VDO Review
NBS Verdict
ConceptD 7 Pro เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ ที่มาพร้อมสเปก Core i7-10875H + Quadro RTX 5000 Max-Q ดีไซน์ใหม่ขอบจอบางเฉียบ วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ทั้งฝาหลัง ด้านนอก ด้านใน ใต้เครื่อง การออกแบบก็สวยล้ำ เน้นความพรีเมียมในดีไซน์ที่เรียบง่าย มาพร้อมหน้าจอ 15.6″ ความละเอียด 4K Ultra HD พาเนล IPS เกรดสูง ระดับ 100% Adobe RGB หลักๆ คือเน้นความเป็นมืออาชีพ เรียกได้ว่าจัดเต็มจริงๆ สำหรับ ConceptD ที่เป็นโน๊ตบุ๊คซีรีส์ใหม่จากทาง Acer หลักจากที่ประสบความสำเร็จจาก Aspire / Swift / Nitro / Predator มาแล้ว
สำหรับแนวคิดของ ConceptD 7 Pro จะถูกว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นการใช้งานประมวลผลสูง ๆ เป็นเวลานาน สเปคภายในใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H โดยทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA Quadro RTX รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมใช้งานโปรแกรมต่างๆ ประเภท VR, AI และการประมวลผล Big Data รวมไปถึงงานสร้างสรรค์ต่างๆ อย่างตระกูลของ Adobe
สนับสนุน Ray-Tracing รองรับงานประมวลผลหนักๆ ไม่ว่าจะเป็น AI/deep learning, การจำลองทางวิศวกรรม และสตูดิโออนิเมชั่น ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Nvidia Studio ซึ่งจะมาพร้อมกับ SDKs และ APIs ที่ถูกเพิ่มเข้ามาช่วยให้ผู้ที่ทำงานทางด้านกราฟิกซึ่งใช้ฮาร์ดแวร์ของทาง NVIDIA สามารถใช้งานในการสร้างสรรค์งานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังประเภท Content Creator เน้นงานสร้างสรรค์ ตัดต่อวีดีโอ ทำกราฟิก ออกแบบ ประมวลผล 3 มิติ หรือต้องการหน้าจอเทพๆ สีตรง ขนาด เน้นให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดล่ะก็ ConceptD 7 Pro น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ที่คาดว่าจะมาพร้อมราคาประมาณ 5x,xxx บาทขึ้น ด้วยไม้เด็ดก็คือการรับประกัน On-Site Service 3 ปี และส่งซ่อมศูนย์ด่วนแบบรับภายใน 3 ชั่วโมงจัดเต็มเหมือนเดิม เรียกได้ว่าครบครันเสร็จสรรพในเครื่องเดียวโคตรคุ้ม
ข้อดี
- การออกแบบเล็กกระชับ งานประกอบแน่นหนา วัสดุพรีเมียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม ทันสมัย ตอบโจทย์ของคนทำงานระดับมืออาชีพสายสร้างสรรค์
- สเปคแรงจัดเต็ม ด้วยชิป Core i7-10875H และการ์ดจอ Quadro RTX 5000 Max-Q
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS คุณภาพดีเยี่ยม ที่ 4K Ultra HD สีสันแม่นยำ คาดเคลื่อนต่ำ
- สเปกอื่นๆ อย่างแรมขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.2 Type-A และ Thunderbolt 3
- LAN รองรับ Killer Ethernet E2600 ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ลื่นไหล
- การเชื่อมต่อมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX1650i ดีและใหม่ที่สุด
- คีย์บอร์ดใช้งานสะดวก มีไฟ Backlit สีส้มดูโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร
- ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม พร้อมพัดลมทำงานเงียบ ดังไม่เกิน 40dBA
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดประมาณ 10 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ ConceptD Palette
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- ไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัว
- ไม่มีระบบการ Log-in อาทิ สแกนใบหน้า หรือสแกนนิ้ว
Specification
ConceptD 7 Pro สเปกแรงล้ำใหม่ล่าสุดด้วยการเลือกใช้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i Gen 10H ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง อย่าง Core i7-10875H (2.30 GHz, 16 MB L3 Cache, up to 5.10 GHz) ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด รองรับหลากหลายการใช้งานแบบเหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA Quadro RTX 5000 Max-Q (16GB GDDR6) เรียกได้ว่าตอบสนองการทำงานหรือเล่นเกมได้เต็มที่เต็มอารมณ์กว่าสเปกเดิมๆ ที่เป็น Core i Gen 9H และ GTX 10 Series แน่นอน
โดยการ์ดจอ NVIDIA Quadro RTX 5000 Max-Q (16GB GDDR6) กราฟิกการ์ดเน้นการประมวลผลซึ่งปลดปล่อยความร้อนน้อย ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal เหนือชั้นกว่า Quadro ปกติ ในเรื่อง CUDA Core และ Tensor Core รวมถึงรองรับกับเทคโนโลยี Ray-Tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพในการเล่นเกมก็อาจจะสูงที่เป็น GeForce RTX ตรงๆ ไม่ได้
ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, Thunderbolt 3 หนึ่งช่อง, HDMI , ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX น้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.1 กิโลกรัม มี Windows 10 แท้ ได้ประกัน 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านด้วย
- Core i7-10875H / Quadro RTX 5000 Max-Q / RAM 32GB / SSD 2TB / จอ 15.6″ IPS 4K
Hardware / Design
ดีไซน์ออกแบบ หลักๆ ConceptD 7 Pro ยังมีทรงคล้ายๆ กับ ConceptD 7 รุ่นก่อน เรียกได้ว่าถอดแบบกันมาเลยดีกว่า ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอทั้งตัวเครื่องทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรา รวมไปถึงการพกพาก็สะดวก สีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีขาวสว่างทั้งตัวเครื่อง ทำให้ดูเรียบง่ายเรียบเนียนสวยงาม ในความบางประมาณ 18 มิลลิเมตร และเบาเพียง 2.1 กิโลกรัม
สีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีขาวสว่างทั้งตัวเครื่อง ทำให้ดูเรียบง่ายเรียบเนียนสวยงาม พร้อมความพิเศษจากการที่ การใช้เทคโนโลยี Micro-Arc Oxidation เป็นการใช้ไฟฟ้าแรงสูงเผาวัสดุอลูมิเนียมก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีถึงระดับจุลภาค กำเนิดเป็น Magnesium-Lithium พื้นผิวเซรามิคเคลือบทับวัสดุอีกที ทำให้ตัวเครื่องทนทานต่อรอยขีดข่วนเรียบหรูคงทน พร้อมความหรูหราและสวยงาม
โดยฝาหลังของ ConceptD 7 Pro เป็นอลูมิเนียมดูสวยงามดุดันซึ่งไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลย นอกจากขอบฝาด้านบนจะเป็นคำว่า ConceptD ส่วนด้านในเหนือคีย์บอร์ดก็เป็นอีกจุกที่มีความว่า ConceptD เรียกได้ว่าไม่มีคำว่า Acer อยู่เป็นตัวเครื่องเลย ทำให้แตกต่างจากโน๊ตบุ๊คของทาง Acer ที่เป็นรุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว พร้อมผิวสัมผัสที่พรีเมียมแตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ชัดเจน
ConceptD 7 Pro ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยพัดลมแบบพิเศษ AeroBlade 3D Gen 4 ใช้พัดลม 2 ตัว ตัวละ 59 ใบพัดขนาด 0.1 มิลลิเมตร ออกแบบพิเศษได้รับแรงบันดาลใจจากกลไกการบินที่เงียบสนิทและทรงพลังของนกฮูก ปลายใบพัดลมของเราจึงมีรอยหยักเพื่อให้อากาศผ่านได้มากขึ้น ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง
Keyboard / Touchpad
ConceptD 7 Pro มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ โดยเลือกตัดคีย์ตัวเลข (Numpad) ออกไป โดยตัวปุ่มจะเป็นสีขาวเข้ากับตัวเครื่อง มีฟอนต์เป็นสีเทารวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีส้มที่ดูแล้วโดดเด่นและแตต่าง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควร ใช้งานในที่แสงน้อยหรือกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีเงินสวยงาม ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
หน้าจอของ ConceptD 7 Pro มีขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 81% ด้วยขอบจอบางเฉียบบนความละเอียด 4K UHD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ให้ทั้งความเรียบเนียนตาหรือพื้นที่ในการใช้งานมากกว่า Full HD หลายเท่าตัว กับพาเนล IPS แบบ 60Hz เกรดสูง มาตรฐาน PANTONE® Validated ให้ค่าความสีคลาดเคลื่อนเพียง Delta E < 2 พร้อมขอบเขตสีระดับใกล้เคียง 100% Adobe RGB ให้สีสันที่สวยงามเที่ยงตรงแบบสุดๆ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป ที่สำคัญมีความสว่างระดับ 300-nit ทำให้ใช้งานนอกสถานที่หรือตามสตูดิโอได้สบายๆ อีกทั้งยังปรับโปรไฟล์สีและมอนิเตอร์โหลดของระบบได้ผ่านโปรแกรม ConceptD Palette ได้ด้วย
ซึ่งตรงนี้ทำให้รองรับการทำงานระดับมืออาชีพได้สมบูรณ์แบบทีเดียว เหมาะกับงานที่จริงจังเรื่องสีสันและความละเอียดของหน้าจอ รวมไปถึงเมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานแบบจริงจัง ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่าอื่นๆ พร้อมกางได้ถึง 145 องศา ซึ่งมียางรองพิเศษที่ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้น ทำให้ระบายความร้อนดียิ่งกว่า พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนไว้ขอบตัวเเครื่องด้านบน ให้ความแตกต่างจากมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% และ AdobeRGB ที่ 89% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจมากๆ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวบนของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 12% เท่านั้น
ส่วนทางด้านลำโพงของ ConceptD 7 Pro นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Waves MaxxAudio ที่ผสานกับ Acer TrueHarmony เพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เสียงสนทนา และระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
Connector / Thin And Weight
ConceptD 7 Pro จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A, 1 x Thunderbolt 3, 1 x mini DisplayPort, HDMI, RJ45 และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังเลือกติดตั้งช่อง SD(XC/HC) Card reader ไว้ที่ขอบของด้านหน้าตัวเครื่องด้วย ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดดีที่สุด พร้อมมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน
ด้านการพกพาตัวเครื่อง ConceptD 7 Pro ทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่มีดีไซน์ขอบจอบาง ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ แบบก่อนๆ รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.1 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.5 กิโลกรัม นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ หรือร้านกาแฟต่างๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer ConceptD 7 Pro นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จะมีน็อตแค่ตัวเดียวที่มีสติกเกอร์แปะอยู่ เราสามารถเจาะทะลุไปได้เลย จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับ Predator Triton 500 ทีเดียว คือพวก RAM / SSD จะอยู่อีกด้าน
ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 16GB มาแล้ว 2 แถว รองรับสูงสุดที่ 32GB ซึ่งก็จัดเต็มมาแล้ว ส่วน SSD M.2 NVMe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน ใส่มาแล้วที่ 1TB x 2 พร้อมมีน็อตมาให้ด้วย เรียกได้ว่าการแกะตัวเครื่องนั้นไม่ยาก แต่ก็ไม่เหมาะแก่การอัพเกรดใดๆ ถ้าตัวด้วยตนเอง แต่ถ้าแกะมาทำสะอาดพอได้อยู่
Performance / Software
สำหรับ ConceptD 7 Pro มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวแรงกว่ารุ่นยอดนิยมของ Notebook อย่าง Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i7-10875H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่ารุ่นยอดนิยมอย่าง Core i7-10750H ที่ใช้กันในหลายแบรนด์ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.30 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 2933 MHz แบบ 8GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10
แน่นอนว่ามาพร้อมกับกราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA Quadro RTX 5000 Max-Q โดยมีแรมการ์จอภายใน 16GB GDDR6 ที่เป็นรุ่นใหม่ของ Quadro RTX รองรับ Ray-Tracing เหมือนอย่าง GeFoece RTX เน้นความแรงในการประมวลผลภาพ 3 มิติ หรืองานดีไซน์อื่นๆ รวมไปถึงใช้งานทางด้านการตัดต่อสื่อวีดีโอและภาพถ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งประสิทธิภาพก็เพียงพอในการเล่นเกมประมาณนึง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เป็นที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยกเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น (แต่ออนชิปคือตัวเดิมนะ) เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก สมกับเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H จริงๆ
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Notebook ไปแล้ว โดยใช้เป็นระดับบน ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB x 2 แบบ M.2 NVMe PCIe ต่อ Raid 0 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3220 MB/s และเขียนที่ 3009 MB/s ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ มากทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4697 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมชิปประมวลผล Core i7-10875H มีการ์ดจอแยกอย่าง Quadro RTX 5000 Max-Q แต่ถ้าเทียบจริงๆ จะเห็นถึงคะแนนที่ต่ำกว่า Gaming Notebook ในช่วงราคาที่ใกล้เคียงกัน
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมก็ถือว่าพอเล่นได้ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H ที่สามารถรีดพลัง Quadro RTX 5000 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 Bus 2933 MHz รวมไปถึง SSD NVMe PCIe ก็ส่งผลช่วยด้วย อย่างไรก็ตามก็ไม่แนะนำให้นำเล่นเกมเป็นหลัก เพราะ ConceptD 7 Pro เน้นทำงานมากกว่า
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 3 / Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว โดย Battlefield V เปิด DX12 แต่เลือกปิด DLSS / Ray Tracing ที่แม้จะทำให้ภาพสวยแต่ก็กินทรัพยากรเครื่องพอตัวอยู่ เฟรมเรทเฉลี่ยของทั้ง 4 เกม อยู่ที่ระดับลื่นไหลประมาณนึง
เกมออนไลน์กินสเปกเบาๆ หน่อยอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ
ขาดไม่ได้เลยสำหรับ ConceptD 7 Pro ก็คือซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
ที่สำคัญ ConceptD 7 Pro มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ที่โดดเด่นอย่าง ConceptD Palette ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า การดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ รวมไปถึงการปรับโปรไฟล์สีเป็น AdobeRGB การปรับระบบเสียง หรือการปรับแต่งแบ่งหน้าจอออกมาเพื่อให้เปิดได้หลายๆ โปรแกรมพร้อมกันอย่างลงตัว เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน ConceptD Palette เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ConceptD 7 Pro ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุประมาณ 4000mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวเกือบๆ 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานปกติกับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแบบนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ConceptD 7 Pro เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ และการประมวลผล 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด เห็นได้ชัดเลยว่าเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 95 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 61 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม
Conclusion / Award
สรุปรีวิวสำหรับการมาของ ConceptD 7 Pro ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพรุ่นท็อปของทาง Acer ที่แอดมินโป้งได้สัมผัสกันเลยทีเดียว หลังจากกที่มีการเปิดตัวไปแล้วในซีรีส์ ConceptD รุ่นต่างๆ ก่อนหน้านี้ในปีก่อน ทั้งในส่วนของโน๊ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รวมไปถึงหน้าจอมมอนิเตอร์ ซึ่งทาง Acer ตั้งใจนำเสนอมาตอบโจทย์ สำหรับคนที่ต้องคอมพิวเตอร์เน้นประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง ด้วยสเปกที่แตกต่างจาก Gaming Notebook อย่าง Acer ConceptD 7 Pro ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ปลายปี 2020
รวมไปถึงได้ดีไซน์ใหม่ซึ่งต่อยอดมาจาก Predator Series ให้ดูแล้วเรียบง่ายหรูหรา พร้อมได้หน้าจอเทพมากๆ sRGB ใกล้เคียง 100% จริงๆ กับความละเอียดหน้าจอที่สูง มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่า Acer รุ่นก่อนๆ การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ ถอดอัพเกรดก็ง่ายขึ้น เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย (รองรับการใส่ SSD M.2 NVMe แบบ 2 สล็อต) อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจาก ConceptD 7 รุ่นสเปกก่อน ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบใหม่ทั้งหมดเสียทีเดียว แต่ประสบการณ์ใช้งานที่แตกต่างอย่างชัดเจน
ส่วนสเปกที่เราได้รับมารีวิวเป็นเครื่องเดโมให้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H ตัวแรงลื่นกว่า สำหรับการ์ดจอก็เป็นตัวใหม่ NVIDIA Quadro RTX 5000 Max-Q จัดเต็มทั้งแรมและ SSD ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง และ Thunderbolt 3 / mini DisplayPort พร้อมกับ Wi-Fi 6 AX1650i รุ่นใหม่ ทำงานร่วมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2600 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตลื่นไหลไร้สะดุดที่สุด อีกทั้งมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ไม่มีตรงนี้
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีตามาตรฐานอยู่ คือ ไม่ได้ร้อนเกินไปนัก จนกระทบการทำงานของเครื่อง ด้วยเทคโนโลยี Aeroblade 3D Fan รุ่นที่ 4 ที่เป็นใบพัดลมแบบพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะ Acer เท่านั้น ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อนด้านหลังแถว 2 ช่อง พร้อมด้านข้างทางขวาซ้ายอย่างละ 1 ช่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ แม้จะทำงานหนักหน่วงแค่ไหนก็เอาอยู่ ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญคือ เสียงของพัดลมจะมีความดังไม่เกิน 40dBA ทำให้เมื่อเรานำไปใช้งานนอกสถานที่แล้วจะไม่มีเสียงรบกวนที่ดังเกินไป
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง เน้นงานออกแบบ ประมวลผล 3 มิติ หรือต้องการหน้าจอเทพๆ สีตรง ขนาด เน้นให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดล่ะก็ ConceptD 7 Pro น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว โดยรวมแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าพอสมควร ที่คาดว่าจะมาพร้อมราคาประมาณ 5x,xxx บาทขึ้นไป ซึ่งข้อสังเกตก็มีเล็กน้อยตรงที่ไม่มีช่อง SD Card Reader ให้ใช้งาน และไม่มีระบบการ Log-in พวกสแกนใบหน้าหรือสแกนนิ้วมือเท่านั้นเอง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ConceptD 7 Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer กับซีรีส์ ConceptD ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนใน ConceptD 7 Pro ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง แม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แม้จะมีน้ำหนักที่ 2.1 กิโลกรัม แต่ก็รับได้อยู่ เพราะเข้าใจว่าวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโลหะอลูเมียมเกรดสูงพร้อมการ Micro-Arc Oxidation ได้สัมผัสดีเยี่ยม
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 10 ตระกูล H ตัวล่าสุด และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA Quadro RTX 5000 (16GB GDDR6) ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 32GB แบบ DDR4 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูง ที่ 2TB ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ ประเภท Content Creator รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ อีกทั้งได้หน้าจอดีที่สุดเป็น 4K UHD เกรดสูง