ถ้าพูดถึงอุปกรณ์ที่ใช้กับคอมฯ ไม่ว่าจะเป็น PC หรือโน๊ตบุ๊ค สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เมาส์ (อ่านต่อ..เมาส์น่าใช้งาน) คีย์บอร์ด ลำโพง หน้าจอ โต๊ะคอมฯ (อ่านต่อ..โต๊ะคอมราคาถูก) และอุปกรณ์ที่ช่วยให้การใช้งาน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกหลายอย่าง และถึงแม้ว่าโน๊ตบุ๊คจะมีคีย์บอร์ดในตัวมาให้อยู่แล้ว แต่คนใช้งานส่วนใหญ่ ก็ยังต้องซื้อแยกมาใช้งานร่วมกันอยู่ดี ไม่ว่าจะใช้งานแบบทั่วไป หรือใช้เพื่อเล่นเกม รวมไปถึงคีย์บอร์ดไร้สาย ที่ช่วยให้การใช้งาน และพกพาไปในที่ต่างๆ สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องมีสายมาคอยเกะกะให้วุ่นวาย
คีย์บอร์ดไร้สายในปัจจุบันนี้ ก็มีหลายยี่ห้อ ที่ทำออกมาให้ผู้ใช้งานอย่างเราได้ใช้กันในปี 2020 ทั้งแบบปกติที่ใช้กับงานทั่วไป และแบบเกมมิ่ง ซึ่งเจ้าตัวคีย์บอร์ดแบบไร้สายนี้ ก็ไม่ได้จำกัดการใช้งานอยู่แค่เพียงบนคอมฯ PC หรือโน๊ตบุ๊คเท่านั้นด้วย แต่ก็ยังมีอีกหลายรุ่น ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน หรือแท็ปเล็ตได้ด้วย เพื่อช่วยให้การใช้งานนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ก็จะแบ่งแยกย่อยลงไปอีก ว่าเป็นแบบไร้สายโดยใช้ USB หรือเป็นแบบ Bluetooth รวมไปถึงรูปแบบปุ่มที่มีแยกย่อยออกไปได้อีก 4 แบบ วันนี้ Notebookspec เลยจะมาแนะนำว่าคีย์บอร์ดแบบไร้สายนั้น จะเลือกซื้อแบบคร่าวๆ ได้อย่างไร มีแบบไหนบ้าง แต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร รวมไปถึงมีคีย์บอร์ดแบบไร้สายยี่ห้อไหนบ้าง ที่น่าใช้งานในปี 2020 นี้ ตามมาดูกันได้เลย
การเชื่อมต่อ ของคีย์บอร์ดไร้สายมีแบบไหนบ้าง?
สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เพื่อใช้งานนั้น คีย์บอร์ดแบบ Wireless หรือแบบไร้สาย จะสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ นั่นก็คือแบบใช้ USB และเชื่อมต่อกับ Bluetooth โดยการเชื่อมต่อกันกับ USB ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้สายในการเชื่อมต่อนะ แต่จะเป็นการใช้พอร์ทเชื่อมต่อแบบ 1 ต่อ 1 ที่ตัวคีย์บอร์ด จะเชื่อมต่อเข้ากับ USB และนำตัว USB ไปต่อเข้ากับช่องพอร์ทของคอมฯ โน๊ตบุ๊ค หรือแท็ปเล็ตอีกที ซึ่งข้อดีของมันก็คือสามารถเชื่อมต่อได้ทันทีที่เสียบเข้ากับพอร์ท ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอะไรเลย แต่ก็จะมีข้อจำกัดตรงระยะทางในการเชื่อมต่อ อาจจะใช้งานได้ไม่ไกลนัก
ส่วนการเชื่อต่ออีกแบบหนึ่งก็คือแบบ Bluetooth ที่เป็นที่นิยมมากกว่าตัว USB เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายกว่า โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับมือถือสมาร์ทโฟน และแท็ปเล็ต ที่ใช้เพียง Bluetooth ในการเชื่อมต่อเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้พอร์ทอะไรเลย แถมยังมีข้อดีตรงที่สามารถใช้งานได้ในระยะที่ไกลมากขึ้น และยิ่งคีย์บอร์ดแบบไร้สายรุ่นไหน ที่มีการเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ในเวอร์ชันสูงๆ ก็ยิ่งช่วยให้การเชื่อมต่อดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย ที่สำคัญราคาก็ไม่ได้แพงมากแล้วด้วย สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ราคาหลักร้อยขึ้นไป
การเลือกใช้งานคีย์บอร์ดไร้สาย
การเลือกซื้อคีย์บอร์ดแบบไร้สายนั้น สามารถดูได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งรูปแบบการใช้งาน ขนาดของคีย์บอร์ด แบตเตอรี่ และไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเองด้วย รวมไปถึงประเภทของปุ่มกด ที่มีอยู่หลายแบบให้เลือกใช้ อยู่ที่ว่าจะเอาไปใช้งานแบบไหน และใช้กับเครื่องมืออะไร สิ่งแรกที่ควรดูก่อนเลยนั่นก็คือขนาดของคีย์บอร์ด ที่มีอยู่หลายขนาดมากๆ ตั้งแต่ขนาดเล็กแบบพกพาง่ายๆ มีน้ำหนักเบา หรือจะเป็นแบบพับได้ก็มี ซึ่งแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องทำงานนอกสถานที่เป็นประจำ เพราะต้องพกพาไปด้วยตลอดเวลาที่ทำงาน ถ้าใช้อันที่ใหญ่เกินไป ก็จะส่งผลต่อการใช้งานนอกสถานที่ อย่างพื้นที่ในการใช้งาน และการพกพาด้วย แต่ด้วยชนาดเล็ก อาจทำให้พิมพ์ได้ไม่ถนัดมากนัก ส่วนอีกแบบก็คือขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่จะมีความแข็งแรง สามารถพิมพ์ได้ง่ายกว่า เพราะตัวคีย์จะห่างกันไปด้วย แต่จะกินพื้นที่การใช้งานนิดหน่อย จึงเหมาะกับคนที่ต้องทำงานอยู่กับที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือที่บ้าน
การดูฟังก์ชัน Switching หรือ Multi Pairing ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อของคีย์บอร์ด และอุปกรณ์หลักที่ใช้งาน สามารถเชื่อมต่อกันได้หลายตัวพร้อมๆ กัน และสามารถสลับเครื่องไปมาได้ เช่น การเชื่อมต่อกับมือถือกับแท็ปเล็ต การเชื่อมต่อมือถือกับโน๊ตบุ๊ค ฯลฯ ซึ่งข้อดีของการมี Switching หรือ Multi Pairing ก็คือจะทำให้การใช้งานหลายเครื่องเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่ต้องสลับเครื่องเปลี่ยนไปมาอยู่เสมอ อย่างการเสนองาน หรือการเรียนการสอน ที่ต้องโยกย้ายอุปกรณ์อยู่เป็นประจำ รวมไปถึงการใช้งานทั่วไปที่ทำให้การเชื่อมต่อง่ายยิ่งขึ้นด้วย
กลไกของคีย์บอร์ด ที่ถึงแม้ว่าจะมีบางคนที่ไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่การเลือกซื้อกลไกของคีย์บอร์ดจริงๆ แล้วมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลย เนื่องจากรูปแบบของกลไกนั้น จะมีอยู่ถึง 4 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ
- Membrane กลไกที่เป็นแบบทั่วไป หรือในแบบเก่าก็ว่าได้ ที่เป็นพลาสติกครอบทับกับแผ่นยาง เมื่อกดแล้วแผ่นยางจะยุบตัวไปสัมผัสกับแผงวงจร แล้วก็เด้งกลับขึ้นมาใหม่ ซึ่งแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่ เป็นคีย์บอร์ดที่มีราคาถูกมาก และเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ที่ไม่ได้ใช้พิมพ์บ่อยนัก เนื่องจากการพิมพ์เร็วๆ หรือใช้งานบ่อยๆ แล้วปุ่มอาจไม่ทำงาน และแกะออกมาซ่อมค่อนข้างยากกว่าแบบอื่นด้วย
- Pantograph ปุ่มคีย์แบบกดง่ายสบายนิ้ว ที่มีรูปแบบคล้ายกับตัว Membrane แต่กลไกของตัวนี้ จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกว่า และสามารถสัมผัสปุ่มได้ดีกว่า รวมไปถึงการตอบสนองต่อการใช้งานที่ดีกว่าด้วย ทำให้แบบนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม สำหรับการใช้งานร่วมกับโน๊ตบุ๊ค หรือการใช้งานทั่วไป มีเสียงการกดที่เบา และนุ่มกว่าแบบอื่นด้วย
- Mechanical จะบอกว่ากลไกนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมมากเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นคนใช้งานทั่วไป หรือใช้งานหนักๆ ไปกับการเล่นเกม เนื่องจากทุกปุ่มจะมีสวิทช์ในตัวทั้งหมด เมื่อกดลงไปแล้วสวิทช์จะทำงานและส่งข้อมูลไปยังเครื่องทันที จึงทำให้การใช้งานทำได้เร็วขึ้น และถูกต้องแม่นยำกว่าแบบปกติก่อนหน้านี้ อีกอย่างคือคีย์บอร์ดกลไกแบบนี้ จะมีทั้งแบบมีเสียงปุ่มและมีความแข็งแรงสูงมาก สามารถถอดออกมาเปลี่ยนได้เลยหากปุ่มไหนพัง
- Capacitive Switch กลไกแบบสุดท้าย ที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับคนทำงานหนัก และใช้งานคีย์บอร์ดอยู่บ่อยๆ เนื่องจากกลไกนี้จะมีความผสมผสาน ระหว่างสปริงและยาง ทำให้การใช้งานตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และด้วยความแข็งแรงคงทนของกลไกนี้ จึงทำให้การเล่นเกมหรือใช้พิมพ์งานนานๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ราคา แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อระบบ ก็เป็นอีกหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะราคาของคีย์บอร์ดไร้สายจีมีตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว การดูงบประมาณของตัวเองด้วยนั้น ก็สำคัญอยู่ไม่น้อย รวมไปถึงแบตของตัวคีย์บอร์ดนั้น จะมีทั้งแบบที่สามารถชาร์จเพื่อใช้งานได้เรื่อยๆ กับแบบที่ใช้หมดแล้วหมดเลย ไม่สามารถชาร์จได้อีก ก่อนจะซื้อก็ควรดูก่อนทุกครั้งว่าเป็นแบบไหนด้วย ส่วนการเชื่อมต่อกับระบบนั้น ถึงแม้ว่าจะเชื่อมต่อได้ด้วย Bluetooth หรือ USB แต่ก็ควรดูก่อนทุกครั้งด้วยว่า สามารถเชื่อมต่อแบบเฉพาะ OS หรือไม่
ยี่ห้อคีย์บอร์ดไร้สายในปี 2020
หลังจากที่ดูการเลือกซื้อคีย์บอร์ดไร้สายกันไปแบบคร่าวๆ แล้ว ก็มาดูยี่ห้อคีย์บอร์ดที่น่าสนใจกันในปี 2020 กันบ้าง ซึ่งยี่ห้อต่างๆ ที่เราจะมาแนะนำกันนั้น ก็จะมีรุ่นที่ทำออกมาอีกหลายรุ่น และหลายรูปแบบด้วย แต่เราจะเอามาบอกเพียงแค่รุ่นที่ออกมาใหม่ในปีนี้เท่านั้น ไปดูกันเลยว่ามียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง
1. Logitech
มาเริ่มกันที่ยี่ห้อแรกกันเลยกับ Logitech ยี่ห้ออุปกรณ์เกี่ยวกับคอมฯ ชื่อดัง ที่ทำคีย์บอร์ดไร้สายออกมาให้ใช้งาน ทั้งแบบทั่วไปและแบบเกมมิ่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปทางด้านการใช้งานแบบทั่วไป ที่แบ่งย่อยออกไปอีกหลายรุ่น และมีหลายฟังก์ชันในบางรุ่น อย่างการใช้พร้อมกันหลายอุปกรณ์ ส่วนราคาก็จะมีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันกันเลยทีเดียว ยี่ห้อ Logitech นี้รับรองได้เลยว่าครบครันในเรื่องการใช้งานแน่นอน และนอกจากจะมีอุปกรณ์ที่เป็น Hardware ก็ยังมี Software ที่ให้ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ เพื่อตกแต่งหรือเพิ่มฟีเจอร์ให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือสายเกมมิ่งก็มีหมดเลย
รุ่นที่แนะนำ Bluetooth Milti-device Keyboard K480
- เชื่อมต่อ Bluetooth: ไม่เกิน 10 เมตร
- อายุแบตเตอรี่: 2 ปี
- Easy-Switch เชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์
- มีแท่นวางแบบในตัว
- รองรับ OS ทุกรูปแบบ
- ราคา 1,499 บาท
2. Keychron
Keychron ยี่ห้อคีย์บอร์ดชื่อดัง และขึ้นชื่อในเรื่องของอุปกรณ์เฉพาะคีย์บอร์ดเลย แน่นอนว่ายี่ห้อนี้ก็ต้องมีคีย์บอร์ดไร้สายทำออกมาให้ใช้งานกันแน่นอน แถมยังเป็นที่นิยมกันอยู่หลายรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Mechanical ที่มีการสัมผัสยอดเยี่ยม รองรับการเชื่อมต่อหลายแบบ ทั้งแบบ Bluetooth หรือ USB-C ได้ในตัว เพิ่มความหลากหลายให้การใช้งานเป็นอย่างมาก แถมยังมีฟังก์ชันการใช้งานให้เล่นกันอย่างหลากหลาย ราคาของคีย์บอร์ด ก็จะมีราคาอยู่ประมาณกลางๆ ไม่ได้สูงมากนัก ถ้าเทียบกับความคุ้มค่าการใช้งาน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป หรือใช้วางไว้กับโต๊ะทำงาน ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่จึงอาจพกพาไปไหนลำบากนิดหน่อย
รุ่นที่แนะนำ Keychron K2
- เชื่อมต่อ Bluetooth หรือ USB-C
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh
- มีไฟ RGB 15 รูปแบบ
- รองรับทุกระบบ
- ราคา 3,890 บาท
3. Corsair
ยี่ห้อคีย์บอร์ดที่ได้มาตรฐานทุกรูปแบบ และเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ผู้ใช้หลายคนชอบใช้งาน ด้วยการออกแบบที่สวยงาม และรูปทรงขนาดพอดีกับการเล่นเกม พร้อมการตอบสนองที่ไว และแม่นยำ จึงทำยี่ห้อนี้ติดตลาดอย่างง่ายดาย การเชื่อมต่อของคีย์บอร์ด Corsair ก็มีตั้งแต่แบบต่อสาย USB และคีย์บอร์ดไร้สายด้วยระบบการเชื่อมต่อที่เร็วถึงระดับ 2.4 GHz คีย์บอร์ดส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Mechanical เพื่อเพิ่มอรรถรสในการใช้งาน และกดได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ในบางรุ่นยังเพิ่มความปลอดภัยจากการดักฟังได้ด้วย เหมาะกับการพกพาด้วยขนาดที่กำลังดี จะเล่นเกมหรือใช้ทำงาน ก็ใช้ได้ประสิทธิภาพดีทั้งนั้น
รุ่นที่แนะนำ Corsair K63
- เชื่อมต่อ Wireless 2.4GHz / Bluetooth / USB 2.0
- แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 15 ชั่วโมง
- มีไฟ LED ปรับแต่งได้ด้วย CORSAIR Utility Engine (CUE)
- ปลอดภัยด้วย AES แบบ 128 bit
- มี Anti-GHOSTING แบบ 100%
- ราคา 3,990 บาท
5. Microsoft
ถ้าพูดถึง Microsoft หลายคนคงนึกถึงแค่ระบบปฏิบัติการณ์ Windows หรืออาจจะนึกถึงแล็ปท็อปของ Microsoft แต่นอกจากอุปกรณ์ใช้งานหลักๆ แล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ควบคู่กับตัวเครื่อง ก็น่าสนใจและน่าใช้งานไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคีย์บอร์ดไร้สาย ที่ทาง Microsoft ได้ทำออกมาอยู่หลายรุ่น ทั้งแบบเรียบง่าย มีสไตล์หรูหราเรียบง่าย ไปจนถึงคีย์บอร์ดที่สามารถใช้งานเข้ากับการมืออย่างรุ่น Sculpt Ergonomic Desktop ที่ช่วยให้การใช้งานเข้ากับการวางมือมากที่สุด ช่วยให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยไม่เสียสรีระ และวางได้อย่างผ่อนคลายมากที่สุด หรือจะเป็นแบบที่มี Touchpad ในตัวเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้มากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นมาตรฐานที่ใช้ได้กับทุกงาน และมีขนาดกะทัดรัด พกพาไปใช้งานที่ไหนก็สะดวก ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมากนัก แค่หลักร้อยก็มี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าใช้งานอยู่ไม่น้อยเลย
รุ่นที่แนะนำ Microsoft USB Wireless All-in-One Media
- เชื่อมต่อ USB
- ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งสองมือ มี Touchpad ในตัว
- ควบคุมได้ไกลถึง 9 เมตร
- ปลอดภัยด้วย AES แบบ 128 bit
- กันน้ำ และกันกระแทกได้ (ที่ไม่รุนแรงมาก)
- ใช้งานได้กับ Windows OS (อื่นๆ ใช้ได้แบบจำกัด)
- ราคา 1,280 บาท
6. Anitech
Anitech เป็นยี่ห้อที่หลายคนอาจเคยได้ยินกันมาบ้าง จากการโด่งดังในเรื่องของการทำปลั๊กไฟ แต่นอกจากอุปกรณืเหล่านี้แล้ว Anitech ก็ยังทำอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ ที่ใช้งานร่วมกับคอมฯ ไม่ว่าจะเป็นเมาส์ หูฟัง เกมมิ่งเกียร์ คีย์บอร์ดไร้สาย คีย์บอร์ดมีสาย และอุปกรณ์ที่นอกเหนือจากนี้อีกเยอะมาก แต่ตัวที่เป็นคีย์บอร์ดแบบไร้สาย จะมีทำออกมาอยู่ไม่กี่รุ่น แต่ก็ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานอยู่ไม่น้อย เนื่องจากมีราคาที่จับต้องได้ แค่หลักพันต้นๆ และบางที่ก็อาจขายไม่ถึงด้วยซ้ำ นอกจากเรื่องราคาแล้ว การออกแบบและฟังก์ขันการใช้งานของ Anitech ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากแบรนด์ชั้นนำเลยด้วย เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ หรือจะวางติดไว้กับที่ก็ได้ ใครที่มีงบไม่สูงมาก แต่อยากได้คีย์บอร์ด Wireless ที่มีฟังก์ชันครบ ยี่ห้อนี้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าใช้งานสูงเลย
รุ่นที่แนะนำ Anitech Wireless Keyboard with Touch Pad P503
- เชื่อมต่อด้วย USB
- ใช้งานได้ทั้งสองมือพร้อมมี Touchpad ในตัว
- เทคโนโลยีไร้สาย 2.4 GHz รับสัญญาณไกล 9-10 เมตร
- แบตเตอรี่ AAA
- ราคา 1,040 บาท
7. Xiaomi
สำหรับ Xiaomi ที่ทำผลิตภัณฑ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ออกมาให้ใช้งานหลากหลายมาก ตั้งแต่เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในบ้าน นอกบ้าน สมาร์ทโฟน เมาส์ไร้สาย คีย์บอร์ดไร้สาย และอุปกรณ์อีกหลายอย่างมาก เรียกได้ว่าอะไรที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำได้ Xiaomi ก็ทำหมดแล้ว แน่นอนว่าเรื่องของคีย์บอร์ด ก็ต้องทำออกมาไม่น้อยหน้าใครอยู่เหมือนกัน ซึ่งมีทั้งแบบคีย์ทั่วไป และแบบ Full 104 keys พร้อมกับการเชื่อมต่อที่เร็วไวถึง 2.4 GHz ที่บางรุ่นนั้นมาพร้อมกับเมาส์ไร้สายเลยในตัว ส่วนด้านรูปแบบการดีไซน์ของ Xiaomi นั้นก็จะทำออกมาตอบสนองการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยราคากลางๆ ที่ไม่ได้แพงมากนัก แต่ได้การใช้งานแบบครบเครื่อง เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ พกพาไปไหนมาไหน ก็สะดวกด้วยน้ำหนักที่เบา และมีความแข็งแรงคงทนกับการใช้งานทุกรูปแบบ
รุ่นที่แนะนำ Xiaomi MIIIW Dual-mode Bluetooth Keyboard 104 Keys
- เชื่อมต่อ Bluetooth 4.2
- พิมพ์ได้สูงสุดถึง 3 ล้านครั้ง
- ปุ่ม Keyboard 104 Keys
- มีช่องสำหรับวางสมาร์ทโฟน
- รองรับทุกระบบการใช้งาน
- ราคา 1,299 บาท
8. Apple
มาถึงยี่ห้อสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้แล้วกับ Apple ที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีชั้นนำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยเฉพาะ iPad, iPhone และ MacBook ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่นาน และสำหรับคนที่ใช้งาน iPad สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ Magic Keyboard ที่เป็นคีย์บอร์ดไร้สาย ผสมผสานความเรียบหรู บางเฉียบ ดูแล้วสบายตา สามารถใช้งานร่วมกันกับ Mac หรือ iPad และอุปกรณ์ของ Apple ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมาก ทั้งตัวคีย์บอร์ดและปุ่ม ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานได้ลงตัว พิมพ์ได้สะดวก และมีความแม่นยำ พกพาสะดวก เพราะมีขนาดเล็ก และมีน้ำหนักเบา คีย์บอร์ดของ Apple นั้นสามารถชาร์จแบตได้ในตัว เพียงชาร์จเต็มครั้งเดียว ก็สามารถอยู่ได้นานเป็นเดือน หรืออาจมากกว่านั้น อยู่ที่การใช้งานด้วย เหมาะกับคนที่ใช้อุปกรณ์ของ Apple อยู่แล้ว และต้องการหาคีย์บอร์ดที่เข้ากันกับอุปกรณ์มากที่สุดมาใช้งาน
รุ่นที่แนะนำ Apple Magic Keyboard
- เชื่อมต่อ Bluetooth และพอร์ต Lightning
- รองรับ Mac ที่มี Bluetooth และใช้ OS X 10.11 หรือใหม่กว่า และ iOS 9.1 ขึ้นไป
- แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 1 เดือน (อยู่ที่การใช้งาน)
- ราคา 3,290 บาท
แล้วทั้งหมดนี้ ก็เป็นยี่ห้อคีย์บอร์ดไร้สายทั้ง 8 ยี่ห้อที่น่าใช้งานกันในปี 2020 ซึ่งความจริงแล้ว มีอีกหลายยี่ห้อมาก ที่มีคีย์บอร์ดแบบไร้สายเช่นเดียวกัน ในราคาที่ไม่สูงมาก บางยี่ห้อก็มีราคาไม่ถึงหลักพันด้วยซ้ำ อย่างเช่น Ajazz, Oker, Rapoo และอีกหลายยี่ห้อบนร้านค้าออนไลน์ต่างๆ แต่ยี่ห้อที่เราได้แนะนำนั้น เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยม และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพดีจริง ใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้ออยู่ ก็ลองดูว่างบประมาณ และสิ่งที่อยากได้นั้นเป็นแบบไหน และใช้งานเพื่ออะไร โดยดูจากการเลือกซื้อที่เราได้แนะนำกันแบบคร่าวๆ ด้านบนกันไปแล้วได้เลย และถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ
