Connect with us

Hi, what are you looking for?

Other News

สรุปรวมราคา iPhone 12 ในไทยทั้ง 4 รุ่น ก่อนวางจำหน่าย 27 พฤศจิกายนนี้

ราคา iPhone 12
 
ภายหลังการเปิดตัว iPhone 12 ที่ออกมาด้วยกัน 4 รุ่น ก็ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ใช้มากมาย และทาง Apple ก็ได้เริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ในกลุ่มประเทศแรกเป็นที่เรียบร้อย และในประเทศไทยเองก็ลุ้นว่าราคา iPhone 12 ที่จะจำหน่ายในประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ในช่วงก่อนหน้านี้ได้มีราคาสำหรับเครื่องหิ้ว (ราคาโดยประมาณ) ออกมาเป็นดังนี้ 
  • ราคา iPhone 12
    • ความจุ 64GB อยู่ที่ประมาณ 31,500 – 46,500 บาท
    • คความจุ 128GB อยู่ที่ประมาณ 32,000 – 49,000 บาท
    • ความจุ 256GB อยู่ที่ประมาณ 35,000 – 53,500 บาท
  • ราคา iPhone 12 Pro
    • ความจุ 128GB อยู่ที่ประมาณ 48,000 – 61,000 บาท
    • ความจุ 256GB อยู่ที่ประมาณ 52,000 – 64,500 บาท
    • ความจุ 512GB อยู่ที่ประมาณ 56,000 – 89,900 บาท

(ราคานี้จะเป็นราคาที่ขึ้นอยู่กับร้านค้าและสีของตัวเครื่อง)

และล่าสุดนั้นทาง Apple Thailand ได้ประกาศวันวางจำหน่ายและราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ iPhone 12 Series ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะวางขายหน้าร้านพร้อมกันทุกรุ่นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2020 นี้ (สำหรับการสั่งซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์นั้นยังไม่มีการยืนยันชัดเจน) ในส่วนของราคานั้น เป็นดังนี้ 
 
  • ราคา iPhone 12 mini (ความจุเริ่มต้น 64GB)
    • ความจุ 64GB ราคา 25,900 บาท
    • ความจุ 128GB ราคา 27,900 บาท
    • ความจุ 256GB ราคา 31,900 บาท
  • ราคา iPhone 12 (ความจุเริ่มต้น 64GB)
    • ความจุ 64GB ราคา 29,900 บาท
    • ความจุ 128GB ราคา 31,900 บาท
    • ความจุ 256GB ราคา 35,900 บาท
  • ราคา iPhone 12 Pro (ความจุเริ่มต้น 128GB)
    • ความจุ 128GB ราคา 36,900 บาท
    • ความจุ 256GB ราคา 40,900 บาท
    • ความจุ 512GB ราคา 48,900 บาท
  • ราคา iPhone 12 Pro Max (ความจุเริ่มต้น 128GB)
    • ความจุ 128GB ราคา 39,900 บาท
    • ความจุ 256GB ราคา 43,900 บาท
    • ความจุ 512GB ราคา 51,900 บาท
 
(ราคา iPhone 12 ดังกล่าวเป็นราคาที่รวมภาษีเรียบร้อยแล้ว)

ราคา iPhone 12 VS. iPhone 11

สำหรับราคาอย่างเป็นทางการที่จำวางจำหน่ายในช่วงแรกของ iPhone 12 เมื่อเทียบกับ iPhone 11 นั้น จะแพงกว่าหรือถูกกว่าอย่างไร มาดูกันเลย

Advertisement
  • ราคา iPhone 11 VS ราคา iPhone 12
iPhone 11 iPhone 12
ความจุ 64GB ราคา 24,900 บาท ความจุ 64GB ราคา 29,900 บาท
ความจุ 128GB ราคา 26,900 บาท ความจุ 128GB ราคา 31,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 30,900 บาท ความจุ 256GB ราคา 35,900 บาท
  • ราคา iPhone 11 Pro VS ราคา iPhone 12 Pro
iPhone 11 Pro iPhone 12 Pro
ความจุ 64GB ราคา 35,900 บาท ความจุ 128GB ราคา 36,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 41,900 บาท ความจุ 256GB ราคา 40,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 48,900 บาท ความจุ 512GB ราคา 48,900 บาท
  • ราคา iPhone 11 Pro Max VS ราคา iPhone 12 Pro Max
iPhone 11 Pro Max iPhone 12 Pro Max
ความจุ 64GB ราคา 39,900 บาท ความจุ 128GB ราคา 39,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 45,900 บาท ความจุ 256GB ราคา 43,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 52,900 บาท ความจุ 512GB ราคา 51,900 บาท

ราคา iPhone 12

นอกจากนี้แล้วเรามาดูในส่วนของสปคในแต่ละรุ่นที่ออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังเปิดตัว เพื่อนำไปใช้ประกอบในการตัดสินใจกันดีกว่า

สรุปสเปค iPhone 12 Series

iPhone รุ่นใหม่นั้นมีออกมา 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 12 Mini (5.4 นิ้ว), iPhone 12 (6.1 นิ้ว), iPhone 12 Pro (6.1 นิ้ว) และ iPhone 12 Pro Max (6.7 นิ้ว) โดยในส่วนสเปคของ แต่ละตัวในซีรี่ส์นี้นั้น ค่อนข้างที่จะตรงตามข่าวลือที่ได้หลุดออกมาอย่างมากมายในช่วงก่อนหน้า และสเปคที่ออกมาอย่างเป็นทางการนั้นมีดังนี้ 

ดีไซน์

เริ่มต้นกันด้วยดีไซน์ของ iPhone ที่เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการนั้น เป็นไปอย่างที่ข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้าถึง 90% เลยทีเดียว โดยดีไซน์ของ iPhone รุ่นใหม่ทั้งซีรี่ส์นั้นให้ความรู้สึกว่าได้ Back to Basic อีกครั้ง เพราะมีความคล้ายคลึงกับ iPhone 4 เป็นอย่างมาก โดยจะมีขอบค่อนข้างเหลี่ยม ตัวเครื่องเป็นโลหะ แบนราบ ประกบด้วยแผ่นกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยกระจกด้านหน้าจะเป็นแบบ Ceramic Shield เพิ่มความคงทนกว่าเดิมถึง 4 เท่า มาพร้อมจอภาพ Super Retina® XDR ที่กว้างเกือบจะเต็มขอบ มอบความสว่างและความสมจริงมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ Notch หรือรอยบากด้านบนนั้นดูเหมือนจะยังมีขนาดเท่าเดิม 

สีสัน
ราคา iPhone 12

iPhone 12/12 Mini

ราคา iPhone 12

iPhone 12 Pro/ Pro Max

iPhone 12 รุ่นธรรมดาและรุ่น mini มาในดีไซน์อะลูมิเนียมที่ให้เลือกด้วยกัน 5 สี ได้แก่ Black, White, Green, Blue และ (PRODUCT)RED ส่วนในรุ่นPro และ Pro Max นั้น มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี ได้แก่ Silver, Gold, Graphite และสีสันใหม่ที่เป็นไฮไลท์อย่าง Pacific Blue

ราคา iPhone 12

หน้าจอแสดงผล

iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่น มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Super Retina XDR โดย

  • iPhone 12: มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว all‑screen OLED display 2352 x 1170 pixel ความละเอียด 458 ppi
  • iPhone 12 Mini: มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว ที่ตัวเครื่องมีความเล็กกว่า iPhone 8 แต่มีความกว้างของหน้าจอที่มากกว่า และ all‑screen OLED display 2340 x 1080 pixel ความละเอียด 458 ppi
  • iPhone 12 Pro: มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว all‑screen OLED display 2352 x 1170 pixel ความละเอียด 458 ppi 
  • iPhone 12 Pro Max: มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว all‑screen OLED display 2778 x 1284 pixel ความละเอียด 458 ppi

ทั้งหมดนี้รองรับ

  • HDR display
  • True Tone
  • Wide color (P3)
  • Haptic Touch

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทั้ง 4 รุ่นนี้จะยังไม่มีหน้าจอแสดงผลที่รองรับรีเฟรชเรท 120Hz ดังที่ข่าวลือออกมา

การรองรับเทคโนโลยี 5G

iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นนั้นรองรับเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ทั้ง sub-6 GHz และ mmWave ให้ความรวดเร็วในการดาวน์โหลดและอัพโหลดที่สูงขึ้น การสตรีมวิดีโอที่มีคุณภาพสูง การเล่นเกมที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น การโต้ตอบภายในแอพที่รวดเร็ว ไปจนถึงการโทร FaceTime แบบความละเอียดสูง ฯลฯ

ชิปประมวลผล

สเปคของทั้ง 4 รุ่นนั้นมาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A14 Bionic ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมแบบ 5 นาโนเมตร ที่ทาง Apple ได้เริ่มนำมาใช้ใน iPad Air 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลทดสอบการทำงานที่ออกมานั้นถือว่าเร็วแรง และทำคะแนนได้ดีทั้ง Single-Core และ Multi-Core (เผยผลทดสอบชิป A14 Bionic ของ iPad Air 4) ให้ประสิทธิภาพของการทำงานของ CPU ที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 40% และมีประสิทธิภาพของการทำงานด้าน GPU สูงขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับ ชิปประมวลผล A12 Bionic และให้ประสิทธิภาพของ CPU เพิ่มขึ้น 16% และมีประสิทธิภาพของ GPU เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับชิป A13 Bionic ที่อยู่ใน iPhone 11

กล้อง
  • iPhone 12/iPhone 12 Mini
    • กล้องหลังเป็นแบบ Dual Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal, เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel ส่วนเลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา
    • กล้องหน้า TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
  • iPhone 12 Pro
    • กล้องหลัง มี 3 ตัว ได้แก่ เลนส์ Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal, เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel, 1.4 µm, เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา และเลนส์ Telephoto 12MP f/2.0
    • กล้องหน้า TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
  • iPhone 12 Pro Max
    • กล้องหลัง มี 3 ตัว ได้แก่ เลนส์ Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal, เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS แบบ Sensor-Shift, 100% Focus Pixel, 1.7 µm, เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา เลนส์ Telephoto 12MP f/2.2
    • ด้านหลังมี LiDar Scanner ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานในด้าน AR และเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพให้สวยงามและมีมิติมากยิ่งขึ้น
    • กล้องหน้า TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
ความจุ

สำหรับความจุที่ Apple ให้มาใน iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นนั้นมีดังนี้

  • iPhone 12 mini จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 3 ตัวเลือก ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB
  • iPhone 12 จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 3 ตัวเลือก ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB
  • iPhone 12‌ Pro จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 3 ตัวเลือก ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB
  • ‌iPhone 12‌ Pro Max จะมาพร้อมตัวเลือกด้านความจุ 3 ตัวเลือก ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB

พอร์ตและสายชาร์จ

iPhone รุ่นใหม่นั้นจะได้รับสายชาร์จแบบใหม่โดยจะเป็นสาย USB-Type C to Lightning และ Apple จะไม่มีการแถม Power Adapter และ EarPods มาให้แล้วในกล่อง โดยทาง Apple ให้เหตุผลว่าเป็นในด้านของสิ่งแวดล้อม (Apple ได้ยกเลิกการแถม Power Adapter ใน Apple Watch รุ่นใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมาแล้วเช่นกัน) ทั้งนี้ Apple ได้นำ MagSafe กลับมาใช้ใน iPhone รุ่นใหม่นี้ด้วยโดย MagSafe Charger จะเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายแบบแม่เหล็กที่สามารถชาร์จไฟได้ดีกว่าที่ชาร์จไร้สายแบบเดิม และยังรองรับการชาร์จไร้สาย 15W 

  •  

 

 
 

ตารางเปรียบเทียบ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น

สเปคในด้านต่าง ๆiPhone 12 MiniiPhone 12iPhone 12 ProiPhone 12 Pro Max
DisplayOLED 5.4″
(Super Retina XDR)
ความละเอียด
2340 x 1080 / 476 ppi

OLED 6.1″
(Super Retina XDR)
ความละเอียด
2532 x 1170 / 460 ppi
OLED 6.1″
(Super Retina XDR)
ความละเอียด
2532 x 1170 / 460 ppi
OLED 6.7″
(Super Retina XDR)
ความละเอียด
2778 x 1284 / 458 ppi
Chipset
A14 Bionic
A14 Bionic
A14 Bionic
A14 Bionic
RAM
4 GB (?)
4 GB (?)
6 GB (?)
6 GB (?)
Memory
64GB / 128GB / 256GB
64GB / 128GB / 256GB
128GB / 256GB / 512GB
128GB / 256GB / 512GB
Rear Camera
Dual Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal,

เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel

เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา

รองรับ Deep Fusion

Dual Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal,

เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel

เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา

รองรับ Deep Fusion
กล้องหลัง 3 ตัว
เลนส์ Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal,

เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS, 100% Focus Pixel, 1.4 µm,

เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา

เลนส์ Telephoto 12MP f/2.0

รองรับ Deep Fusion
เลนส์ Pro Camera กระจกเลนส์ครอบทับด้วย Sapphire Crystal,

เลนส์ Wide 12MP f/1.6 เลนส์ 7 ชิ้น รองรับ OIS แบบ Sensor-Shift, 100% Focus Pixel, 1.7 µm,

เลนส์ Ultra-Wide 12MP f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา เลนส์ Telephoto: 12MP f/2.2

มี LiDar Scanner ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานในด้าน AR และเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพให้สวยงามและมีมิติมากยิ่งขึ้น

รองรับ Deep Fusion
Front Camera

TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
TrueDepth 12MP f/2.2 ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60fps รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision
Video4K สูงสุด 60fps / HDR แบบ HDR Dolby Vision 30fps4K สูงสุด 60fps / HDR แบบ HDR Dolby Vision 30fps4K สูงสุด 60fps / HDR แบบ HDR Dolby Vision 60fps4K สูงสุด 60fps / HDR แบบ HDR Dolby Vision 60fps
NetworkWiFi 6
Bluetooth 5.0
3G
4G
5G
Nano-SIM
eSIM
WiFi 6
Bluetooth 5.0
3G
4G
5G
Nano-SIM
eSIM
WiFi 6
Bluetooth 5.0
3G
4G
5G
Nano-SIM
eSIM
WiFi 6
Bluetooth 5.0
3G
4G
5G
Nano-SIM
eSIM
Battery
ไม่ระบุ
[2,227mAh (?)]
ไม่ระบุ
[2,775mAh (?)]
ไม่ระบุ
[2,775mAh (?)]
ไม่ระบุ
[3,687mAh (?)]
ราคา64GB ราคา 25,900
128GB ราคา 27,900
256GB ราคา 31,900
64GB ราคา 29,900
128GB ราคา 31,900
256GB ราคา 35,900
128GB ราคา 36,900
256GB ราคา 40,900
512GB ราคา 48,900
128GB ราคา 39,900
256GB ราคา 43,900
512GB ราคา 51,900

สเปคดังกล่าวเป็นสเปคอย่างเป็นทางการ ยกเว้น RAM กับ Battery เป็นเพียงสเปคจากข้อมูลการคาดการณ์เท่านั้น

อ่านบทความเพิ่มเติม/เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Mac Corner

ขึ้นชื่อว่าเป็นไอโฟนเป็นใครอยากได้ ว่าด้วยราคาเครื่องจะจ่ายเงินสดรอบเดียวก็ยังได้แต่ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องใช้เงินก้อนเมื่อไหร่ หลายคนจึงเลือกวิธีผ่อนไอโฟนทีละงวดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 10 ถึง 30 เดือนก็มี ตามที่ร้านค้ากับธนาคารเจ้าของบัตรจะทำข้อตกลงกันไว้ ทำให้ลูกค้าได้เปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น และยังไม่รวมแคมเปญอื่นๆ จาก Apple กับตัวแทนจำหน่ายแต่ละเจ้าเอามาเป็นจุดจูงใจเพิ่มเติมอีกด้วย ข้อดีของการจ่ายเงินผ่อน นอกจากไม่ต้องลงเงินก้อนครั้งเดียวแต่เฉลี่ยจ่ายไปเรื่อยๆ จนครบได้แล้ว ยังมีเครื่องมือทางการเงินอีกหลายอย่างเข้ามาช่วยแบ่งเบาผู้ใช้ได้อีกมาก ไม่ว่าจะใช้แต้มในบัตรเครดิตหักลดราคาเครื่องก่อนผ่อนชำระได้, กดส่งโค้ดเอาแต้มกับเงินคืนไว้ใช้ในโอกาสอื่นได้ไม่พอ ในยุคนี้บางร้านค้ายังให้ผ่อนด้วยบัตรประชาชนใบเดียวได้อีก เป็นทางเลือกเพื่อคนไม่มีบัตรเครดิตแต่มีเงินในกระเป๋าแบ่งจ่ายค่าเครื่องได้สะดวกไม่แพ้กัน Advertisement ผ่อนไอโฟนวิธีไหนได้บ้าง?...

Mac Corner

พอ Apple เปิดตัว iPhone 16 Series เปิดตัว iPhone 15 ราคาก็ถูกลงตามกลไกการตลาด หลีกทางให้สินค้ารุ่นใหม่และเคลียร์สต็อกสินค้าเก่าไปด้วย ถึงจะตกรุ่นแล้วแต่ถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปเน้น Social network, ถ่ายวิดีโอเก็บภาพความทรงจำและเล่นเกมบ้าง ไม่เน้น Apple Intelligence (AI) ตามสมัยนิยมเอาความแรงตัวชิปเซ็ตเข้าว่า ก็พูดได้ว่าราคาไอโฟน 15 ตอนนี้ก็คุ้มดีแล้วใช้เป็นมือถือเครื่องหลักไปได้อีกหลายปีก่อนจะหมดรอบการอัปเดต iOS...

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก