Connect with us

Hi, what are you looking for?

Gaming Gear

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง 7 รุ่นเด็ด Mechanical keyboard งบ 2,990 บาท คุ้มน่าใช้

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นของที่อยู่คู่กับเกมเมอร์แบบแยกกันไม่ออก เพราะเป็นตัวคอนโทรลทุกสิ่ง ไม่น้อยหน้าเมาส์เกมมิ่ง ที่ต้องไปคู่กัน โดยเฉพาะ Mechanical keyboard ที่มีคีย์สวิทช์ (Key switch) ให้เลือกมากมาย และช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกกับการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น เพราะคีย์บอร์ดเหล่านี้ออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่น สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Anti-Ghosting, Key rollover หรือจะเป็นสวิทช์ที่ตอบสนองได้ไว ทำให้การเคลื่อนไหวทำได้รวดเร็ว ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมเหล่านี้ วันนี้ทีมงานจัดมาให้ 7 รุ่น ในงบประมาณไม่เกิน 2,990 บาท มาให้เป็นทางเลือกกัน

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง 7 รุ่น ในงบ 2,990 บาท

1. HyperX ALLOY FPS Pro TKL

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

จัดเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดตัวจี๊ดในแบบ TKL หรือ Ten Keyless คือเน้นความกระชับ พกพาสะดวก ไม่เปลืองพื้นที่โต๊ะ เพราะตัดในส่วนของ Numpad ออกไป สำหรับสายโหดโดยแท้ แนวดิบๆ ที่มาพร้อมคีย์สวิทช์ CHERRY® MX Blue หรือ Red Switch ให้เลือก อัตราตอบสนองใกล้เคียงกัน แต่เรื่องจังหวะก็แล้วแต่ความชอบ รวมถึงความอึดถึก ที่จัดมาให้เต็มที่ ปุ่มสวิทช์ที่คลิ๊กได้ในระดับ 60 ล้านครั้ง รวมถึงบอดี้โลหะแบบแน่นๆ เน้นความทนทาน

Advertisement

พร้อมฟีเจอร์สำคัญ เช่น Game Mode, 100% Anti-Ghosting และ N-Key rollover เป็นต้น และทาง HyperX ยังจัดแสงไฟ LED Backlit สีแดงสดใสมาให้ เพิ่มความเร้าใจในการเล่น สายต่อ USB ถอดได้ สามารถปรับระดับความชันของคีย์บอร์ดได้ 3 ระดับ แต่อย่างที่บอกคือ คีย์บอร์ดรุ่นนี้ เน้นความดิบแบบเดิมๆ สำหรับโปรเกมเมอร์ ที่ไม่ชอบการแต่งเติมปุ่มให้วุ่นวาย รวมถึงตอบโจทย์คนที่อยากได้คีย์บอร์ดขนาดกระทัดรัด พกง่าย วางสะดวก ราคารุ่นนี้ลดลงมาจากเดิมเหลือแค่ 2,590 บาท โดยประมาณ

ข้อมูลเพิ่มเติม: HyperX

2. Steelseries Apex 3 RGB

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

เอาใจเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่นแบบเพลินๆ เน้นใช้งานง่าย เสียงเบา และสวยงาม อาจไม่ได้เป็นสายลุย แต่ได้ความบันเทิง เพราะคีย์บอร์ดรุ่นนี้ ให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่ให้ความทนทาน ว่ากันตั้งแต่บอดี้ ไปจนถึงปุ่ม โครงสร้างที่เป็นอะลูมิเนียม เกรดเดียวกับที่ใช้ในอากาศยาน ทนความร้อนได้ดี ขนาดแบบ 108-key ที่มี Numpad มาในตัวครบ ที่เป็นไฮไลต์คือ กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP32 เหมาะกับคนที่ใช้งานในบ้านหรือสำนักงานที่ต้องเจอกับสภาวะฝุ่นเยอะ ไม่ต้องกังวลเวลาวางทิ้งไว้ ปุ่มที่ใช้เป็นแบบ Membrane ที่แม้จะไม่ได้เป็น Key switch แบบ Mechanical แต่ข้อดีคือ กดนุ่ม ตอบสนองได้ไว และไม่มีเสียงรบกวน จึงไม่ต้องกังวลเวลาที่คุณจะเล่นเกมในห้อง หรือในพื้นที่อื่นๆ ไม่ก่อความรำคาญ เหมาะกับคนที่ต้องพักอยู่กับคนอื่นๆ

