MSI WF75 Mobile Workstation เป็นโน๊ตบุ๊คสายมืออาชีพที่ต้องจับตามอง ประจำปี 2020 ได้สเปกใหม่ล่าสุด Intel Core i Gen 10H + Quadro หน้าจอขนาด 17.3″ IPS 144Hz ที่แรงและคุ้มค่าน่าซื้อที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยดีไซน์สีเงินตลอดทั้งตัวเครื่อง วัสดุของฝาพับที่ได้มีการนำอลูมิเนียมผสมกับลวดลายของพื้นผิวที่มีเอกลักษณ์ในแบบเรียบๆ ไม่เหมือนใคร รวมถึงขนาดตัวเครื่องและนำหนักที่ถูกออกแบบมาให้บางและเบากว่ารุ่นก่อนๆ พอตัว ด้วยน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม (เบากว่ารุ่นหน้าจอ 15.6″ บางรุ่นด้วย) มีความบางที่ 22~23.1 มิลลิเมตร ทำให้พกพาได้สะดวกกว่า Mobile Workstation หลายๆ รุ่น
สเปกเต็มๆ ของ MSI WF75 Mobile Workstation ได้ชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ผสานการทำงานกับการ์ดจอ NVIDIA Quadro T2000 (4GB GDDR6) ตัวแรงเน้นทำงานประมวลผลระดับสูง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่า Geforce ที่เน้นเล่นเกม ติดตั้งแรมมาให้ขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe จัดเต็มที่ความจุ 512GB + HDD 1TB รวมไปถึงได้ Windows 10 แท้เปิดใช้งานได้ทันที สนนราคา 69,900 บาท ประกัน 2 มาตรฐาน MSI เรียกได้ว่าตอบสนองการทำได้ยอดเยี่ยมสมกับโน๊ตบุ๊คสายมืออาชีพแน่นอน
NBS Verdict
MSI WF75 Mobile Workstation นับได้ว่าเป็น Notebook รุ่นใหม่ในหมวด Mobile Workstation ซึ่งเป็นอีกขั้นของแล็ปท็อประดับโปร โดยได้กราฟิกการ์ด NVIDIA Quadro สำหรับงานด้านการคำนวณและการเรนเดอร์โมเดล 3D โดยเฉพาะ เจาะกลุ่มผู้ใช้งานด้านการทำงานระดับ Workstation โดยราคาไม่แพงมีความสมเหตุสมผล ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามากกับอุปกรณ์ระดับ Workstation ที่มีคุณสมบัติอันเหมาะสมกับการใช้งานในระดับสูง เรื่องระบบระบายความร้อนก็หายห่วง ส่วนข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ คงเป็นเรื่องช่องระบายความร้อนเป่าโดนหน้าจอ อันนี้ใช้ไปนานๆ อาจจะมีผลเสียได้ (หรือเปล่า)
ในส่วนของสเปกก็ได้รับการอัพเกรดเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น บนพื้นฐานสถาปัตยกรรมเดิมอย่าง Comet Lake H ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร ซึ่งทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นยังใกล้เคียงเดิม ส่วนการ์ดจอได้ปรับไปใช้เป็น NVDIA Quadro T2000 ที่แรงกว่า GTX Series แน่นอน นอกจากนี้ที่ได้รับการอัพเดทอีกก็จะเป็นการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.1 แต่รายละเอียดๆ รวมๆ แล้วยังคงเหมือนเดิมอยู่ โดย MSI WF75 Mobile Workstation เหมาะกับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง หน้าจอ 17.3″ IPS 144Hz ที่ให้ความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ ในช่วงงบประมาณไม่เกิน 70,000 บาทฃ
อีกจุดเด่นหนึ่งของ MSI WF75 Mobile Workstation นี้ คือระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่มีความพิเศษกว่าแล็ปท็อประดับทั่วๆไป มีการใช้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรอย่าง Discrete TPM 2.0 และระบบสแกนลายนิ้วมือ ร่วมกับ Windows Hello ที่ติดตั้งมาแบบพร้อมใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ของ MSI Mobile Workstation ทุกเครื่อง โดยได้รับการการันตีจาก ISV Certification รวมทั้งรางวัลมากมายจากความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมการทำงานด้านสถาปัตยกรรม
สำหรับ MSI Mobile Workstation เป็นที่รู้กันดีว่ามีการการันตีด้วย ISV Cetification ซึ่งเป็นมาตรฐานพิเศษที่จะบ่งบอกถึงความเข้ากันได้ของตัวอุปกรณ์กับการใช้งานผ่านซอฟต์แวร์ต่างๆทางด้านสถาปัตยกรรม, การก่อสร้าง, การจำลองแบบสามมิติ อาทิ เช่น Vectorworks, Graphisoft, Enscape, Autodesk, Dassault, Siemens, Adobe และ Ansys เป็นต้น ซึ่งชุดซอฟต์แวร์ต่างๆเหล่านี้ เป็นที่รู้จักกันดีในอุตสาหกรรมด้านสถาปัตยกรรมและการสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- หน้าจอ 17.3″ เล็กกระชับกว่าเดิมเทียบ 15.6″ โดยมีน้ำหนักเพียง 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น
- บานพับแบบ Ergonomics View Design ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้น
