Acer Aspire 5 / Acer Aspire 7 โน๊ตบุ๊คปี 2021 ดีไซน์เด่นเน้นความคุ้มค่า ขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000U / Ryzen 5000H ที่ล้ำหน้า จากเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม “Zen 3” มาใน Code name อย่าง Cezanne ตัวใหม่ล่าสุด เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ความแรงที่มากกว่า ซึ่งเดิม AMD ก็ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาที่ไม่แพง แต่ประสิทธิภาพดี ได้ความแรงที่เหนือชั้นเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ
เรียกได้ว่าเป็นการมาของโน๊ตบุ๊คแบรนด์ Acer ที่น่าสนใจ เพราะนอกจากตัวซีรีส์ Nitro และ Swift ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยังอีกซีรีส์ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าราคาประหยัดอีกเช่นกันซีรีส์ Aspire โดยคราวนี้มาพร้อมกับรุ่น Acer Aspire 5 / Acer Aspire 7 นี้ใช้ดีไซน์ขอบหน้าจอบางเฉียบมิติตตัวเครื่องเล็กลง สนนราคาเริ่มต้นที่ 16,500 บาท คาดว่าเมื่อมาขายในไทย จะได้ประกันเป็น 2 – 3 ปี ส่งศูนย์ตามมาตราฐานของ Acer ทุกคนมั่นใจ ที่สำคัญมีบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงเมื่อส่งศูนย์ พร้อมมีเครื่องสำรองให้ใช้งานอีกด้วย
Acer Aspire 5 สเปกและราคาคาดการณ์ประมาณ 16,500 บาท
-
CPU : AMD Ryzen 5 5500U หรือสูงกว่านั้น
-
GPU : AMD Radeon RX640
-
RAM : 8GB DDR4 Bus 3200 MHz
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 256GB – 512GB
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
โดย Acer Aspire 5 ปี 2021 มีสเปกติดตั้งชิปประมวลผลตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุดเป็น AMD Ryzen 5000U ที่เป็น อย่าง Ryzen 5 5500U พร้อมมีรุ่นการ์ดจอแยกอย่าง AMD Radeon RX640 (4GB GDDR5) ส่งผลให้รองรับงาน 3 มิติ หรือเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหล ได้แรมมาตรฐานขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 256GB / 512GB ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือแม้กระทั่งทำงานหนักหน่อย อย่างตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ มาพร้อมกับ Windows 10 แท้ในทุกรุ่น
สำหรับ Acer Aspire 5 ในเรื่องของการดีไซน์มีความทันสมัย พร้อมสีสันสวยงาม ตามยุคสมัยของโน๊ตบุ๊คปี 2021 ที่เน้นมิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับ ด้วยขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมตัวเครื่องมีความบางที่ 17.7 มิลลิเมตร ที่ความเบาเพียง 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น โดยใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกและโลหะซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง และบางดูเผินๆ ก็แอบคล้าย Acer Swift 3 / Swift 5 เหมือนกัน ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วเรียบง่าย ไม่หวือวา ไม่สะดุดตานัก พร้อมมียางรองด้านหลังช่วยยกตัวให้สูงขึ้น
ฝาหลังมาพร้อมกับหลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น ดำ ฟ้า เงิน ทอง และชมพู วัสดุเป็นโลหะที่มีความเรียบเนียนคล้ายๆ กับ Acer Swift 3 ให้ผิวสัมผัสที่ดีไม่ลื่นมือ ดูมีความพรีเมียมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer สีเงินตรงกลางตามมาตรฐาน สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในตัวเครื่องจะเป็นวัสดุพลาสติกส่วนที่เป็นคีย์บอร์ดก็จะเป็นดีไซน์ที่ดูหรูหราไม่เบาเลยทีเดียว พร้อมมีระบบสแกนลายนิ้วมือให้ด้วย แต่จุดที่สำคัญเลยสำหรับรุ่นนี้คือ แกนฝาพับหน้าจอที่การใส่โลโก้นูนต่ำเป็น Aspire
ด้านล่างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายในโทนสีเงินหรือดำทั้งหมด การแกะอัพเกรดแรม (เพิ่มได้สูงสุด 24GB) หรือฮาร์ดดิสก์ 2.5″ สามารถทำได้ง่ายมากเพียงแค่ขันน็อตเพียงหนึ่งตัว ก็สามารถทำการอัพเกรดได้เลย ส่วนด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง ด้านบนจะเป็นรูช่องดูดระบายความร้อน ซึ่งรุ่นนี้มีพัดลมด้วยกันหนึ่งตัว ส่วนช่องระบายความร้อนออกจะอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ซ่อนกับตัวเครื่องโดยรวมให้ความลงตัวเป็นอย่างดี สนนราคาประมาณ 16,500 บาท ($549)
Acer Aspire 7 สเปกและราคาคาดการณ์ประมาณ 22,500 บาท
-
CPU : AMD Ryzen 5 5600H หรือสูงกว่านั้น
-
GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti
-
RAM : 8GB DDR4 Bus 3200 MHz
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
สำหรับการมาของ Acer Aspire 7 ปี 2021 นับได้ว่าทำได้น่าตื่นเต้นทีเดียว จากการที่ได้สเปกแรงลื่นระดับ Gaming Notebook ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H ทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 พร้อมได้หน้าจอเทพๆ อย่างพาเนล IPS ที่ได้ขอบเขตสีสูงถึง sRGB 100% รวมไปถึงเรื่องงานออกแบบดีไซน์ของตัวเครื่องก็ทำได้อย่างลงตัวเกินราคาไปมาก จากวัสดุที่เป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งเครื่อง สีสันก็ดูพรีเมียมหรูหราเรียบง่ายแต่ดูดี แน่นอนว่ามี Windows 10 แท้มาให้ด้วย
สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับสูงที่ทาง Acer วางเอาไว้ โดยนำเสนอด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 22,500 บาทเท่านั้นเอง ($749) ส่งผลให้ตลาดของโน๊ตบุ๊คราคา 2x,xxx บาท มีควาน่าสนใจขึ้นมาก ที่สำคัญสุดคาดว่าเมื่อมาจำหน่ายในไทยจะเป็นเป็นการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือส่งศูนย์เองก็ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ด้วย โดยแบตเตอรี่ตามที่ทาง Acer เคลมไว้คือ ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8.5 ชั่วโมง
สำหรับสเปกอื่นๆ ก็ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำแรมยังได้มาขนาด 8GB ที่ใช้งานได้ทันที ส่วนที่เก็บข้อมูลก็ได้เป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมอัพเกรดได้เพิ่มเติมอีก ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.2 Type-A, 1 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.2 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ax (Wi-Fi 6) Dual Band MU-Mimo
เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คสายทำงานของทาง Acer ได้เป็นอย่างดีที่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่ากว่ารุ่นเดิมส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก ด้วยขอบหน้าจอที่บางเฉียบ พื้นที่แสดงผลเป็น 81.61% ส่งผลให้มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ ขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS เกรดสูงร่วมด้วย Acer Color Intelligence และ Acer ExaColor ทำงานควบคู่กันเพื่อแสดงผลภาพที่มีความแม่นยำสูง
โดยมาพร้อมกับความบางของตัวเครื่องเพียง 23 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 2.15 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าไม่ได้บางเบามากมาย แต่ก็อยู่ในเกณ์ที่รับได้ เพราะถือว่าได้สเปกที่ประสิทธิภาพสูงมาแทน พร้อมระบบระบายความร้อนหลายโหมดเพื่อให้โน้ตบุ๊กทำงานได้ต่อเนื่องโดยสามารถควบคุมอุณภูมิเครื่องไม่ให้ร้อนจนเกินไปและสั่งการให้เครื่องทำงานได้แบบไร้เสียงรบกวน ควบคุมง่าย ๆ ด้วยการแตะปุ่มลัด “Fn + F” เพียงครั้งเดียว
เรียกได้ว่าน่าสนใจทั้งคู่เลยนะครับ สำหรับการมาของ Acer Aspire 5 / Acer Aspire 7 ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊คสายทำงาน ประสิทธิภาพแรงลื่น สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000 Series ในส่วนของดีไซน์การออกแบบหรือฟีเจอร์ก็มีความโดดเด่นมากๆ
ที่สำคัญคือราคาไม่แพงด้วย ได้ความคุ้มค่าน่าซื้อมาใช้งานจริงๆ คากว่าทาง Acer ประเทศไทย จะมีแผนนำ Acer Aspire 5 / Acer Aspire 7 มาจำหน่ายในไทยเร็วๆ นี้ แน่นอน รอติดตามกันได้ และแอดมินโป้งเองก็จำมาทำการรีวิวตัวจริงสเปกจริงกันอีกครั้งนะครับ
ที่มา : anandtech