แม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาดจอคอมเกมมิ่งบ้านเรา แต่ความเก๋ากับชื่อเสียงในตลาดโลกกับชื่อชั้นของ Xiaomi จัดว่าไม่เป็นรองใคร ก่อนหน้านี้มีหัวหมู่ทะลวงฟัน ด้วยจอระดับ 24″ และ 27″ ในแบบ Ultra-wide ไปแล้ว วันนี้ยังจับเอา 27″ 165Hz มากระชากเรตติ้ง ให้คอเกมได้จิตใจหวั่นไหวกันอีกแล้ว ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท
Xiaomi XMMNT27HQ จอคอมที่มาในสเปคแสนดุดัน กับหน้าจอขนาด 27″ พาแนล IPS ความละเอียดที่ 2K ซึ่งจัดว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังก้าวเข้ามาในขณะนี้ หลังจากที่จอเกมมิ่งหลายค่าย ก็เพิ่มตัวเลือกที่เป็น 2K และ 4K มาให้เกมเมอร์ที่เน้นภาพสวย มาตอบสนองการใช้งาน และที่สำคัญยังให้อัตรรีเฟรชเรตถึง 165Hz อีกด้วย และยังคงชูจุดขาย ในเรื่องขอบเขตสี 100% sRGB และมี HDR มาด้วยเลย พร้อมกับเอาใจคนที่ชอบความหวือหวาและการปรับแต่ง เพราะสามารถหันซ้ายขวาหรือการปรับ Pivot หมุนระดับ 90 องศาได้อีกด้วย นับว่าเป็นจอเล่นเกมในสเปคที่แรง และราคาค่อนข้างดี หาตัวเทียบในตลาดได้ยากพอสมควร กับสเปคดังกล่าวนี้
Specification
- แบรนด์ : Xiaomi
- โมเดล : XMMNT27HQ
- ขนาดหน้าจอ : 27 inch
- Resolution แนะนำ : 2560×1440
- Resolution สูงสุด : 2560×1440
- พื้นที่หน้าจอ (Diagonal) : 68.6cm
- อัตราการตอบสนอง : 1ms(IMBC), 4ms(GTG)
- อัตรารีเฟรชเรต : 165HZ
- ขอบเขตสี : 95% DCI-P3, 100% sRGB
- สี : 16.7M
- HDR : DisplayHDR 400
- VESA Mount : Yes (75*75mm)
- Contrast : 1000:1(TYP)
- ค่าความสว่าง : 400cd/m2(TYP)
- Dot Pitch : 0.2331(H) * 0.2331(V)
- Aspect Ratio : 16:9
- Bracket : Support lifting(ขึ้้น-ลง), pitching, rotating(หมุนจอ), vertical screen(จอตั้ง), wall hanging(75*75mm)
- พอร์ตต่อพ่วง : 1*DP 1.4, 2*HDMI 2.0, 1*USB IN, 2*USB 3.0, 1*AUDIO, 1*AC IN Power Cord interface
- Rated Power : 35W(TYP), 75W Max.
- Working Humidity : 10%RH-90%RH
- ขนาด : 60.94 x 46.13 x 20cm
- น้ำหนัก : Approx. 6.53 kg /230.34oz
- พอร์ต DisplayPort (1.4): 2560 x 1440, max. refresh rate 165Hz
- พอร์ต HDMI (2.0): 2560 x 1440, max. refresh rate 144Hz
รูปลักษณ์และการออกแบบ
จอคอม Xiaomi XMMNT27HQ
ว่ากันที่รูปลักษณ์พื้นฐาน แม้ว่า Xiaomi XMMNT27HQ จะไม่ได้มาพร้อมกับความหวือหวา หรือใช้เส้นสายที่มีลวดลาย หรือแสงไฟ RGB แต่ในแง่ของความเรียบหรู Xiaomi ยังคงมีให้อย่างครบถ้วน เรามาดูส่วนประกอบที่มีมาในกล่องแต่ละชิ้นกันบ้างดีกว่า ว่ามีความพรีเมียมมากน้อยเพียงใด
เริ่มจากในส่วนของฐาน เป็นแบบสี่เหลี่ยม ความหนาประมาณ 7-8mm แม้จะดูบาง แต่เป็นโลหะทั้งชิ้น เพื่อให้รองรับน้ำหนักและสร้างความมั่นคงให้กับตัวจอได้ดี และด้วยความบางแบบนี้ ทำให้ไม่เกะกะ หรือเสียพื้นที่ใช้งานบนโต๊ะมากเกินไป
ส่วนบรรดาอุปกรณ์ที่มีให้ ประกอบด้วยสายเพาเวอร์ ที่เป็นสาย DisplayPort และ USB Type-B to Type-A
คู่มือการใช้งานและการประกอบมาในแบบแผ่นพับ แต่ก็มีรายละเอียดมาครบถ้วน ซึ่งหากคุณเพิ่งเริ่มต้นกับการประกอบจอภาพเป็นครั้งแรก แนะนำว่าคู่มือนี้ ช่วยคุณได้เยอะเลย
น็อตสำหรับใช้งาน มีมาให้ 2 ส่วนคือ น็อตสำหรับยึดเข้ากับ Wall mount หรือ VESA Mount ติดกับแพง ส่วนอีกชุดหนึ่ง จะเป็นน็อตสำหรับ ยึดแผ่นเพลตด้านหลัง แต่ในกรณีที่ใช้งานบนขาตั้งจอปกติ ไม่ต้องใช้น็อตสกรูยึดแต่อย่างใด
แค่ขาตั้งจอคอม ก็ดูปราณีตหรูหรา ซึ่งสังเกตได้จากการทำส่วนโค้งมน ให้ดูเป็นเอกลักษณ์ต่างจากค่ายอื่นๆ รวมถึงตัวขาตั้งยังเพิ่มรู สำหรับสอดสายต่างๆ ให้รวมเป็นจุดเดียว ที่สำคัญมีร่องสไลด์มาด้วย บ่งบอกถึงฟังก์ชั่นในการเลื่อนขึ้น-ลงได้อีกด้วย
การติดตั้งขาเข้ากับฐาน ก็ไม่ได้วุ่นวายนัก แค่หันทางด้านที่จะติดกับตัวจอ ออกทางด้านหน้า และวางลงไปตรงๆ
จากนั้นหมุนตัวล็อค ที่อยู่ด้านใต้แผ่นโลหะ ที่เป็นฐาน และไขเข้าไปจนแน่น ซึ่งเป็นวิธีที่เราเห็นกันบนจอภาพทั่วไปในท้องตลาดนั่นเอง
เมื่อเรียบร้อยแล้ว อาจลองขยับตัวฐานและขาตั้งดูว่า แน่นหนาหรือไม่ ส่วนช่องที่เป็นรูนี้ เตรียมเอาไว้สอดสายไฟและสายสัญญาณ เพื่อให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น
มาถึงการติดตั้งตัวขาตั้งเข้ากับจอภาพ ตรงนี้ค่อนข้างง่าย เพราะทาง Xiaomi จัดเตรียมช่องที่เป็นตัวล็อคมาให้คุณวางลงไป แล้วล็อคได้เลย ซึ่งเป็นแบบไม่ต้องใช้เครื่องมือแต่อย่างใด
เพียงแค่วางตัวล็อคที่อยู่บนขาตั้งลงไป โดยเอียงไปทางด้านบน ให้สลักเข้าไปอยู่ในช่อง แล้วกดลงไปตรงๆ จะมีตัวล็อคที่เป็นปุ่ม ล็อคให้ในทันที
และเมื่อล็อคขาตั้งเข้ากับตัวจอเรียบร้อย ก็จะออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้ จะเห็นได้ว่า Xiaomi ออกมาแบบได้อย่างเรียบง่าย แต่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียว
ในส่วนของด้านหลัง จะประกอบไปด้วยส่วนสำคัญคือ พอร์ตต่อพ่วง ที่ออกแบบให้มีฝาปิดมาด้วย เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย คุณสามารถเปิดหรือปิดฝานี้ได้ เพราะเป็นเพียงตัวล็อคแบบง่ายๆ เท่านั้น
ด้านหลังเป็นลักษณะโค้งนูนขึ้นมาเล็กน้อย อาจทำให้ดูมีมิติมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียพื้นที่หรือเกะกะ
พอร์ตต่อพ่วงประกอบด้วย DP 1.4 1 ช่อง, HDMI 2.0 2 ช่อง, USB IN 1 ช่อง, USB 3.0 2 ช่อง, และ AUDIO รวมถึง AC IN อีกอย่างละ 1 ช่อง
เมื่อประกอบเสร็จเรียบร้อย เราก็จะได้เห็นหน้าตาของจอเล่นเกม Xiaomi XMMNT27HQ ออกมาประมาณนี้ เรียบหรูดูดีเลยทีเดียว
มาดูการปรับเลื่อนระดับความสูงของหน้าจอรุ่นนี้กันก่อน โดยส่วนต่างของระดับจะอยู่ที่ประมาณ 10cm ตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งถือว่าช่วยให้ใช้งานได้หลายรูปแบบและในระดับโต๊ะที่ไม่เท่ากัน เพิ่มความยืดหยุ่น เมื่อทำงานร่วมกับการปรับมุม Tilt ที่ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
บริเวณฐาน มีข้อมูลคร่าวๆ บอกถึงฟังก์ชั่นการปรับหมุนของหน้าจอให้ได้ทราบ เช่น เพิ่มความสูงของหน้าจอได้ถึง 12cm และมุมเงย Tilt ได้ที่ 21 องศาและการ Pivot ทั้งซ้ายและขวาได้ที่ 90 องศา
Pan การหันซ้าย-ขวา ทำได้จากการหมุนของข้อต่อบนฐาน ซึ่งสามารถแบ่งปันให้กับคนที่อยู่ด้านข้างคุณให้เห็นข้อมูลที่จะนำเสนอ แต่ปกติหน้าจอในแบบ IPS ก็ให้มุมมองที่คมชัดอยู่แล้ว เรียกว่านั่งข้างๆ กันซ้าย-ขวา ก็ยังมองเห็นหน้าจอได้อย่างชัดเจน
การปรับหมุนหน้าจอในแบบ Pivot ทำได้ทั้งหมุนซ้ายหรือขวา อยู่ที่ระดับ 90 องศา อย่างไรก็ดี ก่อนจะจับหมุนหน้าจอ ให้ดึงจอภาพขึ้นมาให้สุด แล้วจึงค่อยหมุน ไม่อย่างนั้นมุมจออาจกระแทกกับพื้นโต๊ะเสียหายได้ ต้องระวังไว้ด้วยครับ
การปรับมุมก้ม-เงยหน้าจอ (Tilt) การกดหน้าจอให้ก้มลงมาจะได้ประมาณ 5 องศา และปรับให้เงยขึ้นสุดๆ อยู่ที่ 21 องศา ก็ถือว่าใช้งานได้สบายๆ จะนั่งหรือยืน ปรับใช้ได้ตามสะดวก
มุมมอง ความคมชัดซ้าย-ขวา ด้วยความเป็นพาแนล IPS จึงไม่มีผิดเพี้ยนของภาพ รวมถึงสีสันก็ยังคมชัด เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปในเรื่องเทคโนโลยีที่มีมาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตสีที่กว้าง รองรับ HDR400 และความสว่างระดับ 400cd/m2 อีกด้วย
OSD settings
ในการปรับแต่งบน OSD จะมีอยู่ประมาณ 7 เมนูหลัก แต่ที่ใช้งานกันบ่อยๆ จะอยู่ที่ Bri/Con หรือในส่วนความสว่างและคอนทราสท์ ที่จะรวมเอา Black Level ที่ใช้ในการปรับเล่นภายในเกมมาด้วย
ถัดมาอีกส่วนหนึ่ง จะเป็นส่วนของ Display ที่จะมีทั้ง Color temp อุณหภูมิสีที่ให้ปรับแบบ Manual ได้ตามต้องการ และค่า Ratio ส่วนอื่นๆ ก็จะใช้ในการทำงานและการเล่นเกมบ้าง เช่น Gamma เป็นต้น
ในส่วนของ Pro Function ก็จะมีตัวเลือกอย่าง Adaptive Sync และ HDR มาให้เลือกใช้ แต่ในกรณีที่คุณเปิดใช้งาน HDR จะไม่สามารถเข้าไปปรับ Smart Modes บางส่วนได้ เพราะจะควบคุมการทำงานโดยโหมดล่าสุด ที่คุณเลือกเป็น HDR เช่นตัวอย่างเราเลือกไว้เป็น Standard เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีในหัวข้อ Smart Modes จะเป็นตัวกำหนดโพรไฟล์ต่างๆ ในการใช้งาน เช่น Standard, Eco, Game, Movie, Low Blue Light และ sRGB
ทดสอบการใช้งาน
เล่นเกม สามารถเลือกโพรไฟล์ Game ได้เลย เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เพราะกำหนดค่าต่างๆ มาให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Brightness, Contrast หรืออื่นๆ แต่ถ้าต้องการเพิ่มเติม ก็สามารถปรับแบบ Manual ด้วยตัวเอง รวมถึง Gamma และ Black Level ได้อีกด้วย ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่น
ตัวอย่างการปรับค่าโพรไฟล์ในแต่ละโหมด เมื่ออยู่ในเกม GTAV จะเห็นว่าความสว่างสดใส จะอยู่ที่ Game Mode ส่วนอื่นๆ ก็จะให้คสามสว่าง สีสันที่ลดหลั่นลงมา
กับเกม GTAV ที่เล่นในโหมด 2K เรียกว่าสีสันสดใสจัดจ้าน เมื่ออยู่ในโหมด Game ความต่อเนื่องของภาพออกมาได้ดี โดยเฉพาะในเรื่องของแสงเงา และโทนสีที่ดูอิ่ม ทำให้รู้สึกฟินไปกับภาพ ยิ่งได้การ์ดจอตัวแรง ที่พอจะรีดเฟรมเรตได้สูงขึ้น ในโหมด High Detail บอกได้เลยว่า คุณจะรู้สึกอินไปกับการเล่น ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์การระเบิดหรือบรรดาแสงสะท้อน และการเคลื่อนไหวไปบนยานพาหนะ ก็จะมีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งทำให้ความสนุกสนานได้มากกว่า นี่คือสิ่งที่คุณจะได้จากจอคอมขนาดใหญ่ และมีความละเอียดสูง
ส่วนในเกม PUBG เราทดลองปรับแต่งใน Black Levels ให้ได้ชมกันด้วย ระหว่าง 5%, 50% และ 95% ซึ่งถ้าใครที่ชอบเล่นเกมในแนวที่ค่อนข้างลึกลับ หรืออยากได้เปรียบในพื้นที่รบ ที่มีแสงน้อย ในฉากดำเยอะๆ การปรับค่านี้ จะช่วยให้คุณได้เปรียบกับการเล่นไม่น้อยทีเดียว หากเล่นในฉากสว่างมากๆ อาจจะทำให้ศัตรูดูกลมกลืนไปกับฉาก การปรับให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยแยกความต่างในโทนสีดำออกมาได้ แต่กรณีที่เล่นในฉากมืดเป็นหลัก อาจจะปรับให้ตัวเลขน้อยลง เพื่อให้คุณมองเห็นในจุดที่มีความมืดลึกได้ชัดเจนมากขึ้น ส่วนนี้อาจจะต้องลองปรับใช้กันสักระยะ ก็จะคุ้นเคยกันไปเอง
