Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

รีวิว ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ได้ 2 จอ 14″ + 12.6″ สเปก Core i Gen 11 + MX450 ฟีเจอร์สาย Creator ล้ำไม่ซ้ำใคร

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 เป็น Content Creator Notebook ที่มาพร้อมกับ ScreenPad Plus จะเป็นหน้าจอใหญ่ขนาด 12.6″ โดยอยู่ใต้หน้าจอหลัก 14″ ทำงานแบบ 2 หน้าจอสุดล้ำไม่ซ้ำกับแบรนด์อื่นๆ ส่งผลให้ในการใช้งานก็หลากหลายมากๆ จะเป็นหน้าจอที่สองเปิดโปรแกรมเพิ่ม หรือจะใช้งานเป็นส่วนของเครื่องมือโปรแกรมนั้นๆ อาทิ Adobe Photoshop, Lightroom Classic, Premiere Pro และ After Effects เป็นตัวช่วยในการทำงานระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดี 

สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake แบ่งเป็นสองสเปกคือ Core i5-11-35G7 / Core i7-1165G7 ได้การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce MX450 มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB และ  SSD 512GB/1TB สนนราคาเริ่ม 39,990 บาท และ 49,990 บาท นับว่าคุ้มมากๆ เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ ทำให้กลายเป็นหนึ่งใรสุดยอดโน๊ตบุ๊คแห่งปี 2021 กับราคาที่ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก จากราคาที่ไม่สูงเกินไป เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับรุ่นอื่นๆ แต่ได้ฟีเจอร์หน้าจอที่มากกว่านั่นเอง

Advertisement

ASUS ZenBook Duo 14 UX482

ในส่วนของ ScreenPad Plus จะเป็นหน้าจอใหญ่ขนาด 12.6″ โดยอยู่ใต้หน้าจอหลัก 14″ ส่งผลให้ในการใช้งานก็หลากหลายมากๆ จะเป็นหน้าจอที่สองเปิดโปรแกรมเพิ่ม หรือจะใช้งานเป็นส่วนของเครื่องมือโปรแกรมนั้นๆ ทำให้ในการใช้งานของเรานั้นมีความหยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยมีโน๊ตบุ๊คตัวไหนบนโลกทำได้มาก่อน  โดยที่เราไม่จำเป็นต้องหาหน้าจอภายนอกมาเชื่อมต่อแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีในส่วนของปากกา ASUS Active Pen และระบบแสกนใบหน้า 3D IR Camera อีกด้วย

เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าแบรนด์ ASUS เป็นผู้นำในเรื่องของนวัตกรรมโน๊ตบุ๊ค ที่ไม่ใช่แค่ล้ำหน้าแต่ยังสามารถใช้งานได้จริงด้วย ได้ประกัน 3 ปี On-site Service และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty ในปีแรกมาให้ ตัวเครื่องเองผ่านการทดสอบเรื่องความทนทานระดับ US MIL-STD 810G Military-Grade Standard ด้วย ได้ได้โปรแกรม Office Home and Student 2019 ทำให้เราใช้งานเอกสาร Word / Excel / Power Point ได้ฟรีๆ ด้วย

VDO Review 

NBS Verdict

สรุปแล้ว ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ที่ทรงพลังที่สุดรุ่นหนึ่ง พร้อมแฟลตฟอร์ม Intel EVO (เฉพาะรุ่น Core i5) ที่ตอกย้ำว่าพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเน้นประสิทธิภาพต่อการพกพาได้สะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม พร้อมได้ความก้าวล้ำใช้งานได้ด้วยหน้าจอที่ 2 นำเสนอซอฟต์แวร์ ScreenXpert 2 ที่ได้รับการพัฒนา ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนที่ทำได้ดีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เหมาะกับงานระดับมืออาชีพไปอีกขั้น

ช่วยให้การทำงานคล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งยังแนะนำแอพลิเคชันที่สามารถปรับแต่งการใช้งาน ช่วยให้ใช้โปรแกรมด้านครีเอทีฟได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่นการปรับขนาดหัวแปรง, ปรับความคมชัด และอื่นๆ โดยทำงานร่วมกับโปรแกรม Adobe Photoshop, Lightroom Classic, Premiere Pro และ After Effects และยังจะรองรับโปรแกรมอื่นๆ มากยิ่งขึ้นในอนาคต อีกทั้งจอที่สอง ScreenPad Plus ก็ยกขึ้นได้ 7 องศา ทำให้มุมมองหน้าจอดีขึ้น การทัชหน้าจอ ทeได้สะดวกมากขึ้น

ASUS ZenBook Duo 14 UX482

เอาว่าถ้าใครเน้นทำงานแบบได้ Productivity เยอะที่สุดด้วยสองหน้าจอ 14″ + 12.6″ พร้อมพกพาไปนอกสถานที่ได้ และต้องการความแรงของชิปประมวลผลสูงๆ จากการที่มี AAS+ – Active Aerodynamic System + ช่วยระบายความร้อน พัดลมจานวน 2 ตัว เพิ่มใบพัดเป็น 59-blade fans และ เพิ่มขนาด heat pipe เป็น 10 mm ทำให้สำมำรถใช้ประสิทธิภำพ CPU ได้เต็มที่ ที่ 28W CPU TDP  ผลลัพธ์ คือ ประสิทธิภาพการประมวลผลเพิ่มขึ้นกว่า 40% ทำให้ได้อย่างลื่นไหลมากกว่าโน้ตบุ๊คสเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ด้วยกันนั่นเอง

ทำให้ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ก็ตอบโจทย์เป็นรุ่นแรกๆ  ที่สำคัญยังล้ำหน้าด้วย ScreenPad Plus ที่เป็น DNA ของทาง ASUS ZenBook Duo และ ASUS ROG Zephyrus Duo ไปแล้ว แม้ราคาจะสูงกว่าโน๊ตบุ๊คที่สเปกใกล้เคียงกันแต่ก็ไม่แพงกว่าอะไรขนาดนั้น สำหรับคนที่ต้องการความสดใหม่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตามอุณหภูมิตัวเครื่องจะสูงหน่อยเวลาใช้งานหนักๆ แต่ได้ความแรงที่โดดเด่นกว่าโน๊ตบุ๊ค Intel Core i Gen 11 + MX450 ด้วยกัน ถือว่าโอเลยทีเดียว

ASUS ZenBook Duo 14 UX482

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ ASUS Intelligent Performance Technology (AIPT) ที่ช่วยบูสการตั้งค่าพลังงาน CPU จาก 15W ไปที่ 28W แบบต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภำพที่สูงขึ้น นอกจากนั้นแล้ว AIPT ยังทาการปรับอัตราการใช้พลังงานขึ้นลงตามลักษณะการใช้งานและอุณหภูมิเพื่อให้มีการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม, มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ได้การทางานที่เงียบพร้อมอุณหภูมิที่ต่ำกว่า เมื่อรวมเข้ากับระบบระบายความร้อนของโน้ตบุ๊ก ASUS ที่ถูกออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม

สำหรับ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 เป็นการต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง ASUS ZenBook Duo 14 UX481 สเปก Intel Core i Gen 10 + MX250 ซึ่งในตอนนี้ก็ยังมีจำหน่ายอยู่ด้วย ในราคาที่ถูกและน่าสนใจมากๆ เริ่ม 34,900 บาท เหมาะกับคนที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กหน้าจอ 14″ ที่ล้ำกว่าใครๆ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย หรือถ้าใครอยากได้ความสดใหม่จริงๆ ก็จัด ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ได้เลย หลักๆ แล้วเป็นสเปก i5-1135G7 + Iris Xe + RAM 16GB + SSD 

จุดเด่น ASUS ZenBook Duo 14 UX482

  • ได้หน้าจอที่สอง ScreenPad Plus รุ่นใหม่ ยกขึ้นได้ 7 องศา เปลี่ยนประสบการณ์ได้ดีกว่ารุ่นก่อน
  • มาพร้อมซอฟต์แวร์ ScreenXpert 2 ทำให้ทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ + 12.6″ คุณภาพสูง ความละเอียด Full HD สมบูรณ์ที่สุดรุ่นหนึ่ง
  • ด้วยการใช้งาน 2 หน้าจอร่วมกัน ทำให้เราสามรถเปิดโปรแกรมและมีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี NanoEdge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ดีไซน์พิเศษบานพับ ErgoLift Hinge ช่วยให้ใช้งานดีขึ้น
  • หน้าจอหลักสามารถแสดงผลขอบเขตสีใกล้เคียง 100% sRGB พร้อมทัชสกรีนได้
  • มีปากกา ASUS Active Pen รองรับการวาดภาพ ขีดเขียน หรือจดบันทึกได้
  • ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วย Core i Gen 11 + MX450 + RAM 16GB + SSD 1TB
  • ประสิทธิภาพแรงลื่นทรงพลัง นับว่าเป็นสเปก Intel Core i Gen 11 ที่แรงที่สุด
  • คีย์บอร์ดสวยงามมีไฟใช้งานได้จริง กดเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี
  • วัสดุตัวเครื่องคุณภาพสูงทั้งตัว สวยงามทนทาน ระดับ Military Standard
  • ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง
  • มาพร้อม 3D IR Cameraใช้งานผ่านทาง Windows Hello
  • มี Windows 10 และ Office Home and Student 2019 มาให้พร้อมใช้งานทันที
  • ได้มาตรฐานการเชื่อมต่อ Thunderbolt 4 ที่ดีที่สุด
  • มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 AX ใหม่ล่าสุด
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 14 – 15 ชั่วโมง
  • ประกัน 3 ปี แบบบ On-site Service พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 แรก 
  • บันเดิลซอฟต์เคสพรีเมียมและที่รองโน้ตบุ๊คแบบพิเศษมาในชุด 

ข้อสังเกต ASUS ZenBook Duo 14 UX482

  • ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกใกล้เคียงกัน แต่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยม
  • ต้องปรับตัวกับรูปแบบของคีย์บอร์ดและทัชแพดซักพัก

Specification

สเปกขายจริงในไทยของ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 จะถูกแบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่นหลักๆ คือ Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7  ซึ่งในครั้งนี้ต้องบอกก่อนว่าเป็นเครื่องเดโมซึ่งสเปกจะไม่ตรงกับรุ่นขายจริง ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-1165G7 ความเร็ว 2.80 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.70 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด

ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 11 Tiger Lake รุ่นล่าสุด ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร พร้อมมี AI ช่วยประมวลผลเพิ่มเร่งการทำงานของบางโปรแกรม โดดเด่นด้วยการ์ดจอออนชิปที่ดีที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics มาด้วย

  • Intel Core i5-1135G7 : 4 Core 8 Thread / 2.40 – 4.20 GHz
  • Intel Core i7-1165G7 : 4 Core 8 Thread / 2.80 – 4.70 GHz

ASUS ZenBook Duo 14 UX482

โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ Touchscreen ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง พร้อม ScreenPad Plus ขนาด 12.6″ Touchscreen ความละเอียด 1920 x 515 พิกเซล พาเนล IPS และ ASUS Active Pen ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX450 2GB (GDDR6) ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดีใกล้เคียงการ์ดจอ Gaming 

เล่นเกมออนไลน์พอได้ แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB LPDDR4X Bus 4266MHz แบบออนบอร์ด ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน สำหรับแหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB  ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Thunderbolt 4 พร้อมด้วยไร้สาย Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และ IR Camera ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello

สนนราคา ASUS ZenBook Duo 14 UX482 เริ่มต้นที่ 39,990 บาท ได้การรับประกันมีระยะ 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ซึ่งดีกว่า ASUS Notebook หลายๆ รุ่น พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกอีกด้วย  (Perfect Warranty) รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ และ Office Home and Student 2019 มาให้พร้อมใช้งานทันที

ASUS ZenBook Duo UX482EA i5-1135G7 ราคา 39,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i5-1135G7
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics
  • RAM : 16GB LPDDR4X Bus 4266MHz
  • DISPLAY: 14″ + 12.6″ Full HD Touch Screen
  • STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
  • OS : Windows 10 Home (64 Bit)
  • Software : Office Home and Student 2019

ASUS ZenBook Duo UX482EA i7-1165G7 ราคา 49,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i7-1165G7
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics + NVIDIA GeForce MX450
  • RAM : 16GB LPDDR4X Bus 4266MHz
  • DISPLAY: 14″  + 12.6″ Full HD Touch Screen
  • STORAGE : 1TB SSD PCIe M.2
  • OS : Windows 10 Home (64 Bit)
  • Software : Office Home and Student 2019

Hardware / Design

ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 นั้นจะดูเล็กกว่าและบางกว่า ASUS ZenBook Pro Duo UX581 ที่เป็นรุ่นพี่อยู่พอสมควร โดยมีน้ำหนักเบาทเพียง 1.6 กิโลกรัม และเนื่องด้วยมีขอบจอที่ค่อนข้างบางตามสไตล์ NanoEdge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพาสะดวกสบาย แม้จะไม่ได้เบาที่สุดๆ แต่ได้ฟีเจอร์จัดเต็มแบบไร้คู่แข่ง เพราะในตลาดตอนนี้แนวคิด 2 หน้าจอแบบนี้มีเพียง ASUS เท่านั้น

นอกจากนี้ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ยังบันเดิลของมาสุดพิเศษ อย่างซองหนังพรีเมียมภายในเป็นกำมะหยีที่ดูดีมากๆ ซึ่งเราสามารถเก็บตัวเครื่องได้อย่างลงตัว อีกทั้งมีช่องเก็บปากกา ASUS Active Pen ได้ด้วย พร้อมที่รองแบบพิเศษที่ติดตั้งและพับเก็บได้ในตัว ซึ่งจะช่วยยกระดับตัวเครื่องให้สูงและเอียงเข้ากับการทำงานของยิ่งขึ้นไปอีก นับได้ว่าทาง ASUS ทำการบ้านมาดี และใส่ใจผู้ใช้งานอย่างเรามากๆ 

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 77

การออกแบบดีไซน์ได้อย่างลงตัวดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของมุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบมุมเป็นเหลี่ยม มิติโดยรวมเป็นแบบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนให้ผิวสัมผัสที่ดี รวมถึงแกนพับหน้าจอขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางดูแข็งแรงทนทานสุดๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญได้รับการออกแบบมาด้วยระบบ Active Aerodynamic System Plus (AAS Plus) ซึ่งจะยกทำมุมจอ ScreenPad Plus อัตโนมัติที่ 7 องศา และช่วยระบายความร้อนได้มากขึ้น 49%

ตัวเครื่องยังคงใช้สีสันเป็น Celestial Blue เหมือนรุ่นก่อน ส่วนวัสดุงานประกอบจะเป็นแม็กนีเซียมอลูมิเนียมเกรดสูงทั้งหมดพร้อมความทนทานระดับ Military Standard ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีการทดสอบในหลากหลายด้าน เช่น ทดสอบการตกหล่น ทดสอบการสั่นสะเทือน ทดสอบการทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่าง ๆ  ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถใช้งานเครื่องนี้ได้ในแทบทุกสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 36

ตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องวัสดุจะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งโลหะเกรดนี้มีความแข็งแรงมากกว่าโลหะอัลลอยธรรมดาแสดงถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียดของการดีไซน์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฝาหลัง ตัวเครื่องด้านใน และใต้ตัวเครื่อง ทำให้มีทั้งความแข็งแรงในด้านดีไซน์ฝาหลังใช้ลวดลายเป็นวงกลมล้อมรอบโลโก้ ASUS แต่ถูกขยับไปทางด้านขวา แบบ Asymmetric Circle แบบวิถี ZEN ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง DNA ของ ZenBook นั่นเอง พร้อมอัพเกรดระบบระบายความร้อน ด้วยพัดลมจานวน 2 ตัว เพิ่มใบพัดเป็น 59 ใบ และ เพิ่มขนาด Heat Pipe เป็น 10 มิลลิเมตร

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 41

มีอีกจุดที่ทำมาได้น่าสนใจมากคือบานพับแบบ ErgoLift ที่เมื่อกางหน้าจอออก ตัวบานพับก็จะหนุนเครื่องให้ลาดเอียงขึ้นไปอีก 4.5 องศา ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการใช้พิมพ์งาน รวมถึงยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน และช่วยเพิ่มพลังเสียงให้กับลำโพงภายในจาก Harman / Kardon ได้อีกด้วย (โลโก้ถูกซ่อนอยู่ใต้บานพับ ScreenPad Plus) ส่วนช่องระบายอากาศซ่อนอยู่ใต้หน้าจออีก 1 แถวยาว โดยเป็นช่องที่ใช้ระบายความร้อนจากภายใน ส่วนช่องดูดลมจากภายนอกเข้าไปข้างในจะอยู่ที่ฝาด้านล่างของตัวเครื่อง และช่องว่างของจอที่สองที่ถูกยกสูงขึ้น 

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 63

สำหรับตำแหน่งของคีย์บอร์ดที่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน จากการที่เลื่อนชุดแป้นคีย์บอร์ดมาไว้ด้านล่างสุด และขยับในส่วนของทัชแพดออกไปด้านข้าง จากการที่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ดได้มีการติดตั้ง ScreenPad Plus เอาไว้นั่นเอง กับมีขนาดตัวเครื่องที่เล็กกระทัดรัดและบางเบา โดยแป้นพิมพ์มีการตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ได้เต็มที่ มีไฟ LED สีขาว แม้รูปแบบจะดูแปลกๆ หน่อยแต่เมื่อใช้งานไปสักพักก็จะเกิดความเคยชินทำให้การใช้งานตรงจุดนี้นั้นน่าจะไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไรนัก

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 76

สรุปดีไซน์โดยรวมของ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 นั้นจะดูเล็กกว่าและบางกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ กับน้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม และตัวเครื่องมีความบางเพียง 16.9 มิลลิเมตร โดยได้การทำงานที่เหนือชั้นกว่าเพราะมี 2 หน้าจอ และด้วยมีขอบจอที่ค่อนข้างบางตามสไตล์ NanoEdgeทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพาสะดวกสบาย แม้จะไม่ได้เบาที่สุดๆ แต่ได้ฟีเจอร์จัดเต็มแบบไร้คู่แข่ง บอกได้เลยใครเอาไปใช้งานนนอกสถานที่ต้องมีคนเดินเข้ามาทักทายแน่นอน (เอาไปใช้งานจริง เจอคนเข้ามาทักจริงๆ นะ) 

 

Keyboard / Touchpad

สำหรับ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ก็ได้มีการวางตำแหน่งของคีย์บอร์ดที่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน จากการที่เลื่อนชุดแป้นคีย์บอร์ดมาไว้ด้านล่างสุด และขยับในส่วนของทัชแพดออกไปด้านข้าง ทำให้บริเวณด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีพื้นที่ไว้ติดตั้ง ScreeenPad Plus โดยแป้นพิมพ์มีการตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวปุ่มเป็นพลาสติกสี Celestial Blue เข้ากับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีขาวตัดกับปุ่ม

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 24

ซึ่งมีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ เป็นแบบ Chiclet มีระยะยุบ 1.4 มิลลิเมตร พร้อมความโค้งของปุ่มรับเข้ากับนิ้ว ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น สัมผัสนุ่ม มีระยะห่างของปุ่มกำลังพอดี เพื่อให้มีความรู้สึกที่สะดวกสบายในการพิมพ์ กดแรงๆ ก็ไม่มีอาการแป้นยวบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สามารถปรับได้ 3 ระดับ พร้อมกันนั้นปุ่มแถวบนยังจัดเต็มด้วย Hot Key มากมาย

ดีไซน์ทัชแพดแบบปุ่มแยกออกมา โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็มีความนุ่มและเด้งรับได้น่าประทับใจ การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีมากส่วนเหนือปุ่มทัชแพดจะมีปุ่มสลับหน้าต่างขึ้นลง และปุ่มปิดเปิด ScreenPad Plus อย่างไรก็ตามสำหรับการใช้งานจริงๆ คงต้องปรับตัวซะหน่อยทั้งคีย์บอร์ดและทัชแพด เพราะข้อมือของเราต้องโดนขอบเครื่องตรงๆ

Screen / Speaker

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 มีจุดเด่นอย่างขอบหน้าจอ NanoEdge ให้พื้นกว่า 93% มีขนาดความบางเฉียบที่ 4 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีมิติเล็ก ติดตั้งหน้าจอหลักเป็นแบบด้าน ได้พาเนล IPS ขนาด 14″ รองรับการทัชสกรีน ที่แรงกด 4096 ระดับ เมื่อใช้งานกับปากกา ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล มาตรฐาน Full HD ซึ่งให้คุณภาพสูงในการแสดงสีสันและให้ความเรียบเนียนให้ขอบเขตของสีระดับใกล้เคียง 100% sRGB จริงๆ และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ไม่ว่ามองจากมุมไหนสีสันไม่มีเพี้ยนแน่นอน

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 20

รวมไปถึงยังมีตัวเลือกเป็นหน้าจอทัชสกรีน พร้อมรองรับ ASUS Active Stylus Pen หน้าจอยังได้รับรองตามมาตรฐาน PANTONE Validated สำหรับความเป็นที่สุดในเรื่องความแม่นยำของสี ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก พร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตาที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ทำให้เหมาะสำหรับทั้งการทำงานและความบันเทิงเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งแม้ขอบหน้าจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนแบบคู่มาปกติที่ขอบด้านบน พร้อมด้วย 3D IR Camera ไว้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ด้วย

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 91% และ AdobeRGB ที่ 70% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ทั้งหมดในตลาด ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูงและแม่นยำอย่างที่สุด ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับสูงเช่นกัน ทำให้เมื่อนำไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรง ที่เน้นความเป็นมืออาชีพก็สามารถไว้ใจได้อย่างสบายๆ ว่าสีถูกต้องแน่นอน

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องล่างกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 300 cd/m2 แต่สำหรับช่องบนกลางจะมีแสงสว่างลดลงที่ระดับ 11%  ปิดท้ายด้วยคะแนนรวมทุกด้าน ได้ 4.0 คะแนน เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite นับว่าได้เป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสิทธิภาพหน้าจอที่ดีสุดในตลาด ณ ตอนนี้ก็ได้

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง 2 ตัว ระบบเสียง Harman/Kardon พร้อมด้วย Smart AMP ให้ที่เสียงที่ดีมากทั้งความดังและคุณภาพ ผ่านตัวซอฟต์แวร์ ASUS SonicMaster ทั้งในเรื่องของเสียงเบสที่มีน้ำหนัก เสียงกลางที่สมดุล และเสียงแหลมที่ออกมาใสๆ พร้อมทั้งความดังและกังวาลที่มากกว่า พูดเลยว่ามีโน๊ตบุ๊คเพียงไม่กี่รุ่นที่ทำเสียงออกมาดีได้ขนาดนี้  ซึ่งตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น 2 ตัว ทำให้เสียงที่ออกมามีเสียงดังฟังชัด

ScreenPad Plus

จอ ScreenPad Plus เป็นพาเนล IPS แบบด้าน รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วและปากกา บนความละเอียดที่ 1920 x 515 พิกเซล อันเป็นเอกลักษณ์ของ ZenBook Duo 14 นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินและใช้งานจอภาพทั้งสองบนโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องได้อย่างเต็มความสามารถ หน้าจอสัมผัสขนาดอัตราส่วน 32:9 เหนือคีย์บอร์ดเพิ่มเนื้อที่การทำงานของจอภาพ ในขณะที่ยังคงรูปแบบโน๊ตบุ๊ค

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 23

โดยสามารถใช้งานจอ ScreenPad Plus ได้เสมือนเป็นจอแสดงผลที่สองของ Windows 10 ใช้แสดงภาพ หรือใช้ฟังก์ชั่นต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดเวลาผู้ใช้ด้วยซอฟท์แวร์ ScreenXpert 2 ซึ่งช่วยให้การใช้งานหลายๆหน้าต่างและแอพลิเคชั่นเป็นเรื่องง่าย รวมถึงสามารถใช้งานโต้ตอบข้ามหน้าจอระหว่างหน้าจอหลัก และ ScreenPad Plus ผู้ใช้สามารถเริ่มโหมดการทำงานเปิดโปรแกรมหลายโปรแกรมได้ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว

ScreenPad Plus ใน ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ ทำให้ผู้ใช้ ใช้ง่ายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะฟีเจอร์ใหม่ อย่าง Control Panel ซึ่งจะทางานร่วมกับโปรแกรมทางด้านตัดต่อ Adobe จานวน 4 โปรแกรม ได้แก่ Pe / Ps / Ae / Lr โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน แถบคำสั่ง ได้ด้วยตัวเอง สามารถเปลี่ยนการจัดวาง เพิ่ม หรือ ลบ คำสั่งใดๆ ก็ได้ตามความถนัด และ แถบคำสั่งของโปรแกรมที่เราจัดไว้ จะไปอยู่ที่ ScreenPad Plus ให้ใช้งานได้อย่างสะดวก (จอที่สองจะสามารถใช้งานพวก Tools ต่างๆของโปรแกรมได้)

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 72

นอกจากนี้ยังสามารถลากแอพพลิเคชั่น, แถบเครื่องมือ หรือเมนูไปยังจอ ScreenPad Plus เพื่อลดความยุ่งเหยิงของหน้าจอหลัก และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น กลุ่มครีเอเตอร์สามารถเชื่อมต่อเครื่องมือในการทำงาน เช่น ตัวอย่างวีดีโอ, การควบคุมไทม์ไลน์, รหัส Windows หรือพาแนลเสียงเข้ากับ ScreenPad Plus เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างลื่นไหลมากที่สุด และเมื่อใช้งานแอพลิเคชั่นทางด้านโซเชียลบน ScreenPad Plus ก็ยังช่วยให้สามารถติดตามข่าวสารและตอบข้อความได้ทันทีในขณะทำงานโดยไม่จำเป็นต้องสลับหน้าต่างไปมา

อีกทั้งยังเพิ่มการ Touchpad Mode เปลี่ยนหน้าจอ ScreenPad Plus เป็น TouchPad ขนาดใหญ่ได้ ใช้งานง่าย เปิดปิดเพียงใช้ 3 นิ้ว ช่วยเรื่องความสะดวกได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีฟีเจอร์ Window-flicking ทำกำรสลับ window ระหว่างหน้ำจอได้ เพียงใช้นิ้วปัดขึ้นลงไปมา เรียกได้ว่า ASUS ได้ร่วมมือกับนักพัฒนาซอฟแวร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของ ScreenPad Plus ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง 

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ZenBook Duo 14 UX482 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีพอร์ตมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 1 พอร์ต, และ Thunderbolt 4  จำนวน 2 พอร์ต แน่นอนว่ารองรับการชาร์ไฟเข้าเครื่องทั้ง 2 พอร์ต ทั้งอแดปเตอร์อื่นๆ ที่เป็น PD หรือ Power Bank รวมถึงต่อหน้าจอแยก 4K / 8K อีกด้ว อีกทั้งยังมี micro-SD Card Reader พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, HDMI 2.0 ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5 และ Wi-Fi 6 AX พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า 

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 55

ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า ASUS ZenBook Duo 14 UX482 มีน้ำหนักตัวเครื่องที่ 1.6 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 14″ ตัวอื่นๆ ที่เน้นประสิทธิภาพการทำงานที่สูงเหมือนกันถือว่าหนักและหนากว่าเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่จากฟีเจอร์ล้ำๆ มากมาย แต่ก็โดดเด่นกว่าก็คือมิติตัวเครื่องเล็กลงมาก อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมในเรื่องการพกพาไปไหนมาไหน แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์ 65 Watt แบบ USB-C (USB-PD) แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 1.8 กิโลกรัม ก็พอที่จะใส่กระเป๋าและเอาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ไม่แตกต่างจาก Ultrabook ทั่วไปที่เน้นความบางเบา

Performance / Software

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 เครื่องเดโม สเปก Core i Gen 11 เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i7-1165G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.80 – 4.70 GHz มีค่า TDP (Thermal Design Power) ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุด 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i7 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป

ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร อย่าง Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin พร้อมมี AI ช่วยในการทำงานตัว ที่ดีกว่า Intel Core i Gen 10 อย่างที่ชิปประมวลผลรุ่นอื่นๆ ไม่สามารถให้ได้ พร้อมกันนั้นโน้ตบุ๊ครุ่นนี้สามารถรีดประสิทธิภาพได้ด้วย ระบบระบายความร้อนที่ดีกว่ารุ่นอื่นๆ อย่าง Active Aerodynamic System (AAS+)

c1 7.   c2 7

ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 32GB แบบฝังบอร์ด เป็นมาตรฐาน LPDDR4X 4266 MHz ตามเทคโนโลยีของ Intel Core i Gen 11 ที่ผ่านการปรับแต่งให้เหนือชั้น

พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความเร็วสูง ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่

g1 6

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง ส่วนรุ่นที่มีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX450 (2GB GDDR6) มาทดสอบอีกที 

C15.   CINE20 7

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U Series รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอออนชิปเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอที่อัพเกรดใหม่ที่เน้นการทำงาน 3 มิติที่ดียิ่งขึ้น

ssd 7

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe ระดับสูงสุด แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3496 MB/s และเขียนที่ 3006 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ที่เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน

pc10 6

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,913 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกใกล้เคียงกัน โดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 มีการ์ดจอออนชิปตัวดีที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกันที่ไม่มีการ์ดจอแยกนั่นเอง แถมได้แรมมา 32GB อีกด้วย

game 2

ทดสอบเกมสำหรับ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-1165G7 ที่สามารถรีดพลังได้เต็มที่

สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 79 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 46 ในส่วนของเกมอื่นๆ อย่าง Overwatch / PUBG ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 117 / 42 ซึ่งช่วงต่ำสุดจะอยู่ที่ 45/33 ถือว่าทำได้ดีกว่าหลายๆ รุ่นที่สเปกใกล้เคียงกัน  ลื่นกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะมาก จากดีไซน์และการระบายความร้อนที่เยี่ยมยอด 

myasus

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (โดยเปิดเครื่องมาเจอเลยพร้อมมี Hotkey ให้กดใช้งาน) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน รวมไปถึงโหมดพัดลมและโปรไฟล์สีการแสดงผลอีกด้วย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook Duo 14 UX4821 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4440mAh โดยสามารถใช้งานจริงต่อเนื่องยาวนานได้ 14 – 15 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร แน่นนอว่าในการทดสอบครั้งนี้ก็ได้ปรับเป็น Power Saver Mode และปิดในส่วนของ ScreenPad Plus ลงด้วย (แน่นอนว่าถ้าเปิดน่าจะกินแบตเตอรี่มากกว่านี้)

batt 4

อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 60 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลจะร้อนที่สุดที่ 96 องศาเซลเซียส นับว่าระบบระบายความร้อนของ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีแล้วล่ะ แม้ชิปประมวลผลจะดูว่าร้อน แต่ก็สามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการใช้งาน ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ที่ 10 นาโนเมตร ซึ่งเน้นความแรงลื่นแต่ร้อนน้อยลง 

temp2 1

จากที่การที่มี Active Aerodynamic System (AAS+) ช่วยทำให้ระบบระบายความร้อนของ ScreenPad Plus ดีขึ้น การที่หน้าจอยกขึ้น และตัวเครื่องเองก็ยกขึ้นจากพื้นผิว (Ergolift) ทาให้อากาศระบายดีขึ้นถึง 49% พร้อม Advance thermal module ด้วยพัดลมจานวน 2 ตัว เพิ่มใบพัดเป็น 59 ใบ และ เพิ่มขนาด Heat Pipe เป็น 10 mm. ซึ่งทำให้เครื่องสามารถรีดประสิทธิภาพ 28W TDP ของ Core i Gen 11  ให้ทำงานได้ต่อเนื่องยาวนาน แต่กลับได้ประสิทธิภาพที่ไม่ลดลงลงเลย

Conclusion / Award

อีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คที่ได้มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake อย่าง ASUS ZenBook Duo 14 UX482 เป็นโน๊ตบุ๊คพรีเมียมเน้นบางเบา ให้ความล้ำหน้ากว่าใครๆ ด้วยหน้าจอที่สอง ScreenPad Plus เน้นประสบการณ์ใช้งานประสิทธิภาพอีกหนึ่งรุ่นที่พร้อมชนกับโน๊ตบุ๊คระดับท็อปในทุกๆ แบรนด์ โดดเด่นกับความใหญ่และใช้งานได้จริงๆ  พร้อมด้วยหน้าจอหลักที่ใช้งานร่วมกับหน้าจอรองแบบ 14″ + 12.6″ ที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับโน๊ตบุ๊คในตลาดประเทศไทย แสดงผลสีสันได้ระดับมืออาชีพ

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 74

ที่มีความเจ๋งยิ่งกว่าตรงที่ชิปประมวลผลมีรุ่น Intel Core i5-1135G7 / i7-1165G7 และการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX450 ที่สามารถใช้งานได้ลื่นไหล รองรับการทำงานประมวลผลที่หนักๆ หรือหลากหลายพร้อมๆ กัน และความบันเทิงทั่วไปอย่างดูหนังฟังเพลงก็ตอบโจทย์ทั้งหมด จากความแรงของมันทำให้เหมือนเราต่อจอแยกใช้งานตลอดเวลาเลยล่ะ หรือถ้าไม่ใช้ก็ปิดการใช้งานได้ตามความสะดวก สนนราคาเริ่มแค่ 39,990 – 49,990 บาท นับว่าไม่แพงเลย มื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอเดียวปกติทั่วไป

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 67

ส่วนสเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มด้วยแรมขนาด 16GB และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB – 1TB รองรับงานทั่วไปลื่นไม่มีสะดุดด้วยประสิทธิภาพที่สูง สนับสนุนการทำงานหนักๆ ประมวลผลเยอะหน่อย เปิดหลายๆ โปรแกรมก็เอาอยู่ ส่วนการเล่นเกมก็สบายๆ หายห่วงเลย แต่อาจจะปรับไม่สุดทุกเกมนะ เห็นแก่ความบางมันหน่อย ที่ต้องระบายความร้อน รวมไปถึงการเล่นเกมออนไลน์ที่ความละเอียด Full HD ก็พอได้เลย เรียกได้ว่าจะทำงานหรือความบันเทิง หรือทำพร้อมๆ กันก็ได้หมด

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 10

บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดีแบบเอาอยู่ ประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อน แน่นอนว่ามี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งาน อีกทั้ง ScreenPad Plus ก็มีรูปแบบและแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานร่วมกันอย่างลงตัว จะใช้งาน 4 – 5 โปรแกรมก็ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 14 – 15 ชั่วโมงด้วยกัน

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 Demo Review 43

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Performance

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 มีสเปคที่ครบครันและทรงพลังที่สุดรุ่นนึง ทั้งชิบประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake  และการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX450 เป็นตัวเลือก พร้อมแรมตัวเครื่องที่ให้มา 16GB และ SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe ความจุ 512GB / 1TB ทีทั้งใหญ่โต และให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงหน้าจอ IPS Full HD แสดงผลภาพดีมาก ทั้งทำงานหรือเล่นเกมก็สมบูรณ์แบบ รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน

award new performance

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ZenBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ สีตัวเครื่องอย่าง Celestial Blue ลักษณะโทนสีน้ำเงิน ให้ความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ชัดเจน มีความสวยงามเรียบง่ายแต่ดูแพง ส่วนวัสดุงานประกอบจะเป็นอลูมิเนียมเกรดสูงทั้งหมดพร้อมความทนทานระดับ Military Standard ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด อีกทั้งได้เรื่องของการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้นจากฟีเจอร์ AAS+

award new Design

Best Graphic

สุดทางจริงๆ สำหรับหน้าจอแสดงผลหลักของ ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ที่เป็นหน้าจอขนาด 14″ ทัชสกรีน บนความละเอียด Full HD ให้ค่าขอบเขตสี sRGB ใกล้เคียง 100% พร้อมจอที่สอง ScreenPad Plus รุ่นใหม่ ยกตัวขึ้นได้ ขนาด 12.6″ เป็นพาเนล IPS แบบด้าน รองรับการทัชสกรีนเช่นกัน โดยใช้งานกับ ASUS Active Pen ได้ ซึ่งใช้งานหน้าจอของเราสมบูรณ์แบบด้วยความเรียบเนียน สนับสนุนการทำงานหลากหลายโปรแกรม ส่งผลให้เราเปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานโน๊ตบุ๊คแบบเดิมๆ ไปตลอดกาล กับหน้าจอที่สองที่ทำอะไรได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปหน้าจอเดียวที่เคยมาทั้งหมด

award new Graphic

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เล่นเกมด้วย Intel Core Ultra 5 245K กับ 7 เกมยอดนิยมบนการ์ดจอบนซีพียู Intel ไหวมั้ย ลื่นรึเปล่า? Intel Core Ultra 5 245K เป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการประมวลผล หรือปัจจุบันก็มีเรื่องของ...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก