ลำโพงคอมอาจเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนมองข้ามไปและเลือกซื้อรุ่นราคาไม่สูงและพอใช้ฟังเพลงได้เพราะหลายคนคิดว่าสุดท้ายก็แค่เอามาฟังเพลงหรือเอาไว้ฟังเสียงตอนเล่นเกมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น แต่ยุคนี้เทคโนโลยีเรื่องลำโพงนั้นจัดว่าทำออกมาได้ดีกว่าในอดีตและราคาไม่แพงมากและได้คุณภาพเสียงตามราคาและบางรุ่นอาจจะเกินราคาไปอีกด้วย
แต่หลายคนอาจจะเกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วถ้าเราต้องการซื้อลำโพงมาใช้สักตัว ต้องดูและใส่ใจเรื่องอะไรบ้างจะได้ซื้อครั้งเดียวแล้วคุ้ม ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อตัวใหม่หรือได้มาแล้วต้องทนฟังไปเพราะเสียงไม่ถูกใจจนขัดหูไปหมด แต่ถ้าเรารู้วิธีการเลือกลำโพงแบบง่าย ๆ สักนิด ก็จะทำให้เราเลือกลำโพงได้ถูกใจยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนลำโพงเซ็ตนี้ก็จัดหนักระดับสตูดิโอไปเลย
7 คำถามช่วยเลือกให้ลำโพงคอมได้ดีขึ้น
หลาย ๆ คนเวลาเดินเข้าร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แล้วหาลำโพงตัวใหม่ไปใช้ก็คงคิดว่า ลำโพงก็มี 2 ลูก มากหน่อยก็ 5 ลูกแล้วเติมซับวูฟเฟอร์เอามาช่วยเสียงพิทช์ต่ำเพิ่มอีกหน่อยอะไรแบบนี้เท่านั้นเอง แต่ลำโพงเองก็มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ใส่ใจไม่แพ้กับอุปกรณ์อื่น ๆ และวิธีการใส่ใจก่อนเลือกซื้อก็มีมากไม่แพ้กันอีกด้วย โดยวิธีการเลือกสำหรับคนที่สนใจจะมีดังนี้
ซื้อลำโพงสักตัวดี ๆ นอกจากฟังเพลงและเล่นเกมได้ฟิน ยังแต่งโต๊ะคอมได้เท่ขึ้นเยอะ
- งบประมาณในกระเป๋า – ใจความสำคัญสำหรับการเลือกซื้อของทุกชิ้น ว่าเราตั้งงบเอาไว้จ่ายให้อุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ๆ เท่าไหร่ รวมถึงลำโพงคอมด้วยเช่นกัน ถ้าเราตอบคำถามนี้ได้ก็จะช่วยตัดช้อยส์ออกไปได้หลายตัว
- พื้นที่บนโต๊ะมีไว้ให้วางลำโพงมากแค่ไหน – เพราะบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ของแต่ละคนมีพื้นที่ไม่เท่ากัน บางคนอาจจะมีหนังสือวางเอาไว้หลายเล่ม, มีเมาส์หรือคีย์บอร์ดวางไว้สองตัวแยกกันใช้งาน ฯลฯ ดังนั้นถ้ามีข้าวของอัดแน่นเต็มโต๊ะแล้วจะเลือกลำโพงมีซับวูฟเฟอร์ไป ก็อาจะได้จัดโต๊ะกันยกใหญ่แน่ ๆ ดังนั้นเวลาจะซื้อลำโพงสักชุดก็จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องนี้เยอะ ๆ เช่นกัน
- ดีไซน์ลำโพงเข้าธีมห้องและโต๊ะหรือเปล่า – เวลาซื้อของใช้เข้าบ้าน มาวางในห้องแต่ละห้องก็มีธีมของแต่ละห้องว่าตกแต่งแนวไหน เช่น ธีมห้องสีฟ้า, ต้องการแนวมินิมอล หรืออื่น ๆ เมื่อซื้อลำโพงก็อาจจะอยากเลือกเฟ้นกันสักหน่อยว่าลำโพงตัวใหม่จะผิดธีมหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ผิดธีมหรือไม่มีธีมอยู่แล้วก็อาจมองข้ามข้อนี้ไปได้เช่นกัน
- จะเชื่อมต่อแบบไหน – ตอนนี้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อนั้นไม่ใช่แค่ใช้สายหูฟัง 3.5 มม. อย่างเดียวอีกต่อไป เพราะตอนนี้ลำโพงหลายรุ่นก็มีพอร์ตและการเชื่อมต่อมากกว่านั้นและบางรุ่นก็รองรับ Wi-Fi, Bluetooth อีกด้วย ดังนั้นถ้าเราตอบโจทย์ตัวเองได้ว่าจะใช้เป็นลำโพงสำหรับพีซีอย่างเดียว ฟีเจอร์ Bluetooth ก็ไม่ใช่ใจความสำคัญสำหรับลำโพงตัวนั้น (ซึ่งแต่ถ้ามีก็ดีเช่นกัน) แต่อาจเลือกหาเป็นช่อง S/PDIF หรืออื่น ๆ แทน ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องคิดเรื่องฟีเจอร์เสริมอย่าง Smart Home เพิ่มเติมว่าเราอยากใช้งานได้ถึงระดับนั้นเลยหรือเปล่า
- คุณภาพของเสียง – ในข้อนี้เป็นส่วนสำคัญมาก ซึ่งรสนิยมการฟังเพลงและการได้ยินเสียงของแต่ละคนแตกต่างกันไปหมด ทำให้ตอนจะเลือกลำโพงสักตัวก็ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ สมมติว่าหากได้โอกาสทดลองฟังแล้ว ลำโพงแบรนด์ A ให้โทนเสียงเป็นทุ้มและเบสหนา ส่วนเสียงแหลมดีแต่แตกปลาย, ลำโพงแบรนด์ B ตรงกันข้ามกับ A แต่เสียงนักร้องใสกว่า ฯลฯ ซึ่งส่วนนี้เป็นจุดสำคัญไม่น้อยเวลาจะเลือกซื้อลำโพงคอมสักตัวหนึ่งมาใช้งานให้รอบด้านทั้งฟังเพลงและเล่นเกมนั่นเอง หากเป็นไปได้ผู้เขียนก็แนะนำให้ขอทดลองฟังจากผู้จัดจำหน่ายสักนิดว่าเสียงลำโพงแบรนด์นั้น ๆ ถูกใจเราหรือไม่ ค่อยเลือกซื้อไป
- ใช้งานลำโพงกี่แชนแนล? – ลำโพงแต่ละรุ่นก็จะมีเรื่องแชนแนลเสียงอีก โดยปัจจุบันจะมีหลัก ๆ 3 แบบคือ
- 2.0 – เป็นลำโพงสองตัวแบบไม่มีซับวูฟเฟอร์ฝังเอาไว้ในตัว
- 2.1 – เป็นลำโพงสองตัวพร้อมซับวูฟเฟอร์ฝังเอาไว้ด้วยหรืออาจแยกเป็นอีกชิ้นหนึ่งก็ได้ เป็นแบบที่พบเจอได้ทั่วไป
- 5.1 – ลำโพง 5 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์แยกอีกหนึ่งตัว มีข้อดีคือเวลาใช้งานจะได้ยินเสียงจากหลายทิศทางพร้อมกัน ทำให้ตอนดูหนังหรือฟังเพลงมีมิติยิ่งขึ้น และต้องเสียเวลาเลือกจุดตั้งลำโพงและปรับแต่งเพิ่มเติมบ้างในบางกรณีด้วย
- รีโมตและอุปกรณ์ควบคุม – สำหรับฟีเจอร์เรื่องรีโมตนั้นเป็นส่วนเสริมเพิ่มความสะดวกเวลาใช้งาน ซึ่งลำโพงสำหรับคอมพิวเตอร์หลายรุ่นในปัจจุบันก็มีรีโมตแบบสายให้วางเอาไว้หน้าคอมพิวเตอร์ไว้ปรับเพิ่มลดเสียงในหลาย ๆ โอกาส หรือบางรุ่นก็มีเป็นรุ่นไร้สายพร้อมฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
มีรีโมตเอาไว้ก็คุมลำโพงง่ายขึ้น
7 ลำโพงคอมเล่นเกมและฟังเพลงน่าเลือกใช้
สำหรับลำโพงคอมแนะนำในบทความนี้จะมีตั้งแต่รุ่นราคาถูกไปจนแพง แต่อ้างอิงจากรีวิวหลายเว็บไซต์ว่าคุณภาพเสียงนั้นออกมาได้น่าประทับใจ, มีราคาสมเหตุผล และหาซื้อได้ในประเทศไทย โดยแต่ละรุ่นจัดเป็นแบรนด์คุ้นหน้าของคนไทยอีกด้วย โดยมีรุ่นแนะนำดังนี้
- Creative Pebble 2.0 (590 บาท)
- Edifier R19U (890 บาท)
- Creative Pebble Plus 2.1 (1,290 บาท)
- Edifier M201BT 2.1 (1,690 บาท)
- Edifier G2000 2.0 (2,790 บาท)
- JBL Quantum Duo (5,590 บาท)
- Razer Nommo 2.0 (5,890 บาท)
1. Creative Pebble 2.0 (590 บาท)
Pebble แปลว่าก้อนหินก้อนเล็ก ๆ เช่นในภาพ ซึ่ง Creative Pebble 2.0 นั้นเป็นลำโพงคุณภาพดี, คุณภาพเสียงน่าประทับใจและราคาไม่แพงมากเกินไป เหมาะกับการดูหนังฟังเพลงและเป็นลำโพงแบบ 2.0 จึงไม่มีซับวูฟเฟอร์ฝังเอาไว้ข้างใน แต่คุณภาพเสียงจากรีวิวต่างประเทศจัดว่าทำได้ดีและเป็นรุ่นมาตรฐานหากต้องการลำโพงไม่แพงเอาไว้ใช้ และไม่กินเนื้อที่บนโต๊ะอีกด้วย
ตัวลำโพงขนาด 2 นิ้ว ทำมุม 45 องศา Output สูงสุด 4.4W RMS เพื่อให้สเตจและเสียงมีมิติมากยิ่งขึ้น สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายด้วยสายหูฟัง 3.5 มม. กับสาย USB 2.0 เพื่อจ่ายพลังงานให้ลำโพง แต่ถ้าต่อสมาร์ทโฟน USB นี้ต้องการพลังงานเพียง 5V1A เท่านั้น จึงใช้พาวเวอร์แบงค์จ่ายพลังงานแทนก็ได้ ลำโพงมีความถี่ 100-17,000 Hz ดังสุด 86 เดซิเบล
Creative Pebble 2.0
- ลำโพงขนาด 2 นิ้ว ทำมุม 45 องศา
- เชื่อมต่อด้วยสายหูฟัง 3.5 มม. และ USB 2.0 ใช้พลังงาน 5V1A
- ลำโพงมีความถี่ 100-17,000 Hz
- Output สูงสุด 4.4W RMS
- ปรับเสียงดังสุด 86 เดซิเบล
- ราคา 590 บาท (JIB)
2. Edifier R19U (890 บาท)
Edifier R19U เป็นลำโพงราคาไม่เกินพันแต่สเปคเกินตัวอีกรุ่นหนึ่ง ให้เสียงดีมากอีกตัวในรุ่นโดยโทนเสียงเป็นแนวบาลานซ์ มีเสียงกลางและสูงจัดว่าดีและฟังสนุกไม่น้อย มีเสียงเบสให้สนุกพอตัวแม้จะไม่มีซับวูฟเฟอร์ช่วยก็ตาม เนื่องจากเป็นลำโพงแบบ 2.0 แต่ก็เป็นอีกรุ่นน่าใช้ในกลุ่มราคาไม่เกินหนึ่งพันบาท ดีต่อคนชอบฟังเพลงและดูหนังอีกรุ่นหนึ่ง ด้านงานออกแบบก็ทำได้สวยและเรียบร้อยดูมีระดับ
สเปคของลำโพงชุดนี้มีขนาด 70 มม. (2.7 นิ้ว) ทำมุม 10 องศา เชื่อมต่อผ่านสาย AUX (แจ็คสีเขียว) และใช้พลังงานจากพอร์ต USB 2.0 ซึ่งใช้ต่อกับโน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ได้สบาย ๆ แต่ถ้าใช้ Power Bank จะปรับเสียงดังสุดได้น้อยลงเล็กน้อย ลำโพงมีความถี่คลื่นเสียง 150Hz – 20kHz ให้เสียงดังสุดเกิน 80 เดซิเบล Output สูงสุด 2Wx2 RMS DRC on)
Edifier R19U
- ลำโพงขนาด 2.7 นิ้ว ทำมุม 10 องศา
- เชื่อมต่อด้วยสาย AUX (แจ็คสีเขียว) และ USB 2.0
- ลำโพงมีความถี่ 150Hz – 20kHz
- Output สูงสุด 2Wx2 RMS (DRC on)
- ปรับเสียงดังสุดได้เกิน 80 เดซิเบล
- ราคา 890 บาท (JIB)
3. Creative Pebble Plus 2.1 (1,290 บาท)
Creative Pebble Plus 2.1 เป็นรุ่นอัพเกรดขึ้นมาจาก Creative Pebble ในข้อแรกโดยเพิ่มตู้ซับวูฟเฟอร์เข้ามาอีกหนึ่งอันเพื่อช่วยเสริมเรื่องเบสให้หนักแน่นยิ่งขึ้น และตัวลำโพงจะเพิ่มสาย RCA to Subwoofer เข้ามาให้อีกหนึ่งเส้นเพื่อใช้งานกับตู้ซับวูฟเฟอร์โดยเฉพาะ รองรับการจ่ายไฟด้วย USB 2.0
ด้านของสเปคจะเหมือนกับ Creative Pebble 2.0 แต่ปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางส่วน เช่นเพิ่มสาย RCA to Subwoofer เข้ามา, เพิ่มสวิตช์สำหรับสับเสียง High Gain เข้ามาให้ปรับเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ Output สูงสุด 8W RMS พีคสุด 16W
Creative Pebble Plus 2.1
- ลำโพงขนาด 2 นิ้ว ทำมุม 45 องศา
- เชื่อมต่อด้วยสายหูฟัง 3.5 มม., RCA to Subwoofer และ USB 2.0
- ลำโพงมีความถี่ 100-17,000 Hz
- Output สูงสุด 8W RMS ซับวูฟเฟอร์ 16W
- มีสวิตช์ปรับ High Gain ให้สลับเปิดปิดได้
- ปรับเสียงดังสุด 86 เดซิเบล
- ราคา 1,290 บาท (JIB)
4. Edifier M201BT 2.1 (1,690 บาท)
Edifier M201BT 2.1 เป็นลำโพงพร้อมซับวูฟเฟอร์ 131 มิลลิเมตร ให้เสียงโดดเด่นทั้งโทนต่ำและสูง มีโทนเสียงทรงพลังอีกรุ่นหนึ่ง เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนวรวมทั้งรองรับการเชื่อมต่อสองทั้ง AUX และ Bluetooth สามารถเชื่อมต่อกับพีซี, สมาร์ทโฟนและเครื่องเล่น Mp3 ได้ด้วย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อกับการปรับเสียงทั้งหมดดีไซน์ให้ซ่อนอยู่ตรงมุมขวาของเครื่อง ทำให้ปรับแต่งเสียงได้ง่ายกว่าเดิมมาก
สเปคใช้ซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ถึง 131 มม. มีกำลังขับเบส 18W ส่วนลำโพงกำลังขับ 8W x 2 ตัว ให้เสียงดังสุดเกิน 80 เดซิเบล ส่วนคลื่นเสียงจากลำโพงมีความถี่ 210Hz-20kHz ส่วนซับวูฟเฟอร์อยู่ 63-206Hz
Edifier M201BT 2.1
- ลำโพง 2 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์ขนาด 131 มม. x 1 ตัว
- เชื่อมต่อด้วยสายหูฟัง AUX, USB 2.0, Bluetooth
- ลำโพงมีความถี่ 210Hz-20K Hz, ซับวูฟเฟอร์อยู่ที่ 63-206Hz
- Output สูงสุด 8+W ซับวูฟเฟอร์ 18W
- ปรับเสียงดังสุดเกิน 80 เดซิเบล
- ราคา 1,690 บาท (JIB)
5. Edifier G2000 2.0 (2,790 บาท)
Edifier G2000 2.0 เป็นลำโพงคอมตั้งโต๊ะขนาดไม่ใหญ่มากแต่กำลังขับรวมทั้งฟีเจอร์จัดว่าแน่นเอาเรื่อง เพราะใช้ไดรเวอร์ Full Range 2.75 นิ้ว กำลังขับ 8+8W สูงสุด 16+16W และมี USB DAC ไว้ในตัว ปรับ Equalizer ได้พร้อมกับรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, USB-DAC, AUX ได้ เรียกว่าจะใช้กับสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ก็สบาย ๆ ปรับโหมดได้ทั้ง Gaming, Movie, Music และใครเป็นสาย RGB จะถูกใจสิ่งนี้เพราะ Edifier G2000 2.0 มีแสงไฟอีกด้วย
ส่วนเรื่องเสียงแม้จะไม่มีซับวูฟเฟอร์ในตัวแต่เสียงก็มีเบสพอควรรวมทั้งมีมิติเสียงดี จะใช้ดูหนัง, ฟังเพลงทั่วไปหรือเพลงคลาสสิคก็ได้ รวมทั้งเล่นเกมก็ทำได้ดีด้วยการปรับโหมดของหูฟังเท่านั้น จัดเป็นลำโพงคอมอีกรุ่นน่าสนใจในช่วงราคาไม่เกิน 3 พันบาท
Edifier G2000 2.0
- ลำโพง 2 ตัว 2.7 นิ้ว ทำมุม 10 องศา กำลังขับ 8+8W สูงสุด 16+16W
- เชื่อมต่อด้วยสายหูฟัง AUX, USB-DAC, Bluetooth
- ลำโพงมีความถี่ 98Hz-20K Hz, ซับวูฟเฟอร์อยู่ที่ 63-206Hz
- มีแสงไฟ RGB, ปรับโหมดใช้งานได้ 3 โหมด คือ Gaming, Movie, Music
- ราคา 2,790 บาท (JIB)
6. JBL Quantum Duo (5,590 บาท)
JBL Quantum Duo เป็นลำโพงคอมสำหรับเล่นเกมพร้อมฟีเจอร์ QuantumSOUND จาก JBL โดยเด่นเรื่องเบสและมิติเสียงซึ่งจำลองเสียงให้รู้ตำแหน่งศัตรูได้ชัดเจน จึงเหมาะกับเกมแนว FPS เป็นอย่างมากพร้อมแสงไฟ RGB เอาใจเกมเมอร์และ Breathing Effect ทำให้แสงบนตัวลำโพงกระพริบเหมือนกำลังหายใจอยู่ ซึ่งจะเอาไว้ฟังเพลงก็ได้แนวเสียงเน้นเบสโดดเด่นอีกรุ่นเช่นกัน
สเปคของลำโพงนี้จะมีขนาดลำโพง 2.5 นิ้ว และกำลังขับสูงสุด 20W RMS ลำโพงมีความถี่ 60 Hz – 20K Hz ปรับเสียงได้ดังสุดเกิน 80 เดซิเบลอีกด้วย สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งสาย 3.5 มม. และ Bluetooth 4.2 รองรับ A2DP v1.3, AVRCP v1.5
JBL Quantum Duo
- ลำโพง 2 ตัว 2.5 นิ้ว กำลังขับ 20W
- เชื่อมต่อด้วยสายหูฟัง 3.5 มม., Bluetooth 4.2 รองรับ A2DP v1.3, AVRCP v1.5
- ลำโพงมีความถี่ 60 Hz – 20K Hz
- ปรับเสียงดังสุดได้เกิน 80 เดซิเบล
- ราคา 5,590 บาท (JIB)
7. Razer Nommo 2.0 (5,890 บาท)
Razer Nommo 2.0 เป็นลำโพงคอมเกมมิ่งโดยเฉพาะอีกรุ่นซึ่งถ้ามีงบประมาณพอเป็นเจ้าของได้ก็แนะนำให้เป็นเจ้าของ ซึ่งคุณภาพของเสียงของลำโพงนี้ถือว่าอยู่ในระดับโดดเด่นสุดในกลุ่มลำโพงเกมมิ่งด้วยกัน สเปคลำโพงเรียกว่าเท่ารุ่นใหญ่อย่าง Razer Nommo Pro แค่ไม่มีซับวูฟเฟอร์เท่านั้น แต่ก็ยังมีเสียงเบสพอควรและเก็บรายละเอียดเสียงเวลาเล่นเกมได้ดีรุ่นหนึ่ง
สเปคของ Nommo ใช้ลำโพงขนาด 3 นิ้วทั้งสองฝั่ง เป็นใยแก้วโดยให้เสียงทางใสเป็นหลักและมีเบสพอควรพร้อมลูกบิดปรับโทนเบสได้ แต่รองรับการเชื่อมต่อเพียง AUX และช่องหูฟัง 3.5 มม. เท่านั้นและต้องเชื่อมต่อปลั๊กเมื่อใช้งาน จึงเหมาะจะใช้กับคอมพิวเตอร์เท่านั้น มีไฟ RGB ตรงฐานแสดงผลได้ 16.8 ล้านสี ลำโพงมีความถี่เสียง 50 Hz – 20 K Hz แต่เสียงจากลำโพงจะดังเพียงระดับหนึ่ง ถ้าเทียบกับตัวอื่นอาจไม่กระหึ่มนัก
Razer Nommo 2.0
- ลำโพง 2 ตัว 3 นิ้ว
- เชื่อมต่อด้วยสายหูฟัง 3.5 มม., AUX
- ลำโพงมีความถี่ 50 Hz – 20 K Hz
- ราคา 5,890 บาท (JIB)
สรุป – เปรียบเทียบสเปคลำโพงคอม
รุ่น / สเปค | Creative Pebble 2.0 | Edifier R19U | Creative Pebble 2.1 | Edifier M201BT 2.1 | Edifier G2000 2.0 | JBL Quantum Duo | Razer Nommo 2.0 |
ลำโพง | 2 นิ้ว 2 ตัว ทำมุม 45 องศา | 2.7 นิ้ว 2 ตัว ทำมุม 10 องศา |
2 นิ้ว 2 ตัว ทำมุม 45 องศา ซับวูฟเฟอร์ |
2 ตัว ซับวูฟเฟอร์ขนาด 131 มม. 1 ตัว |
2 ตัว 2.7 นิ้ว ทำมุม 10 องศา |
2 ตัว 2.5 นิ้ว |
2 ตัว 3 นิ้ว |
เชื่อมต่อ | สายหูฟัง 3.5 มม. USB 2.0 |
AUX USB 2.0 |
สายหูฟัง 3.5 มม. RCA to Subwoofer USB 2.0 |
AUX USB 2.0 Bluetooth |
AUX USB-DAC Bluetooth |
สายหูฟัง 3.5 มม. Bluetooth 4.2 |
สายหูฟัง 3.5 มม. AUX |
ความถี่ | 10-17,000 Hz | 150Hz – 20kHz | 100-17,000 Hz | 210Hz-20K Hz ซับวูฟเฟอร์ 63-206Hz |
98Hz-20K Hz ซับวูฟเฟอร์ 63-206Hz |
60 Hz – 20K Hz | 50 Hz – 20 K Hz |
กำลังขับ | 4.4W RMS | 2Wx2 RMS (DRC on) | 8W RMS ซับวูฟเฟอร์ 16W |
8+W ซับวูฟเฟอร์ 18W |
8+8W สูงสุด 16+16W | 20W | x |
ความดัง | 86 เดซิเบล | เกิน 80 เดซิเบล | 86 เดซิเบล | เกิน 80 เดซิเบล | x | เกิน 80 เดซิเบล | x |
ราคา | 590 บาท | 890 บาท | 1,290 บาท | 1,690 บาท | 2,790 บาท | 5,590 บาท | 5,890 บาท |
สุดท้ายการเลือกลำโพงใหม่สักตัวถ้าเราเลือกโดยเข้าใจความต้องการของเราแล้ว ก็จะสามารถตัดสินใจได้ว่าลำโพงตัวไหนดีและเหมาะกับการใช้งานของเราที่สุด เช่นเน้นเรื่องการดูหนังฟังเพลงเป็นหลักเล่นเกมเป็นรอง หรือเล่นเกมเน้น ๆ อย่างเดียว ซึ่งลำโพงแต่ละตัวก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามแบรนด์ผู้ผลิตสินค้า ซึ่งถ้าเราเข้าใจความต้องการของตัวเองได้ชัดเจนเมื่อไหร่ก็สามารถตัดสินใจเลือกลำโพงคอมตัวใหม่ได้ดีขึ้นเท่านั้น