Connect with us

Hi, what are you looking for?

Tips & Tricks

13 โปรแกรมสแกนไวรัสยอดนิยม และน่าใช้งาน ที่ควรมีติดเครื่อง

แนะนำ 13 โปรแกรมสแกนไวรัส น่าใช้งาน มีติดเครื่องไว้ ปลอดภัยแน่นอน

สแกนไวรัส

การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนคอมพิวเตอร์หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ จากเว็บไซต์เพื่อมาติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของเรานั้น อาจไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยเฉพาะกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ปัจจุบันนั้นมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ในความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ก็มักจะมีมือดีที่หยิบฉวยหาช่องว่างในการแฝงไวรัสเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ โฆณษาต่าง ๆ ที่หลอกให้เราคลิก หรือผ่านทางโปรแกรมแปลก ๆ ที่เราดาวน์โหลดมา หรือจะเป็นโปรแกรมที่ไม่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ก็มันจะมีของแถมแฝงเข้ามาด้วย ทีมงาน Notebookspec จึงรวมเอาโปรแกรมสแกนไวรัสยอดนิยมที่ควรมีติดเครื่อง มาไว้ที่นี่แล้ว


ทำความรู้จักไวรัสคอมพิวเตอร์

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: avast

ก่อนที่เราจะไปพบกับโปรแกรมสแกนไวรัสน่าใช้งานที่ต้องมีติดเครื่องไว้ ปี 2021 นั้น เรามาทำความรู้จักกับ ‘ไวรัสคอมพิวเตอร์’ ในเบื้องต้นกันก่อนดีกว่า สำหรับไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองให้เข้าไปติดอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และหากมีโอกาส ไวรัสก็สามารถที่จะแทรกแซงเข้าไปติดอยู่ในคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ได้ด้วย โดยอาจจะผ่านทาง แฟลชไดรฟ์ หรือแผ่นดิสก์ หรือไฟล์ที่เราดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งการที่คอมพิวเตอร์ติดไวรัส ก็หมายความว่าไวรัสนั้นได้แฝงตัวตัวอยู่ในความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว และมีการถูกเรียกใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานก็มักจะไม่รู้ตัวว่า ขณะที่กำลังเรียกใช้งานโปรแกรมหรือไฟล์ใด ๆ อยู่นั้น ก็ได้เรียกให้ไวรัสทำงานด้วย ทั้งนี้จุดประสงค์ของไวรัสแต่ละตัวนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่เขียนโปรแกรมไวรัสนั้นขึ้นมา เช่น ไวรัสอาจจะเข้าไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่น ๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ แสดงข้อความขึ้นมารบกวนผู้ใช้งาน ขัดขวางการอ่านข้อมูล ขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลในหน่วยความจำ เป็นต้น

Advertisement

สำหรัส ไวรัส (Virus) นั้น เป็นมัลแวร์ (Malware) ชนิดแรกที่เกิดขึ้นบนโลก และนอกจากนี้ยังมีมัลแวร์ชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น Worm, Trojan, Adware, Spyware ฯลฯ ไวรัสที่แพร่ระบาดและสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ตามที่มีการบันทึกไว้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2529 ด้วยผลงานของไวรัสที่มีชื่อ “เบรน(Brain)” ซึ่งเขียนขึ้นโดยโปรแกรมเมอร์สองพี่น้องชาวปากีสถาน ชื่อ อัมจาด (Amjad) และ เบซิท(Basit) เพื่อป้องกันการคัดลอกทำสำเนาโปรแกรมของพวกเขาโดยไม่จ่ายเงิน

ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์

  • Boot Sector Viruses หรือ Boot Infector Viruses เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายในระหว่างการบูตเครื่อง โดยส่วนมากจะติดต่อกันผ่านทาง Floppy disk โดยเมื่อนำแผ่นดิสก์นี้ไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ในตอนเริ่มทำงานทันที Boot Sector Viruses จะเข้าไปอยู่ในส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่ Master boot record ไวรัสประเภทนี้บางตัวก็ไม่มีอันตราย แต่บางตัวก็มีอันตรายมากถึงขั้นทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์บูตไม่ขึ้นเลยทีเดียว
  • Program Viruses หรือ File Infector Viruses คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่จะติดอยู่กับไฟล์ข้อมูลที่ที่มีไฟล์นามสกุลเป็น .EXE .COM .DLL ฯลฯ โดยการทำงานของไวรัสตัวนี้ก็คือ จะไปติดอยู่บริเวณท้ายแฟ้มข้อมูล
  • Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้เหมือนโปรแกรมธรรมดาทั่วไป เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้งานเปิดโปรแกรมขึ้นมาทำงาน และเมื่อถูกเรียกขึ้นมาแล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามโปรแกรมที่ถูกเรียกใช้งานทันที หลายครั้งที่ Trojan Horse จะถูกเขียนใหม่ทั้งชุดโดยมีการตั้งชื่อและคำอธิบายโปรแกรมให้ดูสมจริงเพื่อหลอกให้ผู้ใช้งานตายใจ จุดประสงค์ของไวรัสตัวนี้ คือ การเข้าไปทำอันตรายต่อข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะเป็นการล้วงเอาความลับของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ข้อมูลชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน เลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น Trojan Horse อาจไม่ถือเป็นไวรัส เพราะมักจะเป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาโดด ๆ ไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่มักจะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้งานเป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ โทรจันนับว่าเป็นโปรแกรมที่มีความอันตรายสูง เพราะมีความยากที่จะตรวจสอบและสร้างขึ้นมา
  • Worm เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้งหมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งเพิ่มมากขึ้นฃ
  • Polymorphic Viruses เป็นชื่อที่ใช้ในการเรียกไวรัส ที่มีความสามารถในการแปรเปลี่ยนตัวเองได้เมื่อสร้างสำเนาตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ มีผลทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจับโดยโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใช้วิธีการสแกนอย่างเดียว ไวรัสใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่มีความสามารถนี้เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
  • Stealth Viruses เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อการตรวจจับได้ เช่น ไฟล์ infector ไวรัสประเภทที่ไปติดโปรแกรมใดแล้วจะทำให้ขนาดของ โปรแกรมนั้นใหญ่ขึ้น ถ้าโปรแกรมไวรัสนั้นเป็นแบบสทีลต์ไวรัส จะไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แท้จริงของโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากตัวไวรัสจะเข้าไปควบคุมดอส เมื่อมีการใช้คำสั่ง DIR หรือโปรแกรมใดก็ตามเพื่อตรวจดูขนาดของโปรแกรม ดอสก็จะแสดงขนาดเหมือนเดิมทุกอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia


โปรแกรมสแกนไวรัส Windows 10 ยอดนิยม ที่ต้องมีติดเครื่อง

1. Windows Defender

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: Microsoft

เริ่มต้นกันด้วยโปรแกรมสแกนไวรัสที่มีติดมากับระบบ Windows อย่าง Windows Defender กันเลย

วินโดวส์ดีเฟนเดอร์ (Windows Defender) หรือชื่อเดิมที่เรียกว่า Microsoft AntiSpyware นั้นเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากไมโครซอฟท์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกัน กักกัน และลบสปายแวร์ทิ้ง เดิมให้บนไมโครซอฟท์ วินโดวส์เอกซ์พี วินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 และ วินโดวส์วิสตา. Windows Defender สามารถดาวน์โหลดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายบนเว็บไซต์ไมโครซอฟท์ นอกจากนั้นแล้วยังเป็นส่วนประกอบที่มาพร้อมกับวินโดวส์วิสตา เป็นต้นไป หลังจากนั้น Windows Defender ได้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไวรัสอีกด้วย โดยจะเอามาแทนที่ Microsoft Security Essentials ตั้งแต่ วินโดวส์ 8 ขึ้นไป

โปรแกรมสแกนไวรัส Windows 10 ตัวนี้ใช้งานง่ายและได้รับการอัพเดตจากทาง Microsoft อยู่เสมอ ทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน ตอบโจทย์อย่างมากโดยเฉพาะกับการที่มีฟีเจอร์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน แถมยังรองรับการป้องกัน Ransomware ด้วย แต่ถ้าใครที่ต้องการฟีเจอร์ที่มากขึ้น เช่น VPN, Password Manager นั้น ก็อาจจะต้องหาโปรแกรมอื่นเข้ามาเสริมในส่วนชองฟีเจอร์เหล่านี้แทน


2. AVG Antivirus

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: AVG Antivirus

โปรแกรมสุดท้ายนี้อยู่ด้วยกันมาช้านาน โปรแกรมสแกนไวรัส Windows 10 ตัวนี้ใช้งานได้ค่อนข้างดี ไม่หนักเครื่อง แถมยังมาพร้อมการป้องกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนไวรัสบน Windows และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ไปจนถึงการป้องกันบนเว็บเบราว์เซอร์และอีเมล ส่วนอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เอาใจเหล่าเกมเมอร์ก็คือ Do Not Disturb mode ที่เป็นการสั่งปิด Notification ป้องกันการรบกวนในขณะเล่นเกมหรือดูหนังได้ด้วย

โปรแกรม AVG Free Antivirus สามารถทำคะแนนในการทดสอบได้ดี (98.9%) และใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานต่ำ แม้ว่าจะมีฟีเจอร์ที่เราอาจจะไม่ได้ใช้อย่างเครื่องมือล้างไฟล์ขยะในระบบ และแอพแอนตี้ไวรัสสำหรับใช้บนสมาร์ทโฟนแถมมาด้วย แต่โดยรวมแล้วมันก็เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่น่าใช้งาน

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: AVG Free Antivirus


3. Avast

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: Avast Antivirus

โปรแกรมสแกนไวรัสฟรี ๆ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี Avast Free Antivirus เป็นโปรแกรมฟรีที่ได้รับความนิยมพอสมควร ด้วยการป้องกันที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันภายใน Windows, การป้องกันในเบราว์เซอร์ (รองรับเฉพาะ Firefox และ Chrome) ไปจนถึงการจัดการ Password ทั้งนี้ เราอาจเจอปัญหาในการใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงฟีเจอร์แบบเต็มรูปแบบ เนื่องจากต้องขยับไปใช้เวอร์ชันเสียเงิน แต่ถ้าใครนำมาใช้แค่ปกป้อง Windows นั้น ฟีเจอร์ที่มีมาให้ก็เพียงพอแล้ว

แม้ว่า Avast จะได้รับผลการทดสอบในการป้องกันต่ำกว่า 2 ตัวแรกที่เราหยิบมาแนะนำไปเล็กน้อย (98.9%) แต่มันก็ยังถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างสูงมากอยู่ดี จุดแข็งหลักของ Avast คือการใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำมาก ทำให้เราใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ได้เหมือนปกติ ไม่รู้สึกช้าลงแต่อย่างใดตัวโปรแกรมใช้งาน และติดตั้งง่าย ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีมาใช้งาน โปรแกรมนี้ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Avast Free Antivirus


4. ESET NOD32

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: ESET NOD32

หนึ่งในแอนตี้ไวรัสขนาดเบาที่ดีที่สุด ESET ยังคงรักษาจุดเด่นในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถสแกนหาไวรัสได้ถึงลูกถึงคน ไม่ว่าจะซุกซ่อนอยู่ที่ใดภายในเครื่อง ตลอดจนมีกลไกสำคัญอย่าง Internet Security ที่ช่วยป้องกันการโจมตีของ Malware และ Ransomware ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในราคาไม่แพง

ความพิเศษของโปรแกรมตัวนี้คือมีระบบการทำงานอันแสนรวดเร็ว ไม่มีความยุ่งยากใด ๆ เมื่อติดตั้งใช้งาน ซึ่งทีเด็ดจริง ๆ คือ การสแกนค้นหาไวรัสได้แบบลึกสุด ๆ จะซ่อนอยู่ตรงไหนก็ไม่ต้องห่วง หาเจอชนิดที่คนใช้เองอาจจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเข้าเว็บอะไรไว้ มีระบบ Internet Security ที่ป้องกันไวรัสร้ายอย่างทรงพลัง มีทั้งทดลองใช้ฟรีและเสียเงินซึ่งราคาไม่แรงเลย

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: ESET NOD32 Antivirus


5. McAfee

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: McAfee

โปรแกรมสแกนไวรัสที่ทรงพลานุภาพ สามารถใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Window, MacOS, Android และ iOS มีความโดดเด่นที่ศักยภาพในการต่อกรกับ Ransomware ที่อาจจะเข้ามาชิงข้อมูลสำคัญในเครื่องไปเรียกค่าไถ่ ตลอดจนมีกลไกช่วยเหลือการทำงานของคอมพิวเตอร์อย่าง PC Boost ติดมาด้วยเช่นกัน

โปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการไหนก็สามารถลงโปรแกรมนี้ได้ ความโดดเด่นคือ PC Boost เป็นตัวช่วยเหลือไม่ให้คอมพิวเตอร์ของคุณโดนเล่นงานจากบรรดาไวรัสแปลกปลอม แถมโปรแกรมตัวนี้ยังเคยหาญกล้าต่อสู้กับ Ransomware ที่จะดึงข้อมูลของคุณไปเรียกค่าไถ่มาแล้วด้วย แม้เป็น antivirus ที่ต้องเสียเงินแต่คุ้มเกินคุ้ม

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: McAfee Antivirus


6. Avira

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: Avira Antivirus

แอนตี้ไวรัส Avira หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า โปรแกรมแอนตี้ไวรัสร่มแดง (Red Umbrella Antivirus) เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสยอดนิยม ตัวโปรแกรมใช้งานง่าย และมีหน้าตาที่สวยงาม จากผลการทดสอบล่าสุดของ AV-Comparatives ได้ระบุว่า Avira (เวอร์ชัน Pro) สามารถปกป้องคอมพิวเตอร์ได้ดีเลยทีเดียว และแม้แต่ในเวอร์ชันฟรีสามารถทำงานได้ดีไม่แพ้กัน

โปรแกรมนี้มีระบบกำหนดเวลาสแกนล่วงหน้าที่ตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย อย่างการตั้งให้สแกนอย่างรวดเร็วทุกวัน และสแกนแบบละเอียดอาทิตย์ละครั้งเป็นต้น เมื่อรวมกับความสามารถในการปกป้องแบบ Real-time มันก็น่าจะทำหน้าที่เฝ้าระวังภัยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี แอนตี้ไวรัสฟรีที่อยากแนะนำให้ใช้งาน มีฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมตัวปรับแต่งตามใจต้องการ แม้ว่าฟีเจอร์พิเศษหลาย ๆ ตัวยังอาจอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน แต่ถ้าหากไม่ใช่สายท่องเว็บอะไรอันตราย โปรแกรมสแกนไวรัสตัวนี้เอาอยู่แน่

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Avira Free Antivirus


7. Bitdefender Antivirus

bitdefender
Cr: Bitdefender

โปรแกรม Bitdefender Antivirus Free เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ในเวอร์ชันได้ผลทดสอบการป้องกันสูง สำหรับเวอร์ชันฟรีของโปรแกรม Bitdefender นั้นมีคุณสมบัติเด่นอย่างการตรวจจับมัลแวร์ และตรวจจับฟิชชิ่ง ในขณะที่หน้าตาโปรแกรมค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีตัวเลือกที่วุ่นวาย อีกทั้งยังออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานต่ำอีกด้วย ทั้งยังเป็นโปรแกรมหนึ่งที่เว็บไซต์ PCMag ให้คะแนนดีพอ ๆ กับ Kaspersky (จากการทดสอบเทียบกับผลทดสอบจากเอกสารผู้ผลิต) คือ Bitdefender Antivirus Free Edition ด้วยหน้าจอที่ใช้งานง่ายมาก ไม่ค่อยหนักเครื่อง แถมสแกนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมการปกป้องขั้นพื้นฐานที่ครบถ้วน ใช้งานง่ายมาก การป้องกันที่ดีเยี่ยมจากมัลแวร์ ใช้งานง่ายมาก ติดตั้งรวดเร็ว แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ แถมยังมีตัวเลือกการปรับแต่ง Lack of quick scanning and scan scheduling ไม่มีการตั้งเวลาสแกนและสแกนเร็ว

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Bitdefender Antivirus


8. Kaspersky Security Cloud Free

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: Kaspersky

Kaspersky Security Cloud Free เป็นแอนตี้ไวรัสแบบฟรีที่ Kaspersky ปล่อยออกมาให้ใช้งานแทนโปรแกรมตัวเดิมอย่าง Kaspersky Free Antivirus รองรับการสแกน และลบมัลแวร์ต่าง ๆ ลูกเล่นไม่เยอะเท่าตัวเสียเงิน แต่จุดเด่นน่าจะอยู่ที่มีให้ใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนเลย

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Kaspersky Security Cloud Free


9. Adaware Antivirus

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: Adaware

โปรแกรม Adaware Antivirus เป็น โปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวนี้ในเวอร์ชันโปรทำคะแนนได้สูงถึง 99.3% ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่ามันจะคุ้มครองคอมพิวเตอร์ของเราได้เป็นอย่างดี แม้ว่าโปรแกรมนี้จะใช้ทรัพยากรเครื่องสูงกว่าโปรแกรมอื่น แต่ก็ถือว่าน่าใช้งานมากทีเดียวสำหรับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windowsในขณะที่เวอร์ชันเสียเงินของโปรแกรมนี้จะเพิ่มการป้องกันให้กับเว็บไซต์, อีเมล และมีไฟร์วอลให้ใช้งานด้วย ซึ่งจ่ายเพิ่มก็ไม่แพง

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Adaware Antivirus


10. Malwarebytes Anti-Malware

โปรแกรมสแกนไวรัส
Cr: malwarebytes

โปรแกรมแอนตี้ไวรัส จากค่าย Malwarebytes นั้นมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับมานานแล้ว และสำหรับ โปรแกรม Malwarebytes Anti-malware จากค่ายนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มันมีความสามารถในการตรวจจับ Adware ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ข้อดีอีกอย่างของโปรแกรมนี้มีขนาดไฟล์ที่เล็กมาก แถมยังสแกนได้อย่างว่องไวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันฟรีก็จะต้องสั่งสแกนด้วยตนเองเท่านั้น ถ้าอยากให้มันป้องกันแบบสด ๆ เดี๋ยวนั้น หรือที่เรียกว่าเรียลไทม์ (Real-time) ก็ต้องจ่ายเงินอัพเกรดเท่านั้น

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Malwarebytes Anti-Malware


11. Immunet AntiVirus

โปรแกรมสแกนไวรัส Windows 10

สำหรับโปรแกรมตัวนี้มีชื่อว่า โปรแกรม Immunet Antivirus เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ที่สามารถทำงานควบคู่ไปกับโปรแกรมสแกนไวรัสตัวหลักในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ โดยโปรแกรมตัวนี้จะทำงานบน Cloud-Based ที่จะทำการเก็บฐานข้อมูลของไวรัสไว้บนอินเทอร์เน็ต ที่ครอบคลุมกว่า 13 ล้านไวรัส ทั้ง Spyware, Bots, Worms, Trojans ได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์ไวรัสใด ๆ ด้วยระบบเรียลไทม์ (Real-Time) ทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่และเสียเวลาไปกับการดาวน์โหลดฐานข้อมูลไวรัสหรือ Virus Definitions มาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ เรียกว่าเป็นโปรแกรมที่คอยสอดส่องดูแล และช่วยป้องกันไวรัสอีกระดับหนึ่งเลยก็ว่าได้

ขนาดของตัวโปรแกรมนั้นก็มีขนาดที่เล็กประมาณ 1 MB เท่านั้น สามารถทำงานได้ภายใต้ RAM เพียง 14 MB เรียกได้ว่าใครที่มีคอมพิวเตอร์แรมน้อยก็ไม่ต้องกังวลใจว่าจะติดตั้งตัวนี้ไม่ได้ จุดเด่นของโปรแกรมตัวนี้เลยก็คือ สามารถอัพเดทฐานข้อมูล รวมไปถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนคลาวด์ได้เลย โดยไม่กินทรัพยากรเครื่องของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตของโปรแกรมนี้นั่นก็คือ เราจะต้องใช้งานโดยผ่านอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถป้องกันคอมพิวเตอร์ได้หากไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือออฟไลน์นั่นเอง

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Immunet AntiVirus


12. Comodo Antivirus

โปรแกรมสแกนไวรัส Windows 10

โปรแกรม Comodo Antivirus เป็นโปรแกรมสแกนไวรัส ป้องกันไวรัสที่ถูกพัฒนาโดยทีมงานผู้พัฒนาจากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) โดยเราสามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี ๆ แต่หากต้องการฟีเจอร์ที่มากยิ่งขึ้นก็จะต้องเสียค่าใช้จ่าย สำหรับโปรแกรมตัวนี้นั้นจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของเรา ห่างไกลจากไวรัส มัลแวร์ หนอน แฮกเกอร์ และอื่น ๆ โดยโปรแกรม Comodo Antivirus จะสแกนค้นหาทุกส่วนของ Hard disk พร้อมกับรายงานความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด รวมทั้งไฟล์ .ZIP ซึ่งอาจจะไวรัสแอบแฝงอยู่ก็เป็นไปได้ หน้าตาโปรแกรม Comodo Antivirus ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ในการป้องกันภัยอันตรายอย่างครบครัน และมีระบบที่คอยอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ทำให้โปรแกรม Comodo Antivirus ตัวนี้เป็นอีกโปรแกรมที่น่าใช้มาก ๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อีกมากมาย ทั้ง มีระบบตั้งเวลาการสแกนแบบอัตโนมัติ, มีระบบการสแกนสปายแวร์ มัลแวร์ ต่าง ๆ แบบละเอียดยิบ, มีระบบคลาวด์ เข้ามาช่วยให้การสแกนไวรัสปลอดภัยมากยิ่งขึ้น, มีระบบการวิเคราะห์พฤติกรรมของมัลแวร์ ร่วมกับส่วนกลางบนคลาวด์ ฯลฯ

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Comodo Antivirus


13. Forticlient antivirus

โปรแกรมสแกนไวรัส Windows 10

โปรแกรมรนี้เป็นแอนตี้ไวรัสตัวใหม่จากค่าย Fortinet ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในระบบป้องกันไวรัส Spyware, Firewall แบบ All-in-One และเป็นอุปกรณ์ในรูปแบบของ Hardware box โดยทาง Fortinet ได้เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานกันได้ฟรี ๆ แต่หากต้องการฟีเจอร์ที่มากยิ่งขึ้นก็จะต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยความสามารถหลักของโปรแกรม FortiClient Endpoint Security Standard Edition นั้นก็สามารถที่จะป้องกันและกำจัดไวรัส สปายแวร์ รวมไปถึงระบบ Firewall, การคัดกรองเว็บไซต์, รวมไปถึงการป้องกันอื่น ๆ ด้วย ใครที่อยากลองใช้งานโปรแกรมใหม่ ๆ ก็ต้องลองไปดาวน์โหลดมาใช้งานกันดูได้เลย

สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Fortinet Product Downloads


ตารางเปรียบเทียบโปรแกรมสแกนไวรัสแต่ละโปรแกรม

โปรแกรมสแกนไวรัสการดาวน์โหลดมาใช้งานประสิทธิภาพ/การทำงานขนาดไฟล์
1. Windows Defenderใช้งานได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย (Windows 10)– ทำงานได้ดี
– ใช้งานง่ายและได้รับการอัพเดตจากทาง Microsoft อยู่เสมอ
– รับการป้องกัน Ransomware
ไม่กินทรัพยากรเครื่อง
2. AVGสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– สามารถทำงานได้ดี
– มีฟีเจอร์การทำงานที่น่าสนใจ
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานต่ำ
3. Avastสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– สามารถทำงานได้ดี มีการป้องกันที่ครบถ้วน
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
4. ESET NOD32สามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลองมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มรูปแบบจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสดีเยี่ยม
– ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
5. McAfeeสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Window, MacOS, Android และ iOS
– มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
6. Aviraสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพการทำงานสูง
– โปรแกรมใช้งานง่าย
– มีฟีเจอรืที่น่าสนใจ
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
7. Bitdefender Antivirusสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพการทำงานสูง
– โปรแกรมใช้งานง่าย
– มีฟีเจอรืที่น่าสนใจ
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
8. Kaspersky Security Cloud Freeสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ทำงานได้ดี
– รองรับการสแกน และลบมัลแวร์ต่าง ๆ
– ลูกเล่นไม่เยอะ
– ใช้งานได้ทั้งสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
9. Adaware Antivirusสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพการทำงานสูง
– มีฟีเจอร์การทำงานที่น่าสนใจ
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานสูง
10. Malwarebytes Anti-Malwareสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพการทำงานสูง
– เวอร์ชันฟรีจะไม่สามารถสแกนไวรัสแบบ Real-Time ได้
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
11. Immunet AntiVirusสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพการทำงานดี มีการอัพเดทอยู่เสมอ
– สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมแสกนไวรัสหลักในเครื่องได้
– รองรับการทำงานแบบ Real-Time
ขนาดไฟล์เล็ก ไม่กินทรัพยากรเครื่อง
12. Comodo Antivirusสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพการทำงานดีเยี่ยม
– สามารถสแกนไวรัสได้แบบละเอียดยิบ รวมไปถึงมีระบบการป้องการไวรัสก่อนจะเข้ามาถึงเครื่องของเรา รวมไปถึงการทำงานร่วมกับระบบคลาวด์ด้วย
– มีฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานค่อนข้างเยอะ รวมไปถึง การตั้งแจ้งเตือน เกมโหมด เป็นต้น
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ
13. Forticlient antivirusสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่หากอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพจะมีค่าใช้จ่าย– ประสิทธิภาพการทำงานดี
– ป้องกันและกำจัดไวรัส สปายแวร์ รวมไปถึงระบบ Firewall, การคัดกรองเว็บไซต์, รวมไปถึงการป้องกันอื่น ๆ
ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำ

สรุป

และทั้งหมดนี้ก็คือ 13 โปรแกรมสแกนไวรัสยอดนิยม 2021 ที่น่าใช้งานและควรมีไว้ติดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็ได้รับการยอมรับและมียอดดาวน์โหลด ยอดผู้ใช้งานที่สูงมาก ๆ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามใครที่ไม่อยากเสียเงินเพิ่ม หรือไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องแสกนไวรัสอย่างหนักจริง ๆ ทีมงานขอออกความเห็นว่า Windows Defender ที่ติดมากับตัว Windows 10 นั้นก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครที่ต้องหาข้อมูล เข้าเว็บไซต์ หรือโหลดโปรแกรมที่มีความเสี่ยง ควรสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ ไว้ในฮาร์ดดิสหรือ External แยกออกมาอย่างสม่ำเสมอ หรือเพื่อความชัวร์ก็ให้อัพโหลดเข้าระบบ Cloud Online ไปเลย เพื่อให้แน่ใจว่าไฟล์งานของเรา หรือเอกสารสำคัญ ๆ จะไม่สูญหาย


อ่านบทความเพิ่มเติม/บทความที่เกี่ยวข้อง

รวมไฟล์ PDF เป็นไฟล์เดียว
ปัญหา LINE ไลน์ไม่เด้ง
ลบไฟล์ขยะ Windows 10
โปรแกรมจับภาพหน้าจอ
Clubhouse
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Tips & Tricks

วิธีอัดหน้าจอคอมอัดเกม Screen recorder หน้าจอ แคปเจอร์วีดีโอ Windows 11 อัดหน้าจอคอมให้อยู่ในรูปแบบของวีดีโอ ปัจจุบันมีวิธีมากมายให้ใช้ เริ่มต้นจากฟีเจอร์บน Windows 11 หรือ Windows 10 ก็จัดว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเบื้องต้น แต่หลายคนก็เลือกวิธีการลงแอพฟรีเสริมให้การแคปเจอร์หน้าจอ หรือบันทึกวีดีโอหน้าจอทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีในครั้งนี้เราเสนอไอเดียไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการอัดหน้าจอในแบบง่ายๆ ไว้เป็นทางเลือกหลายๆ รูปแบบ มีทั้งเน้นงานด่วน งานไว รวมถึงงานที่ต้องการความละเอียดก็มีให้...

Tips & Tricks

พามาทำความรู้จักกับ MBTI เช็คบุคลิกภาพ ค้นหาตัวตน พร้อมแนะนำเว็บไซต์ทำแบบทดสอบ อัพเดท 2024 MBTI ถือเป็นเครื่องมือทดสอบบุคลิกภาพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการนำลักษณะบุคลิกภาพไปใช้งานในหลายๆ ด้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำความเข้าใจบุคคล, การเลือกงานที่เหมาะกับแต่ละประเภท ฯลฯ โดยแบ่งออกเป็น 16 ประเภทหลักๆ ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากพามาทำความรู้จักกับ MBTI ทั้ง 16 แบบ...

Tips & Tricks

ทำความรู้จักพร้อมวิธีใช้งาน OBS อัดหน้าจอ บน Windows 11 อัพเดท 2024 การอัดหน้าจอบน Windows 11 โดยทั่วไปสามารถอัดได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม แต่ถ้าอยากให้การอัดหน้าจอของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถสตรีมมิ่งได้ด้วย ก็ต้องใช้โปรแกรมเข้ามาช่วย และหนึ่งในโปรแกรมที่ได้รับความนิยมก็คือ OBS นั่นเอง ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะพามาทำความรู้จักกับโปรแกรมฟรี OBS อัดหน้าจอ โปรแกรมฟรีที่ควรมีติดเครื่อง...

Tips & Tricks

แนะนำวิธีสแกนคิวอาร์โค้ดในคอม ทำตามกันได้ง่ายๆ อัพเดท 2024 คิวอาร์โค้ด (QR Code) ถือเป็นอะไรที่มีความสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ใน QR Code ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่สแกนผ่านกล้องถ่ายรูปจากสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรม, การส่งข้อความ, เพลง, การเข้าถึงรหัส Wi-Fi ฯลฯ ก็สามารถทำได้ แต่หลายๆ คนก็อาจสงสัยว่า แล้วในคอมพิวเตอร์นั้น เราสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้หรือไม่ ทีมงาน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก