สำหรับคนรักการเล่นเกมบน iPhone เป็นชีวิตจิตใจ ผมขอแนะนำ Razer KISHI ที่เป็นอุปกรณ์เสริมรุ่นล่าสุดจากทาง Razer ที่มาเสริมให้การเล่นเกมสะดวก และสนุกมากขึ้น แต่จะเป็นอย่างไร น่าใจขนาดไหนไปชมกัน
Razer Kishi เป็นสินค้าใหม่เพิ่งเปิดตัวของ Razer ในงาน CES 2020 เมื่อต้นปี ซึ่งถือว่าเป็นจอยเกมอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ตัวของมันถูกออกแบบมาให้รองรับมือถือหลายหลายรุ่น และสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้ง Android และ iPhone แถมราคาเปิดตัวยังถือว่ามาแบบเบา ๆ เมื่อเทียบกับชื่อของแบรนด์ที่การันตีการใช้งานว่าทำได้อย่างลื่นไหลอย่าง Razer แล้วก็ถือคุ้มค่ากว่าการใช้งานจอยราคาถูกตัวอื่นในตลาดด้วยนั่นเอง
โดยรุ่นที่ทีมงานได้มาทดสอบจะเป็นเวอร์ชั่น iPhone ที่พอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ lightning ซึ่งก็ยังมีรุ่นที่เป็นพอร์ต USB-C สำหรับ Android อีกด้วย โดยรูปแบบของ Razer Kishi จะเป็นจอยเกมที่เชื่อมต่อเพื่อเพิ่มปุ่มสำหรับการเล่นเกมในรูปแบบของจอย Nintendo Switch หรือ PS4 ที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องสัมผัสที่จอภาพ ช่วยให้จับถนัดมือกว่า พร้อมปุ่มควบคุมทั้งหมด 11 ปุ่ม และ 2 อนาล็อก รวมไปถึงปุ่ม L/R บริเวณนิ้วชี้ รวมมีทั้งหมดมี 15 ตำแหน่ง
SPECS Razer Kishi
Connectivity | Lightning |
---|---|
Charging | No charging required |
Battery Life | None |
Clickable Thumbstick | Yes |
Thumbstick Sensitivty Adjustment | None |
---|---|
Multi-Function Buttons | 3 |
Mecha-Tactile action buttons | None |
Trigger Stops | None |
Supported phone dimensions |
|
Sizes |
|
Weight | 0.36 lbs / 163 g |
Mobile app | Yes |
กล่องของ Razer Kishi เป็นเอกลักษณ์ด้วยโทนเขียวขาว โชว์หน้าตา พร้อมระบุรุ่นที่รองรับ โดยยังจะคงเป็น iPhone 11 Series อยู่ แต่ก็สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone 12 รุ่นใหม่ได้ด้วย
โดยอุปกรณืในกล่องจะมีคู่มือ สติกเกอร์ ตัวจอย Razer Kishi และขอบยางสำหรับปลี่ยนเพื่อใช้งานกับ iPhone X Series
บนแผงควบคุมของ Razer Kishi ผู้ใช้งานจะพบกับปุ่มควบคุมทั้งหมด 11 ปุ่ม และ 2 อนาล็อก รวมไปถึงปุ่ม L/R บริเวณนิ้วชี้ รวมมีทั้งหมดมี 15 ตำแหน่งสำหรับใช้ควบคุมเกม โดยการออกแบบหลังนั้นก็ล้อมาจากเครื่องเกมอันดับต้น ๆ อย่าง Nintendo Switch นั่นเอง ภายใต้ปุ่มกดต่าง ๆ Razer ก็ใส่สวิทซ์ที่เป็น Mechanical ของตัวเองลงไปให้สัมผัสเวลากดไม่ต่างกับ Raiju
ตรงกลางจะเป็นช่องว่างสำหรับติดตั้ง iPhone โดยจะมีพอร์ตเชื่อมต่อเป็น lightning ชัดเจน
ด้านหลังจะเป็นฝาปิดที่สามารถดึงสลักด้านบนล่างเพื่อดึงจอยประกอบเข้ากับ iPhone ได้
การติดตั้งก็ไม่ยุ่งยากครับ แต่ดึงสลักด้านหลัง ดึงออกมา จากนั้นก็สอด iPhone เข้าไป เชื่อมต่อกับพอร์ต lightning ก็พร้อมใช้งานแล้ว
กรณีไฟแบตเตอรี่ไม่พอร์ตก็สามารถเชื่อมต่อสายตรงนี้เพื่อชาร์ตไปพร้อมกับเล่นได้เลย แต่ตัวจอยจะไม่มีแบตเตอรี่สำรองนะครับ เป็นเพียงทางผ่านของสายชาร์ตเฉยๆ
ทดสอบเชื่อมต่อกับ iPhone 11 ขนาดกำลังดีไม่เล้กหรือใหญ่เกินไป โดยเจ้าจอย Razer Kishi นี้รองรับถึง iPhone 11 Pro เลยทีเดียว
การใช้งานปุ่มต่างๆถือว่าลงตัว กดได้นัดมือเลยทีเดียวครับ
ทดสอบใช้งานร่วมกับ iPhone 11 Pro Max ก็สามารถเชื่อมต่อได้ ขนาดจอใหญ่เล่นเกมได้สะใจดีทีเดียว
Razer Kishi รองรับมาตรฐาน MFI (Made For iPhone) ทำให้เกมที่อยู่ใน Apple Store และเป็นเกมที่ประกาศรองรับการใช้งานกับจอยคอนโทรเลอร์อย่างถูกต้อง เราจะใช้งานได้แน่นอนครับ โดยเฉพาะเกมใน Apple Arcade เรียกว่ามีเป็นร้อยๆ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับจอยเกมและตัวระบบยังออกแบบให้ปุ่มไข่ปลา (ด้านข้างปุ่ม D-PAD ฝั่งซ้าย) เป็นปุ่มเรียกใช้งานฟังก์ชั่นบันทึกวีดีโอหน้าจอแบบด่วยเอาไว้ให้ด้วยครับ อบากบันทึกการใช้งานขณะเล่นเกม ก็สามารถกดเรียกใช้ฟังก์ชั่นได้เลย
ทีมงานทดสอบกับหลายเกมดังใน Apple Arcade ก็สามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที แต่จะมีช่วงเวลาดีเลนิดนึงไม่ใช่ต่อปุ๋ป ติดปั๊ปเลยทันที แต่เมื่อเชื่อมต่อแล้ว ก็สามารถใช้งานปุ่ม Razer Kishi ในการสั่งงานเกมได้ทันที โดยมีนูต่างๆในเกมจะปรับเปลี่ยนตามปุ่มต่างๆ ทำให้ไม่ต้องมาตั่งค่าเองให้วุ่นวาย
ประสบการณ์ใช้งานบอกเลยว่าทำให้เล่นเกมได้อย่างสนุกขึ้นเยอะ โดยเฉพาะพวกเกมแนวเดินหน้าฟัน หรือพวก FPS บางเกม อีกทั้งเอฟเฟกในเกมที่ทำให้เครื่องสั่นก็ทำให้รู้สึกเหมือน Razer Kishi สั่นไปไปด้วย การเชื่อมต่อก็แสนสะดวกและง่าย ไม่ต้องตั้งค่าอะไร ตัวจอยเองก้ไม่ได้กินแบตเตอรี่ตัว iPhone มากนัก ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะแค่ต่อเพื่อสั่งงานไม่ได้มีเอฟเฟกอะไรพิเศษเพิ่มเข้ามา
แต่ถ้ามีจุดขัดใจบ้างก็คงจะเป็นการเชื่อมต่อที่ต้องใช้เวลาสักพักไม่เฉพาะการใช้งานครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่เข้าเกม กว่าจอยจะใช้งานได้อาจจะต้องใช้เวลาราว 4-5 วินาทีเลยทีเดียว อีกทั้งต้องถอดเคส iPhone ออกทุกครั้งที่ต้องการใช้งาน ทำให้อาจจะไม่ได้รับความสะดวกในการใช้งานแต่ละครั้งเท่าไร แต่ก็แลกมากกับการจับที่มั่นคงเพราะออกแบบมาพอดีกับตัวเครื่อง แข็งแรงและแน่นหนาเลยทีเดียว
- วัสดุดี แข็งแรง เชื่อมต่อได้แน่นหนา
- มาตรฐาน MFI ทำงานร่วมกับ iPhone ได้แน่นอน
- ชาร์ตพร้อมใช้ได้เลย ด้วยพอร์ตชาร์ตแยก
- ปุ่มเยอะมาก รองรับทุกคำสั่งงาน
ข้อสังเกต
- ไม่มีแบตในตัว ใช้แบบไร้สายไม่ได้
- ต้องถอดเคสเวลาใช้งาน