- สเปคแรงลื่นประสิทธิภาพสูงทั้ง Core i7-10750H และการ์ดจอ Quadro T2000
- ได้หน่วยความจำแรมขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe PCIe ที่ 512GB + HDD 1TB
- ประสิทธิภาพในการเล่นเกมจริงๆ ได้เฟรมเรทที่ลื่นไหล
- หน้าจอแสดงผลขนาด 17.3″ พาเนล IPS คุณภาพสูง ที่ Refresh Rate 144Hz
- มีระบบสแกนลายนิ้วมือ ร่วมกับ Windows Hello
- มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล Discrete TPM 2.0
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตามจริงที่ประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ
- มี Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที และซอฟต์แวร์ช่วยปรับแต่ง
ข้อสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อ SD Card Reader ถูกตัดออกไป
- ช่องระบายความร้อนเป่าโดนหน้าจอ นานๆ ไปอาจจะมีผล
- ความร้อนของชิปประมวลผลสูงสุดอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียส
Specification
Mobile Workstation จาก MSI รุ่นใหม่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel Core i Gen 10 ตระกูล H ตัวแรงลื่นเน้นประสิทธิภาพ สถาปัตยกรรม Comet Lake เทคโนโลยีการผลิต 14 นาโนเมตร ทำงานเต็มที่ร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce Quadro T Series อย่าง MSI WF75 Mobile Workstation ได้สเปกใหม่ล่าสุดด้วยสเปกเป็นชิปประมวลผล Core i7-10750H ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ที่ความเร็ว 2.60 – 5.00 GHz และการ์ดจอ NVIDIA Quadrp T2000 (4GB GDDR6) ประสิทธิภาพแรงลื่นกว่า GTX Series แน่นอนในการประมวลผลทำงานเฉพาะทาง
หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนลบนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ส่วนของแรมมีขนาด 32GB DDR4 Bus 2666MHz แบบ 16GB x 2 (Dual Channel) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมรองรับติดตั้ง HDD 2.5″ อีก 1 ตัว ความจุ 1TB ด้วย
ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type A Gen 1 จำนวนสามช่อง, USB 3.2 Type-C Gen 1 หนึ่งช่อง, HDMI, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi มาตรฐาน 6 AX ที่ดีกว่าเดิม 3 เท่า มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ โดยสนนราคาอยู่ที่ 69,900 บาท
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง MSI WF75 Mobile Workstation ต้องบอกว่ามีความโดดเด่นทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายในวัสดุเป็นอะลูมิเนียมเกือบตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีเช่นเดิม ด้วยความโดดเด่นที่สวยงามเรียบง่ายตามสไตล์ของ Notebook เพื่อการทำงาน พร้อมได้ขนาดหน้าจอใหญ่สะใจ แต่ก็ยังได้เรื่องของน้ำหนักที่เบา พกพาสะดวก ใกล้เคียงกับพวกรุ่นหน้าจอ 15.6″ โดย MSI WF75 Mobile Workstation รุ่นใหม่ใช้เป็นสีสัน Space Gray โทนสีเงินสลับสีเทาตลอดทั้งตัวเครื่องให้ความแตกต่างจาก Mobile Workstation แบรนด์อื่นๆ ชัดเจน
ซึ่ง MSI WF75 Mobile Workstation มีดีไซน์และแนวทางการออกแบบคล้ายกับ MSI GF75 Thin ซึ่งเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียวในเรื่องของสีสัน แน่นอนว่าเน้นความบางเบาเช่นเดียวกัน ซึ่งด้วยน้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม และมีความบางที่ 22~23.1 มิลลิเมตร ทำให้เป็น Mobile Workstation หน้าจอใหญ่ ที่เล็ก บางเบา กระทัดรัด ที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้เลย แม้เป็น Notebook สายทำงานมืออาชีพ หน้าจอขนาด 17.3″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ถือว่าเหนือชั้นกว่า Notebook ทั่วไป
ตอกย้ำว่า MSI WF75 Mobile Workstation มีมิติตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่น 15.6″ ซึ่งขอบจอบางใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน พร้อม Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้น ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานมี Numpad ไว้ใชงานแป้นตัวเลขตามปกติ
ในเรื่องของการดีไซน์ MSI WF75 Mobile Workstation ที่เน้นความบางเบาและพกพาได้สะดวกอย่างที่กล่าวไปแล้ว แต่ยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นล่นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้มังกร Dragon Army มินิมอลสุดๆ ในส่วนของขอบด้านหน้าเป็นพลาสติกมีการเว้นพื้นที่เว้าเอาไว้ให้เปิดฝาหน้าจอได้ง่าย
รอบๆ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานต่าง ๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมถูกจัดวางในส่วนฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของตัวเครื่อง ในส่วนของด้านหลังยังมีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่อีก 4 ช่อง แบบหลัง 2 (แต่จะเป่าลมร้อนไปผ่านทางหน้าจอขณะใช้งาน) และด้านข้างอีก 2 ช่องทั่งซ้ายและขวา ช่วยให้สามารถระบายอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งใช้ระบบ Cooler Boost ฮีทไปป์ 3 เส้น ด้านฐานล่างใช้วัสดุพลาสติก ABS งานประกอบแน่นหนาแข็งแรง มียางรอง 4 มุม ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ในจุดนี้สามารถถอดอัพเกรดได้ไม่ยาก รวมถึงซ่อมบำรุงรักษาทำความสะอาดเครื่องในระยะยาวได้สะดวกสมเป็น Mobile Workstation ตัวแรงใช้งานยาวๆ อย่างที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทาน
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมแบบสีเงินปัดเสี้ยนที่สวยงาม อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตอย่างเมื่อเราออกแรงกดลงไปนิดหน่อยจะมีอาการยุบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งาน ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคิดเป็น 88% ของหน้าจอทั้งหมดทีเดียว โดยบางเฉียบทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนถูกติดตั้งลงไปบนขอบจอที่บางมากๆ
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่า Notebook หน้าจอ 17.3″ ทั่วไป ให้จอใหญ่สะใจกว่า 15.6″ แต่พกพาได้ง่ายใกล้เคียงกัน ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI WF75 Mobile Workstation ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาช่วงงบประมาณ 60,000 บาทปลาย ๆ ก็ว่าได้เลย ราคาค่าตัวจัดว่าคุ้มค่าสุดต่อสเปกและประสิทธิภาพ แต่อัดทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ได้
Keyboard / Touchpad
ตัวเครื่อง MSI WF75 Mobile Workstation มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 17.3 นิ้ว ที่มีรูปแบบพื้นที่ขยับชุดแป้นคีย์บอร์ดลงมากกว่า Notebook ปกติ เพื่อติดตั้งชุดระบายความร้อนเอาไว้ ซึ่งตรงกลางก็จะเป็นปุ่ม Power ซึ่งการติดตั้งคีย์บอร์ด Full Size ก็สมบูรณ์แบบดี ที่แม้ไม่ใช่ของ SteelSeries ที่ Gaming Notebook ของ MSI ใช้กัน แต่ก็ยังสามารถให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี ซึ่งทำได้แม่นยำ มาพร้อมไฟ LED สีขาวปรับได้ 3 ระดับ บนเทคโนโลยี Silver Lining Print ที่สวยเสริมความสวยงามให้ไฟสีขาวสว่างน่าใช้มากยิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้จะไม่มีปุ่ม Hotkey แยกออกมาต่างหาก แต่ก็มีการเลือกติดตั้งไว้ใน Fn ต่างๆ แล้ว อย่าง F7 จะเป็นการเรียกซอฟต์แวร์ Creator Center
ทัชแพดมีขนาดใหญ่และกว้างเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป ลักษณะเป็นผืนผ้ายาวดูเป็นเนื้อแบบกระจก ซึ่งมีตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด ให้สัมผัสที่ลื่นติดมือมากๆ โดยมีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องสวยงามลงตัว จากการใช้งานจริงๆ ถือว่าเป็นทัชแพดที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย
Screen / Speaker
MSI WF75 Mobile Workstation มีหน้าจอขนาด 17.3″ ขอบจอบาง กว่า 88% คือพื้นที่แสดงผล มาพร้อมความละเอียด Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซล พาเนล IPS คุณภาพสูง มีมุมมองด้านซ้าย ด้านขวาและด้านบนล่างที่กว้าง พร้อมให้ค่าขอบเขตสีที่คุณภาพสูง มาตรฐาน sRGB ที่ดี ค่าเกือบ 100% พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare มาตรฐาน แสงสว่างเพียงกับการใช้งานในบริเวณที่มีแสงจ้า พร้อมรองรับการสนับสนุน Refresh Rate ที่ 144Hz เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ด้วยกว่าลื่นไหลที่มากกว่าหน้าจอ 60Hz ทั่วไป แน่นอนว่ามีกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนติดตั้งไว้ขอบด้านบนปกติ เพื่อรองรับการใช้งาน VDO Call ได้ทันที