ได้ฟีเจอร์ครบครันในแง่ของการเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็น Anti-Ghosting และ Key Roll-Over เพิ่มความสวยงาม ด้วยแสงไฟแบบจัดเต็ม ด้วยไฟ LED 16.8 ล้านสี และยังปรับแต่งได้เช่นเดียวกับใน Apex ซีรีส์อื่นๆ และที่เป็นเอกลักษณ์เอาใจเกมเมอร์ก็คือ ที่รองมือแบบแม่เหล็ก ที่มีความนุ่มนวล ใช้งานได้ถูกสรีระ ที่สำคัญมีปุ่มมัลติมีเดียมาให้อีกด้วย โดยรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบปุ่ม TH+EN และแบบ EN เพียงอย่างเดียว ใครที่ชอบปุ่มคีย์ใหญ่ ไฟทะลุทุกตัว ไม่น่าพลาด เคาะราคาอยู่ที่ประมาณ 2,590 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: Steelseries

3. Logitech G613

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

ขยับมาอีกรุ่นเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งจากค่าย Logitech ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มาพร้อม G series ที่ในวันนี้ก้าวมาอยู่ในตลาดเกมมิ่งได้แบบเต็มไลน์ ซึ่งใน G613 นี้ แม้จะอยู่ในตลาดได้สักระยะแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบอดี้ที่มีความเรียบหรู ดูทันสมัย ในโทนสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ มาในแบบ Full-size ครบครันทั้ง Numpad และ Multi-media key ที่มีให้ครบครัน บอดี้มีความทนทาน ไม่เป็นรอยง่าย กับน้ำหนักที่ช่วยให้ไม่เคลื่อนไปมา กดได้สะดวก ปุ่มเป็นแบบพิเศษเฉพาะของทาง Logitech เรียกว่า Romer-G เป็นแบบ Tactile แต่เสียงรบกวนน้อย และเป็นลักษณะของ Mechanical เช่นเดียวกัน ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์อีสปอร์ตได้ดี ระยะตอบสนองเพียง 1.5mm ใครที่ชื่นชอบความไวและเสียงเงียบ น่าจะมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น ที่ให้คุณได้ จะเล่นเกมหรือพิมพ์สัมผัส ก็ใช้งานได้ดี ความทนทานระดับ 60 ล้านครั้ง

นอกจากนี้ยังมีปุ่มด้านข้างซ้าย ที่กลายเป็น G-Key หรือฮอตคีย์ ที่ช่วยในการเล่นเกม ด้วยการตั้งมาโครได้ถึง 6 ปุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี ใช้เวทย์ใหญ่ การเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนอาวุธ ปุ่มเหล่านี้ช่วยทำให้สะดวกขึ้น โดยทำงานผ่าน G-Hub ในการกำหนดค่าและบันทึกเป็นโพรไฟล์ได้อีกด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ คีย์บอร์ดนี้เป็นแบบไร้สาย เชื่อมต่อได้ผ่านทาง Bluetooth แม้ไร้สาย แต่ก็ตอบสนองได้ไวไม่ต่างไปจากไร้สายเลยทีเดียว ใช้พลังจากแบต AA 2 ก้อน ใช้งานได้หลายเดือน และมีไฟ LED แสดงสถานะแบตอีกด้วย มีทั้งปุ่มที่เป็น TH และ EN ครบ พร้อมแสงไฟทะลุเห็นได้ชัดเจน ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,590 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: Logitech

4. DUCKY ONE 2 MINI RGB

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

เมื่อก่อนจะเป็นเจ้าของคีย์บอร์ด DUCKY กับคีย์ระดับโลก ต้องจ่ายกันหนัก แต่เวลานี้ราคาจับต้องได้แล้ว เช่นเดียวกับ DUCKY ONE 2 กับไซส์มินิเอาใจเกมเมอร์ที่เน้นการเล่นเกมจริงจัง ไม่ต้องการฟีเจอร์ที่ฟุ้งเฟ้อมากเกินไป กับดีไซน์ขนาดเล็กกระทัดรัด จำกัดพื้นที่ให้น้อยกว่า TKL ด้วย Cherry MX key switch ที่เป็น Blue switch ให้อัตราการตอบสนองไว ด้วย Traverl key ที่สั้่น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคอเกม ที่ต้องการความคล่องตัวรวดเร็ว ตัวปุ่มเป็นแบบ double-shot ยิงเลเซอร์มาแบบคมกริบ ให้แสงไฟ LED Backlit คมชัดสดใส ปรับแต่งได้ผ่านซอฟต์แวร์ DuckyRGBSeries อีกด้วย ซึ่งแต่งได้หลายรูปแบบเลยทีเดียว

ปรับความสูงได้ 3 ระดับ พร้อมฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกม N-key หรือ 6-Key Rollover และให้การเชื่อมต่อในแบบ USB Type-C to Type-A ซึ่งทำให้อัตรา Polling rate สูงขึ้น ตอบสนองได้ไว เรื่องของความทนทานรองรับการกดได้มากกว่า 60 ล้านครั้ง จากคีย์สวิทช์คุณภาพ เคาะราคาออกมาที่ 2,590 บาท เท่านั้น จัดว่าเป็นคีย์บอร์ดระดับแนวหน้าอีกรุ่น ที่ทำราคาออกมาได้น่าสนใจไม่น้อยเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม: DUCKY

5. Corsair K68 Red

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

คีย์บอร์ดเกมมิ่งครบเครื่องอีกรุ่นหนึ่ง ที่ราคาจับต้องได้ในตลาดเวลานี้ กับค่ายที่เรียกว่ามีเกมมิ่งเกียร์หลากรุ่นหลายซีรีส์ให้ได้เลือกใช้กัน สำหรับ K68 นี้ จะเป็นอีกกลุ่มคีย์บอร์ดในตลาดมัลติมีเดียและเกมมิ่งคู่กัน เพราะจัดฟีเจอร์ได้ความบันเทิงมาครบครัน รวมถึงคีย์สวิทช์แบบ Cherry MX ที่จัดวางในตัวด้วย พร้อมจุดเด่นในการปรับแต่งแสงไฟบนคีย์บอร์ดได้ และความทนทานในระดับ IP32 เพื่อให้มั่่นใจในการใช้งานในชีวิตประจำวันของเกมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหรือฝุ่นก็ตาม ด้วยการออกแบบบอดี้ที่ให้ความทนทาน มาในโทนสีดำ กับปุ่มแบบ Full-size ด้วย Numpad และปุ่ม Multi-media ที่้มีแยกมาให้ เอาใจสายบันเทิง ปุ่มในซีรีส์ Red นี้ เป็นคีย์ Cherry Red ที่ตอบสนองไว แต่เสียงรบกวนน้อย ความทนทานระดับ 60 ล้านคลิ๊ก โดยมีฟีเจอร์สำคัญอย่าง 100% anti-ghosting และ full key rollover เพื่อลดปัญหาการกดคีย์ซ้ำหรืออาการหลอน เมื่อกดหลายปุ่มพร้อมกัน

โดยมีที่รองมือขนาดใหญ่ วางยาวตลอดทั้งตัว พร้อมด้วยแสงไฟ LED Red Backlight ที่แม้จะปรับแสงสีในแบบ RGB ที่หวือหวาไม่ได้มาก แต่ก็ปรับเอฟเฟกต์ความสว่าง และรูปแบบที่ต้องการได้ ผ่านซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า iCUE มีปุ่มมัลติมีเดียด้านบน สำหรับปรับระดับเสียง เปิด-ปิด FW/RW ได้ง่ายดาย จัดว่าเป็นคีย์บอร์ดสำหรับเกมเมอร์อีกรุ่นหนึ่งที่ทำราคามาจนน่าจับจองอย่างยิ่ง ใครที่มองว่าอยากได้คีย์บอร์ดแบบ Mechanical ตัวเดียวจบ ได้ทั้งเล่นเกมและมัลติมีเดีย มีแสงไฟให้เล่นได้บ้าง ปรับแต่งมาโครได้ในงบประมาณ 2,890 บาท ก็ลองได้เลย

ข้อมูลเพิ่มเติม: Corsair

6. TT Premium X1 RGB

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

มาถึงคีย์บอร์ดเกมมิ่งลูกเล่นเยอะ ดีไซน์สวย และฟีเจอร์เอาใจคอเกมและสายบันเทิงสุดๆ ในงบประมาณ 2,990 บาท กับ Tt Premium X1 ที่มาพร้อมความโดดเด่นในด้านการออกแบบกับบอดี้ที่ให้ความแกร่งทน ในโทนสีเทาดำ กับเลย์เอาท์ปุ่มแบบ Full-size มาพร้อม Numpad และเพิ่มปุ่ม Multi-media key เอาใจสาวกความบันเทิง ไม่ว่าการเล่นเพลงหรือวีดีโอ ก็สะดวกต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Play/Pause, RW/FW รวมถึงการเพิ่ม-ลดเสียงด้วยปุ่ม Roller หมุนง่าย ไม่ต้องกดให้เมื่อย นอกจากนี้ยังตั้งโหมดเกม สำหรับการเล่นของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น FPS1, FPS2, MMO, MOBA หรือ RTS และยังเปิดให้ Customize ได้แบบสุดๆ ทั้งในเรื่องของเกมและแสงสี

ไฮไลต์ของคีย์บอร์ดนี้ ยังรวมถึงคีย์สวิทช์จาก Cherry MX ในแบบ Silver speed ซึ่งเป็นสวิทช์ใหม่ เอาใจคนที่ชอบงความเร็ว แบบไม่สนจังหวะคลิ๊ก เรียกได้ว่ากดเป็นมา เร็วกว่าคีย์ปกติ 40% นอกจากนี้ยังสามารถปรับแสงไฟ RGB ได้บนปุ่ม กับโพรไฟล์พื้นฐานได้ 12 รูปแบบ ให้ได้เอฟเฟกต์ตามที่คุณต้องการ กับแสงไฟ 16.8 ล้านสี และยังเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ของทาง Tt ไม่ว่าจะเป็น เพาเวอร์ซัพพลาย Cooling, Water block ชุดน้ำปิดและอื่นๆ ได้อีกด้วย รวมถึงการปรับตั้งค่าผ่านทางสมาร์ทโฟน ผ่านการใช้งาน Voice control ได้อีกด้วย ฟีเจอร์แน่นๆ แบบนี้ ถือว่าน่าใช้งานไม่น้อยเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม: TT Thermaltake

7. COUGAR PURI RGB

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง

เป็นอีกค่ายที่เรียกว่าจัดจ้านในย่านนี้ และมีไลน์คีย์บอร์ดเกมมิ่งสำหรับเกมเมอร์ในกลุ่มต่างๆ มากมายเลยทีเดียว เช่นเดียวกับ PURI RGB นี้ ที่จัดฟังก์ชั่นสำคัญมาให้อย่างครบครัน กับบอดี้ที่ดูหรูหรา ออกแบบมาเป็นอย่างดี ไม่ดูเทอะทะ ลงตัวกับพื้นที่จัดวางบนโต๊ะเกมมิ่งไม่ใหญ่ จุดเด่นที่เป็นไฮไลต์ กับฝาครอบแม่เหล็ก ที่แทบจะหาได้ยากในตลาด ด้วย Cover ที่ครอบป้องกันน้ำและฝุ่น เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือเมื่อต้องการพกพาไปใช้ในที่ต่างๆ คีย์สวิทช์ Cougar Blue ที่ให้ความทนทานในการกดได้ถึง 50 ล้านครั้ง ระยะ Travel ไม่ลึกมาก แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้กดลั่นได้ง่ายๆ ช่วยให้คุณกดได้อย่างสนุกมือ กับจังหวะคลิ๊กและเสียงในสไตล์ Clicky ของปุ่มนี้

คีย์บอร์ดยกระดับได้ 3 สเตป ให้ความนิ่งและแน่น รวมถึงฟังก์ชั่นสำคัญ N-Key Rollover และปุ่มมัลติมีเดียที่จัดมาให้เบาๆ บนแถบด้านบนของ Numpad แต่ที่สวยจัดไม่ต้องอายใครก็คือ เรื่องไฟ RGB ที่มีให้เต็มพิกัด เอาใจเกมเมอร์ที่เน้นความสวยงาม โชว์ได้กับระบบแสงไฟ RGB 14 รูปแบบ ปรับแต่งได้ถึง 13 โหมด มาพร้อมสายยาว 1.8 เมตร และทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ในการปรับแต่งฟังก์ชั่นได้อีกด้วย สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 2,590 บาทเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: COUGAR

คีย์บอร์ดเกมมิ่งยอดนิยม ธันวาคม 2563

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Gaming Gear

หลังจาก Mechanical Keyboard กลายเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดยอดนิยมของเกมเมอร์ส่วนใหญ่ไปแล้ว ในตอนนี้ Magnetic Switch คีย์บอร์ดก็เริ่มได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์สาย FPS มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะควบคุมตัวละครได้รวดเร็ว ขยับตัวละครหลบไปมาได้ว่องไวด้วยฟีเจอร์ใหม่อย่าง Snap Tap โดยเฉพาะจังหวะหลบอยู่มุมตึกแล้วขยับตัวออกมาเล็กน้อยเพื่อยิงฉวยจังหวะ ทำให้ผู้พัฒนาเกมบางเกมต้องแบนฟีเจอร์ทิ้งเพื่อความยุติธรรมของเกมเมอร์ทุกคนไปโดยปริยาย หลักการทำงานของสวิตช์แม่เหล็กจะต่างจากสวิตช์ทั่วไปตรงที่ไม่ต้องปล่อยให้ปุ่มคีย์บอร์ดถอยกลับไปจนสุดให้เข้าระยะ Reset การทำงานของปุ่ม แต่ปล่อยออกมาส่วนเดียวแล้วกดปุ่มสวนกลับไปให้ทำงานได้ทันที ปรับระยะกดแล้วทำงาน (Actuation Point) ให้ตื้นขึ้นหรือลึกลงไปได้ตามแต่ถนัด...

