ด้วยพลังจากเทคโนโลยี Ampere สถาปัตยกรรม RTX ใหม่ล่าสุดของ NVIDIA เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่อยู่ภายใน การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series มี Ray Tracing Cores เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น มี Tensor Cores เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่แรงกว่าเดิม และ Streaming Multiprocessors ช่วยทำงานให้ได้ภาพที่สวยสดงดงาม มีความลื่นไหล Frame Rate สูง และตัวเร่งการทำงาน AI Acceleration สำหรับทั้งเกมเมอร์ และผู้สร้างคอนเทนต์
GeForce RTX 30 Series มาพร้อมฟีเจอร์มากมายหลากหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่การเป็นการ์ดจอสำหรับการเล่นเกมตัวแรก ที่มาพร้อมกับแรมขนาดสูงสุดถึง 24GB และเป็นเทคโนโลยีความเร็วสูงใหม่ล่าสุด GDDR6X VRAM ต่อด้วยการเป็นการ์ดจอตัวแรกที่มาพร้อมพอร์ต HDMI 2.1 สำหรับการแสดงผลภาพที่ระดับความละเอียด 4K และ 8K ยังไม่หมดเท่านั้น ยังเป็นการ์ดจอแยกตัวแรกที่รองรับการเข้ารหัสภาพแบบ AV1 Codec ช่วยให้ดูสตรีมแบบความละเอียดสูงได้โดยใช้แบนด์วิดธ์ที่น้อย และการ์ดในรุ่น Founder Edition ของเรายังมาพร้อมนวัตกรรมใหม่อย่างระบบ Dual Axial Flow Through Cooling Solution ในการช่วยระบายความร้อนด้วย
และแน่นอนว่า GeForce RTX 30 Series GPUs ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัดแน่นสำหรับนักแข่งอีสปอร์ต สตรีมเมอร์ไลฟ์สด ผู้สร้างคอนเทนต์ และเกมเมอร์ – ไม่ว่าจะเป็น NVIDIA Reflex เทคโนโลยีที่ช่วยลดระยะเวลาหน่วงช้าของระบบให้ลดลง ส่งผลให้ทำงานได้เร็วกว่าเดิม ตอบสนองตั้งแต่เมาส์คลิกในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ปลั๊กอิน NVIDIA Broadcast ช่วยเปลี่ยนให้ห้องของคุณกลายเป็นโฮมสตูดิโอ มีระบบ AI ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารทั้งทางภาพวิดีโอและเสียง เทคโนโลยี NVIDIA DLSS ช่วยทำให้ได้ ภาพเกมระดับ 8K HDR ที่สมจริงแบบสุด ๆ บน การ์ดจอ GeForce RTX 3090 และเทคโนโลยี NVIDIA Studio ที่จะเพิ่มความเร็วให้กับโปรแกรมสร้างสรรค์งานต่าง ๆ ได้เร็วกว่าที่เคย
อย่าพลาดอ่านเนื้อหาด้านล่างนี้ให้ครบถ้วน เพราะยังมีข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ อีกมากมายของการ์ดจอ GeForce RTX 30 Series นี้ และยังมีวิดีโอนำเสนอจาก NVIDIA CEO, Jensen Huang ด้วย
สเปกสำคัญการ์ดจอ GeForce RTX 30 Series
เริ่มวันที่ 17 กันยายน NVIDIA และพันธมิตรจะเปิดตัว GeForce RTX 3090, GeForce RTX 3080 และ GeForce RTX 3070:
|
GeForce RTX 3090 |
GeForce RTX 3080 |
GeForce RTX 3070 |
|
|
CUDA Cores |
10,496 |
8,704 |
5,888 |
|
VRAM |
24 GB GDDR6X |
10 GB GDDR6X |
8 GB GDDR6 |
|
Prices Starting At |
$1499 |
$699 |
$499 |
|
Release Date |
September 24 |
September 17 |
Available October |
พาร์ตเนอร์ของเราหลายรายทั่วโลก ทั้ง ASUS, Colorful, EVGA, Gainward, Galaxy, Gigabyte, Innovision 3D, MSI, Palit, PNY และ Zotac จะทำการปรับแต่งการ์ดจอรุ่นพิเศษในแบบเฉพาะของแต่ละแบรนด์ออกมา เตรียมวางจำหน่ายไปพร้อม ๆ กับรุ่น NVIDIA Founder Edition และยัง มาพร้อมของแถม กับเกม Watch Dogs: Legion และสมาชิก GeForce NOW Founder’s Subscription ระยะเวลา 1 ปีแบบฟรี ๆ สามารดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series Founders Edition
การ์ดจอรุ่น GeForce RTX 30 Series Founders Edition ของเรา มีการออกแบบระบบระบายความร้อนแบบใหม่ล่าสุด มีประสิทธิภาพในการถ่ายเทอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี โดยมีชื่อเรียกว่าระบบ Dual Axial Flow Through Cooling Solution ใช้พัดลม 2 ตัว ตัวนึงที่ด้านหน้าซ้ายมือ อีกตัวที่ด้านหลังขวามือ ช่วยดึงลมให้ไหลผ่านเข้าไปภายในตัวการ์ดได้ดีเยี่ยม (GeForce RTX 3070 จะมีการออกแบบที่แตกต่างไปเล็กน้อย คือวางพัดลมไว้ที่ด้านหน้าทั้ง 2 ตัว)
ความร้อนจะถูกระบายออกไป 2 ช่องทางที่แยกจากกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้นตามแนวการวางตำแหน่งของตัวการ์ด ผ่านครีบระบายความร้อนที่ทำมาจากอลูมิเนียม นำความร้อนได้เป็นอย่างดี พัดลมตัวซ้ายจะผลักอากาศร้อนผ่านช่องขนาดใหญ่ที่มีครีบอลูมิเนียมนี้ไปทางด้านหลัง ส่วนพัดลมตัวขวาจะดันลมร้อนออกไปทางด้านบน แล้วโค้งผ่านออกไปทางด้านหลังตัวเครื่อง
แผงวงจรการ์ด (PCB) ขนาดปกติเดิม ๆ นั้น ถือว่าค่อนข้างใหญ่ การจะเอาพัดลมขนาดใหญ่ประสิทธิภาพสูงใส่ลงไปนั้น จึงต้องมีการคิดและออกแบบมาเป็นพิเศษ วิศวกรของเราได้ออกแบบให้แผงวงจรมีขนาดเล็กลงมาก ย่อขนาด NVLink และช่องเสียบจ่ายไฟแบบใหม่ให้เล็กลง แต่ยังคงสามารถใส่ระบบจ่ายไฟแบบ 18-เฟส ไว้ ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และไม่ต้องห่วงว่าจะใช้งานกับอุปกรณ์เดิมไม่ได้ เพราะเรามีหัวแปลงสำหรับเชื่อมต่อกับภาคจ่ายไฟแบบเดิมมาให้ด้วย
การออกแบบใหม่เหล่านี้ ทำให้เราสามารถใส่พัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่ลงไปบนตัวการ์ดได้ จากขนาดแผงวงจรที่เล็กลง จนออกมาเป็นการ์ดประสิทธิภาพสูง ที่ทั้งเร็ว และระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม
ในเรื่องของเสียงรบกวน ระบบระบายความร้อนแบบใหม่นี้ ยังช่วยให้เงียบลงกว่าระบบระบายความร้อนเดิม แต่ได้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึงเกือบ 2 เท่า โดยเฉพาะประโยชน์ที่ได้จากการดีไซน์ NVLink และจุดเชื่อมต่อภาคจ่ายไฟใหม่ ทำให้ได้พื้นที่มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการให้อากาศถ่ายเทไหลเวียนได้สะดวก ผ่านเข้าออกทางช่องลมขนาดใหญ่ ที่มีการออกแบบลูบทรงครีบอลูมิเนียมที่ปากช่องเพื่อการระบายที่ดีที่สุดโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของตัวการ์ด จะสังเกตเห็นได้ถึงการออกแบบที่ต้องการให้อากาศไหลผ่านได้สะดวกในทุก ๆ จุด เพื่อลดอุณภูมิให้ต่ำที่สุด เสียงรบกวนน้อยที่สุด แต่ประสิทธิภาพสูงที่สุด
การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series Founder Edition จะพร้อมจำหน่ายผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของเรา สามารถสั่งซื้อได้ทั้งรุ่น GeForce RTX 3090, GeForce RTX 3080 และ GeForce RTX 3070 ที่หน้า้เว็บไซต์
ฮาร์ดแวร์ของ GeForce RTX 30 Series
ประสิทธิภาพของการ์ดจอรุ่นล่าสุดของเรา GeForce RTX 30 Series มาจากความพยายามในการรวบรวมชิ้นส่วนต่าง ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ จากฝ่ายวิจัยและพัฒนา R&D ของเราเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ เพื่อประกอบร่างกันขึ้นมาเป็นผลงานชิ้นสำคัญชิ้นนี้ สามารถเข้าไปเช็ก ดูย้อนหลัง เมื่อวันที่ 17 กันยายน เพื่อดูข้อมูลของ GeForce RTX 30 Series แบบครบถ้วนทุกรายละเอียด
NVIDIA Ampere Streaming Multiprocessors
หน่วยประมวลผล Streaming Multiprocessors (SMs) ถือเป็นหัวใจหลักของการ์ดจอ NVIDIA GPUs และ NVIDIA Ampere Streaming Multiprocessors ตัวใหม่ล่าสุดของเราก็คือผลงานที่ดีสุดในตอนนี้ เปรียบเทียบกับหน่วยประมวลผลรุ่นเดิม บนสถาปัตยกรรม Turing-Acrchitecture GeForce RTX 2080 Ti สถาปัตยกรรม NVIDIA Ampere Architecture ใหม่นี้ มีประสิทธิภาพที่เยี่ยมยอดกว่า จนได้ค่า FP32 Throughput ที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า
เราได้ทำการเพิ่มประสิทธิภาพต่อกำลังไฟวัตต์ให้สูงขึ้น ทำให้เกมเมอร์ได้อัตราจำนวนภาพเฟรมเรตที่สูงขึ้น ทำงานไปพร้อมกับเทคโนโลยี PCIE 4.0 ระบบจ่ายไฟ 18 เฟส และนวัตกรรมระบบระบายความร้อนใหม่ จนได้การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series GPUs ที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าที่เคยมีมา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำการโอเวอร์คล็อกเลยด้วยซ้ำ
Ray Tracing Cores รุ่นที่ 2 และ Tensor Cores รุ่นที่ 3
NVIDIA สร้างนวัตกรรม Ray Tracing แบบ Real Time ให้วิดีโอเกมด้วย Ray Tracing Cores เป็นคอร์เฉพาะสำหรับประมวลผล Ray Tracing เพียงอย่างเดียว ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพระดับสูง และนับเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว ที่เราได้ออกแบบ และพัฒนาขึ้นให้ดีขึ้นจากเดิม เพิ่มขีดความสามารถ Throughput ได้ถึง 2 เท่า
ยังมี NVIDIA DLSS ระบบ Deep Learning Neural Network ที่ได้จากการทำงานของหน่วยประมวลเฉพาะ AI Processors ในชื่อว่า Tensor Cores ช่วยเพิ่มจำนวนภาพเฟรมเรตให้สูงขึ้นไปพร้อม ๆ กับความคมชัด ภาพสวยสดใสสมจริง
การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series GPUs มาพร้อมกับ Tensor Cores รุ่นที่ 3 มีประสิทธิภาพในการทำงานจนได้ Throughput ที่สูงกว่าสถาปัตยกรรมเดิม Turing-Achitecture ถึง 2 เท่า ช่วยให้ประมวลผลงานสำหรับเทคโนโลยี AI และเทคนิคต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น พร้อมสำหรับการทำงานกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกมากมายในอนาคต
เมื่อเปิดโหมดการทำงาน DLSS จะเพิ่มประสิทธิภาพในเกมให้สูงขึ้น ตัวอย่างเช่นเกม Control, Minecraft with RTX for Windows 10 และ Death Stranding ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม คมชัดใส มากยิ่งขึ้นกว่าการเรนเดอร์ความละเอียดปกติผ่าน Temporal Anti-Aliasing และเราขอนำเสนอโหมด Ultra Performance เป็น ระบบ DLSS ที่ความละเอี่ยดสูงสุด 8K บน GeForce RTX 3090
GDDR6X – หน่วยความจำ Graphics Memory ที่เร็วที่สุดในโลก
ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ Micro ได้เปิดตัวหน่วยความจำแบบใหม่ล่าสุด GDDR6X และเราได้นำมาใส่ลงใน GeForce RTX 3090 และ GeForce RTX 3080 ทั้ง 2 รุ่น เป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำที่ใช้นวัตกรรมการส่งสัญญาณแบบ PAM4 ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถช่วยเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลเป็น 2 เท่าต่อหนึ่งความถี่สัญญาณนาฬิกา ทำให้ได้ประสิทธิภาพหน่วยความจำที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก ช่วยให้งานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Workload ที่ใช้ข้อมูลมหาศาล เช่น การเล่นเกม การแสดงผล 3 มิติระดับมืออาชีพ และงานปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ทำงานได้ดีขึ้น รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าคอร์ของหน่วยประมวลผล และส่วนประกอบอื่น ๆ จะสามารถส่งข้อมูลไปมาระหว่างกัน ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ลื่นไหล ไม่มีสะดุด ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอให้หงุดหงิด ช่วยให้การทำงานคล่องตัว รวดเร็วมากขึ้นกว่าที่เคย
รองรับ HDMI 2.1
การพัฒนาเทคโนโลยีของหน้าจอมอนิเตอร์ และทีวีรุ่นใหม่ ๆ ได้ล้ำหน้าไปไกลกว่าความสามารถของพอร์ตเชื่อมต่อ HDMI เดิม ๆ ไปมาก ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการแสดงผลที่ความละเอียดสูงระดับ 4K และ 8K ซึ่งต้องใช้การส่งผ่านข้อมูลที่มีปริมาณมากขึ้น แต่ HDMI เดิม ๆ นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับปริมาณข้อมูลมากนัก เพราะเต็มที่สูงสุดก็ทำได้แค่เพียงที่ระดับความละเอียด 4K HDR 98Hz เท่านั้น การจะแสดงผลภาพให้มากกว่านั้น จึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีของการเชื่อมต่อ และสายแบบใหม่เข้ามาช่วย
GeForce RTX 30 Series ได้แก้ปัญหาที่ว่านี้แล้ว ด้วยการเป็นการ์ดจอคอมพิวเตอร์ PC ตัวแรกของโลก ที่รองรับมาตรฐานพอร์ต HDMI 2.1 เวอร์ชั่นใหม่มาตรฐานล่าสุด สามารถแสดงผลภาพความละเอียด 4K พร้อมค่า Refresh Rate สูงมากกว่า 98Hz ได้ และยังรองรับไปถึงภาพระดับความละเอียด 8K ด้วยสายเชื่อมต่อเพียงเส้นเดียวได้เลย
รองรับการถอดรหัส AV1 Decode
หลากหลายบริษัทเทคโนโลยีด้านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก ได้ร่วมกันพัฒนามาตรฐานการเข้ารหัสวิดีโอขึ้นมาใหม่ในชื่อว่า AV1 เพื่อให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้น ปลอดค่าลิขสิทธิ์ และยังช่วยลดการใช้แบนด์วิธด์ในการส่งข้อมูลวิดีโอความละเอียดสูงได้สูงสุดถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐาน H.264 ทำให้การสตรีมวิดีโอความละเอียด 4K หรือ 8K จะทำได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุดหรือกระตุก แม้ว่าจะไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
GeForce RTX 30 Series เป็นการ์ดจอแยกตัวแรกที่มาพร้อมตัวถอดรหัส AV1 (เป็นส่วนหนึ่งของ NVIDIA Decoder รุ่นที่ 5) พร้อมให้คุณได้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่ของการรับชมสตรีมวิดีโอแห่งนาคต
เทคโนโลยี NVIDIA Reflex Low Latency
หลายคนอาจไม่รู้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ของเรานั้น มีความหน่วงช้าในการตอบสนอง หลังจากที่เราได้สั่งงานตัวเครื่องไปแล้ว (Input Lag) หรือในอีกชื่อเรียกกันว่า System Latency เราได้เพิ่มประสิทธิภาพในการ์ดจอ GeForce RTX 30 Series ให้ตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้ไวขึ้นกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี NVIDIA Reflex นวัตกรรมใหม่ที่มาปฏิวัติการทำงานในระบบเดิม ๆ ด้วยการซิงก์การทำงานระหว่างตัวการ์ดจอ หน้าจอ G-SYNC และเทคโนโลยีในตัวซอฟต์แวร์ ให้เกมเมอร์สามารถวัด และปรับแต่งค่าหน่วงของระบบนี้ได้
เมื่อเครื่องของเรามีค่าหน่วงระบบที่ต่ำลงกว่าเดิม (Lower Latency) จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ของคุณตอบสนองกับเมาส์ได้ไวขึ้น ซึ่งส่งผลสำคัญกับผลแพ้ชนะในเกมอย่างมากแม้เพียงเสี้ยววินาที เกมที่ถูกใช้แข่งขันชั้นนำต่างก็รองรับกับเทคโนโลยีใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็น Apex Legends, Call of Duty: Black Ops Cold War, Call of Duty: Modern Warfare, Call of Duty: Warzone, Destiny 2, Fortnite และ Valorant
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NVIDIA Reflex และการทำงานต่าง ๆ ของเทคโนโลยีที่ช่วยลดระยะเวลาความหน่วงได้ ที่นี่
ประสิทธิภาพ GeForce RTX 30 Series
เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เราว่ามาทั้งหมด พร้อมกับการปรับแต่งผ่านซอฟร์แวร์ไดรเวอร์ เทคนิคการบีบอัดหน่วยความจำ และการปรับปรุงสถาปัตยกรรมใหม่ NVIDIA Ampere ทำให้การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series เร็วแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในตอนนี้แล้ว
ในเกมที่มีระบบ Ray Tracing ตัวการ์ดสามารถทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมสูงสุดถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกันกับการ์ดจอรุ่นก่อนหน้า และสามารถทำการแปลงผลภาพ (Rasterized) ในเกมที่ไม่ใช้ Ray Tracing และ DLSS การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series จะมอบประสิทธิภาพที่สุดยอดให้กับการปรับตั้งค่าระดับขั้นสูงสุด ความละเอียดที่สูง ค่าเฟรมเรตที่เยอะ และประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมที่สุดให้กับคุณ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตที่ต้องจริงจังสุด ๆ กับการแข่งขัน ต้องใช้ภาพลื่นไหลต่อเนื่องระดับ 360 FPS หรือจะเป็นเกมเมอร์ที่ต้องการเทคโนโลยีขั้นสุด ประสบการณ์ขั้นสุดที่จะเป็นไปได้ GeForce RTX 30 จะตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างเต็มที่แน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นเกมที่คุณอยากเล่นเกมไหน Cyberpunk 2077, Call of Duty: Black Ops Cold War, Watch Dogs: Legion การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series ก็พร้อมสำหรับทุก ๆ เกม นอกจากประสิทธิภาพของตัวการ์ดที่สูงที่สุดเหนือใครนี้แล้ว NVIDIA ยังได้ทำงานร่วมกับเหล่านักพัฒนามากหมายหลากหลายเจ้า เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมที่สุด บนเทคโนโลยี และฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของเรา
เกมชั้นนำใช้เทคโนโลยี NVIDIA ทั้ง RTX และ DLSS
NVIDIA ทำงานอย่างต่อเนื่องกับเหล่านักพัฒนาหลากหลายแห่ง เพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ปรับปรุงไดรเวอร์ Game Ready Driver และพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเกมอย่างต่อเนื่องอย่าง Ray Tracing, NVIDIA DLSS และ NVIDIA Reflex คุณสามารถดูวิดีโอสัมภาษณ์เหล่านักพัฒนาของเราได้ ซึ่งจะได้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ว่าเราทำงานร่มกับค่ายพัฒนาเกมอย่าง Epic Games, id Software, Riot Games และ Ubisoft อย่างไรบ้าง ในการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ NVIDIA มาใช้กับเกมที่ดีที่สุดในโลกจากค่ายพัฒนาเหล่านี้:
พร้อม ๆ ไปกับการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ของเรา GeForce RTX 30 Series เรายังได้ประกาศร่วมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาเกมต่าง ๆ มากมายหลากหลายเกม และเปิดตัวคลิปตัวอย่างใหม่ในแคมเปญ RTX ON ให้ได้เห็นภาพที่สวยสดงดงาม โดยสามารถดูรายละเอียด และตัวอย่างเกมต่าง ๆ ได้จากลิงก์ด้านล่างนี้:
Fortnite: เกมแนว Battle Royale ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ได้เพิ่มเทคโนโลยีการแสดงผลภาพด้วย Ray Tracing, NVIDIA DLSS และ NVIDIA Reflex เข้าไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และตัวอย่างเต็ม ๆ ได้ ที่นี่
Cyberpunk 2077: เกมที่ได้รับการตอบรับสูงที่สุดแห่งปี มีระบบรองรับ Ray Tracing หลากหลายแบบ และ NVIDIA DLSS นอกจากนั้นยังสามารถปรับการตั้งค่าแบบสูงสุดบนการ์ดจอ GeForce RTX 30 Series ได้อีกด้วย ลองชมได้จาก ตัวอย่างใหม่ความละเอียด 4K
Call of Duty: Black Ops Cold War: เกมภาคต่อล่าสุดจากชื่อแฟรนไซส์สุดยิ่งใหญ่ Call of Duty เพิ่มเอ็ฟเฟ็กต์ภาพจากระบบ Ray Tracing, NVIDIA DLSS, NVIDIA Reflex, NVIDIA Ansel และ NVIDIA Highlights ดูรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ ที่นี่
Call of Duty: Modern Warfare and Call of Duty: Warzone: เกมที่สามารถเล่นพร้อมกันได้หลากหลายผู้เล่นในรูปแบบ Battle Royale ที่ได้รับความนิยมสุด ๆ เพิ่มระบบ NVIDIA DLSS สามารถดูข้อมูลเต็ม ๆ ได้ ที่นี่
Apex Legends: เกมสไตล์ Battle Royale ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Electronics Arts เพิ่มระบบ NVIDIA Flex เพื่อลดค่าความหน่วงจากระบบตัวเครื่องลง เพิ่มความเร็วในการตอบสนองของเกมให้มากขึ้น
Watch Dogs: Legion: เกมที่ได้รับการตอบรับความสนใจดีเยี่ยมของค่าย Ubisoft ยืนยันในการเพิ่มระบบ Ray Tracing และ NVIDIA DLSS รายละเอียเต็ม ๆ และตัวอย่างได้ ที่นี่
Valorant: เกมสไตล์ยิงจากผู้พัฒนา League of Legends หรือค่าย Riot Games พร้อมเพิ่มเติมเทคโนโลยี NVIDIA Reflex
Minecraft with RTX Beta for Windows 10: อัปเดตระบบ Ray Tracing ในเกม Minecraft with RTX และเปิดตัวโลกใหม่จากระบบ Ray Tracing เพิ่มเติมให้ได้ดาวน์โหลดไปเล่นกัน ดูรายละเอียดเต็ม ๆ และตัวอย่างได้ ที่นี่
NVIDIA DLSS เตรียมลงในเกม Boundary และ Bright Memory Infinite
NVIDIA Reflex เตรียมเพิ่มลงในเกม Cuisine Royale, Destiny 2, Enlisted, Kovaak 2.0, และ MORDHAU
ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีเกมใหม่ ๆ และประกาศต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ GeForce.com
NVIDIA DLSS โหมด Ultra Performance สำหรับการเล่นเกมความละเอียด 8K
NVIDIA DLSS นับได้ว่าเป็นเทคโนโลยี AI Rendering ที่เข้ามาช่วยทำงานได้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยเพิ่มเฟรมเรตให้เกมลื่นขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถสร้างภาพที่คมชัด สวยงามไปพร้อม ๆ กันด้วย GeForce RTX 3090 มาพร้อมโหมด Ultra Performance ที่ช่วยขับประสิทธิภาพระดับสูงสุดสำหรับการเล่นเกมที่ความละเอียดภาพ 8K
รายละเอียดเต็ม ๆ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความเรื่อง การเล่นเกม 8K HDR ด้วย RTX 3090
เทคโนโลยี RTX IO: GPU Accelerated Storage
พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ได้เข้าสู่ยุคใหม่อีกครั้ง ด้วย Gen4 PCIE NVMe SSDs ที่รองรับความเร็วในการอ่านข้อมูลได้เร็วกว่าไดรฟ์ที่เปิดตัวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาสูงสุดถึว 20 เท่า และเพื่อให้สามารถนำเอาใช้ประโยชน์สำหรับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ นักพัฒนาเกม และผู้สร้างระบบเกม Engine ได้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ Solution ใหม่ ที่จะทำให้สามารถสร้างโลกในเกมได้ใหญ่ขึ้น มีรายละเอียดที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และลดระยะเวลาในโหลดฉากต่าง ๆ ให้น้อยลง
เพื่อเป็นช่วยเหล่านักพัฒนา NVIDIA ได้สร้าง RTX IO ขึ้น เป็นสถาปัตยกรรม APIs สำหรับเกมโดยเฉพาะ โดยใช้งาน GPU แบบข้อมูลอัดแนนครบถ้วน ไม่สูญเสียคุณภาพในการบีบอัดข้อมูล และเหมือนกันกับที่เราทำ RTX และ DirectX Raytracing เราได้จับมือร่วมกับ Microsoft เพื่อให้มั่นใจว่า RTX IO จะสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีกับ API DirectStorage บนระบบ Windows เมื่อใช้งานร่วมกัน ก็จะได้เกมที่ใช้งาน RTX IO ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บนฮาร์ดแวร์ของเรา พร้อมช่วยลดการทำงานของ CPU
อ่านรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่ บทความ NVIDIA RTX IO
ระบบ AI สำหรับงานเสียงและวิดีโอด้วยโปรแกรม NVIDIA Broadcast
โปรแกรม NVIDIA Broadcast ตัวใหม่จะช่วยเปลี่ยนห้องของคุณให้กลายเป็นสตูดิโอสำหรับสตรีมมิ่ง โดยใช้พลังการทำงานระบบ AI จาก Tensor Cores จากการ์ดจอ NVIDIA RTX GPUs ในการประมวลผลแล้วเพิ่มคุณภาพการสื่อสารของทั้งเสียง และภาพ ด้วยฟีเจอร์อย่างการตัดเสียงรบกวน, ภาพพื้นหลังเสมือนจริง และฟังชั่น Auto Frame ที่จะซูมใบหน้าของคุณ และเลื่อนตามการเคลื่อนไหวของใบหน้า
NVIDIA Broadcast นั้นเป็นปลั๊กอินที่ใช้งานได้ง่าย สามารถทำงานได้กับโปรแกรมสตรีมมิ่งไลฟ์สด, แชตด้วยเสียง หรือประชุมวิดีโอยอดฮิตทั้งหลาย ใช้งานกับการ์ด NVIDIA GeForce ทุกรุ่น รวมถึงตระกูล TITAN หรือ Quadro RTX ทำงานต่อเนื่องแบบ Real Time ไปพร้อมกันกับระหว่างที่เล่นเกมได้เลย สามารถอ่านข้อมูลเต็ม ๆ ได้ที่ บทความนี้
ทำงานได้เร็วกว่าด้วยโปรแกรม NVIDIA Studio Creative
ถ้าหากว่าคุณใช้งานการ์ดจอทั้งเพื่อการทำงาน และเล่นเกม GeForce RTX 30 Series GPUs ถือเป็นการ์ดจอที่เหมาะมาก ๆ เพราะสามารถทำงานได้ 2 ลักษณะได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยเร่งการทำงานให้ตัวเครื่องได้เป็นอย่างมาก พร้อมทำงานร่วมกับโปรแกรมชั้นนำต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถดูที่ บล็อก NVIDIA Studio ให้เห็นด้วยตาตัวเองไปเลย ว่าตัวการ์ดสามารถช่วยให้งานของคุณเร็วขึ้นได้ขนาดไหน
ฟีเจอร์ใหม่ของโปรแกรม GeForce Experience
โปรแกรม GeForce Experience นับว่าเป็นเครื่องมือสำคัญชิ้นนึงที่ถูกใช้งานโดยเกมเมอร์จำนวนกว่าล้านคนเพื่อปรับแต่งตั้งค่าเกมให้ลื่น และสวยงามที่สุด พร้อมทั้งการบันทึกภาพการเล่นเกม และอัปโหลดลงสื่อต่าง ๆ หรือจะสตรีมเกมให้แฟน ๆ ของเราดู ถ่ายภาพหน้าจอในเกม ก็ทำได้หมด สามารถดาวน์โหลด และติดตั้งได้ที่ Game Ready Drivers
เรายังมีฟีเจอร์ความสามารถใหม่ ๆ ของตัวโปรแกรม ที่เปิดตัวมาพร้อมกับการ์ดจอตัวใหม่ GeForce RTX 30 Series GPUs อีกด้วย:
คลิกเดียวปรับจูนการ์ดจอ GPU อัตโนมัติ: โปรแกรม GeForce Experience พร้อมรองรับความสามารถใหม่ GPU Tuning ปรับแต่งตัวการ์ดจอหรือ GPU ได้แบบอัตโนมัติ ให้ได้ค่าการโอเวอร์คล็อกที่ดีที่สุดสำหรับการ์ดของคุณ และใช้อัลกอริธึ่มระดับสูง ในการอ่านสแกน และรักษาโปรไฟล์การปรับแต่งสำหรับคุณ
ระบบแสดงข้อมูลบนหน้าจอระหว่างเล่นเกม: โปรแกรม GeForce Experience สามารถแสดงค่าต่าง ๆ บนหน้าจอ ระหว่างที่คุณกำลังเล่นเกมไปด้วยได้ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์ตัวเลขจำนวนเฟรมเรตที่วิ่งอยู่ และเราได้เพิ่มความสามารถเข้าไปอีก ให้แสดงประสิทธิภาพตัวเครื่อง ค่าอุณหภูมิ และการวัดค่าระยะเวลาการหน่วงของระบบ NVIDIA Reflex’s Latency Analyzer
การบันทึกภาพวิดีโอ 8K HDR Shadowplay: GeForce RTX 3090 รองการเล่นเกมความละเอียดสูงถึง 8K และโปรแกรม GeForce Experience ก็ได้รับการอัปเดตให้รองรับการบันทึกภาพวิดีโอที่ความละเอียด 8K 30 FPS HDR และสามารถบันทึกภาพแบบ HDR ได้กับทุกความละเอียดที่เลือกบันทึก ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องซื้อการ์ด Capture ราคาแพง ๆ อีกต่อไป และภาพที่ได้จากการบันทึกยังสามารถอัปโหลดลง YouTube ได้จากตัวโปรแกรม GeForce Experience เลยทันที หรือเอาไปตัดต่อในโปรแกรม Adobe Premiere Pro และ Davinci Resolve ก็ได้
เราจะนำเสนอข้อมูลรายละเอียดแบบครบถ้วนพร้อมทั้งขั้นตอนการใช้งานต่าง ๆ อีกครั้ง พร้อมการปล่อยไดรเวอร์ GeForce RTX 30 Series Game Ready Driver และอัปเดตตัวโปรแกรม GeForce Experience เวอร์ชั่นใหม่
ของแถมกับการ์ดจอ GeForce RTX 30 Series
สำหรับการฉลองการเปิดการ์ดจอ GeForce RTX 30 Series GPUs เราได้เตรียมพร้อมของแถมดี ๆ ไว้มากมายสำหรับคุณเมื่อตัวการ์ดพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ลูกค้าที่ได้ซื้อการ์ดจอผ่านพันธมิตรของเรา และเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบที่ใช้การ์ดจอตัวใหม่นี้ จะได้รับเกม Watch Dogs: Legion พร้อมสมาชิก GeForce NOW บริการเกมบน Cloud เป็นเวลา 1 ปี
รายละเอียดเต็ม ๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ บทความของแถม GeForce RTX 30 Series
GeForce RTX 30 Series: ขั้นสุดของความแรง
ด้วยพลังจากสถาปัตยกรรม NVIDIA Ampere เทคโนโลยี RTX เจเนอเรชั่นที่ 2 การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series พร้อมมอบสุดยอดประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเรนเดอร์ภาพที่ดีเยี่ยม ระบบการแสดงภาพแบบ Ray Tracing ที่สวยงามอลังการ ระบบ AI ที่ทรงพลัง ให้คุณได้ที่สุดของภาพในการเล่นเกม สวยอลังการในแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสจากที่ไหนมาก่อน
การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series GPUs คือสุดยอดพลังพร้อมขับเกมใหม่ ๆ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ให้แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ให้คุณได้สัมผัสของความเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเกมอย่าง Cyberpunk 2077, Fortnite with RTX, Call of Duty: Black Ops Cold War, Watch Dogs: Legion, และ Minecraft with RTX for Windows 10 และยังให้การตอบสนองที่รวดเร็ว สำหรับผู้ที่ใช้แข่งขัน เพื่อชัยชนะเพียงหนึ่งเดียวกับเกมอย่าง Valorant และ Fortnite
GeForce RTX 30 Series GPUs มาพร้อมระบบ AI ช่วยสำหรับงานสตรีมมิ่ง คุณสามารถสื่อสารกับผู้ชมได้คมชัดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าผู้ชมของคุณจะอยู่ที่ไหน ตัวการ์ดยังช่วยขับการทำงานโปรแกรมตัดต่ออย่าง Davinci Resolve, Blender และ Adobe Premiere Pro ให้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้คุณใช้เวลาอย่างคุ้มค่าไปกับการสร้างสรรค์ผลงาน และลดเวลาในการรอให้น้อยลง
สำหรับเกมเมอร์ และคนทำคอนเทนด์ GeForce RTX 30 Series คือที่สุดสำหรับคุณแล้ว
การ์ดจอ GeForce RTX 30 Series จะพร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า เว็บไซต์ GeForce RTX 30 Series ของเรา เพื่อดูรายชื่อพันธมิตรที่เข้าร่วมโปรแกรมของแถมฟรีเกม Watch Dogs: Legion และสมาชิก GeForce NOW ในวันเวลาเดียวกัน
