รวมโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ สำหรับสายฟรี ที่น่าใช้งาน ใช้ง่ายตัดได้รัวๆ
ในการทำงานด้านมัลติมีเดียหรือการทำงานด้านอื่น ๆ นั้น ในทุกวันนี้คงหนีไม่พ้นการทำวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอนำเสนองาน หรือโปรโมทงาน หลายอาชีพหรือแม้กระทั่งนักเรียนนักศึกษาก็อาจต้องทำงานวิดีโอทีมงาน Notebookspec จึงมาแนะนำ 15 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี ใช้งานง่ายแม้ว่าจะเป็นมือใหม่ก็สามารถใช้ได้อย่างสบาย และที่สำคัญไม่ติดลายน้ำด้วย
แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า โปรแกรมที่ฟรีนั้น หลาย ๆ ตัวก็อาจจะต้องแลกมาด้วยการจำกัดฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งถ้าเราต้องการที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็อาจจะต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายเพื่อแลกมากับโปรแกรมที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ซึ่ง 15 โปรแกรมฟรีที่ดีและใช้ง่าย (อัพเดต 2020) นั้นจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี ใช้งานง่าย ไม่ติดลายน้ำ อัพเดต 2021
1. Lightworks Free Edition
Lightworks เป็นโปรแกรมสำหรับตัดต่อวิดีโอที่มีความสามารถเทียบเท่ากับโปรแกรมระดับสูงที่ต้องเสียเงินซื้อเลยทีเดียว มาพร้อมเครื่องมือมากมาย สามารถตัดต่อได้ทั้งงาน Video, Audio ได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมเครื่องมือและลูกเล่นต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานร่วมกันกับการ์ดจอทั้ง AMD และ NVIDIA โปรแกรมนี้ยังมาพร้อมกับการทำงานแบบ Real-Time ที่สามารถอัพโหลดวิดีโอของขึ้น Youtube, Facebook, Twiiter และอื่น ๆ ได้ทันที
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Linux
ใครที่สนใจดาวน์โหลด โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ : Lightworks
2. Openshot
Openshot เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาโดยทีมงานจากบริษัท OpenShot Studios ออกแบบมาเพื่อใช้เป็นโปรแกรมสำหรับตัดต่อวิดีโอ มีรูปแบบการใช้ที่หลากหลาย มีเครื่องมือครบครัน และสามารถใช้งานได้ง่าย ตัวโปรแกรมมีฟังก์ชั่นในการแทรกไฟล์เสียง (Audio files) เข้าไปในตัววิดีโอได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมกับมีฟีเจอร์การ Preview เพื่อดูวิดีโอก่อนที่จะแก้ไขวิดีโอได้แบบ Real-Time สามารถส่งออกไฟล์เป็น 4K UHD 60fps ได้ โปรแกรม Openshot ยังสามารถตกแต่งแสงและสีของวิดีโอผ่านการใช้ Effect ที่มีให้เลือกมากมาย และยังสามารถใส่ตัวอักษรทั้งแบบธรรมดาและแบบสามมิติลงไปในวิดีโอได้ด้วย แต่มีข้อที่น่าสังเกตของเจ้าโปรแกรมตัวนี้ก็คือค่อนข้างที่จะมีอาการ Bug บ่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตาม Openshot นั้นเป็นโปรแกรมประเภท Open Source จึงเปิดโอกาสให้เหล่าผู้พัฒนาโปรแกรมคนอื่น ๆ สามารถนำโปรแกรมนี้ไปพัฒนาต่อได้ ส่งผลให้ตัวโปรแกรมมีการอัพเดทอย่างต่อเนื่อง
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Linux
ใครที่สนใจดาวน์โหลด โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Openshot
3. Shotcut
Shotcut เป็นโปรแกรมสำหรับตัดต่อวิดีโอ Open Source ที่ฟรี มีคุณสมบัติมากมายและใกล้เคียงกับโปรแกรมสำหรับตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ เหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นเรียนรู้การตัดต่อวิดีโอ หรือมือสมัครเล่นที่ต้องการตัดต่อวิดีโอให้ออกมาได้อย่างมืออาชีพ มาพร้อมเครื่องมือมากมายและครบครัน รองรับการแปลงไฟล์ ทั้งภาพ เสียง วิดีโอ ได้หลากหลาย โปรแกรมยังสามารถตัดต่อได้ตั้งแต่ไฟล์ได้ตั้งแต่ความละเอียดแบบ SD, HD, 2K และสูงสุดอย่าง 4K
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Linux
ใครที่สนใจดาวน์โหลด โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Shotcut
4. Davinci Resolve 16
โปรแกรม Davinci Resolve 16 เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ที่กำลังมองหาโปรแกรมสำหรับแก้ไขสีของวีดีโอ ตัดต่อวิดีโอ ทำภาพยนตร์ หนังสั้น ฯลฯ โปรแกรมยังมาพร้อมเครื่องมือสำหรับ Color grading ที่ให้คุณภาพสูงระดับ 32-bit และสามารถแก้ไขสีสันเฉดต่าง ๆ ได้มากมาย แถมตัวโปรแกรมทำงานค่อนข้างไว แต่ในเวอร์ชันที่เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานกันอย่างฟรี ๆ นั้น ในบางเครื่องมือก็จะถูกจำกัดไว้ หรือบางฟิลเตอร์ก็จะมีลายน้ำติดอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม โปรแกรม Davinci Resolve 16 ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ดีมีประสิทธิภาพและน่าใช้งาน
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Linux
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Blackmagicdesign
5. HitFilm Express
Hitfilm Express โปรแกรมสำหรับตัดต่อวิดีโอที่ฟรี มีครบเครื่องทั้งเรื่องตัดต่อ แก้ไข (Editor) และการใส่ VFX (Visual Effects) ทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ลงบนวิดีโอประเภทต่าง ๆ โปรแกรมนี้ถูกพัฒนาโดยทีมผู้พัฒนา FXhome ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดกันได้แบบฟรี ๆ แต่มีการจำกัดบางฟีเจอร์ไว้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานโดยรวมแต่อย่างใด รูปแบบหน้าตาการใช้งานของโปรแกรมนี้นั้นดูเรียบหรู เข้าใจง่าย มีการจัดเรียงเครื่องมือต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ ฟังก์ชันหลัก ๆ ที่อยู่ในเวอร์ชันฟรีนั้นก็ได้แก่ การครอบวิดีโอ, รวมวิดีโอ, เพิ่มเพลง, เพิ่ม Transition/Credit, เพิ่มมาสก์ (Mask), เพิ่มเอฟเฟคท์ (Effect) ที่เราสามารถสร้างเองก็ได้, และปรับสีของวิดีโอได้ตามต้องการ
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: HitFilm Express
6. Videopad
Videopad เป็นโปรแกรมมสำหรับการตัดต่อวิดีโอที่เหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ ตัวโปรแกรมมีการสอนการตัดต่อให้กับผู้เริ่มต้นฟรีด้วย ตัวโปรแกรมถูกออกแบบมาให้เน้นการใช้งานง่ายเป็นหลัก เน้นการใช้หลักการลากแล้ววาง (Drag-and-Drop) มาพร้อมกับ Effect ไม่ว่าจะเป็นการสลับหน้าจอ, เปลี่ยนฉาก (Transition Effects) และลูกเล่นอื่น ๆ กว่า 50 แบบให้ได้เลือกใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การปรับความช้า-เร็วของวิดีโอได้ด้วย เผื่อให้งานที่ออกมานั้นมีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด นอกจากนี้ยังรอบรับไฟล์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น avi, mpeg, wmv, divX, Xvid, mpeg, mp4, mov, gif, jpg, png, tif ฯลฯ
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Videopad
7. Movavi Video Editor
โปรแกรม Movavi Video Editor มีเครื่องมือการใช้งานที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับการตัดต่อไฟล์มัลติมีเดีย มีเครื่องมือสำหรับการสร้างวิดีโอที่สวยงาม มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลกราฟฟิกทั้ง AMD และ NVIDIA ในระหว่างการเรนเดอร์วิดีโอ มีเครื่องมือการประมวลไฟล์เสียงที่ดีโดยผู้ใช้สามารถเพิ่ม Soundtrack, เสียงจากไมโครโฟน หรืออุปกรณ์ดนตรีต่าง ๆ ลงไปในวิดีโอได้ นอกจากนี้เครื่องมือยังมีความเรียบง่าย แม้ว่าจะเป็นมือใหม่ก็สามารถใช้งานได้สบาย
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Movavi Video Editor
8. VSDC Free Video Editor
VSDC เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอแบบ non-linear ที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี ใช้งานง่าย รองรับไฟล์หลากหลาย มีเครื่องมือให้ใช้มากมายและครบกันไม่ว่าจะเป็น ความสามารถใส่เอฟเฟค (Effect) ให้กับไฟล์ Video หรือไฟล์ Audio เช่น Color Correction, Object Transformation, Object Filters, Transition Effects ฯลฯ โปรแกรมยังสนับสนุนการตัดต่อวิดีโอแบบ HD ในระดับ 30fps และ 1080p ซึ่งให้ความคมชัดสูงสุด สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวเป็นวิดีโอในรูปแบบวัตถุเคลื่อนไหว (Animated Object) ได้จากภาพนิ่งที่มีอยู่ในเครื่อง ทั้งนี้ VSDC จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมาก ๆ สำหรับโปรแกรมสำหรับตัดต่อวิดีโอในปัจจุบัน
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: VSDC
9. Kdenlive
โปรแกรม Kdenlive (โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ KDE แบบ Non-Linear) สามารถสร้างผลงานด้านวิดีโอได้ตั้งแต่ระดับเบสิคไปจนถึงระดับมืออาชีพ รองรับการใช้งานร่วมกับไฟล์มัลติมีเดียได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์วิดีโอ (Video Files) ไฟล์เสียง (Audio Files) หรือ ไฟล์รูปภาพ (Image Files) โปรแกรมมีเอฟเฟคสำหรับแต่งวิดีโอและเสียงให้เลือกมากมาย ทั้งยังสามารถย้าย, บล็อก, และเปิดหรือปิดไฟล์ที่ต้องการได้ และที่สำคัญผู้ใช้สามารถ import ไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงได้เกือบทุกประเภทโดยไม่ต้องแปลงไฟล์ก่อน
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS, Linux
ใครที่สนใจดาวน์โหลด โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Kdenlive
10. Adobe Premiere Pro
โปรแกรมสำหรับตัดต่อวิดีโอที่เรียกได้ว่ายอดฮิต ยอดนิยม และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ เพราะโปรแกรม Adobe Premiere Pro สามารถรองรับการตัดต่อที่มีความละเอียดต่ำไปจนถึงความละเอียดสูง ไฟล์ขนาดเล็กไปจนถึงไฟล์ขนาดใหญ่ รวมไปถึงไฟล์วิดีโอความละเอียด 4K, 5K และ 6K เลยทีเดียว แถมยังใช้งานร่วมกันกับโปรแกรมอื่น ๆ ในตระกูล Adobe ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Illustrator, After effect ฯลฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
โปรแกรม Vegas Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่ต้องซื้อมาใช้งาน แต่กระนั้นก็มีเวอร์ชันฟรีให้ทดลองใช้ได้ 7 วัน
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Adobe Premiere Pro
11. Windows Video Editor (Windows Movie Maker)
โปรแกรมติดเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ที่มีชื่อเดิมที่คุ้นหูกันว่า Windows Movie Maker นั่นเอง ข้อดีของโปรแกรมนี้ก็คือเราไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดเพิ่มเลยเพราะจะมีติดเครื่องมาอยู่แล้ว และที่สำคัญใช้งานง่ายแหละเหมาะกับมือใหม่มาก ๆ และก็มีข้อสังเกตอยู่เหมือนกันตรงนี้โปรแกรมนี้รองรับไฟล์ได้ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอเฉพาะทางอื่น ๆ แต่สำหรับใครที่ต้องการนำวิดีโอมาใส่เพลง ใส่เอฟเฟค ในแบบที่ใช้งานง่ายๆ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีตัวนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows
12. Vegas Pro
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอตัวนี้จะเน้นไปที่การตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพและความละเอียดสูง รองรับไฟล์หลากหลายรูปแบบ เหมาะกับงานหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ตัดต่อหนังสั้นไปจนถึงทำงานระดับโปรดักซ์ชันโฆษณา ภาพยนตร์ หรือสื่อบันเทิงอื่น ๆ ตัวโปรแกรมมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น Motion tracking, World-class Video Stabilization (ปรับภาพสั่นให้นิ่งได้), HLG HDR Support (ปรับแต่งแสงละสีให้ดูสดใส) เป็นต้น รองรับการตัดต่อไฟล์หลายคุณภาพตั้งแต่ SD, HD, 2K, 4K ไปจนถึง 8K
โปรแกรม Vegas Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่ต้องซื้อมาใช้งาน แต่กระนั้นก็มีเวอร์ชันฟรีให้ทดลองใช้ได้ 30 วัน
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Vegas Pro Free Trial
13. VideoStudio Pro
VideoStudio Pro ตัวนี้เป็นโปรแกรมที่เอาไว้ใช้ในการตัดต่อวิดีโอ คลิปวิดีโอต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว มีเครื่องมือให้เลือกใช้งานมากมาย รองรับวิดีโอระดับ Ultra HD และล่าสุด 4K สามารถ export วิดีโอเป็นไฟล์ได้หลากหลายนามสกุล เช่น ไฟล์ AVI, ไฟล์ MPEG-2, ไฟล์ MPEG-4, ไฟล์ WebM, ไฟล์ WMA, HTML5 เป็นต้น
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows
โปรแกรม VideoStudio เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ต้องซื้อมาใช้งาน แต่กระนั้นก็มีเวอร์ชันฟรีให้ทดลองใช้ได้ 30 วัน
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: VideoStudio Free Trial
14. Wondershare Filmora
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่มาจากผู้พัฒนา Wondershare มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลายและครบครัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการตัดต่อ การใส่เอฟเฟค ใส่ตัวอักษร หรือปรับแต่งเสียง หน้าตาการใช้งานของโปรแกรมได้รับการออกแบบมาให้มีความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย รองรับไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K และยังรองรับไฟล์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นไฟล์วิดีโอ ไฟล์เสียง และไฟล์รูปภาพ เช่น MP4, AVI, FLV, MKV, MOV, MEPG,MP3, WMV, M4A, JPG, BMP, GIF, JFIF ฯลฯ
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, macOS
ข้อสังเกต: ในเวอร์ชันฟรีนั้นการ export หรือ render วิดีโออาจมีลายน้ำ ถ้าใครที่ไม่ต้องการลายน้ำก็จะต้องซื้อโปรแกรมตัวเต็มมาใช้งาน
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Wondershare Filmora Free Trial
15. PhotoStage
โปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมงานผู้พัฒนาโปรแกรมจาก NCH Software ประเทศสหรัฐอเมริกา โปรแกรม PhotoStage ตัวนี้เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้าง Slideshow จากภาพวิดีโอหรือจากภาพนิ่งที่มาจากกล้องถ่ายรูปได้ และสามารถใส่เพลงประกอบได้ด้วย ทั้งยังมีเอฟเฟคและลูกเล่นมากมายให้เลือกใช้งาน หน้าตาของโปรแกรมก็ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แม้จะเป็นมือใหม่ก็ไม่ต้องกังวล โปรแกรมรองรับไฟล์ในระดับความคมชัดสูงสุด Full HD (720p และ 1080p)
รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่: Photostage
ตารางเปรียบเทียบโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีแต่ละโปรแกรม
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ | ระบบที่รองรับ | ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ | ข้อสังเกต |
---|---|---|---|
1. Lightworks Free Edition | Windows, macOS, Linux | – ตัดต่อได้ทั้งงาน Video, Audio – รองรับการทำงานร่วมกันกับการ์ดจอทั้ง AMD และ NVIDIA – ทำงานแบบ Real-Time ที่สามารถอัพโหลดวิดีโอของขึ้น Youtube, Facebook, Twiiter และอื่น ๆ ได้ทันที | อาจมีลูกเล่นไม่มาก เมื่อเทียบกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโออื่นๆ |
2. Openshot | Windows, macOS, Linux | – มีฟังก์ชันในการแทรกไฟล์เสียง (Audio files) เข้าไปในตัววิดีโอได้อย่างสะดวกรวดเร็ว – มีฟีเจอร์การ Preview – ส่งออกไฟล์เป็น 4K UHD 60fps ได้ | – ค่อนข้างที่จะมีอาการ Bug บ่อย – เป็นโปรแกรมประเภท Open Source |
3. Shotcut | Windows, macOS, Linux | – องรับการแปลงไฟล์ ทั้งภาพ เสียง วิดีโอ ได้หลากหลาย – ตัดต่อได้ตั้งแต่ไฟล์ได้ตั้งแต่ความละเอียดแบบ SD, HD, 2K และ 4K | เป็นโปรแกรมประเภท Open Source |
4. Davinci Resolve 16 | Windows, macOS, Linux | – มาพร้อมเครื่องมือสำหรับ Color grading ที่ให้คุณภาพสูงระดับ 32-bit – รองรับการแก้ไขสีของวีดีโอ ตัดต่อวิดีโอ ทำภาพยนตร์ หนังสั้น ฯลฯ | เวอร์ชันฟรี บางเครื่องมือจะถูกจำกัดไว้ หรือบางฟิลเตอร์ก็จะมีลายน้ำติดอยู่ |
5. HitFilm Express | Windows, macOS | – ครบเครื่องทั้งเรื่องตัดต่อ แก้ไข (Editor) และการใส่ VFX (Visual Effects) ทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ – ฟังก์ชันหลักๆ ในเวอร์ชันฟรี ได้แก่ การครอบวิดีโอ, รวมวิดีโอ, เพิ่มเพลง, เพิ่ม Transition/Credit, เพิ่มมาสก์ (Mask), เพิ่มเอฟเฟคท์ (Effect), ปรับสี ฯลฯ | เวอร์ชันฟรีจะมีการจำกัดบางฟีเจอร์ไว้ |
6. Videopad | Windows, macOS | – เน้นการใช้หลักการลากแล้ววาง (Drag-and-Drop) – มาพร้อมกับ Effect ไม่ว่าจะเป็นการสลับหน้าจอ, เปลี่ยนฉาก (Transition Effects) และลูกเล่นอื่น ๆ กว่า 50 แบบ – รอบรับไฟล์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น avi, mpeg, wmv, divX, Xvid ฯลฯ | เวอร์ชันฟรีจะมีการจำกัดบางฟีเจอร์ไว้ |
7. Movavi Video Editor | Windows, macOS | – มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลกราฟฟิกทั้ง AMD และ NVIDIA – มีเครื่องมือการประมวลไฟล์เสียง – สามารถเพิ่ม Soundtrack, เสียงจากไมโครโฟน หรืออุปกรณ์ดนตรีต่าง ๆ ลงไปในวิดีโอได้ | เวอร์ชันฟรีจะมีการจำกัดบางฟีเจอร์ไว้ |
8. VSDC Free Video Editor | Windows | – เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอแบบ non-linear – สนับสนุนการตัดต่อวิดีโอแบบ HD ในระดับ 30fps และ 1080p | เวอร์ชันฟรีจะมีการจำกัดบางฟีเจอร์ไว้ |
9. Kdenlive | Windows, macOS, Linux | – เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอแบบ non-linear – รองรับการใช้งานร่วมกับไฟล์มัลติมีเดียได้หลากหลายรูปแบบ | |
10. Adobe Premiere Pro | Windows, macOS | – รองรับการตัดต่อที่มีความละเอียดต่ำไปจนถึงความละเอียดสูง – รองรับไฟล์ขนาดเล็กไปจนถึงไฟล์ขนาดใหญ่ – ใช้งานร่วมกันกับโปรแกรมอื่น ๆ ในตระกูล Adobe ได้ | มีเวอร์ชันทดลองใช้ฟรี แต่หากต้องการเวอร์ชันเต็มจะต้องเสียค่าใช้จ่าย |
11. Windows Video Editor | Windows | – มีติดเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows – เหมาะสำหรับมือใหม่ | – เครื่องมือน้อยเมื่อเทียบกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโออื่น – รองรับไฟล์ได้ค่อนข้างน้อย |
12. Vegas Pro | Windows | – เหมาะกับงานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัดต่อหนังสั้นไปจนถึงทำงานระดับโปรดักซ์ชันโฆษณา ภาพยนตร์ – มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น Motion tracking, World-class Video Stabilization (ปรับภาพสั่นให้นิ่งได้), HLG HDR Support เป็นต้น | เวอร์ชันฟรีให้ทดลองใช้ได้ 30 วัน หากต้องการเวอร์ชันเต็มจะต้องเสียค่าใช้จ่าย |
13. VideoStudio Pro | Windows | – รองรับวิดีโอระดับ Ultra HD และล่าสุด 4K – export วิดีโอเป็นไฟล์ได้หลากหลายนามสกุล เช่น ไฟล์ AVI, ไฟล์ MPEG-2, ไฟล์ MPEG-4 เป็นต้น | – เวอร์ชันฟรีให้ทดลองใช้ได้ 30 วัน หากต้องการเวอร์ชันเต็มจะต้องเสียค่าใช้จ่าย |
14. Wondershare Filmora | Windows, macOS | – รองรับไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K – รองรับไฟล์ที่หลากหลาย เช่น MP4, AVI, FLV, MKV, MOV, MEPG เป็นต้น – เครื่องมือครบครัน ทั้งใส่เอฟเฟก ตัวอักษร แต่งสี ฯลฯ | ในเวอร์ชันฟรีนั้นการ export หรือ render วิดีโออาจมีลายน้ำ |
15. Photostage | Windows | – สร้าง Slideshow จากภาพวิดีโอหรือจากภาพนิ่งที่มาจากกล้องถ่ายรูปได้ – ใส่เพลงประกอบได้ – องรับไฟล์ในระดับความคมชัดสูงสุด Full HD (720p และ 1080p) | อาจมีลูกเล่นไม่มาก เมื่อเทียบกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโออื่นๆ |
และทั้งหมดนี้คือ โปรแกรมสำหรับการตัดต่อวิดีโอฟรี ที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานกันได้ง่ายๆ และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ดี ประสิทธิภาพการตัดต่องานวิดีโอก็ทำได้เยี่ยม แม้จะเป็นมือใหม่หัดใช้ก็สามารถใช้ได้ไม่ยากจนเกินไป ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอบางตัวที่ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ฟังก์ชันที่ครบครันนั้น ทีมงานเองมีความคิดเห็นว่า คงจะคุ้มค่าไม่น้อยหากเรายอมเสียเงินไปเพื่อคุณภาพงานที่ดีเยี่ยมและเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: Thaiware