Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Acer

รีวิว Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 แรงล้ำบางเบา ได้ Intel EVO พร้อมเคลือบสาร Antimicrobia เริ่มต้น 33,990 บาท

Acer Swift 5 รุ่นล่าสุด เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบารูปแบบใหม่ ได้แพลตฟอร์ม Intel EVO ที่ไม่ใช่แค่บางเบาแบบสุดๆ แต่ยังได้ยกระดับการใช้งานด้วยฟีเจอร์เคลือบสาร Antimicrobial ป้องกันแบคทีเรียที่หน้าจอ Corning Gorilla Glass รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ของตัวเครื่อง อย่างที่ไม่เคยมีโน้ตบุ๊คแบบนี้มาก่อนบนโลกเลย พร้อมได้สเปกที่แรงลื่นขึ้นจากการที่เป็น Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม 10 นาโมเมตร Tiger Lake

โดดเด่นด้วยได้พอร์ต Thunderbolt 4 ที่โอนไฟล์ไว ชาร์จไฟได้ ต่อจอแยกก็ได้ 4K / 8K สนนราคาเริ่มต้น 33,990 บาท เป็นสเปก Intel Core i5 และ Core i7 จะอยู่ที่ 41,990 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นติดตั้งแรมขนาด 16GB มาเลย ได้ประกัน 3 ปี (On-site Service ในปีแรก) พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมงด้วย สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) ที่ประกอบไปด้วย Word / Excel / Power Point ใช้งานยาวๆ ติดเครื่องได้เลยทันที 

Advertisement

Acer Swift 5

VDO Review

NBS Verdict

Acer Swift 5 (SF514-55) สเปก Core i Gen 11 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คซีรีส์หนึ่งที่มีน้ำหนักเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง จากความเบาเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งต้องยอมรับว่าหนักว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย จากการที่จอเป็นกระจักทัชสกรีนได้ และบางเฉียบที่ 14.95 มิลลิเมตร กับมาตรฐานหน้าจอขนาด 14″ใช้พาเนลแบบ IPS ความละเอียด Full HD

เรียกได้ว่าเป็น Ultrabook รุ่นใหม่ได้ Intel EVO ที่น่าสนใจจริงๆ มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin ซึ่งมี AI ช่วยทำงานมนตัวไปอีกขั้น อีกทั้งยังมาพร้อมมาตรฐานพอร์ต Thunderbolt 4 ที่ดีที่สุด และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 13 ชั่วโมง

Acer Swift 5

ที่สำคัญยังได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ด้วย ซึ่งแม้ประสิทธิภาพก็คงจะสู้โน๊ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพอย่าง Acer Nitro 5 ไม่ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็จัดว่าทำงานหนักๆ หรือเล่นเกมได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ หน้าจอ ได้ค่าขอบเขตสีระดับ sRGB 91% นั่นเอง พร้อมจอกระจกทัชสกรีนมีการเคลือบสาร Antimicrobial และส่วนอื่นๆ ของตัวเครื่องอีกด้วย

Acer Swift 5

Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 รุ่นไม่มีการ์ดจอแยกได้มีการออกมาจำหน่ายก่อน สำหรับราคาเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ถือว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ความเบา งานประกอบ วัสดุ สเปก และฟีเจอร์อื่นๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 33,990 บาท และ 41,990 บาท (คาดว่ารุ่นการ์ดจอแยก MX Series จะตามมาภายหลัง)

ที่จะว่ากันตามจริง ซื้อเพียงรุ่นเริ่มต้นก็เหลือๆ ในการใช้งานทั่วไปแล้วล่ะ อย่างเล่นเน็ต ดูหนังฟังเพลง ทำงานเอกสาร รวมไปถึงเล่นเกมออนไลน์ 3 มิติ หรือตัดต่อวีดีโอ โดยเมื่อเทียบกับหลายๆ แบรนด์โน๊ตบุ๊คในรุ่นที่ใกล้เคียงกันนับว่าคุ้มค่ามากๆ เหมาะที่สุดสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเบาที่สุด แต่ให้ประสิทธิภาพดีสุดช่วงงบประมาณ 30,000 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว

จุดเด่น Acer Swift 5

  • น้ำหนักเบา 1 กิโลกรัม พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ รุ่นหนึ่งที่เบาที่สุดในตลาด ขอบจอบาง ตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่น 13″
  • หน้าจอ Corning Gorilla Glass และตัวเครื่อง คลือบสาร Antimicrobial ป้องกันแบคทีเรีย
  • มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Swift 5 มีความหรูหรา เกินราคา
  • วัสดุทำจากอลูมิเนียมเกรดดีตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
  • สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว จาก Core i Gen 11
  • แรมจัดเต็ม 16GB และได้ SSD M.2 ที่มีความรวดเร็วในการใช้งานเหลือเฟือ
  • หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS สีสันสวยงามเนียนตา พร้อมทัชสกรีน
  • ติดตั้ง Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ใหม่สุดๆ พร้อมรองรับ MIMO
  • มีพอร์ต Thunderbolt 4 มาตรฐานใหม่ ใช้งานได้หลากหลาย อาทิ ชาร์จไฟ PD / ต่อจอแยก
  • มีสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ใช้งานร่วมกับ Windows Hello
  • มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานติดต่อกันได้สูงสุด 13 ชั่วโมง
  • ประกัน 3 ปี (On-site ปีแรก) ส่งศูนย์ซ่อมไวใน 3 ชั่วโมง
  • ได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท)

ข้อสังเกต Acer Swift 5

  • อัพเกรดอุปกรณ์ได้เพียง SSD เพราะแรมฝั่งบอร์ดมาแล้ว
  • มีน้ำหนักมากกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน
  • ตัวเครื่องและอแดปเตอร์ที่ให้มา ยังไม่เป็นมาตรฐาน USB-C 

Specification

Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 มาพร้อมกับ 2 สเปก 2 ราคา และมี 2 สีให้เลือก โดยเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-1135G7 (2.40 – 4.20GHz) หรือ Intel Core i7-1165G7 (2.80 – 4.70GHz) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลที่ดีและสามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้ที่ต้องบอกว่าแรงมากๆ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ทำงานได้หลากหลาย

ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ พร้อมการ์ดจอออนชิปรุ่นใหม่ทั้ง Intel Iris Xe Graphics ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และด้วยการที่เป็นสถาปัตยกรรม Tiger Lake Lake เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตรรุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ร้อนน้อยกว่าเดิม พร้อมประสิทธิภาพของ AI ที่เร็วขึ้น 2.5 – 3 เท่า นับว่าก้าวกระโดดจาก Acer Swift 5 รุ่นก่อนพอตัวเลยทีเดียว

Acer Swift 5

มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB LPDDR4X 4266 MHz ทั้ง 2 สเปก และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ รองรับการสำรองไฟล์ต่างๆ ได้แบบสบายๆ สนับสนุนการทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ  ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ

ส่วนความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ชม Netflix ก็สบายๆ ไปอีก และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็ลื่นไหลกว่า Gaming Notebook รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ลื่นไหลพอตัว จากการที่มีการ์ดจอออนชิป Intel Iris Xe Graphics ที่แรงพอๆ กับ MX350 หรือมากกว่าเลยทีเดียว จากการที่มี AI มาช่วย

ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น Thunderbolt 4 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.2 Type-A x 2, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0

ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรกเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงอีกด้วย ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) มาใช้งานทันที นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์

Hardware / Design

Acer Swift 5 (SF514-55) เป็นโน๊ตบุ๊คที่เบามากๆ โดยมีน้ำหนักแค่ 1 กิโลกรัมเท่านั้น (แต่รุ่นก่อนเบา 990 กรัม) ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบโน๊ตบุ๊ครูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดก็ว่าได้ ส่วนความบางอาจจะไม่มาก

โดยอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตร แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพามาตรฐานระดับสูงอยู่ดี อีกทั้งในรุ่นใหม่นี้ได้ดีไซน์พิเศษโดยมียางรองขอบเครื่องด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องให้เอียงสูงขึ้นเมือเรากางหน้าจอ ส่งผลให้พิมพ์ง่ายขึ้นและมุมมองดีขึ้นด้วย พร้อมเพิ่มสีสันให้เลือกอีก 2 สี Mist Green (เครื่องรีวิวตามภาพ) และ Safari Gold และแซมด้วยสีทองตามจุดต่างๆ ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง

Acer Swift 5

บ่งบอกถึงสไตล์ผู้ใช้งาน กับการที่ตัวเครื่อง Acer Swift 5 มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัม แน่นอนว่าง่ายและสะดวกที่สุดต่อการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ อีกทั้ง Acer Swift 5 ยังผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ตัวฐาน บริเวณที่วางมือ และฝาครอบทำจากอลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน

ซึ่งนอกเหนือจากทำให้เรามั่นใจในการใช้งานที่ดูแล้วไม่แตกหักง่ายๆ ยังเสริมภาพลักษณ์ที่ดูสวยงาม หรูหรา ทั้งๆ ที่ราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย ตามมาตรฐาน Acer ที่ปกติแล้วดีไซน์จะสวยงามแบบเรียบๆ พร้อมความทนทานที่ให้ได้มากกว่า ส่วนอแดปเตอร์แทบไม่ต้องพกติดไปด้วย เพราะใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่า 13 ชั่วโมง จากการใช้งานจริงๆ (Acer เคลมไว้ 17 ชั่วโมง)

Acer Swift 5

นับได้ว่าเป็นมาตรฐานของโน้ตบุ๊คสายพกพาแต่ประสิทธิภาพสูงเพียงพอ จากแต่ก่อนที่เราต้องคอยพกพาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักกิโลกว่า ๆ หรือถ้ารวมอแดปเตอร์ด้วยก็อาจจะปาเข้าไปเป็น 2 กิโลกรัมได้เลย เพราะเบามากๆ ถือมือเดียวสบาย หยิบถือติดตัวไปใช้งานตามร้านกาแฟหรือ Co Working Space ก็ประทับใจสุดๆ

ด้านล่างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย ด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง ขึ้นไปที่เป็นตะแกงแถบยาวเป็นส่วนช่องดูดอากาศเย็นเข้าไปหมุนเวียนเพื่อทำความเย็นให้กับตัวเครื่องเพื่อระบายออกทางด้านหลังแทน

เรียกได้ว่า Acer Swift 5 เครื่องนี้ได้รับการใส่ใจในการออกแบบเป็นดี สำหรับตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และดีไซน์นั้นมีความน่าประทับใจในทุกมิติจริงๆ เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับ Ultrabook รุ่นล่าสุด ที่ราคาไม่แพงแต่ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดี

Acer Swift 5

Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 เครื่องนี้ได้รับการใส่ใจในการออกแบบเป็นดี สำหรับตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และดีไซน์นั้นมีความน่าประทับใจในทุกมิติจริงๆ เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับ Ultrabook รุ่นล่าสุด ที่ราคาไม่แพงแต่ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ

โดดเด่นแตกต่างที่สุดจะเป็นฟีเจอร์การเคลือบสารต้านจุลชีพซิลเวอร์ไอออนตามมาตรฐาน BPR และ EPA บนพื้นผิวตัวเครื่อง คีย์บอร์ด บานพับ เครื่องอ่านลายนิ้วมือ และแม้แต่ฉลาก ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดการสะสมของเชื้อจุลินทรีย์ กว่า 99.9% ได้อย่างสม่ำเสมอในการทดสอบกับแบคทีเรียประเภทต่างๆ ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ JIS Z 2801 และ ISO 22196 ยางหุ้มทำจากวัสดุต้านจุลชีพที่มีซิลเวอร์ไอออน

Keyboard / Touchpad

Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 ได้คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบ Chiclet Keyboard  ตัวอักษรเป็นสีทองเข้ากับตัวเครื่องโดยรวมเป็นอย่างดี ซึ่งมาพร้อมไฟ Backlit สีขาวให้ความรู้สึกหรูหราไม่เหมือนกับฝั่ง Gaming Notebook ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างดี ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว

Acer Swift 5

ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งแม้ว่าเราจะไปเผลอกดระหว่างการใช้งานก็ไม่ได้ทำให้เครื่องปิดแต่อย่างใด (ต้องกดค้างซัก 3 วินาทีถึงจะมีเมนูของ Acer ขึ้นมา) แน่นอนว่ายังมี Fingerprint ติดตั้งมาให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ให้พร้อมเข้าใช้งาน

Acer Swift 5 Core i Gen 11 Review 55

ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดีอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้เวลาพิมพ์งานมือจะไม่เผลอไปสัมผัสกับทัชแพด โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งเป็นข้อดีของการใช้งานนอกสถานที่ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ทัชแพดมากกว่าการใช้เม้าส์อยู่แล้ว

Screen / Speaker

Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 ได้หน้าจอเป็นแบบด้านรองรับการทัชสกรีนด้วยนิ้วมือปกติ Antimicrobial Corning Gorilla ที่มีความทนทานสูง ขนาด 14″ ความละเอียด Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS ขอบจอบางเฉียบ ให้สัดส่วนการแสดงผลที่ 90 ที่เหมาะกับการทำงานหรือความบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยสีสันที่สมจริงเรียบเนียมและมุมมองที่กว่า 178 องศา

Acer Swift 5 Core i Gen 11 Review 19

อีกทั้งยังมี Acer Color Intelligence เทคโนโลยีนี้จะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี โดยไม่มีภาพขาดและความอิ่มตัวของสีเกิน รองรับการทัชสกรีนช่วยในการเรื่องการนำเสนอได้อย่างลงตัว ไม่ต้องละมือไปจับทัชแพดไปมา อีกทั้งดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับชมอย่างสมบูรณ์แบบ

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Swift 5 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ที่ดีกว่า TN แน่นอน แต่เพื่อการีวิวจำเป็นต้องทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 91% ส่วน AdobeRGB ที่ 70% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง

เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันจัดว่ามีความแม่นยำที่สูงใกล้เคียงระดับ sRGB 100% มากๆ โดยได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 340 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปแน่นอน หรือจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงก็ดีเป็นระดับมืออาชีพได้เลย

 

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางหน้าจอแถวล่างเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมขวาบนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไประดับ 13% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอ 2W x 2 มาพร้อมระบบเสียง Acer TrueHarmony โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Swift 5 (SF514-55) นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับระดับนึง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางเพียง 14.95 มิลลิเมตรและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอ ไม่ว่าจะเป็น

USB 3.2 Type-A ที่ 2 ช่อง และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภายนอก พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ที่สำคัญยังให้พอร์ตอย่าง Thunderbolt 4 ที่เป็น USB 3.2 Type-C + DisplayPort + Power Delivery (ชาร์จไฟเข้าเครื่องได้)ในตัวอีกด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไปทีเดียว

Acer Swift 5 Core i Gen 11 Review 54

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″รุ่นก่อนๆ ถือได้ว่าเล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ไซส์เล็กเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.2 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง สาวๆ น่าจะชอบกัน หยิบใส่กระเป๋าไปใช้งานข้างนอกสบายๆ

Inside / Upgrade

การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Swift 5 นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก (สามารถเจาะทะลุสติ๊กเกอร์ Acer ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุด) จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง งานประกอบการจัดวางตำแหน่งดูแล้วเรียบง่าย โดยอาศัยพัดลม 1 ตัว ดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องจากนั้นถ่ายเทความร้อนออกไปให้โดนฮีทไปป์แบบ 2 เส้น พร้อมฟินสีดำทางด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ซ่อนช่องระบายความร้อนไว้อย่างเรียบเนียน

Acer Swift 5 Core i Gen 11 1

ซึ่งหน่วยความจำแรมเป็นแบบฝั่งเมนบอร์ดมาเลย โดยติดตั้งขนาด 16GB LPDDR4X Dual Channel (8GB x 2) แบบฝังบอร์ด ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe ติดมาแล้วที่ 1TB โดยมีการติดตั้งเหนือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ส่วนอื่นๆ ก็ประกอบฮาร์ดแวร์อื่นๆ ถือว่ามีงานประกอบที่เรียบร้อยเป็นอย่างดี อีกทั้งยังดูแล้วในอนาคตยังทำความสะอาดได้ง่ายด้วย โดยรวมแล้วการแกะตัวเครื่อง Acer Swift 5 เพื่ออัพเกรด SSD อีก 1 ตัว แต่ก็จำเป็นต้องถอดของเดิมออกด้วย (จริงๆ ไม่อัพเกรดแล้วก็ได้) รวมถึงทำความสะอาดภายในก็สามารถทำได้สะดวกทีเดียว

Performance / Software 

Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i7-1165G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.30 – 4.70 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i7 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร อย่าง Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin Willow Cove

ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 16GB แบบฝังบอร์ด เป็นมาตรฐาน LPDDR4X 4266 MHz ตามเทคโนโลยีของ Intel Core i Gen 11 ที่ผ่านการปรับแต่งให้เหนือชั้น  พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน

c1 2.   c2 2

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

g1 1

อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ และเป็นรุ่นเกรดกลางค่อนไปทางสูง โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่

cine15 2.   cine20 2

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U Series รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอที่อัพเกรดใหม่ที่เน้นการทำงาน 3 มิติที่ดียิ่งขึ้น

ssd 2

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2147 MB/s และเขียนที่ 1979 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ระดับกลางค่อนบน

pc10 1

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4933 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คทีมีชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 11 และสเปกจัดเต็ม ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาในสเปกที่เป็น Intel Core i Gen 11 รุ่นอื่นๆ มีการ์ดจอออนชิปอย่าง Intel Iris Xe ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกออนชิปรุ่นก่อนหน้านั่นเอง

ทดสอบเกมสำหรับ Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลพอได้ จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-1165G7 การ์ดจอ Iris Xe Graphics ประกอบกับใช้แรม 16GB LPDDR4X รวมไปถึง SSD ความเร็วสูงก็ส่งผลช่วยด้วย

game test 2

สำหรับเกมออนไลน์ปัจจุบันอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 75 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 41  และในส่วนของเกม Overwatch / PUBG ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 98 / 36 ซึ่งลดลงต่ำสุดที่ 57 / 18 กันเลยทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกับรุ่นการ์ดจอแยกแล้ว 

acer

นอกจากนี้ทาง Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งานทันที) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 3600mAh โดยสามารถใช้งานจริงต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 13 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ส่วนช่องระบายความร้อนจะอยู่ด้านบนของฐานเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

batt 2

อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 30 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลจะร้อนที่สุดที่ 96 องศาเซลเซียส นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดี แม้ชิปประมวลผลจะดูว่าร้อน แต่ก็สามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจ ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการใช้งาน ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี และชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake ใหม่ล่าสุด 10 นาโนเมตร ที่แม้ตัวเครื่องจะบางเบาสุดๆ ก็ตาม

temp

Conclusion / Award

สเปก Acer Swift 5 (SF514-55) รุ่นล่าสุดนี้ ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานพกพาพรีเมียม ได้ฟีเจอร์เคลือบสาร Antimicrobial ป้องกันแบคทีเรียตลอดทั้งตัวเครื่อง กับราคาไม่สูงเกินไปที่คุ้มค่ามากๆ ด้วยการติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม 10 นาโมตร อย่าง Tiger Lake ที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าไปอีกระดับ พร้อมการ์ดจอออนชิปตัวแรงอย่าง Iris Xe Graphics แรมก็เป็นมาตรฐาน ขนาด 16 GB การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วยที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 ความเร็วสูงที่ความจุ 512GB / 1TB ทำให้ความลื่นไหลทั้งระบบ

Acer Swift 5 Core i Gen 11 Review 9

Acer Swift 5 มีระบบปฏิบัติการ Windwos 10 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทันที สนนราคาต่อสเปกต่อสิ่งที่ได้ทั้งหมดแล้วก็ถือว่าราคาไม่แพงเลย เหมาะสำหรับคนทำงานพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาที่สุด ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ อีกทั้งประสิทธิภาพก็เทียบเท่ากับ Gaming Notebook แล้วในหลายๆ ส่วน เพราะมี AI เข้าช่วยประมวลผล 

Acer Swift 5 Core i Gen 11 Review 63

จะเห็นว่า Acer Swift 5 ได้อะไรที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นด้วยกัน ทั้งความเบาอย่างที่สุด ราคาที่คุ้มค่า และประกันสูงสุดถึง 3 ปีด้วยกัน ซึ่งปีแรกได้เป็นแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ทำให้กรณีที่เครื่องมีปัญหา แค่โทรไปก็จะมีเจ้าหน้าที่ Acer มาจัดการให้ถึงหน้าบ้านทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปเคลมแบบเดิมๆ อีกต่อไป หรือส่งศูนย์ก็ซ่อมด่วนๆ ใน 3 ชั่วโมง ถ้าเกินกว่านั้นก็มีเครื่องสำรองให้กลับไปใช้งานที่บ้านด้วย สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,290 บาท) ใช้งานติดเครื่องยาวๆ ไปเลย

Acer Swift 5

Acer Swift 5 ได้เทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ใหม่ล่าสุด พร้อมรองรับ MU-MIMO มาติดตั้ง ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง พูดๆ ง่ายคือแรงกว่าเดิมถึง 3 เท่า พร้อมมีมาตรฐาน Thunderbolt 4 ที่เป็นพอร์ตที่ดีที่สุด แต่ก็ยังแอบน่าเสียดานอยู่เล็กน้อยที่พอร์ตการชาร์จไฟยังเป็นมาตรฐานเดิมๆ ถ้าได้เป็น USB-C และอแดปเตอร์ก็เป็น USB-C ด้วย น่าจะมีความวมบูรณ์แบบกว่านี้ไปอีก 

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้ 

Best Design

นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Swift 5 สเปก Core i Gen 11 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น

NBS award 7 Design  

Best Value

ถึงแม้ Acer Swift 5 เป็นโน๊ตบุ๊คสเปก Intel Core i Gen 11 สายทำงานราคาสามหมื่นบาท ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 33,990 บาท ที่มาพร้อมสเปกใหม่อย่าง Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 รวมถึงมีแรม 16GB เป็นมาตรฐาน พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB แถมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา และยังได้ Office 2019 ใช้งานยาวๆ ติดเครื่องฟรีๆ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 3 ปี แบบ On-stie Service เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย

award new value

Best Mobility

สำหรับ Acer Swift 5  สเปก Core i Gen 11 ที่มีความบางเพียง 14.95 มิลลิเมตร เบาเพียง 1 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 14″ ด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจที่สูงสุด 13 ชั่วโมง อีกทั้งเรื่องความสะอาดยังได้เคลือบสาร Antimicrobial ป้องกันแบคทีเรียตลอดทั้งตัวเครื่องด้วย จึงได้รางวัลไปอย่างสมบูรณ์แบบ

NBS award 4 Mobility

 

 

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

PR-News

บริษัท อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบฝ่ายขาย การตลาด และการสื่อสาร (Sales, Marketing and Communications Group: SMG) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก-ญี่ปุ่น (APJ) และภูมิภาคอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของอินเทล สำหรับภูมิภาค APJ อินเทลได้ประกาศแต่งตั้ง นายฮานส์ ฉวง (Hans Chuang) ขึ้นดำรงตำแหน่ง...

Buyer's Guide

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมรุ่นใหม่ก็มา รุ่นเก่าสเปคเด็ดก็มี ถ้าใครอยากเปลี่ยนเครื่องอยู่นาทีนี้มีรุ่นน่าโดนให้เลือกเพียบ! จะปี 2024 นี้หรือปีไหนโน๊ตบุ๊คเล่นเกมก็ยังคงเป็นตัวเลือกขวัญใจใครหลายคนเพราะประสิทธิภาพดี ทรงพลังเหลือเฟือไม่ว่าจะงานเบาๆ ทำเอกสารไปจนตัดต่อคลิปและงาน 3D ก็ไหว เล่นเกมก็ได้สบายๆ ยิ่ง 2~3 ปีมานี้ พอเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ซีพียูกับจีพียู็ยิ่งทรงพลังก็ทำให้เกมเมอร์และครีเอเตอร์ที่ไม่อยากเสียเวลาประกอบพีซีให้วุ่นวายเลือกตัดปัญหาทั้งหมดโดยซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสเปคแรงมาใช้แทน แถมได้เปรียบว่าพกพาสะดวกหยิบไปทำงานได้ กลับบ้านต่อหน้าจอแยกก็เล่นเกมชั้นนำได้ดีพอตัว นอกจากสเปคแล้ว ในปี 2024 ที่ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น หลายแบรนด์ก็เสริม AI...

PC Review

Intel Core i7 14th Gen คู่ Arc A770 ประกอบคอมตัวจบสำหรับคอเกมและครีเอเตอร์ 2024 เพื่อผู้ใช้ระดับ Performance Intel Core i7-14700 จัดเป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมการเป็น Hybrid Core โดดเด่นทั้งประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน เมื่อจับคู่กับ Intel Arc A770...

รีวิว MSI

MSI Claw A1M เกมมิ่งพีซี Handheld ที่ใช้ทำงานก็ได้ เล่นเกมสบายด้วยพลัง Intel Core Ultra!! ความสุขของใครหลายคน คือได้นั่งเล่นเกมโปรดอยู่หน้าคอมนานๆ แต่บางคนที่ต้องออกไปธุระให้คนในครอบครัวเป็นระยะๆ ก็คงจะยากอยู่ แต่ถ้ามี MSI Claw A1M Gaming Handheld อยู่ก็บอกลาข้อจำกัดนั้นได้เลยแถมยังไม่ถูกผูกมัดเอาไว้กับร้านค้าเกมไหนโดยเฉพาะ จะติดตั้ง Steam, Ubisoft...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก