ก็ต้องบอกว่าเป็นแบรนด์โน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Business และ Lifestyle ที่กลับเข้ามาบุกตลาดบ้านเราอีกครั้ง สำหรับ Fujitsu และล่าสุดใครที่ชอบโน๊ตบุ๊กบางเบา พกพาง่าย ค่ายนี้ก็ได้เติมไลน์กลุ่มที่เป็น Ultra-thin ที่เบาเพียง 643 กรัม ซึ่งเบาที่สุดในโลกสำหรับบอดี้ 13.3″ นี้ กับฝาปิดที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์
เพื่อที่จะได้ไล่เบา (คล้ายกับรถยนต์) หรือลดน้ำหนักของบอดี้ให้เหลือแค่ 643 กรัม Fujitsu จึงได้ปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนบางอย่าง และใช้ Cover ที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ แทนโลหะในแบบเดิมที่หนักกว่า รวมถึงเซ็ตแผงเมนบอร์ดภายในใหม่หมด โดยในโมเดล UH-X/ E3 นี้ จะใช้ขุมพลังจากซีพียู Intel Core i7-1165G7 และมีแบตเตอรี่ 25 Wh ส่วนอีกรุ่นจะเป็นขุมพลัง AMD Ryzen 7 4700H และใช้แบตเตอรี่ 54 Wh ในรุ่น UH75 / E3 น้ำหนักไม่ถึง 1Kg.
Fujitsu Lifebook UH series โน๊ตบุ๊คบางเบา
ความจริงแล้วโมเดลโน๊ตบุ๊คบางเบาเหล่านี้ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกมากมาย ถ้าเคยติดตาม Fujitsu กันมา เพราะมีหลายครั้งที่ออกแบบโน้๊ตบุ๊คที่เบาชนิดที่ทุบสถิติไปก็หลายครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่มีการปรับมาใช้ขุมพลังใหม่ Intel Tiger Lake และ AMD Renoir แล้วปรับลดน้ำหนักของบอดี้ขนาด 13.3″ และชิ้นส่วนอีกหลายอย่าง เพื่อให้น้ำหนักลงไปตามเป้า ไม้เด็ดคือ การเปลี่ยน Cover ที่ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ลดชิ้นส่วนในการประกอบจาก 80 ชิ้น เหลือแค่ 40 ชิ้น และที่ชาร์จซึ่งเป็นขั้วต่อ DC ถูกแทนที่ด้วย USB-C ส่วนของขอบจอก็ลดลงด้วย ซึ่งทำให้ Lifebook UH-X / E3 รุ่นนี้หนักเพียง 634 กรัมเท่านั้น
โดยสเปคของ UH-X / E3 นั้น ใช้ซีพียู Intel Core i7-1165G7 แรม DDR4 8GB และ Storage SSD NVMe 1TB จอแสดงผล IGZO FHD 13.3″ แบตเตอรี่ 25 Wh ใช้ได้นานประมาณ 11 ชั่วโมง พร้อมพอร์ตต่อพ่วงที่มีมาไม่น้อยเลย 2x USB-C 3.2 Gen 2, 2x USB-A 3.2 Gen 1, GbE, HDMI และ SD card reader แต่ก็ย้ำว่าเพื่อการปรับลดให้ได้น้ำหนักน้อยที่สุด จึงไม่รองรับการอัพเกรดในรุ่นนี้
ยังมีสายโหดมาให้เลือกในโมเดล UH90 / E3 ที่มีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย 834 กรัม โดยมี SSD 512GB แต่แบตเตอรี่ใหญ่กว่า 54 Wh ซึ่งส่งผลให้ใช้งานได้นานขึ้นอยู่ที่ประมาณ 22.5 ชั่วโมง มีตัวเลือกสีให้เยอะ Picto Black, Garnet Red และ Silver White
นอกจากนี้ทาง Fujitsu ยังมีแผนในการเพิ่มเติมโน๊ตบุ๊คบางเบาที่เป็นโมเดล AMD เข้ามาด้วย น้ำหนักน้อยกว่า 1Kg. ในรุ่น UH75 / E3 ใช้ขุมพลัง Ryzen 7 4700U APU พร้อมแรม 8GB DDR4 และ Storage 250GB ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ส่วนเรื่องราคาและการวางจำหน่าย UH-X / E3 คาดว่าจะเปิดขายประมาณ 30 ตุลาคมนี้ เคาะราคาราว 2,100USD เยน หรือประมาณ 69,xxx บาท ส่วนรุ่น UH90 / E3 จะอยู่ที่ราว 2,000USD ประมาณ 66,xxx บาท และในรุ่น UH75 / E3 ที่จะจำหน่ายช่วง 10 ธันวาคมปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 1,800USD (ราว 59,xxx บาท) แต่จะเริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่น และปรับราคาก่อนวางขายทั่วโลกอีกครั้ง
ที่มา: Fujitsu Lifebook