Buyer's Guide

ในตอนนี้คีย์บอร์ดแมคคานิคอลได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของใครๆ ไม่ว่าจะใช้เป็นอุปกรณ์ทำงานหรือเล่นเกมก็ต้องมีติดโต๊ะเอาไว้ใช้ทั้งนั้น แถมราคาก็ถูกลงอย่างต่อเนื่องจากแต่ก่อนต้องมีเงินหลักหลายพันบาทก็ลดลงมาจนมีเพียงหนึ่งพันบาทต้นๆ ก็ซื้อมาใช้ได้แล้วแถมยังตอบรับกระแส Custom Keyboard แถมตัวถอดสวิตช์กับคีย์แคปมาให้ถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ตามใจ จะปรับแต่งต่อก็ว่าไปตามใจ เรียกว่าใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินก็ได้หรือจะทำเป็นงานอดิเรกของสะสมก็ดี โดยเฉพาะคนต้องพิมพ์งานทั้งวันน่าจะถูกใจ คีย์บอร์ดแมคคานิคอลน่าใช้ไหม มีข้อดีอย่างไร? คีย์บอร์ดแมคคานิคอลจะมีทั้งรุ่นถอดสวิตช์ไม่ได้และถอดได้แบบ Hot-swappable หลายคนนิยมแบบ Hot-swappable เพราะสามารถถอดเปลี่ยนสวิตช์ได้ตามชอบ ซึ่งปัจจุบันมีทั้ง 3, 5 ปุ่ม ดังนั้นก่อนซื้อสวิตช์มาเปลี่ยนต้องดูช่องบนแผ่นปริ้นท์ให้ดีก่อน บางรุ่นนอกจากต่อสายแล้ว ยังมีสวิตช์เปลี่ยนโหมดเชื่อมต่อด้วย...

Gaming Gear

แมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายนอกจากเป็นเกมมิ่งเกียร์ติดโต๊ะคอมประจำบ้านแล้ว หลายๆ คนก็ซื้อมาใช้ทำงานในออฟฟิศเพราะสัมผัสเวลาพิมพ์งานดี ได้อารมณ์กว่าคีย์บอร์ดทั่วไปคนละชั้นไม่พอ ตอนนี้ก็หาซื้อได้ง่ายไม่แพ้กันทั้งหน้าร้านค้าจริงหรือออนไลน์ก็มีตัวเลือกมากมายตั้งแต่หลักร้อยบาทประกอบมาสำเร็จรูปพร้อมใช้งานหรือไปหลักพันบาทกลาง ดีไซน์มาให้เจ้าของปรับแต่งต่อได้แทบทุกส่วนตามรสนิยมของผู้ใช้จนกลายเป็นงานอดิเรกใหม่ของใครหลายๆ คนไปโดยปริยาย เลือกแมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายอย่างไรดี? แมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายมักเชื่อมต่อด้วย USB RF 2.4GHz และบางรุ่นอาจรองรับ Bluetooth ด้วย แมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายหลายรุ่นในปัจจุบันสามารถกดสลับเลย์เอาท์ระหว่าง Windows หรือ macOS ได้ด้วยคีย์ลัดบนคีย์บอร์ด นอกจากคอมพิวเตอร์แล้ว แมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายก็ต่อ Bluetooth ใช้กับแท็บเล็ตได้ด้วย...

รีวิว MSI

MSI Bravo 15 C7VFK ถ้าเปลี่ยนบอดี้จะเรียกว่าใหม่แกะกล่องหมดจดก็ได้! หลังจาก MSI Bravo 15 B5E สร้างชื่อในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD ล้วนราคาเป็นมิตรในงบ 30,000 บาท MSI Bravo 15 C7VFK รุ่นปรับสเปคเพิ่มความแรงก็รีเทิร์นมาเขย่าตลาดให้เกมเมอร์ต้องอยากได้อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทาง MSI ปรับแต่งสเปคจากรุ่น AMD...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก