ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Ultrabook หรือ Notebook บางเบาที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ในช่วงปลายปี 2020 ที่กำลังมีรุ่นใหม่จากหลากหลายแบรนด์มาให้เลือกซื้อกัน จากตัวเครื่องที่มีมิติที่บางเฉียบ สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก เบาสุดที่ 870 – 990 กรัมเท่านั้น กับขนาดหน้าจอ 13.3″ – 14″ พาเนล IPS Full HD ที่สวยงามสบายตา รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานเป็น 10 ชั่วโมง วัสดุเองก็เป็นโลหะที่แข็งแรงทนทานให้ความหรูหราพรีเมียมไปในตัว บางรุ่นได้ประกัน 3 ปี On-site Service หรือประกันอุบัติเหตุด้วย
มาพร้อมกับสเปกที่แรงพอตัวด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 10 รวมไปถึงในส่วนของหน่วยความจำแรมก็ได้มาตรฐานมาเป็น 8GB – 16GB และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุที่ 512GB – 1TB เลือกได้ตามการใช้งานเลย โดยในบทความนี้แอดมินโป้งจะมาแนะนำ Ultrabook น่าซื้อรุ่นใหม่ ปลายปี 2020 แรงลื่น สเปก Core i Gen 10 บางเบาพกพาสะดวก แบตใช้นาน ฟีเจอร์ครบ ในราคาเริ่มต้น 21,900 – 44,900 บาทเท่านั้น โดยมี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที และในหลายรุ่นจะได้โปรแกรม Microsoft Office (Word / Excel Power Point) ไปใช้งานด้วยเลย
แน่นอนว่าสำหรับคนที่อยากได้ Ultrabook ประสิทธิภาพสูง สเปกชิปประมวลผลเป็นเรื่องสำคัญและต้องมาก่อน โดย Intel ได้ส่งชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Intel Core i Gen 10 ออกมาในตลาดแล้ว โดยถูกแบ่งออกเป็น 2 สถาปัตยกรรม Ice Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร อาทิ Core i5-1035G1 / Core i7-1065G7 เน้นรองรับงาน AI ที่ในบางโปรแกรม เช่นโปรแกรม Excel / Photoshop รวมไปถึงการ์ดจอออนชิปตัวใหม่อย่าง Iris Plus ที่ทำให้ภาพสวยสมจริงยิ่งขึ้น
หรือสถาปัตยกรรม Comet Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร ให้ความแรงลื่นที่มากกว่า อย่าง Core i5-10210U / Core i7-10510U / Core i7-10710U ที่เป็นทั้ง 2 สถาปัตยกรรมนี้เป็น U-Series (Ultra-low-voltage) ซึ่งประหยัดพลังงานพิเศษ ร้อนน้อย ส่งผลให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนาน อีกทั้งได้มาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX เหมือนกัน และใน Notebook บางรุ่นจะได้มาตรฐาน Thunderbolt 3 ล้ำที่สุดด้วย ซึ่งจะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ไปชมกันต่อเลย
MSI Modern 14 ราคา 21,900 – 24,900 บาท
MSI Modern 14 เป็น Ultrabook รุ่นใหม่หน้าจอ 14″ เน้นบางเบา สเปก Intel Core i Gen 10 ตัวแรงลื่น ได้สีฟ้าที่สดใสอย่าง Blue Stone เคลือบพื้นผิวด้วยเทคโนโลยี Sandblasting พ่นเนื้อทรายละเอียด ให้สัมผัสที่เรียบเนียน โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดอย่าง Core i5-10210U / Core i7-10510U ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอออนชิป UHD 620 ในส่วนของสเปกแรมได้มาขนาด 8GB DDR4 Bus 2666MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ที่ 512GB จัดเต็ม ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ลื่นไหล สนับสนุนทั้งทำงานที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ ในราคาไม่แพง
สำหรับ MSI Modern 14 ได้หน้าจอแสดงผลพาเนล IPS มาตรฐานความละเอียด Full HD ที่จะช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น บางเฉียบโดยมีพื้นที่แสดงผลกว่า 90% จอเป็นแบบด้านที่ให้เรื่องสีสันสดใส รองรับใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมกางได้ 180 องศา ทำให้นำเสนองานได้อย่างเต็มที่และง่ายขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม ไม่เกรงใจใคร ในราคาเพียง 21,900 บาทเท่านั้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Core i Gen 10 หน้าจอขนาด 14″ ที่น่าสนใจมากๆ ทีเดียว
สเปกที่จัดเต็มตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐานอีกด้วยพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI มิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน รวมถึงยังได้มาตรฐาน Military Grade มีความทนทานในการใช้งานเป็นพิเศษมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆไป ในเรื่องของการทน ฝุ่น ละอองน้ำ และการกระแทก ในส่วนของแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน
การออกแบบให้ความรู้สึกที่พรีเมียมด้วยวัสดุอลูมิเนียม ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีความบางเบาอย่างที่สุด มีน้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น ความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตร พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหรา พร้อมความทนทานระดับ Military Standard ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ทั้งทนร้อนทนเย็น ความดันอากาษ ความชื้นและฝุ่นต่างๆ ในระดับหนึ่ง มิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ถือว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลย
- Core i5-10210U / UHD 620 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 21,900 บาท
- Core i7-10510U / UHD 620 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 24,900 บาท
Acer Swift 3 ราคา 23,900 – 28,900 บาท
Acer Swift 3 เป็น Ultrabook ที่จัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า การพกพา งานประกอบ และสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม นับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประเภท Ultrabook ที่คุ้มค่าที่น่าจับตามองที่สุด ในราคาเริ่มต้น 23,900 บาท กับสเปกที่เพิ่งออกมาให้เป็นสเปก Core i5-1035G1 / Core i7-1065G7 พร้อมการ์ดจอ GeForce MX350 ได้ฟีเจอร์ครบครันครบเครื่อง พร้อมมีพอร์ต Thunderbolt 3 ที่รองรับการใช้งานที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังได้การเชื่อมต่อไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX ที่ใหม่ที่สุดด้วย พร้อมได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานติดเครื่องแบบฟรีๆ ไม่ต้องซื้อเองไปใช้งานด้วย
Acer Swift 3 จะเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร ที่แรงกว่าเดิม จัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า การพกพา ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.19 กก. และบางเพียง 15.95มม. เท่านั้น เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คคุ้มค่า หรูหรา บางเบา จบครบในเครื่องเดียว ได้ประกันระยะ 3 ปี โดยปีแรกจะเป็นแบบ On-site Service พร้อมบริการซ่อมเครื่องด่วนภายใน 3 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้เลยทำให้ Acer Swift 3 เป็นโน๊ตบุ๊คในตลาดปี 2020 ที่น่าซื้อจริงๆ โดยมีสีสันให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Steel Gray / Glacier Blue / Millennial Pink
สเปก ดีไซน์การออกแบบ พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ นั้น เป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่ดูลงตัว เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง แต่ได้สเปกแรงขึ้นด้วยการ์ดจอแยก GeForce MX350 เหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานจริงจังพนักงานออฟฟิศ หรือนักเรียนนักศึกษา ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติบ้าง แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัวเหมือนอย่างที่ Ultrabook ราคาแพงหลายหมื่นบาทสมัยก่อนทำได้เลยล่ะ
พอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ อย่าง Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมยังสามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ที่เพียงแตะเท่านั้น คล้ายๆ ใช้งานพวกสมาร์ทโฟน ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากๆ
- Core i5-1035G1 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD / Office แท้ ราคา 23,900 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD / Office แท้ ราคา 28,900 บาท
ASUS VivoBook S14 S413 ราคา 23,900 – 28,900 บาท
ASUS VivoBook S14 S413 รุ่นปี 2020 จัดว่าเป็น Ultrabook สายทำงานหรือความบันเทิงรูปแบบ Thin & Light อย่างแท้จริง ที่จะเน้นเรื่องของความบางเบาและสวยงามเป็นหลัก พร้อมความหรูหราที่ดูดียิ่งกว่ารุ่นราคาใกล้เคียงกัน โดยเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ให้ความไลฟ์สไตล์เหมาะทั้งนักเรียนนักศึกษาและคนทำงาน สเปคคุ้มๆ ที่จะมาพร้อมกับสีสันสดใส โดยมีราคาที่คุ้มค่าสุด ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ที่มีให้เลือกตั้งแต่ Core i5-10210U / Core i7-10510U
สเปกภายในของตัว ASUS VivoBook S14 S413 แน่นอนว่าเริ่มต้นเป็นชิปประมวลผล Intel Core i3-10110U โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ ขอบหน้าจอบางพิเศษ NanoEdge ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ในส่วนของการ์ดจอออนชิปเป็น UHD Graphics 620 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้บ้าง สเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจด้วยแรม 4GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ที่มีมาให้อยู่แล้ว
ส่วนอีก 2 สเปกที่แรงกว่าก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยได้ชิปประมวลผล Intel Core i5-10210U / Core i7-10510U ได้รับการติดตั้งการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX350 ที่แรงเทียบเท่ากับ GTX 960M รุ่นก่อนๆ แน่นอนว่าทำให้เราเพียงพอต่อการเล่นเกมได้ลื่นไหล ซึ่งดีกว่า Notebook บางเบาทั่วไป ได้แรม 8GB และ SSD 512GB อีกทั้งได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) มาใช้งานทันที ทั้ง Word / Excel / Power Point
มาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ ASUS ที่สามารถส่งเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ รวมถึงถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย ที่สำคัญยังเปิดตัวสีใหม่รับปี 2020 มาพร้อมสีสันใหม่อย่าง Indie Black / Transparent Silver / Hearty Gold / ที่แตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมความพิเศษเพิ่มลูกเล่นบนแป้น ‘Enter’ ด้วยขอบตัดสีเหลืองสะดุดตาแบบสุดๆ พร้อมกันนั้นยังมีสติ๊กเกอร์ให้เราสามารถแปะแต่งเพิ่มเติมอีกด้วย
ดีไซน์โดดเด่นด้วยสีสันสดใสโดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอะลูมิเนียมตามสีของตัวเครื่อง ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S14 S413 งานประกอบกับชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ฝาหลังจอที่เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น พร้อมความบางเฉียบถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ปี 2020
- Core i5-10210U / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 23,900 บาท
- Core i7-10510U / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 28,900 บาท
Lenovo IdeaPad 5 14 ราคา 23,900 – 28,900 บาท
Lenovo IdeaPad 5 14 เป็น Ultrabook รุ่นใหม่ล่าสุด สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 พร้อมด้วยการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX350 (ใหม่สุดๆ) ที่เน้นความบางเบาที่ 19.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 1.58 กิโลกรัม และหรูหราตามสไตล์ของ Ultrabook มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและมีสไตล์ Lenovo เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่เน้นตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่ต้องการพกพาไปนอกสถานที่บ่อยๆ รูปลักษณ์ดูดีเกินกว่าค่าตัว โดยรองรับการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติพอได้ โดย Lenovo IdeaPad 5 14 มีราคาเพียง 22,990 บาท
มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i5-1035G1 หรือ Core i7-1065G7 ทำงานร่วมกับแรม DDR4 Bus 2666MHz ขนาด 8GB การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 สำหรับใช้งานทั่วไป และมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX350 (2GB GDRR5) ส่วนที่เก็บข้อมูลก็ใช้เป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512 GB ทำให้สเปคโดยรวมนั้นลงตัวมาก ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเว็บ ทำเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้ลื่นไหล เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo IdeaPad 5 14ใช้หน้าจอขนาด 14″ ความละเอียดระดับ Full HD พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้าง
มาพร้อม Windows 10 Home Single Language และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต และ USB 3.1 Type-C (power delivery & display port) ที่เน้นไว้ชาร์จไฟผ่านทางอแดปเตอร์เป็นหลัก ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. ยังมีมาให้ การเชื่อมต่อไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.1 ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) มาใช้งานทันที นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์
แม้ขอบจอจะบางเฉียบแต่ก็ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ด้านบนเหมือนเดิม ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ Privacy Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่ามีฟีเจอร์ที่เทียบเท่ากับในส่วนของ ThikPad Series ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมืออาชีพเลยก็ว่าได้ โดยรองรับการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง รองรับ Quick Charging ผ่านทาง USB-C ด้วย
- Core i5-1035G1 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ / ราคา 22,990 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ / ราคา 28,990 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ / ราคา 30,990 บาท
HP ENVY 13 ราคา 32,900 – 35,900 บาท
HP ENVY 13 จัดได้ว่าเป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3″ ที่น่าสนใจอยู่พอสมควร จากการที่มีบางเบา ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา ส่วนของวัสดุทั้งหมดจะใช้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ที่พร้อมความพรีเมียมหรูหรา และฟีเจอร์ความปลอดภัยจัดเต็ม ได้ความบางและเบามากๆ เพียง 16.9 มิลลิเมตรและน้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น นับได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ ของ HP ที่เบาและบางที่สุดก็ว่าได้ ส่วนตัวคีย์บอร์ดนั้นก็ได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ ส่วนลำโพงแบบสเตอริโอเป็น Bang & Olufsen และ HP Audio Boost 2.0 ที่จัดว่าคุณภาพเสียงดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
HP ENVY 13 มี 2 สเปกให้เลือกคือรุ่น Core i5-10210U หรือ Core i7-10510U มาพร้อมกับชิปกราฟิก NVIDIA GeForce MX350 ที่ให้ประสิทธิภาพแรงพอๆ กับ GTX 960M ทำให้เล่นเกม 3 มิติออนไลน์ ได้ลื่นในระดับนึงทีเดียว สำหรับสเปกอื่นๆ ก็ยังติดตั้งแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2666MHz และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน โดยหน้าจอเป็นความละเอียด Full HD ที่ได้พาเนล IPS คุณภาพสูง แน่นอนว่ามี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที อีกทั้งได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ด้วย
ที่สำคัญได้ฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆ อย่าง การสแกนลายมือ Fingerprint พร้อม Webcam Kill ที่เป็นปุ่มเลื่อนไปมาสำหรับเปิดปิดการใช้งานกล้องเว็บแคม และ ฟีเจอร์ Privacy Screen นี้กับคุณสมบัติลดมุมมองหน้าจอลง อย่างที่หาในโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ ไม่ได้แน่นอนที่จะจัดเต็มขนาดนี้ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหา Ultrabook ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในเรื่องของความบางเบา เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และมีดีไซน์ที่หรูหราน่าใช้งานแล้วล่ะก็ HP ENVY 13 น่าจะตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดีทีเดียว รวมถึงได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) มาใช้งานทันทีด้วย
สำหรับการรับประกันอย่าง HP On-site Service รับซ่อมเครื่องถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend (Plus) 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมงเพิ่มความคุ้มยิ่งเพิ่มเข้ามาอีกเยอะเลยละ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีเหนือระดับกว่าโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ ในราคาที่จ่ายถูกกว่า ก็ตามไปจัด HP ENVY 13 กันได้เลย มีขายตามหน้าร้านทั่วไปแล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเน้นความบางเบาพรีเมียมได้สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ไปใช้งาน
- Core i5-10210U / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS / Office แท้ ราคา 32,900 บาท
- Core i7-10510U / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS / Office แท้ ราคา 35,900 บาท
Acer Swift 5 ราคา 27,900 – 36,900 บาท
Acer Swift 5 เป็น Ultrabook สเปกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 อย่าง Core i5-1035G1 / Core i7-1065G7 ใช้การ์ดจอออนชิป หรือมีรุ่นการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX350 มาพร้อมหน้าจอ 14″ Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB ใกล้เคียง 100% โดยมีน้ำหนักเพียง 990 กรัมเท่านั้น ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 8GB / 16GB LPDDR4X แบบออนบอร์ด และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ความบันเทิง หรืองานประมวลผลหนักๆ ก็พอได้เลย เหมาะกับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เบาที่สุด แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง
ได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ทันที ทำงานพื้นฐานได้แบบสบายๆ สนับสนุนการทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ส่วนความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ชม Netflix ก็สบายๆ ไปอีก และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอได้บ้าง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ลื่นไหล จากการที่มีรุ่นที่เลือกติดตั้งการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX350 (2GB GDDR5) ที่แรงพอๆ กับ GTX 960M เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรกเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงอีกด้วย ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) มาใช้งานทันที นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เหนือกว่าหลายๆ รุ่น
เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดก็ว่าได้ ส่วนความบางอาจจะไม่มาก โดยอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตร แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพามาตรฐานระดับสูงอยู่ดี อีกทั้งในรุ่นใหม่นี้ได้ดีไซน์พิเศษโดยมียางรองขอบเครื่องด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องให้เอียงสูงขึ้นเมือเรากางหน้าจอ ส่งผลให้พิมพ์ง่ายขึ้นและมุมมองดีขึ้นด้วย วัสดุจากอลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Charcoal Blue พร้อมแซมด้วยสีทองตามจุดต่างๆ เหมาะทั้งหนุ่มๆ หรือสาวๆ ยุคใหม่ที่ดูทันสมัยสวยงามลงตัว ส่วนสี Moonstone White นับว่าเป็นอีกสีที่ดูหรูหราไม่แพ้กัน เน้นขาวๆ สะอาดๆ
- Core i5-1035G1 / Graphic G1 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 27,900 บาท
- Core i5-1035G1 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / Office แท้ ราคา 30,900 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / MS Office ราคา 36,900 บาท
ASUS ExpertBook B9 (B9450) ราคา 38,900 – 44,900 บาท
ASUS ExpertBook B9 (B9450) เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดของทาง ASUS จากที่ผ่านมาทาง ASUS ได้นำเสนอ Ultrabook เน้นใช้งานแบบพกพาไปทำงานนอกสถานที่ ทั้งด้วยสเปคประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมและมีแบตเตอรรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน ล่าสุดสำหรับสายทำงานและจริงจังยิ่งกว่า ด้วย ASUS ExpertBook B9450 โน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่เบาสุด แค่ 870 กรัม จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพที่เบาที่สุดของโลก อีกทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดตลอดทั้งวัน ประกันก็ดีเยี่ยมเพราะเป็นแบบ On-site Service ระยะเวลา 3 ปี มีประกันอุบัติเหตุด้วย
ดีไซน์ตัวเครื่องบางของ ASUS ExpertBook B9 (B9450) บางสุดๆ เพียง 14.8 มม. ใช้วัสดุสุดเทพอย่าง แมกนีเซียมลิเทียมอัลลอยด์ที่เป็นโลหะดีที่สุดในตลาด มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ซึ่งแรงลื่นรองรับทุกๆ การใช้งาน รวมไปถึงระบบความปลายภัยก็จัดเต็ม ทั้งยังผ่านการทดสอบ MIL–STD 810G US Military Standard การันตีความทนทาน เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องการสุดยอดโน๊ตบุ๊ค 14″ ประสิทธิภาพสูงคู่ใจในการทำงานจริงจัง หรือ Commercial ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูงสุด
ASUS ExpertBook B9 (B9450) จะถูกแบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่น 2 สเปก หลักๆ คือ Core i5-10210U / Core i7-10510U โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) รุ่นล่าสุด ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร ในส่วนของการ์ดจอเป็นออนชิป Intel UHD Graphics 620 ที่เพียงพอกับใช้งานพื้นฐานแน่นอน มาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″แบบด้าน ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง ที่ sRGB ใกล้เคียง 100% ที่ความสว่าง 300 nits
แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB / 16GB LDDR3 Bus 2133MHz ซึ่งรองรับกับการใช้งานทั่วไปได้สบาย สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call พร้อมไมค์ 4 ตัว (support noise cancellation) อีกทั้งมี Fingerprint / 3D IR Camera ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์แท้
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS ExpertBook B9450 ที่ต่อยอดความสำเร็จของโน๊ตบุ๊คตระกูลสายธุรกิจระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่โดดเด่นเหนือชั้นกว่าเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ทั้งจากฮาร์ดแวร์ภายในระดับ BIOS และภายนอก อย่างกล้องเว็บแคมจะมีพีเจอร์ของ Privacy Shield มาให้ ทำให้เลือกปิดการใช้งานด้วยกายภาพได้ รวมไปถึงมี 3D IR Camera อีกด้วย
- Core i5-10210U / UHD Graphics 620 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 38,900 บาท
- Core i7-10510U / UHD Graphics 620 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 14″ IPS ราคา 44,900 บาท
MSI Prestige 14 ราคา 43,900 บาท
ปิดท้ายด้วย MSI Prestige 14 เป็น Ultrabook หน้าจอ 14″ ตัวแรงลื่นทรงพลังที่สุดในรุ่นปี 2020 ทั้งหมด โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รุ่นล่าสุดอย่าง Core i7-10710U ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอตัวแรง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q และฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมาย อาทิ Wi-Fi 6 AX / Thunderbolt 3 ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีความพรีเมียมและบางเบาอย่างที่สุด มีน้ำหนักเพียง 1.29 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของสเปกแรมได้มาขนาด 16GB และ SSD ที่ 512GB จัดเต็ม ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลังอย่างที่สุด สนับสนุนทั้งทำงานและเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ
ได้หน้าจอแสดงผลแบบ True Pixel มาตรฐานความละเอียด Full HD ที่จะช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ที่แรงที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม ไม่เกรงใจใคร ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 6 AX (แรงกว่า AC สามเท่า) และ Bluetooth 5.0 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีทุกรูปแบบรวมไปถึงได้ Thunderbolt 3 เป็นมาตรฐานอีกด้วยพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
สำหรับ MSI Prestige 14 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแต่บางเบาขนาดหน้าจอ 14″ รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่ครบเครื่อง ถูกต่อยอดมาจาก MSI Prestige รุ่นก่อนๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหรา พร้อมความทนทานระดับ Military Standard ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ส่วนความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน พร้อมกับใช้สี Carbon Gray กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านใน พร้อมตกแต่งรายละเอียดบริเวณขอบด้วยเทคโนโลยี diamond-cutting สีฟ้าสดใสตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่โน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพต้องดูดำๆ ดีไซน์โบราณ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่เรียบหรูแทนนั่นเอง ในราคาเพียง 43,900 บาทเท่านั้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Core i Gen 10 หน้าจอขนาด 14″ ที่แรงที่สุด ล้ำที่สุดในตลาดตอนนี้ก็ว่าได้เลย
เรียกได้ว่ามีตัวเลือก Ultrabook ในช่วงปลายปี 2020 ในการเลือกซื้อมากมายเลยทีเดียว สำหรับคนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คดีไซน์บางเบาสเปก Intel Core i Gen 10 ฟีเจอร์มากมาย ยังไงเพื่อนๆ ลองดูและเลือกตามงบและการใช้งานได้เลย รับประกันว่าดีเยี่ยมทุกรุ่นแน่นอนครับ เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษา หรือคนทำงานที่ต้องการคอมพิวเตอร์พกพาประสิทธิภาพสูง เชื่อมั่นได้ ใช้งานเสถียรภาพ กับช่วงราคาที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน