ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว HP Pavilion 15 ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 (Ice Lake) ที่สุดในโน๊ตบุ๊คบางเบา อย่าง Core i7-1065G7 ที่ไม่ใช่แค่แรงขึ้น แต่มี AI ช่วยทำงานในตัว CPU เลย พร้อมการ์ดจอออนชิปตัวใหม่อย่าง Iris Plus G7 ที่ทำให้ประสิทธิภาพกราฟฟิกดียิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ Intel Quick Sync ไม่ว่าจะดูหนังความละเอียดสูง 8K ทำงานเอกสารได้ไหลลื่น ทำกราฟฟิก photoshop ตอบสนองได้อยางรวดเร็ว ตัดต่อ Video โดยใช้ iGPU ทำงาน รวมถึงสตรีมมิ่งก็ทำได้อย่างง่ายดาย เครื่องบางเบา พกพาสะดวก แบตเตอรี่ยาวนาน ประสิทธิภาพทั้งหมดอยู่ใน Intel Core i Gen 10 U-Series
ที่สำคัญ HP Pavilion 15 มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามากเพียง 1.85 กิโลกรัม และบางเพียง 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เหมาะกับสายการทำงานหรือบันเทิงที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ อาจจะใช้งานตามออฟฟิศหรือร้านกาแฟก็ลงตัวเหมือนกัน อีกทั้งมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 ที่รองรับการเล่นออนไลน์ได้ลื่นไหล ทำงานร่วมกับแรมขนาด 8GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB สนนราคาเพียง 23,990 บาท ได้ Windows 10 และซอฟต์แวร์ช่วยจัดการ พร้อมประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านด้วย
NBS Verdict
HP Pavilion 15 เครื่องรีวิวเป็นสเปกขายจริง โดยได้รับมาจากร้าน IT City ที่เป็นร้านค้าไอทีชั้นนำ ทดสอบใช้งานจริงแล้วน่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีทีเดียวกับโน้ตบุ๊ตบางเบา ที่ให้ความสดใหม่แบบสุดๆ กับสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-1065G7 ที่จัดเต็มเรื่องเทคโนโลยี AI ช่วยงานประมวลผลร่วมกับซอฟต์แวร์ที่รองรับ อาทิ Microsoft Office / Adobe ซึ่งช่วยให้ทำงานเร็วขึ้นกว่า พร้อมด้วยการ์ดจอออนชิป Iris Plus G7 ซึ่งรองรับการแสดงผลภาพหน้าจอภายนอกสูงสุดที่ 4K – 8K ทำงานร่วมกับการ์ดจอ GeForce MX250 ที่เล่นเกมได้ลื่นไหล โดยมีแรม 8GB พร้อมติดตั้ง SSD 512GB มาในราคาไม่แพง ส่วนเรื่องอื่นๆ ถือว่าลงตัวมากๆ ในราคาที่เราจ่ายไป ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์งานประกอบ ประสิทธิภาพความลื่นไหล แบตเตอรี่และพอร์ตการเชื่อมต่อ แต่ถ้าเป็นข้อสังเกตเล็กน้อยก็น่าจะเป็นเรื่องของพอร์ต USB ที่ชิดกันไปหน่อย
บวกการรับประกันอย่าง HP On-site Service รับซ่อมเครื่องถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend (Plus) 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมงเพิ่มความคุ้มยิ่งเพิ่มเข้ามาอีกเยอะเลยล่ะ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีเหนือระดับกว่าโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ ในราคาที่จ่ายถูกกว่า ก็ตามไปจัด HP Pavilion 15 ได้เลย มีจำหน่ายที่ร้าน IT City ตามสาขาต่างๆ ทั่วประเทศแน่นอน หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทาง www.itcityonline.com ก็สามารถทำได้ โดยรวมแล้วเหมาะกับนักเรียนนักศึกษา คนทำงานที่เน้นใช้งานพื้นฐาน เล่นเกมบ้าง ให้ความสำคัญเรื่องดีไซน์ที่ดูดีในราคาที่คุ้มค่า โดยได้สเปกที่แรงลื่นเพียงพอกับการใช้งาน ซึ่งถ้าได้หน้าจอ IPS เกรดสูงหน่อยจะดีเยี่ยมมากๆ
ข้อดี
- ตัวเครื่องออกแบบใหม่ ให้ความสวยงามและหรูหรา งานประกอบดี
- ขอบจอบางเฉียบ ตัวเครื่องบางเบา เพียง 1.85 กิโลกรัม บาง 17.9 มิลลิเมตร
- ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุด และการ์ดจอแยก GeForce MX250
- ได้แรมขนาด 8GB ที่ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องหาอัพเกรดเพิ่ม หรือจะอัพเกรดก็ทำได้เลย
- มาพร้อมหน่วยความจำ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ความเร็วสูงมากๆ
- ประสิทธิภาพดี รองรับการทำงานและได้เล่นเกมออนไลน์ ได้อย่างลื่นไหล
- การจัดการระบายความร้อนทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีพอร์ต USB 3.1 Type-A ทั้งหมด พร้อม USB 3.1 Type-C
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 11 ชั่วโมง
- รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
- HP SmartFriend (Plus) บริการหลังการขายที่มากกว่า
ข้อสังเกตุ
- พอร์ต USB 3.1 Type-A ชิดกันไปหน่อย
- พาเนลจอเป็น IPS ให้ขอบเขตสีระดับกลางๆ
Specification
ในชื่อรุ่นเต็มๆ ของ HP Pavilion 15 ปี 2020 รุ่นที่ได้รับมารีวิวจากร้าน IT City มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด อย่าง Intel Core i7-1065G7 (สถาปัตยกรรม Ice Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร) ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.30 – 3.90 GHz โดยมี AI ในตัวช่วยประมวลผลงานต่างๆ มีค่า TDP ที่ 15Wattโดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel Iris Plus G7 (มีหน่วยประมวลผล 64 ยูนิต) พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX 250 (2GB GDDR5) ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ รวมไปถึงเล่นเกม ส่วนใส่ที่เก็บข้อมูลให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 512GB พร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2666 MHz (รองรับการอัพเกรดอีก 1 แถวทันที)
ได้หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้าน พาเนล IPS คุณภาพดี ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว ทางด้านพอร์ตที่ติดตั้งมีมาให้จะใช้ถือว่าครบครันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง, LAN RJ45, SD Card Reader, HDMI สำหรับต่อหน้าจอเสริม และรูหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ ซึ่งแน่นอนว่ารองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 AC (Intel Wireless-AC 9461 802.11ac) กับ Bluetooth 5.0 และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.85 กิโลกรัม พร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ตามมาตรฐานของ HP ที่ทุกคนไว้ใจได้
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion 15 ปี 2020 วัสดุเป็นโลหะเกือบทั้งหมด โดดเด่นด้วยสีสันทูโทน คือฝาหลังสีเทาเข้มส่วนตัวเครื่องด้านในเป็นสีเงิน เน้นไปที่ความเรียบง่าย จัดว่าพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น HP อยู่อย่างชัดเจน ด้วยวัสดุเกรดดีทั้งหมด ทำให้ได้งานประกอบแน่นหนา ฝาหลังเป็นแบบเรียบๆมีโลโก้ HP สีเงินมันวาวดูหรูหรา พื้นผิ้วติดมือทำให้เวลาจับไม่ลื่น แกนฝาพับก็เป็นแบบแกนเดียวขนาดใหญ่ ส่วนตัวบอดี้บริเวณคีย์บอร์ดจะเรียบๆ เช่นกัน ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่ที่มุมบนซ้ายด้านบนของคีย์บอดร์ด
ส่วนด้านในตัวเครื่องบริเวณที่พักข้อมือก็จะเป็นสีเงินเช่นเดียวกัน ให้ความเรียบง่ายแต่ดูดีเช่นกัน รวมถึงแป้นคีย์บอร์ดก็เป็นสีเงิน ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่บางเบาพกพาง่ายกว่าเดิมมาก ด้วยน้ำหนักเพียง 1.85 กิโลกรัม และด้วยความบางของตัวเครื่องที่ 17.9 มิลลิเมตร ตามสไตล์โน๊ตบุ๊คสมัยนี้ที่เน้นบางเบาและขอบจอต้องบางด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่ราคาไม่แพง เน้นใช้งานทั่วไป ประสิทธิภาพดีลื่นไหลใช้งานได้ยาวๆ สวยงามเกินราคา
HP Pavilion 15 ปี 2020 ต้องบอกว่างานดีจริงๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญก็คือในส่วนของดีไซน์การเปิดตัวหน้าจอและคีย์บอร์ดที่จะทำมุมอย่างเหมาะสมเวลาเปิด ทำให้เวลาที่ใช้งานนั้นผู้ใช้จะรู้สึกว่าตัวเครื่องมีการระบายอากาศทางด้านล่างของโน๊ตบุ๊คออกไปอย่างรวดเร็วและให้ความรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นเวลาพิมพ์ ส่วนสีสันเป็นสีเงิน Natural Silver ตามไสตล์ของ HP
ส่วนระบบระบายความร้อนก็ได้ติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอ ทำให้หมดกังวลเรื่องปัญหาที่จะทำให้ร้อนมืออย่างรุ่นก่อนๆ โดยบานพับเป็นแบบแกนเดียวขนาดใหญ่ที่แลดูแข็งแรงทนทานเข้ากับเครื่อง อาศัยระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมถึง 2 ตัวด้วยกัน (ทั่วไปสเปกนี้จะให้มาแค่ตัวเดียวเท่านั้น) ในการใช้งานจริงๆ แทบไม่มีความร้อนแผ่ขึ้นมาเลย รวมๆ HP Pavilion 15 สเปก Intel Core i Gen 10 (Ice Lake) ถือว่าออกแบบมาได้เรียบง่ายแต่ดูดีเกินราคาไปมากจริงๆ กับราคาล่าสุดเพียง 23,990 บาท นับได้ว่าราคาไม่แพงเลย
Keyboard / Touchpad
ชุดคีย์บอร์ดของ HP Pavilion 15 ปี 2020 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีเงินเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นเทา อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่แบบ Island Style ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด อีกทั้งให้สัมผัสและการเด้งตอบสนองได้ดีในระดับหนึ่ง โดยขนาดของคีย์บอร์ดเป็นไซต์แบบปกติของโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ ซึ่งจะมีแป้นตัวเลขในส่วนของ Numpad มาให้ แน่นอนว่ามีไฟ Backlit สีขาวทำให้ใช้งานในที่มืดๆ หรือแสงน้อยได้ดีด้วย สำคัญคือเพิ่มความหรูหราเข้าไปอีก
ทางด้านทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และยาวเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปุ่มคลิกซ้ายขวาเป็นแบบซ่อนปุ่ม การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ กดไม่มียวบยาบ งานประกอบดี ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ใช้งานมัลติทัชร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างลื่นไหล ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบนแยกออกมาต่างหาก พร้อมไฟ LED สีขาวแสดงสถานะการทำงาน เป็นไปตาม DNA ของโน๊ตบุ๊ค HP เลยก็ว่าได้
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ HP Pavilion 15 ปี 2020เป็นแบบจอกระจกที่สดใส ขนาด 15.6″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คในปี 2020 โดยใช้พาเนล IPS ซึ่งให้สีสันที่ดีในระดับที่สวยงามสมจริง มุมมองกว้าง ซึ่งไม่ว่าจะนำมาเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง หรือชมวีดีโอจาก YouTube ก็ได้สบายๆ ภาพที่เห็นก็คมชัดดี ให้ความเรียบเนียนกว่าความละเอียด HD เดิมๆ ตัวงานประกอบขอบหน้าจอก็ทำได้ดีเป็นพลาสติกสีดำมันด้าน ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า รวมถึงยังมีหลอดไฟ LED สำหรับแสดงสถานะว่ากล้องทำงานอยู่
เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง อีกทั้งแม้ขอบหน้าจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนแบบคู่มาปกติที่ขอบด้านบน พร้อมด้วย 3D IR Camera ไว้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ด้วย ส่งผลให้เราสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย ไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป รวมถึงมีความปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังมีการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ฉะนั้นมั่นใจเรื่องความแข็งแรงทนทานได้เลย
ทางด้านลำโพงจะเป็นแบบสเตอริโอของ B&O ซึ่งถูกติดตั้งอยู่เหนือชุดคีย์บอร์ด คุณภาพถือว่าดีเยี่ยมเพียงพอที่จะใช้งานในด้านของความบันเทิงทั่วๆ ไป เช่นดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมต่างๆ ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งตัวลำโพงจะวางอยู่ด้านบนคีย์บอร์ด ทั้งในด้านคุณภาพของเสียงและระดับความดังของเสียงอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คทั่วไป ตอบสนองการใช้งานพื้นฐานได้หมด
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP Pavilion 15 ปี 2020 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมากเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.1 Type-C อีก 1 พอร์ต, LAN RJ45, HDMI, SD Card Reader และช่องต่อหูฟังกับไมค์ขนาดแบบคอมโบขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เพียงพอต่อการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในยุคปัจจุบัน
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ขนาด 36.16 x 24.56 x 1.79 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.85 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักราวๆ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักเบามาก ซึ่งแน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คในยุคปัจจุบันทีเดียวเลย เน้นใช้งานแบบยกไปยกมาตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยได้แบบคล่องตัวสุดๆ
Inside / Upgrade
การแกะฝาฝาล่างทั้งหมดของ HP Pavilion 15 ปี 2020 เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด แต่ก็ต้องระวังเพราะมีน็อตส่วนที่ซ่อนอยู่ตรงยางรองตัวเครื่อง 2 จุด ต้องใช้นิดงัดออกมาก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ มีงานประกอบเรียบร้อยดี หลักๆ แล้วเห็นได้ชัดถึงเมนบอร์ด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ พร้อมระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 2 ตัว ฮีตไปป์ 2 เส้น มีช่องระบายความร้อน 1 ช่องแบบแถวยาว
สำหรับฮาร์ดแวร์ภายใน เราจะเห็นถึงการติดตั้งแรมฝังบอร์ดมาแล้วขนาด 8GB x 1 ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทันทีไม่ต้องไปหาซื้อมาเพิ่มเองภายหลังแต่อย่างใด หรือจะอัพเกรดก็มีช่องว่างอีก 1 ช่อง พร้อมกันนั้นเราจะเห็นถึง SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด พร้อมรองรับอัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3 อีก 1 ตัว ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปจนไปถึงทำงานตัดต่อวีดีโอที่ไม่ซับซ้อนมาก สำหรับสเปกฮาร์ดแวร์ภายในถือว่าเหลือเฟือในการใช้งานเลยล่ะ
Performance / Software
HP Pavilion 15 ปี 2020 ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับสูงอย่าง Intel Core i7-1065G7 สถาปัตยกรรม Ice Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.30 – 3.90 GHz ซึ่งแรงเพียงพอต่อทุกๆ การใช้งาน มีค่า TDP ที่ 15Watt กินไฟต่ำมากๆ โดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel Iris Plus G7 ที่ดีที่สุดของรุ่นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 แล้ว ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8GB DDR4 Bus 2666 MHz จำนวน 1 แถว ที่เพียงพอต่อการใช้งานทันที อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ และเป็นรุ่นเกรดสูงความเร็วสูงด้วย แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Plus G7 โดยมีหน่วยประมวลผล 64 ยูนิต (Iris Plus G4 มีหน่วยประมวลผล 48 ยูนิต / UHD 620 หรือ Iris G1 มีหน่วยประมวลผล 32 ยูนิต) ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็น ทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือตัดต่อวีดีโอก็พอได้เลย ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950m แต่ก็พอเล่นเกมออนไลน์ได้บ้าง ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว อย่าง Intel Core i Gen 8 ก็ทำได้ดีกว่า รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานพื้นฐานหรือเล่นเกมกรณีเล่นเกม 3 มิติ หรือทำงาน 3 มิติเล็กๆ น้อยๆ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก หรือถ้าเป็นโปรแกรมที่รองรับงาน AI ช่วยประมวลผล อย่าง อาทิ Microsoft Office : Word, Excel, Power Point / Adobe : Photoshop, Lightroom, Premiere Pro ก็จะให้ความเร็วในการทำงานที่มากกว่า
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 NVMe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าตกใจ บนขนาดความจุ 512GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำกับความเร็วระดับ Read: 3164 MB/s – Write: 2818 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือ SSD มาตรฐาน SATA 3 รวมไปถึง NVMe เกรดกลางๆ แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่ราคาไม่แพงแต่ได้ SSD ที่ให้ประสิทธิภาพความแรงในการเขียนอ่านที่รวดเร็วมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,268 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง ได้เรียกได้ว่าคะแนนสูงพอๆ กับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสเปก Core i5-9300H ที่ได้การ์ดจอแยก GeFroce GTX กันทีเดียว คาดว่าตัวชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สามารถจัดสรรการทำงานได้ลงตัวมากกว่าเดิม
ทดสอบเกมสำหรับ HP Pavilion 15 ปี 2020 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 ออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-1065G7 ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce MX250 ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD M.2 NVMe PCIe ก็ส่งผลช่วยด้วย
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ใกล้เคียง 59 ขึ้นไปตลอด (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) แต่ในส่วนของเกมอื่นๆ อย่าง Overwatch / PUBG ที่ปรับ Low ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ที่ต้องบอกว่าทำได้ลื่นไหล ที่น่าจะพอปรับกราฟิกขึ้นได้อีกนิด โดยตัวเครื่องยังระบายความร้อนทัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าพอเล่นได้สบายๆ อยู่
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion 15 ปี 2020 รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่น ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ HP Pavilion 15 ปี 2020 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คยุคใหม่ ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 11 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าอาจจะได้น้อยกว่านี้โดยปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร อย่างถ้าใช้ Microsoft Edge ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome ส่วนระบบระบายความร้อน มาพร้อมพัดลม 2 ตัว ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ จากการที่ใช้ Core i Gen 10 รุ่นใหม่ ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Ice Lake เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร ที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น พร้อมคุณสมบัติประหยัดพลังงานพิเศษและปลดปล่อยความร้อนน้อยลงกว่า Gen 8 แบบเดิมๆ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลร้อนที่สุดที่ 88 – 94 องศาเซลเซียสเท่านั้น ส่วนการ์ดจอจะร้อนสุดอยู่ที่ 75 องศาเซลเซียส จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพและเล่นเกมแบบต่อเนื่อง นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP Pavilion 15 ปี 2020 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกใกล้เคียงกันหลายๆ รุ่น จากการที่มีพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว เพราะความร้อนทั่วไปไม่สูงมาก รวมไปถึงเฟรมเรทเล่นเกมก็ทำได้ดี ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
สรุปรีวิวได้ว่า HP Pavilion 15 ปี 2020 เป็นโน๊ตบุ๊คสายพรีเมียมดูดีในราคาไม่แพง ได้ดีไซน์บางเบาหน้าจอขนาด 15.6″ พาเนล IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยสเปกชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel Core i7-1065G7 (Ice Lake) ที่แรงกว่ารุ่น Core i Gen 8 ก่อนๆ โดยทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.30 – 3.90 GHz โดดเด่นด้วยการ์ดจอออนชิปที่ดีที่สุดอย่าง Intel Iris Plus G7 (มีหน่วยประมวลผล 64 ยูนิต) ช่วยในการแสดงภาพความละเอียดสูง 4K – 8K โดยมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 ที่รองรับการเล่นออนไลน์ได้ลื่นไหล ได้พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ฮีตไปป์ 2 เส้น ส่วนใส่ที่เก็บข้อมูลให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 512GB ความเร็วสูงจัด พร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 จำนวน 1 แถว ในราคาเพียง 23,990 บาท ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ
HP Pavilion 15 ปี 2020 โดยให้ประสิทธิภาพการทำงานที่พอใช้งานทั่วๆ ไป อย่างพิมพ์งานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ต ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด รวมไปถึงความบันเทิงอย่างดูหนังฟังเพลง Steaming กับความบางและน้ำหนักที่เหมาะแก่การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่มากๆ รวมไปถึงยังประหยัดพลังงาน ส่งผลให้ปล่อยความร้อนออกมาน้อยมาก แบตเตอรี่ก็ยาวนานถึง 11 ชั่วโมง แถมยังมีราคาเบาๆ เป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยราคาที่สองหมื่นบาทต้นๆ ที่ต้องขอบอกว่าคุ้มค่ามากๆ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้องการมองหาโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงบางๆ เบาๆ ไว้ใช้งานนอกบ้าน ก็สามารถซื้อได้ที่ร้าน IT City ตามสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทาง www.itcityonline.com ก็สามารถทำได้เลย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน้ต บุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ด้วยกัน ซึ่ง HP Pavilion 15 ปี 2020 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
HP Pavilion 15 ปี 2020 เป็นโน๊ตบุ๊คที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมหน้าจอ 15.6″ ที่ให้วัสดุเกรดคุณภาพ อีกทั้งมีดีไซน์ที่ทันสมัยสุดๆ แน่นอนว่าทำได้น่าประทับใจเสมอมาสำหรับ HP ซีรีส์ระดับกลาง จากวัสดุที่ดีอย่างโลหะ สีสันเป็นสีเงินเทาตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมพื้นผิวแบบเรียบเนียน งานประกอบก็มีความเรียบร้อยแบบสุดๆ แถมยังบางเบาพกพาง่ายกว่าเดิมมาก ด้วยน้ำหนักเพียง 1.85 กิโลกรัม และด้วยความบางของตัวเครื่องเพียงที่ 17.9 ม.ม. จากแบตเตอรี่ที่นำไปไว้ในตัวเครื่อง ตามสไตล์โน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาก็ว่าได้
Best Value
HP Pavilion 15 ปี 2020 รุ่นนี้มีความโดดเด่นสุดๆ เพราะเป็นรุ่นแรกๆ ของ HP ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 (Ice Lake) อย่าง Core i7-1065G7 ตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุด ทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX250 ที่สำคัญยังมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีด้วยแรมขนาด 8GB ที่เพียงพอ (หรือจะอัพเกรดเพิ่มก็ทำได้) และ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่แรงมากๆ อีกด้วย (อัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3 ได้อีก) สนนราคาเพียง 23,990 บาท ได้ประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านตามมาตรฐาน HP ด้วย ถือว่าคุ้มค่าน่าใช้งานสุดๆ