ใครที่ชื่นชอบเมาส์เกมมิ่ง ที่ใช้งานง่าย ตอบสนองไว และให้ความทนทาน เมาส์รุ่นใหม่ Pulsefire Haste จากค่าย HyperX ก็น่าจะเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ กับจุดเด่นที่เอาใจคอเกม ด้วยน้ำหนักที่เบา มีช่องระบายความร้อนให้มือ ไม่เปียกเหงื่อ เมื่อใช้งานนานๆ ปรับแต่งได้ และมีปุ่มมาโครมาให้อีกด้วย สนุกได้ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็น Action, FPS, RTS หรือ MOBA ก็ตาม
HyperX Pulsefire Haste เกมมิ่งเมาส์รุ่นใหม่ มาพร้อมจุดเด่นที่น้ำหนักเบา ขนาดของบอดี้ค่อนข้างเหมาะกับมือคนเอเซีย รูปทรงที่เน้นความสปอร์ต สำหรับคอเกมที่ถนัดมือขวา พร้อมกับการออกแบบ Hex Shell หรือครอบฝาด้านบน ให้เป็นช่องเล็กๆ รูปทรงคล้ายรังผึ้ง เพื่อเอาใจเกมเมอร์ที่ใช้งานเป็นเวลานาน จะช่วยระบายความร้อนและลดคราบเหงื่อบนตัวเมาส์ พร้อมด้วยสวิทช์ที่ทนทาน ด้วย TTC Golden ป้องกันฝุ่น และจัดลูกเล่นอย่าง Mouse skate มาให้เปลี่ยนใช้ได้ตามโอกาส เช่นเดียวกับ Grip ข้าง ที่เพิ่มเติมมาให้ในกล่อง ให้ความแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์ยอดนิยมอย่าง Pixart 3335 ให้ความละเอียดได้ถึง 16,000DPI ปรับได้ 5 ระดับ เช่นเดียวกับปุ่มสำหรับมาโคร ที่ปรับแต่งได้บนซอฟต์แวร์ NGENUITY สนนราคาเคาะที่ประมาณ 1,490 บาทเท่านั้น
เมาส์เกมมิ่ง HyperX Pulsefire Haste
10 อันดับเกมมิ่งเมาส์ที่ได้รับความนิยมใน NBS 2021
จุดเด่น
- น้ำหนักเบา เลื่อนเมาส์ได้คล่องตัว
- Shell ภายนอกเป็นแบบรังผึ้งระบายอากาศดี
- ให้การตอบสนองไว ปรับค่า DPI สะดวก
- มีแสงไฟ RGB ปรับได้บนซอฟต์แวร์
ข้อสังเกต
- สายสัญญาณเป็นแบบนิ่มค่อนข้างบาง
- จุดที่เป็นแสงไฟมีแค่ Scroll mouse เท่านั้น
Specification
Shape | Symmetrical |
Sensor | Pixart PAW3335 |
Resolution | Up to 16000 DPI |
DPI Presets | 400 / 800 / 1600 / 3200 DPI |
Speed | 450ips |
Acceleration | 40G |
Buttons | 6 |
Left / Right buttons switches | TTC Golden Micro Dustproof Switch |
Left / Right buttons durability | 60 million clicks |
Light effects | Per-LED RGB lighting1 |
Onboard memory | 1 profile |
Polling rate | 1000Hz |
Cable type | HyperFlex USB Cable. |
Connection type | USB 2.0 |
Skate material | Virgin-grade PTFE |
Weight (without cable) | 59g |
Weight (with cable) | 80g |
Dimensions | L: 124.2mm x H: 38.2mm x W: 66.8mm |
Cable length | 1.8m |
Unbox & Bundle
ตัวกล่องออกแบบมาได้ค่อนข้างเด่น ถ้าวางบนเชลฟ์จำหน่าย ก็ดูจะสะดุดตากว่า พร้อมภาพกราฟิกของเมาส์ วางไว้เต็มๆ ด้านหน้า และใส่ฟีเจอร์เด็ดเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น RGB หรือ HyperX NGENUITY รวมไปถึงการระบุว่าเป็นเมาส์รุ่นน้ำหนักเบาอีกด้วย
ด้านข้างจะมีรายละเอียดของเมาส์มาให้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก สายสัญญาณและเซ็นเซอร์ ส่วนด้านหลังจะบอกข้อมูลสำคัญบางอย่างของตัวเมาส์มาให้
Unbox ออกมา จะเห็นตัวเมาส์อยู่ในแพ็คเก็จ พร้อมพลาสติกใสที่ป้องกันตัวเมาส์ไว้อย่างแข็งแรง ใครจะซื้อหรือสั่งออนไลน์ ก็ยังวางใจได้ ไม่ต้องแพ็คแน่นหนามาก
เมื่อเปิดกล่องออกมา จะมีตัวเมาส์ Pulsefire Haste และคู่มือในการใช้งาน แผ่นเล็กๆ มาให้
ภาพด้านซ้ายจะเป็นคู่มือ ที่บอกรายละเอียดในการใช้งานปุ่มต่างๆ รวมถึงการติดตั้ง Mouse skate และ Grip เอาไว้ให้
ในส่วนของ Grip และ Mouse skate ที่ให้มาในกล่อง เลือกติดตั้งได้ตามความเหมาะสม พื้นผิวให้ความรู้สึกคล้ายกับยาง ช่วยให้จับติดมือ เมื่อต้องเลื่อนเมาส์ในการเล่นเกม จะเลือกติดหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่ความชอบ
Design
สำหรับดีไซน์ของเมาส์ Pulsefire Haste นั้น ค่อนข้างจะต่างจาก Pulsefire ในรุ่นที่ผ่านมาๆ อย่างเห็นได้ชัด แม้จะเป็นเมาส์ในรูปทรงแบบสมมาตร แต่เน้นที่การใช้งานมือขวาเป็นหลัก Shell ด้านบน กลายเป็นรู 6 เหลี่ยมแบบรังผึ้ง ซึ่งตรงนี้ HyperX น่าจะมีแนวคิดออกเป็น 2 นัย คือ เรื่องแรกเป็นการระบายอากาศ สำหรับคนที่เล่นเกมเป็นเวลานาน ไม่ทำให้มือเปียกเหงื่อมากจนเสียอารมณ์ และเรื่องต่อมา ก็น่าจะเป็นการลดน้ำหนักของบอดี้ให้น้อยลง ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวมากยิ่งขึ้น มีผลต่อการเล่นเกม Action หรือ RTS ไม่น้อยเลย
พื้นผิวของเมาส์ เป็นแบบเรียบและด้าน ซึ่งทำให้การหยิบจับและเคลื่อนไหวเมาส์ได้สะดวก แต่ถ้าอยากให้จับได้กระชับกว่านั้น ให้แปะตัว Grip ข้าง ที่มีมาให้ในกล่อง จะช่วยให้สัมผัสและการใช้งานเมาส์ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในจังหวะการเคลื่อนไหว หรือช่วงที่ต้องใช้กดปุ่มแบบรัวๆ
ด้านข้างซ้ายมีโลโก้ HyperX และปุ่มมาโคร 2 ปุ่ม ซึ่งเดิมจะโปรแกรมให้ใช้งานเป็น Forward และ Backward แต่ผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งมาโครได้ตามสะดวก ผ่านทางซอฟต์แวร์ HyperX NGEUNITY
การเชื่อมต่อกับพีซีผ่านทางพอร์ต USB 2.0 มีสาย HyperFlex ที่เป็นแบบสายถักนุ่มๆ ความยาวประมาณ 1.8m มาให้
ด้านใต้ตัวเมาส์จะเห็น Mouse Skate สีขาวขนาดเล็กอยู่ทั้ง 4 มุม ให้สปีดได้ลื่นไหลดีทีเดียว แต่ก็มีสำรองมาให้ในกล่อง แต่เป็นสีเขียว โดยเซ็นเซอร์ Pixart PAW3335 ที่ใช้บนเมาส์รุ่นนี้ ให้ความละเอียดได้ถึง 16,000 DPI ซึ่งเหมาะทั้งคนที่ชอบความแม่นยำ และการเคลื่อนไหวบนจอขนาดใหญ่ ซึ่งจะให้การเล่นเป็นไปตามที่คิด เช่นเดียวกับ Polling Rate 1000Hz ที่ดูเป็นเหมือนมาตรฐานของเกมมิ่งเมาส์ในวันนี้ไปแล้ว
จะเห็นได้ว่าตรงกลางของตัวเมาส์ ตั้งแต่ปุ่ม คลิ๊กซ้าย-ขวา ไปจนถึงที่วางมือ เป็นรูแบบรังผึ้ง บนพื้นสีดำ เสียดายตรงที่ไม่ได้มีไฟ RGB ด้านในนี้ ให้เรืองแสงออกมา ซึ่งอาจจะดูน่าใช้มากขึ้น
ปุ่มคลิ๊กซ้าย-ขวา เป็นแบบ TTC Golden Micro Dustproof Switch ซึ่งค่อนข้างจะตอบสนองได้ไว ระยะการกดไม่ลึก เหมาะกับการเล่นเกม ที่ต้องการความเร็ว โดยเฉพาะ Action ให้ความทนทาน เพราะรองรับการกดได้ถึง 60 ล้านครั้งเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีการเคลือบเพื่อป้องกันฝุ่น จึงลดความสกปรกในหน้าคอนแทค ที่มักจะเกิดขึ้นในการใช้งานเมาส์ได้บ่อย
HyperX Pulsefire FPS Pro vs Pulsefire Haste
เปรียบเทียบกับ HyperX Pulsefire FPS Pro ไซส์ค่อนข้างใกล้กันมาก รวมถึงการเป็นเมาส์เกมมิ่งในรูปแบบสมมาตร แต่ความสูงของ Haste จะน้อยกว่า ส่วนการวางมือและลักษณะการคลิ๊ก ใกล้เคียงกัน
ขนาดและรูปร่าง เมื่อเทียบกับ HyperX รุ่นพี่ Pulsefire FPS
Function
เมาส์เกมมิ่งจาก HyperX รุ่นนี้ มาพร้อมฟังก์ชั่นในการปรับแต่ง บนปุ่มมาโคร 6 ปุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย ปุ่มคลิ๊กซ้าย-ขวา, ปุ่มด้านบน ซึ่งหลักๆ จะใช้ปรับ DPI ได้ถึง 4 ระดับ และปุ่ม Scroll mouse รวมถึงปุ่ม Forward Click, Backward click ตรงนี้สามารถเข้าไปปรับในซอฟต์แวร์ได้ ตามรายละเอียดบนหัวข้อซอฟต์แวร์ด้านล่าง
HyperX NGEUNITY
นอกจากในเรื่องการใช้งานโดยทั่วไปของเมาส์รุ่นนี้ คอเกมยังจะได้ประโยชน์จากการใช้มาโครบนเมาส์ผ่านทางซอฟต์แวร์ NGENUITY ได้อีกด้วย รวมถึงการปรับแต่งแสงสี RGB บนปุ่ม Scroll mouse ได้เช่นกัน โดยสามารถไปดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ได้ ที่นี่
ในหน้า Light ใช้สำหรับปรับแสงสี ด้วยการเพิ่ม Effect เข้าไปในเมาส์ มีทั้ง Solid, Cycle และ Breathing เอฟเฟกต์อาจจะไม่มากนัก แต่ก็ยังเลือกสีที่จะให้ปรากฏขึ้นมา รวมถึงความเร็ว และความสว่าง ถ้าไม่อยากเบื่อ ก็ลองเอา 3 เอฟเฟกต์มาต่อกันแบบวนลูป ก็น่าสนใจ
ส่วนในหัวข้อ Buttons จะให้คุณได้ตั้งมาโครของปุ่มแต่ละปุ่ม โดยคลิ๊กเลือกปุ่มที่ต้องการใช้งาน และตั้ง Assignment ให้ตรงกับความต้องการได้เลย เลือกได้ถึง 6 ปุ่มด้วยกัน
ในส่วนของ Sensor จะให้สีเป็นตัวบอกถึงความละเอียดบนเมาส์เกมมิ่ง แบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือ แดง น้ำเงิน เหลืองและขาว โดยสีจะปรากฏบน Scroll mouse นั่นเอง ซึ่งทำให้คุณสังเกตได้ง่าย เมื่อมีการปรับค่า DPI ในการเล่น
Test
มาว่ากันที่ความรู้สึกในการจับเมาส์ Pulsefie Haste นี้กันก่อน เนื่องจากมิติจะค่อนข้างสั้นกว่ารุ่นพี่ๆ จึงสามารถเลือกจับในแบบที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น Plam Grip หรือ Claw เป็นต้น ปุ่มกลางที่ใช้เปลี่ยน DPI ไม่ใหญ่ จึงแทบไม่มีเลื่อนนิ้วไปโดนได้ง่าย ทำให้ไม่ต้องสะดุด เมื่อถึงเวลาโดนโจมตีหนักๆ แล้วต้องแก้ปัญหาในสนามรบ ส่วน Grip ทางด้านซ้ายใช้งานได้ดี ด้วยปุ่มมาโคร 2 ปุ่มปรับแต่งได้สนุกมือ คนที่มือเล็กหน่อย ไม่ต้องกลัวลั่น เพราะพื้นที่ด้านล่างปุ่มให้วางนิ้วสำหรับคอนโทรลได้สบาย แต่ถ้ากังวลว่าจะจับพลาด แนะนำให้ติด Grip ข้าง ที่มีมาให้ในกล่อง นอกจากจะช่วยให้จับถนัดขึ้น ยังกะระยะของปุ่มได้ง่ายกว่าอีกด้วย
หลังจากที่จัดเตรียมเซ็ตคอมสำหรับการเล่นไว้เรียบร้อย ก็เข้าสู่โหมดการทดสอบการใช้งานเมาส์เกมมิ่งรุ่นกัน ทดสอบกัน 2-3 เกม ประกอบด้วย Battlefield V, PUBG และ DOTA2 เมาส์ตัวนี้นั้นสามารถปรับระดับ DPI ได้ถึง 4 ระดับนั้นก็คือ 400, 800, 1,600 และ 3,200 DPI ใช้จริงในการเล่นบน PUBG บนค่า DPI 400 กับ 800 นั้น ดูจะพอเหมาะสำหรับคนที่มือยังไม่นิ่งพอ แต่ถ้าชำนาญแล้ว จัดไปที่ 3,200 DPI ก็มีโอกาสเฮดช็อตได้ง่ายขึ้น การดีไซน์ตัวเมาส์นั้นยังออกแบบมาให้เบา ตอบสนองการควบคุมที่ดี เรียกว่าพอเราปรับไปที่ DPI สูงๆ เซ็นเซอร์ก็ยังนิ่ง พร้อมกับความว่องไว แค่การปรับตัวเล็กน้อย ก็ช่วยให้ควบคุมได้ชำนาญขึ้น อย่างไรก็ดีหลายคนยังสนุกกับค่า DPI น้อยๆ แต่เน้นการเคลื่อนไหวที่คมมากกว่า โดยเฉพาะกับเกมแนว Battle Royale ที่ต้องอาศัยทั้งความแม่นยำและคล่องตัว
Conclusion
จัดว่าเป็นเมาส์เกมมิ่งจากค่าย HyperX ที่ให้ลูกเล่นแปลกตาน่าใช้อีกรุ่นหนึ่ง ความคล่องตัวและดีไซน์ที่จับกระชับมือ ออกแบบให้เข้ากับรูปมือของผู้ใช้ในบ้านเรา และการมีรูอยู่บนเมาส์ ก็ช่วยให้การจับไม่อึดอัดจนเกินไป ระบายอากาศได้ดีขึ้น ลดปัญหาเหงื่อซึมจนเปียก อัตราการตอบสนองก็ทำได้ดีและไว ด้วยจังหวะการกดที่สั้น นอกจากนี้มีน้ำหนักไม่มากนัก Mouse Skate หรือพื้นรองด้านใต้ แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่มีถึง 4 ชิ้น ลื่นไหลดี และยังมีสำรองเพิ่มมาให้ ทำให้เลื่อนไปมาบนแผ่นรองเมาส์ได้คล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นเมาส์แพดแบบสปีดหรือคอนโทรล การตั้งค่ามาโครต่างๆ ให้โปรแกรมเป็นตัวกลางในการจัดการ ทั้งในแง่ของความละเอียด ตั้งโพรไฟล์และการกำหนดใช้ฟีเจอร์ในแต่ละเกม ที่ดูเหมือนว่าเป็นอะไรที่เรียบง่าย ไม่ได้ดูยุ่งยาก ในภาพรวมของการเล่น อัตราตอบสนองนั้นทำได้ไว โดยเฉพาะการเคลื่อนไหว ที่ผู้เล่นมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ยิ่งหากได้เข้าคู่กับแผ่นรองเมาส์ดีๆ ไซส์ใหญ่หน่อย ยิ่งทำให้การเล่นเป็นไปอย่างอิสระมากกว่า ความแม่นยำ แสงสีไฟ RGB ที่ปรับได้บน HyperX NGenuity ก็นับว่าเป็นเมาส์ในราคาพันกลางๆ ที่น่าใช้ไม่น้อยเลย
ข้อมูล Pulsefire Haste เพิ่มเติม : HyperX
ราคา: ประมาณ 1,490 บาท