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ MSI WF75 Mobile Workstation ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 88% AdobeRGB ที่ 67% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับที่ดีเยี่ยม ตามมาตรฐานของ Notebook ระดับสูง ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป รวมถึงทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ตรงนี้รองรับแน่นอน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องบนมุมซ้ายจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 9% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ อย่างไรก็ตามด้วยคะแนน 4.0 ถือว่าคะแนนดี จากการที่ความสม่ำเสมอของการให้ความสว่าง เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว
ลำโพงของ MSI WF75 Mobile Workstation ยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนใต้เครื่องตามมาตรฐน แบบขนาด 2W x 2 คุณภาพเสียงเบสให้แน่นลึกยิ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ขนาดมีเสียงเบสเท่ากับรุ่นที่เป็น Giant Speakers แต่ด้วยการใช้ระบบเสียงคุณภาพดี ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการให้เสียงหรือเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง
Connector / Thin And Weight
MSI WF75 Mobile Workstation เป็น Notebook มืออาชีพขนาดหน้าจอ 17.3″ ให้การเชื่อมต่อมาอย่างครบถ้วน รองรับทุกการใช้งานในยุคปัจจุบันโดยพอร์ตต่าง ๆ ถูกติดตั้งไว้ทั้งทางด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A Gen 1 จำนวน 3 ช่อง ที่ให้มาอย่างจัดเต็มรองรับการเชื่อมต่อที่เพียงพอ นอกเหนือจากนั้นยังมี RJ45, HDMI, USB 3.2 Type-C Gen 1, และ Audio 3.5mm Mic&Headphone แบบแยกออกจากกัน แน่นอนว่ามีช่องต่อไฟอแดปเตอร์ พร้อมยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดที่ดีที่สุด
มิติของตัวเครื่องโดยรวมเน้นการออกแบบให้มีความบางเบากว่า Notebook ยุคก่อนๆ โดยยังคงประสิทธิภาพตามแบบฉบับโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมเป็นหลักโดยมีขนาดความมิติต่าง ๆ ที่ ดูพยายามให้เล็กกระชับที่สุด น้ำหนักเบาเพียงแค่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งรวมอแดปเตอร์ขนาด 180 Watt แล้วจะหนักประมาณ 2.8 กิโลกรัม สามารถพกพาได้อย่างสะดวก ซึ่งกระเป๋าเองก็อาจจะต้องใบใหญ่กว่ากระเป๋าโน๊ตบุ๊คทั่วไปซักหน่อย อย่างไรก็ตามถ้าหนุ่มแบกไปทำงานตามออฟฟิศหรือไปมหาวิทยาลัยก็พอได้อยู่
Inside / Upgrade
การแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ MSI WF75 Mobile Workstation สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมดประมาณ 10 ตัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี สมกับการที่เป็น Notebook เพื่อการทำงานระดับสูง
การแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดของ MSI WF75 Mobile Workstation ก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว ซึ่งการแกะฝาล่างของ MSI สามารถทำได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุดแต่อย่างใด ขอแค่ว่าอย่าแกะจนเกิดความเสียหายก็พอ รวมไปถึงการใส่กลับด้วย เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานเดียวกับ MSI Notebook ในทุกๆ รุ่น
เมื่อแกะออกมาแล้วจะเห็นว่าติดตั้งแรมมาแล้วขนาด 32GB Bus 2666 MHz ( 16GB จำนวน 2 แถว) รองรับการใช้งาน Dual Channel ทันที ที่รองรับการใช้งานได้แบบสบายชัวร์ๆ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe เดิมๆ ก็มีให้มาแล้ว 512GB จำนวน 1 ตัว ซึ่งในการใช้งานทั่วไปก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าคิดว่ายังไม่พอสำหรับเรา ก็ยังสามารถอัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3 ที่จะเป็นแบบปกติจานหมุนที่ความจุ 1 TB หรือจะอัพเกรดเปลี่ยนไปใส่เป็น SSD SATA 3 ก็ทำได้ ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปที่อยากได้ความจุเพิ่ม ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย
ด้านระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Cooler Boost ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะมีช่องระบายความร้อนรวมทั้งหมดถึง 4 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างอีกอย่างละ 1 มีครีบระบายความร้อนเป็นสีเงินซึ่งดูเรียบเนียนไปกับตัวเครื่องตัวเครื่อง ในส่วนของ Heat Pipe ก็ให้มามากถึง 4 เส้น แบ่งเป็น CPU 2 เส้น และ GPU อีก 2 เส้น แยกออกจากกันอิสระ ที่เพียงพอต่อการระบายร้อนได้ในระดับที่น่าพอใจ
Performance / Software
สำหรับ MSI WF75 Mobile Workstation มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 10 H อย่าง Intel Core i7-10750H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.00 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 32GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 16GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกเพื่อการทำงานตัวแรงระดับท็อปอย่าง NVIDIA Quadro T2000 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GeForce เรื่องของการเน้นประมวลผล มอบประสิทธิภาพการทำงานที่หลากหลาย โดยใช้ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็ว ช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ภาพที่น่าทึ่ง เพื่อการสร้างคอนเทนต์ที่รวดเร็ว ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ เป็นที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก สมกับเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ที่ยอดนิยมในตลาด Gaming Notebook หรือ Notebook เน้นประมวลผล
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับสูงจากทาง Samsung ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3378 MB/s และเขียนที่ 2701 MB/s ซึ่งถ้าใครอยากใส่ SSD M.2 ก็มีว่างอีก 1 ช่องทันที
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4890 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลที่แรงลื่น ได้การ์ดจอแยกเน้นการทำงาน 3 มิติ อย่าง NVIDIA Quadro T2000 ซึ่งเอาเข้าจริงอาจจะไม่มีผลกับคะแนนส่วนนี้มากนัก เพราะไม่ค่อยใช้งาน 3 มิติ
MSI WF75 Mobile Workstation สเปกรีวิวเป็น Core i7-10750H + GeForce Quadro T2000 แม้จะไม่ใช่ Gaming Notebook โดยตรง แต่ก็น่านำมาทดสอบดู ด้วยเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 70 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผลที่สามารถรีดพลังการ์ดจอออกมาได้อย่างเต็มที่ไม่เป็นรอง Gaming Notebook ระดับสูงเลย ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe PCIe ระดับสูงก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตามาตรฐานการรีวิวโดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด อีกทั้งได้ Refresh Rate ที่ 144Hz ทำให้มีความลื่นไหวกว่า 60Hz ทั่วไป
ที่สำคัญยังมี Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ Dragon Center เป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ Gaming MSI ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI WF75 Mobile Workstation นี้ด้วย โดยเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI WF75 Mobile Workstation เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวเกือบๆ 6 ชั่วโมง ที่ 5:37 ชั่วโมง โดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานน้อยกว่านี้ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
อุณหภูมิภายในของชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ล่าสุดได้ทดสอบผ่านทางโปรแกรม Core Temp โดยมีความร้อนสูงสุดคือ 100 องศาเซลเซียส (ใช้งานปกติอยู่ที่ประมาณ 50 – 60) ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของ MSI WF75 Mobile Workstation เครื่องนี้มีอุณหภูมิที่ไม่ถึงกับเย็นมาก เพราะจากการที่ตัวเครื่องเน้นความบางสุดๆ อย่างไรก็ตามไม่ได้ส่งผลให้ตัวเครื่องเสียหายหรือมีปัญหาหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็น Mobile Workstation รุ่นใหม่ที่จัดการความร้อนได้ดีในการใช้งานจริง แต่ก็ดูร้อนเกินไปถ้าดูผ่านซอฟต์แวร์
ซึ่งในส่วนของการ์ดจออย่าง NVIDIA Quadro T2000 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 71 องศาเซลเซียส (ใช้งานทั่วไปอยู่ที่ 40 – 50) ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว แต่เรื่องเสียงพัดลมดังเวลาเร่งสุดๆ ก็ยอมรับเลยว่าดังเอาเรื่องอยู่ แต่ก็ช่วยระบายความร้อนได้จริงๆ โดยถ้าใช้งานทั่วไปก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงพัดลมหมุนทำงานเลย
Conclusion / Award
Mobile Workstation หน้าจอ 17.3″ ได้น้ำหนักเบาถือเป็นสิ่งหนึ่งที่คนทำงานระดับมืออาชีพหลายคนต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนก็ลำบาก แต่ในส่วนของ MSI WF75 Mobile Workstation มีการพัฒนาตรงจุดนี้แล้ว พร้อมได้สเปคล่าสุดชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H และการ์ดจอตัวแรง NVIDIA GeForce RTX Series อย่าง Core i7-10750H + GeForce Quadro T2000 บอกเลยว่าลื่นไหลทุกๆ เกม ที่ได้ทั้งตัวเครื่องบางเบา ประสิทธิภาพสูง และความสวยงามในเครื่องเดียว ในราคาเพียง 69,900 บาทเท่านั้น
ดีไซน์ตัวเครื่อง MSI WF75 Mobile Workstation ออกแบบมาให้ความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยถือว่าเป็นรุ่นต่อยอด MSI GF75 Thin ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีเงิน Space Gray ที่มีความโดดเด่นด้วย Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้น ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานมี Numpad โดยปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเองที่สำคัญเหนือกว่า Notebook ทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเกือบๆ 6 ชั่วโมง ในการทดสอบจริงๆ
โดดเด่นด้วยหน้าจอขอบจอบางกว่า 88% คือพื้นที่แสดงผล มาพร้อมความละเอียด Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซล พาเนล IPS คุณภาพสูง รองรับการสนับสนุน Refresh Rate ที่ 144Hz การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost ฮีทไปป์ 4 เส้นขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน ส่วนแรมตัวเครื่องให้มา 32GB DDR4 Bus 2666MHz ให้มาเป็นแบบ 2 แถว Dual Channel อีกทั้งให้หน่วยความจำความจุ SSD M.e NVMe PCIe 512GB ให้ความลื่นไหลใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้เพิ่มอีก 1TB ทันที นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานอีกด้วย
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันหายห่วงทั้ง USB 3.2 Type-C Gen 1, USB 3.2 Type-A Gen 2, RJ45, HDMI, รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน แต่น่าเสียดายที่ตัดช่อง SD Card Reader ออกไปด้วย ซึ่งเข้าใจว่าไม่เหลือที่แล้ว โดยราคาของ MSI WF75 Mobile Workstation จัดว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับสเปกและประสิทธิภาพ พร้อมประกัน 2 ปีเต็ม ที่ในขณะนี้มีอยู่รุ่นเดียวสเปกเดียวเท่านั้น ฉะนั้นถ้าสนใจ Notebook หน้าจอ 17.3″ ที่ตัวเครื่องเบา ขอบจอบาง สเปกใช้งานลื่นๆ ล่ะก็ สามารถจัดได้เลย เพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI WF75 Mobile Workstation ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-10750H (2.6 – 5.0 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA Quadro T2000 ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Worksation มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe และรองรับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ มาตรฐาน SATA 3 โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB + 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32GB แบบ DDR4 Bus 2666 MHz แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI WF75 Mobile Workstation อยู่ในระดับที่ดีกว่า Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2.8 กิโลกรัม เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ รวมถึงแบตอาจจะใช้งานได้เกือบๆ 6 ชั่วโมง ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีของ Mobile Workstation จอ 17.3″ กับโน๊ตบุ๊คที่ให้การพกพาที่สะดวกไม่แพ้จอ 15.6″ เลย
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI Notebook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI WF75 Mobile Workstation ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนใน MSI อย่าง Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้น ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง สมกับเป็นการต่อยอด Mobile Workstation ของ MSI ได้อย่างน่าสนใจ