ASUS ตั้งใจวางพีซี S425MC รุ่นนี้เอาไว้สำหรับกลุ่มทำงานและไลฟ์สไตล์ใช้งานได้อย่างครบครัน ทั้งบันเทิงและการทำงาน ในราคาหมื่นกว่าบาท ก็ใช้ร่วมกันได้ทั้งครอบครัว ด้วยการออกแบบโครงสร้างที่ดูทันสมัย ตัวเครื่องไม่ใหญ่เกินไป แต่ก็ใส่ฟังก์ชั่นการใช้งานมาครบ ขุมพลัง AMD Ryzen 5 3400G กับกราฟิก Vega ในตัว พร้อมแรม DDR4 และมี HDD 1TB มาด้วย พร้อมการเชื่อมต่อ WiFi รองรับการอัพเกรดได้ในอนาคต ซึ่งคอม ASUS รุ่นนี้อยู่ในงบประมาณหมื่นกว่าบาทเท่านั้น
พีซี ASUS รุ่นนี้ ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งเรื่องของซอฟต์แวร์สำนักงาน จัดการเอกสาร ความบันเทิง เช่นดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงการเล่นเกมเบาๆ แต่งภาพพื้นฐาน
รวมถึงการเก็บบันทึกไฟล์งาน นอกจากประสิทธิภาพที่ได้จากซีพียู AMD 4 core/ 8 thread ความเร็วสูง ที่มีกราฟิก Vega 11 มาในตัวแล้ว ยังมี WiFi ให้สามารถใช้การเชื่อมต่อไร้สายได้สะดวก นอกเหนือจาก Gigabit LAN ที่มีมาให้ แต่ที่สำคัญ ASUS ยังได้เตรียม Windows 10 รวมกับ MS Office 2019 รวมถึงเมาส์และคีย์บอร์ดมาแบบพร้อมใช้ด้วยเลย
Specification
ASUS S425MC เป็นพีซีสำเร็จรูปที่ออกแบบมาให้กับกลุ่มผู้ใช้ในครอบครัวหรือโฮมออฟฟิศ ที่เน้นความคล่องตัว ประหยัดและใช้พื้นที่ไม่มาก โดยรองรับการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ทำงานทั่วไปและความบันเทิงให้กับผู้ใช้ภายในบ้านได้ รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางข้อมูลให้กับสมาชิกในครอบครัวได้สะดวกรวดเร็ว ด้วยการใช้ซีพียูประสิทธิภาพสูง AMD Ryzen 5 3400G ที่มีกราฟิก Radeon Vega มาในตัว ทำงานแบบ 4 core/ 8 thread ความเร็วสูงสุด 4.2GHz ติดตั้งมาพร้อมกับแรม DDR4 4GB และฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB ให้เพียงพอต่อการใช้งาน ติดตั้งโปรแกรม และเก็บข้อมูล
นอกจากนี้แล้ว เพื่อให้การใช้งานพีซีจาก ASUS รุ่นนี้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากสเปคสำหรับการทำงานที่พอเหมาะ ยังรวมถึงการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย ด้วยการเพิ่มโมดูล WiFi ac นอกเหนือจาก Gigabit LAN ก็ยังมีพอร์ตมาให้ใช้งานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Gen1 และ Gen2 รวมถึง USB Type-C และพอร์ตแสดงผลที่มีให้เลือกทั้ง VGA และ DVI-D นอกจากนี้ยังได้ใส่ออพติคอลไดรฟ์ DVD เอาใจผู้ใช้ที่มีข้อมูลงานหรือการใช้ดีวีดีในด้านความบันเทิง เช่น การดูหนัง ฟังเพลงอีกด้วย
ข้อมูลสเปคเพิ่มเติม
ASUS S425MC S425MC-A3400G046T AMD Ryzen 5-3400G/B450/4GB/1TB/16X S-M DL/UMA/WIFI5 (802.11AC)+BT/350 W/Microsoft Office Home & Student 2019/ USB KB+MOUSE, Windows 10 Home ราคา 13,990 บาท
Hardware / Design
ในการออกแบบ แม้ว่าคอมรุ่นนี้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มของเกมมิ่ง แต่เน้นไปที่ไลฟ์สไตล์กับการใช้งานในบ้านเป็นหลัก ความสำคัญจึงอยู่ที่องค์ประกอบในการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งทำออกมาให้อำนวยความสะดวกกับผู้ใช้เป็นสิ่งแรกๆ เริ่มตั้งแต่ขนาดที่กระทัดรัด ในทรงของ mid-Tower จะเล็กกว่าเคสที่เราได้พบเห็นในตลาดทั่วไปเล็กน้อย ความสูงอยู่ที่ 35.5cm ที่เป็นความกว้าง น้ำหนักรวมอยู่ที่ประมาณ 7kg. จึงเป็นเรื่องที่สบายในการจัดวางลงบนโต๊ะทำงานที่ไม่ใหญ่มาก และยังมีพื้นที่ว่างๆ บนโต๊ะ สำหรับวางเมาส์ คีย์บอร์ด หรือพรินเตอร์สักเครื่องได้สบายๆ
บอดี้ทั้งตัวอยู่ในโทนสีดำตลอดทั้งเครื่อง แต่มีลูกเล่นเป็นเส้นสาย ลวดลายคล้ายปัดเสี้ยนด้านหน้า ถัดลงมาเป็นแถบพลาสติกที่ทำเป็นเหมือนตะแกรงเป็นชั้นๆ แต่ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญใด ทั้งในเรื่องของการระบายความร้อนหรือใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์ฺอื่นๆ ส่วนที่โดดเด่นน่าจะอยู่ตรงไดรฟ์ดีวีดี ที่อยู่ด้านบนสุด พร้อมปุ่มเปิด-ปิดถาด สำหรับคนที่ยังมีมีเดียที่เป็นแผ่นดีวีดี ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล โปรแกรมหรือจะเป็นวีดีโอ รวมถึงแผ่นเพลง ใครที่มีอยู่ ก็นำมาใช้กับเครื่องนี้ได้เลยครับ
ขยับมาดูด้านล่างไดรฟ์อีกนิด ตรงนี้จะมี Front panel ซึ่งมีพอร์ต USB ในการต่อพ่วงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Ext.HDD, Flashdrive หรือจะเป็นพรินเตอร์และอื่นๆ ประกอบไปด้วยพอร์ต USB 3.1, USB Type-C รวมถึงช่องต่อแจ๊คหูฟังกับไมโครโฟน จัดมาให้แบบครบครัน
ส่วนด้านบนตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเพาเวอร์ และปุ่มรีเซ็ต พร้อมไฟสถาะเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ใกล้เคียงกัน แม้จะดูมินิมอล ไม่ได้หวือหวาตามสไตล์เคสทำงาน แต่ก็ดูเรียบง่าย เหมาะกับการจัดวางในบ้านหรือสำนักงานได้ดีทีเดียว
ด้านหลังเครื่อง ก็จัดมาตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตต่อพ่วง พัดลมและช่องสล็อตสำหรับติดตั้ง Expansion card แบบต่างๆ ซึ่งหากดูจากสล็อตปิดด้านหลัง ก็น่าจะพออุ่นใจได้ว่า มีช่องสำหรับติดตั้งการ์ดจอได้แน่นอน ส่วนพอร์ตที่มีให้นั้น ก็มีทั้ง USB 3.1 Gen2, USB 2.0, RJ-45 และพอร์ตแสดงผลมาด้วย แต่มีแค่ DVI-D และ D-sub ส่วนถ้าใครต้องการใช้ HDMI อาจจะต้องหาซื้อตัวแปลง DVI to HDMI มาใช้แทน
แต่ทีเด็ดของพีซีจาก ASUS เครื่องนี้ อยู่ที่การติดตั้งโมดูล WiFi มาพร้อมกับเสา Antenna ที่ดูดีมีสไตล์มาให้ โดยเป็น M.2 WiFi 802.11ac และ Bluetooth ในตัว ตรงนี้เป็นข้อดี เพราะผู้ใช้ไม่ต้องไปหาซื้อมาเพิ่มให้วุ่นวาย ที่สำคัญไม่ต้องเสียพอร์ต USB ที่ใช้ในการติดตั้งแบบภายนอกอีกด้วย ส่วนเสาสัญญาณ ก็เชื่อมต่อเข้ากับขั้วต่อบนโมดูลได้เลย ง่ายมากๆ
Keyboard / Touchpad
ASUS ไม่ได้มีแต่ตัวเครื่องพีซีมาให้เท่านั้น แต่ยังให้เมาส์และคีย์บอร์ดมาให้พร้อมสำหรับการใช้งานด้วยเลย โดยเป็นคีย์บอร์ดแบบ USB สามารถต่อเข้ากับพอร์ตด้านหลังหรือหน้าเครื่องแล้วใช้ได้ทันที โดยส่วนตัวมองว่าเหมาะกับการใช้งานทั่วไปดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม ส่วนถ้าใครต้องการประหยัดพอร์ด USB แนะนำให้หาเมาส์คีย์บอร์ดไร้สาย ที่ใช้ตัวรับสัญญาณเดียวกันได้เลย หรือถ้าจะเล่นเกมหรืออยากได้คีย์บอร์ดเกมมิ่งหรือมีไฟ RGB ก็เลือกใช้กันได้ตามสะดวก
โดยคีย์บอร์ดที่มีมาให้นี้เป็นรุ่น K2328U เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ซึ่งถ้าเป็นการพิมพ์งาน ทำเอกสารหรือใช้ด้านความบันเทิงแบบง่ายๆ ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดี สายยาวประมาณเมตรเศษๆ ก็พอต่อการลากสายจากหลังเครื่องมาได้ ส่วนเมาส์ก็เป็นออพติคอลพื้นฐาน ให้การตอบสนองได้ดีในระดับหนึ่ง ในการใช้งานก็เรียกว่าลื่นไหลได้ดี การเคลื่อนไหว และการตอบรับสัญญาณก็อยู่ในเกณฑ์พื้นฐาน ซึ่งทั้งเมาส์และคีย์บอร์ด รองรับแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่ยาก
ข้อดีของเมาส์และคีย์บอร์ดที่ ASUS จัดมาให้นี้ก็คือ ไม่ต้องใช่ถ่าน เพราะถ้าเทียบกับที่เป็นไร้สาย ที่ต้องใช้ถ่านมาเป็นพลังงาน อาจไม่ได้สะดวกเท่าแบบไร้สาย แต่ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้พอสมควร แต่ก็นานาจิตตัง ใครชอบแบบใด สะดวกแบบไหน ก็จัดไปตามความเหมาะสมกันได้เลย
Connector / Thin And Weight
ASUS S425MC มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ 2 ส่วนหลักด้วยกันคือ Front panel ที่อยู่ด้านหน้าเครื่อง ประกอบด้วย USB 3.1 และ USB 2.0 ซึ่งโดยปกติ ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ คีย์บอร์ด รวมถึงพรินเตอร์ หรือจะเป็นโมดูล USB ที่มีอยู่มากมาย รวมไปถึงแจ๊ค 3.5mm สำหรับหูฟังและคีย์บอร์ด ที่สามารถต่อจากด้านหน้านี้ได้เลย ซึ่งให้ความสะดวกมากกว่าการต่อสายจากด้านหลัง
ส่วนที่เป็น Back panel มีพอร์ตจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาให้เกือบครบ เช่น PS/2 สำหรับอุปกรณ์ที่เป็นเมาส์ คีย์บอร์ดรุ่นเก่า ซึ่งบางบ้านก็ยังใช้กันอยู่ เพราะทำงานคู่กับซอฟต์แวร์เฉพาะบางอย่างได้ดี พอร์ตแสดงผลมีให้แค่ DVI-D และ D-sub หรือ VGA รวมไปถึงพอร์ต USB 3.1, USB 2.0 และ RJ-45 สำหรับการต่อพ่วง LAN ส่วนชุดของระบบเสียงที่มีมาให้ ทำงานร่วมกับ ASUS SonicMaster และให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ ในการดูหนัง ฟังเพลงและใช้งานอื่นๆ ก็เรียกว่ามีมาให้ใช้กันพอสมควร ตามสไตล์ของพีซีแนวนี้
Performance / Software
ในการรายงานของ CPU-z โปรแกรมตรวจเช็คซีพียู AMD Ryzen 5 3400G ที่มาพร้อมการทำงานแบบ 4 core/ 8 thread เพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันได้เพียงพอ โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ทั่วไป หรือความบันเทิง โดยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ xxxGHz แต่ที่น่าสนใจก็คือ มาพร้อมกับ Radeon Vega 11 กราฟิกในตัว ซึ่งหากคุณใช้งานภายในบ้าน เน้นที่ประสิทธิภาพของซีพียู และใช้กราฟิกเพื่อการแสดงผลเป็นหลัก ซีพียูรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้พอสมควร มาพร้อมเมนบอร์ด ASUS B450 ที่ช่วยส่งเสริมให้การทำงานของระบบคล่องตัวมากขึ้น เพราะจัดเป็นชิปเซ็ตระดับกลาง ที่มีฟีเจอร์ครบครันในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีแรม DDR4 มาให้ 4GB ในการใช้งานเริ่มต้น ถ้าหากต้องการประสิทธิภาพและความคล่องตัวที่มากขึ้น ยังอัพเกรดในสล็อตที่เหลือภายในเครื่องได้เช่นกัน
ถัดมาเป็นการทดสอบด้วย CINEBENCH R15 และ R20 แม้จุดประสงค์หลักของพีซีเครื่องนี้ จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่องานกราฟิกสุดโหดก็ตาม แต่การทดสอบก็พอจะบอกความสามารถพื้นฐานในการทำงานของซีพียูได้พอสมควร อย่างน้อยการทำงานแบบ 4 core/ 8 thread บน Ryzen 5 รุ่นนี้ ก็พอจะการันตีความเร็วได้ดีระดับหนึ่ง ซึ่งผลทดสอบที่ได้ ตามตัวเลขในตารางด้านล่างนี้เลย ใครที่ต้องการใช้งานในด้านกราฟิกที่ดียิ่งขึ้น ก็เลือกเติมการ์ดจอ แรม เข้าไป ให้ระบบคล่องตัวมากขึ้น โดยมีสล็อต PCIe บนเมนบอร์ด รองรับการ์ดจอเพิ่มได้
จะเห็นได้ว่าตัวเลขการทำงานของซีพียู แทบไม่ได้เป็นรองใคร หากเทียบกับซีพียูในระดับใกล้เคียงกัน แต่ก็คงต้องบอกไว้ก่อนว่าเรื่องของการทำงานด้านกราฟิก อาจไม่ได้เป็นเรื่องที่เหมาะนักกับคอมรุ่นนี้ ด้วยข้อจำกัดของกราฟิกและแรมที่มีเพียง 4GB ดังนั้นการใช้งานน่าจะอยู่ที่ซอฟต์แวร์พื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานเอกสาร หรือการแต่งภาพเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
ในการทดสอบด้วย PCMark10 ก็ถือเป็นอีกโปรแกรม ที่บอกถึงความสามารถในด้านต่างๆ ของระบบหรือพีซีเครื่องนี้ได้ ตัวเลขคะแนนที่ได้อยู่ที่ 3,599 คะแนน อาจจะดูไม่สูงนัก หากเทียบกับพีซีเกมมิ่งเครื่องแรง แต่ถ้าเป็นกลุ่มของพีซีในระดับเริ่มต้น สามารถให้ประสิทธิภาพในการใช้งานทั่วไปได้ดีพอสมควร เพราะจากตัวเลขในกลุ่มพื้นฐาน เช่น Web Browsing หรือจะเป็น Spreadsheet นั้น ต่างทำคำแนนได้อย่างน่าสนใจ ส่วนในเรื่องของ Startup กับกลุ่ม Editing อาจจะไม่ได้หวือหวา เนื่องจากต้องดูถึงองค์ประกอบโดยรวม ย้ำคือสามารถใช้งานได้ ในส่วนของการใช้งานบนซอฟต์แวร์พื้นฐาน ถ้าหากต้องการจะใช้กันแบบหนักหน่วง อาจจะต้องมีการอัพเกรดอุปกรณ์ ดังที่ได้กล่าวไปในตอนก่อนหน้านี้
ในการทดสอบเล่นเกม เราใช้ตัวเลือกที่เหมาะสมกับสเปค ด้วยเกม 2 รูปแบบ ประกอบด้วย DOTA2 ตัวแทนเกมแนว MOBA สำหรับคนที่ชอบแนววางแผนและเอฟเฟกต์สวยๆ และ PUBG Lite ตัวแทนเกมแอ็คชั่น ที่พอจะให้คนที่ชอบความตื่นเต้นได้สนุกกับสเปคที่ไม่ต้องแรงเกินไป ผลที่ได้จากการทดสอบ ด้วยกราฟิกที่ตั้งเป็น Fastest ซึ่งเป็นโหมดที่ไม่เน้นความสวยงามของภาพ แต่ให้ได้เฟรมเรตที่ดี ตัวเลขที่ได้อยู่ราวๆ 30-45fps. ในแบบที่ยังไม่ได้ไปปรับรายละเอียดเพิ่ม ก็ถือว่าพอเล่นได้ ซึ่งหากได้ปรับการเรนเดอร์ รวมถึงได้แรมที่มากกว่านี้อีกหน่อย ก็จะช่วยให้ลื่นกว่าเดิมแน่นอน
ส่วนในการทดสอบ PUBG Lite นั้น ปรับความละเอียด Low ยังเล่นได้ โดยเฟรมเรตไปแตะๆ อยู่ที่ 35-45fps. ซึ่งได้ภาพกำลังสวย ไม่แตกเละจนเกินไป และยังได้ภาพที่ต่อเนื่องดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าคุณต้องการให้ลื่นกว่านี้ สามารถลอง Very Low ได้ ซึ่งภาพอาจจะไม่สวยนัก แต่ก็เล่นได้ลื่นไม่สะดุดหรือหน่วง เมื่อต้องเจอเอฟเฟกต์เยอะๆ ในช่วงคับขัน ในภาพรวมถือว่าเล่นได้ครับ
ทีนี้เรามาดูในส่วนของการเล่นวีดีโอ Youtube กันบ้าง ด้วยพื้นฐานของซีพียูกับการเล่นวีดีโอเช่นนี้ AMD Ryzen ทำงานได้สบายๆ เพราะใช้พลังไปเล็กน้อยเท่านั้น แต่ภาระน่าจะมาโหลดหนักที่แรม ในกรณีที่ใช้งานหลายๆ โปรแกรมพร้อมกัน ร่วมกันกับการดู Youtube ซึ่งอยู่ที่การจัดสรรทรัพยากรของผู้ใช้เอง และเท่าที่ทดลองเล่น 4 หน้าต่างพร้อมกันบนจอขนาด 27″ ก็ดูไม่ได้โหดร้ายเกินไป สำหรับ ASUS เครื่องนี้ จึงน่าจะเป็นเรื่องดี ของคนที่จะเอาไปใช้งานในลักษณะที่เป็นมัลติทาส์กกิ้งได้ในระดับหนึ่ง แต่ในกรณีที่ใช้งานหลายๆ โปรแกรม ก็ไม่แนะนำให้เปิดแท็ปบน Web browser มากนัก เพื่อให้การทำงานบนเอกสาร หรือซอฟต์แวร์ออฟฟิศ ยังสามารถใช้งานได้คล่องตัว หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือ การอัพเกรดแรมเพิ่มเข้าไปนั่นเอง
Battery / Heat / Noise
ในแง่ของเครื่องพีซีลักษณะนี้ ไม่ได้ยัดสเปคหรืออัดอุปกรณ์เข้าไปจนแน่น ก็แทบจะไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องความร้อนมากนัก แต่เพื่อให้การทดสอบครบถ้วน และผู้ใช้จะได้สบายใจในการใช้งานบนพีซีนี้ ภายในเครื่องจะมีพัดลมซีพียูตัวหลัก และพัดลมจากเพาเวอร์ซัพพลายจะเป็นตัวช่วย ด้วยการทอสอบ Full load 100% CPU บนโปรแกรม OCCT ตัวเลขอยู่ที่ราว 65-73 องศาเซลเซียส ในห้องทดสอบ ที่อุณหภูมิราว 25-26 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถือว่าปกติของพีซีที่ใช้งานทั่วไป แต่ถ้าใครกังวล ยังมีพื้นที่ด้านหลังสำหรับติดตั้งพัดลมเพิ่มได้ หรือจะติดบริเวณด้านข้างที่เป็นฝาตะแกรง อัดลมเย็นจากภายนอก ตรงเข้าไปที่พัดลมซีพียูได้ทันทีเช่นกัน
Conclusion / Award
ในภาพรวมของ ASUS S425MC นับว่าเป็นพีซีที่จัดการง่าย ใช้งานสะดวกอีกรุ่นหนึ่ง เหมาะกับทุกคนภายในบ้าน หรือจะใช้ในสำนักงานก็น่าสนใจ เพราะถ้าดูจากสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 13,990 บาท แต่ได้พีซีระดับ AMD Ryzen 5 3400G ที่พร้อมใช้งาน แม้ว่าจะไม่มีกราฟิกแยกมาให้ แต่พื้นฐานของเมนบอร์ด ก็พร้อมสำหรับการอัพเกรด แต่จะอาจจะไม่ได้รองรับการ์ดจอแรงๆ ได้มากนัก เพราะเพาเวอร์ซัพพลายเป็นแบบพื้นฐาน การ์ดจอในกลุ่ม RX series เริ่มต้นหรือ GTX1000 series กำลังพอเหมาะ ส่วนถ้าจะให้แรงกว่านั้น อาจจะต้องปรับเรื่องเพาเวอร์กันใหม่
แต่ถ้ามองในแง่ของการใช้งานทั่วไป เช่น งานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง หรือจะเล่นเกมที่ไม่ใช้ทรัพยากรมากเกินไป เช่น ที่ได้ทดสอบให้ดู PUBG Lite และ DOTA2 พีซีเครื่องนี้ตอบสนองการใช้งานได้ไม่ยาก รวมไปถึงการใช้สำหรับเป็นศูนย์กลางข้อมูลในบ้าน ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน แค่เพียงจัดสรรพื้นที่และแชร์ให้กับเครื่องต่างๆ ภายในบ้าน สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างโมดูล WiFi ก็ช่วยให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับในบางที่ที่มีข้อจำกัด เช่น การเดินสาย LAN ไม่สะดวก หรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เหมาะกับการเดินสาย ซึ่งจัดว่าเป็นเพียงไม่กี่รุ่นที่มีให้ ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มอีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เรื่องของซอฟต์แวร์ ที่ทาง ASUS จัดมาให้ครบ สำหรับพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Windows 10 Home และ Microsoft Office Home&Student 2019 ที่ให้คุณสามารถ Activate เพื่อใช้งานได้ หลังจากบูตระบบเป็นที่เรียบร้อย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม ตรงนี้ถือว่าเป็นมูลค่าที่ไม่น้อยเลย สามารถอัพเดตและใช้ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยัง ประกัน 3 ปี ซ่อมฟรีถึงที่ และประกัน 1 ปี คุ้มครองจากอุบัติเหตุ จากทาง ASUS ให้อุ่นใจตลอดการใช้งาน
Award
ในงบประมาณ 13,990 บาท แต่ได้พีซีระดับ Ryzen 5 ที่มาพร้อม Windows 10 Home และ Microsoft Office Home&Student 2019 นับว่าน่าสนใจไม่น้อย หากมองในแง่ของมูลค่าด้านซอฟต์แวร์ ก็เกือบจะครึ่งหนึ่งของราคาเครื่องแล้ว ยังมีเมาส์และคีย์บอร์ดมาให้ด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับพีซี ที่ตอบโจทย์การใช้งานในด้านต่างๆ ที่เป็นพื้นฐานการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องของการทำงาน และความบันเทิง เช่น งานเอกสาร ซอฟต์แวร์ออฟฟิศ และความบันเทิงจากการชม Youtube ซึ่งคุณยังสามารถใช้งานมัลติทาส์กกิ้งได้ดีในระดับหนึ่ง ขาดแค่จอมอนิเตอร์ เอามาต่อก็ใช้งานได้ทันที กับการรับประกันที่อุ่นใจ ด้วยสิ่งเหล่านี้ ทำให้ ASUS S425MC สามารถคว้ารางวัลไปได้ไม่ยาก