รวมเด็ด 10 เว็บทำเรซูเม่ฟรี ดีไซน์สวย เพิ่มความน่าเชื่อถือ เพิ่มโอกาสในการได้งาน
ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่ หรือคนทั่วไป การสมัครงานกับบริษัทต่าง ๆ ในปัจจุบันนั้นจำเป็นต้องอาศัยการทำประวัติโดยย่อ หรือที่เรียกว่าเรซูเม่ เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าใจประวัติของเรา ทั้งความสามารถ การศึกษา ไปจนถึงประสบการณ์ เมื่อได้ทำความรู้จักกับเราเบื้องต้นผ่านทางการอ่านเรซูเม่แล้ว การพิจารณาเลือกรับเราเข้าทำงานก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทีมงาน Notebokspec จึงอยากแนะนำ เว็บทำเรซูเม่ ที่สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ของเราได้ตามต้องการ แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
- ทำความรู้จัก Resume
- ส่วนประกอบ และเทคนิคการเขียนเรซูเม่ให้น่าสนใจ
- เว็บทำเรซูเม่ ที่สามารถเข้าไปใช้งานได้ฟรี!
ทำความรู้จัก Resume
การสมัครงานในบริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทขนาดเล็ก ก็มักจะพิจารณาผู้สมัครจากประวัติโดยย่อ หรือที่เรียกว่า เรซูเม่ (Resume) นั่นเอง โดยเรซูเม่นั้น จะทำหน้าที่เป็นใบที่รวมประวัติโดยย่อของเราในด้านการทำงาน เพื่อใช้สำหรับให้บริษัทได้คัดเลือกเบื้องต้น ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์รายบุคคลต่อไป เรซูเม่นั้น สามารถใช้ยื่นได้ทั้งการขอฝึกงาน การยื่นสมัครงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่เปิดรับจำนวนจำกัด เรซูเม่จึงเป็นใบเบิกทางที่ดีมากของเราที่จะช่วยให้เราผ่านการคัดเลือกได้เลยทีเดียว
เรซูเม่ (Resume) นั้นส่วนใหญ่มักจะเขียนโดยเน้นให้มีข้อความที่สั้น กระชับ และครบถ้วน เพื่อใช้สำหรับการพิจารณาในการสมัครงาน โดยทั่วไปมักมีความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษเท่านั้น โดยในเรซูเม่จะประกอบไปด้วย ประวัติส่วนตัวเล็กน้อย ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน จุดมุ่งหมายในการทำงาน ความรู้และทักษะที่มีประโยชน์ต่อการทำงานโดยเฉพาะในตำแหน่งที่เราได้เขียนสมัครเข้าไป ซึ่งข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารถทำความรู้จักกับผู้สมัครได้ในระยะเวลาสั้น ๆ และสามารถพิจารณาเบื้องต้นว่า เรามีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่กำลังเปิดรับอยู่หรือไม่ เรซูเม่ที่ดีนั้นจึงจะต้องเป็นเรซูเม่ที่จะทำให้บริษัทเห็นภาพรวมของเราได้นั่นเอง
ตัวอย่างเรซูเม่
ส่วนประกอบ และเทคนิคการเขียนเรซูเม่ให้น่าสนใจ
ก่อนที่เราจะไปแนะนำเว็บทำเรซูเม่กันนั้น เราต้องรู้ถึงส่วนประกอบคร่าว ๆ ของเรซูเม่กันก่อน ว่าประกอบไปด้วยข้อมูลอะไรกันบ้าง
1. ชื่อ-นามสกุล
สิ่งสำคัญเป็นอันดับแรกของการทำเรซูเม่เลยนั่นก็คือ ชื่อและนามสกุล ของเรา ที่ต้องเขียนสะกดอย่างถูกต้อง ในกรณีที่เป็นการสมัครโดยยื่นเอกสารจริง การใส่ข้อมูลในส่วนชื่อและนามสกุลนั้น ควรเขียนไว้ที่บริเวณทางด้านขวาของเรซูเม่ เนื่องจากกระดาษ A4 นั้นมักจะถูกเย็บที่มุมด้านซ้าย การใส่ชื่อและที่อยู่สำหรับติดต่อไว้ทางด้านขวาจึงจะช่วยให้ข้อมูลของเราไม่ถูกเย็บนั่นเอง แต่สำหรับการส่งเรซูเม่แบบออนไลน์นั้น ก็ถือว่าสะดวกมาก ๆ เพราะเราสามารถวางตำแหน่งได้ตามต้องการ แต่ที่สำคัญเลย ควรเป็นระเบียบและอ่านง่าย
- ชื่อและนามสกุลของเรานั้นควรจะใช้ Font ที่มีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่น ๆ อ่านง่าย และมองเห็นได้ชัด
- ไม่ควรใส่ชื่อเล่น (โดยเฉพาะในกรณีที่เราสมัครงานกับบริษัทใหญ่ ๆ หรือบริษัทที่เป็นทางการ)
- ควรตรวจสอบตัวสะกดทั้งชื่อและนามสกุลให้ถูกต้อง
2. ที่อยู่สำหรับติดต่อ อีเมล และเบอร์โทร
สิ่งสำคัญที่รองลงมาจากชื่อและนามสกุลที่จะต้องมีในเรซูเม่เลยนั่นก็คือ ที่อยู่ที่ใช้สำหรับติดต่อ อีเมล และเบอร์โทรของผู้สมัครอย่างเรานั่นเอง เพื่อให้บริษัทที่รับพิจารณาประวัติของเรานั้นสามารถติดต่อผลการสมัครให้เราทราบได้
- ในส่วนของข้อมูลที่อยู่ อีเมล และเบอร์โทร ควรวางตำแหน่งไว้ด้านบน รองลงมาจากชื่อ โดยอาจเน้นข้อความ หรือใส่สีที่พิเศษ เพื่อให้เห็นได้ชัดเจน
- สำหรับชื่ออีเมลนั้น ควรใช้ชื่อที่เป็นทางการ เช่น ชื่อจริง หรือ นามสกุล เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเรา
- ในส่วนของเบอร์โทรศัพท์นั้น กรณีที่เราไม่สะดวกที่จะให้เบอร์โทรส่วนตัว เราควรมีเบอร์โทรศัพท์สำรองที่ไว้สำหรับติดต่อเรื่องงานโดยเฉพาะ และต้องเตรียมพร้อมที่จะรับสายอยู่เสมอ
3. ประวัติการศึกษาและประวัติการทำงาน
สิ่งสำคัญซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแก่นของเรซูเม่เลยนั่นก็คือ ประวัติการศึกษาและประวัติการทำงานของเรา ซึ่งทางบริษัทจะได้รับพิจารณาว่าตรงตามตำแหน่งที่เราสมัครเข้ามาหรือไม่ หรือหากประวัติการศึกษาของเราไม่ตรงตามสายงาน เรามีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เราเลือกสมัครหรือไม่ ส่วนนี้เองจะช่วยให้ทางบริษัทมีโอกาสที่จะพิจารณาเรามากยิ่งขึ้นก่อนที่จะเรียกสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล
- สำหรับการเขียนประสบการณ์ทั้งการศึกษาและการทำงานนั้น เพื่อความกระชับ เราไม่ควรใส่ประสบการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งหรือหน้าที่ของงานที่เราสมัคร
- ในกรณีที่เราเพิ่งสำเร็จการศึกษา เราอาจใส่ประวัติของการศึกษาขึ้นต้น ก่อนประวัติการฝึกอบรม หรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่เราสมัคร โดยให้เราใส่วุฒิของการศึกษาสูงสุดที่เราได้รับ
4. ประวัติการอบรม / รางวัลที่เคยได้รับ
นอกจากประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานของเราแล้ว ประวัติการฝึกอบรม ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของเรา รวมไปถึงการประกวด หรือรางวัลที่เราเคยได้รับก็เป็นสิ่งที่สามารถใส่ลงไปใส่เรซูเม่ได้ด้วย เพิ่มความสามารถและความน่าสนใจในตัวเราได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. ความสามารถในด้านต่าง ๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเป็นใบเบิกทางได้ดีไม่แพ้ประสบการณ์ของเราเลย ก็คือความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่เรามีนั่นเอง โดยเฉพาะในยุคนี้ที่เป็นยุคที่ต้องการบุคลากรที่มีความสามารถหลากหลาย ไม่ได้หมายความว่าการที่เราถนัดอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่ดี แต่การมีความสามารถที่หลากหลายและสามารถเรียนรู้ได้ดีก็เป็นใบเบิกทางที่ดี เพราะหลาย ๆ บริษัทมักมองหาผู้สมัครที่มีความสามารถและทักษะที่หลากหลาย เพื่อรองรับหน้าที่การงานที่จะได้รับมอบหมายในอนาคตนั่นเอง
- ความสามารถทางภาษา: ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกล การสื่อสารเปิดกว้างและทำได้ง่ายและรวดเร็ว ความสามารถทางภาษาถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ โดยเฉพาะกับใครที่สามารถอ่านหรือเขียนภาษาอื่นได้ตั้งแต่ 2 ภาษาขึ้นไปนั้นมักจะได้รับโอกาสในการทำงานที่สูงกว่า รวมทั้งได้รับเงินเดือนที่สูงกว่าอีกด้วย
- สำหรับความสามารถทางภาษานั้น เราควรใส่ความสามารถที่มีคะแนนวัดเป็นสากล เช่น คะแนนสอบจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับ และเราไม่ควรใส่เป็นเปอร์เซ็นต์ แต่อาจใส่เป็นระดับความสามารถ พอใช้, ดี, ดีมาก, ดีเยี่ยม เป็นต้น
- ความสามารถทางคอมพิวเตอร์: ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดนั้นมีผลต่อสังคมเป็นอย่างมาก งานในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่อาศัยการทำงานผ่านทางคอมพิวเตอร์ ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์จึงเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เช่น สามารถใช้งานโปรแกรมเอกสารพื้นฐานอย่าง Microsoft Office ได้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะยิ่งช่วยทำให้เราได้รับการพิจารณาเข้าทำงานได้มากยิ่งขึ้น
- ความสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์นั้น เราควรใส่เป็นชื่อของโปรแกรม ซอฟแวร์ ที่เราเชี่ยวชาญ และควรใส่ระดับความสามารถประกอบไว้ด้วย เช่น ดี, ดีมาก, ดีเยี่ยม เป็นต้น
7. รูปถ่าย (อาจใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
แม้ว่าจะเขียนวงเล็บไว้ว่ารูปถ่ายนั้นเราจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่บอกเลยว่าควรใส่รูปถ่ายจะดีที่สุด เพราะนอกจากประวัติโดยย่อแล้ว การที่บริษัทได้รู้จักหน้าตาของเราคร่าว ๆ ก็จะช่วยทำให้บริษัทรู้จักและพิจารณาเราได้มากยิ่งขึ้น
- สำหรับรูปถ่ายนั้น เราอาจไม่จำเป็นที่จะต้องใช้รูปถ่ายเป็นทางการ ในกรณีที่เราสมัครงานกับบริษัทที่ไม่ได้ดูทางการมากนัก หรือบริษัท Start Up ที่เน้นประสิทธิภาพของงานมากกว่าการแต่งตัว เราก็สามารถใส่รูปถ่ายที่ดูเป็นตัวของตัวเอง เป็นสไตล์ของเรา ประกอบในเรซูเม่ได้ แต่ก็ต้องเป็นชุดที่ดูสุภาพ และดูดีด้วย เว้นเสียแต่เราจะสมัครงานกับบริษัทใหญ่ ๆ หรือในตำแหน่งที่ต้องการคนที่แต่งตัวเป็นทางการและเหมาะสม ในกรณีนี้เราอาจต้องใช้รูปถ่ายที่ค่อนข้างดูเป็นทางการประกอบในเรซูเม่
นอกจากส่วนประกอบและเทคนิดในการเขียนเรซูเม่ที่ได้กล่าวไปแล้ว เราควรต้องคำนึงในเรื่องต่อไปในประกอบด้วย
- การเขียนที่ชัดเจน: การทำเรซูเม่นั้นควรเขียนเป็นข้อความบอกเล่าประสบการณ์มากกว่าการทำเป็นกราฟแท่ง ๆ หรือขีดพลังสี ๆ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจดูสวยงาม สร้างสรรค์ แต่กับบริษัทแล้วการสื่อสารด้วยข้อมูลเช่นนี้อาจไม่ชัดเจนมากนัก ดังนั้นการเขียนบอกเล่าด้วยข้อความที่ชัดเจน กระชับ อ่านง่าย จึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- การเขียนบอกเล่าประสบการณ์: สำหรับบัณฑิตที่จบใหม่ ๆ นั้น สิ่งที่ยากที่สุดคงเป็นในเรื่องของการเขียนบอกเล่าประสบการณ์ เพราะเด็กจบใหม่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีประสบการณ์ทำงานที่เป็นชิ้นเป็นอันมากเท่ากับคนที่ทำงานมาแล้ว แต่นักศึกษาโดยส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับการฝึกงานก่อนที่จะจบการศึกษาอยู่แล้ว ซึ่งส่วนนี้ก็ให้เราใส่ลงไปใส่เรซูเม่ด้วย รวมไปถึงกิจกรรมที่เคยทำในตอนเรียน ทั้งตัวกิจกรรมและประสบการณ์ที่เราได้รับ ว่ากิจกรรมที่เราเข้าร่วมนั้นให้อะไรแก่เราได้บ้าง และจะส่งผลดีหรือสามารถนำมาปรับใช้กับงานที่เราต้องการสมัครได้อย่างไร
- รูปถ่าย: รูปถ่ายที่ได้กล่าวไปแล้วว่า แม้ว่าจะไม่บังคับว่าเราต้องใส่ลงไปในเรซูเม่ แต่รูปถ่ายก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรใส่ลงไป และการเลือกรูปภาพสำหรับที่จะมาใส่ในเรซูเม่นั้น อาจะไม่จำเป็นว่าต้องเป็นชุดนักศึกษาหรือชุดครุย เพราะอาจทำให้เราดูน่าเชื่อถือน้อยลง ควรเป็นชุดสุภาพ อาจไม่จำเป็นต้องทางการ แต่ต้องดูดี สุภาพ และดูมีความมั่นใจ เพราะรูปภาพรูปนี้ที่เราจะใส่ลงในเรซูเม่จะเป็นภาพที่ทางบริษัทเห็นเราแต่แรก ก่อนที่จะเรียกมาสัมภาษณ์ ซึ่งหมายความว่ารูปภาพรูปนี้จะเป็นรูปภาพที่กลายเป็นความประทับใจแรกที่บริษัทมีต่อเรา ดังนั้นการเลือกรูปภาพที่ดีก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
- การสะกดคำ: นอกจากข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ แต่สำคัญมากเลยนั่นก็คือ การสะกดคำ นั่นเอง แม้ว่าข้อมูลที่เรากรอกนั้นจะครบถ้วนสมบูรณ์ แต่การที่เราเขียนตัวสะกดในคำผิดก็อาจทำให้บริษัทมองว่าเราไม่รอบคอบ ไม่ตรวจสอบตรวจทานการสะกดคำให้ดีก่อนที่จะส่งเรซูเม่มา ดังนั้น การสะกดคำให้ถูกต้องนั้นจึงเป็นตัวบ่งบอกได้ถึงความพิถีพิถันของเรารวมไปถึงความน่าเชื่อถือของเราในระดับหนึ่งได้เลยด้วย
เว็บทำเรซูเม่ ที่สามารถเข้าไปใช้งานได้ฟรี!
1. Resume.in.th
เริ่มต้นกันด้วยเว็บทำเรซูเม่เว็บแรกที่ทีมงานจะมาแนะนำเลย นั่นก็คือ resume.in.th โดยเป็นไซต์นี้นั้นถือเป็นเว็บไซต์ทำเรซูเม่ที่เป็นภาษาไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แถมยังมีรายละเอียดและคำแนะนำในการเขียนเรซูเม่ให้แก่ผู้ใช้งานด้วย ขั้นตอนการทำก็ไม่ยาก มีคำอธิบายให้เราในแต่ละช่อง ว่าว่าเราจะต้องใส่อะไรบ้าง เราก็ทำเพียงแค่เตรียมข้อมูลของเราเอง ถือว่าเว็บนี้เป็นเว็บทำเรซูเม่ที่ตอบโจทย์สุด ๆ โดยเฉพาะกับใครที่เพิ่งเริ่มต้นทำเรซูเม่
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: resume.in.th
2. Canva
เว็บทำเรซูเม่ต่อมา ก็คือเว็บไซต์ยอดฮิตระดับโลกอย่าง Canva เว็บไซต์ทำงานกราฟฟิกที่ได้รวบรวม Templates แทบจะทุกรูปแบบเอาไว้ แถมยังเปิดให้ใช้งานกันได้แบบฟรี ๆ มีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะสไตล์ไหนๆ จะสวย เรียบหรู เท่ น่ารัก มีมาให้หมด โดยเราสามารถดาวน์โหลด Templates ที่มีในเว็บแล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข เพิ่มเติมข้อมูล ได้ตามต้องการ โดยสามารถทำได้ในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันเลย จากนั้นก็เลือกได้ว่าเราจะเซฟไฟล์เป็นนามสกุลอะไร มีทั้ง PNG, JPG, PDF ฯลฯ การใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เราสมัครสมาชิก จากนั้นก็สามารถใช้งานได้เลยฟรี ๆ หรือใครที่ต้องการลูกเล่นต่าง ๆ เพิ่มเติมก็สามารถอัพเกรดเป็นสมาชิกแบบพรีเมียมได้ด้วย
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Canva
3. Visualcv
Visualcv เป็นเว็บไซต์ที่เหมือนการผสมระหว่างการสร้างสรรค์เรซูเม่กับความเรียบง่ายไว้ในที่เดียว โดยรูปแบบนั้นจะเป็นแนวที่จะดูเรียบง่ายแต่สามารถเพิ่มเติมสีสันเข้าไปได้ สามารถตกแต่งรูปแบบต่าง ๆ ได้เล็กน้อย ในส่วนของการใช้งานเว็บไซต์ก็ไม่ซับซ้อน สะดวกและใช้ง่าย เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการทำเรซูเม่ที่เรียบง่ายแต่ดูดี ในการใช้งานต้องสมัครสมาชิกก่อนจึงจะสามารถสร้างเรซูเม่ได้ นอกจากนี้ยังสามารถอัพเกรดเป็นแบบพรีเมียมเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้เรซูเม่ของเราได้
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Visualcv
4. Novoresume
ต่อมาเป็นเว็บทำเรซูเม่อย่าง Novoresume ที่ดีตรงที่มีการแนะนำให้เราระหว่างใส่ข้อมูลต่างๆ ว่าเรายังขาดเหลือข้อมูลสำคัญอะไรอีกบ้าง แถมยังแนะนำให้เราด้วยว่าเราควรใส่ข้อมูลอะไรลงไปบ้าง เช่น ทักษะความสามารถต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีวิธีการนำเสนอที่หลากหลาย มี Templates ให้เลือกมากมาย สามารถปรับแต่งได้ ใช้งานง่ายและไม่ยุ่งยาก รับรองว่าเรซูเม่ที่ออกมาจะดูโปรและสวยปังแน่นอน
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Novoresume
5. Latexresu
Latexresu เหมาะสำหรับใครที่ชอบอะไรเรียบง่าย ไม่ชอบความเยอะ หรือรกตา โดยเรซูเม่ของเว็บไซต์นี้จะเน้นรูปแบบที่ค่อนข้างดูเป็นทางการ เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่มีลูกเล่นอะไรมากมาย เราสามารถเข้าไปสร้างเรซูเม่ได้เลยโดยที่ไม่ต้องสมัครสมาชิก สามารถใช้งานได้ฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย การใช้งานก็เพียงแค่เราเลือกรูปแบบที่ต้องการ กรอกข้อมูลต่าง ๆ ตัวเว็บก็จะจัดรูปแบบให้เรา ใครที่ต้องการเรซูเม่ที่ดูเป็นทางการ น่าเชื่อถือ เรียบง่าย ต้องลองเว็บนี้เลย
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Latexresu
6. Cvmkr
สำหรับ Cvkr เป็นเว็บทำเรซูเม่ที่ค่อนข้างเป็นรูปแบบทางการอีกเช่นกัน ฟอร์มจะดูเรียบง่าย ใช้งานสะดวก เราสามรถเข้าไปสร้างเรซูเม่ได้เลยโดยที่ไม่ต้องสมัครสมาชิก สามารถกรอกข้อมูล แล้วดาวน์โหลดไฟล์เรซูเม่ได้เลย โดยไฟล์ที่เราดาวน์โหลดมานั้นจะเป็นไฟล์นามสกุล PDF นอกจากนี้เรายังสามารถสมัครสมาชิกและอัพเกรดเป็นแบบพรีเมียมเพื่อเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ได้มากขึ้นด้วย
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Cvmkr
7. Resume.com
สำหรับ Resume.com เป็นอีกเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายเข้าใจได้ง่าย มี Templates ให้เลือกตามจุดประสงค์ที่ต้องการใช้งาน มีตัวอย่างของเรซูเม่ในบางอาชีพ บางตำแหน่งงาน ให้เราดูเป็นตัวอย่างด้วย ซึ่งถือเป็นข้อดีเลยทีเดียวเพราะจะเป็นตัวอย่างให้เราได้ดูว่าเราควรใส่ข้อมูลอะไรยังไงบ้าง นอกจากนี้เว็บยังยังมีสอนวิธีโปรโมทเรซูเม่ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียด้วย ความพิเศษของเว็บไซต์นี้ นอกจากจะสร้างเรซูเม่ได้แล้ว เรายังสามารถนำเรซูเม่ที่เราสร้างอัพโหลดขึ้นบน Likedin แพลตฟอร์มสำหรับหางานที่ได้รับความนิยมอย่างมากได้โดยตรง
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Resume.com
8. ResumeMaker.Online
สำหรับ resumemaker.online นั้นเป็นเว็บทำเรซูเม่ที่ไม่ต้องสมัครสมาชิก สามารถใช้งานได้เลย ฟรี 100% โดยจะมีการบันทึกข้อมูลของเราไว้แล้วเราก็สามารถกลับมาแก้ไขในภายหลังได้ เราสามารถเลือกสี เลือกฟอนต์ หรือเลือกข้อมูลที่เราอยากใส่ลงไปได้หลากหลาย แต่ข้อสังเกตคือ ตัวเว็บมี Template ให้เราเลือกใช้เพียงแบบเดียว แต่ก็เป็นรูปแบบที่สวย ดูดี สะอาดตา น่าใช้งาน ใครที่ไม่ต้องการตัวเลือกเยอะ อยากได้เรซูเม่ที่สวย ดูดี ทีเดียวจบ ก็ต้องลองเว็บไซต์นี้เลย
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: resumemaker.online
9. Hloom
สำหรับ Hloom ก็เป็นอีกเว็บไซต์ที่อยากแนะนำ เพราะสามารถสร้างเรซูเม่ได้สะดวก ใช้งานง่าย ไม่ต้องสมัครสมาชิกก็สามารถเข้าไปสร้างเรซูเม่ได้เลยทันที เราสามารถเข้าไปดาวน์โหลด Templates ที่ต้องการแล้วก็ใช้งานได้เลยทันที ไม่เสียค่าใช้จ่าย ในส่วนของ Templates ก็มีหมวดหมู่ให้เราเลือกใช้มากมาย เช่น Art, Modern, Creative, Basic ฯลฯ ให้ได้เลือกใช้ ส่วนไฟล์ที่เสร็จแล้วนั้นเราก็สามารถดาวน์โหลดมาได่ โดยไฟล์จะเป็นไฟล์ word ก่อน ซึ่งเราจะต้องนำมาแปลงเป็นไฟล์ PDF ในภายหลัง
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Hloom
10. Adobe Spark
เว็บทำเรซูเม่เว็บต่อมาที่อยากแนะนำก็คือ Adobe Spark ที่ลักษณะคล้าย ๆ กับเว็บ Canva โดยเป็นนี้จะเป็นของ Adobe ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของซอฟต์แวร์ด้านงานกราฟฟิกทั้งหลายนั่นเอง เราสามารถเข้าไปใช้งานได้ง่าย ๆ ตัวเว็บมี Templates ให้เลือกใช้มากมาย สวยงามและใช้งานได้ฟรี ความพิเศษของ Adobe Spark อีกอย่างเลยก็คือ เราสามารถอัพโหลดและใช้งาน Font ที่เรามีภายในเครื่องของเราเองได้ด้วย ใครที่รู้สึกว่าตัวอักษรที่ทางเว็บมีนั้นไม่ถูกใจ รับรองว่า Adobe Spark ตอบโจทย์อย่างแน่นอน
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: Adobe Spark
11. Resume-Now
สำหรับ Resume-now นั้นจะมีแบบฟอร์มให้เราเลือกมากมายและหลากหลาย เลือกได้ตามความชอบและสไตล์ของเราเลย หรือจะเลือกตามอาชีพ ตำแหน่งงานที่เราจะสมัครก็ได้ ความน่าสนใจของเว็บไซต์นี้ก็คือ ระหว่างที่เรากำลังกรอกข้อมูลนั้น ตัวเว็บจะมีผู้ช่วยอัติโนมัติที่จะมาคอยบอกเคล็ดลับ เทคนิคการเขียนข้อมูลในเรซูเม่ของเราอยู่ตลอด แถมตัวเว็บยังมีเครื่องมือที่คอยช่วยเราเขียนจดหมายสำหรับการแนบประวัติสมัครงานด้วย และยังช่วยตรวจสอบความถูกต้องของคำหรือประโยคที่เราเขียน เรียกได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์สำหรับใครที่ต้องการสมัครงานอย่างแท้จริง
สามารถเข้าไปสร้างสรรค์เรซูเม่ได้ที่: resume-now
และทั้งหมดนี้คือเว็บทำเรซูเม่รวมไปถึงข้อมูล ส่วนประกอบ และเทคนิคการเขียนเรซูเม่สำหรับการสมัครงานที่ทีมงานได้นำมาฝากกัน เพราะในการสมัครงาน ไม่ว่าจำแหน่งใดก็ตาม ประวัติโดยย่อนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะถือเป็นหน้าต่างแรกที่จะทำให้บริษัทนั้นมองเห็นเรา อย่างไรก็ตาม การทำเรซูเม่ก็สามารถดัดแปลงได้ตามความต้องการ และความชอบส่วนตัวของแต่ละคน ซึ่งเว็บไซต์ที่ทีมงานนำมาแนะนำกันนั้นก็จะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยให้ เราสามารถสร้างสรรค์เรซูเม่ในแบบของตัวเองได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
อ้างอิงข้อมูลเกี่ยวกับการเขียนเรซูเม่: resume.in.th, jobscan.co
อ่านบทความเพิ่มเติม/บทความที่เกี่ยวข้อง
