Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Dell

รีวิว Dell XPS 15 9500 สเปก Core i7-10750H + GTX 1650 Ti + จอ 15.6″ UHD+ เบา 2 โล แบต 16 ช.ม. ประกันเทพ 3 ปี

Dell XPS 15 9500 ที่จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับตระกูล XPS รุ่นใหม่ๆ ทั้ง XPS 13 / XPS 17 ซึ่ง XPS 15 ได้หน้าจอ 15.6″ คุณภาพสูงความละเอียดสูง 4K UHD+ สเปกเป็น Intel Core i Gen 10H + NVIDIA GeForce ระดับ Gaming กับน้ำหนักและดีไซน์การออกแบบที่เล็กกว่า พกพาสะดวก แน่นอนว่านั่นก็มาจากการที่ Dell มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง

พร้อมทั้งต่อยอดความสำเร็จที่มีมาโดยตลอด บริการ Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก วันทำการ (On-site Sevice) รวมไปถึงบริการอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้เลย บริการหลังการขายของ Dell นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน ซึ่ง Dell XPS 15 9500 รับประกันถึง 3 ปีเต็มด้วยกัน เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจตามสไตล์ Dell จริงๆ โดยเครื่องที่ได้เรารับมารีวิวครั้งนี้ ได้จากทางร้าน ITrinity ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Dell ใครสนใจ Dell รุ่นต่างๆ ก็สามารถเข้าชมได้ที่ Page ได้เลย 

Advertisement

Dell XPS 15 9500 Top 1

Dell XPS 15 9500 เป็นซีรีส์ที่หายไปในตลาดหลายปี ล่าสุดกลับใช้สเปกเป็นชิประมวลผลตัวแรงยอดนิยมอย่าง Core i7-10750H และการ์ดจอระดับกลางอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti โดดเด่นด้วยดีไซน์และฟีเจอร์ต่างๆ ทั้งหน้าจอและลำโพงคุณภาพดี ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสิทธิภาพทั่วๆ ไปในตลาดทีเดียว สนนราคาค่าตัวที่ 79,990 บาท หรือ 69,990 บาท สำหรับรุ่นหน้าจอ Full HD + ที่ 1920 x 1200 พิกเซล

VDO Unbox

NBS Verdict

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell XPS Series ปี 2020 ตัวล่าสุด ที่เน้นความพรีเมียมจากทาง Dell อย่าง Dell XPS 15 9500 สเปก Intel Core i Gen 10H ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล XPS 13 และเป็นรุ่นรองของ XPS 17 ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า

ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตุในเรื่องของราคาค่าตัวที่สูงซักหน่อย ซึ่งเหมาะกับคนที่พร้อมจ่ายสุดยอดโน้ตบุ๊คบางเบาที่ได้ประสิทธิภาพสูง หน้าจอใหญ่ที่ 15.6″ 4K Ultra HD+ (หรือ Full HD+) พาเนล IPS เกรดสูง กระจก Corning Gorilla Glass 6 ทัชสกรีนได้ พร้อมลำโพง 4 ตัว เสียงดังและดีแบบสะใจ ที่ใช้ร่วมกับเทคโนโลยี Waves Nx 3D อย่างไม่มีในโน้ตบุ๊คทั่วไปแน่นอน

Dell XPS 15 9500 Review 25

โดดเด่นเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ รวมไปถึงก็มีน้ำหนักเบากว่าด้วย เพียง 2 กิโลกรัมและบางสุดเพียง 18 มิลลิเมตรเท่านั้น พร้อมมีดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนๆ ซึ่งมีความเรียบง่ายยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Dell ไว้เต็มเปี่ยม

ที่สำคัญด้วยสีสันที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ก็คือ สี Platinum Silver พร้อมลวดลายวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเหมาะกับหนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่เน้นความเท่ ที่ได้ความหรูหราและเป็นทางการ นับว่าเป็นส่วนที่มีผลต่อการซื้อเหมือนกัน เพราะเป็นรายละเอียดที่แตกต่าง หาไม่ได้ในโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ อีกทั้งยังสวนทางกับความแรงที่ได้ เพราะแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวเกือบๆ 16 ชั่วโมงอีกด้วย 

ซึ่งถ้าเทียบ Dell XPS 15 9500 กับ Dell XPS 17 9700 ที่สเปกภายในแทบจะเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันเพียง SSD ที่มีความจุน้อยกว่า และ Thunderbolt 3 ที่มีน้อยกว่า 1 พอร์ต โดยในความเป็นจริงผลการทดสอบต่างๆ รวมไปถึงการเล่นเกมก็ต้องยอมรับว่า Dell XPS 15 9500 ทำคะแนนหรือเฟรมเรทได้น้อยกว่าพอสมควร คาดว่าเป็นเพราะตัวเครื่องที่บางและเบากว่า แต่อย่างไรก็ตามก็มีจุดเด่นที่มากกว่าคือพกพาสะดวกและแบตเตอรี่ยาวนานกว่านั่นเอง (Dell XPS 17 9700 ใช้งานได้ 10 ชั่วโมง)

Dell XPS 15 9500 Review 38

อีกทั้งการเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาได้ประสิทธิภาพระดับสูง แถมยังมีการรับประกันที่ดีที่สุดถึง 3 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support โดยทั้ง 3 ปี เป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน รวมถึงมีบริการหลังการขายอย่างการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์แวร์ และซอฟต์แวร์ได้โดยตรงผ่านโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา 24×7 ให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือ ณ ไซต์งานหลังการประเมินอาการผ่านระบบจากระยะไกล รวมไปถึงบริการอื่นๆ อีกมากมาย 

จุดเด่น

  • เป็นโน้ตบุ๊คสเปก Gaming หน้าจอ 15.6″ แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14″
  • พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง ขอบเขตสีกว้าง รองรับการทัชสกรีน
  • ความละเอียดสูงระดับ Ultra HD+ (มากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า) พื้นที่ก็มากกว่า
  • ขอบจอบางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพิ่มความโดดเด่น
  • น้ำหนักเบาตัวเครื่องบาง วัสดุเป็นอลูมิเนียมแบบพิเศษผสานด้วยคาร์บอนไฟเบอร์
  • ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H รุ่นล่าสุด
  • พอร์ตการเชื่อมต่อมาตรฐาน Thunderbolt 3 จำนวน 3 พอร์ต
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 16 ชั่วโมง
  • ระบบระบายความร้อน Stay Cool under pressure ด้วยพัดลม 2 ตัว
  • ลำโพง 4 ตัวคุณภาพสูง ให้ประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีมาก
  • มี Windows 10 แท้ และมีซอฟต์แวร์ต่างๆ พร้อมใช้งาน
  • รองรับ Windows Hello ด้วยการแสกนนิ้วมือ ที่เป็นปุ่ม Power ในปุ่มเดียว
  • อแดปเตอร์มีขนาดเล็กพกพาสะดวก และหัวเป็นมาตรฐาน USB-C
  • Dell Premium Support ประกันถึง 3 ปี มาพร้อม On Site Service และบริการอื่นๆ

ข้อสังเกตุ

  • เทียบเฉพาะ CPU / GPU / RAM / SSD มีราคาสูงกว่า Notebook สเปกใกล้เคียงกันพอสมควร
  • ความร้อนสูงสุดค่อนข้างสูง (แต่ไม่มีผลในการใช้งาน) เพราะจัดการออกได้ดี
  • ถ้าได้เป็นการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2060 น่าจะดียิ่งขึ้นไปอีก (ในราคาเท่าเดิมนะ)

Specification

Dell XPS 15 9500 รุ่นที่เราได้รับมารีวิวเป็นเครื่องขายจริง ด้วยสเปกเป็นชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและยอดนิยมที่สุดใน Gaming Notebook ทุกๆ รุ่น ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด รองรับหลากหลายการใช้งานแบบเหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) เรียกได้ว่าตอบสนองการเล่นเกมได้เต็มที่ในการเล่นเกม 3 มิติแน่นอน 

DELL XPS 15 9500 W5671700THW10

หน้าจอขนาด 15.6″ แบบครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6 ทัชสกรีนได้ ให้ความแข็งแรงทนทาน พาเนลเป็น IPS เกรดสูงระดับมืออาชีพ ที่ความละเอียด 4K Ultra HD+ (3840×2400) สัดส่วนเป็น 16:10 ตามมาตรฐานของ Dell XPS ที่ได้พื้นที่มากกว่า เรียกได้ว่าเป็นหน้าจอที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อใช้งานกับ Dell XPS 15 9500 โดยเฉพาะ 

ได้หน่วยความจำแรมมาขนาด 16GB DDR4 Bus 29336MHz ที่เพียงพอในการใช้งาน  และในส่วนของที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่เร็วแรงลื่น ตัวเครื่องยังมีลำโพง 4 ตัว ทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Waves Nx 3D audio ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อก็จัดเต็มด้วย Thunderbolt 3 จำนวน 4 พอร์ต และช่องหูฟังอีก 1 ช่อง การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.1 และ Killer AX1650w, 2×2 MIMO, 2.4/5 GHz, Wi-Fi 6 AX  ถือว่าเป็น Notebook ในช่วงราคานี้ ที่น่าสนใจและไม่ซ้ำใคร เพราะได้ทั้งสเปกและฟีเจอร์ที่จัดเต็มสมกับเป็นตระกูล XPS จาก Dell จริงๆ ด้วยค่าตัว 79,990 บาท ได้ประกันเทพ 3 ปี On-site Service

Hardware / Design

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Dell XPS 15 9500 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ รุ่นอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีการใช้ตัวเครื่องขนาด 14″ เท่านั้น โดยพื้นที่ใช้งานจริงๆ จะเป็น 15.6″ สัดส่วน 16:10 ขอบหน้าจอบางเฉียบสุดๆ ที่เป็นขนาดหน้าจอที่ไม่เหมือนใครทั้งหมดในตลาด ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก แต่ก็ยังใส่จอใหญ่คุณภาพสูงความละเอียดสูงมาให้อยู่ดี

Dell XPS 15 9500 Review 3

ทำให้ดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางแบบสุดๆ เพียงแต่อาจจะดูแปลกตาเล็กน้อยในตอนแรกๆ เท่านั้น ส่วนของบอดี้ จะใช้เป็นอลูมิเนียมผ่านกระบวนการ CNC มาตรฐานสูง (computer numerical control)  และคาร์บอนไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งงานประกอบเองก็สมบูรณ์แบบ  ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบากว่า ที่สำคัญส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหรามากๆ ให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ

ตัวเครื่อง Dell XPS 15 9500 มีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมนแต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย ที่ขอบอลูมิเนียมรอบของตัวเครื่องกับลวดลายโลหะที่หรูหรา และในส่วนของขอบด้านหน้าจะมีไฟ LED สีขาวแสดงสถานะการชาร์จไฟเข้าเครื่องอีกด้วย 

Dell XPS 15 9500 Review 22

ส่วนคาร์บอนไฟเบอร์นั้นจะถูกนำเอามาใช้ด้านในของตัวเครื่องเป็นหลัก ส่งให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างง่ายเช่นกัน ดังนั้นผู้ใช้อาจจะต้องขยันเช็ดดูแลทำความสะอาดเครื่องซักหน่อย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูงของทาง Dell เป็นรุ่นรองท็อปของ XPS ซีรีส์ก็ว่าได้ (รุ่นท็อปสุดจะเป็น Dell XPS 17 9700)

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Dell XPS 15 9500 เป็นโน๊ตบุ๊คทรงประสิทธิภาพระดับสูงหน้าจอใหญ่กว่า 15.6″ ที่เน้นใช้งานนอกสถานที่ เพราะมีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัม ส่วนความบางก็บางเพียง 18 มิลลิเมตรเท่านั้น  บอกได้เลยว่าพกพาได้ง่ายสุดๆ แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งแม้จะบางขนาดนี้ ยังได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี 

Dell XPS 15 9500 Review 40

นอกเหนือจากนี้ Dell XPS 15 9500 แม้สเปกจะแรงและตัวเครื่องจะบางกว่ารุ่นอื่นๆ ก็ยังมีการใช้เทคโนโลยี Stay Cool Under Pressure ทำให้มาพร้อมกับพัดลมระบายอากาศจำนวน 2 ตัวซึ่งมีผลทำให้รุ่นใหม่นี้ นั้นจะมีเสียงรบกวนที่น้อยกว่าและความสามารถในการระบายความร้อนของตัวเครื่องที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้าอีกด้วย 

ส่วนการออกแบบมาที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นคือมีฝาหลังจะมีโลโก้ Dell อยู่ตรงกลางเครื่อง นับว่าเป็นการตั้งใจให้เหมือนเป็น DNA ในทุกๆ รุ่น นอกจากนี้การออกแบบยางรองใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่เหมือนใคร โดยใช้เป็นแถบยางยาวขนานไปกับแนวยาวของตัวเครื่อง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวตรงฝาพับ ที่สำคัญยังมีการในส่วนของดีไซน์การออกแบบ Dell XPS 15 9500 แม้จอจะใหญ่ แต่ก็เลือกที่ไม่ใส่แป้น Numpad มาด้วย เพื่อให้พื้นที่กับคึย์บอร์ดและลำโพงอย่างเต็มที่ 

Dell XPS 15 9500 Review 38

พร้อมฟีเจอร์เปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อเปิดฝาเครื่องทุกครั้งแม้ว่าเราจะ Shut Down ไปแล้วก็ตาม ในส่วนนี้ทำให้เรามีความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เพราะทุกไม่จำเป็นต้องกดปุ่ม Power เพื่อเปิดเครื่องแต่อย่างใด เรียกได้ว่า Dell XPS 15 9500 สเปก Core i Gen 10H เครื่องนี้ได้รับการใส่ใจในการออกแบบเป็นดี ที่ไม่ใช้แค่ได้สเปกใหม่ล่าสุด แต่ตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และดีไซน์นั้นมีความน่าประทับใจในทุกมิติจริงๆ

Keyboard / Touchpad

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้น Dell XPS 15 9500 เป็นแบบ MagLev keyboard โดยอาศัยแม่เหล็กช่วยยกตัว ซึ่งมีระยะยุบที่ 1.3 มิลลิเมตร โดยตัวปุ่มสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่กว่า Dell รุ่นอื่นๆ มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกัน

Dell XPS 15 9500 Review 10

กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนของคีย์บอร์ด พร้อมความสามารถใช้งานสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ใช้งาน Login Windows 10 ผ่านทาง Window Hello

Precision Touchpad ตามสไตล์ Dell มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell XPS 15 9500 หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ ขอบบางเฉียบทั้ง 4 ด้านด้วย InfinityEdge ที่มีความละเอียดระดับ Ultra HD+ ที่ 3840 x 2400 พิกเซล (มากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า)โดยมีสัดส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:10 ทำให้มีพื้นที่มากกว่าหน้าจอ 16:9 ทั่วๆ ไป พร้อมขอบเขตสีที่ใกล้เคียงมาตรฐาน sRGB 100% ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสีที่ถูกต้องในการแสดงผล 

Dell XPS 15 9500 Review 43

พร้อมด้วย Dolby Vision ช่วยปรับให้เราเห็นรายละเอียดของภาพมากยิ่งขึ้น ในการเพลิดเพลินไปกับคอนเท้นท์คุณภาพระดับ HDR ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HDR400 โดดเด่นด้วยจอแบบกระจก Corning Gorilla Glass 6 ที่สดใสและทนทาน หายห่วงเรื่องของการเป็นรอยจากการใช้งาน นอกเหนือจากนี้ยังรองรับการทัชสกรีนถึง 10 จุดพร้อมๆ กัน

ที่สำคัญด้วยความสว่างที่สูงซึ่งสว่างกว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปเป็น 2 เท่า +  จึงสามารถแสดงผลได้ยอดเยี่ยมแม้จะอยู่กลางแจ้ง อีกทั้งยังครอบคลุมเฉดสีและมีอัตราส่วนคอนทราสต์สูง จึงถ่ายทอดสีสันได้มากกว่า อีกทั้งด้วยฟีเจอร์ Eyesafe เพื่อช่วยลดแสงสีน้ำเงินที่อาจเป็นอันตรายและกระจายไปตามสเปคตรัมของแสง

โดยทดสอบด้วยอุปกรณ์ Spyder5Elite จากการ Display Analysis แสดงให้เห็นถึงขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 96% และ AdobeRGB 91% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับที่ดีเยียม ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 500 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างที่ดีมากๆ ของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือรองรับการใช้งานที่กลางแจ้งได้สบายๆ 

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องล่างกลางเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 27% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0

ลำโพงแบบ 4 ตัว (Quad-speaker) แบ่งเป็น Stereo woofer 2.5 W x 2 และ Stereo Tweeter 1.5 W x 2 เทคโนโลยี Waves Nx 3D audio นั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายขวาขอบตัวเครื่องด้านล่างและด้านบน ทำให้สามารถจำลองเสียง 3 มิติได้ รองรับทุกๆ การใช้งาน ทั้งทำงานและความบันเทิง อย่างดูหนัง วีดีโอ Youtube Netflix หรือเล่นเกม 

ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว เพราะรวมแล้วอยู่ที่ 8W ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่ายอดเยี่ยม มีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางและแหลมเป็นหลัก แต่ก็ให้เรื่องของเสียงทุ่มที่ดีกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ เรียกได้โน๊ตบุ๊ครุ่นหนึ่งในตลาดที่เสียงดีที่สุดเลยก็ว่าได้

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Dell XPS 15 9500 นี้จัดว่าเป็น Notebook ที่มีความครบครับตามมาตรฐานของโน้ตบุ๊คยุคใหม่ แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 จำนวน 4 พอร์ต คือเลือกตัด USB-A ออกไปเลย (แต่ให้ตัวแปลง Dell Docking ที่เป็น USB-A และ HDMI มาให้อยู่)

Dell XPS 15 9500 Review 27

โดยทั้ง 3 พอร์ต รองรับโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง 40Gbps ที่เร็วที่สุด รวมถึงการเชื่อมต่อหน้าจอ 4K, 8K และการชาร์จไฟจากอแดปเตอร์ หรือ Power Bank ที่เป็นมาตรฐาน PD (Power Delivery ) พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และ SD Card Reader ที่คนใช้งานระดับมมือาชีพน่าจะถูกใจกัน 

Dell XPS 15 9500 Review 30

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน้ตบุ๊ค 15.6″ รุ่นอื่นๆ ถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.5 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ที่มีขนาดเล็กที่หัวเป็น USB-C มีไฟ LED ในตัวเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่เกิน 2.9 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็น  Notebook บางเบาสเปกแรงในยุคปัจจุบันจริงๆ

Performance / Software

สำหรับ Dell XPS 15 9500 มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 10H อย่าง Intel Core i7-10750H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ  ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.00 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Buss 2933MHz แบบ 8GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

c1 7.   c2 6

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น โดยมีการ์ดจอแยกตัวแรงคุ้มค่าอย่าง NVIDIA GeForceGTX 1650 Ti จากที่สเปกภายในได้รับการอัพเกรดขึ้น เห็นได้ชัดจากแรมการ์ดจอจะเป็น 4GB GDDR6 แทนที่รุ่นก่อนที่เป็น 4GB GDDR5 เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ร้อนน้อยกว่าแต่ก็แรงลื่นพอตัว เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

g1 7.   g2 5

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เป็นที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยกเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น (แต่ออนชิปคือตัวเดิมนะ) เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก สมกับเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H จริงๆ ตอบโจทย์ในทุกๆ การทำงานแน่นอน รวมไปถึงมีความสเถียรภาพที่สูงด้วย

cine15 6.   cine20 6

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Notebook ไปแล้ว ซึ่งที่ติดตั้งมาก็เป็นมาตรฐานะดับสูง ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุใหญ่ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 4 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3057 MB/s และเขียนที่ 2744 MB/s ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน M.2 ทั่วไป 

ssd 8

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4812 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Notebook ระดับท็อปสเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming อย่าง GTX 1650 Ti ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว

pc10 6

แม้ Dell XPS 15 9500 จะไม่ใช่ Gaming Notebook โดยตรง แต่เราก็นำมาทดสอบเกมที่ความละเอียด Full HD ตามมาตรฐาน Gaming เพื่อดูประสิทธิภาพ สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยที่ลื่นไหลแทบทุกเกม

ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย

game test 5

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด จากกราฟตามภาพด้านล่าง ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลพอตัว กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ลงตัว

ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น Max ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 4GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าประทับใจอยู่

ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซลเช่นกัร ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด

แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย  ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่ ทั้ง 7 เกมที่เราได้ทำการทดสอบไป อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นสเปกใกล้เคียงกันจะได้เฟรมเรทที่ลื่นไหลเทียบเคียงกันได้ แต่ก็อย่าลืมว่าเราเลือกประเป็น Full HD ในการทดสอบด้วย อีกทั้งหน้าจอของ Dell XPS 15 9500 ก็รองรับ Refresh Rate ที่ 60Hz เท่านั้น  

dell

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell XPS 15 9500 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง SupportAssist โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

dpm

ปิดท้ายด้วย Dell Mobile Connect ซอฟต์แวร์ที่คอยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกการใช้งานระหว่างพีซีและสมาร์ทโฟน  โดยเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนต่างๆ ข้อมความ เบอร์โทร รวมไปถึงการโทรศัพท์ติดต่อ สามารถทำผ่านโน๊ตบุ๊คของ Dell ได้เลย สำหรับ Dell XPS 15 9500 ก็มีซอฟต์แวร์ตัวนี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เรียกได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากทีเดียว

mo

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ Dell XPS 15 9500 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่จากการทดสอบด้วยการเปิด Wi-Fi และปรับเป็น Power Saver Mode ทำงานต่อเนื่องยาวนานเกือบๆ 16 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานอย่างการดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต ดู Youtube / Netflix

ซึ่งเวลาอาจจะปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน อาจจะลดเหลือ 10 ชั่วโมงก็เป็นไปได้ กรณีที่ใช้โปรแกรมอื่นๆ ร่วมด้วย นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จผ่านทาง Power Bank ที่เป็นมาตรฐาน PD (Power Delivery ) ทำให้สะดวกต่อการชาร์จไฟกลับนั่นเอง

batt 5

แต่อย่างไรก็ตามจากการที่สเปกจะแรงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถืออยู่ในเกณฑ์ที่ปกติและรับได้ที่ไม่เกิน 100  องศาเซลเซียส เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก Dell ที่เยี่ยมยอด แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเครื่องเน้นความบาง ส่งผลให้ความร้อนที่สูงระดับ 100 องศาเซลเซียสอยู่ แต่ก็สามารถทำงานได้ปกติไม่มีผลต่อการใช้งานใดๆ

ซึ่งในส่วนของการ์ดจออย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 73 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว สมกับเป็น Dell XPS 15 9500 จริงๆ

temp2

Conclusion / Award

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ทรงประสิทธิภาพที่แสนบางเบารุ่นใหม่ สุดพรีเมียมจากทาง Dell อย่าง Dell XPS 15 9500 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล XPS ได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตุในเรื่องของราคาค่าตัวที่สูงถ้าเทียบเฉพาะสเปกอย่างเดียว แต่ก็อย่าลืมว่าเราได้ฟีเจอร์ที่เยี่ยมยอดอย่างที่หาไม่ได้ในโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ด้วย 

Dell XPS 15 9500 Review 41

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา Dell XPS 15 9500 จะมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพรุ่นอื่นๆ แต่ก็เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ เท่านั้น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ และแน่นอนว่าขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6″ทั่วไปด้วย ที่สำคัญยังมีการรับประกันถึง 3 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support On-Site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ

Dell XPS 15 9500 Review 26

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับ ซึ่งครบครันทั้งประสิทธิภาพสูงระดับคอมพิวเตอร์พีซี ในขนาดตัวเครื่องที่เล็กกระทัดรัด พร้อมด้วย InfinityEdge Display ที่เห็นแล้วสวยงามสุดๆ โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวต่อสเปก CPU / GPU / RAM / SSD รวมไปถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่งบ 79,990 บาท เราน่าจะหา Gaming Notebook แรงกว่านี้ดีกว่านี้แน่นอน 

ซึ่ง Dell XPS 15 9500 ตอบโจทย์การใช้งานและได้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามต้อยอมรับเรื่องของความร้อนที่สูงระดับ 100 องศาเซลเซียส และพอร์ตเชื่อมต่อที่มีเฉพาะ Thunderbolt 3 ได้ล่ะก็ ถ้างบถึงก็จัดไปได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ยิ่งถ้าใครเป็นแฟน Dell Notebook อยู่แล้ว และต้องการโน้ตบุ๊คที่ดีที่สุดตัวนี้แหละใช่เลย ส่วนถ้าจะเล่นเกมเป็นหลัก แนะนำให้ไปดู Alienware m15 R3 ดีกว่า

Dell XPS 15 9500 Review 19

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่ใกล้เคียงกกัน ซึ่ง Dell XPS 15 9500 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ XPS มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell XPS 15 9500 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ใช้สี Platinum Silver ด้วยวัสดุอลูมิเนียม CNC พร้อมลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเหมาะกับหนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่เน้นความเท่ ที่ได้ความหรูหราและเป็นทางกา ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

NBS award 7 Design 

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คตระกูล XPS อยู่เช่นเดิม ทั้งในความบางเพียง 18 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 2 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ด้วยขนาดตัวเทียบเท่าโน๊ตบุ๊ค 14″ เท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมถึงแบตก็ใช้งานเกือบๆ 16 ชั่วโมง เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ

NBS award 4 Mobility

Best Multimedia

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ตัวล่าสุด การ์ดจอยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti พร้อมแรม 16GB และ SSD M.2 512GB ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ตอบโจทย์ในทุกๆ การใช้งาน ทั้งทำงานหนักๆ และความบันเทิง อีกทั้งได้หน้าจอ 15.6″ 4K UHD+ พาเนล IPS เกรดสูง กระจก Corning Gorilla Glass 6 ทัชสกรีนได้ พร้อมลำโพง 4 ตัว เสียงดังและดีแบบสะใจ ที่ใช้ร่วมกับเทคโนโลยี Waves Nx 3D ที่เยี่ยมยอดด้วย 

award new multi media

 

 

 

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

CONTENT

ในบทความก่อนหน้านี้จะเป็นการแนะนำโน้ตบุ๊ก AMD น้ำหนักเบาที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมตอบโจทย์การทำงานที่ต้องเน้นการพกพาเครื่องบ่อย ๆ โดยที่ยังได้พลังในการทำงานที่ดีอยู่ ส่วนในบทความนี้เราจะมาดูโน้ตบุ๊ก AMD การ์ดจอแรง แต่มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบากันบ้าง เผื่อในกรณีของท่านที่ต้องการซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ซักเครื่อง แล้วอยากได้แพลตฟอร์มของค่ายแดงมาไว้ใช้ทำงาน เล่นเกม แต่ก็ยังอยากพกง่าย ๆ อยู่ด้วยในเครื่องเดียว

Buyer's Guide

ในอดีตโน๊ตบุ๊คราคา 20000 บาท อาจจะได้สเปคแค่พอใช้งานได้ แต่พอซีพียู AMD, Intel มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ โน๊ตบุ๊ค 2024 ราคาไม่เกิน 20000 บาท ก็ใช้ทำงานทั่วไปได้สบายๆ ไม่ว่าจะงานเอกสารหรือแต่งภาพทำคลิปสั้นก็ได้ไม่พอ หลายเจ้ายังติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ครบ พร้อมทำงานทันทีไม่ต้องซื้อบริการ...

Buyer's Guide

โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาไม่เกิน 20000 บาทในปี 2024 ซึ่งเทคโนโลยีก้าวหน้ามาไกลจนฮาร์ดแวร์มีกำลังประมวลผลดีขึ้นแต่ราคาถูกลงจึงหาซื้อมาใช้ได้สะดวกกว่าเดิม แม้จะเห็นว่าตัวเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาเพื่อชาวออฟฟิศก็จริง แต่จีพียูออนบอร์ดก็ดีพอเล่นเกม เช่น The Sims, เกมอินดี้ไปจนเกมออนไลน์บนจอความละเอียด 1080p ปรับกราฟิคระดับกลางพอให้คนทำงานเปิดเกมเล่นฆ่าเวลาได้บ้าง ไม่ต้องเผื่อเงินไปซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาเกินกว่านี้มาใช้ให้เปลืองก็ได้ จะซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาไม่เกิน 20000 บาทมาแล้วเล่นเกมอะไรได้บ้าง? โน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาไม่เกิน 20000 บาท มักเป็นจีพียูในตัวชิปเซ็ต อาจมีรุ่นจีพียูแยกให้เลือกได้บ้าง จีพียู AMD...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก