Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูง สเปกระดับ Gaming ปี 2020 มีราคาที่ถูกคุ้มค่ามากมาย แน่นอนว่ามาพร้อมประสิทธิภาพที่เหลือเฟือในการทำงานพื้นฐาน Word / Excel / Power Point หรือโปรแกรมเล่นอินเตอร์เน็ตต่างๆ รวมไปถึงโปรแกรมใช้งานเฉพาะทาง ซึ่งส่วนมากในตลาดจะมีช่วงหลายช่วงราคา เหมาะกับคนที่ต้องการ Notebook ใช้งานพื้นฐาน หรือทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็รองรับได้สบายๆ ผ่านทางโปรแกรมมือาชีพต่างๆ
แน่นอนว่าเล่นเกมได้หลากหลายทั้งออนไลน์เบาๆ หรือเกม 3 มิติกราฟิกสวยงาม จากสเปกของชิปประมวลผลและการ์ดจอ Gaming รวมไปถึงความบันเทิงอย่างการนำไปดูหนังฟังเพลง ชมวีดีโอสตรีมมิ่งต่างๆ อาทิ Youtube หรือ Netflix ดูซีรีส์ต่างช่องทางต่างๆ ก็ลื่นไหลสุดๆ และด้วยหน้าจอมาตรฐานบางรุ่นจะรองรับ Refresh Rate ที่ 120 – 144Hz ทำให้ภาพลื่นไหลสบายตามากๆ
ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูง สเปกแรงลื่นระดับ Gaming Notebook เริ่ม 23,900 สเปก Core i / Ryzen + GeForce GTX ได้หน่วยความจำแรมขนาด 8GBพร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความ 512GB ที่รวดเร็วลื่นไหล แน่นอนว่ามี Windows 10 แท้ ประกันดีที่สุดจะเป็น On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้าง ไปชมกันต่อเลย
Lenovo IdeaPad Gaming 3 ราคา 23,900 – 25,900 บาท
Lenovo IdeaPad Gaming 3 เป็น Gaming Notebook ที่สามารถใช้งานเป็น Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูงได้ จากดีไซน์ที่เงียบง่าย พร้อมสเปก AMD Ryzen 4000H รุ่นใหม่ล่าสุด เน้นความคุ้มค่าน่าซื้อ เป็นโน๊ตบุ๊คสเปกแรงที่สามารถเอาไปทำงานลื่นไหลแน่นอน โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล Ryzen 5 4600H ที่แรงพอตัว พร้อมด้วยการ์ดจอระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti รุ่นใหม่ ได้ดีไซน์ใหม่มีความเรียบง่าย เล็กกระชับเรียบง่าย โทนสีดำ Onyx Black พร้อมแซมด้วยสีฟ้า ที่ดูแล้วสวยงาม พร้อมความทนทานระดับ Military Grade ที่ดีเยี่ยมเกินราคา
สำหรับ Lenovo IdeaPad Gaming 3 นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่อง เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz ด้วยแรมขนาด 8GB และได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที สร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมหรือทำงานกับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ ที่เด็ดที่สุด ความคุ้มค่าราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 23,900 บาท ที่สำคัญได้การรับประกัน On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน 2 ปีด้วย และได้ประกันอุบัติเหตุด้วย รวมไปถึงบริการหลังการขายอื่นอื่นๆ อีกมากมายด้วย
พร้อมด้วยการติดตั้งกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัวสามารถใช้งาน VDO Call ได้ทันที ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 1 x USB 3.1 Type-C, HDMI, 4 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น ประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน รวมไปถึงมีประกันอุบัติเหตุแบบเคลม 100% ระยะเวลา 1 ปีแรก และมีเครื่องสำรองระหว่างใช้งาน อีกทั้งมี Call Center 24/7 ด้วย
Lenovo IdeaPad Gaming 3 การดีไซน์จะออกแบบมาเป็นแบบเรียบง่ายสไตล์เรียบง่าย ซึ่งรองรับการใช้งานทั่วไปได้แน่นอน โดดเด่นด้วยความต่างในส่วนของสีสันที่ดูแล้วมีความเป็น Gaming จากสีสันโทนฟ้าที่นำเข้ามาแซมกับสีตัวเครื่องหลักที่เป็นสีเทาเข้มออกไปทางดำอย่าง Onyx Black วัสดุตัวเครื่องทั้งหมดทั้งด้านนอกด้านในเป็นพลาสติกเกรดดี เหมาะกับนักเรียนนักศึกษารวมไปถึงวัยทำงาน ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสักเครื่องที่ดูล้ำสมัยที่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย เนื้องานและงานประกอบพูดได้เลยว่าแตกต่างจากกลุ่มโน๊ตบุ๊คที่ราคาใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 23,900 บาท
- Ryzen 5 4600H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 25,900 บาท
ASUS VivoBook 15 A571 ราคา 36,900 บาท
ASUS VivoBook 15 A571 เป็น Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูง ที่มีการออกแบบทำมาได้สวยงาม และได้สีสันเป็น Star Black ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นพลาสติกคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่องให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา พร้อมหน้าจอแบบขอบบางที่ 7.4 มิลลิเมตร ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ สมัยก่อน อีกทั้งตัวเครื่องยังมีความบางที่ 21.9 มิลลิเมตร แม้จะไม่บางมากแต่ก็ถือว่าพกพาได้สะดวกอยู่ ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 2.14 กิโลกรัม รูปทรงของตัวเครื่องโดยรวมจะเป็นแบบขนมเปียกปูน ตามแนวทางการออกแบบของโน๊ตบุ๊ค ASUS ปี 2020 ในหลายๆ รุ่นนั่นเอง
ซึ่งอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge พร้อมกับเวลากางหน้าจอ ตัวเครื่องจะยกสูงขึ้น เพื่อให้เราสามารถวางข้อมือพิมพ์งานได้ถนัดรวมถึงช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนอีกด้วย พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้จากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ขอบจอตัวเครื่องก็บางมากๆ ดูแล้วลดขนาดตัวเครื่องลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
ASUS VivoBook 15 A571 สเปกภายในใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) ตัวแรงยอดนิยม ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธรด การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ประสิทธิภาพดีรองรับการเล่นเกม 3 มิติออนไลน์พอได้ แรมให้มาขนาด 16GB แบบฝังบอร์ด 8GB + สล็อต 8GB มาตรฐาน DDR4 Bus 2666MHz ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมเพิ่ม HDD 2.5″ ได้ภายหลัง ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 60Hz
นอกจากนี้ ASUS VivoBook 15 A571 ยังมีลำโพงคุณภาพทำงานร่วมกับระบบเสียง Harman Kardon ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A , USB 2.0 Type-A, HDMI, และ microSD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Dual-band Wi-Fi 6 (802.11ax) และ Bluetooth 5.0 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมการรับประกัน 2 ปี ปีแรกได้ประกันอุบัติเหตุ
Dell Inspiron 7501 ราคา 36,990 – 39,990 บาท
Dell Inspiron 7501 จัดได้ว่าเป็น Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูง ดีไซน์บางเบา วัสดุอะลูมิเนียม หนักเพียง 1.6 กิโลกรัม ได้ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุด ชิปประมวลผลเป็น Core i5/i7 ตระกูล H Gen 10 การ์ดจอเป็น GTX 1650 Ti ที่เป็นรุ่นใหม่ มาพร้อมมาตรฐานใหม่ในเรื่องของขนาดตัวเครื่อง น้ำหนักและดีไซน์การออกแบบที่เล็กกว่าโน๊ตบุ๊คในหน้าจอขนาดเดียวกัน ที่สำคัญด้วยบริการ Dell Pro Support ระยะเวลา 3 ปีเต็ม ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice) ทำให้มั่นใจได้เลย บริการหลังการขายของ Dell นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
โดย Dell Inspiron 7501 ใช้สีสัน Platinum Silver ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดจากทาง Intel อย่าง Core i5-10300H และ i7-10750H ที่เป็นตระกูลเน้นประสิทธิภาพทำงานหนักๆ ได้สบายๆ และการ์ดจอ Gaming ระดับกลางๆ อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Dell Inspiron 7501 เป็น Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูง ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา ให้ดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางแบบสุดๆ มีกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call ส่วนของตัวเครื่องจะใช้เป็นโลหะที่ดูสวยงามและทนทาน เป็นส่วนประกอบหลักตลอดทั้งตัวเครื่อง ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ที่สำคัญส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหรามากๆ ให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสิทธิภาพทั่วๆ ไปในตลาด
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD512GB / จอ 15.6″ IPS 60Hz ราคา 36,990 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD512GB / จอ 15.6″ IPS 60Hz ราคา 39,990 บาท
HP ENVY 15 ราคา 46,900 – 62,900 บาท
HP ENVY 15 จัดว่าเป็น Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูง ที่ได้รุ่นท็อปได้หน้าจอเป็น AMOLED รุ่นใหม่ล่าสุด ประจำปี 2020 มีสเปกสุดแรง ดีไซน์บางเบาพกพาสะดวก หน้าจอขนาด 15.6″ AMOLED ความละเอียด 4K UHD หรือพาเนล IPS Full HD กับสเปกที่จัดเต็มด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti / RTX 2060 Max-Q โดยมีน้ำหนักแค่ 2.14 กิโลกรัมเท่านั้น แน่นอนว่าติดตั้ง Windows 10 ใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังได้โปรแกรมทำงานเอกสาร Office Home & Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่า 4,299 บาทฟรีๆ ด้วย
มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB Bus 2933MHz (8GB x 2 แถว) และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB (512GB x 2 ตัว) ส่วนการเชื่อมต่อก็จัดเต็มด้วย Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.0 และพอร์ต Thunderbolt 3 x 2 พอร์ต เรียกได้ว่าสเปกและฟีเจอร์อื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะแรงลื่นระดับ Gaming Notebook ตัวท็อป สนนราคาขายจริงที่มีอยู่หลากหลายสเปก เริ่ม 46,900 – 62,900 บาทเท่านั้นเอง กับสเปกการ์ดจอ GTX 1650 Ti / SSD 512GB ทุกรุ่นได้ประกัน 2 ปี On-site Service และบริการหลังการขาย HP SmartFriend ที่เยี่ยมยอด
ความบางของตัวเครื่อง 18.4 มิลลิเมตร และหนักเพียง 1.98 กิโลกรัม โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C, Mini DisplayPort, HDMIพร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX 2 x 2 (MU-MIMO / Miracast) แน่นอนว่าได้ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย คุ้มค่าสุดๆ ประกันเทพ On-site 2 ปีเต็ม + บริการ HP SmartFriend เช่น Cal Center 24/7
สำหรับ HP ENVY 15 ถือว่าเป็น Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูง แต่บางเบาขนาดหน้าจอ 15.6″ รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่ครบเครื่อง การออกแบบให้ความรู้สึกที่ให้ความพรีเมียมด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ทั้งด้านนอกฝาหลังและด้านในตัวเครื่องจนไปถึงชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องด้วย เรียกได้ว่าดูดีเกินราคาค่าตัวจริงๆ โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน พร้อมกับใช้สีเงินเทาโทนสว่าง Natural Silver พื้นผิวแบบบลัชปัดเสี้ยน ดูให้ความเป็นโลหะมากๆ เรียกได้ว่าเห็นเราใช้ HP ENVY 15 ต้องอิจฉาสมชื่อแน่นอน
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti/ RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS FHD / Office แท้ ราคา 46,900 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS FHD / Office แท้ ราคา 50,900 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 Max-Q / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ AMOLED UHD / Office แท้ ราคา 62,900 บาท
MSI Creator 15 ราคา 54,900 บาท
MSI Creator 15M จัดเป็น Notebook ทำงานประสิทธิภาพสูงสาย Creator สร้างสรรค์งาน Content จัดเต็มด้วยสเปกระดับ Gaming Notebook อย่าง Core i7-10750H + GTX 1660 Ti Max-Q ได้หน้าจอขนาด 15.6″ พาเนล IPS เกรดสูง sRGB ใกล้เคียง 100% ได้ Refresh Rate ที่ 144Hz แสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ให้ความลื่นไหล มาพร้อมกับขนาดที่เล็กกระทัดรัดและมีน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกได้ว่าสมกับเป็น MSI ที่มีการนำเสนอ โน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานหนักๆ รวมไปถึงเล่นเกมได้ลื่นๆ อย่างแท้จริง
สเปกหลักๆ ของ MSI Creator 15M ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) ตัวแรงยอดนิยม ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธรด ประสิทธิภาพแรงเหลือๆ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q (6GB GDDR6) ที่มาพร้อมประสิทธิภาพที่เหนือชั้นกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ปลดปล่อยความร้อนน้อยกว่า มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ทั้งแรงและลื่นไหล ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB DDR4 Bus 2666MHz อัปเกรดได้สูงสุด 64GB (ใส่แรมได้ 2 แถว)
ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม รองรับ Hi-Res audio ช่วยให้คุณมีโมเมนต์ในการฟังเพลงด้วยเสียงที่มีคุณภาพที่สุด พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.1, USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth v5 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้
หน้าตาการออกแบบเอง MSI Creator 15M ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงคล้ายกับ MSI GF63 ที่เป็น Gaming Notebook เน้นความบางเบา ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยความโดดเด่นที่สวยเรียบง่ายหรูหราตามสไตล์ที่บรรดา Creator ชื่นชอบกัน โดย MSI Creator 15M ใช้เป็นโทนสีเงินเทาดูพรีเมียมตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีดำที่ดูลงตัว ซึ่งขอบจอบางมากเพียง 4.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น