หลายครั้งที่มีการจัดสเปคคอมเล่นเกม อาจต้องใช้งบที่สูง เพื่อให้ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ แต่ก็มีหลายคนสอบถามมาว่า จัดสเปคคอมเล่นเกม 6,000-10,000 บาท จะมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ วันนี้เลยถือโอกาส มาจัดสเปคเล่นเกมเบาๆ มาเป็นแนวทาง 3 สเปค พร้อมกับแนวทางการเลือกฮาร์ดแวร์ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอมพ์เล่นเกมเบาๆ ในงบประมาณไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นซีพียู เมนบอร์ด การ์ดจอ แรมและอื่นๆ จะเลือกจัดแบบใด เพื่อให้ใช้งานได้คุ้มค่า เพราะอย่าลืมว่า คุณอาจจะต้องหาซื้อเกมมิ่งเกียร์ เช่น เมาส์เกมมิ่ง เกมมิ่งคีย์บอร์ดมาเพิ่มสำหรับการเล่นเกมในวันข้างหน้า
จัดสเปคคอมเล่นเกม
- เลือกอุปกรณ์จัดสเปคคอมอย่างไร
- ซีพียู
- เมนบอร์ด
- แรม
- กราฟิกการ์ด
- Storage
- เพาเวอร์ซัพพลาย
- จัดสเปคคอม 6,000 บาท
- จัดสเปคคอม 8,000 บาท
- จัดสเปคคอม 10,000 บาท
เลือกอุปกรณ์จัดสเปคคอมอย่างไร
ในการจัดสเปคคอมเล่นเกมในงบประมาณที่ต่ำกว่า 10,000 บาท หลายคนอาจมองว่าค่อนข้างยาก เพราะโอกาสจะได้กราฟิกการ์ดมาใส่ไว้ด้วย ก็น้อยลง เนื่องจากลงที่ซีพียูและเมนบอร์ด ก็น่าจะใช้งบประมาณไป 3,000-5,000 บาท แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ อย่างไรก็ดี คนที่ต้องการจบที่งบเท่านี้ ก็พอจะเข้าใจและประเมินได้ว่า จะใช้งานหรือเล่นเกมแบบใดได้บ้าง ซึ่งหากเป็นเกมพื้นฐานที่เป็นออนไลน์ หรือแอ็คชั่นที่ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมาก ก็พอเล่นได้ ปรับความละเอียดและกราฟิกให้ดี ก็ยังมีความไหลลื่นได้ ยกเว้นบางเกมที่เรียกใช้สเปคค่อนข้างสูง เอฟเฟกต์เยอะ และมีรายละเอียดในเกมมาก ก็อาจจะเล่นแบบลื่นๆ ได้ยากหน่อย ซึ่งในกรณีนี้มีทางเลือกให้ 2 รูปแบบด้วยกัน ที่น่าสนใจ
แบบที่ 1: เลือกซีพียู ที่มี Integrate graphic มาด้วย จัดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะในปัจจุบันซีพียูในกลุ่มนี้ได้รับการพัฒนากราฟิก ให้มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Intel UHD Graphic หรือ Iris Plus Graphic ที่อยู่บนซีพียู Intel ในรหัสพื้นฐาน ที่ไม่ใช่รหัส “F” รวมไปถึง AMD Vega 8, Vega 11 ที่มีอยู่ใน AMD Ryzen “G” series เป็นต้น เรื่องประสิทธิภาพ สามารถรองรับเกมกราฟิกง่ายๆ ไม่ดึงทรัพยากรมากเกินไปนัก เพราะมี CUs และหน่วยประมวลผลน้อยกว่ากราฟิกการ์ดอยู่หลายเท่าตัว รวมถึงต้องอาศัยการแชร์หน่วยความจำระบบอีกด้วย ยิ่งแรมน้อย ประสิทธิภาพในการทำงาน ก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน
แบบที่ 2: เลือกซีพียูรุ่นพื้นฐาน แล้วจัดกราฟิกการ์ดรุ่นประหยัดมาใส่เพิ่ม ข้อดีคือ จะได้ประโยชน์จากทั้งซีพียูในการทำงานเต็มที่ และได้การ์ดจอแยกมาด้วย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยซีพียูที่อาจจะต้องเลือกเป็นรุ่นเล็กลงมาหรือเป็นรุ่นที่ประหยัดลงมาหน่อย เช่น จากเดิมอาจจะเลือก Intel Core i series ก็ลดลงเหลือ Pentium หรือ AMD Ryzen ก็จะกลายเป็นแค่ Athlon เป็นต้น แต่ก็จะได้กราฟิกการ์ดแยก ที่แม้จะเป็นรุ่นน้องเล็ก หรือบางทีก็จะไม่ได้เป็นรุ่นใหม่ แต่ก็ช่วยให้การเล่นเกมในหลายๆ เกม ทำได้ดีขึ้น หากจัดให้อยู่ในงบประมาณเท่ากันกับการจัดสเปคที่เป็นซีพียูที่เป็น Graphic Integrate
ซีพียู
หากคุณมีงบประมาณจำกัด ทางเลือกของซีพียูตัวรองลงมา ก็น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น Intel Pentium หรือ AMD Athlon ที่ได้รับการพัฒนามาพอสมควร จึงรองรับการเล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง ด้วยการทำงานแบบ 2 core/ 4 thread และความเร็วมากกว่า 3.xGHz ซึ่งผ่านเกณฑ์ระดับความต้องการของหลายๆ เกมในปัจจุบัน ซึ่งการเลือกซีพียูเหล่านี้ ก็ช่วยให้คุณพอมีงบประมาณเหลือที่จะไปลงในส่วนของกราฟิกการ์ดมากขึ้น
อีกแบบหนึ่งคือการเลือกซีพียู ที่มีกราฟิกมาในตัว ซีพียูเหล่านี้มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นประหยัด เช่น Intel Celeron, Pentium ไปจนถึง Core i และ AMD Athlon รวมถึง Ryzen “G” series เป็นต้น ซึ่งถ้ามีงบประมาณมากหน่อย ทางเลือก AMD Ryzen หรือ Intel Core family ก็จะให้ประสิทธิภาพที่ดี เพราะได้ทั้งการประมวลผลที่รวดเร็ว ด้วยพื้นฐานของ Core/ thread ที่เยอะขึ้นเป็นเท่าตัว และส่งผลดีต่อการเล่นเกมในปัจจุบัน และกราฟิกการ์ดที่ยกระดับขึ้นมาดีกว่าในรุ่นประหยัดอีกด้วย ตัวอย่างเช่น EUs ที่ในซีพียูกลุ่ม Core i จะมีมากกว่าในซีพียูรุ่นประหยัดอยู่เท่าตัวเลยทีเดียว รวมถึง AMD Vega 11 กับ Vega 3 ที่มีจำนวน Shader และ Pipeline ที่ต่างกันพอสมควร แต่ถ้าคุณมีงบจำกัดมากๆ ก็อยากให้ดูในข้อถัดไป ประกอบกัน
เมนบอร์ด
เมนบอร์ดมีบทบาทสำคัญต่อการเล่นเกม แต่ในแง่ของเกมเมอร์ที่ต้องการประหยัด และคุมงบประมาณให้ได้มากที่สุด เมนบอร์ดที่ใช้อาจไม่ต้องมีฟีเจอร์หรูหรา หรือว่าฟังก์ชั่นจัดเต็ม เทคโนโลยีล้ำๆ ภาคจ่ายไฟขนาดใหญ่ สำหรับการโอเวอร์คล็อก แค่เมนบอร์ด ที่รองรับการติดตั้งอุปกรณ์หลักๆ ได้ และพอมีให้อัพเกรดบ้างในภายหลัง ชิปเซ็ตรุ่นเล็กหรือกลาง ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว เช่น ซีพียู Intel LGA1200 จะมีทั้ง Z490, H470, B460 และ H410 จุดที่ต่างกันของชิปเซ็ตเหล่านี้มีตั้งแต่ การสนับสนุนการ OC, รองรับแรมจำนวนมากได้, ใช้กราฟิกการ์ดได้มากกว่า 1 การ์ดขึ้นไป, มีช่องทาง PCIe ที่มากขึ้น เพื่อรองรับกราฟิกการ์ดและ SSD M.2 PCIe รวมถึงสิ่งอื่นๆ ซึ่งหากดูตามโจทย์ของคุณ ต้องการแค่คอมพ์เล่นเกมแบบประหยัด เมนบอร์ดที่มีสล็อตแรม 2 สล็อต, พอร์ต SATA3 และมีสล็อต PCI-Express X16 สักสล็อต ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว สิ่งอื่นๆ อาจไม่ได้มีผลต่อการใช้งานมากนัก ชิปเซ็ตประหยัดอย่าง H410 เริ่มต้นเพียงพันกว่าบาท แต่ Z490 นั้นอาจจะต้องจ่ายเกือบ 5 พันบาทเลยทีเดียว แต่ถ้าในกรณีที่คุณมองถึงอนาคต อยากจะเปลี่ยนซีพียูหรืออัพเกรดแรม ใส่การ์ดอื่นๆ เพิ่มตัวเลือกที่ราคาสูงขึ้น มีสล็อตจำนวนมาก ภาคจ่ายไฟขนาดใหญ่ ก็พอจะให้คุ้มค่าต่อการลงทุนในเมนบอร์ดชิปเซ็ตกลางๆ
ส่วนทางค่าย AMD ก็มีตัวเลือกอยู่มากมาย และจุดเด่นที่สำคัญคือ เมนบอร์ดซ็อกเก็ตเดียวกัน AM4 ไม่ว่าจะเป็น A520, B550, X470 หรือ X570 สามารถใช้ได้ในซีพียูหลายรุ่นหลายเจนเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น AMD Athlon, Ryzen 2000 series หรือ 3000 series รวมไปถึง AMD Ryzen Pro ที่เป็น 4000 series อีกด้วย และค้าคุณอยากจะคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในงบประมาณ ตัวเลือกที่เป็น AMD A320 หรือ A520 ในราคา 2 พันต้นๆ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ส่วนถ้าจะเพิ่มความสามารถขึ้นมาอีกนิด ตัวเลือกที่เป็น B series ก็น่าสนใจ ในราคาเริ่มต้น 2,xxx เช่นกัน แต่ได้ฟีเจอร์การปรับแต่งความเร็วเพิ่มเติมเข้ามาด้วย นอกเหนือจากการสนับสนุนอื่นๆ ทั่วไป แต่ถ้าจะไปตัวท็อปอย่าง X570 ก็จ่ายประมาณ 4,xxx บาท
สิ่งที่สำคัญและต้องพิจารณาเพิ่มเติม เฉพาะคนที่จะเลือกเมนบอร์ดไปใช้ร่วมกับกราฟิกที่มาในซีพียู ไม่ว่าจะเป็น iGPU หรือ APU ก็ตาม นั่นคือเรื่องของพอร์ตแสดงผลที่อยู่ด้านหลังเมนบอร์ด เพราะบางรุ่นให้มาเพียง D-Sub หรือ DVI ที่อาจไม่ได้ตอบโจทย์จอแสดงผลที่เป็น HDMI ในปัจจุบัน และอาจจะต้องหาตัวแปลงมาใช้ หรือบางรุ่นก็มีแค่ HDMI อย่างเดียว ซึ่งเมนบอร์ดเหล่านี้ก็จะมีความแตกต่างในด้านราคาด้วยเช่นกัน
แรม
เนื่องจากแรมในปัจจุบันราคาไม่สูงมาก DDR4 3200 8GB เริ่มที่พันนิดๆ ส่วน 16GB จะอยู่ที่พันปลายๆ แต่ถ้างบประมาณจำกัด 8GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ซึ่งก็ยังเพียงพอที่จะแชร์ให้กับ Integrate graphic ได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเบื้องต้นสำหรับคนที่เลือกเมนบอร์ดที่มีแรม 2 สล็อตนั้น การเลือกแรมแถวเดียว 8GB น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ถึงแม้ว่าแรม 4GB x2 ทำงานแบบ Dual-channel ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นก็จริง แต่ในแง่ของความสะดวกในการอัพเกรด ดูจะไม่คุ้มค่า เพราะจะเสียสล็อตว่างที่เหลืออีก 1 สล็อตไปโดยเปล่าประโยชน์ ยกเว้นว่าจะพอใจ ไม่คิดจะอัพเกรดต่อไปแล้ว ก็เลือกแบบที่ว่ามาได้เลย ได้ทั้ง 2 แบบครับ ไม่มีถูกผิด
กราฟิกการ์ด
นับว่าเป็นคีย์หลักที่สำคัญสำหรับการจัดสเปคคอมเล่นเกม 6,000-10,000 บาท ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ อย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น มีให้เลือกทั้ง Integrate graphic ที่มีมาในซีพียู และ Discrete graphic ที่เป็นการ์ดจอแยก กราฟิกในตัวหรือ Integrate รุ่นใหม่ๆ ก็ให้ประสิทธิภาพได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็มีข้อจำกัดในการเล่นเกมพอสมควร ต่างจากการ์ดจอแยกที่มีประสิทธิภาพสูง มีหน่วยประมวลผลเฉพาะ การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว หน่วยความจำหรือบัฟเฟอร์ VRAM ที่มีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้ ส่งผลต่อการเล่นเกมอย่างมากในปัจจุบัน แต่อย่างที่ได้กล่าวไปคือ Integrate graphic พอจะเล่นเกมได้ในระดับเริ่มต้น แต่ก็ประหยัดเพราะซื้อแค่ซีพียู แต่ถ้าการ์ดจอแยก แรงขึ้น ประสิทธิภาพดีกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นนั่นเอง และด้วยงบประมาณเท่าๆ กัน ก็อาจจะไม่ได้การ์ดจอที่แรงมากมายนัก หรืออาจจะต้องเลือกการ์ดจอรุ่นเล็กสุดหรือตกรุ่นไปแล้วนั่นเอง ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกแบบใด
Storage
หากดูจากงบประมาณ การเลือก Storage นั้น ก็ต้องชั่งใจและวางแผนกันตั้งแต่ต้น เพราะมีทางเลือกแค่ 2 แบบ คือ ถ้าเล่นเกมเยอะ ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งเกมจำนวนมาก คำตอบน่าจะอยู่ที่ฮาร์ดดิสก์ เพราะราคาประหยัดได้ความจุที่เยอะ 1TB ราคาแค่พันนิดๆ เท่านั้น แต่ความเร็วในการเปิดเครื่อง ติดตั้งเกม โยกย้ายไฟล์ ก็จะไม่ได้รวดเร็ว รวมถึงการเข้าเกมที่ช้า แต่ในค่าใช้จ่ายเดียวกัน หากคุณอยากได้การเข้าวินโดว์เร็ว เปิดเครื่องไว เข้าเกมได้ทันใจ SSD 240GB-480GB ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยพื้นที่น้อยลง ติดตั้งเกมได้บางเกม และถ้าจะลงเพิ่มก็คงต้องลบเกมเก่าออก แต่ถ้าคุณเล่นเกมที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มากนัก ก็พอได้ลุ้น ลงวินโดว์ โปรแกรมและอื่นๆ ได้บ้าง ตรงนี้อยู่ที่ความต้องการและรูปแบบการใช้งานของแต่ละบุคคล
เพาเวอร์ซัพพลาย
หากคุณเริ่มต้นกับพีซีที่ใช้ Integrate graphic หรือการ์ดจอระดับเริ่มต้น ก็แทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องการจ่ายไฟจากเพาเวอร์ซัพพลาย ระดับ 550W-600W ก็เพียงพอต่อการใช้งาน รวมถึงการอัพเกรดในภายหลังก็ยังไหว ไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอ GeForce GTX series หรือ Radeon RX560, RX570 รวมไปถึง RX 5500 XT ก็ตาม แต่ถ้ามองไปไกลกว่านั้น เผื่อว่าจะใช้งานไปนานๆ อัพเกรดซีพียู การ์ดจอในอนาคต ก็แนะนำระดับ 750W-850W และถ้ามี 80 PLUS ด้วย ก็น่าสนใจ เพราะปัจจุบันเพาเวอร์ระดับที่กล่าวมานี้ และมีการการันตี 80+ Standard ป้ายขาวทั้งหลาย สามารถหาได้ในระดับพันกลางๆ ไปจนถึงพันปลายๆ เท่านั้น ช่วยให้การจ่ายไฟคุ้มค่ามากขึ้น ส่วนเรื่องฟังก์ชั่นแสงไฟ RGB หรือถอดสายได้ ปรับแต่งรอบพัดลม ก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์และความพึงพอใจ แต่ถ้างบจำกัดอยู่แล้ว ก็อาจจะต้องตัดใจไปก่อน
หลังจากที่ดูในเรื่องข้อมูลอุปกรณ์ต่างๆ กันไปแล้ว ในการจัดสเปคคอมเล่นเกม 6,000-10,000 บาท เราลองมาดูตัวอย่างทั้ง 3 สเปคนี้กันว่า จะจัดแบบใดกันได้บ้าง
สเปคคอมเล่นเกม 6,000 บาท
สำหรับสเปคแรกจัดในงบประมาณเบาๆ 6,000 บาท สำหรับเล่นเกมออนไลน์หรือให้คนในบ้านได้เริ่มต้นใช้งานกัน โดยหัวใจหลักอยู่ที่ซีพียู AMD Athlon 3000G ที่ถือว่ามีความสดใหม่ในระดับหนึ่ง เป็นตัวแทนล่าสุดของซีพียูรุ่นประหยัดตัวคุ้ม ดูการทดสอบเต็ม Athlon 3000G กันได้ ทำงานในแบบ 2 core/ 4 thread และมาพร้อมกราฟิก Radeon Vega 3 และแกนหลัก Graphic core 3 ชุด ซึ่งให้ความเร็วได้ถึง 1,100MHz ซึ่งก็ทำหน้าที่ในด้านการทำงานและความบันเทิงได้ดีพอสมควร ส่วนการเล่นเกมอาจจะต้องปรับความละเอียดลง และ Detail graphic ต่างๆ ให้อยู่ในโหมด Very Low หากต้องการให้เฟรมลื่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกมอย่าง PUBG, Free Fire หรือ DOTA2 ส่วนถ้าเกมอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากนัก ก็เล่นในโหมด Full-HD 1080p และเลือกความละเอียดได้เลย มาบนเมนบอร์ดสุดประหยัด Gigabyte A320M อัพเกรดแรมเพิ่มได้ และให้พอร์ตเชื่อมต่อมาเกือบครบ โดยมี SSD 240GB ให้พอลงเกมได้แบบเบาๆ หรือจะเอาฮาร์ดดิสก์ 1TB มาเปลี่ยนก็ยังไว เพาเวอร์ 700W แบบประหยัดและเคสจาก CoolerMaster ข้างใส จบที่ 6 พันปลายๆ สำหรับเซ็ตนี้
ดูข้อมูลสเปคนี้เพิ่มเติม ที่นี่
สเปคคอมเล่นเกม 8,000 บาท
จัดสเปคคอมเล่นเกม ขยับมาที่งบประมาณ 8,000 บาท เซ็ตนี้มาพร้อมกับ Intel Pentium Gold G6400 ใหม่ล่าสุด ที่เรียกว่ามาในซีรีส์ใหม่ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม LGA1200 แบบเดียวกับ Intel Gen 10 แต่ถูกทอนความสามารถบางอย่างออกไป แต่ใช้โค๊ตเนม Comet Lake ซึ่งถ้ามองกันที่สเปคเรียกว่าเบียดบี้สูสีกับ Core i3-9100F กันเลยทีเดียว แต่เหนือกว่านิดๆ กับการทำงานด้าน Single core กับความเร็วที่แตะ 4.0GHz เลยทีเดียว กราฟิกที่มีมาในตัวเป็น UHD graphic 610 ก็พอจะตอบโจทย์การใช้งานและการเล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงลงตัวกับการเล่นเกมพื้นฐาน ความละเอียดไม่สูง เช่นเดียวกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน เซ็ตนี้มากับเมนบอร์ด H410 ชิปเซ็ตน้องเล็กใหม่ล่าสุดกับค่าตัวพันปลายๆ โดยมีแรม DDR4 3200 8GB มีสล็อตเหลือสำหรับอัพเกรด แต่เพื่อให้มีพื้นที่จัดสรรสำหรับลงเกม ติดตั้งโปรแกรม และยังเหลือพอจัดเก็บข้อมูล จึงเป็นฮาร์ดดิสก์ 1TB ที่อยู่ในสเปคคอมชุดนี้ ส่วนเพาเวอร์และเคสเป็นแบบมาตรฐาน 700W รุ่นประหยัดนั่นเอง
ดูข้อมูลสเปคนี้เพิ่มเติม ที่นี่
สเปคคอมเล่นเกม 10,000 บาท
ส่วนการจัดสเปคคอมเล่นเกม 10,000 บาท ซึ่งเป็นเซ็ตสุดท้ายนี้ เอาใจคอเกมที่อยากจะขยับขึ้นมาจากการใช้ Integrate graphic และเพื่อให้การเล่นเกมที่ดีขึ้น ตัวเลือกอาจจะดูเก่าไปบ้าง เพราะซีพียูเป็น Intel Core i3-9100F ที่เป็นแบบ 4 core/ 8 thread ความเร็วบูสท์ได้ถึง 4.2GHz ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน และยังถูกกว่าซีพียูที่เป็น Gen 10 พร้อมเมนบอร์ดใหม่ H410 เป็นพันบาทเลยทีเดียว โดยเมนบอร์ดเป็นน้องเล็กสุด H310 จากทาง Gigabyte
มีแรมมาให้ DDR4 2666 8GB อัพเกรดเพิ่มได้ และใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นตัวจัดเก็บข้อมูล ลงโปรแกรมและติดตั้งเกม ครบถ้วน แม้จะช้าไปบ้าง ซึ่งคุณสามารถเพิ่ม SSD ในแบบ SATA ได้ภายหลัง โดยมีเพาเวอร์ 700W และเคสบ้านๆ พอให้ติดตั้งใช้งานได้ มีพัดลมระบายอากาศ ส่วนจุดที่สำคัญอยู่ที่กราฟิกการ์ด Radeon RX570 จาก PowerColor ซึ่งถือว่าเป็นการ์ดจอน้องรอง แม้จะตกรุ่นไปแล้ว แต่เรื่องความแรงยังวางใจได้ รวมถึง Intel Core i3 ก็ยังช่วยให้คุณเล่นเกมร่วมกับการ์ดจอรุ่นนี้ได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็น PUBG, GTAV, BFV หรือจะเป็นเกมใหม่ๆ ในปัจจุบันหลายๆ เกม ขึ้นอยู่กับการปรับจูนความละเอียดและคุณภาพในการเล่นของคุณ แนะนำการเล่นเป็น Full-HD แต่ปรับ Detail Low Medium เล่นบนจอเกมมิ่ง 27″ ภาพใหญ่ เห็นชัด สวยงาม
ดูข้อมูลสเปคนี้เพิ่มเติม ที่นี่
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
