Connect with us

Hi, what are you looking for?

REVIEW

Review – ASUS VivoBook S15 S533 สเปก Intel Core i Gen 11 ตัวทดสอบ (Demo) ประสิทภาพลื่นไหลเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ?

ASUS VivoBook S15 S533 รุ่นที่เรานำมาทดสอบรีวิวบทความนี้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่อง Demo ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม “Tiger Lake” สถาปัตยกรรมขนาด 10nm SuperFin Willow Cove ที่แรงลื่นทรงพลังยิ่งกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ พร้อมมี AI เข้าช่วยไปอีกขั้น

ASUS VivoBook S15 S533 รุ่นที่เรานำมาทดสอบรีวิวบทความนี้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่อง Demo ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม “Tiger Lake” สถาปัตยกรรมขนาด 10nm SuperFin Willow Cove ที่แรงลื่นทรงพลังยิ่งกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ พร้อมมี AI เข้าช่วยไปอีกขั้น ทั้งทำงานและความบันเทิงดีขึ้น ดีไซน์สวยด้วยหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 มีความบางและเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความพรีเมียมดูดีเกินราคา เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์

สำหรับ ASUS VivoBook S15 S533 เครื่องนี้ได้รับการออกแบบที่เหมือนกับรุ่นสเปก Core i Gen 10 ซึ่งแม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว สเปคเน้นประสิทธิภาพที่มากว่า มาพร้อมกับความแตกต่างและสีสันไม่ซ้ำใครแน่นอน โดดเด่นด้วยสีเขียว Gaia Green และได้ปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง โดยสเปกที่ได้รับมารีวิวในครั้งนี้เป็น Core i7-1165G7 การ์ดจออนชิปเป็น Intel Iris Xe ประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีก ได้แรมขนาด 16GB และ SSD 1TB จอ 15.6″ IPS Full HD มี Windows 10 แท้ ส่วนประกันคาดว่าถ้าขายจริงจะเป็นประกัน 2 ปี + ประกันอุบัติเหตุ 1 ปีตามมาตรฐานของ ASUS

Advertisement

NBS Verdict

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 43

สรุปแล้ว ASUS VivoBook S15 S533 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะกับการทำงานทั่วไป หรือหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมบ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง คาดว่าราคาไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับรุ่น Intel Core i7-1165G7 เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานโน๊ตบุ๊คที่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ารุ่นเริ่มต้นทั่วไป

รองรับซอฟต์แวร์หลายตัวที่สนับสนุนงาน AI อย่าง อาทิ Microsoft Office : Word / Excel / Power Point หรือ Adobe อย่าง Photoshop / Lightroom / Premiere Pro ทำให้รวดเร็วพวก Core i Gen 10H อีกทั้งได้พอร์ต Thunderbolt เป็นมาตรฐานแล้ว คาดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าไม่แพงแต่ได้สเปกที่ดีของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นในช่วงท้ายปลายปี 2020 ที่น่าซื้อไปใช้งานจริงๆ (กรณีที่ขายในปีนี้นะ)

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 40

อย่างไรก็ตามทางด้านราคา ASUS VivoBook S15 S533 สเปก Intel Core i Gen 11 เทียบกับสเปกที่ได้แล้ว คาดว่าจะไม่สูงมากเพราะอยู่ในโมเดลที่เน้นความคุ้มค่ามากกว่าอย่าง VivoBook ไม่ใช่ ZenBook ซึ่งในเรื่องดีไซน์การออกแบบก็แตกต่าง เพราะคาดว่ามีสีสัน Indie Black, Gaia Green, Resolute Red, Dreamy White โดยที่เราได้รับมารีวิวเป็นสีเขียว Gaia Green ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลืองโดดเด่น เรียกได้ว่าจะถูกใจวัยรุ่นเรื่องการสร้างสรรค์งานทีเดียว

โดยตัวเครื่องมีขนาดเล็กขอบจอบางเทียบและมีหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่มีมิติตัวเครื่อง น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมและบางเพียง 18.5 มิลลิเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้ชิปประมวลผล แรม ฮาร์ดดิสก์ ที่พร้อมใช้งาน ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมดีเยี่ยมนั่นเอง เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์ ใช้งานประมวลผลหนักๆ ได้ด้วย โดยบางงานทำได้ดีกว่า Gaming Notebook 

จุดเด่น

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
  • น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง วัสดุดี มีให้เลือก 4 สีสัน ตามสไตล์การใช้งาน
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ให้สีสันดีกว่า TN
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-1165G7 รุ่นใหม่ล่าสุด
  • ได้การ์ดจอออบชิปตัวใหม่ Intel Iris Xe  ที่ตอบสนองได้ใกล้เคียงกับการ์ดจอเข้าไปอีก
  • ประสิทธิภาพดีขึ้นทั้งการทำงาน หรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล จากผลการทดสอบ
  • ลำโพง Harman Kardon เสียงคุณภาพดีกว่าทั่วไปแบบรู้สึกได้
  • เทคโนโลยี Fast charging ที่ให้แบตเตอรี่เต็ม 60% ได้ใน 49 นาที
  • ตัวเครื่องร้อนน้อย แม้ทำงานหนักๆ ต่อเนื่อง
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
  • ประกัน 2 ปีเคลมผ่าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก

ข้อสังเกต

  • ยังเป็นเครื่องทดสอบ Demo ไม่ใช่เครื่องขายจริง
  • หน้าจอพาเนล IPS อยู่ในระดับกลางๆ
  • แรมเป็นแบบฝังบอร์ด อัพเกรดเองไม่ได้เลย
  • SSD ที่ให้มา ความเร็วต่ำไปหน่อย 

Specification

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 41

สเปกภายในของตัว ASUS VivoBook S15 S533 ปี 2020 ที่ได้รับมารีวิวจะเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงในราคาคุ้มค่า ด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-1165G7 ความเร็ว 1.20 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.70 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 11  อย่าง Tiger Lake รุ่นล่าสุด  พร้อมใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยี AI เพื่อให้ความเร็วอันเหนือชั้น ในส่วนของการ์ดจอออนชิปรุ่นใหม่ Intel Iris Xe graphics ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ รวมไปถึงการแสดงผลความละเอียดสูงมากๆ อย่าง 4K หรือ 8K ด้วย 

โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 178 องศา ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB DDR4 Bus 3200Hz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน  สำหรับที่เก็บข้อมูลหลักเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB (รองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3) อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.85 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และมี 3D IR Camera ไว้ใช้งาน Login ผ่านทาง Windows Hello บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง Thunderbolt (USB 3.2 Type-C), USB 3.2 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Intel Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด 

Hardware / Design

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 5

ASUS VivoBook S15 S533 สเปก Intel Core i Gen 11 โดดเด่นด้วยสีสันสดใสโดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปใช้งานนอกสถานที่ก็ทำได้คล่องตัว ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความพรีเมียมและแข็งแรงทนทาน ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 S533 จะมีฝาหลังและตัวเครื่องด้านในคนละสีกัน ตามสไตล์ของ VivoBook Series 

โดยชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ได้ดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีดำ Indie Black, สีแดง Resolute Red, สีเขียว Gaia Green, สีขาว Dreamy White ซึ่งรุ่นที่เราได้รับมารีวิวนั้นเป็นสี Gaia Green ที่เป็นสีเขียวมรกตเล่นสีกับแสงที่สะท้อนมา พร้อมดีไซน์ภายในแบบทูโทนโดยเป็นสีเงิน  ที่ตัวเครื่องยังมีขอบหน้าจอบางเฉียบ NanoEdge วัสดุเป็นพลาสติกสีดำที่ดูแล้วลงตัวกับงานประกอบอื่นๆ ส่งผลให้ ASUS VivoBook S15 S533 มีขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดกว่า ด้วยน้ำหนักเบาตัวเครื่องที่บาง สามารถใส่ในกระเป๋า หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 23

นอกจากนั้นแล้วยังโดดเด่นด้วยปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อบอกโลกถึงความเป็นตัวตนของเรา เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างจาก Notebook รุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน เป็นการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่สุดๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่มากมาย นับได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครมาก่อน ซึ่งให้ความพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทุกๆ รุ่น เรียกได้ว่าเน้นตั้งใจตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ อย่างนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตามจากที่เป็นเครื่อง Demo ทำให้ไปได้ติดสติ๊กเกอร์ที่บ่งบอกถึงสเปกหรือฟีเจอร์ใดๆ มา และอย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นอลูมิเนียมและพลาสติกเกรดดีผสมผสานกัน โดยเฉพาะส่วนของส่วนของฝาหน้าจอที่เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ซึ่งชิ้นส่วนด้านล่างก็จะเป็นอลูนิเมียม ทำให้แม้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบากว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแต่ก็แข็งแรงทนทานเช่นกัน ส่วนตัวเครื่องด้านในก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกันแต่สีสันต่างออกไป มีการนำเสนอพื้นผิวแบบเรียบเนียนสัมผัสดี

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 26

สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผลและการ์ดจอ ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ ที่มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องทำหน้าที่ร่วมกันเป็นอย่างดี ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ทำให้ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งาน และออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็แทบไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย นับได้ว่า ASUS VivoBook S15 S533 สเปก Intel Core i Gen 11 เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีสเปกที่ดี แรง คุ้ม ที่คาดว่าราคาไม่แพง แต่ ASUS ใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จริงๆ

Keyboard / Touchpad

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 11

ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS VivoBook S15 S533 ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างสีขาวทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ได้ดีกว่าไม่มี ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็มีให้ใช้งานปกติ

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีการเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลพอสมควร

Screen / Speaker

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 2

ASUS VivoBook S15 S533 ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6″ มีขอบที่บางมากเพียง 5.2 มม. ตามสไตล์ NanoEdge โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 86% ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS คุณภาพดีมุมมองกว้าง สีสันสดใส ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แต่ถ้ามองมุมขึ้นลงหรือซ้ายขวาก็จะเห็นถึงความต่าง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ ที่ให้สีจอที่ดีทีเดียว แน่นอนว่าแม้จะขอบจอบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam พร้อมไมโครโฟนไว้ตำแหน่งด้านบนอยู่

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook S15 S533  ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% และ AdobeRGB ที่ 45% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานในช่วงราคานี้ อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็พอได้อยู่ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้แบรนด์ Harman Kardon ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไป มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 29

ASUS VivoBook S15 S533 ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.2 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.2 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง

ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 2 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6″ แค่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน

Inside / Upgrade

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 46

ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ ASUS VivoBook S15 S533 เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 1 ตัว ฮีตไปป์ 1 เส้น พร้อมช่องระบายความร้อน 1 ช่อง ซึ่งดูแล้วอาจจะธรรมดา แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตรที่ร้อนน้อยแต่แรงลื่นอยู่แล้ว

เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นการติดตั้งแรมฝังบอร์ดมาแล้วขนาด 16GB แบบฝั่งบอร์ด มาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ที่ไม่รองรับการอัพเกรดเพิ่มแต่อย่างใด รวมไปถึงเราเห็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่นอกจากนั้นยังมีอีก 1 สล็อตเพื่อรองรับการอัพเกรดเพิ่มด้วย กรณีที่ต้องการความจุเพิ่มเพื่อเก็บข้อมูลในอนาคต สเปกทั้งหมดนี้ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4200mAh แน่นอนว่าเป็นส่วนให้ ASUS VivoBook S15 S533 ใช้แบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องยาวนานด้วย

Performance / Software

c1 3.    c2 3

ASUS VivoBook S15 S533 สเปก Core i Gen 11 เครื่อง Demo นี้เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดย ASUS VivoBook S15 S533 เลือกใช้ชิป Intel Core i7-1165G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 1.20 – 4.70 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i7 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร อย่าง Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin Willow Cove

g1 3

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel Iris Xe ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

cine15 3.   cine20 3

 

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ssd 3

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจในระดับกลางๆ กับความเร็วในการอ่านและเขียนที่ Read: 2552 MB/s – Write: 1784 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ ทั้งการใช้งานทั่วไป และการใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการเล่นเกมต่างๆ อย่างไรก็ตามถือว่าให้ SSD สเปกความเร็วมาน้อยไปหน่อย ถ้าทเทียบกับหลายๆ รุ่น

pc 2

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,730 คะแนน (ใกล้เคียง Gaming Notebook ยิ่งขึ้นไปอีก) ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Core i ตระกูล H และการ์ดจอ GTX / RTX

game test Gen 11

จัดเต็มการทดสอบเกมสำหรับ ASUS VivoBook S15 S533 สเปก Core i Gen 11 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-1165G7 ที่สามารถรีดพลังการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง Intel Iris Xe ได้เต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD 512GB ก็ส่งผลช่วยด้วย

ทดสอบเกมออนไลน์กินทรัพยากรอย่าง Overwatch / PUBG ปรับเป็น Low ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้น่าพอใจ อีกเกมเป็น DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทพอได้เลย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่

vivo

นอกจากนี้ทาง ASUS VivoBook S15 S533 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญยังเลือกปรับโหมดพัดลม การชาร์จ หน้าจอ และ Hotkey ได้อีกด้วย

Battery / Heat / Noise

batt 3

แบตเตอรี่ของ ASUS VivoBook S15 S533 สเปก Core i Gen 11 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4200 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้เกือบๆ 9  ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการปรับเป็น Power Saver Mode ใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ซึ่งจากผลการทดสอบนับได่ว่าทำได้ดีมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แรง แต่ประหยัดพลังงานด้วย อย่างไรก็ตามปัจจัยในการใช้งานจริงอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ กรณี อย่างเช่นสภาพแวดล้อมหรือลักษณะการใช้งานด้วย มาพร้อมเทคโนโลยี Fast charging ที่ให้แบตเตอรี่เต็ม 60% ได้ใน 49 นาที

temp 2

ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่ด้วยการเล่นเกมยาวๆ ทั้ง DOTA 2 / Overwatch / PUBG จะเห็นว่า CPU จะร้อนที่สุดที่ระดับ 99 – 100 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS VivoBook S15 S533 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีประมาณนึง ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก ASUS ที่ออกแบบมาค่อนข้างดีด้วยพัดลมเพียง 1 ตัว รวมไปถึงชิปประมวลผลจาก Intel ก็ควบคุมความร้อนได้ดีไม่ให้ความร้อนมีอุณหภูมิสูงจนเกินไป ทำให้การใช้งานจริงยาวนานต่อเนื่องแทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย

Conclusion / Award

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 34

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook S15 S533 ปี 2020 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล VivoBook S รุ่นปีก่อน ที่เป็นสเปก Core i Gen 11 ที่จากรุ่นก่อนเป็นสถาปัตยกรรม Ice Lake ขยับเป็น Tiger Lake ที่จะมาพร้อมกับการ์ดจอ Intel Iris Xe ออกแบบมาเพื่อ Notebook ในรุ่นบางเบา ซึ่งตอบสนองอย่างยิ่งกับการสร้างคอนเทนต์ โดยสามารถเพิ่มความเร็วในด้านการทำงานออฟฟิศได้กว่า 20% พร้อมความสามารถในการเล่นและสตรีมเกมที่ไวขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า ให้ประสบการณ์ใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้ามีโอกาสเราได้ทดสอบเครื่องจริงจะมาอัพเดทกันอีกที อันนี้พอดูเป็นข้อมูลเบื้องต้นไปก่อร 

ASUS VivoBook S15 S533 Core i Gen 11 Review 44

อย่างไรก็ตาม ASUS VivoBook S15 S533 มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่สำคัญ ASUS VivoBook S15 S533 มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน พร้อมปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ซึ่งมีความสวยงามลงตัว แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน ซึ่งคาดว่าเครื่องจริงขายจริงสเปกจริงๆ จะเปิดราคามาไม่แพง คาดว่าอยู่ที่ 2x,xxx  แต่ไม่เกิน 30,000 บาท เพราะโมเดลนี้เน้นการใช้งานที่ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่า สำหรับนักเรียนนักศึกษาคนทำงานอยู่แล้ว ต่างจาก ZenBook หลายๆ รุ่นที่จะติดตั้ง Intel Core i Gen 11 ซึ่งนั่นจะเน้นความบางเบาและฟีเจอร์แบบแน่นๆ ด้วย 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

รีวิว Asus

ASUS ZenBook Flip S UX371 นั้นถือเป็น 2-in-1 Notebook ที่ได้ความบางเบาเน้นความพรีเมียมรุ่นล่าสุด โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 (Tiger Lake) ประสิทธิภาพสูง มี AI ในตัว พร้อมหน้าจอ OLED 4K...

Buyer's Guide

ASUS TUF Gaming A15 FA506 / A17 FA706 จัดว่าเป็นกระแสจริงๆ ซึ่งเป็น Gaming Notebook ปี 2020 ที่ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H Series ที่มีความเจ๋งมากมาย มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม...

รีวิว MSI

MSI Creator 15 เป็นโน้ตบุ๊คอีกรุ่นที่ทั้งสเปกและดีไซน์ เป็นการต่อยอดมาจาก MSI GS66 Stealth ที่เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ แต่ในส่วนของ MSI Creator 15 จะเป็นสาย Content Creator ซึ่งให้ฟีเจอร์บางอย่างที่มากกว่า ที่เน้นความบางเบาหรูหรา ด้วยสีสันตัวเครื่องเป็นเทา Carbon...

รีวิว Acer

Acer Swift 5 รุ่นล่าสุด เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบารูปแบบใหม่ ได้แพลตฟอร์ม Intel EVO ที่ไม่ใช่แค่บางเบาแบบสุดๆ แต่ยังได้ยกระดับการใช้งานด้วยฟีเจอร์เคลือบสาร Antimicrobial ป้องกันแบคทีเรียที่หน้าจอ Corning Gorilla Glass รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ของตัวเครื่อง อย่างที่ไม่เคยมีโน้ตบุ๊คแบบนี้มาก่อนบนโลกเลย พร้อมได้สเปกที่แรงลื่นขึ้นจากการที่เป็น Intel Core i Gen 11...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก