Acer Swift 3X (Acer Swift 3X) รุ่นใหม่ปลายปี 2020 เพิ่มตัวเลือกเข้ามา โดยสเปกใช้ชิป Intel Core i Gen 11 Tiger Lake สถาปัตยกรรม 10nm SuperFin มี AI ช่วยทำงานในตัว ใช้การ์ดจอออนชิปที่แรงที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Max (DG1) ซึ่งจะแรงกว่า Iris Xe ปกติ ตามข้อมูลคือแรงพอๆ กับ GTX 1050 ทีเดียว ซึ่งตอนนี้มีอยู่เพียงสเปกเดียวคือ Core i5-1135G7 ที่ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธรด ที่ความเร็วสูงสุด 4.2 GHz รองรับการทำงานหนักๆ แบบมืออาชีพได้สบายๆ อาทิ ตัดต่อวีดีโอ หรือเล่นเกม 3 มิติ
Acer Swift 3X มาพร้อมหน้าจอ 14″ หน้าจอความละเอียด FullHD พาเนล IPS แบบจอด้าน โดยมีน้ำหนักเพียง 1.37 กิโลกรัม ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 8GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ความบันเทิง หรืองานประมวลผลหนักๆ ก็พอได้เลย เหมาะกับคนทำงานหลากหลายอาชีพ หรือ นักเรียนนักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่บางเบาพกพาสะดวก แต่ได้ประสิทธิภาพที่สูงคุ้มค่าต่อราคา
VDO Review
NBS Verdict
สรุปรีวิว Acer Swift 3X กับการเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นล่าสุดของช่วงปลายปี 2020 ประจำซีรีส์ Acer Swift 3 ทั้งเรื่อง สเปก ดีไซน์การออกแบบ พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ นั้น เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่ดูลงตัว เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง มีความน่าใช้งาน ได้สเปกแรงๆ อย่าง Core i5-1135G7 และการ์ดจอออนชิปที่แรงที่สุด อีกทั้งได้มาตรฐานการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดอย่าง Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 4 มาด้วยทันที
เรียกได้ว่า Acer เสนอ Acer Swift 3X ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบารูปแบบใหม่อย่าง Ultrabook มาสู่ท้องตลาด ไม่ใช่แค่บางเบาแบบสุดๆ แต่ยังได้ยกระดับการใช้งานได้สเปกที่แรงลื่นขึ้นจากการที่เป็น Intel Core i Gen 11 Tiger Lake โดดเด่นด้วยการทำงานที่มี AI ช่วยประมวลผลงานบางอย่างในตัว สนนราคาเพียง 26,990 บาท การรับประกันเป็น 2 ปีตามมาตรฐานของ Acer และมีบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย
ที่สำคัญยังได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ด้วย ซึ่งแม้ประสิทธิภาพก็คงจะสู้โน๊ตบุ๊คที่เน้นความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพอย่าง Acer Nitro 5 ไม่ได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็จัดว่าทำงานหนักๆ หรือเล่นเกมได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ หน้าจอได้รับการอัพเกรดเป็นรุ่นที่สูงขึ้นในระดับเดียว Acer Swift 5 รุ่นพี่ ได้ค่าขอบเขตสีระดับ sRGB 90% นั่นเอง
ส่วนข้อสังเกตที่ต้องพูดถึงเลยก็คือน้ำหนักตัวเครื่องที่มากกว่ารุ่นก่อน เข้าใจว่าเป็นเรื่องของระบบระบายความร้อนที่เน้นมายิ่งขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าเย็นจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบใช้งานจริงยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น ที่เอาจริงๆ แล้วโน้ตบุ๊คบางเบาประเภทนี้ควรต้องใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมงขึ้นไป ตามที่ทาง Acer ได้ให้ข้อมูลไว้คือ 17.5 ชั่วโมงอีกด้วย (มีโอกาสทดสอบจะมาอัพเดทอีกครั้ง อาจจะเป็นปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์บางอย่าง)
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่บางเบา มีสีสันที่สวยงามไม่ซ้ำใคร พร้อมมีระบบช่วยเอียงเครื่อง
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Swift 3 มีความหรูหรา เกินราคา
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมเกรดดีตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว
- ฮาร์ดดิสก์ SSD M.2 NVMe มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS สีสันสวยงามเนียนตา ดีกว่ารุ่นเดิม
- ติดตั้งการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX ใหม่สุดๆ พร้อมรองรับ MIMO
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 มาตรฐานใหม่ ใช้งานได้หลากหลาย อาทิ ชาร์จไฟ PD / ต่อจอแยก
- แม้ทำงานหนัก แต่ตัวเครื่องก็ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ร้อนน้อยกว่ารุ่นก่อน
- มีสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ใช้งานร่วมกับ Windows Hello
- รองรับการอัพเกรด SSD M.2 อีก 1 ตัวเพิ่มทันที เพราะตัวเครื่องรองรับ 2 สล็อต
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- ฟีเจอร์ Fast Charge ชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง
- ประกัน 3 ปี (On-site ปีแรก) ส่งศูนย์ซ่อมไวใน 3 ชั่วโมง
- ได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท)
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานได้น้อยไปหน่อยที่ 5 ชั่วโมงนิดๆ
- ตัวเครื่องมีความหนาและน้ำหนักที่มากกว่ารุ่นก่อน แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
- หัวชาร์จอแดปเตอร์ยังไม่ได้เป็นมาตรฐาน USB-C
- ยังไม่มีสเปก Intel Core i7-1165G7 และการ์ดจอแยก MX450 ให้เลือกซื้อ
Specification
Acer Swift 3X สเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ตอนนี้มีอยู่สเปกเดียว คือ Core i5-1135G7 ราคา 26,990 บาท ที่เป็นชิปประมวลผลสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีที่ 11 นาโนเมตร SuperFin เพิ่มเติมด้วย AI มาช่วยการประมวลผลให้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่ารองรับทุกๆ การทำงานได้ดีขึ้น ทั้งดูหนังฟังเพลง ใช้งานเอกสารอย่าง Word / Excel / Power Point ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือทำงานหนักๆ อาทิ Photoshop / Premiere Pro รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ทำได้ดีขึ้น
รุ่นที่นำมารีวิวเป็นสเปกชิปประมวลผล Intel Core i5-1135G7 ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด มีความเร็วที่ 2.40 – 4.20 GHz ส่วนการ์ดจอเป็นออนชิปรุ่นใหม่แรงสุดในตลาดอย่าง Iris Plus Xe Max Graphics (DG1) ที่แรงเทียบเท่าการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ได้แรม 8GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดสูง ขนาด 14″ ความละเอียด Full HD แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใสพร้อม Windows 10 แท้
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ Thunderbolt 4 (เป็น USB 3.2 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.2 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 AX (GIG+) ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ได้ประกันเป็น 2 ปี พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมงด้วย ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย
และสำหรับ lot แรกที่เข้ามาในประเทศไทย Acer มี Promotion พิเศษสุดๆให้กับคนที่ซื้อก่อนด้วย โดยเมื่อซื้อ Acer Swift 3X รับฟรี Predator Gaming chair มูลค่า 3,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 07 – 30 พฤศจิกายน 2020 นี้ หรือจนกว่าของแถมหมด
Hardware / Design
Acer Swift 3X เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพดีให้สัมผัสใกล้เคียงกับ Acer Swift 3 รุ่นก่อนหน้า โดยสีสันเป็น Safari Gold / Steam Blue ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่ๆ เน้นเรียบง่าย หรือสาวๆ ที่ดูสดใสลงตัว ซึ่งทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโน๊ตบุ๊คบางเบาของทาง Acer ได้เป็นอย่างดีที่มาพร้อมราคาที่คุ้มค่ากว่ารุ่นเดิม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทียบแล้วก็มีน้ำหนักที่มากกว่าด้วย
ดีไซน์โดยรวม Acer Swift 3X ดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับบาง และมีน้ำหนักเพียง 1.37 กิโลกรัมเท่านั้น (รุ่นก่อน 1.2 กิโลกรัม) ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแบบรู้สึกได้ จนรุ่นเก่าต้องอิจฉาเลยทีเดียว กับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมยังสามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง
ฝาหลัง Acer Swift 3X เป็นวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์เช่นกัน ให้ผิวสัมผัสที่ดีมีความพรีเมียมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer ตามมาตรฐานกลางฝาหลัง ให้สีสันเป็นเงินมันวาว สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในก็จะเป็นอลูมิเนียมที่ดูหรูหรา ตัดกับคีย์บอร์ดสีดำยิ่งให้ความสวยงามและโดดเด่นตามสไตล์ของ Acer Notebook
ขอบตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นดีไซน์แบบโค้งมนเนียนๆ เข้ากับมือเวลาหยิบจับถือขึ้นมา โดยจากสติ๊กเกอร์ด้านในบริเวณที่วางมือฟีเจอร์ที่แปะไว้เอาไว้บ่งบอกถึงสเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 และการ์ดจอแยก Intel Iris Xe Max รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ โดยตัวบานพันด้านหลังเป็นแบบแถวยาวแถวเดียวโดยเลือกใช้เป็นสีเขียว โดยมีคำว่า Swift อยู่ พร้อมยางรองพิเศษที่จะดันตัวเครื่องให้เอียงเมื่อเราทำงานเปิดใช้งาน เพื่อให้รับกับการพิมพ์ของเรา
สรุปสำหรับตัวเครื่องและดีไซน์การออกแบบของ Acer Swift 3X นั้น เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่ดูลงตัว เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง ซึ่งรุ่นสเปกที่เรานำมารีวิวอยู่ที่ 26,990 บาทเท่านั้น ที่ให้ภาพลักษณ์โดยรวมนั้นทำได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจ ที่สำคัญคือเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ ต่อฟีเจอร์และสเปกที่ได้ จัดได้ว่ามีราคาที่จับต้องได้ง่ายอีกด้วย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาใน Acer Swift 3X เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างสั้น แต่ใช้งานจริงก็พอได้อยู่ไม่ได้ลำบากในการใช้งานนัก ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว
ส่งผลให้พิมพ์ได้อย่างสะดวกไม่แพ้คีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ เลย พร้อมมีไฟคีย์บอร์ดสีขาวส่องสว่างปรับระดับได้ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งแม้ว่าเราจะไปเผลอกดระหว่างการใช้งานก็ไม่ได้ทำให้เครื่องปิดแต่อย่างใด (ต้องกดค้างซัก 3 วินาทีถึงจะมีเมนูของ Acer ขึ้นมา)
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดี โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ผ่านทาง Windows 10 ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยกว่าการกรอกรหัสเข้าใช้งานเครื่องทุกครั้ง
Screen / Speaker
Acer Swift 3X ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ขอบจอบาง โดยมีพื้นที่ 84% เป็นหน้าจอแสดงผล ได้พาเนล IPS เกรดที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด ที่รองรับความละเอียด Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่เหมาะกับการทำงานหรือความบันเทิงแบบสุดๆ ด้วยสีสันที่สมจริงเรียบเนียมและมุมมองที่กว้างกว่า แน่นอนว่าขอบด้านบนยังติดตั้งกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟนให้ใช้งาน VDO Call อยู่
อีกทั้งยังมี Acer Color Intelligence เทคโนโลยีนี้จะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี แน่นอนว่าให้ประสบการณ์ใช้งานในการแสดงผลที่เยี่ยมยอด โดยมี BluelightShield ลดแสงสีฟ้า รองรับกับงานทั่วไปเป็นอย่างดีและพอเพียงกับการใช้งานทั่วไป อย่างเล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Swift 3X ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 90% และ AdobeRGB ที่ 67% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานที่ดีกว่า Acer Swift 3 แน่นอน
เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็พอได้อยู่ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่องที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมขวาล่างมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอมุมซ้ายบนที่ลดลงไปที่ระดับ 12% ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่า มาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานกราฟิกก็พอได้เลย
ในส่วนของลำโพง Acer Swift 3X ที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอแบบ 2 x 2W มาพร้อมระบบเสียง Acer TrueHarmony โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Swift 3X นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครันสุดในรุ่น แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 2 พอร์ต และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน ที่สำคัญยังให้พอร์ตอย่าง Thunderbolt 4 ที่เป็น USB 3.2 / DisplayPort / PD รองรับการชาร์จไฟในตัวอีกด้วย โดยรวมแล้วต้องบอกว่าเหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มราคาเดียวกันทีเดียว
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่พอๆ กัน ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.37 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ไซส์เล็กเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.6 กิโลกรัม (อแดปเตอร์ยังเป็นหัวแบบกลมปกติ ทั้งๆ ที่ถ้าได้มาตรฐาน USB-C จะดีมากๆ )
ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ โดยรวมแล้วก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่ลำบากในการพกพาเลย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาอีกรุ่นหนึ่ง สาวๆ น่าจะชอบกัน หยิบใส่กระเป๋าไปใช้งานข้างนอกสบายๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Swift 3X นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก (สามารถเจาะทะลุสติ๊กเกอร์ Acer ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุด) จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง งานประกอบการจัดวางตำแหน่งดูแล้วเรียบง่าย โดยอาศัยพัดลม 1 ตัว ดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องจากนั้นถ่ายเทความร้อนออกไปให้โดนฮีทไปป์แบบ 2 เส้น พร้อมฟินสีดำทางด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ซ่อนช่องระบายความร้อนไว้อย่างเรียบเนียน
ซึ่งหน่วยคสามจำแรมเป็นแบบฝั่งเมนบอร์ดมาเลย โดยติดตั้งขนาด 8GB DDR4 Dual Channel (4GB x 2) แบบฝังบอร์ด ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe ติดมาแล้วที่ 512GB และข้างๆ มีสล็อตว่างอยู่ โดยมีการติดตั้งเหนือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ส่วนอื่นๆ ก็ประกอบฮาร์ดแวร์อื่นๆ ถือว่ามีงานประกอบที่เรียบร้อยเป็นอย่างดี อีกทั้งยังดูแล้วในอนาคตยังทำความสะอาดได้ง่ายด้วย โดยรวมแล้วการแกะตัวเครื่อง Acer Swift 3X เพื่ออัพเกรด SSD อีก 1 ตัวทันที หรือซ่อมแซมก็สามารถทำได้สะดวกทีเดียว
Performance / Software
Acer Swift 3X สเปก Core i Gen 11 เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i5-1135G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.40 – 4.20 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร อย่าง Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบฝังบอร์ด เป็นมาตรฐาน 3200 MHz เป็น Dual Channel 4GB x 2 ตามเทคโนโลยีของ Intel Core i Gen 11 พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน
การ์ดจอเป็นแบบออนชิปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Max Graphics (DG1) ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีกว่าการ์ดจอออนชิปทั้งหมด ในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกตัวแรงเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติได้ดีเทียบเท่าการ์ดจอแยก Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบด้วยโปรแกรม GPU-Z จะเห็นว่ายังคงมีการ์ดจอออนชิป Intel UHD เดิมอยู่ด้วย
(รออัพเดท)
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอที่อัพเกรดใหม่ที่เน้นการทำงาน 3 มิติที่ดียิ่งขึ้น
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำผลทดสอบเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1877 MB/s และเขียนที่ 895 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ระดับมาตรฐานที่ใช้งานได้เป็นอย่างดี
ทดสอบเกมสำหรับ Acer Swift 3X สเปก Intel Core i Gen 11 ได้คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Core i5-1135G7 ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ ออนชิปอย่าง Iris Xe Max Graphics ได้ดีเยี่ยม ประกอบกับใช้แรม 8GB DDR4 3200 MHz รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย
สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 68 และในส่วนของเกม Overwatch ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 91 ซึ่งรวมไปถึงเกมกินสเปกอย่าง PUBG เฟรมเรทก็ทำออกมาได้ลื่นไหลกว่าที่คาดไว้พอตัวเฉลี่ยที่ 45 เรียกได้ว่าเล่นได้ลื่นไหลใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊ครุ่นก่อนๆ ที่เป็นการ์ดจอ GTX 1050 เลย
นอกจากนี้ Acer Swift 3X เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งานทันที) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Swift 3X เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 3500 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 5 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ซึ่งทางที่ Acer เคลมไว้จะใช้งานได้นานถึง 17.5 ชั่วโมงทีเดียว
โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ Fast Charge สามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง (จากแบต 0%) ส่วนช่องระบายความร้อนของ Acer Swift 3X จะอยู่ด้านบนของฐานเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ จากการที่ตัวเครื่องมีความเล็กกระทัดรัดนั่นเอง
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 – 60 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุด 78 องศาเซลเซียส ที่เป็นในส่วนของ CPU เวลาเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ รวมไปถึงการประมวลผลหนักๆ เช่นเการเรนเดอร์วีดีโอ นับว่าความร้อนของ Acer Swift 3X เครื่องนี้ค่อนข้างเย็น ซึ่งใช้งานเอาจริงๆ ก็ไม่ได้กระทบกับการใช้งาน หรือทำให้เครื่องค้างหรือหน่วงแต่อย่างใด
เทียบกันรุ่นก่อนๆ ถือว่าเย็นลงด้วย โดยการใช้งานปกติทั่วไปสามารถจัดการระบบระบายความร้อนออกมาอย่างน่าประทับใจ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุด สถาปัตยกรรม Tiger Lake SuperFin ที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตรนั่นเอง
Conclusion / Award
สเปก Acer Swift 3X ก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานพกพาราคาไม่แพงที่คุ้มค่ามากๆ ด้วยการติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม 10 นาโมตร อย่าง Tiger Lake ที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าไปอีกระดับ พร้อมการ์ดจอออนชิปตัวแรงอย่าง Iris Xe Max Graphics แรมก็เป็นมาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ขนาด 8GB การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วยที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 ความเร็วสูงที่ความจุ 512GB ทำให้ความลื่นไหลทั้งระบบ และสามารถใส่ SSD M.2 ได้อีก 1 ตัวทันทีด้วย
ในเรื่องของฟีเจอร์อื่นๆ ได้ระบบเสียงของ Acer TrueHarmony ที่ปรับแต่งมาดี รวมถึงยังได้ติดตั้งพอร์ตการใช้งานครบครัน ซึ่งก็มีพอร์ตเทพอย่าง Thunderbolt 3 และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX อยู่ด้วย โดยมีความเบาที่ 1.37 กิโลกรัม (รุ่นก่อน 1.2 กิโลกรัม) แน่นอนว่าตอบโจทย์สำหรับการพกพาในระดับหนึ่ง ซึ่งบอกได้เลยว่ากรณีที่เราจะซื้อโน๊ตบุ๊คบางเบาหรือ Ultrabook ที่ได้ฟีเจอร์ครบเครื่องแบบนี้ ราคาต้องหลายหมื่นบาทแน่นอน แต่ Acer Swift 3X ที่ขายอยู่ในตอนนี้ทำราคาได้ดีมากๆ
Acer Swift 3X รวมๆ แล้วก็ยังให้ประสบกาณ์ใช้งานก็ยังเยี่ยมยอดเหมาะกับคนทำงานสาย Content Creator หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นใช้งานทั่วไปลื่นไหลใช้งานยาวๆ ทั้งจากสเปก ประสิทธิภาพ และหน้าจอที่ดีขึ้น ที่แม้อาจจะไม่เบาสุดเท่ากับ Swift 5 ที่เป็นรุ่นพี่กว่า แต่ก็ได้ราคาคุ้มค่า กับราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงจนเกินไป ถือว่าให้ฟีเจอร์มามากกว่าด้วย แต่เรื่องดีไซน์และวัสดุภายนอกอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนอีกที
Award
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Swift 3X ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Value
ถึงแม้ Acer Swift 3X จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาสองหมื่นบาทต้นๆ ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 26,990 บาท ถูกกว่ารุ่นก่อน ที่มาพร้อมสเปกใหม่อย่าง Intel Core i Gen 11 การ์ดจอออนชิปแรงที่สุดจาก Intel อย่าง Iris Xe Max ซึ่งแรงสุดในรุ่น รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB แถมมีสแกนลายนิ้วมือ พร้อมดีไซน์แบบฉบับโน๊ตบุ๊คบางเบา เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นพกพาแบบสุดๆ เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลย