5 เมาส์เกมมิ่งไร้สาย สเปคดีในงบ 3,000 บาท ฉบับปี 2021

ถ้าพูดถึงเกมเมอร์ก็ต้องมีเมาส์เกมมิ่งดี ๆ ไว้คู่กับเกมมิ่งพีซีประจำตัวสักตัวหนึ่งอย่างแน่นอน แต่จะใช้ยี่ห้อไหนมีราคาเท่าไหร่ก็ทำให้เกมเมอร์สามารถสนุกกับเกมได้ ยิ่งในยุคนี้เทคโนโลยีไร้สายก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและเชื่อมต่อได้เสถียรยิ่งกว่าในอดีตมากจนทำให้เกมเมอร์บางส่วนก็เลือกเมาส์ไร้สายไว้เป็นอุปกรณ์หลักทั้งเล่นเกมและใช้ทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ

ยิ่งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้เมาส์เล่นเกมไร้สายน่าสนใจเป็นตัวเลือกโดดเด่นไม่แพ้เมาส์เล่นเกมแบบมีสายเลย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์แปลกใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ และกลุ่มราคาไม่เกิน 3,000 บาท นับว่าไม่ถูกไม่แพงเกินไปและมีฟีเจอร์เพียงพอสำหรับการเล่นเกมในปัจจุบันได้ดีทีเดียว

เมาส์เล่นเกมแบบมีสายก็จัดว่าดี แต่พอเป็นไร้สายก็สะดวกขึ้นเยอะ

เลือกเมาส์เกมมิ่งอย่างไรดี?

หลักการเลือกเมาส์ไร้สายโดยทั่วไป สามารถอ่านได้ในบทความ “10 เมาส์ไร้สายหลักร้อย คุณภาพดีน่าใช้ให้ชีวิตสะดวกขึ้น!” ซึ่งเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ได้ แต่รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการเลือกเพื่อเอามาเล่นเกมจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยให้เกมเมอร์สามารถเลือกซื้อได้ถูกใจยิ่งขึ้น โดยจุดต้องใส่ใจเพิ่มอีกเล็กน้อยมีดังนี้

1. เล่นเกมแนวไหนเป็นประจำ – เพราะเมาส์เกมมิ่งแต่ละตัวออกแบบมาแตกต่างกันและเหมาะกับเกมคนละแบบและมีผลต่อการตัดสินแพ้ชนะได้ง่าย ๆ เช่น ถ้าเราเล่นเกมแนว MOBA, RTS เป็นหลัก การเลือกเมาส์พร้อมปุ่ม Macro เยอะ ๆ เช่นกลุ่ม Razer Naga Trinity ที่มีปุ่มมาโครร่วม 12 ปุ่มก็เหมาะสมกว่า ส่วน FPS อาจใช้มาโครเพียง 2-3 ปุ่ม เอาไว้ปรับลด DPI กะทันหันเวลาเปลี่ยนจากปืนกลเป็นปืนไรเฟิลเพื่อให้เป้าเล็งนิ่งขึ้น เป็นต้น
2. คุณภาพของเซนเซอร์ – ถ้าเซนเซอร์ยิ่งดียิ่งทำให้การลากเมาส์ไปมาทำได้ดีและเสถียรยิ่งขึ้น ตอบสนองได้เสถียร ราบลื่นและแม่นยำกว่าเซนเซอร์หรือการใช้เลเซอร์แบบทั่วไป
3. ค่า DPI – DPI หรือ Dot Per Inch (บางเว็บไซต์อาจเขียนว่า CPI หรือ Counts Per Inch) จะกำหนดความเร็วเวลาเราลากเมาส์ ว่าการหันหมุนกล้องและตัวละครในเกมของเราจะช้าเร็วแค่ไหน ซึ่งการมี DPI สูงมาก ๆ ก็อาจจะไม่ดีเสมอไป เพราะอาจเกิดปัญหาเรื่องเมาส์เร็วเกินไปจนคุมไม่อยู่เช่นกัน
4. ค่า Polling Rates – หลายคนอาจสนใจเรื่อง DPI สูงเข้าไว้ แต่ค่า Polling Rates ซึ่งเป็นความถี่ในการสื่อสารระหว่างเมาส์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้ายิ่งถี่มากก็ทำให้เมาส์ส่งข้อมูลยืนยันตำแหน่งของเซนเซอร์กับตัวเครื่องบ่อยขึ้นและช่วยลดปัญหาการตอบสนองช้าได้ เช่นถ้าตั้งค่า Polling Rates เอาไว้ 500 Hz เมาส์จะส่งสัญญาณยืนยันตำแหน่งกับพีซี 500 ครั้งทุกวินาที แต่ถ้าเราตั้งค่า Polling Rates กับ DPI ได้เข้ากันก็จะทำให้การตอบสนองดีขึ้น ส่วนค่า USB Polling Rates มาตรฐานของ Windows 7, 10 อยู่ที่ 125 Hz
5. ค่าความเร่งของเมาส์ (Acceleration) – ความเร่งของเมาส์เวลามือของเราเลื่อนเมาส์เร็ว ๆ จะทำให้เมาส์เลื่อนเร็วกว่าปกติ ตัวอย่างเช่นถ้าเราเลื่อนเมาส์ปกติ ระยะ 5 เซนติเมตรใน 5 วินาทีแล้วเคอร์เซอร์เมาส์เลื่อนจากตำแหน่งเดิม 200 พิกเซลบนหน้าจอ ถ้าเปิด Mouse Acceleration จะทำให้เคอร์เซอร์เลื่อนไปเร็วกว่าเดิม เช่นจาก ระยะ 5 เซนติเมตรใน 5 วินาที จะเพิ่มขึ้นไปเป็น 1000 พิกเซลแทน ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเหมาะกับหน้าจอความละเอียดสูง ๆ มากกว่า ซึ่งเมาส์เกมมิ่งส่วนใหญ่จะมีค่านี้เข้ามาเกี่ยวด้วย นับค่าความเร็วเป็น IPS หรือ Inch Per Second
6. น้ำหนักของเมาส์ – น้ำหนักของเมาส์ก็เป็นจุดสำคัญ เพราะสไตล์การจับเมาส์และเล่นเกมและสไตล์การเลื่อนเมาส์ก็ไม่เหมือนกันและแต่ละรุ่นก็มีน้ำหนักต่างกันด้วย ดังนั้นการลองจับตัวจริงสักนิดจะทำให้คนซื้อรู้ได้ว่าน้ำหนักของเมาส์นั้นเบาหรือหนักเกินไป และบางรุ่นก็ออกแบบให้ผู้ใช้ใส่ตัวถ่วงน้ำหนักเพิ่มได้ให้เข้ากับสไตล์การใช้งานอีกด้วย
7. จับมือซ้ายหรือมือขวา – เมาส์เกมมิ่งมักถูกออกแบบเฉพาะมือขวาเป็นหลักและมีแบบแบบใช้ได้ทั้งสองมือ (ambidextrous) ดังนั้นถ้ามือข้างถนัด (นับจากมือข้างใช้จับปากกาเขียน) เป็นมือซ้าย ควรเลือกรุ่นออกแบบมาสำหรับคนจับมือซ้ายโดยเฉพาะจะดีสุด
8. ฟังก์ชั่นและฟีเจอร์เฉพาะของรุ่น – ปัจจุบันเมาส์ไร้สายแต่ละรุ่นก็มีระบบเชื่อมต่อทั้ง USB Wireless และ Bluetooth จึงต่อกับพีซีและอุปกรณ์ต่าง ๆ มากกว่าหนึ่งเครื่อง จึงไม่ต้องซื้อเมาส์หลายตัว เพียงแค่ปรับโหมดตรงปุ่มลัดบนตัวเมาส์ก็เปลี่ยนการเชื่อมต่อจาก USB Wireless เป็น Bluetooth ได้ทันทีอีกด้วย

5 เมาส์เกมมิ่งน่าเลือกใช้ในงบ 3,000 บาท

สำหรับเมาส์เกมมิ่งในงบ 3,000 บาท 5 รุ่น น่าเลือกใช้นั้น จะคัดเฉพาะรุ่นวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการจากแบรนด์ชั้นนำ สามารถส่งเคลมได้เมื่อเกิดปัญหาการใช้งานได้ง่ายอีกด้วย โดยรุ่นแนะนำคือ

1. SteelSeries Rival 3 Wireless (2,490 บาท)
2. Razer Basillisk X Hyperspeed Wireless (1,990 บาท)
3. Kingston HyperX Pulsefire Dart Wireless (2,890 บาท)
4. CORSAIR IRONCLAW RGB Wireless (2,790 บาท)
5. Logitech G603 LIGHTSPEED (2,699 บาท)

1. SteelSeries Rival 3 Wireless (2,490 บาท)

SteelSeries Rival 3 Wireless เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายน่าใช้กับดีไซน์เรียบ ๆ แต่ฟีเจอร์ไม่น้อยหน้าใคร สามารถเชื่อมต่อไร้สายทั้งผ่าน USB Wireless คลื่น 2.4GHz และ Bluetooth 5.0 ได้ด้วย เวลาใช้งานก็สามารถเชื่อมต่อ USB เอาไว้กับเกมมิ่งพีซีเครื่องหลักและใช้ Bluetooth กับโน๊ตบุ๊คของเราเวลาพกเมาส์นี้ไปใช้ทำงานได้ มีสวิตช์เลื่อนสลับโหมดติดตั้งไว้ใต้ตัวเมาส์

สเปคของ SteelSeries Rival 3 Wireless ดีไซน์เป็นเมาส์พลาสติก ABS สีดำ Matte Black ออกแบบตามสรีรศาสตร์ของมือ ใช้งานกับมือขวาและเหมาะกับการจับแบบ Claw หรือ Fingertip มีแสงไฟ RGB ตรงลูกล้อเมาส์ ใช้เซนเซอร์ SteelSeries TrueMove Air แบบออปติคัล มีค่า DPI ที่ 100-18,000 DPI และ Polling Rates 1000Hz ต่อ 1ms ส่วน Acceleration ของเมาส์ 40G จัดว่ามีความเร็วในการตอบสนองสูงและแม่นยำ มีปุ่มบนตัวเมาส์ 6 ปุ่ม รองรับการกดได้มากสุด 60 ล้านครั้ง แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องในโหมด Bluetooth ได้นาน 400 ชั่วโมง น้ำหนัก 106 กรัม ใช้แบตเตอรี่ AAA x 2 ก้อน

เมาส์รองรับการทำงานร่วมกับ Windows, Mac, Xbox, PS4, PS5, Linux และต้องใช้โปรแกรม SteelSeries Engine 3.18.4 หรือใหม่กว่าเพื่อปรับแต่งรายละเอียดค่า DPI และ Polling Rates ของเมาส์ 

สเปคของ SteelSeries Rival 3 Wireless

• บอดี้พลาสติก ABS สีดำ Matte Black
• แสงไฟ RGB ตรงลูกล้อเมาส์
• เซนเซอร์ SteelSeries TrueMove Air
• เชื่อมต่อด้วย USB Wireless คลื่น 2.4GHz หรือ Bluetooth 5.0 เปลี่ยนโดยใช้สวิตช์เลื่อนใต้ตัวเมาส์
• DPI 100-18,000 มีปุ่มกดเปลี่ยนบนตัวเมาส์
• Polling Rates สูงสุด 1000Hz ต่อ 1ms
• ค่า Acceleration 40G
• ดีไซน์สำหรับมือขวา เหมาะกับการจับแบบ Claw หรือ Fingertip
• ปุ่มบนเมาส์ 6 ปุ่ม รองรับการกดสูงสุด 60 ล้านครั้ง
• ใช้แบตเตอรี่ AAA x 2 ก้อน ใช้งานได้นาน 400 ชั่วโมง
• รองรับ Windows, Mac, Xbox, PS4, PS5, Linux
• ต้องการโปรแกรม SteelSeries Engine 3.18.4 หรือใหม่กว่า
• น้ำหนัก 96 กรัม (แบตเตอรี่ 1 ก้อน) 106 กรัม (แบตเตอรี่ 2 ก้อน)
• ราคา 2,490 บาท

2. Razer Basillisk X Hyperspeed Wireless (1,990 บาท)

Razer Basillisk X Hyperspeed Wireless เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายราคาถูกสุดในกลุ่มทั้งหมดนี้พร้อมกับดีไซน์เหลี่ยมคมพร้อมชื่อรุ่นตั้งตามงูบาซิลลิกซ์ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือสามารถบันทึกค่า DPI ไว้กับตัวเมาส์ได้ด้วยโปรแกรม Razer Synapse 3 และน้ำหนักเมาส์เบาเพียง 83 กรัมเท่านั้น และใช้งานผ่านระบบ Bluetooth ใช้พลังงานต่ำได้นาน 450 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ AA x 2 ก้อน

สเปคของ Razer Basillisk Hyperspeed Wireless ใช้ USB Wireless ไร้สายรุ่นเฉพาะของบริษัทในชื่อรุ่น Razer Hyperspeed โดยบริษัทเคลมว่ารับส่งสัญญาณได้เร็วกว่าคู่แข่ง 25% ช่วยลดปัญหาสัญญาณเมาส์หายในบางจังหวะในพื้นที่มีสัญญาณไร้สายเยอะ ใช้เซนเซอร์ออปติคัล Razer 5G Advance เคลมความแม่นยำของเซนเซอร์ 99.4% มีค่า DPI สูงสุด 16,000 DPI ปรับความเร็วระหว่างใช้งานได้ 5 ระดับ มีค่ามาตรฐานโรงงาน 800/1800/3200/7200/16000 DPI 

ตัวปุ่มบนเมาส์เป็นปุ่มเมคคานิคัล 6 ปุ่ม ตั้งค่ามาโครแยกเฉพาะแต่ละปุ่มได้อิสระ รองรับการกด 50 ล้านครั้ง มีระบบบันทึกโปรไฟล์ติดตั้งไว้ในเมาส์ การใช้งานถ้าผ่าน USB Wireless ได้ 285 ชั่วโมง ส่วน Bluetooth ขึ้นไปถึง 450 ชั่วโมง ดีไซน์เป็นเมาส์แบบมือขวา ตั้งค่าได้ผ่านโปรแกรม Razer Synapse 3

สเปคของ Razer Basillisk Hyperspeed Wireless

• บอดี้พลาสติก ABS สีดำ
• เซนเซอร์ Razer 5G Advanced Optical Sensor
• เชื่อมต่อด้วย USB Wireless คลื่น 2.4GHz หรือ Bluetooth 5.0 
• DPI สูงสุด 16,000
• Polling Rates สูงสุด 450Hz ต่อ 1ms
• ค่า Acceleration 40G
• ดีไซน์สำหรับมือขวา 
• ปุ่มบนเมาส์ 6 ปุ่ม รองรับการกดสูงสุด 50 ล้านครั้ง ตั้งมาโครแยกเฉพาะแต่ละปุ่มได้
• ใช้แบตเตอรี่ AA x 2 ก้อน ใช้งานได้นาน 450 ชั่วโมง
• รองรับ Windows, Mac
• ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม Razer Synapse 3
• บันทึกโปรไฟล์การตั้งค่าไว้ในเมาส์ได้
• น้ำหนัก 83 กรัม
• ราคา 1,990 บาท

3. Kingston HyperX Pulsefire Dart Wireless (2,890 บาท)

Kingston HyperX Pulsefire Dart Wireless เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายแบบฝังแบตเตอรี่เอาไว้ในตัว แม้ระยะเวลาใช้งานนานสุดแบบเปิดแสงไฟบนตัวเมาส์จะอยู่ที่ 50 ชั่วโมง และ 90 ชั่วโมง เมื่อดับไฟ แต่รองรับการชาร์จไร้สายด้วยมาตรฐาน Qi (ชี่) และมีสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C แถมให้ในแพ็คเกจด้วย (แท่นชาร์จซื้อแยกต่างหาก) รองรับการเชื่อมต่อเพียง USB Wireless 2.4GHz ใช้สายเท่านั้น

สเปคของ Kingston HyperX Pulsefire Dart Wireless สามารถปรับค่า DPI ได้สูงสุด 16,000 DPI ค่า DPI จากโรงงานอยู่ที่ 800 / 1600 / 3200 DPI ตั้งค่าโปรไฟล์ฝังไว้กับตัวเมาส์ได้ 1 โปรไฟล์ ใช้เซนเซอร์ Pixart PMW3389 ส่วน Polling Rates 1000Hz ค่า Acceleration 50G พร้อมปุ่มกดบนเมาส์ 6 ปุ่ม สำหรับปุ่มคลิกซ้ายและขวาเป็นสวิตช์ Omron แข็งแรงและใช้คลิกได้ 50 ล้านครั้ง สามารถตั้งค่าแสงไฟ RGB ตรงลูกล้อเมาส์และสัญลักษณ์ HyperX ได้ด้วยโปรแกรม HyperX NGENUITY ของ Kingston ดีไซน์แบบเข้ากับสรีระของมือ เหมาะกับการจับแบบ Claw หรือ Palm น้ำหนักเมาส์อย่างเดียว 110 กรัม ส่วนสายหนัก 40 กรัม

สเปคของ Kingston HyperX Pulsefire Dart Wireless

• บอดี้พลาสติก ABS สีดำ
• เซนเซอร์ Pixart PMW3389
• เชื่อมต่อด้วย USB Wireless คลื่น 2.4GHz หรือสาย USB-C ความยาว 1.8 เมตร
• DPI สูงสุด 16,000
• Polling Rates สูงสุด 1000 Hz 
• ค่า Acceleration 50G
• ดีไซน์สำหรับมือขวา เหมาะกับการจับแบบ Palm, Claw
• ปุ่มบนเมาส์ 6 ปุ่ม รองรับการกดสูงสุด 50 ล้านครั้ง 
• เชื่อมต่อด้วยสายชาร์จหรือไร้สายได้ 50 ชั่วโมง (เปิดไฟ RGB) หรือ 90 ชั่วโมง (ปิดไฟ RGB)
• รองรับ Windows, Mac
• ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม HyperX NGENUITY
• บันทึกโปรไฟล์การตั้งค่าไว้ในเมาส์ได้ 1 โปรไฟล์
• น้ำหนัก 110 กรัม
• ราคา 2,890 บาท

4. CORSAIR IRONCLAW RGB Wireless (2,790 บาท)

CORSAIR IRONCLAW RGB Wireless เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายสำหรับเกมเมอร์ทั้งสาย MOBA อย่างเต็มตัว เพราะมีปุ่ม Macro ให้ตั้งค่าได้ 10 ปุ่ม และรองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 3 แบบ คือ SLIPSTREAM CORSAIR Wireless หรือ USB Wireless, Bluetooth และใช้สายเมาส์เชื่อมต่อกับพอร์ตตรงหน้าตัวเมาส์ได้อีกด้วย แต่จุดสังเกตคือถ้าใช้งานไร้สายผ่าน Bluetooth แบบเปิดแสงไฟ RGB จะอยู่ได้แค่ 30 ชั่วโมง ยาวขึ้นเป็น 50 ชั่วโมงเมื่อปิดไฟ ถ้าใช้ Slipstream CORSAIR Wireless จะใช้แบบเปิดไฟได้ 16 ชั่วโมง และเป็น 24 ชั่วโมงเมื่อปิดไฟ แบตเตอรี่เป็น Li-Polymer แบบฝังไว้ในเมาส์ ตั้งค่าได้โปรแกรม iCUE

สเปคของ CORSAIR IRONCLAW RGB Wireless มีค่า DPI สูงสุด 18,000 DPI ปรับให้ต่ำสุดได้ถึง 1 DPI ทีเดียว เซนเซอร์เป็น Pixart PMW3391 แบบออปติคัล ตั้งแสงไฟ RGB ได้ 3 โซน เซฟโปรไฟล์ไว้ในตัวเมาส์ได้ 3 โปรไฟล์ Polling Rates ตั้งได้ตั้งแต่ 125/250/500/1000 Hz ปุ่มคลิกซ้ายและขวาเป็นสวิตช์ Omron รองรับการกดสูงสุด 50 ล้านครั้ง ดีไซน์เข้ากับสรีระของมือ เหมาะกับการจับแบบ Palm เป็นพิเศษ 

สเปคของ CORSAIR IRONCLAW RGB Wireless

• บอดี้พลาสติก ABS สีดำ
• เซนเซอร์ Pixart PMW3391
• เชื่อมต่อด้วย USB Wireless คลื่น 2.4GHz, Bluetooth หรือสาย USB-C ความยาว 1.8 เมตร
• DPI สูงสุด 18,000
• Polling Rates 125/250/500/1000 Hz
• ดีไซน์สำหรับมือขวา เหมาะกับการจับแบบ Palm
• ปุ่มบนเมาส์ 10 ปุ่ม รองรับการกดสูงสุด 50 ล้านครั้ง 
• เชื่อมต่อด้วยสายชาร์จหรือ Bluetooth ได้ 30 ชั่วโมง (เปิดไฟ RGB) หรือ 50 ชั่วโมง (ปิดไฟ RGB) ส่วน CORSAIR SLIPSTREAM ได้ 16 ชั่วโมง (เปิดไฟ RGB) หรือ 24 ชั่วโมง (ปิดไฟ RGB)
• รองรับ Windows, Mac
• ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม CORSAIR iCUE
• บันทึกโปรไฟล์การตั้งค่าไว้ในเมาส์ได้ 1 โปรไฟล์
• น้ำหนัก 130 กรัม
• ราคา 2,790 บาท

5. Logitech G603 LIGHTSPEED (2,699 บาท)

Logitech G603 LIGHTSPEED เป็นเมาส์เกมมิ่งไร้สายแนะนำอีกรุ่น ด้วยดีไซน์เรียบง่ายแต่โดดเด่นเพราะรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ LIGHTSPEED USB Wireless ให้ระยะเวลาใช้งานยาวนานสูงสุด 18 เดือนด้วยโหมดปกติและใช้งานแบบเล่นเกมได้ 500 ชั่วโมง ใช้แบตเตอรี่ AA x 2 ก้อน และปรับแต่งการใช้งานได้ผ่านด้วยโปรแกรม Logitech G HUB

สเปคของ Logitech G603 LIGHTSPEED มีค่า DPI ตั้งค่าได้ตั้งแต่ 200-12,000 DPI มีค่า Acceleration 40G ความเร็วสูงสุด 400 IPS ส่วน Polling Rates ในโหมด Bluetooth อยู่ที่ 88-133 Hz ถ้าเชื่อมต่อด้วย LIGHTSPEED USB Wireless ถ้าปรับ LO อยู่ที่ 125 Hz สูงสุดที่ 1000 Hz เมื่อปรับ HI ใช้เซนเซอร์ HERO ของ Logitech เอง สามารถบันทึกโปรไฟล์ไว้ในเมาส์ได้ 1 โปรไฟล์ 

ถ้าเชื่อมต่อด้วย USB Wireless จะรองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7, macOS 10.11, Android 3.2 ขึ้นไป, Chrome OS ส่วน Bluetooth รองรับ Windows 8, macOS 10.12, Android 5.0, Chrome OS เรียกว่าเป็นเมาส์ที่เหมาะกับการใช้เล่นเกมและสลับไปทำงานก็ได้ ดีไซน์ก็จัดว่าเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดีทีเดียว สามารถจับได้ทั้งแบบ Palm และ Claw ตามความสะดวกของผู้ใช้

สเปคของ Logitech G603 LIGHTSPEED

• บอดี้พลาสติก ABS สีดำ
• เซนเซอร์ Logitech HERO
• เชื่อมต่อด้วย USB Wireless คลื่น 2.4GHz, Bluetooth มีปุ่มสลับโหมดอยู่ใต้เมาส์
• DPI สูงสุด 12,000 มีปุ่มปรับค่า DPI
• Polling Rates 88-1000 Hz
• ดีไซน์ใช้งานได้ทั้งสองมือ จับแบบ Palm, Claw
• ปุ่มบนเมาส์ 6 ปุ่ม
• แบตเตอรี่ AA x 2 ก้อน ใช้งานในโหมด Bluetooth ได้นาน 18 เดือน ส่วน LIGHTSPEED USB Wireless เมื่อปรับโหมด HI เพื่อเล่นเกมได้ 500 ชั่วโมง
• รองรับ Windows, Mac, Android, Chrome OS
• ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม Logitech G HUB
• บันทึกโปรไฟล์การตั้งค่าไว้ในเมาส์ได้ 1 โปรไฟล์
• น้ำหนัก 135.7 กรัม เมื่อใส่แบตเตอรี่ 2 ก้อน
• ราคา 2,699 บาท

สรุป – เลือกเมาส์เกมมิ่งรุ่นไหนดี?

สำหรับเมาส์เกมมิ่งแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามการออกแบบและกลุ่มเกมเมอร์เป้าหมาย ว่าออกแบบมาเพื่อเล่นเกมประเภทใดเป็นหลัก ซึ่งสเปคของแต่ละรุ่นจะมีดังนี้

สำหรับเมาส์เกมมิ่งแต่ละรุ่นจัดว่ามีจุดเด่นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่ว่าเราเล่นเกมอะไรเป็นประจำก็ควรเลือกเมาส์ไปใช้ตามประเภทของเกม ให้ฟีเจอร์ของเมาส์ตอบโจทย์การเล่นเกมของเราอย่างเต็มที่ แม้สเปคหน้ากระดาษแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นแตกต่างกันอย่างไรแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อเราเลือกตามการใช้งานจริงของเราอย่างแน่นอน และควรไปทดลองจับเมาส์ตัวจริงสักครั้งเพื่อให้รู้ว่ารุ่นที่เราสนใจเข้ากับมือของเราหรือไม่