ต้องเรียกว่าการมาของ DELL XPS 13 รุ่นใหม่ สมกับการรอคอยของใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มตลาดที่หลงไหลในความปราณีตและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งทำให้ XPS ยังคงกลายเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คนที่อยากได้ความคล่องตัวในการใช้งานและความพรีเมียมโดดเด่น ทั้งภาพลักษณ์และฟังก์ชั่น
DELL XPS 13 ยังคงคงภาพลักษณ์ของความหรูหรา บางเบา ไว้อย่างชัดเจน กลุ่มเป้าหมายมีทั้งนักธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ประจำวัน ไปจนถึงนักศึกษาและกลุ่มคนที่มีความเป็นส่วนตัวไว้อย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น ผสมผสานไปกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ผู้ผลิตจัดสรรให้กับผู้ใช้กลุ่มนี้ไว้อย่างลงตัว เพราะคุณจะไม่ได้เห็นแค่เพียงดีไซน์หรูหราภายนอกเท่านั้น แต่ยังได้ขุมพลังที่แรง พร้อมกับความปลอดภัย อุ่นใจด้วยการรับประกันที่ถือเป็นสิ่งที่การันตีได้จาก DELL ครับ
- Specification
- Hardware & Design
- Keyboard / Touchpad
- Screen / Speaker
- Connector / Thin And Weight
- Performance / Software
- Battery / Heat / Noise
- Conclusion / Award
Specification
สำหรับ DELL XPS 13 รุ่นนี้ จะมาในสไตล์โน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบา และประสิทธิภาพที่ดี แต่ไม่ได้เป็นแบบ 2-in-1 ในแบบที่เราเห็นกันในซีรีส์เดียวกัน แต่ต่างกันที่โมเดล จะเห็นได้จากบานพับชิ้นเดียว ยาวไปตลอดตัว ต่างจากในบางโมเดลที่เป็นแบบทัชสกรีนอยู่พอสมควร โดยในรุ่นที่ได้รับมาทดสอบนี้ ใช้ซีพียู Intel Core i7-1165G7 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Tiger Lake รุ่นใหม่ หรือที่เรียกว่า Gen 11 นั่นเอง ด้วยการทำงานแบบ 4 core/ 8 thread จึงรองรับการทำงานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 4.70GHz สำหรับซีพียูรุ่นใหม่นี้ เป็นแบบ 10nm เช่นเดียวกับในรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ค่า TDP ที่น้อยลง จึงทำให้ใช้พลังงานที่น้อยกว่า และยังได้ประสิทธิภาพที่ดี ความร้อนก็น้อยลงอีกด้วย เช่นเดียวกับสิ่งที่คู่กันมาใน Intel Gen 10 นั่นก็คือ เทคโนโลยี AI ที่ทำให้การประมวลผลรวดเร็วขึ้น และเข้ามาช่วยในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น
และเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบลื่น ระบบติดตั้งหน่วยความจำ DDR4 มาให้ถึง 16GB เพื่อสนับสนุนการทำงานในปัจจุบันได้ดีขึ้น เรียกว่ามากพอต่อการใช้งานทั้งซอฟต์แวร์ออฟฟิศทั่วไป ความบันเทิง และการเปิดใช้งานแบบมัลติทาส์ก เอาใจคนที่ทำงานเอกสาร ตกแต่งภาพหรือการท่องอินเทอร์เน็ต แล้วเปิดหน้าเว็บเอาไว้เยอะๆ แรมจะให้ผลดี ให้คุณ Search ได้ต่อเนื่องไม่สะดุด นอกจากนี้ยังมาพร้อม SSD ความเร็วสูง 512GB ซึ่งเป็นแบบ NVMe PCIe ที่มีความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งที่คุณจะได้สัมผัสก็คือ การเปิดเครื่องได้เร็ว เรียกว่าตั้ง Sleep หรือ Hibernate ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที การเข้าโปรแกรมหรือเปิดไฟล์ได้ทันใจ ไม่ต้องรอนาน รวมไปถึงการโอนถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่หรือที่มีไฟล์จำนวนมากได้ทันใจอีกด้วย
จอแสดงผลจัดว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของ DELL XPS 13 รุ่นนี้ เพราะเป็นจอความละเอียด Ultra HD+ (3840 x 2400) ในสัดส่วน 16:10 ที่แม้จะดูว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง เมื่ออยู่บนพื้นที่จอระดับ 13.4″ แบบนี้ แต่บอกได้เลยครับว่า คุณจะได้ฟินกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ อย่างที่ได้กล่าวไปคือ การที่ทาง DELL ออกแบบมาให้เป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่มของไลฟ์สไตล์ ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ต้องการพลังสำหรับการประมวผลและการแสดงผล ด้วยความละเอียดระดับนี้ จะช่วยให้การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเอกสาร ท่องอินเทอร์เน็ตหรือการตกแต่งภาพ ดูคมชัดยิ่งขึ้น ด้วยความละเอียดที่มากกว่า Full-HD อยู่หลายเท่า ทำให้การเปิดดูวีดีโอ ภาพความละเอียดสูงหรือใช้ในด้านความบันเทิงมีรายละเอียดที่มากกว่า และให้อรรถรสในการใช้งาน
ในด้านของพอร์ตเชื่อมต่อนั้น เป็นไปตามรูปแบบของโน๊ตบุ๊คบางเบาไลฟ์สไตล์ ที่ส่วนใหญ่จะเน้นการเชื่อมต่อไร้สาย เช่น Bluetooth 5.0 และ WiFi 6 หรือ 802.11ax เป็นต้น อย่างไรก็ดี DELL ก็พยายามจัดวางสิ่งที่ควรมี บนโน๊ตบุ๊คในกลุ่มนี้ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกมากขึ้น ด้วยพอร์ต USB Type-C และยังเป็น Thunderbolt 4 อีกด้วย ซึ่งคุณจะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายในพอร์ตเดียว ไม่ว่าจะเป็นการโอนถ่ายข้อมูล การแสดงผล ไปจนถึงการชาร์จไฟโน๊ตบุ๊ค ซึ่งครอบคลุมการทำงานได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมี microSD card reader มาให้เพิ่มเติมอีกด้วย
การรับประกัน 3 ปี ในแบบ On-site service จัดเป็นบริการที่เข้มข้นและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ ที่สนใจในแบรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี โดย Dell Premium Support นี้ จะเป็นบริการซ่อมฟรีถึงบ้าน พร้อมด้วยบริการหลังการขาย ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ รวมถึงการให้คำปรึกษาหรือสอบถามทางโทรศัพท์ได้ 24 ชั่วโมง รวมถึงความช่วยเหลือในด้านต่างๆ
Intel Core i7-1165G7/ DDR4 16GB/ SSD 512GB/ Ultra-HD Display/ 76,900 บาท
Hardware & Design
DELL ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยบอดี้ที่เน้นไปความเป็น Unique ที่มีความโดดเด่นเป็นสไตล์ของตนเอง ซึ่งในกลุ่มของ XPS แม้จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาในแต่ละช่วง แต่การออกแบบที่บางเฉียบ บอกกับโครงสร้างอะลูมิเนียม ประกอบกับวัสดุในบางส่วนด้านใน ที่ใส่เส้นสายมาอย่างลงตัว ทำให้ดูน่าใช้และน่าจับถือมากขึ้น หน้าจอขนาด 13.4″ แต่กลับมีขนาดที่เล็กจนน่าประหลาดใจ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการทำขอบจอให้บางเฉียบ เพื่อใช้พื้นที่หน้าจอได้อย่างเต็มที่ และลดมิติของบอดี้ลงได้เยอะ เอาใจคนที่ไม่ชอบความเทอะทะ และยังลดลงได้อีก จนสามารถใส่กระเป๋าสะพายหรืออาจจะลงตัวกับ Messenger Bag ที่เป็นแบบสะพายข้างในบางรุ่นได้ ตามสไตล์กลุ่มแฟชั่นแนวสตรีทในปัจจุบัน ตัวเครื่องเน้นที่ขอบมุมที่เป็นเหลี่ยม ไล่สัดส่วนจากบางด้านหน้า ไปหนาตรงส่วนท้ายที่เป็นบานพับ
ซึ่งถ้าดูจากรายละเอียดจากทาง DELL จะระบุว่าสร้างจาก CNC หรือใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบและสร้างชิ้นงานขึ้นมา จะเห็นได้ว่าด้านหน้าจะดูเรียบ แต่ถ้าลองดูใกล้ๆ จะไม่ได้เป็นแบบเรียบลื่น แต่มีสัมผัสให้ได้สะดุดมือ ช่วยให้การจับถือเป็นไปอย่างมั่นใจ ไม่ลื่นหลุดง่าย อีกทั้งใครที่เบื่อกับรอยนิ้วมือ ไม่ได้เจอบนบอดี้ของ DELL XPS 13 นี้ง่ายๆ ตรงนี้เป็นความชอบส่วนตัวเลย และด้วยมิติที่ค่อนข้างเล็ก จึงทำให้เน้นที่การจับถือเดินไปมาได้ง่ายกว่า บอกได้ว่าคุณสามารถถือมือเดียว เดินไปตามที่ต่างๆ หรือกรณีที่ใช้ในบ้าน ก็ยังสะดวกสบาย ไม่รู้สึกเกะกะแต่อย่างใด
ฝาปิด Cover มีเพียงโลโก้ DELL ที่เป็นแบบปั้มมาบนพื้นผิว กลายเป็นสัญลักษณ์สะดุดตา มีความเงางาม ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่จุดบนโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ นอกเหนือจากขอบบานพับ ที่ดูวิบวับๆ เล็กน้อย
สีบอดี้ด้านนอกของ DELL XPS 13 มาในโทน Platinum Silver จับถนัดมือไม่ลื่น ด้านในตัดด้วยสีดำ พร้อมกับพื้นผิวที่เป็นลายเล็กๆ มีสัมผัสที่แตกต่าง ให้ความรู้สึกที่นุ่มเล็กน้อย ทำให้คนที่ไม่ชอบการวางมือบนโลหะโดยตรงเพราะเย็นมือน่าจะถูกใจไม่น้อยเลย ตรงจุดที่เรียกว่า Palm rest นี้เป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมกับโลโก้ Intel EVO เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่เกิดขึ้นบนซีพียู Intel Gen 11 (Tiger Lake) ระดับ Core i5 ขึ้นไป รองรับมาตรฐาน Thunderbolt 4 และ WiFi 6 ซึ่งการจะได้โลโก้แพลตฟอร์มนี้ จะมีเงื่อนไขอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เช่น ประสิทธิภาพสูง ใช้ชิปประมวลผล Core i5/i7 ขึ้นไป, แรม 8GB ขึ้นไป, หน่วยความจำเป็น SSD NVMe 256GB ชาร์จได้ไว แบตอึด เปิดเครื่องเร็ว รองรับ Thunderbolt 4 เป็นต้น ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้ อยู่บน DELL XPS 13 นี้ทั้งหมดแล้ว
ด้านบนของขอบจอ เห็นเล็กๆ แบบนี้ ก็มาพร้อมกับกล้องเว็บแคม เป็นแบบ Wide-screen 720p ซึ่งจะทำงานร่วมกับฟีเจอร์ในการล็อคอินเข้าสู่ระบบ อย่างเช่น Windows Hello เป็นต้น ทำให้การเข้าสู่ Windows 10 ทำได้รวดเร็ว หลังจากที่เปิดเครื่องมาในไม่กี่วินาที รวมถึงการสนทนาออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อีกด้วย
ที่วางมือทั้งซ้ายและขวา จะมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ซ้ายจะบอกถึง Dell Premium Support กับรายละเอียดการรับประกัน และทางขวาจะเป็นสติ๊กเกอร์ Intel EVO ที่จะบอกถึงฟีเจอร์บนแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel Gen 11 นี้ ซึ่งจะมีทั้ง EVO และ EVO Pro สามารถดูรายละเอียดได้ที่แอดมินโป้งได้อธิบายไว้ Intel EVO
Keyboard / Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ดและทัชแพด เอาใจทั้งสายแชทและคนทำงาน ด้วยทัชแพดขนาดใหญ่ และปุ่มคีย์ที่กว้าง ตอบสนองไว เหมาะกับคนที่พิมพ์สัมผัสเป็นอย่างยิ่ง และยังใช้งานในที่ที่มีแสงน้อยด้วยไฟ Backlit บนคีย์บอร์ด ปรับความสว่างได้ 2 ระดับ หรือจะปิดเมื่อไม่ใช้ก็ได้เช่นกัน เดี๋ยวจะมาทดลองเปิดให้ดูกัน
หลายคนอาจจะสงสัย วัดขนาดพื้นที่ให้ดูกันเลย ความยาวจะอยู่ราวๆ 11.5cm ก็เรียกว่ากว้างขวาง ลากนิ้วไปมาได้สะดวก และยังเป็น multi-gesture touchpad ที่ใช้คำสั่งหลายนิ้วพร้อมๆ กันได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนหน้าจอ ย่อ-ขยายหรือเปลี่ยนหน้าแท็ปเป็นต้น
สัดส่วนพื้นที่คีย์บอร์ดและทัชแพด จัดเต็มมากๆ หากดูกันตามสัดส่วน ไม่ใช่แค่หน้าจอที่เป็นแบบ InfinityEdge หรือแทบจะไร้ขอบ แต่ทั้งคีย์บอร์ดและทัชแพด ยังมาในแบบเดียวกัน การตอบสนองยังไว ทัชแพดให้ความนุ่มลื่น ปุ่มกดซ้าย-ขวาออกแบบให้ซ่อนอยู่ในทัชแพดนี้ด้วย พร้อมเทคโนโลยีในการป้องกันไม่ให้เคอร์เซอร์เลื่อนไปมา ในกรณีที่ใช้งานคีย์บอร์ด เพื่อให้การพิมพ์งานอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเสมอ
มองจากด้านข้างจะเห็นได้ว่า คีย์บอร์ดจะไม่ได้สูงขึ้นมามากนัก แทบจะราบเรียบไปกับบอดี้ จึงทำให้การตอบสนองทำได้ไว และพิมพ์ได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังลดปัญหากับสร้างรอยบนหน้าจอ เมื่อคุณต้องปิดพับหน้าจอ แล้วใส่กระเป๋า ซึ่งสำคัญอย่างมาก สำหรับคนที่รักโน๊ตบุ๊คและอยากให้อยู่ไปด้วยนานๆ
แสงไฟบนคีย์บอร์ดเป็นแบบ LED Backlit ซึ่งให้ความสว่างสดใสได้พอสมควร เรียกว่าสามารถใช้งานในที่มืดหรือแสงน้อยได้อย่างชัดเจน เพื่อให้รองรับการใช้งานในโอกาสต่างๆ ได้สะดวกกว่า เช่นระหว่างการเดินทางบนเครื่องบิน ใช้งานในห้องนอน หรือระหว่างพักผ่อนอยู่ในห้องนั่งเล่น ปรับความสว่างได้ 2 ระดับ หรือจะปิดไฟก็ได้หากไม่ได้ใช้ ด้วยกดปุ่มที่อยู่ด้านบนของคีย์บอร์ดนั่นเอง สิ่งที่ดูสะดุดตา และน่าจะเป็นข้อดี ที่ทำให้หลายคนชื่นชอบก็คือ ไฟที่สว่างเต็มคีย์ เห็นได้ชัดเจนทั้งภาษอังกฤษและภาษาไทย
Screen / Speaker
DELL XPS 13 9310 รุ่นนี้ มาพร้อมกับหน้าจอคุณภาพสูง IPS ที่ให้ความคมชัดในทุกมุมมอง และยังให้ความละเอียดในระดับ Ultra-HD กับตัวเลข 3840 x 2400 pixels ความละเอียดที่เหนือกว่า Full-HD หลายเท่า ให้คุณมองภาพที่ปรากฏได้ชัดเจนกว่า และอย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น คือรูปแบบการใช้งานของคุณในชีวิตประจำวันจะเปลี่ยนไป เพราะภาพที่ได้จะแตกต่างจากบนโน๊ตบุ๊คที่เคยใช้ ทั้งในเรื่องของการทำงานเอกสาร การแต่งภาพหรือว่าการท่องอินเทอร์เน็ตก็ตาม จะมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น แม้จะอยู่ในบอดี้ของโน๊ตบุ๊คขนาด 13.4″ ก็ตามที
ในการทดสอบด้วย Spyder5Ekite เพื่อหาประสิทธิภาพในการแสดงผลและขอบเขตสีของจอภาพบนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ผลที่ได้จากการใช้อุปกรณ์ทดสอบ กับตัวเลขที่ยังคงมาตรฐานไว้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น sRGB 94% และ Adobe 75% เรื่องของการแสดงผลสีที่ออกมานั้น เหมาะกับการทำงานด้านภาพและวีดีโอได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งเข้ากับสไตล์การทำงานของผู้คนในปัจจุบัน ส่วนความสว่างหน้าจอนั้นอยู่ที่ราว 370 cd/ m2 ซึ่งจัดว่าตัวเลขค่อนข้างดีสามารถนำไปใช้นอกบ้านได้สบาย รวมถึงการใช้งานร่วมกับโปรแกรมกราฟิก เมื่อผ่านการ Calibrate เรียบร้อยแล้ว
ในด้านความสว่างของหน้าจอ เมื่อแยกออกเป็นในแต่ละโซน สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือ พื้นที่การแสดงผลใน 9 โซนบนหน้าจอ ความสว่างสุดจะอยู่ที่ตรงกลาง ซึ่งเป็น พื้นที่หลัก ตัวเลขที่ดูแปลกตาไปก็จะอยู่ที่มุมขวาล่างและบนของหน้าจอ ที่มีตัวเลขต่างไปพอสมควร ดังนั้นถ้าต้องการความชัดเจนแม่นยำของภาพ อาจจะต้องเช็คพื้นที่ของภาพในแต่ละส่วนให้ดี อย่างไรก็ดีหากคุณต้องทำงานหรือดูตัวอย่างพรีวิวภาพที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และซีเรียงเรื่องของสี ควรมีจอที่ใช้ทำงานจริงจังแยกอีกชุด เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น
เมื่อเข้าไปเช็คใน Properties ของ Windows ก็จะเห็นว่า แจ้งรายละเอียดของ Resolution 3840 x 2400 ที่รีเฟรชเรต 60Hz
ลำโพงในแบบ Stereo ที่อยู่ทั้งด้านซ้ายและขวา ของด้านใต้โน๊ตบุ๊ค เป็นสิ่งที่ทำให้คุณสนุกสนานได้อย่างน่าทึ่ง ส่วนหนึ่งเพราะเทคโนโลยี Waves MaxxAudio® Pro ที่มาพร้อมลำโพง 2.5W จำนวน 2 ชุด ซึ่งเสียงที่ได้กระหึ่มสะใจดีทีเดียว เน้นไปเสียงกลางที่แน่น แบบที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นลำโพงโน๊ตบุ๊ค และเสียงแหลมไปได้ดี เพราะฉะนั้นดูหนังฟังเพลง คุณได้อิ่มเอมใจอย่างแน่นอน แต่ถ้ากลัวรบกวนคนอื่น หรืออยากได้เรายละเอียดของเสียงที่มากขึ้น สามารถใช้แจ๊ค 3.5mm ต่อหูฟังตัวเก่งของคุณได้เช่นกัน และผู้ใช้ยังสามารถปรับจูนเองได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ เพื่อให้ได้โทนเสียงแบบที่ต้องการ
Connector / Thin And Weight
เบาสบายถือได้มือเดียว การพูดแบบนี้ก็ไม่ผิดไปนัก จะว่าไปนี่คือรูปลักษณ์ที่ผู้ใช้เน้นความเป็นไลฟ์สไตล์ ที่เข้ากับชีวิตประจำวันได้ แบบไม่ต้องแบกเป็นที่เข้าใจกันดี น้ำหนักของ XPS 13 รุ่นนี้ยังอยู่ในระดับเดียวกับหลายๆ รุ่นที่ผ่านมา คือประมาณ 1.2Kg. เพราะเป็นรุ่น Nontouch แต่ถ้าเป็นทัชสกรีน ก็จะเพิ่มกว่านี้อีกเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ตัวเล็กมากๆ จนโน๊ตบุ๊คตัวใหญ่ต้องอิจฉา น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นมาแบบไม่สะเทือนไหล่ของคุณแม้แต่น้อย เมื่อใส่กระเป๋าแล้วพกพาไปทำงาน
มาดูกันทีละจุด ความจริงมีตัวเลขความหนาและบางของ XPS 13 ปรากฏอยู่บนหน้า Specification ที่แนะนำมาในเว็บไซต์ แต่เราก็อยากให้เห็นความหนาที่แท้จริง และคุณประเมินเองได้ จุดที่บางสุดจะเป็นด้านหน้า ที่ดูยาวเรียวประมาณ 1.3-1.4mm. ซึ่งจะว่าไปเทียบเท่ากับสมุดโน๊ตของหลายๆ คน ส่วนจุดที่หนาสุดคือ บานพับด้านหลัง อยู่ที่ประมาณ 1.6mm เท่านั้น ส่วนมิติความกว้างยาวของโน๊ตบุ๊คนี้ เรียกว่าใส่กระเป๋าสะพาย เป้หรือซอฟต์เคสเล็กๆ ได้เลย (H: 14.8mm W: 296mm D: 199mm)
มุมมองจากด้านข้าง สร้างความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คที่คุณเคยจับถืออย่างแน่นอน ถ้าคิดว่าอยากได้บางเบา ใส่กระเป๋าง่าย XPS 13 รุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้ กับสไตล์ที่ดูหรูหรานิดๆ แต่ให้ความ Comfort การจับถือก็ง่าย กรณีที่อยู่ในบ้าน หรือที่ทำงาน ต้องเดินไปมา ระหว่างห้องหรือแผนก ก็แค่พับฝาแล้วเดินถือไปง่ายๆ ได้เลย ถึงเวลาเปิดฝาเครื่องขึ้นมา ก็ใช้เวลาไม่กี่วินาที ก็พร้อมทำงานได้แล้ว ไม่ต้องปิดเครื่องหรือ Shutdown อีกด้วย จะเลือก Hibernate หรือ Sleep ก็ตามสะดวกได้เลย จากที่ได้ติดตั้งโปรแกรมและเก็บไฟล์เอาไว้สักระยะแล้ว ยังใช้เวลาเปิดเครื่องไม่ถึง 10 วินาที รวมเวลา Log-in เข้าระบบแล้ว
พอร์ตต่อพ่วงจะประกอบด้วย 4 ส่วนด้วยกันคือ Thunderbolt 4 สำหรับ Display และ Charge ไปในตัว เช่นเดียวกับอีกฝั่งหนึ่ง ที่เหลือจะเป็น microSD card reader และ 3.5mm สำหรับแจ๊คหูฟัง ไมโครโฟนในแบบคอมโบ
แม้จะดูน้อยๆ แต่ก็เพียงพอและเข้ากับสไตล์ของผู้ใช้โน๊ตบุ๊คในกลุ่มนี้ ที่เน้นการเชื่อมต่อไร้สายมากกว่า และไม่ต้องเปลืองพื้นที่ในการติดตั้ง เนื่องจาก Thunderbolt เอง ระบุตามสเปคมาเลยว่า รองรับทั้งการเชื่อมต่อและการถ่ายโอนข้อมูล รวมถึงการชาร์จไฟผ่านทางอแดปเตอร์ที่มีมาให้ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะใช้งานไม่ได้
แต่ถ้ากรณีที่มีอุปกรณ์ เช่นแฟลชไดรฟ์หรืออื่นๆ ที่เป็น USB Type-A ก็สามารถใช้ตัวแปลงที่มาให้เชื่อมต่อเข้ากับ Type-C ก็ใช้งานได้แล้วครับ
Performance / Software
ในการตจรวจเช็คซีพียูด้วย CPU-z ระบุมาอย่างชัดเจนว่าเป็น Intel Core i7-1165G7 เรียกว่าเป็นรองท็อปในซีรีส์นี้ ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 2.80GHz และ Boost ได้มากกว่า 4GHz รวมถึงการทำงานแบบ 4 core/ 8 thread
และเช็คในส่วนของแรม มาพร้อมกับ DDR4 16GB ในแบบ Dual-channel ที่ให้คุณใช้งานได้อย่างสบายใจ เปิดเบราว์เซอร์หลายๆ แท็ปก็ยังไหว และยังรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบไม่อึดอัด
กราฟิกที่มีมาบน DELL XPS 13 รุ่นนี้เป็น Intel Iris Xe graphic ซึ่งถือว่าเป็น iGPU ที่มีประสิทธิภาพสูง ที่มีมาบนซีพียู Intel Gen 11 รุ่นใหม่นี้ ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มนี้ ที่รองรับได้ทั้งการทำงานและความบันเทิง ซึ่งรวมไปถึงการใช้งานด้านมัลติมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะการแสดงผลระดับ 2K หรือ 4K
ผลที่ได้จากการทดสอบในเบื้องต้นด้วย CPU-z Bench CPU สามารถเทียบได้กับ Intel Core i7-10700 ที่เป็นซีพียูเดสก์ทอป ในส่วนของ Single-thread แต่สำหรับ Multi-thread ต้องเรียกว่ายังห่างอยู่พอสมควร แต่อย่าลืมว่า นอกจากจะต่างกันในส่วนของ TDP แล้ว ยังต่างกันทั้งเรื่องของความเร็ว Clock และ Core/ thread อีกด้วย จึงทำให้ผลตรงนี้ไม่น่าแปลกใจนัก
Dell จัด SSD ตัวแรงมาให้บน XPS 13 รุ่นนี้ สังเกตได้จากผลทดสอบบน CrystalDiskMark ที่ตัวเลขการอ่าน/เขียนข้อมูลจัดว่าไม่ธรรมดา เพราะผลจาก (Read) ไปแตะที่ 3,2xxMB/s และ (Write) สูงถึง 2,7xxMB/s จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณจะสามารถเปิดเครื่อง เข้าโปรแกรมได้ไว อีกทั้งส่งผลไปยังการ Copy หรือโอนถ่ายข้อมูลได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ในการทดสอบ Basemark GPU ร่วมกับกราฟิก Intel Iris Xe ซึ่งเป็น iGPU ที่มาพร้อมกับ Intel Gen 11 ใหม่นี้ ให้ผลคะแนนอยู่ที่ 1185 ตัวเลขอาจดูไม่มาก แต่ย้ำว่านี่เป็นการทดสอบในโหมด Ultra HD แบบ Native ซึ่งพอเป็นสิ่งที่บอกถึงประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีพอสมควร
ทดสอบการบีบอัดไฟล์ด้วย WinRAR benchmark ในแบบ Single-thread (ซ้าย) และ Multi-thread (ขวา) ตัวเลขที่ได้ก็จัดว่าค่อนข้างดีทีเดียว หากเทียบกับซีพียูพีซี ก็แทบจะไม่น้อยหน้ากันเลย
แม้ว่าจะเป็นโน๊ตบุุ๊คที่เน้นความสะดวกในการพกพา และรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ด้วยซีพียูก็ถือว่าจัดจ้านพอดู ก็นำมาทดสอบประสิทธิภาพในการเรนเดอร์กันบ้างกับ CINEBench ที่ใช้ซีพียูในการเรนเดอร์ผลที่ได้ก็เป็นไปตามคาด ย้ำว่าเป็นซีพียูโน๊ตบุ๊ค แต่ทำคะแนนได้ในระดับนี้ ก็ถือว่าทำงานได้ดีพอสมควรแล้ว แต่ถ้าในกรณีที่จะเน้นการใช้งานแนวนี้จริง ก็แนะนำไป Inspiron หรือ G series จะได้ผลที่ดีกว่า แต่ก็ต้องแลกมากับน้ำหนักที่เยอะพอสมควร
มาถึงขนาดนี้ จะไม่ทดสอบเกมก็ยังไงอยู่ ในการทดสอบ DELL XPS เราใช้ค่าเริ่มต้นของเกม Fastest บนความละเอียด Full-HD สำหรับ DOTA2 จัดว่าเล่นได้ ภาพสวยในระดับหนึ่ง กับการเล่นเกมแบบลื่นพอสมควร แต่ไม่แนะนำให้เล่นบน High Quality เพราะเมื่อเจอเวทย์ใหญ่ของฮีโรหรือเมื่อมีตัวละครเยอะๆ อาจทำให้ภาพไม่สมูทเท่าที่ควร แต่ในภาพรวมเกมแนวนี้เล่นได้ครับ
ซอฟต์แวร์ที่บันเดิลมากับโน๊ตบุ๊ค ก็ถือเป็นอีกหนึ่งการดูแลจาก DELL ที่เป็นตัวช่วยในการปรับปรุงและดูแลระบบ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจขึ้น Dell SupportAssist ที่จะทำให้คุณสามารถอัพเดตไดรเวอร์ใหม่ได้รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก แก้ไขปัญหาต่างๆ ในเบื้องต้น รวมถึงการระบายความร้อนที่เหมาะสม รวมไปถึงบอกข้อมูลของแบตและการแจ้งเตือน เมื่อเกิดปัญหา หรือจะต้องปรับปรุงโน๊ตบุ๊คได้อีกด้วย โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งยาก จะเป็นแบบอัตโนมัติ ทำให้ได้รับข้อมูลที่จำเป็น และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที
Battery / Heat / Noise
มาดูในเรื่องของแบตเตอรี่และการระบายความร้อนบนโน๊ตบุ๊ค DELL XPS 13 รุ่นนี้กันบ้าง แบตที่ให้มา เมื่อเช็คจาก Battmon แล้วอยู่ที่ 5,909mAh ซึ่งถือว่ามากพอสมควร สำหรับโน๊ตบุ๊คเล็กๆ แบบนี้ แต่ก็เป็นผลดีสำหรับคนที่เบื่อที่ชาร์จ ไม่ชอบนั่งกับที่นานๆ ก็มีโอกาสใช้งานนอกโต๊ะทำงานได้นานขึ้น และผลทดสอบที่ได้นั้น ก็ดูจะสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน กับการทดสอบด้วยการปรับค่าความสว่าง 30% และเสียง 30% เพื่อให้เหมาะกับการดูหนังฟังเพลงที่เป็นส่วนตัว ทดสอบด้วยการต่อ WiFi เพื่อเล่นวีดีโอยูทูปต่อเนื่อง ผลที่ได้อยู่ที่ราว 9 ชั่วโมงโดยประมาณ แต่งานนี้บอกไว้ก่อนว่า ยังไม่ได้ตั้งค่า Power Saving เอาไว้ เพื่อให้ดูสมจริงมากขึ้น และผลที่ได้กับตัวเลขระดับนี้ จัดว่า XPS 13 ยังคงตอบโจทย์ด้านการใช้พลังงานได้ดีไม่เปลี่ยนแปลง
มาดูในส่วนของการระบายความร้อนกันบ้าง เพราะหลายคนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เล็กบางก็ดี แต่ก็ไม่ควรจะร้อนเกินไป ซึ่งหากสังเกตจะเห็นสิ่งที่เกี่ยวกับการระบายความร้อนของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ 2 ส่วนด้วยกันคือ ช่องระบายอากาศขนาดเล็ก ที่อยู่ค่อนไปทางด้านบน ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับฮีตซิงก์ของซีพียูมากที่สุด ซึ่งลากยาวจากซ้ายไปขวา และอีกสิ่งหนึ่งก็คึอ ยางที่รับหน้าที่เป็นตัวรองกันรอยด้านใต้เครื่อง และรับหน้าที่ในการระบายความร้อนไปในตัว เพราะทำให้โน๊ตบุ๊คยกตัวสูงจากพื้น ให้มีลมระบายอากาศด้านใต้ของเครื่องให้ได้มากที่สุด ซึ่งทาง DELL ออกแบบมาได้อย่างกลมกลืนน่าใช้งาน
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวช่วยเล็กๆ ในการระบายความร้อน ก็คือแถบยางขนาดเล็กที่ลากยาวจากซ้ายไปขวา บริเวณใต้เครื่อง ที่นอกจากจะช่วยกันรอยให้โน๊ตบุ๊คไม่ต้องสัมผัสกับพื้นโต๊ะโดยตรง ก็ยังช่วยยกตัวโน๊ตบุ๊คให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อยเพียงพอที่จะให้มีพื้นที่ด้านใต้ในการระบายอากาศได้ดี
แล้วผลทดสอบจะเป็นอย่างไร เราจะสังเกตได้ว่า แม้ DELL XPS 13 จะไม่ได้จัดเต็มมาในเรื่องของการระบายความร้อน และช่องระบายอากาศ ก็จะีแค่เพียงด้านใต้ของเครื่องเป็นหลัก แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นหลังจากทดสอบด้วย OCTT ในการเบิร์นซีพียูด้วย ทำงานในโหลด 100% ทุกคอร์ ต่อเนื่องมากกว่า 20 นาที แล้วลดลงมา ความร้อนไปสูงสุดที่ 80 องศาเซลเซียสโดยประมาณ แล้วลดลงมาเรื่อยๆ เมื่อทำงานไปสักระยะ อยู่ที่ราว 68-72 องศาเซลเซียสเท่านั้น กับการทำงานบนซีพียูระดับ 4 core/ 8 thread และความเร็วมากกว่า 4GHz อุณหภูมิระดับนี้ ถือว่าสบายๆ ถ้ายิ่งมี Cooling pad วางด้วยแล้ว น่าจะเย็นกว่านี้อย่างน้อย 5-10 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
Conclusion / Award
มาสรุปความน่าใช้งานของ DELL XPS 13 9310 รุ่นนี้กันดีกว่า ความโดดเด่นในอันดับแรกๆ เลยเป็นเรื่องของดีไซน์ ซึ่งครอบคลุมไปถึงเรื่องน้ำหนัก ความคล่องตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้งาน แม้จะมีบางส่วนที่ได้เล่าไประหว่างการใช้งานในแต่ละฟังก์ชั่น แต่ก็ขอมาสรุปตรงจุดนี้อีกครั้งครับ การออกแบบนั้น DELL ยังคงไม่ทิ้งกลิ่นอายของ XPS ในรุ่นก่อนๆ แต่มีการแต่งเติมเสริมเข้ามาตามความเหมาะสม ทั้งในเรื่องของสีสัน และเอกลักษณ์ ด้วยโทนสีที่เรียบหรูดูดี ข้างนอกสีเงินตัดโทนดำที่อยู่ภายใน วัสดุอะลูมิเนียม แบบสีด้าน ไม่ทำให้เกิดรอยนิ้วมือจนน่ารำคาญ และยังจับถนัดมืออีกด้วย เช่นเดียวกับภายในที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ สีดำด้าน วางมือได้ดีกว่าการเป็นโลหะในความคิดส่วนตัว และยังใช้พื้นที่ในทุกๆ จุดได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ หรือคีย์บอร์ด ที่วางได้เต็มพื้นที่ ทำให้ใช้งานปุ่มคีย์ได้แบบถนัดมือ ไม่ต้องบีบให้ปุ่มเล็กลงแต่อย่างใด ที่สำคัญยังมีไฟ LED Backlit มาด้วย ช่วยให้ใช้งานในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
หน้าจอความละเอียดสูง 4K Ultra HD+ เป็นสิ่งที่สร้างความจัดจ้านให้กับงานที่คุณต้องการความละเอียด ในการตรวจเช็ค Detail รวมถึงงานเอกสาร ที่สามารถปรับดูหน้าต่างเอกสารได้มากขึ้น แต่ก็ต้องปรับขนาดฟอนต์ให้พอเหมาะ เพราะด้วยความละเอียดนี้ ก็ทำให้ตัวเล็กลงได้เช่นกัน หาได้ยากบนโน๊ตบุ๊คในระดับจอที่ใกล้เคียงกัน
ในแง่ประสิทธิภาพ ถ้าเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่เน้นความสะดวกในชีวิตประจำวัน เร็วและตอบสนองไว XPS 13 รุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้ เพราะเปิดเครื่องไว เข้าโปรแกรมได้เร็ว และยังรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 4 หรือจะเป็น WiFi 6 ก็ตาม สิ่งเหล่านี้การันตีว่าการใช้งานของคุณจะไม่ล่าช้า ซึ่งต่างจากโน๊ตบุ๊ค Ultra slim ในอดีตอยู่พอสมควร
ในเรื่องการพกพาและความร้อน รวมถึงเสียงรบกวนน้อย ความบางเบาและน้ำหนักเพียง 1.27Kg โดยประมาณ ทำให้คุณนำ DELL XPS รุ่นนี้ใส่กระเป๋า หรือซอฟต์เคสเดินหิ้วไปใช้ข้างนอกได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จมากนัก ความร้อนถือว่าตัวเครื่องระบายความร้อนได้ค่อนข้างดี รันซีพียู 100% ต่อเนื่องยังอยู่ที่ราว 70++ องศาเซลเซียสเท่านั้น ซึ่งการใช้งานจริงโอกาสที่จะวิ่งไประดับนี้น้อยมาก และเสียงรบกวนตอบได้เลยว่าไม่มี
แต่จะมีอยู่เพียงบางจุดที่ผู้ใช้จะต้องปรับตัวเลยก็คือ พอร์ตต่อพ่วงที่มีมาให้ น้อยไปบ้าง แต่ก็ตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คแนวนี้ ผู้ใช้อาจจะต้องลองบริหารจัดการดู กรณีที่ต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงจำนวนมาก แต่อย่าลืมว่าคุณสามารถใช้ Wireless และ Cloud ให้เป็นประโยชน์ได้
ในแง่ของการรับประกัน ต้องถือเป็นไฮไลต์ของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ Dell Premium Support กับการรับประกันแบบ On-site service 3 ปี จะช่วยให้การใช้งานอุ่นใจได้แบบยาวๆ และยังให้คำปรึกษาทางด้านโทรศัพท์ 24×7 อีกด้วย อย่างน้อยๆ ก็ช่วยคุณแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเองได้อีกด้วย ในกรณีที่เร่งด่วน สุดท้ายเมื่อดูจากราคาที่เคาะออกมาราว 76,xxx บาทโดยประมาณ ที่มาพร้อมซีพียู Intel Core i7-1165G7 กับการทำงานแบบ 4 core/ 8 thread และให้หน่วยความจำ DDR4 มาให้ถึง 16GB SSD ความเร็วสูง 512GB ซึ่งเป็นแบบ NVMe PCIe จอภาพความละเอียด 4K (3840 x 2400) รวมถึง USB Type-C และยังเป็น Thunderbolt 4 น้ำหนักแค่ 1.2Kg บางเบาแรง ราคานี้ต้องถือว่าไม่ได้ต่างไปจากรุ่นเก่ามากนัก แต่ได้ความสดใหม่น่าใช้ไม่น้อยเลยทีเดียว
จุดเด่น
- ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย
- หน้าจอ 13.4″ ให้ความละเอียด 4K เพิ่มรายละเอียดของภาพและพื้นที่ใช้งาน
- มีพอร์ต Thunderbolt มาให้
- ใช้ซีพียู Intel Gen 11 ใหม่ล่าสุด ประสิทธิภาพสูง
- ความร้อนน้อย เสียงรบกวนน้อย
- ให้การรับประกัน Dell Premium Service ในแบบ On-site service
- ภายในเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ให้สัมผัสที่ดีกว่า
- คีย์บอร์ดมาพร้อมแสงไฟ LED Backlit เปิด-ปิดได้
- แบตอึดใช้งานได้นาน
- เปิดเครื่องได้ไว เข้าวินโดว์เร็ว
ข้อสังเกต
- กราฟิก Xe ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปและความบันเทิงมากกว่า
- พอร์ตต่อพ่วงน้อยไปบ้าง ต้องจัดสรรการใช้งานให้ดี
- น่าจะกางหน้าจอให้ปรับมุมได้มากขึ้น เพื่อความยืดหยุ่น
ติดต่อ/ ข้อมูลเพิ่มเติม: DELL XPS 13
Award
Award แรกจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบายในการพกพาที่ได้จากบอดี้ที่เล็กในไซส์ 13.4″ แต่ฟังก์ชั่นไม่ได้เล็กตามไปด้วย เพราะยัดจอภาพ Ultra HD+ ความละเอียดสูงมาให้ และยังน้ำหนักเบาประมาณ 12Kg นิดๆ ซึ่งเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ ขนาดกระทัดรัด ก็ยังเบาสบาย ใส่กระเป๋าเดินทางได้ไม่ลำบาก ที่สำคัญคือการใช้งานคล่องตัว เปิดเครื่องได้รวดเร็ว ด้วย SSD 512GB ความเร็วสูงและแรม 16GB
อีกรางวัลคือในเรื่องของดีไซน์ที่ค่อนข้างลงตัว ว่ากันตั้งแต่ความบาง ที่เริ่มจากด้านหน้า ไล่ไปทางด้านหลัง ความหนาสุดอยู่ที่ราว 1.7cm เท่านั้น และใช้วัสดุที่ได้ทั้งความทนทานและน้ำหนักเบา กับโครงสร้างอะลูมิเนียม ผสานกับคาร์บอนไฟเบอร์ที่อยู่ด้านใน สีดำตัดกับด้านนอกอย่างลงตัว และยังหยิบจับได้ถนัดมือ ไม่ต้องกลัวจะเป็นรอยนิ้วมือง่าย บานพับแข็งแรงไม่โยกคลอน คีย์บอร์ดจัดมาเต็มพื้นที่ ทำให้ไม่ต้องลดขนาดปุ่ม กดพิมพ์ง่าย แม่นยำ และยังมีแสงไฟ LED Backlit มาให้ใช้ในที่แสงน้อยได้อีกด้วย
ในแง่ของบางและเบา XPS 13 รุ่นนี้ถือว่าเข้าวินอย่างลงตัว ตามที่ได้อธิบายไว้ในข้างต้น เพราะเข้าทุกจุดประสงค์ ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถดึงประสิทธิภาพในการใช้งานออกมาได้อย่างเต็มที่ แบบไม่ต้องกั๊ก เพราะขุมพลังที่จัดเตรียมมาให้ แรงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและความบันเทิง ความร้อนน้อย แม้จะเป็นบอดี้ที่บางเช่นนี้ก็ตาม