ส่วนเกม Battlefield V นี้ จอคอมรุ่นนี้มีให้ปรับใช้ HDR เทียบความแตกต่างระหว่างการใช้ HDR และไม่ใช้ สิ่งที่ได้คือ ความจัดจ้านของสีสันที่ทำให้รู้สึกดึงดูดระหว่างการเล่น ซึ่งบอกได้เลยว่าใครที่ชอบเกมที่มีเอฟเฟกต์สวยๆ สีสันสดใส คุณจะได้เห็นความต่างบนจอ Xiaomi รุ่นนี้ จะเห็นได้ว่ามุมมองของแสง และรายละเอียดของออปเจกต์แต่ละชิ้น จะดูโดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม และเข้ากับการเล่นเกมในแบบต่างๆ ได้ดี ตั้งแต่ Action shooting ไปจนถึง MOBA หรือ Racing ก็ตาม
จะเห็นได้ว่าฉากของเปลวไฟและควัน รวมถึงการระเบิดที่เห็นอยู่นี้ จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้ไม่น้อยเลย ซึ่งหากคุณมีเครื่องที่แรงอยู่แล้ว แนะนำเปิด Adaptive Sync ใน OSD settings จะช่วยให้คุณสนุกไปกับเอฟเฟกต์สวยๆ และภาพลื่นๆ กับความละเอียดที่สูงระดับ 2K ก็จะเก็บสิ่งที่อยู่รอบข้างได้อย่างครบถ้วนอีกด้วย
การใช้งานหน้าจอในโหมดแนวตั้ง ก็ยังคงเอาใจสายท่องเว็บได้เป็นอย่างดี รวมถึงคนที่ใช้งานในด้านตัดต่อ เอามาเรียงฟุตเทจ มองเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น มีประโยชน์ค่อนข้างหลากหลายทีเดียว
และไม่ได้โดดเด่นในแง่ของการเล่นเกมเท่านั้น การดูหนังชมภาพยนตร์ ผ่านทาง Youtube หรือผู้ให้บริการอื่นๆ ก็ยังมาพร้อมกับสีสันที่จัดจ้าน ในแง่ความสว่างของภาพมีให้เต็มพิกัด ยิ่งขอบจอที่เล็กและบาง ก็ยิ่งทำให้พื้นที่ในการรับชมมากขึ้น เรียกว่าถ้าเป็นสายทำงานหรือนักแคสเกม การเลือกต่อจอเพิ่มแบบมัลติมอนิเตอร์ ก็จัดว่าเรียบเนียน ดูสบายตา ไม่สะดุดกับขอบจอมากนัก
ทำงาน แบ่งหน้าจอสำหรับ Xiaomi รุ่นนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ถนัดและตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยขนาดที่กว้างระดับ 27″ และมากับความละเอียด 2K จึงทำให้การประยุกต์ใช้ในแบบต่างๆ คล่องตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะแบ่งด้วยการ Split 3-4 หน้าต่าง ก็ยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีพื้นที่ในการทำงาน เช่น การเทียบเอกสารเพื่อแก้ไข การเปิดดูวีดีโอคู่ไปกับการดูภาพ หรือจะเป็นการดูหุ้นและข้อมูลตลาดไปพร้อมๆ กันก็ยังสะดวก ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานของแต่ละบุคคล
สายตัดต่อ Video Editing ก็แทบไม่ต้องพูดเยอะ เพราะด้วยตัวสเปคเอง ให้ขอบเขตสีได้ในระดับ sRGB 100% และ DCI-P3 95% ก็จัดว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาเลย เมื่อเทียบกับจอภาพในเรตราคาระดับเดียวกัน และด้วยความละเอียด 2460 x 1440 pixels ทำให้การจัดวางเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็นการเรียงฟุตเทจหรือช่องพรีวิวภาพ ล้วนแต่ถูกจัดสรรให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่เล็กจนเกินไป เมื่อเทียบกับ 27″ FHD หรือจอที่เล็กกว่า ขอบจอกว้างก็ยิ่งได้พื้นที่ใช้งานมากขึ้น
Conclusion
ใครที่กำลังมองหาจอคอมเล่นเกมขนาดใหญ่ และให้สเปคมาแบบไม่กั๊ก ในราคาที่เอื้อมถึง Xiaomi XMMNT27HQ น่าจะเป็นอีกรุ่นหนึ่ง ที่ช่วยให้การเล่นเกมและการทำงานของคุณไหลลื่นขึ้น เพราะจัดฟีเจอร์มาแบบเต็มพิกัดในราคาไม่ถึงหมื่นบาท แต่สิ่งที่ได้คือ จอขนาดใหญ่ 27 นิ้ว ที่สามารถเล่นเกมแบบพริ้วๆ ได้เพราะมาพร้อม Adaptive Sync และรีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz อัตราตอบสนอง 1ms ก็ยิ่งทำให้ภาพที่ได้มีความต่อเนื่อง จากการเล่นเกม ด้วยคอมสเปคกลางๆ Core i5-10600K และการ์ดตอ RTX 2060 SUPER ปรับการเล่นเกมในโหมด Full-HD เฟรมทะลุหลักร้อย ก็ทำให้ภาพดูสบายตา
ส่วนการเล่นในโหมด 2K ปรับรายละเอียดให้อยู่ Medium หรือ High ในหลายๆ เกมก็ยังลื่น ยิ่งลองใช้ HDR สีสันเป็นสิ่งที่เกมเมอร์หลายคนต้องหันมามองอย่างแน่นอน นอกจากนี้การปรับแต่งผ่าน OSD ก็ทำได้ไม่ยาก แม้จะไม่ได้ใส่ลูกเล่นมาอย่างละเอียด แต่เกมเมอร์สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมเองได้ และลูกเล่นอย่าง Black Levels ก็ช่วยให้ฉากที่มืดๆ ดูสว่างขึ้น ได้เปรียบศัตรูอย่างแน่นอน หลังจากที่ได้ลองบน BFV และ PUBG
ไม่เพียงแค่การเล่นเกมเท่านั้น แต่จอคอมจาก Xiaomi รุ่นนี้ ยังตอบรับกับการใช้งานและความบันเทิงได้อีกมากมาย ตั้งแต่งานเอกสารสำนักงาน ดูหนัง ท่องเว็บและตัดต่อวีดีโอ รวมถึงการใช้งานในรูปแบบอืนๆ ตามที่คุณจะประยุกต์ใช้อีกด้วย เรียกว่าครบครัน มั่นใจได้ว่าการเล่นเกมของคุณจะสนุกขึ้นอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- หน้าจอขนาดใหญ่ ขอบจอบาง ให้พื้นที่ทำงานได้มากขึ้น
- ติดตั้ง ประกอบง่าย แทบไม่ต้องใช้เครื่องมือ
- พาแนล IPS ให้สีสันที่คมชัด พร้อม sRGB 100%
- ปรับใช้ได้หลากหลาย Pan, Tilt, Pivot สะดวก
- รองรับ Adaptive Sync
- ให้ความละเอียดระดับ 2K
- รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz
ข้อสังเกต
- ไม่มีการตั้งค่าโพรไฟล์เฉพาะในตัว เลือกได้ตามโหมด แล้วแต่งเพิ่มเติม
- ต้องปิดโหมด HDR ก่อนจะไปปรับแต่งฟังก์ชั่นอื่นๆ เพิ่มเติม
ราคา: ประมาณ 9,990 บาท
ติดต่อ / ซื้อสินค้า