ในอดีต เก้าอี้เกมมิ่ง อาจถูกมองว่าเป็นของเล่น จัดว่าเป็นของเล่นของใช้เฉพาะกลุ่ม ส่วนหนึ่งเพราะตัวเลือกยังไม่หลากหลาย และราคาที่ค่อนข้างสูง จึงอยู่ในตลาดของเกมเมอร์หรืออีสปอร์ทกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบัน เก้าอี้ในรูปแบบนี้ ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น อีกทั้งสนนราคาก็จับต้องได้ง่าย มีให้เลือกตั้งแต่หลักพันต้นๆ ส่วนใครที่อยากได้ฟีเจอร์พิเศษ กับการออกแบบที่หรูหรา อาจจะไม่ต้องจ่ายในระดับหมื่นบาท เพราะเวลานี้ราคา 9 พันกว่าบาท ก็มีตัวเลือกในระดับพรีเมียมมากมายเลยทีเดียว
เก้าอี้เกมมิ่ง 8 รุ่น ในงบ 9,900 บาท
- TESORO ZONE X ราคาประมาณ 9,150 บาท
- COOLER MASTER CALIBER X1 ราคาประมาณ 8,990 บาท
- THUNDER X3 RC3 ราคาประมาณ 7,490 บาท
- MSI MAG CH120X ราคาประมาณ 7,290 บาท
- ANDA SEAT ASSASSIN KING ราคาประมาณ 9,900 บาท
- CORSAIR T3 RUSH ราคาประมาณ 9,900 บาท
- OCPC X3TREME PRO ราคาประมาณ 9,990 บาท
- ANDA SEAT AXE-E ราคาประมาณ 7,900 บาท
1.TESORO ZONE X
ดูจะเป็นเก้าอี้เกมมิ่งสไตล์หลุยส์ที่ดูมีความหรูหราและซุกซ่อนความเร้าใจไว้ในตัว กับโทนสีดำที่ดูลุ่มลึก และมีเดินตะเข็บเป็นด้ายสีทอง กับโครงสร้างหลักที่เป็นโลหะแข็งแรง และชิ้นส่วนที่เป็นอะลูมิเนียม ที่ทนทาน นอกจากตัวเบาะนั่งที่เป็นบอดี้หลักแล้ว ยังเพิ่มในส่วนของ Lumbar และ Neck rest ที่เป็นเมมโมรีโฟม หุ้มวัสดุแบบ PU มาให้ จึงได้ทั้งความพรีเมียมและดูมีลูกเล่นมากขึ้น พื้นที่นั่งกว้าง 40cm ส่วนพิงหลังรวมขอบเบาะกว้างได้ถึง 53.5cm และเอนนอนได้ถึง 150 องศา ตัวโช๊คอัพเป็นแบบ Gaslift class 4 ให้ความนุ่มนวล รองรับน้ำหนักได้ถึง 150Kg และมีล้อ Nylon ที่ลื่นไหลทนทาน เก้าอี้ปรับความสูงได้สูงสุด 47.5cm และที่วางแขนแบบ 4D คือปรับขึ้น-ลง และ หันซ้าย-ขวาได้อีกด้วย ราคาเปิดอยู่ที่ 9,150 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: TESORO ZONE X
2.COOLER MASTER CALIBER X1
เป็นเก้าอี้เกมมิ่งอีกหนึ่งรุ่นจาก Cooler Master ที่จัดฟีเจอร์มาเต็มในงบไม่ถึงหมื่นบาท นอกจากดีไซน์ที่เฉียบ และหรูดูสปอร์ต ในโทนสีเทาดำ กับเบาะหนัง PU ที่เจาะรูระบายอากาศ ที่เป็นเอกลักษณ์ เสริมด้านข้างกับลวดลายที่ดูคล้ายเบาะรถแข่งทำให้ดูน่าใช้ยิ่งขึ้น จุดเด่นอยู่ที่การปรับเอนนอนได้ระดับ 180 องศา กับการรับน้ำหนักได้ถึง 150Kg ด้วยโช๊ค Gaslift Class 4 โครงสร้างโลหะให้ความแข็งแรง และบอดี้อะลูมิเนียมมีความยืดหยุ่น ตัวเบาะเป็นโฟมขึ้นรูป ให้ความแน่นและกระชับ เสริมความทนทานด้วยล้อขนาด 75mm ที่นับว่าเป็นล้อขนาดใหญ่ มีตัวปรับระดับ 2 ส่วนด้วยกันคือ ปรับความสูง และเอนเบาะอยู่ด้านใต้เก้าอี้ พร้อม Armrest 4D ปรับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง, ซ้าย-ขวา รวมถึงเลื่อนไปข้างหน้าได้อีกด้วย ส่วนเบาะเสริมจะมีให้เพียง Backrest เท่านั้น เพราะส่วนบนของเก้าอี้ ถูกเสริมมาอย่างดี เพื่อให้รองรับส่วนหัวได้อย่างเหมาะสม สนนราคาเคาะที่ 8,990 บาทเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม: COOLER MASTER CALIBER X1
3.THUNDER X3 RC3
มาถึงเก้าอี้เกมมิ่งเรือธงอีกรุ่นหนึ่งจากค่ายสายฟ้า THUNDERX3 นี้กับความโฉบเฉี่ยวในราคาย่อมเยา ที่เรียกว่าแทบจะถูกสุดในบรรดาเก้าอี้ที่มาแนะนำกันในวันนี้ แต่ความล้ำและโครงสร้างที่โดดเด่น รวมถึงฟังก์ชั่นในการใช้งานแทบไม่เป็นรองใคร ดีไซน์ที่เป็นบอดี้หลัก ให้ความพรีเมียมด้วยวัสดุแบบหนัง ที่สัมผัสนุ่มนวล พร้อมลวดลายคาร์บอน ที่ให้ความพรีเมียม เมื่อได้สัมผัส ด้านในเป็นโฟมความหนาแน่นสูง นั่งให้ความกระชับ มีเส้นสายที่เป็นสี ตัดกับโทนดำของเบาะให้เลือก 3 แบบคือ ฟ้า แดงและดำ มาพร้อมเบาะที่เป็น Lumbar Cushion และ Neckrest เป็นแบบเบาะหนังเจาะรูที่ดูเท่ ถอดใส่ได้ตามต้องการ พิงหลังปรับเอนได้ 180- องศา เรียกว่าเอนนอนได้เลย รวมถึงการปรับความสูงได้ถึง 58cm อีกด้วย โดยมี Hydraulic lift ในแบบ Class 4 รับน้ำหนักได้ถึง 150Kg จัดว่าอยู่ในระดับ Advance ของเบาะเกมมิ่ง โดยมีล้อขนาด 65mm ที่เป็น Nylon หมุนได้ลื่นไหลดี ส่วนที่เป็น Armrest นั้นจะเป็น 2D คือปรับระดับความสูงได้เท่านั้น โดยมีไฮไลต์ที่สัญลักษณ์ THUNDERX3 ด้านหลังเบาะ ที่เป็นไฟ RGB ส่องสว่าง ที่ปรับรูปแบบแสงไฟได้อีกด้วย ราคาของเก้าอี้รุ่นนี้อยู่ที่ 7,490 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: THUNDER X3 RC3
4.MSI MAG CH120X
มาถึงค่ายเกมมิ่งสายโหด กับ Gaming chair ที่ถือว่าราคาจับต้องได้ ฟีเจอร์ลงตัว กับราคาที่สบายกระเป๋าที่สุดที่เราจัดมาในกลุ่มนี้ โครงสร้างโลหะแข็งแรง มาในโทนสีดำ ตัดด้วยเส้นสายสีแดงของเกมมิ่ง ตามสไตล์ของ MSI ด้านในเป็นโฟมขึ้นรูป แน่นกระชับ พิงหลังโอบกระชับในแบบเบาะรถแข่ง เดินด้ายแดงเล็กๆ ให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น เพิ่มในส่วนของ Headrest และ Lumbar Cushion มาให้ 2 ชิ้น ดูสะดุดตาไม่เบา โดยมีโช๊คแบบ Gaslift Class 4 มาด้วย รองรับน้ำหนักได้ 150Kg การปรับเอนทำได้ 180 องศา พักหลังได้ในช่วงเล่นเกม รวมถึง Armrest หรือที่พักแขน เป็นแบบ 4D ปรับได้สะดวก ไม่ว่าจะเลื่อนขึ้นลง หมุนซ้ายขวา หรือจะเลื่อนไปข้างหน้าก็ได้เช่นกัน ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว ส่วนฐานเป็นแบบ 5 แฉก พร้อมล้อขนาด 72mm ล็อคได้ ไม่ให้เลื่อนไหลในขณะที่กำลังสนุกอยู่กับเกม เคาะราคามาแค่ 7,290 บาทเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI MAG CH120X
5.ANDA SEAT ASSASSIN KING
ใครว่าเก้าอี้ค่ายนี้มีแต่รุ่นหรูราคาสูงเท่านั้น ต่ำกว่าหมื่นก็มี เช่นเดียวกับในรุ่นนี้ สำหรับซีรีส์นี้ ยังคงมาพร้อมกลิ่นอายของรุ่นพี่เอาไว้พอสมควร ทั้งในแง่ของการออกแบบและวัสดุ ด้วยดีไซน์ที่ได้ฟิลลิ่งของเก้าอี้รถแข่ง กับโครงสร้างโลหะแข็งแกร่ง พร้อมโฟมความหนาแน่นสูง ที่ให้ความนุ่มนวลและกระชับ ซึ่งจะหนากว่าเมมโมรีโฟมอยู่เล็กน้อย หุ้มด้วย PVC ที่มีข้อดีในเรื่องของความทนทาน ป้องกันการขูดขีดได้ดี มีให้เลือก 3 แพทเทิร์น คือ ดำขาวน้ำเงิน, ดำขาวแดง และดำขาวเทา โดยเพิ่มในส่วนของ Lumbar Cushionและ Headrest มาให้ 2 ชิ้น ขนาดใหญ่ รองรับหลังได้สบายขึ้น จุดที่เป็น Armrest จะเป็นแบบ 3D สามารถปรับขึ้นลง และซ้ายขวาได้เล็กน้อย ให้การปรับเอนน้อยของ Backrest ได้ระดับ 160 องศา ตัวควบคุมใช้ได้ง่าย ให้ความมั่นคงดีทีเดียว โครงสร้างขารับน้ำหนักอะลูมิเนียมให้ความทนทาน พร้อมโช๊ค Class 4 รับน้ำหนักได้ 150Kg และล้อขนาด 65mm ด้วยยาง PU ที่เลื่อนไปมาได้สะดวก รองรับการใช้งานได้บนพื้นผิวแบบต่างๆ ปรับความสูงได้ถึง 54cm จัดว่าเป็นเก้าอี้ไซส์กลางที่น่าสนใจ ในราคาประมาณ 9,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: ANDA SEAT ASSASSIN KING
6.CORSAIR T3 RUSH
ส่วนใครที่เบื่อกับหน้าสัมผัสกับวัสดุที่ดูเป็นหนัง PU เรียบลื่น มาลองเก้าอี้เกมมิ่งจาก Corsair รุ่นนี้ กับการออกแบบที่เรียกว่า ดูซอฟต์สบายตา กับ Polyurethane foam หุ้มด้วย Soft Fabric ที่เป็นสัมผัสผ้า ให้รู้สึกสบายเวลาที่นั่งนานๆ กับการระบายอากาศที่ดี มีให้เลือก 3 โทนสีในแบบ Charcoal โดยมีมาให้ทั้ง Lumbar Cushion และ Headrest โครงสร้างเป็นแบบโลหะ ให้ความทนทาน สามารถปรับพนักพิงได้ถึง 180 องศา เช่นเดียวกับ Armrest ในแบบ 4D ปรับขึ้นลง ซ้ายขวา เลื่อนเข้าออกได้ เรียกว่าสะสวกสบายทีเดียว โช๊คขนาด 100mm Class 4 ส่วนความสูงเบาะนั้น ปรับได้สูงสุดที่ 54cm ล้อแบบ Nylon ขนาด 65mm ที่ให้ความทนทาน ลื่นไหลได้ดี ในภาพรวมก็ถือว่าเป็นเก้าอี้อีกรุ่นที่น่าสนใจไม่เบา สำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย ดีไซน์ดูหรูนิดๆ ส่วนราคาเปิดที่ 9,990 บาท โดยประมาณ
ข้อมูลเพิ่มเติม: CORSAIR T3 RUSH
7.OCPC X3TREME PRO
ถ้าใครชอบสไตล์ที่เรียกว่า เรียบหรู ดูสปอร์ต เก้าอี้เกมมิ่ง จากทาง OCPC รุ่นนี้ ก็น่าจะโดนใจไม่เบา ด้วยโทนสีดำทั้งบอดี้ กับทีมดีไซน์จาก USA ด้วยเบาะที่นุ่มสบายจากเมมโมรีโฟมหนาแน่นสูง หุ้มด้วยหนัง PVC ในแบบพรีเมียม หุ้มโครงสร้างที่เป็นโลหะที่แข็งแรง Backrest ปรับเอนได้ 160 องศา และยังให้ Lumbar Cushion และ Headrest มาด้วย โช๊ค Gaslift Class 4 รับน้ำหนักได้ 100Kg และมีล้อขนาด 60mm มาด้วย บนขา 5 แฉกมาตรฐาน โดยให้ Armrest 4D มาด้วย สามารถปรับเลื่อนไปในมุมต่างๆ ได้ตามการใช้งาน เป็นเก้าอี้อีกรุ่นหนึ่ง ที่เน้นความกระชับ และความสไตล์ดิบๆ เพื่อเกมเมอร์ที่ชื่นชอบแนวนี้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 9,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: OCPC X3TREME PRO
8.ANDA SEAT AXE-E
มาถึง ANDA อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งถือว่าค่อนข้างพรีเมียมและออกแบบมาได้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าจะเป็นซีรีส์น้องเล็ก โดยในรุ่นนี้ ถือว่าทำออกมาเพื่อนักกีฬาอีสปอร์ทมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโทนสีดำ ที่มีการตัดเย็บมาอย่างประณีต กับโฟมหนาแน่นสูง ให้ความนุ่มกระชับ เหมาะกับการนั่งเป็นเวลานาน หุ้มด้วยหนัง PVC ที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย Backrest ปรับเอนได้ 160 องศา และมีโช๊คไฮดรอลิก Class 4 รองรับน้ำหนักได้ประมาณ 158Kg ซึ่งมีล้อ 60mm บนขา 5 ชุด กระจายน้ำหนักได้ดี ให้ Lumbar Cushion และ Headrest ขนาดเล็กมาอย่างละชุด ให้ความสูงของเบาะนั่งได้ถึง 58cm ส่วนที่วางแขนจะเป็นแบบ 1D คือปรับเลื่อนสูงต่ำได้เท่านั้น ราคาของรุ่นนี้ประมาณ 7,900 บาทเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม: ANDA SEAT AXE-E
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเก้าอี้เกมมิ่งทั้ง 8 รุ่น ในงบ 9,900 บาท ที่นำเสนอกันในวันนี้ ส่วนใหญ่ความแตกต่างจะอยู่ที่การออกแบบ และวัสดุ รวมถึงฟังก์ชั่น เช่นการปรับ Armrest ที่ต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ดี แนะนำว่าให้ลองไปนั่ง และปรับเล่นตามร้านที่จำหน่าย เพื่อให้สัมผัสว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณ เพราะในแต่ละรุ่นออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่มีความสูงต่างกัน สังเกตได้จากระับความสูง ที่บางรุ่นขยับไปถึง 5xcm เลยทีเดียว และอย่าลืมว่าแม้ฟีเจอร์จะเหมือนกัน แต่รูปแบบการใช้งาน อาจมีความยากง่ายต่างกัน ตัดสินใจเอาแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันกันนะครับ