3 มิติที่ดียิ่งขึ้น
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1881 MB/s และเขียนที่ 975 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมแม้ไม่เร็วมาก จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ที่เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,873 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกใกล้เคียงกัน โดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 มีการ์ดจอออนชิปตัวดีที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics + MX450 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในช่วงราคาใกล้เคียงกันเมื่อปีก่อนๆ และคาดว่าถ้าอัพเกรดแรมเป็น 16GB Dual Channel ต้องแรงขึ้นกว่านี้แน่นอน
ทดสอบการเล่นเกมจริงๆ เพื่อดูความลื่นไหลเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมาก โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-1135G7 ที่สามารถรีดพลังได้เต็มที่
สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 62 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 39 ในส่วนของเกมอื่นๆ อย่าง Overwatch / PUBG ที่ปรับ Max ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 46 / 25 ซึ่งช่วงต่ำสุดจะอยู่ที่ 36 / 15 แนะนำว่าถ้าเล่นจริงๆ ปรับกราฟิกระดับกลางๆ จะเหมาะกว่า
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Notebook รุ่นนี้ รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่น ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คยุคใหม่ ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 9 – 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) ด้วยการปรับเป็น Power Saver Mode พร้อมลดเสียงกับแสงหน้าจอเหลือ 10% คาดว่าอาจจะได้น้อยกว่านี้โดยปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร อย่างถ้าใช้ Microsoft Edge ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome ส่วนระบบระบายความร้อน มาพร้อมพัดลม 2 ตัว ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลร้อนที่สุดที่ 98 องศาเซลเซียสเท่านั้น ส่วนการ์ดจอจะร้อนสุดอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพและเล่นเกมแบบต่อเนื่อง นับว่าระบบระบายความร้อน HP Notebook เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกใกล้เคียงกัน แม้จะดูว่าร้อนแต่ก็ระบายได้รวดเร็ว รวมไปถึงเฟรมเรทเล่นเกมก็ทำได้ดี ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
สรุปรีวิวได้ว่า HP Pavilion 15 ปี 2021 เป็นโน๊ตบุ๊คสายพรีเมียมดูดีในราคาไม่แพง ได้ดีไซน์บางเบาหน้าจอขนาด 15.6″ พาเนล IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยสเปกชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel Core i5-1135G7 โดดเด่นด้วยการ์ดจอออนชิปที่ดีที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ช่วยในการแสดงภาพความละเอียดสูง
โดยมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX450 ที่รองรับการเล่นออนไลน์ได้ลื่นไหล ได้พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ฮีตไปป์ 2 เส้น ส่วนใส่ที่เก็บข้อมูลให้มาแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ที่ 512GB ความเร็วสูงจัด พร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 จำนวน 1 แถว พร้อมได้ Office Home & Student 2019 ในราคาเพียง 25,990 บาท ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ
HP Pavilion 15 ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่พอใช้งานทั่วๆ ไป อย่างพิมพ์งานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ต ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด รวมไปถึงความบันเทิงอย่างดูหนังฟังเพลง Steaming กับความบางและน้ำหนักที่เหมาะแก่การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่มากๆ เหมาะกับนักเรียนนักศึกษาคนทำงาน ที่ต้องโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ ที่มีความคล่องตัว ความแรงรองรับการใช้งานทั่วไปได้สบาย และพอเล่นเกม 3 มิติได้
รวมไปถึงยังประหยัดพลังงาน แบตเตอรี่ก็ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง กับราคาเบาๆ เป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยราคาที่สองหมื่นบาทกลางๆ ที่ต้องขอบอกว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่ต้องการมองหาโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงบางๆ เบาๆ ไว้ใช้งานนอกบ้าน ก็สามารถซื้อได้ที่ร้านค้าไอทีต่างๆ ทั่วประเทศ หรือจะสั่งซื้อออนไลน์สามารถทำได้เลย แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าอัพเกรดแรมเป็น 16GB น่าจะช่วยเรื่องประสิทธิภาพได้อีก
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน้ต บุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ด้วยกัน ซึ่ง HP Pavilion 15 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
HP Pavilion 15 ปี 2021 เป็นโน๊ตบุ๊คที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมหน้าจอ 15.6″ ที่ให้วัสดุเกรดคุณภาพ อีกทั้งมีดีไซน์ที่ทันสมัยสุดๆ แน่นอนว่าทำได้น่าประทับใจเสมอมาสำหรับ HP ซีรีส์ระดับกลาง จากวัสดุที่ดีอย่างโลหะ สีสันเป็นสีเงินเทาหรือน้ำเงินตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมพื้นผิวแบบเรียบเนียน งานประกอบก็มีความเรียบร้อยแบบสุดๆ แถมยังบางเบาพกพาง่ายกว่าเดิมมาก ด้วยน้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัม และด้วยความบางของตัวเครื่องเพียงที่ 17.9 ม.ม. จากแบตเตอรี่ที่นำไปไว้ในตัวเครื่อง ตามสไตล์โน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาก็ว่าได้
Best Value
HP Pavilion 15 ปี 2021 รุ่นนี้มีความโดดเด่นสุดๆ เพราะเป็นรุ่นแรกๆ ของ HP ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake อย่าง Core i7-1135G7 ตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุด ทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX450 ที่สำคัญยังมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีด้วยแรมขนาด 8GB ที่เพียงพอ (หรือจะอัพเกรดเพิ่มก็ทำได้) และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่แรงมากๆ อีกด้วย (สนนราคาเพียง 25,990 บาท ได้ประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านตามมาตรฐาน HP ด้วย และ Office 2019 ถือว่าคุ้มค่าน่าใช้งานสุดๆ